คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #202 : Aegis Superbia : Guardian Angel
Application
“ทำไมเราต้องหนีไปล่ะ?”
"ในเมื่อการเป็นโล่ให้กับผู้อื่นมันเป็นหน้าที่ของเรามิใช่หรอ?"
บทบาท : นักศึกษาอีจิสฝึกหัด (แลกเปลี่ยน)
1.ข้อมูลลักษณะภายนอก
ชื่อ : อารียา มารี แอนเดอร์สัน || Aliya Marie Anderson
ชื่อเรียก : มารี || Marie
เพศ : หญิง
อายุ : 16 ปี
เชื้อชาติ : ไทย - ไอริช
ลักษณะภายนอก : มารีเป็นหญิงสาวที่มีเรือนผมสีแพลตตินั่มยาวลงมาราวๆ ก้นกบ ดวงตาสีเขียวมรกตสะท้อนเป็นแววสวยงาม ใบหน้าของเธอนั้นงดงามราวกับถูกพระเจ้าสรรสร้างขึ้นมาด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง ทั้งเครื่องหน้าที่สมบูรณ์พร้อมในตำแหน่งที่ถูกต้อง หรือความผ่องใสของใบหน้า ที่แทบจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าใครที่ได้เห็นเป็นอันต้องหลงใหลไปเสียทุกคน ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ตาม
ร่างกายของเธอนั้นมีสัดส่วนที่ดีและพอเหมาะโดยไม่มีขาดหรือเกินเลยแม้แต่น้อย ผิวกายขาวนวลที่ดูราวกับสามารถส่องประกายได้ มัดกล้ามเนื้อที่หน้าท้องและบริเวณต่างๆ อย่างพอดีที่แสดงออกถึงการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งสิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นเพศหญิงอย่างหน้าอกที่มันไม่ได้แบนราบราวกระดาน แต่มีขนาดที่พอดีๆ ไม่ได้ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป เหมือนเรือนร่างของเธอถูกสร้างขึ้นมาให้สมบูรณ์พร้อมด้วยเสน่ห์และกำลังเป็นแน่แท้ สูง 178 หนัก 65 เธอมักจะสวมชุดเลโอทาร์ดสีดำไว้ด้านในและปิดทับด้วยเพลทเกราะเฉพาะบางส่วนเท่านั้น ไม่ปิดทุกส่วน โดยเธอไม่ค่อยจะใส่ชุดธรรมดาเท่าไหร่นอกจากเกราะแบบนี้
การแสดงออกทางอารมณ์นั้นในยามปกติทั่วไปเธอก็จะมีรอยยิ้มดุจเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ประดับอยู่บนใบหน้าที่ชวนให้ผู้ที่มองเห็นตกอยู่ในภวังค์ จริยวัตรของเธอนั้นอ่อนช้อยและงดงามจนทำให้แทบจะละสายตาออกไปไม่ได้ และพอถึงยามศึกที่เธอต้องออกไปต่อสู้แล้วรัศมีความงดงามและน่าหลงใหลของเธอก็ไม่มีตกลงไปแม้แต่น้อย แววตาที่ดุดันและเปี่ยมไปด้วยความเข้มแข็ง ท่วงท่าที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งและหนักแน่นนั้นเรียกเสียงกรี้ดจากสาวๆ (และชายหนุ่มบางคน) ได้อย่างมากเลยทีเดียว
2.ข้อมูลในฐานะอีจิส
Class : Guardian Angel
Trait : Hybrid
Property : [Divine] - ศักดิ์สิทธิ์
[Deity] - เทวา
[Guardian] - ผู้พิทักษ์
Position : Guardian , Tanker
Rank : F
สังกัดกิลด์ : -
Status :
HP : A
MP : C
STR : C AGI : C MAG : D
VIT : A DEX : C INT : B
STM : B INS : D SPD : B
Charisma skill : [Frontline:Hornor and Glory] - แนวหน้า:เกียรติยศและศักดิ์ศรี
