คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #207 : The Desire : Faker
◣Application◥
◣Profile◥
“ตัวฉันน่ะอยากเป็นเพื่อนกับทุกๆ คนมากเลยนะ รู้ไหม~”
“ถึงตัวฉันจะคิดว่าพวกผู้ชายมันไว้ใจไม่ได้ก็เถอะ แต่จะพยายามเชื่อนะ~”
บทบาท : ผู้วิเศษคนอื่นๆ
ชื่อ/นามสกุล : บีน่าห์ ออร์เวลล์ มีเยอร์ || Binah Orwell Meyer (Binah O. Meyer)
เชื้อชาติ : อเมริกัน-ยิว
ชื่อเล่น : บีน่าห์ || Binah
ความหมายของชื่อ : บีน่าห์ - ความเข้าใจ
มีเยอร์ - ผู้นำพาแสงสว่าง
ออร์เวลล์ - แม่น้ำที่แตกแขนออกไปหลายสาย
สัญชาติ : อเมริกัน
เพศ : หญิง
ลักษณะภายนอก : หญิงสาวผมสีชมพูเหมือนกับลูกกวาดยาวถึงเอวและมัดเป็นซาลาเปาไว้สองข้างของศีรษะ และมักจะพันริบบิ้นมัดผมที่ด้านซ้าย นัยน์ตาของเธอนั้นเป็นสีแดงที่ดูราวกับโกเมน แต่กระนั้นหากมองดีๆ แล้วก็จะเห็นว่ามันคล้ายกับเลือดได้เช่นกัน ใบหน้าของเธอนั้นพอดูรวมๆ แล้วก็เรียกว่าสวยในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
บีน่าห์มักจะมีรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขประดับอยู่บนใบหน้าของเธอเสมอๆ น้ำเสียงและกิริยาท่าทางต่างๆ ของเธอนั้นมักจะเปี่ยมไปด้วยความสดใสร่าเริงเหมือนกับดวงตะวันที่ส่องแสงลงมายังโลก แทบจะไม่มีครั้งใดเลยที่แสงสว่างจากตัวเธอนั้นจะมอดดับลงให้คนอื่นได้เห็น และนอกจากนั้นรอยยิ้มของเธอก็ยังดูจะเป็นการยั่วยวนผู้ที่มองไปได้ในตัวเช่นกัน
ตัวของเธอนั้นมีผิวสีขาวสะอาด แต่กระนั้นกลับเต็มไปด้วยบาดแผล ที่ข้อมือซ้ายของเธอกลับเต็มไปด้วยบาดแผลจากรอยกรีดต่างๆ มากมาย ที่เธอพยายามจะระวังไม่ให้ใครเห็นเป็นอันขาด รวมทั้งแผลเป็นมากมาย ทั้งแผลถูกมีดแทงที่ท้องน้อย รอยไหม้ รอยกรีดต่างๆ ทั่วร่างกาย ขนาดตัวของเธอก็อาจจะเรียกได้ว่าคงอยู่ในสภาพเดิมมาหลายปีแล้ว ไม่แน่ใจว่าด้วยสาเหตุอะไร แต่ความสูงของเธอมันไม่เพิ่มขึ้นซักที เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เธอจึงพยายามที่จะคงรูปร่างของเธอไว้ให้สมบูรณ์ที่สุดเท่า ทำให้อาจจะพูดได้ว่าเธอนั้นสมส่วนดีมากเลยทีเดียว ส่วนสูงของเธอคือ 148 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักคือ 45 กิโลกรัม
เธอนั้นมักจะแต่งกายด้วยเสื้อแขนยาวและสวมเสื้อผ้าอย่างน้อยสองชั้นเสมอ และที่เลือกจะใส่เสื้อแขนยาวก็เพราะว่าต้องการจะปกปิดบาดแผลที่เกิดขึ้น แต่หากต้องสวมเสื้อแขนสั้นเมื่อไหร่ รอยแผลนั้นก็จะมีปลอกแขนมาสวมทับไว้อยู่ดี
จุดที่มีตราผู้วิเศษปรากฏ : หลังมือซ้าย
ปีศาจที่หวาดกลัวมากที่สุด : แอสโมเดียส - เธอนั้นต้องการจะเป็นที่รักของทุกคน เป็นคนที่ทุกๆ คนสนใจ เลยพยามที่จะเป็น “คนดีพร้อม” ในความคิดของตัวเธอเอง เพื่อที่ว่าทุกๆ คนนั้นจะได้สนใจเธอ และเห็นเธออยู่ในสายตา มิใช่มองเธอดั่งขยะไร้ค่า ไม่ก็ของปลอมดังเช่นที่ผ่านมา และนั่น จะทำให้เธอได้รับความรักที่แท้จริง
อายุ : 20 ปี
อุปนิสัย :
[ร่าเริง...เกินปกติ]
