คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #198 : The Desire : PTSD
เปิดเพลงก็ดีครับ
◣Application◥
◣Profile◥
“ไม่เอาแล้ว! พอกันที! งานแบบนี้ขอเลิกไปตลอดกาลแล้วกัน!”
"ปีศาจ...ไม่นะ อย่าพูดคำนั้นอีกเด็ดขาด! ไม่! หยุดซักทีสิ ก็บอกว่าให้หยุดไง!"
“ท่องไว้ ชาร์ล็อต มันไม่มีอะไรผิดพลาด... มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น…..แต่ทำไมวันนี้แจกันในห้องถึงขยับล่ะ"
บทบาท : ผู้วิเศษคนอื่นๆ
ชื่อ/นามสกุล : ชาร์ล็อต ไรท์ || Charlotte Wryte
ชื่อเล่น : ชาร์ล็อต || Charlotte (ชื่อที่ถูกเรียกทั่วไป)
ชาร์ล || Charles (ชื่อที่ถูกเรียกโดยคนสนิท แต่ตอนนี้ถ้าถูกเรียกด้วยชื่อนี้จะเกิดอาการหลอนขึ้นมา)
ชาร์ลี || Charlie (รหัสเรียกขานของเธอ ซึ่งส่วนมากผู้วิเศษด้วยกันจะเรียกด้วยชื่อนี้)
ความหมายของชื่อ :
ชาร์ล็อต - แข็งแกร่ง มีอำนาจ
ไรท์ (Wryte) - ช่างฝีมือ , คนงาน
สัญชาติ : อเมริกา
เชื้อชาติ : อเมริกัน
เพศ : หญิง
ลักษณะภายนอก : ชาร์ล็อตนั้นเป็นหญิงสาวที่มีเรือนผมสีน้ำตาลเฮเซลนัทที่ยาวถึงราวๆ กลางหลังของเธอ นัยน์ตาสีน้ำเงินหม่นประกายซึ่งให้ความรู้สึกราวกำลังสบตากับความสิ้นหวังอยู่ และดวงตาคู่นั้นมักจะไม่ค่อยฉายแววอะไรนอกจากความหดหู่ หวาดระแวง และความกลัว ขนตาเป็นแพราวกัยเครื่องประดับอันสวยงามและคิ้วที่เรียงตัวกันได้รูปพอดี รวมถึงองค์ประกอบของใบหน้าที่ราวถูกจัดวางอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ใบหน้านั้นมักจะแสดงซึ่งสีหน้าของความหวาดระแวงและวิตกกังวลอยู่เป็นนิจ
ผิวกายขาวสุขภาพดี แต่กลับมีแผลเป็นขนาดใหญ่บริเวณหน้าอกจากการผ่าตัดเพื่อรักษาจากการถูกสะเก็ดระเบิดในสมรภูมิ รวมทั้งรอยกระสุนปืนที่ไหล่ขวา ความสูงของเธอนั้นจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีคือ 174 เซนติเมตร รวมทั้งน้ำหนักที่พอดิบพอดีกับความสูง นั่นคือ 63 กิโลกรัม มีกล้ามเนื้อบางๆ เล็กน้อยจากการที่เคยเป็นทหารมาก่อน
มักจะแต่งการด้วยเสื้อสูทสีดำอยู่เกือบจะทุกครั้งที่มีโอกาส ในตู้เสื้อผ้าของเธอมีแต่ชุดนี้ชุดเดียวเนื่องจากไม่ต้องการเสียเวลาและความระมัดระวังตัวในการเลือกสรรเครื่องแต่งกายของเธอ รวมถึงเครื่องประทินโฉมที่ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่นักเนื่องจากเคยชินกับในสมรภูมิที่ไม่มีเวลาเสริมสวยมากเท่าไหร่
จุดที่มีตราผู้วิเศษปรากฏ : หลังมือขวา
ปีศาจที่หวาดกลัวมากที่สุด : ตามจริงกลัวทุกตน ไม่ว่าจะเป็นปีศาจขั้นมหาบาปทุกตน หรือแม้กระทั่งปีศาจลูกสมุนธรรมดาๆ
อายุ : 28 ปี
อุปนิสัย :
[หวาดระแวง]