: ในการต่อสู้ หากเธออยู่แนวหน้า STR VIT และ STM ของเธอจะเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเธออยู่แนวหลัง ค่าสถานะดังกล่าวจะลดลงแทน แต่ถ้าอยู่ตรงกลางจะไม่ได้รับผลใดๆ
Skill :
《Passive》
[Un Deux Et Trois] - หนึ่ง สอง และสาม:นับขึ้นไปสู่ชัยชนะ
: เมื่อเธอทำดาเมจใส่ศัตรูสามครั้งในสามวินาที จะทำการติดมาร์ค 1 อันไว้ที่ศัตรูตัวนั้น ซึ่งจะลดพลังป้องกันและความเร็วของศัตรูตัวนั้นลง มาร์คสามารถซ้อนทับกันได้สูงสุด 3 ครั้ง แต่การจะติดมาร์คครั้งที่สองและสามนั้นจะต้องโจมตีหกครั้งในหกวินาที และเก้าครั้งในเก้าวินาทีตามลำดับ
และหากมาร์คนั้นซ้อนทับกันครบสามครั้งแล้วเธอทำดาเมจใส่ศัตรูตัวนั้น 12 ครั้งใน 12 วินาที มาร์คทั้งสามอันจะระเบิดออก ทำให้ศัตรูขยับไม่ได้ซักระยะรวมทั้งได้รับความเสียหายเล็กน้อนถึงปานกลาง
มาร์คจะหายไปเองใน 30 วินาทีหากไม่มีการซ้อนเพิ่ม
[Gaudia certaminis] - สุนทรีย์ในยามสงคราม
: เมื่อเธอรับความเสียหายจำนวนหนึ่ง ความเสียหายที่เธอกระทำได้ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย โดยจะซ้อนทับกันเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด จนกว่าจะไม่ได้รับความเสียหายเกิน 5 วินาทีผลถึงจะหายไป(เหมือนยิ่งโดนดาเมจ ดาเมจตัวเองจะแรงขึ้นตามไปด้วย)
[Scapegoat] - แพะรับบาป
: เมื่อพันธมิตรในระยะ 50 เมตรได้รับความเสียหาย ความเสียหายนั้นจะถูกหักออก 50% และส่งมายังเธอ เป็นสกิลเปิดปิด
[Alis volat propriis] - จะโบยบินด้วยปีกของตน
: สร้างปีกขนาดใหญ่ขึ้นมาหนึ่งคู่ตรงด้านหลังของตน ปีกนั้นสามารถใช้โบยบินได้อย่างอิสระราวกับเทวาบนสรวงสวรรค์ เป็นสกิลเปิดปิด
《Active》
[Deo non fortuna] - มิใช่ด้วยโชค แต่ด้วยประสงค์ของพระเจ้า
: ดูดซับความเสียหายของพันธมิตรในระยะ 100 เมตรรอบตัวเป็นเวลา 10 วินาที จากนั้นปลดปล่อยออกมาเป็นการโจมตีด้วยดาบของเธอที่จะมีความเสียหายสะสมทั้งหมดที่เธอได้รับตั้งแต่กดใช้สกิล โดยตอนใช้สกิลจะสังเกตได้จากออร่าสีทองบางๆ มาปกคลุม
[Domine dirige nos] - พระผู้เป็นเจ้า โปรดชี้นำทางแก่เรา
: เมื่อใช้สกิลแล้วจะรู้สถานะของผู้ร่วมทีมทั้งหมด และสามารถวาร์ปไปหาพร้อมกับเอฟเฟคขนนกโปรยปรายได้ภายในเวลา 3 วินาทีแม้ว่าจะไกลแค่ไหนก็ตามในระยะสกิล คือหนึ่งกิโลเมตร
[Imagine Fortress] - ปราการจินตภาพ : ส่วนลึกของจิตอันมิอาจพังทลาย
: เมื่อปักโล่ลงบนพื้นและใช้งานสกิล จะทำการสร้างปราการออกมาได้ตามแบบที่ผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นปราสาทขนาดใหญ่ กำแพงเหล็กกล้า หรือกระทั่งกำแพงเมืองจีนตามแต่ผู้ใช้จะจินตนาการได้ แต่จะเสียมานามากขึ้นตามขนาด และเสียมานาเรื่อยๆ ตราบใดที่โล่ยังปักอยู่บนพื้นดิน หากปราการถูกโจมตี มานาจะลดลงไวขึ้น 15%
เมื่อยกโล่ขึ้นจากพื้น ความเสียหายสะสมที่ปราการได้รับ 30% จะสะท้อนออกไปด้านหน้าของโล่เป็นระยะ 15 เมตร
[Immortal] - อมตะ