บีน่าห์นั้นเป็นประเภทที่ร่าเริงจนผิดวิสัยไปอย่างมาก เธอสามารถยิ้มและหัวเราะได้ในตลอดทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม รวมทั้งยังมีหน้ามาเล่นตลกได้แบบไม่ดูเวลาว่ามันเกิดอะไรขึ้นรอบตัวเธอบ้าง และเธอนั้นแทบไม่เคยแสดงอารมณ์ด้านอื่นๆ ออกมาให้เห็นเลย จนมีแต่คนสงสัยว่าโกรธใครเป็นหรือเปล่า หรือไม่ก็เคยเศร้าบ้างไหม แต่สิ่งที่เธอตอบกลับมาก็มีเพียงแค่รอยยิ้มเท่านั้น และโยกคำถามไปที่เรื่องอื่นแทน
อันที่จริงบีน่าห์เลือกที่จะแสดงด้านนี้ออกมาเพราะเห็นว่านี่เป็นบุคลิกที่ผู้คนส่วนมากชื่นชอบ คงไม่มีใครชอบนักหรอกนะที่จะต้องมาอยู่กับพวกที่ทำตัวมืดมน ดูน่าหดหู่และสิ้นหวัง ไม่ก็คนที่เย็นชายังกับภูเขาน้ำแข็ง ถ้ามีสามตัวเลือกให้เลือกแบบนี้ เธอคิดว่าตัวเลือกที่คนคิดจะเข้าหามากที่สุดก็คือตัวเธอนั่นแหละ
[มุ่งมั่น...เกินธรรมดา]
ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ นั่นคือข้อดีอีกอย่างของบีน่าห์ ไม่ว่ามันจะยากลำบากแค่ไหน เธอก็ไม่เคยที่จะยอมแพ้และทอดทิ้งเป้าหมายนั้น แต่กลับกัน ตัวของเธอจะพยายามมากขึ้นไปเสียยิ่งกว่าเดิม แม้จะล้มไปซักหกครั้ง แต่ในครั้งที่เจ็ด แปด เก้า หรือต่อๆ ไปในซักครั้งข้างหน้า เธอจะต้องยืนได้อย่างแน่นอน
และนั่นก็คงจะเรียกได้ว่าเป็นอีกข้อเสียหนึ่ง คือพยายามทำให้ได้โดยไม่ดูสภาพตัวเอง ลองนึกภาพการเล่นสเก็ตบอร์ดแล้วกัน คนทั่วไปก็จะเล่นและฝึกฝนไปเรื่อยๆ หากล้มเยอะจนบาดเจ็บก็จะไปพักก่อน แล้วค่อยกับมาลองใหม่ก็ยังไม่สาย แต่เธอไม่ใช่คนแบบนั้น ต่อให้เลือดไหลต่างน้ำหรือว่าหัวกระแทกติดกันสามครั้ง เธอก็จะพยายามพยุงร่างกายของเธอมาเล่นต่อจนกว่าจะเล่นได้ หากไม่มีคนมาหยุดเธอ
[ฉลาดล้ำ...เกินคนทั่วไป]
มันสมองของเธอนั้นเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะในทุกๆ ศาสตร์ ทั้งวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศิลปะ กีฬา ดนตรี การลงทุน การวางแผนธุรกิจ หรือศาสตร์อื่นๆ มากมาย แต่หากเทียบกับเหล่าอัจฉริยะแล้ว เธอเองก็เป็นเพียงแค่คนที่ฉลาดกว่าปกติเท่านั้น ไม่สามารถเทียบกับเหล่าอัจฉริยะที่แท้จริงได้
ความฉลาดของเธอนั้นเป็นผลพลอยมาจากการบ่มเพาะของครอบครัวเธอที่เชื่อว่าอัจฉริยะนั้นสามารถสร้างได้จากทัศนของจอห์น ล็อคที่บอกว่าเด็กคือกระดานชนวนที่ว่างเปล่า เธอจึงถูกเลี้ยงมาในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการพัฒนาอัจฉริยะ และเธอนั้นก็กลายเป็นอัจฉริยะจริงๆ แต่กระนั้น สภาพแวดล้อมเช่นนี้เองที่ทำให้เธอเติบโตมาต้องการความสนใจจากคนอื่น เพราะถึงจะเป็นอัจฉริยะยังไง แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่ของเทียมที่ถูกสร้างขึ้นอยู่ดี ความกดดันต่างๆ จากครอบครัว รวมทั้งการที่ครอบครัวได้ให้ความสนใจกับน้องชายและพี่สาวของเธอผู้ซึ่งเป็นอัจฉริยะโดยกำเนิด ไม่เหมือนกับเธอที่เป็นแค่สิ่งที่ถูกสร้างเท่านั้น ทำให้แม้เธอจะฉลาดยังไง เธอก็ยังไม่เคยพูดแม้แต่คำเดียวเลยว่าเธอเก่ง เพราะเธอไม่เคยเลย ที่จะยอมรับความเก่งกาจของตน
[โหยหาความรัก...เกินพอดี]