ชาร์ล็อตเป็นหญิงสาวผู้ซึ่งหวาดระแวงทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ ตัวเธอ ไม่ว่าจะเป็นใครหรืออะไร เธอก็ไม่เคยไว้วางใจทั้งสิ้น ในอดีตเธอเคยเป็นคนที่สนิทกับคนอื่นได้รวดเร็วและเป็นมิตรจนทำให้คนรอบข้างต่างก็ชื่นชอบเธอ แต่ในตอนนี้มันไม่เป็นเช่นนั้น หลังจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เธอก็คิดว่าคนรอบตัวเธอซักวันอาจจะทรยศเธอหรือกลายเป็นพวกเดียวกันกับปีศาจ อาวุธของเธอก็อาจพังลงในช่วงเวลาสำคัญหรือถูกแย่งไปใช้ พลังของเธอที่อาจจะใช้การไม่ได้กระทันหัน หรือแม้แต่ตัวเธอที่อาจจะถูกครอบงำโดยไม่รู้ตัว แสดงถึงว่าเธอไม่ไว้ใจอะไรอีกต่อไปแล้ว กระทั่งตัวเองก็ตาม
[กังวล]
ในสมองของชาร์ล็อตนั้นมีเรื่องให้กังวลมากมายจนแทบจะไม่ปล่อยเว้นว่าง ทุกเรื่องที่ผ่านไปมาในชีวิตของเธอนั้นล้วนถูกเก็บมาคิดได้หมดจนทำให้เกิดอาการไมเกรนได้เลย ทั้งเรื่องที่ใหญ่หลวงเช่นการโจมตีของปีศาจ หรือเรื่องเล็กๆ อย่างการที่ของในห้องของเธอขยับไปแค่สามเซนติเมตร และเธอนั้นยังสามารถเอาเรื่องเล็กๆ ไปขยายต่อให้ใหญ่ขึ้นได้อีก หากของเธอขยับไปสามเซนตเมตร แสดงว่าอาจจะมีคนเข้ามาในห้องของเธอ และอาจจะวางกับดักไว้ หรือกำลังซ่อนตัวอยู่ ทั้งๆ ที่ความจริงอาจจะเป็นแค่การที่เธอเผลอเดินชนก็ได้ หากเธอกังวลเข้ามากๆ เธอาจจะก้มลงไปกอดเข่าตัวเองแล้วพึมพำกับตัวเองราวกับคนเสียสติที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่กระนั้นเธอจะไม่มีวันไปขอความช่วยเหลือ เพราะเธอไม่ไว้ใจใครเลย
[รอบคอบ]
เพราะความหวาดระแวงของชาร์ล็อตนั้นทำให้เธอรอบคอบมากกว่าเดิมอย่างมาก แต่นั่นก็ทำให้อะไรๆ ในชีวิตลำบากขึ้นด้วยเช่นกัน เธอจะตรวจสอบทุกอย่างจนเธอคิดว่าพร้อมเสมอเวลาจะทำอะไร และหากไม่ได้ตรวจสอบเธอก็จะเบาใจไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ทั้งประตูล็อคหรือยัง อาวุธของเธอสภาพเป็นยังไง วันนี้มีใครทำตัวแปลกไปหรือไม่ ฯลฯ เมื่อเธอตรวจสอบก็ไม่สามารถหยุดได้เลย จนอาจจะเสียเวลาหลายชั่วโมงของชีวิตไปกับการตรวจสอบเรื่องพวกนี้
และทุกอย่างในชีวิตของชาร์ล็อตนั้นยังต้องมีสำรองเสมอ ทั้งอาวุธ เสื้อผ้า หรือสิ่งของในชีวิตประจำวันที่จะพกติดตัวตลอดเวลา หรือแม้กระทั่งวิธีที่เธอจะรับมือเวลาที่เธอถูกครอบงำ เธอก็คิดไว้แล้วเช่นกัน รวมถึงการถูกหว่านล้อมหรือชักจูงโดยคำพูดที่เธอจะตรวจสอบคำพูดของคู่สนทนาดีๆ ทำให้เธอไม่ค่อยจะตอบทันทีเท่าใหร่ แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เธอเชื่อว่าสามารถนำความปลอดภัยมาให้เธอได้ดีที่สุด
[จมกับอดีต]