: เมื่อใช้สกิลนี้ ตัวเธอจะไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้จะถูกโจมตีหรือดูดซับการความเสียหายจากเพื่อนร่วมทีมเป็นเวลา 5 วินาที แต่เธอจะขยับไม่ได้จนกว่าผลของสกิลจะหมดลงบวกอีก 1 วินาที
[Instant Heal] - รักษาฉับพลัน
: พลังชีวิตต้องต่ำกว่า 50% ถึงจะใช้ได้ เมื่อใช้สกิลนี้แล้ว ความเสียหายที่ทำได้จะเปลี่ยนเป็นพลังชีวิตของตนเอง(ตีดูดเลือดแหละครับ)
[Counter Strike] - โจมตีโต้กลับ
: เมื่อถูกโจมตีเวลาใช้สกิลแล้ว ความเสียหาย 10% จะสะท้อนใส่ไปยังผู้ที่โจมตีมา และหากโจมตีศัตรูที่โจมตีมาตอนใช้สกิล ความเสียหายจะแรงขึ้น 50% ระยะเวลาสกิล 3 วินาที
[Shield Dash]
: พุ่งเข้าหาศัตรูด้วยความเร็วสูงและใช้โล่กระแทก เพิ่มดาเมจของโล่ 25% มีโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะสตั้นท์ได้
ความสามารถในการต่อสู้ : - ยืนแนวหน้า รับการโจมตีแทนเพื่อน
-ดูดการโจมตีและสะท้อนกลับ
- การเคาท์เตอร์แอคแทคด้วยวิชาดาบของเธอ
- ใช้โล่ได้เก่ง
อุปกรณ์ที่ใช้ :
[Goddess’s Embrace] - อ้อมกอดของเทพธิดา
: เซ็ทชุดเกราะของเธอที่รับการโจมตีได้ดีมาก ทำให้เธอสามารถทนมือทนเท้าได้นานทีเดียว รวมทั้งยังมีโอกาส 15% ที่จะสะท้อนดาเมจ 5% ของการโจมตี เมื่อใส่ครบเซ็ทแล้วความคล่องตัวก็จะไม่ลดลงไปเลยแม้แต่น้อยราวกับเป็นเกราะผ้าเบาๆ แต่พอคนอื่นลองใส่แค่ขยับแขนขายังลำยากเลย
[Merit and Karma] - กุศลและผลกรรม
: เซ็ทดาบและโล่ของเธอ โดยเมอริทคือดาบ ส่วนการ์ม่าเป็นโล่ เมอริทมีความสามารถพิเศษคือใบดาบสามารถกำหนดให้ทะลุผ่านหรือไม่ทะลุผ่านวัตถุก็ได้ ซึ่งเธอมักจะใช้ความสามารถนี้ให้ศัตรูไขว้เขว
การ์ม่านั้นเป็นโล่ที่ยิ่งโดนโจมตีมากเท่าไหร ดาเมจของมันก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว ทำให้การใช้โล่กระแทกบางทีอาจจะแรงกว่าเอาดาบฟันซะอีก
[เบ็ดเตล็ด]
มีด , เชือก , ยาสำหรับฉุกเฉิน , ไฟแช็ค ของเหล่านี้เธอพกติดตัวตบอดเวลา
ดาบและโล่อีกชุดหนึ่งสำหรับฝึกซ้อม ซึ่งไม่มีความสามารถพิเศษอะไร
ลักษณะเครื่องแบบ : เกราะสีเงินอร่ามดูสง่างาม สวมทับชุดเลโอทาร์ดสีดำด้านใน หมวกเกราะที่ปิดบังใบหน้าของเธอทำให้เห็นไม่ชัดเมื่อสวมใส่ นอกจากนี้ยามสู้รบ เธอก็จะสยายปีกของเธออกมาด้วยเพื่อใช้ในการเข้าหาพันธมิตรของเธอและรับดาเมจแทน
สไตล์การต่อสู้ : มารีนั้นถนัดในด้านการป้องกันและตอบโต้เป็นอย่างมาก โดยเธอมักจะเกาะกลุ่มอยู่ใกล้ๆ เพื่อนของเธอเพื่อที่จะใช้สกิลแชร์ดาเมจมาให้เธอ ด้วยปีกของเธอที่ทำให้เธอสามารถโบยบินบนท้องฟ้าได้อย่างอิสระและเข้าไปหาเพื่อนของเธอได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นเวลาต่อสู้เธอมักจะบินอยู่ตลอดเวลา และยังสามารถวาร์ปไปหาเพื่อนที่กำลังแย่ได้อีกด้วย