ความรักและความสนใจนั้นเป็นสิ่งที่เธอต้องการมาตลอดชีวิตอันว่างเปล่าของเธอ เมื่อเธอไม่ได้รับมันจากครอบครัว เธอก็ไปหามันจากเพื่อนในห้องเรียน หากไม่ได้ ก็จะขยายเป็นชั้นปี ต่อไปเป็นทอดๆ แต่กระนั้นเธอกับไม่เคยรู้สึกว่าถูกเติมเต็มโดยแท้จริงเลยแม้แต่น้อย ใช่ เธอไม่ปฏิเสธว่าเธอขาดมันไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันทำให้เธอเพียงพอเลย เหมือนกับคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวที่จะถูกย่อยไปในเวลาสั้นๆ หลังจากที่กินเข้าไป มันให้ความรู้สึกดีในชั่วระยะสั้นๆ ที่มีคนสนใจ แต่มันก็ไม่ได้อยู่ยืนยาวนัก เพราะคนพวกนี้ไ่ได้รักเธอจากตัวตนจริๆ ที่เธอเป็น แต่แค่เพียงเปลือกนอกที่เธอสร้างขึ้นเท่านั้น
ทั้งชีวิตของเธอนั้นมีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่ทำให้เธอรู้สึกว่าถูกเติมเต็ม แต่ว่าในตอนนี้ หนึ่งไม่สามารลุกขึ้นมาพูดคุยกับเธอได้อีกแล้ว ไม่สามารถโอบกอดเธอด้วยความใสซื่อได้อีกแล้ว ไม่สามารถจูบกับเธอด้วยความรักอันบริสุทธิ์ที่ไม่ได้ต้องการแค่เรื่องบนเตียงอีกต่อไปแล้ว เป็นเพียงแค่ร่างไร้วิญญาณที่หลับใหลในโลงศพอันมืดมิดเท่านั้น ส่วนอีกหนึ่งนั้นก็เป็นแค่ร่างกายที่ในตอนนี้ไม่อาจจะฟื้นขึ้นมาได้อีก เป็นราวกับเจ้าหญิงที่นิทราอยู่บนเตียงไปตลอดกาลโดยไร้ซึ่งวี่แววของเจ้าชายผู้จะมาปลุกเธอให้ฟื้นขึ้นมา จนกว่าที่เธอจะจากโลกนี้ไป และนั่นทำให้ไม่มีใครอีกแล้วที่จะลูบหัวเธอด้วยความอ่อนโยน คอยพูดให้กำลังใจเธอ หรือว่าปลอบเธอยามที่เธอเสียใจ มันคงไม่มีคนเช่นนี้อีกแล้ว
[เกลียดผู้ชาย..เกินกว่าที่คิด]
ตัวของบีน่าห์นั้นไม่ค่อยจะถูกชะตากับผู้ชายเท่าไหร่นัก ไม่สิ อาจจะเรียกได้ว่ากลัว รังเกียจและขยะแขยงด้วยซ้ำ ในอดีตหากถูกผู้ชายแตะตัวเธอจะหายใจถี่ขึ้น หัวใจเต้นแรง เหงื่อออกเหมือนกับน้ำไหล รู้สึกคลื่นไส้จนอยากจะอาเจียนคล้ายกับคนกลัวที่แคบเวลาอยู่ที่แคบๆ และต้องรีบล้างบริเวณที่ถูกจับด้วยการพ่นแอลกอฮอล์ใส่ แต่ในปัจจุบัน ถึงดูเผินๆ เหมือนจะเลิกอาการนี้ได้แล้วจากการไปพบจิตแพทย์ แต่ความเป็นจริงแล้วความรู้สึกพวกนั้นยังเต็มเปี่ยมอยู่ในหัวใจ เพียงแต่พยายามจะไม่แสดงออกเท่านั้น ทำให้เธอพยายามจะออกห่างจากมนุษย์เพศผู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทั้งหมดนี้เป็นผลพวงมาจากเหตุการณ์ในอดีตของเธอ และเหตุการณ์นั้นทำให้เธอต้องพบจิตแพทย์ทุกๆ สามวันเลยทีเดียว ในปัจจุบันเมื่อต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชายแล้วล่ะก็ เธอก็ยังคงยิ้มได้แบบปกติ แต่จะมีเหงื่อไหลออกมาเล็กน้อย และมักจะพูดเสมอว่า “ไม่ค่อยไว้ใจผู้ชายเท่าไหร่”
[ยึดติด...เกินกว่าที่ควร]