ชาร์ล็อตไม่สามารถปล่อยอดีตให้หลุดพ้นไปได้ เธอจะหวนย้อนกลับไปถึงวันเก่าๆ เกือบจะตลอดจนต้องพึ่งยาระงับประสาทเพื่อไม่ให้เธอคิดถึงมัน ความเครียดและความรู้สึกยังคงอยู่ราวกับเธอกำลังอยู่ในวันนั้นๆ จริงๆ แม้จะผ่านมาเกือบห้าปีแล้วก็ตาม นอกจากนี้หากได้รับสิ่งกระตุ้นเช่นสถานที่ สิ่งของ ภาพ หรือคำพูดเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนั้นๆ แล้ว เธอจะถูกกระตุ้นให้เกิดอาการทันทีและต้องได้รับยาโดยด้วน
[ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้า]
หญิงสาวผู้นั้นมักจะอยู่แต่ภายในห้องของเธอไม่ออกไปไหน และจะสื่อสารออกมาข้างนอกผ่านทางโทรศัพท์หรือพลังของเธอเท่านั้น และจะดูโลกภายนอกผ่านกล้องวงจรปิด หากไม่มีการบังคับแล้วเธอจะไม่ออกมาโดยเด็ดขาดและให้เหตุผลว่าโลกภายนอกนั้นน่ากลัวเกินกว่าที่เธอจะทนอยู่ได้ เพราะเธอกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นในวันนั้นอีกครั้ง โดยที่เธอจะทำอะไรไม่ได้เช่นเดิม และยังไม่กล้าที่จะผูกสัมพันธ์กับคนใหม่ๆ ที่เดินเข้ามาในชีวิตของเธอ เพราะเธอกลัวว่าหากสนิทแล้ว อาจจะต้องเสียพวกเขาไปอีกครั้งหนึ่งก็ได้
[สุภาพ]
ชาร์ล็อตจะพูดหรือแสดงกิริยาอาการต่างๆ ด้วยความสุภาพ เธอไม่ชอบความแข็งกระด้างหรือความหยาบคาย และเธอก็เชื่อว่าไม่มีใครชอบเช่นกัน การที่เธอทำแบบนี้ก็เพื่อลดการกระทบกระทั่งกันซึ่งอาจจะนำมาซึ่งความเครียดของเธอ และรวมไปถึงลดความผูกพันธ์จากคำพูดที่สนิทสนมอีกด้วย รวมถึงเธอนั้นก็จะทำสิ่งต่างๆ ด้วยความสุภาพเช่นกันราวกับถูกฝึกมาเป็นอย่างดี ยกเว้นในตอนที่เธออยู่คนเดียว ในตอนนั้นเธอจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวตามสบายเลย
[โดดเดี่ยว]
ไม่ค่อยที่จะยุ่งเกี่ยวกับใครมากนัก และพยายามจะกันตัวออกออกจากโซนของคนอื่นๆ ตลอดเวลา เพราะเธอนั้นหลีกเลี่ยงการผูกสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เสมอ นั่นก็เพื่อให้ตัวเธอนั้นไม่ต้องมีความสัมพันธ์กับใครเกินจนเกิดความรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา การที่เธอรู้สึกห่วงใยใครนั้นเธอคิดว่ามันเป็นเหมือนกับโซ่ตรวนที่คอยรั้งไม่ให้ทำอะไร เลยพยายามที่จะไม่รัดมันไว้ และความรู้สึกที่มีกับคนอื่นๆ คือความห่างเหินแทน แต่กระนั้นในใจของเธอมันก็ยังคงเรียกหามิตรภาพอยู่เสมอ
[มองโลกในแง่ร้าย]
ราวกับโลกทั้งใบกลายเป็นสีดำ เธอนั้นไม่เคยที่จะมองเห็นสีขาวบนโลกใบนี้เลย ทุกอย่างนั้นล้วนมีแต่ความดำมืด แม้กระทั่งเหล่าผู้วิเศษเองก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน่ายินดีแค่ไหน เธอก็จะดึงมันลงไปจนทุกอย่างเหลืออยู่แค่ความเศร้าหมองได้ รวมไปถึงเธอยังคิดว่าในภายภาคหน้าจะไม่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นเลย ทุกอย่างมันก็มีแค่เรื่องร้าย และร้ายกว่าเท่านั้น จนอาจจะเรียกได้ว่าเธอคิดว่าโลกนี้ไร้ซึ่งความดีไปเสียแล้ว