การโจตีในเชิงรุกของเธอนั้นไม่ค่อยจะมีซักเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การป้องกันและสะท้อนดาเมจกลับด้วยสกิล แต่ก็ใช่ว่าเธอจะโจมตีโดยตรงไม่ได้ เธอยังคงใช้โล่ของเธอฟาดได้และใช้ดาบฟันได้อยู่ดี ด้วยฝีมือดาบและความสามารถของดาบที่แทบจะไม่มีโอกาสพลิกได้เลยหากได้ปะทะกับดาบของเธอแล้ว เพราะว่ามันจะทะลุสิ่งที่เอามาปัดป้องและมุ่งหวังสิ่งเดียวคือลิ้มรสเลือดจากศัตรูตรงหน้าให้ได้ รวมถึงดาเมจของโล่ที่ยิ่งเพิ่มเรื่อยๆ จากดาเมจสะสมที่โล่ได้รับมาก็รุนแรงเป็นอย่างมากเมื่อถูกสกิล [Shield Dash] พุ่งเข้าใส่
3.ข้อมูลภูมิฐาน
อุปนิสัย : มารีเป็นหญิงสาวผู้ซึ่งมีความสุภาพและมารยาทงดงามเป็นอย่างมาก ในสถาการณ์ปกตินั้นหาได้ยากยิ่งที่เธอจะหลุดพูดคำหยาบหรือทำอะไรออกมาด้วยความอารมณ์เสีย รวมทั้งการกระทำต่างๆ ของเธอก็ดูงดงามราวกับถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี และรอยยิ้มของเธอนั้นช่างดูงดงามราวกับเทพธิดามาโปรยยิ้มให้ ยากจะเบนสายตาออกจากใบหน้าอันงดงามนั้นได้
เธอเป็นคนที่ใจดีและเห็นแก่คนอื่นมากกว่าตัวเอง ชอบที่จะช่วยเหลือคนอื่น รวมทั้งเธอนั้นยังถือคติที่ว่า"ต้องเป็นโล่ให้ผู้อื่นปลอดภัยจากอันตราย"ทำให้ตัวของมารีนั้นเรียกได้ว่ามองเห็นผู้อื่นก่อนตัวเองเสมอๆ กระนั้นการที่เธอเป็นเช่นนี้ ในบางครั้งมันก็อาจจะทำให้ชีวิตของเธอต้องจบสิ้น เช่นเธอคอยยันศัตรูไว้และให้เพื่อนหนีไป แต่เธอนั้นก็พอใจแล้ว เพราะเธอคิดว่าหากเธอต้องตายไป ก็ขอเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ให้สมกับที่เกิดมาเสียเถอะ
มารีนั้นมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ ไม่เคยเลยที่คนอย่างเธอนั้นจะมองถึงโลกในแง่ร้าย ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันมีอยู่ ตัวมารีนั้นรู้อยู่เต็มอกว่ามันมีเรื่องร้ายๆ แน่ๆ แต่เธอเลือกที่จะมองข้ามภาพอันเลวร้ายไปเพราะเห็นว่ายิ่งสนใจยิ่งไร้ประโยชน์ เธอจึงพยายามโฟกัสแต่เรื่องดีๆ เท่านั้นที่จะเอามาใช้ในการดำเนินชีวิต และเธอนั้นทราบเป็นอย่างดีถึงสัจพจน์ที่ว่าเหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ ทำให้เมื่อมีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น เธอก็จะมองหาข้อดีของเหตุการณ์นั้นได้อย่างน่าฉงน แม้ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายก็ตาม
มารีมีความตั้งใจอันแรงกล้ากับทุกๆ เรื่องที่เธอทำ ไม่มีอะไรเลยที่เธอทำแบบขอไปที การทำแบบขอไปทีสำหรับเธอแล้ว ราวกับเป็นการการันตีความฉิบหายแน่นอน 100% ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีใครต้องการให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น เธอจึงทำเรื่องแต่ละอย่างด้วยความใส่ใจและตั้งใจเพื่อที่จะได้สำเร็จดังประสงค์
เซ้นส์ด้านความน่ารักแย่มาก เอาง่ายๆ คือคำว่มอนสเตอร์ที่น่ารักสำหรับเธอมันก็แนวๆ คธูลูแล้ว แถมพวกมอนปกติที่คนคิดว่าน่ารักกันเช่นหน้าตาเหมือนหมีประมาณนี้เธอเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่ามันน่ารักตรงไหน จึงมักจะโดนย้อนถามบ่อยๆ ว่า "แล้วเธอคิดว่าไอ้คธูลูของเธอนี่มันน่ารักยังไงมิทราบ" อีกด้วย