ถึงแม้ว่าในตอนนี้คนที่เธอรักสองคนจะจากไปแล้ว แต่บีน่าห์ก็ยังยึดติดไม่ยอมปล่อยวางอยู่ คนที่รักเธอด้วยความบริสุทธิ์ใจและทำให้เธอสัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่าความรักนั้น ตัวของบีน่าห์ยังคงทำเหมือนกับว่าเธอคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ และอยู่กับเธอไม่ไปไหน บางครั้งอาจจะเห็นเธอกำลังคุยอยู่กับอากาศข้างๆ ด้วยรอยยิ้ม หรือสั่งอาหารสองจาน แล้ววางอีกจานไว้ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะที่เป็นที่นั่งเปล่าๆ นั่นสร้างทั้งความประหลาดใจและสะเทือนใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก ทำให้ทุกวันนี้เธอยังต้องไปพบจิตแพทย์อยู่เสมอๆ
ส่วนพี่สาวที่เธอรักยิ่งและรักเธอยิ่ง ทำให้เธอได้สัมผัสความอบอุ่นของสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวนั้น ในตอนนี้ก็ยังเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แม้ว่าเทคโนโลยีการรักษาจะเลิศล้ำเพียงใด แต่นั่นก็ไม่เคยที่จะทำให้คนๆ นี้กลับมาลืมตาได้สักที บีน่าห์ยังคงไปเยี่ยมพี่สาวของเธอคนนี้ตลอด และเป็นเพียงแค่คนเดียวในครอบครัวที่ไปเยี่ยมเธอคนนั้น พร้อมทั้งนั่งอยู่ข้างๆ และคุยเรื่องสาระทุกข์สุขดิบเสมือนว่าเธอคนนั้นจะได้ยิน
[เจ้าคิดเจ้าแค้น....เกินที่จะหยุดยั้ง]
บีน่าห์นั้นมีความเจ้าคิดเจ้าแค้นสูงมาก เธอไม่ค่อยยอมให้อภัยใครง่ายๆ ต่อให้ปากของเธอพูดว่าให้อภัยแล้ว แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าใจของเธอต้องให้อภัยตามไปด้วย ดังนั้นเธอจึงมีความคิดเคียดแค้นกับทุกๆ คนที่ทำให้คนที่เธอรักและพี่สาวของเธอต้องอยู่ในสภาพนี้ และไม่เคยเลย แม้แต่จะให้อภัย เพราะความผิดพลาดของพวกเขานั้น มันช่างมากจนเกินที่จะอภัยได้นั่นเอง และเธอนั้นก็ทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้ได้แก้แค้นให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันทำเอาไว้
[เก็บไว้ในใจ...เกินกว่าจะปล่อยออกมาหมด]
ไม่ว่าเรื่องอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เธอพยายามที่จะเก็บมันเอาไว้ในใจ ไม่ยอมปล่อยออกมาซักที ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าตัวของบีน่าห์นั้นไม่ต้องการที่จะให้คนอื่นๆ รู้สึกเกลียดเธอจากสิ่งที่เธอแสดงออกมา เลยได้แต่อัดอั้นไว้ข้างใน รอวันที่จะระเบิดออกมาเท่านั้น
มันสะสมกันมากขึ้นจนกลายเป็นความเครียดและทำให้เธอต้องหาทางระบายออกมา ไม่ว่าจะเป็นการพูดหน้ากระจกห้องน้ำ หรือไม่ก็มีการกรีดข้อมือของตัวเองเพื่อเป็นการระบายมันออกมา ไม่รู้ว่าสำหรับคนอื่นวิธีนี้จะได้ผลไหม แต่สำหรัอเธอ มันได้ผล
[ทำร้ายตัวเอง...เกินรับไหว]
บีน่าห์ชื่นชอบการทำร้ายตัวเอง อันที่จริงแล้วก็ไม่ได้อยากจะทำร้ายอะไรมากหรอก แต่ว่านั่นมันเป็นแค่การระบายความเครียดของเธอเท่านั้นเอง หลังจากเหตุการณ์นั้นแล้วทำให้เธอพยายามที่จะฆ่าตัวตายหลายต่อหลายรอบด้วยวิธีต่างๆ แต่มันก็ไม่สำเร็จ แม้กระทั่งเล่นรัสเซียน รูเล็ตวันละครั้งก็เอาวิญญาณเธอไปไม่ได้ ทำให้ตอนนี้เธอลดลงมาเป็นแค่การกรีดแขนหรือทำร้ายตัวเองอย่างเดียวก็พอแล้ว
[นิสัยภายใน...เกินหยั่งถึง]