[อ่อนไหวง่าย]
อารมณ์ของเธอถูกพาไปได้อย่างง่ายๆ และเธอไม่ค่อยมีความมั่นใจมากเท่าไหร่นักและกังวลเรื่องความผิดพลาดอยู่เสมอๆ โดยเธอนั้นเป็นพวกที่กลัวการปฏิเสธคนอื่นอย่างมาก ทำให้เธอมักจะยอมๆ ไปเสียทุกเรื่อง รวมทั้งยังชอบที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นและกดตัวเองลงต่ำอีกด้วย
ประวัติ :
ชาร์ล็อต ไรท์ เด็กสาวธรรมดาคนหนึ่งที่เกิดในครอบครัวธรรมดาๆ ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่ได้มั่งคั่ง แต่ก็ไม่ได้ขัดสน ไม่ได้ดีเลิศ แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่ ชีวิตในวัยเด็กของเธอก็ไม่ได้มีอะไรมากนอกจากการเรียน และเล่นกับเพื่อนๆ ตามแบบฉบับวัยรุ่นทั่วไป
‘ไม่มีอะไรพิเศษ’
เธอนั้นเบื่อหน่ายกับชีวิตเช่นนี้เหลือเกิน ทุกอย่างมันเหมือนถูกวนซ้ำเช่นเดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่ในชีวิตของเธอ เพื่อนๆ ก็ไม่ได้เป็นอะไรที่พิเศษอย่างลูกคุณหนูบ้านรวยหรือเด็กมีปัญหา ทุกคนก็เป็นแค่คนธรรมดาๆ เช่นเธอ เหมือนกับตัวประกอบในเรื่องราวของคนอื่นเท่านั้น ไม่มีงานอดิเรก ไม่มีคนรัก ไม่มีเหตุการณ์ที่กระทบในชีวิต เธอชอบที่จะมองเรื่องราวของคนอื่นๆ อยู่ตลอด เรื่องราวที่น่าตื่นเต้น แปลกใหม่ และสนุกสนานเหล่านั้นช่วยให้เธอมีความสุขได้ จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอเลือกที่จะก้าวไปในเส้นทางที่ต่างออกไป ไม่ได้อยู่ในวังวนที่ซ้ำซากจำเจ ในตอนที่เธออายุ 17 ปี เธอสมัครเข้าไปในโรงเรียนนายร้อย West Point เพื่อที่จะเป็นทหาร
ชาร์ล็อตสอบผ่านเข้ามาได้และได้เรียนอยู่ที่นั่นจนจบการศึกษา ชีวิตในนั้นของเธอก็ไม่ได้แตกต่างไปเท่าไหร่ เธอยังคงรู้สึกจำเจเหมือนเดิม แต่เมื่อเธอเรียนจบแล้ว ก็มีคำสั่งให้เธอเข้าไปประจำการในตะวันออกกลาง ที่มีผู้ก่อการร้ายจำนวนมากและทางสหรัฐต้องการที่จะกำจัด
เมื่อเธออยู่ที่นั่นแล้วเธอได้รับหน้าที่เป็นพลสื่อสาร การประสานงานของเธอนั้นทำได้ยอดเยี่ยม ชีวิตในแต่ละวันของเธอมันไม่ซ้ำซากอีกต่อไป เธอมีส่วนร่วมในหลายๆ ภารกิจจนเรียกได้ว่าเป็นพลสื่อสารฝีมือเยี่ยม ความแม่นยำในการส่งข่าวต่างๆ รวมถึงการเข้าและถอดรหัสช่วยเหลือกองทัพไว้อย่างมาก จนเรียกได้ว่าเส้นทางทหารของเธอกำลังจะไปได้สวย