ทำเพื่อคนอื่นจนลืมนึกถึงตัวเองก็คงเป็นอีกนิสัยเสียของมารี เธอนั้นมองแต่คนอื่นว่าจะเป็นยังไง ต้องการความช่วยเหลือหรือลำบากอะไรไหม กระนั้นเธอกลับไม่เคยที่จะดูตัวเองเลยว่าต้องการอะไรไหม ดังเช่นหากในยามที่บาดแผลของเธอเต็มไปหมดทั่วกาย เธอก็ยินดีจะสละยาให้ผู้อื่นมากกว่านำมาใช้เอง หรือยอมเสียสละอาวุธที่อยากได้ให้คนอื่น แทนที่จะเก็บไว้เองก็ตาม
แต่ก็ใช่ว่าเธอนั้นจะเป็นคนที่ไม่สู้คน ใครดีมาเธอก็ดีกลับ แต่ใครร้ายมาเธอก็ร้ายตอบ ด้วยความที่เธอนั้นก็ไม่ใช่พวกที่อ่อนแออยู่เป็นทุนเดิม ดังนั้นงานนี้ก็คงมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่ต้องไปนอนห้องพยาบาลแน่ๆ และการจิกกัดด้วยคำพูดนั้นแทบจะไม่เป็นผลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วยอาการมาโซคิสม์ของเธอ หรือการที่เธอไม่สนใจคำพูดเหล่านั้นก็ตาม แต่เธอจะตอบกลับด้วยคำพูดที่สุภาพและรอยยิ้ม ที่ทิ่มแทงเข้าไปในใจคนเหล่านั้นเสมอ
เธอก็เป็นคนเหมือนกับคนอื่นๆ นั่นทำให้ตัวเธอไม่ได้เป็นเช่นเครื่องจักรที่สมบูรณ์แบบไปเสียทุกเรื่อง ในบางครั้งเธอก็ทำผิดพลาดได้ และเธอมักจะทำผิดพลาดบ่อยๆ เสียด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเล็กน้อย ว่าง่ายๆ คือเธอเป็นพวกที่ซุ่มซามมากนั่นแหละ เดินอยู่ดีๆ อาจจะสะดุดอากาศล้มไปเฉยๆ หรือแก้วน้ำที่เธอถืออยู่มันอาจจะร่วงลงไปเฉยๆ เหมือนมีขากระโดดลงไปเอง แต่ต่อให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นเธอก็ยังคงคีพลุคสง่าสามของเธออยู่ได้ ถึงแม้จะสะดุดล้มต่อหน้าคนทั้งหอประชุมก็ตามที ถึงนั่นมันก็แค่ลุคภายนอกก็ตาม เพราะภายในจิตใจนั้นว้าวุ่นเป็นอย่างมากเลยทีเดียวล่ะ แต่หากเป็นการต่อสู้แล้วเธอก็แทบจะไม่พลาดเลย
หากเธออยู่กับคนที่เธอเชื่อใจหรืออยู่คนเดียวแล้วนั้น เธอก็จะเลิกคีพลุคของเธอแล้วเริ่มทำตัวสบายๆ บ้าง เพราะเธอนั้นต้องการให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่าที่ต้องมาดูเธอวางมาดสง่าแบบนั้น รวมทั้งเวลาในตอนนี้หากเกิดเรื่องที่เธอเผลอทำพลาดไปแล้วล่ะก็เธอจะแสดงออกมาอย่างเต็มที่ ทั้งความกังวลใจ ความสับสน ฯลฯ ที่แสดงออกมาไม่ได้ในยามที่เธอต้องการจะสร้างมาดที่สง่างามของตัวเธอ
เธอนั้นเป็นพวกที่เข้าสังคมไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่นัก เวลาที่เธออยู่กับคนที่ไม่รู้จักก็จะพยายามคีพลุคสง่าของเธอเอาไว้เสมอๆ นั่งนิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่ในใจก็คิดว่าจะไปทักยังไงดี จะพูดอะไรดี จะเริ่มคุยยังไงดีว้าวุ่นไปหมดจนไม่ได้ไปทักเพราะมัวแต่คิด ดูๆ ไปภายนอกไม่ได้แสดงออกถึงความเลิ่กลักอะไรแบบนั้น ยกเว้นเสียแต่พวกที่ชอบจับสังเกตชาวบ้านก็อาจรู้ตัวถ้าจ้องนานพอ ยกเว้นว่าจะมีคนมาทักเธอก่อน เธอจึงจะเริ่มคุยได้แบบปกติทั่วไป
เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมากโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับตำนานและศาสนวิทยา ซึ่งมักจะเป็นหนังสือเก่าโดยส่วนมาก ดังนั้นเงินรายได้ค่าขนมของเธอก็มักจะถูกเจียดไปเป็นค่าหนังสือเสียกว่าหนึ่งในสาม หรือบางเดือนก็ครึ่งหนึ่งเลยที่ดียว ในเวลาว่างๆ ก็ชอบที่จะนำหนังสือเหล่านี้มาอ่าน และหากมีคนที่มีความชอบใกล้ๆ กับเธอ มารีก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านั้น เพราะว่าจะมีก็แค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่สนใจเรื่องคล้ายๆ เธอ
หากในเวลาว่างแล้วเธอไม่ได้อ่านหนังสือล่ะก็ สิ่งที่เธอจะทำก็คือการเดินไปทั่ว เหมือนเดินเล่น แต่กระนั้นก็เพื่อที่จะได้คอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นไหม และนอกจากนี้ยังเป็นการทำให้เธอสงบจิตใจลงบ้างได้ด้วย และหากได้เจอเพื่อนที่เธอสนิทด้วยแล้วก็อาจจะถือโอกาสไปคุยด้วยเลย หากแต่เส้นทางของเธอนั้นยังคงเต็มไปด้วยขวากหนามและความยากลำบาก(?)เธอจึงสะดุดล้มบ่อยๆ เวลาเดินเล่น ไม่ว่าจะมีคนเห็นหรือไม่มีก็ตาม
เป็นมาโซคิสม์แบบอ่อนๆ เธอไม่ได้ต้องการแสวงหาความเจ็บปวด แต่เธอก็ไม่ได้รังเกียจอะไรมัน ความเจ็บปวดนั้นเป็นเหมือนเกราะให้เราพัฒนาขึ้น เธอมักจะพูดแบบนี้เสมอ ถึงจริงๆ เธอจะรู้สึกดีเล็กน้อยเวลาได้รับความเจ็บปวดก็เถอะ ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่ได้บอกใคร
ชอบ : ของน่ารักๆ (ที่ดูจะแปลกแยกกับความน่ารักของคนอื่นมากๆ) , การช่วยเหลือผู้อื่น , น้ำส้มคั้นสด , อาหารรสเผ็ด , รูบิค , การอ่าน
ไม่ชอบ : คนที่เห็นแก่ตัว , กาแฟ , คนที่ชอบดูถูกผู้อื่น , การที่เธอปกป้องใครไม่ได้
ลักษณะการพูด : มารีนั้นแทนตัวเองว่า “เรา” แทนคนอื่นว่า “คุณ” หรือหากสนิทแล้วจะแทนด้วยชื่อแทน และไม่ค่อยมีคำลงท้ายเท่าไหร่นักเพราะคำลงท้ายมักจะมาเฉพาะเวลาจะจิกกัดใครเท่านั้น
ตัวเธอมีน้ำเสียงที่ฟังดูสุภาพและน่าหลงใหล แต่ละคำพูดของเธอนั้นเป็นถ้อยคำที่ไม่มีคำหยาบหลุดออกมาเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้คำพูดบางครั้งของเธอมันจะยาวและดูลิเกๆ หน่อยก็ตาม
[ตัวอย่าง]
“ขออนุญาตแนะนำตัวสักเล็กน้อย เรามีนามว่าอารียา มารี แอนเดอร์สัน คุณจะเรียกว่ามารีเฉยๆ ก็ได้”
“เมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ไม่มีใครสะดุดอากาศล้มเลยแม้แต่คนเดียว”
“ถ้าคุณมิได้ดูถูกผู้อื่นก่อน เราก็มิได้มองคุณต่ำต้อยเช่นนี้หรอกค่ะ”
“เหตุที่เราไม่หนีออกไปงั้นหรอ ลองมองดูสิ มีอีกกี่คนที่ต้องการความช่วยเหลือล่ะ”