นิสัยจริงๆ ของบีน่าห์นั้นไม่ได้เป็นพวกที่ร่าเริงสดใสอะไรแบบนี้หรอก ทั้งหมดล้วนเป็นการแสดง ความจริงแล้วเธอนั้นเป็นพวกที่แทบจะเรียกได้ว่าเกลียดชังซึ่งทุกสิ่งอย่างที่เธอพยายามจะเป็น เกลียดคนที่หาผลประโยชน์จากตน แต่ก็จำต้องแสร้งว่าชอบให้เข้าหา เกลียดผู้วิเศษ แต่แสร้งว่าชอบเพราะได้ช่วยเหลือผู้คน เกลียดไปเสียซึ่งทุกสิ่ง แต่ภายนอกก็บอกว่าชอบไปหมดอยู่ดี เมื่อไม่ได้ต้องแสดงอะไรแบบนี้ แววตาของเธอจะเปลี่ยนเป็นความเบื่อหน่าย น้ำเสียงที่ดูราวกับกำลังโกรธแค้นโลกทั้งใบจะถูกนำมาใช้พร้อมกับคำที่แสดงถึงความเกลียดชังอย่างชัดเจน ใบหน้าเวลาที่ไม่ต้องแสดงแล้วจะยิ้มออกมาได้นั้นคือยามได้อยู่กับพี่สาว และได้คุยกับแองเจลิก้า
ประวัติ : [Fake Life]
ลักษณะการพูด : บีน่าห์นั้นแทนตัวเองด้วยคำว่า “ตัวฉัน” แต่เวลาคุยกับพี่สาวจะใช้ว่า “หนู” ส่วนกับคนอื่นๆ นั้นจะแทนด้วยคำว่า “นาย/เธอ” ไม่ก็ชื่อของคนๆ นั้นเลย ในกรณีที่เป็นคนอายุมากกว่าจะใช้คำว่า “คุณ” คำลงท้ายนั้นไม่ค่อยมีออกมาจากปากเธอมากนัก ยกเว้นแต่ในกรณีที่ต้องคุยกับคนที่เคารพหรืออายุมากกว่า
ตัวของเธอนั้นมีน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความสดใสและร่าเริง แต่กระนั้นมันก็ไม่ได้เป็นเสียงที่เอกลักษณ์อะไรมากมาย เพราะว่าเธอนั้นไม่ได้ใช้น้ำเสียงที่แท้จริง แต่เสียงที่ผ่านการดัดออกมาอีกทีหนึ่ง จนเธอแทบจะลืมไปแล้วว่าเสียงจริงๆ ของเธอเป็นเช่นไร ซึ่งเวลาเธอใช้เสียงจริงๆ นั้นมันจะเป็นเสียงโทนกลางๆ แยกออกยากว่าเป็นเสียงผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่
คำพูดคำจาของเธอนั้นส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีความสุภาพเท่าไหร่เวลาคุยกับคนรุ่นเดียวกันหรืออายุน้อยกว่า ซึ่งจะออกแนวพูดเล่นๆ ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก แต่พอพูดกับผู้ใหญ่แล้วก็จะสุภาพมากขึ้นมาเลยทีเดียว
[ตัวอย่างที่ 1]
“เธอล่ะก็นะ ชมตัวฉันเกินไปแล้วล่ะ ฉันไม่ได้เก่งกาจอะไรแบบนั้นหรอก” ตัวของบีน่าห์นั้นกำลังยิ้มอย่างเขินๆ เมื่อมีคนมาชมเธอเรื่องความสามารถของเธอในฐานะผู้วิเศษ
“ไม่หรอกๆ เธอน่ะเก่งจริงๆ ทำยังไงฉันถึงจะเป็นแบบเธอได้เนี่ย สุดยอดทั้งการเรียนทั้งงานแบบนี้เลยนะ” หญิงสาวคนนั้นยังคงชื่นชมเธอต่อไป แววตาของบีน่าห์เปลี่ยนเป็นแววไร้อารมณ์ชั่วขณะ ก่อนจะกลับมาดั่งเดิม
‘ประจบประแจงเก่งจังนะ’
[ตัวอย่างที่ 2]
“พี่สาว...ไม่ต้องเป็นห่วงหนูแล้วนะ หนูในตอนนี้น่ะมีคนมากมายชื่นชอบและสนใจเลยล่ะ...ถึงจะปลอมก็เถอะ” เธอพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มบางๆ ขณะนั่งข้างๆ พี่สาวสุดที่รักของเธอ
“แต่ว่าหนูก็มีคนรักแล้วนะ เธอคนนี้ไ่ได้หวังอะไรจากหนูด้วย แนะนำตัวหน่อยสิ แองเจลิก้า” บีน่าห์ผายมือไปยังแองเจลิก้า ก่อนที่จะฟังเธอแนะนำตัวด้วยความสุข
แต่ในสายตาของบุรุษพยาบาลที่กำลังมองอยู่นั้น สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงแค่หนึ่งหญิงสาว และหนึ่งเจ้าหญิงนิทราเท่านั้น…
[ตัวอย่างที่ 3]
“ผู้ชายหรอค่ะ...อ่า ไม่ค่อยถนัดด้วยสิ” เธอยิ้มเขินๆ ก่อนจะเกาหัวของตัวเองเบาๆ