แต่กระนั้นชีวิตก็ไม่ได้เป็นเส้นตรงเสมอไป เหมือนทุกอย่างที่ผ่านมามันก็แค่ความสงบก่อนพายุเข้า วันหนึ่งจู่ๆ วิทยุสื่อสารของเธอก็เสียหายโดยไม่ทราบสาเหตุ และจู่ๆ ก็มีผู้ก่อการร้ายบุกเข้าจู่โจมฐานที่มั่นของเธอโดยไม่ทันตั้งตัว ทุกๆ คนที่นั่นพยายามจะต่อต้านอย่างถึงที่สุด แต่ด้วยจำนวนและความพร้อมที่ด้อยกว่าก็ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป เธอได้เห็นเพื่อนๆ ของเธอได้ตายลงไปทีละคน คนที่เธอพึ่งกินข้าวเช้าด้วยกัน คนที่เธอพึ่งได้คุยกับเขาเมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว คนที่เธอพึ่งเล่นมุขให้ฟัง คนที่เธอพึ่งได้ยินว่าภรรยาของเขาคลอดลูกแล้ว
‘ทุกคนตายหมดแล้ว’
เธอเป็นไม่กี่คนที่เหลือรอดมาได้ แต่พวกมันก็จับตัวเธอไปที่ฐานของพวกมัน เธอถูกทรมาณเพื่อรีดข้อมูลต่างๆ ของทางกองทัพ และเธอก็เลือกที่จะไม่บอกอะไรไปเลย ทำให้นับวันนับวันเธอก็ยิ่งโดนมากขึ้นไปอีก พวกมันไม่ได้สนใจสิทธิมนุษยชนหรืออื่นใด สิ่งที่ทำก็มีแค่ทรมาณเธอหนักขึ้นไปอีก หนักขึ้นไปอีก แต่แล้วหลังจากนั้นสองเดือนก็มีความช่วยเหลือส่งมาถึง เธอได้รับการช่วยเหลือออกมาได้ในที่สุด ทางกองทัพบอกว่าได้ยินวิทยุขอความช่วยเหลือจากเธอ แต่ทำไมล่ะ ‘เธอไม่มีวิทยุซักหน่อย’
'มันไม่น่าเบื่ออีกแล้ว'
'แต่นี่มันเกินไปแล้ว'
สรุปบาดแผลที่เธอได้รับมาก็คือเล็บทั้งสิบถูกดึงออก กระดูกซี่โครงร้าว รอยช้ำทั่วร่างกาย รอยกระสุนปืนที่ไหล่ขวา กลางอกมีแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่รักษาแบบลวกๆ และน้ำหนักที่ลดไปเกือบสิบกิโล แต่ก็มีสิ่งหนึ่งเพิ่มเข้ามาคือตราเวทมนตร์ที่หลังมือขวาของเธอ และนั่นก็ทำให้รัฐบาลให้การดูแลเธออย่างเต็มที่แทบจะทันที ชาร์ล็อตใช้เวลาหลายเดือนการบำบัดอาการต่างๆ แต่สิ่งที่ยังคงอยู่คือจิตใจที่ยังแตกสลาย
'เหมือนกับแก้วที่แตกไปแล้ว'
เธอป่วยเป็นโรค PTSD ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอมักจะเห็นภาพหลอนในสงครามครั้งนั้น ภาพเมื่อครั้งเธอยังถูกทรมาณอยู่ จนเธอต้องออกจากอาชีพทหารเพื่อรักษาทางจิต แต่ว่าเธอถูกสั่งให้ทำงานเป็นผู้วิเศษเพื่อปราบปรามเหล่าปีศาจ และเธอก็ต้องยอมรับมัน
หลายเดือนผ่านไปอาการของเธอเริ่มดีขึ้น เธอได้ทำงานร่วมกับทีมของเธอที่เธอพบตอนเป็นผู้วิเศษใหม่ๆ ทุกอย่างเป็นไปได้สวย ทุกคนเข้าขากันดีราวกับเป็นทีมในฝัน ความสามารถของเธอนั้นช่วยให้ดักความคิดพวกปีศาจและใช้ต่อกรได้ รวมกัยคนอื่นๆ แล้วก็แทบจะเรียกได้ว่าไร้พ่าย
'จะนานแค่ไหนกันเชี่ยว'
แต่แล้วชะตาก็พลิกผันอีกครั้ง เมื่อจู่ๆ ทีมของเธอก็ตกอยู่ในวงล้อมของเหล่าปีศาจ เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าคนในทีมของเธอไม่ทรยศ เขาคนนั้นไปร่วมมือกับเหล่ามารและได้ให้พวกนั้นมาฆ่าพวกเธอ อาการของเธอมันกลับมาอีกครั้งจากสถานการณ์นี้ เธอทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นก่อนจะสติแตก ภาพเหตุการณ์ตอนที่เธอไปรบมันย้อนกลับมา และเมื่อรู้สึกตัวอีกที ทุกอย่างก็จบลง