ประวัติ : อารียา มารี แอนเดอร์สัน เด็กสาวลูกครึ่งไทย-ไอริสที่เกิดมาในเขตที่ 17 แม่ของเธอนั้นเป็นเซฟที่ทำงานในภัตตาคารแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง ส่วนพ่อของเธอนั้นเป็นเอจิสผู้ใช้โล่แรงค์ B ที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก จะพูดก็ได้ว่าเป็นแค่ครอบครัวธรรมดาๆ ทั่วไปครอบครัวหนึ่ง ที่ไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้อดอยาก แต่กระนั้นกลับเต็มไปด้วยสิ่งที่เรียกว่าความรักและการเอาใจใส่ พ่อของเธอนั้นได้ใช้เวลาว่างจากการทำงานมาคอยสอนทักษะการใช้โล่ให้เธอ เนื่องจากเห็นว่าเธอสนใจในการทำงานเป็นเอจิสของเขา ส่วนแม่ของเธอนั้นก็จะคอยสอนเธอทำอาหารอยู่เรื่อยๆ แม้ว่าฝีมือของมารีจะห่วยแตกก็ตาม
เธอนั้นได้ใช้เวลาว่างของเธอไปกับการฝึกฝนด้านการใช้โล่และศึกษาด้านศาสนา ที่ถึงแม้ในยุคสมัยนี้ศาสนาจะถูกลดทอนคุณค่าลงไปเป็นแค่กิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ กระนั้นเธอยังคงเห็นความสำคัญของมัน นอกจากศาสนาแล้วเธอยังศึกษาตำนานโบราณของพวกเทพกรีก-โรมันและนวนิยายเลิฟคราฟต์อีกด้วย นั่นทำให้เธอมีความศรัทธาในศาสนาและมีความรู้ในเรื่องนี้สูงพอตัว
แต่แล้ววันหนึ่งยามที่เธออายุ 10 ปี ขณะที่ทั้งสามกำลังใช้เวลาร่วมกันอยู่ในสวนสัตว์ จู่ๆ ก็มีเกทเปิดขึ้นออกมาและมีมอนสเตอร์จำนวนมากออกมาจู่โจมผู้คน พ่อของเธอนั้นได้ใช้ความสามารถทั้งหมดในการถ่วงเวลาให้คนอื่นๆ หนีไป ส่วนตัวเองนั้นก็คอยรับมือมอนสเตอร์เหล่านั้น แม้จะไม่มีอะไรติดตัวเลยก็ตาม
ผลสรุปของการต่อสู้คือเอจิสคนอื่นๆ ตามมาสมทบได้ทัน ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต แต่ก็มีคนหนึ่งที่บาดเจ็บสาหัส นั่นก็คือพ่อของเธอ เขาถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยความเร่งรีบ แต่กระนั้นมันก็ยังไม่ทัน เขาได้สิ้นลมหายใจต่อหน้าภรรยาและสูกสาวอันเป็นที่รักของเขา
“จงปกป้องผู้อื่น แม้จะแลกมาด้วยชีวิตก็ตาม” นั่นคือประโยคสุดท้ายที่เขาพูดก่อนจะจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา ในตอนแรกนั้นแม่ของเธอพยายามจะให้เธอล้มเลิกการที่จะเป็นเอจิส เพราะว่าเธอคนนั้นไม่อยากจะเสียใครไปอีกแล้ว แต่ด้วยลูกตื้อของมารี ทำให้แม่ของเธอยอมใจอ่อนและคอยเอาใจช่วยเธอแทนที่จะห้ามเธอ เธอเลิกที่จะฝึกฝนการใช้โล่อย่างเดียว แต่หันไปฝึกฝนการใช้โล่คู่กับดาบและการโต้ตอบการโจมตีแทน นั้นทำให้เธอแทบจะเรียกได้ว่าครบเครื่องทั้งโจมตีและป้องกัน
และหลังจากเหตุการณ์นั้น เธอเองก็ได้เริ่มที่จะสวมเกราะตลอดเวลา เพื่อในเวลาที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นจะได้ตั้งตัวทันท่วงที และป้องกันการโจมตีทีเผลอหรือเกทเปิดกระทันหันอีกด้วย ตอนแรกๆ นั้นเธอใส่เป็นฟูลเพลทตลอดเวลาด้วยความระแวง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอหนักจนเคลื่อนไหวลำบากด้วยแรงกายอันมหาศาลของเธอ จนเธอค่อยๆ ลดชิ้นส่วนของมันลงได้จนปิดแค่บางส่วนเท่านั้นจากความระแวงที่ลดลงไปแล้ว