“ถึงจะคิดว่าผู้ชายมันไว้ใจไม่ได้ แต่ฝากตัวด้วยนะคะ” บีน่าห์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริงก่อนจะยื่นมือไปจับ แต่หลังจากที่คนๆ นั้นหันหลังไปแล้ว เธอก็รีบใช้แอลกอฮอล์ล้างมือของตัวเองในทันที
พลังพิเศษ : [Kamikakushi] - เทพลักซ่อน
-เมื่อเธอเรียกชื่อใคร แล้วคนๆ นั้นขานรับ จะเป็นการลากคนๆ นั้นไปอีกมิติหนึ่ง ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนกับมิติของโลกทั่วไป เพียงแต่ว่าที่นั่นจะเป็นเวลาพลบค่ำตลอด แม้ว่านาฬิกาจะบอกเวลากี่โมงก็ตาม เธอเรียกมันว่า “แดนสนธยา” เมื่อถูกลากเข้าไปแล้วจะมีกระดาษที่มีรูปร่างคล้ายกับคนตกอยู่หนึ่งชิ้นในโลกจริง
-โดยการที่จะใช้ได้นั้นเธอต้องปิดตาข้างหนึ่งตลอดเวลา ซึ่งไม่จำเป็นจำต้องเป็นการหลับตา การหาอะไรมาบังสายตาก็ได้เช่นกัน เช่นผ้าปิดตา
-โดยในแดนสนธยานั้น ผู้ที่ถูกลากเข้าไปจะอ่อนแอกว่าปกติ การเคลื่อนไหวจะช้าลง รวมทั้งหากมีพลังวิเศษก็จะอ่อนลงกว่าปกติเป็นอย่างมากจนแทบจะเรียกว่าใช้ไม่ได้
-ส่วนศักยภาพทางกายของเธอก็จะมากขึ้นกว่าเดิม เช่นวิ่งเร็วขึ้น แข็งแรงขึ้นจนสามารถสู้แรงผู้ชายตัวโตๆ ได้ หูดีขึ้น ตาก็มองเห็นได้ดีขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือยกระดับร่างกายเป็นอย่างมาก
-การออกจากแดนสนธยานั้นมีสามวิธี หนึ่งก็คือการทำร้ายตัวเองจนทนไม่ไหว แต่กระนั้นบาดแผลจากมิตินี้ก็จะตามออกไปยังโลกจริงด้วย สองก็คือทำให้เธอสลบไป หรือไม่ก็ทำให้ตาอีกข้างหนึ่งของเธอมองเห็น และสามคือฉีกกระดาษที่ตกอยู่ในตอนที่ลากเข้าไปในมิติ
-กระดาษที่ตกอยู่สามารถถูกลมพัดปลิวหรือเก็บขึ้นมาได้ ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเก็บกระดาษชิ้นนั้นไว้กับตัวเสมอ
-เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ในแดนสนธยาเสมอไป หากเธอออกมา คนที่อยู่ในนั้นก็จะติดอยู่ข้างในอยู่ดี
-หากเธอไม่ทราบชื่อ หรือเป็นสิ่งที่พูดไม่ได้ เธอจะต้องนำมือไปสัมผัสแล้วพูดว่า”เทพลักซ่อน” ซึ่งจะให้ผลเหมือนการขานชื่อทุกประกาศ
-ในแดนสนธยานั้นจะมีสิ่งมีชีวิต(รวมตัวเธอ)อยู่ได้เพียงสามสิ่งเท่านั้น เท่ากับว่าสามารถดึงเข้าไปแค่สอง แต่ส่วนมากเธอมักจะดึงเข้าไปทีละคนเสียมากกว่า
-แดนสนธยานั้นใช่ว่าจะเป็นลานประหารเสมอไป เธอยังสามารถเอาพรรคพวกของเธอเข้าไปได้ เพราะมันแค่ทำให้อ่อนแรง ไม่ใช่ฆ่าทันที
-ในแดนสนธยานั้นใบหน้าของเธอจะมองเห็นได้ไม่ชัดเจน เหมือนมีอะไรดำๆ มาปิดหน้าไว้ และเมื่อเธอเลียนเสียงใครในแดนสนธยา รูปร่างของเธอในสายตาคนอื่นๆ จะเปลี่ยนเป็นคนที่เธอเลียนเสียง (่รางจริงๆ ไม่เปลี่ยนครับ เปลี่ยนแค่ในสายตาชาวบ้าน เหมือนเป็นการสะกดจิตน่ะครับ)
ความสามารถพิเศษ :
ปลอมเสียงได้ - ฟังแค่ครั้งเดียวก็ปลอมได้เหมือนราวๆ 90% เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเสียงผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก หรือคนแก่ ยกเว้นบางคนที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์จริงๆ ที่จะไม่ค่อยเหมือน แต่ก็ยากจะจับได้อยู่ดี