'คนหนึ่งตาย อีกคนตาบอด แขนและขาถูกตัดขาดหมด อีกคนหายตัวไป และอีกคนที่เละจนคิดว่าเหลือซากมาให้เอาธงชาติคลุมก็ดีแค่ไหนแล้ว"
เธอเป็นคนเดียวมี่รอดมาได้และถูกครอบครัวของคนในทีมของเธอต่อว่าและทำร้ายในงานศพที่ทางรัฐบาลจัดขึ้น ด้วยความโกรธที่ไม่อาจช่วยเหลือพวกเขาได้ และเธอก็ไม่ได้ต่อต้านอะไร
ชาร์ล็อตขังตัวเองอยู่ในห้อง คราวนี้เหมือนตะปูที่ถูกตอกซ้ำที่เดิม มันไม่อาจรักษาหายอีกแล้ว ทางรัฐบาบที่พยายามจะเอาตัวเธอออกมาให้ทำงานต่อก็ทำไม่ได้ จนต้องยอมและให้เธอทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์แทน
ตั้งแต่นั้นยาระงับประสาทก็ถูกกินจนเหมือนขนมสำหรับเธอ เธอมีหน้าที่คือคอยตอบวิทยุ ส่งสัญญาณด้วยพลังของเธอ ถ่ายทอดคำสั่งไปยังผู้วิเศษคนอื่นๆ ผู้วิเศษเกือบทุกคนจะต้องเคยได้ยินเสียงของเธอ แต่แทบจะนับนิ้วได้เลยที่เจอเธอตัวเป็นๆ
ลักษณะการพูด : ชาร์ล็อตนั้นมักจะแทนตัวเองด้วยคำว่า “ฉัน” และจะแทนคนอื่นด้วยคำว่า “คุณ” คำลงท้ายของเธอนั้นไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่นัก และมีสำนวนการพูดที่ดูกระชับและห่างเหินกับคนอื่นๆ เสียงของเธอนั้นเรียบนิ่งไม่มีสูงต่ำใดๆ ให้นึกถึงเสียงประกาศตามสถานีรถไฟฟ้าประมาณนั้นก็ได้
[Example 1]
“ชาร์ลีเรียกเมจ ได้ยินแล้วตอบด้วย เปลี่ยน” เธอพูดขึ้นลอยๆ โดยที่ไม่มีใครอยู่รอบตัวเลย แต่กระนั้นจู่ๆ วิทยุสื่อสารที่ตั้งอยู่บนโตัะของเธอก็มีเสียงดังขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
“เมจทราบ เปลี่ยน”
“มีรายงานว่าพบปีศาจบริเวณอนุสาวรีย์วอชิงตัน ทางเบื้องบนมีคำสั่งให้กำจัดโดยด่วน เปลี่ยน” ชาร์ล็อตได้พูดตอบออกไปโดยไม่ได้กดวิทยุเลยแม้แต่น้อยราวกับไม่ได้สนใจมันเลย
“ทราบแล้ว จะไปถึงในอีกห้านาที เลิกกัน”
“เฮ้อ..พวกรัฐบาลนี่ก็ส่งคนไปตายบ่อยจังนะ” เธอพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะหยิบยาระงับประสาทออกมาและโยนมันเข้าไปในปาก
[Example 2]
“ไม่ออกไปเด็ดขาด” ชาร์ล็อตตะโกนออกไปนอกห้องที่ขณะนี้มีคนจำนวนหนึ่งกำลังยืนอยู่ด้านหน้าเพื่อที่จะนำตัวเธอออกไปจากห้องให้ได้
“เถอะน่า เธออยู่ในห้องนั้นมานานแล้วไม่ใช่หรือไง ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์หน่อยสิ” หนึ่งในคนพวกนั้นได้พูดเพื่อชักจูงให้เธอออกมา แต่มันไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อย
“ข้างนอกมันน่ากลัวเกินไป มันอันตรายเกินไป ไม่ออก”
[Example 3]