รวมทั้งทางด้านนิสัยของเธอที่เพิ่มภาพลักษณ์ที่ดูจริงจังและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ผิดจากแต่ก่อนที่เธอก็ร่าเริงแจ่มใส ไม่ได้มีการวางมาดอะไรแบบนี้ แต่ที่เธอทำแบบนี้ก็เพราะว่าต้องการให้ผู้คนมั่นใจในตัวเธอว่าจะปกป้องได้แน่นอน แต่ในบางครั้งก็ยังมีหลุดๆ อยู่บ้าง ซึ่งไม่ได้บ่อยครั้งอะไรนัก
ในตอนที่เธออายุ 15 ปีนั้นพลังของเธอถูกปลุกให้ตื่นขึ้นเป็นครั้งแรก มารีก็ได้เข้าเรียนในสถานศึกษาสำหรับเอจิสเมื่ออายุ 16 ปี และได้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนกับโรงเรียน “White Guardian” ด้วยทักษะและความสามารถ รวมถึงพรสวรรค์ของเธอ ทำให้เธอถูกคัดเลือกในที่สุด
ความสามารถพิเศษ : - ว่ายน้ำเก่ง
เล่นรูบิค (แก้ได้ใน 7 วินาที)
คิดเลขไว
แรงเยอะมาก บาทีอาจจะมากกว่าผู้ชายก็ได้มั้ง
บุคคลที่เกี่ยวข้อง :
มารดา - กฤษตา แอนเดอร์สัน || Krista Anderson (ปัจจุบันทำอาชีพเชฟในภัตตาคารทั่วๆ ไป)
บิดา - ฟิลิปส์ บรูซ แอนเดอร์สัน || Philip Bruce Anderson (อดีตเอจิส เสียชีวิตจากการช่วยเหลือคนในเหตุการณ์เกทเปิด)
4.ข้อมูลการจับคู่
รสนิยมทางเพศ : ทั้งสอง (เน้นหญิง แต่ชายก็ได้)
สเป็คของคนที่ชอบ : ดูน่าปกป้อง น่าทะนุถนอม นิสัยขอให้เข้ากับเธอได้ รวมทั้งยอมรับได้ว่าเธอนั้นอาจจะตายได้ทุกเมื่อ
เธอนั้นไม่รู้ตัวว่าเธอชอบคนแบบไหน แต่หากเจอคนประเภทที่ว่าเธอจะพยายามทำตัวนิ่งๆ เหมือนไม่ได้มีอะไร แต่ในใจนั้นไปหมดแล้ว หากมีใครมาถามก็จะพยายามเลี่ยงที่จะตอบออกไป
ข้อมูลอื่นๆ : - ทำอาหารห่วยแตกมาก
มีรูบิคติดตัวอยู่เสมอไม่ว่าจะไปไหน
หากจะนิยามคำว่าของน่ารักๆ ของเธอแล้ว ให้นึกถึงสิ่งมีชีวิตประหลาดมีรยางค์ห้อยยั้วเยี้ยพร้อมกับร่างกายที่เป็นเมือกลื่นๆ และหน้าตาไม่ชวนอภิรมณ์เท่าไหร่นัก (กับคนไม่ใช้นิยามนี้นะครับ ถถถถถ)
เหตุผลที่เธอใส่เกราะแบบนั้นแทนที่จะเป็นเกราะที่ดูทันสมัยๆ เป็นผลมาจากที่เธอศึกษาตำนานเทพอะไรพวกนั้นด้วยแหละครับ แล้วเธอก็คิดว่าเกราะสมัยใหม่หรือเกราะโบราณ ถ้ามันจะตายก็ตายเหมือนกัน งั้นเลยเลือกอันที่ชอบดีกว่า
ส่วนเหตุผลที่ใส่เกราะตลอดเวลาก็เป็นเพราะความระแวงครับ จากประสบการณ์เกทเปิดของเธอที่ทำให้เธอเสียพ่อไป เธอจึงเตรียมพร้อมที่จะรับมืออะไรพวกนี้เสมอ เหมือนที่อธิบายเพิ่มในประวัติแหละครับ ตอนแรกก็ใส่เต็มตัว แต่พอลดความระแวงลงมาได้ก็เหลือแค่ปิดบางส่วน
มีความรู้ด้านศาสนา ตำนานความเชื่ออะไรพวกนี้มาก แต่นิยายเลิฟคราฟท์นั้นมารีคิดเองเออเองไปว่ามันเป็นคัมภีร์ของศาสนาหรือลัทธิอะไรซักอย่างครับ อยากให้มีการแก้ความเข้าใจผิดให้มารีในเรื่องด้วย แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรครับ
ที่เธอมีนิสัยแบบนี้ก็เพราะต้องการจะเพิ่มความมั่นใจให้กับคนอื่นครับ ว่าตัวของเธอนั้นสามารถปกป้องพวกเขาได้ ให้สบายใจได้เลย ไม่ต้องเป็นกังวลอะไรมาก และคนส่วนใหญ่เมื่อเห็นลักษณะนิสัยประมาณนี้ก้คงสบายใจไปเปราะนึงแล้ว
ความคิดเห็น