ฉลาด - ในด้านวิชาการและด้านการวางแผน แต่เธอไม่เคยพูดถึงมัน และการวางแผนของเธอนั้นก็ใช้แค่กับเธอคนเดียวเท่านั้น ไม่เคยบอกใครให้เข้าร่วมแผนเลย
เล่นไวโอลิน - ถูกจับให้เล่นตั้งแต่จับโบว์ได้ ตอนนี้เล่น Paganini caprice 24 ได้แบบไม่ต้องดูโน้ต
จดจำ - เป็นคนที่จำแม่นมากๆ เห็นแค่ครั้งเดียวก็ติดตรึงในความทรงจำไปแล้ว และนั่นรวมถึงเรื่องร้ายๆ ด้วย
พูดได้ 5 ภาษา - อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส ฮิบรู จีน
สิ่งที่ชอบ : แองเจลิก้า - รักที่สุดเลยล่ะ อยากจะอยู่ด้วยกันตลอดไปจัง
เอลล่า - เมื่อไหร่พี่จะตื่นขึ้นมาคุยกับหนูสักทีนะ หนูรักพี่นะ
ป๊อกกี้รสสตอเบอร์รี่ - ใช้แทนบุหรี่ก็ดีนะ
สปาเก็ตตี้ซอสเนื้อ - รสชาติเข้มข้น แถมสีแดงอีกต่างหาก
การได้รับความสนใจ - เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกเหมือนมีตัวตนขึ้นมา
สิ่งที่ไม่ชอบ : คนที่โลภมาก - ไม่ชอบเลย เห็นทีไรนึกถึงพวกเวรนั่นทุกที
ผู้วิเศษ - ถึงจะไม่ชอบ แต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้แล้วล่ะ
อาหารจำพวกข้าวต้มหรือรีซ็อตโต้ - แหยะๆ ยังไงไม่รู้
สิ่งที่เกลียด : ผู้ชาย - จากเรื่องราวในอดีตของเธอ ที่แทบจะทำให้อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ตอนนี้เริ่มดีขึ้นมาหน่อยที่ปกปิดอาการเก่งขึ้น
สิ่งที่แพ้ : เกสรดอกไม้ - ทำให้เกิดอาการจาม น้ำมูกไหล ไม่ก็คันตาได้
สิ่งที่กลัว : การถูกทอดทิ้ง - เมื่อใดก็ตามที่เอลล่าจากไป หรือแองเจลิก้าหายไปจากสายตาเธอ มันก็คงเหมือนโลกดับสลายไปแล้ว
การไม่ได้รับความสนใจ - เหมือนกลับกลายมาเป็นอากาศ ไร้ค่าอีกครั้ง
เพิ่มเติม : -บีน่าห์นั้นเชื่อว่าการส่งข้อความนั้นจะไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกอย่างแท้จริง ทำให้เรื่ออะไรที่ต้อใช้ความรู้สึกนั้น เธอจะใช้การส่งจดหมายหรือไปคุยต่อหน้าเอา
-เป็นพวกลิ้นจระเข้ที่ไม่รับรู้รสชาติใดๆ ของอาหารเลย ทำให้กินแค่กันตายเท่านั้น แต่กระนั้นเธอกลับชอบเข้าร้านอาหารเพราะว่ามันทำให้คิดถึงบรรยากาศในตอนที่คนที่เธอรักยังอยู่ พวกเธอมักจะนั่งตรงข้ามกัน สั่งอาหารอย่างเดียวกัน และกินไปพร้อมๆ กันอย่างมีความสุข และในปัจจุบันเธอก็ยังทำเช่นนั้น เพียงแต่เบื้องหน้าของเธอเป็นเพียงแค่เก้าอี้เปล่าไปเสียแล้ว
-งานอดิเรก(?)ของเธอคือพบแพทย์สัปดาห์ละครั้ง บางสัปดาห์ก็สอง
-เคยติดบุหรี่ ตอนนี้เลิกแล้วไปติดป๊อกกี้แทน
ลิสต์อาการทางจิตของบีน่าห์
โรคจิตเภท กลุ่มอาการประสาทหลอนและหลงผิด - เป็นหนักสุด ต้องพบแพทย์เพราะเรื่องนี้ แต่ไม่โดนจับยัดเข้าโรงพยาบาลจิตเวชเพราะสองอย่าง หนึ่งคือครอบครัวที่ต้องการรักษาหน้าตา และสอง เพราะเธอเป็นผู้วิเศษ
PTSD - พอๆ กันกับอันข้างบน
Androphobia(กลัวผู้ชาย) - ออกแนวขยะแขยงและรังเกียจจนทนใช้ออกซิเจนร่วมกันไม่ได้มากกว่า
【Interview】
∆ สวัสดีครับ ก่อนอื่นก็คงต้องทำความรู้จักกันก่อน...คุณชื่ออะไรเหรอ?
: “เออะ..เออ บีน่าห์ ออร์เวลล์ มีเยอร์ค่ะ...ขอโทษด้วยนะคะ ตัวฉันไม่ค่อยถูกกับผู้ชายเท่าไหร่” บีน่าห์พูดขึ้นพลางหลบสายตาของคนตรงหน้า
∆ เป็นชื่อที่ดีนะครับ แล้ว...คุณรู้สึกยังไงบ้างที่พบว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ?
: “เวรแล----ไม่ค่ะ หมายถึงเวลาได้ช่วยเหลือผู้คนจะมีความสุขมากน่ะคะ รู้สึกดีมากเลยที่จะได้ช่วยเหลือคนอื่น” โชคดีที่เธอเก็บคำพูดทัน ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่ได้ยินล่ะนะ
∆ งั้นเหรอครับ แล้วคุณคิดว่าตัวเองจะเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษย์มากแค่ไหนกัน?
: “ไม่อยากเป็น-----หมายถึงไม่อยากเป็นภาระน่ะคะ ตัวฉันจะต้องมีประโยชน์ให้มากที่สุด เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ค่ะ”
∆ โอ้... แล้วคุณคิดยังไงกับพวกปีศาจล่ะ?
: “ก็คงเหมือนๆ กันแหละ เวรเหมือนๆ กัน------หมายถึงว่าทุกสิ่งก็มีเวรกรรมของตัวเองค่ะ ที่เขาเกิดมาเป็นปีศาจเพราะต้องชดใช้กรรม เหมือนกับที่พวกเราเป็นผู้วิเศษ เพราะต้องใช้กรรมเหมือนกกันค่ะ”
∆ ฮะๆ โอเคครับ สำหรับคำถามในวันนี้ก็หมดลงเพียงเท่านี้ ขอให้โชคดีครับ :)
: “อุ๊บ….ค่ะ….ห้องน้ำไปทางไหนหรอคะ” หลังจากนั้นเธอก็คายของเก่าออกมาจนหมด เพราะไม่เคยคุยกับผู้ชายได้นานขนาดนี้
【Talk with parents】
∆ แฮะะ นานๆทีจะหาเรื่องคุย//เขินตัวบิด—เอาเป็นว่าสวัสดีค่ะ ทางนี้ชื่อสโนว์หรือโนนะคะ ทางนู้นชื่ออะไรเอ่ยย
: ด้าครับ เจอกันอีกแล้วเนาะ
∆ อาจจะเวิ่นเว้อพล่ามเยอะเรื่องพล็อตไปหน่อย... แต่คิดยังไงถึงมาเรื่องนี้คะ ;;w;;
: เปลี่ยนคำถามเป็นคิดยังไงถึงส่งคนนี้ดีกว่าครับ ก็คงเพราะว่าอยากเห็นผู้วิเศษที่เกลียดผู้วิเศษล่ะมั้งครับ 5555
∆ โนไม่ใช่คนขยันหรือเก่งอะไรนะคะ อาจมีการเงียบหายไปบ้างไม่ว่ากันนะคะ จะไม่เรียกว่าดองให้ใจเสียหรอกค่ะ พยายามจะไม่ทำแบบนั้น5555 (ไม่นานนู๋จิกลับมา—)
: ผมก็ดองไว้นานแล้วนะครับเนี่ย ไม่มีสิทธิว่าอะไรหรอกครับ 5555
∆ โนไม่ค่อยถนัดฉากหวานๆเท่าไหร่ และเนื้อเรื่องอาจไม่ได้เน้นความรักอย่างเดียว มันอาจมีอะไรดาร์คๆมานิดนึง ซึ่งอาจลามไปถึงตัวละครด้วยที่อาจจะโดนย่ำยี(?) และถูกโนกระทำชำเรา(?)บ้างนะคะ อาจมีตายด้วย ไม่ว่ากันนะคะ แจ้งไว้ก่อนเนอะ ;;w;;
: ครับผม ผมก็ย่ำยี(?)มาเยอะเหมือนกัน~~
∆ ถ้าหากว่าตัวละครนี้ไม่ติดตามบทบาทที่ต้องการ จะอนุญาตให้เปลี่ยนบทบาทหรือรับกลับคะ
: ตามสบายครับผม
∆ มีอะไรจะบอกโนไหมคะ อย่างเช่นอยากให้โนข่มขืนตัวละค—แค่ก เช่น อยากได้ฉากไหนเป็นพิเศษไหมอ่ะค่ะ ถ้าทำได้จะจัดให้เน้อ! =w=
: ก็คงฉากนั่งร้ายอาหารหรือคุยกับแองเจลิก้าแหละครับ 5555
ขอบคุณที่สมัครนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ!//เตรียมของเซ่นไหว้ให้(?)
ความคิดเห็น