“ในที่สุดก็ออกมาได้นะชาร์ลี เรามีเรื่องอยากจะถามเธอนิดหน่อย” ชายคนหนึ่งที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ด้านหน้าเธอวางถ้วยเพรชเชลลงตรงหน้าเธอ ก่อนจะถามถึงเรื่องที่ตนเองต้องการรู้โดยไม่สนใจความสมัครใจของเธอเลย
“มันเกิดอะไรขึ้นเมื่อห้าปีที่แล้วกันแน่” เมื่อเขาพูดจบ ชาร์ล็อตก็ทรุดตัวลงไป ดวงตาเบิกกว้างราวกับเจอสิ่งที่น่าสะพรึงที่สุดในชีวิต มือทั้งสองข้างของเธอกุมศีรษะไว้แน่น เหงื่อกาฬไหลออกมาราวกับน้ำ พร้อมทั้งพูดพึมพำออกมา
“ไม่ อย่าพูดถึงมันอีก...พอแล้ว ไม่เอาแล้ว หยุดเถอะ หยุดได้แล้ว…ไม่นะ..ไม่...ไม่!---” ก่อนที่เธอจะทำอะไรมากกว่านี้ ยาระงับประสาทก็ถูกฉีดเข้าไปในเส้นเลือดของเธอ และเธอก็สลบไป
พลังพิเศษ : [กระจายและเฝ้าฟัง]
สามารถส่งข้อความเข้าสู่สมองของผู้อื่นได้โดยตรง และดักฟังข้อความ(ความคิด)ในสมองของผู้อื่นได้
มีหลักการคล้ายๆ การส่งสัญญาณวิทยุ ถ้าอยู่ใกล้ก็จะชัดเจน ถ้าอยู่ไกลอาจจะไม่ชัดบ้าง ขาดๆ หายๆ บ้าง
สามารถเพิ่มระยะได้ด้วยการติดตั้งเสาส่งสัญญาณที่เธอผูกพลังของเธอติดไว้ด้วย
การส่งข้อความจะทำได้โดยการปรับสัญญาณให้ตรงกับคนที่เธอต้องการส่งให้ ซึ่งการจะรู้ความถี่ของแต่ละคนนั้นต้องอาศัยการสัมผัส และสามารถเปลี่ยนความถี่ของคนอื่นๆ ได้โดยการสัมผัสเช่นเดียวกัน
สามารถรับความถี่อื่นๆ ผ่านคนที่รู้ความถี่แล้วได้โดยการเชื่อมต่อกับความถี่ของคนๆ นั้นและให้คนๆ นั้นสัมผัสตัวคนที่ต้องการรู้ความถี่ (C ต้องการรู้ความถี่ของ A แต่ C รู้แค่ความถี่ของ B ดังนั้นหาก C จูนสัญญาณให้ตรงกับ B และ B แตะตัว A C จะรู้ความถี่ของ A)
สามารถส่งเสียงออกไปยังอุปกรณ์สื่อสารได้ เช่น มือถือ วิทยุสื่อสาร หรือแม้กระทั่งแทรกแซงสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ได้ แต่ต้องทราบความถี่ของสัญญาณที่แน่นอน
และการสนทนาเป็นกลุ่มก็สามารถทำได้เช่นกัน แค่จูนความคิดของทุกคนให้อยู่ในคลื่นความถี่เดียวกันโดยใช้พลังของเธอในการจูน
การที่จะตอบกลับหาเธอก็เป็นไปได้เช่นกัน แค่คิดว่าจะตอบเธอ ก็สามารถส่งข้อความได้แล้ว
การที่เธอจะดักฟังความคิดใครนั้นเธอต้องจูนสัญญาณให้ตรงกับความคิดคนๆ นั้นเป็นเวลา 1 นาทีเสียก่อน ดังนั้นจึงดักฟังได้ทีละเป้าหมาย รวมถึงทำให้ปวดหัวอีกด้วย จึงไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่นับตั้งแต่เลิกออกไปสู้
ความสามารถพิเศษ :
การใช้วิทยุสื่อสาร - อดีตพลสื่อสารของกองทัพสหรัฐ ถ้าแค่นี้ทำไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
การเข้ารหัสและถอดรหัส - ด้วยความที่เป็นพลสื่อสาร จึงต้องทำเรื่องพวกนี้เสมอๆ ทำให้เชี่ยวชาญในที่สุด รวมถึงการใช้รหัสมอส ฯลฯ
สัญญาณมือ สัญญาณธง และการส่งสัญญาณอื่นๆ - เธอเชี่ยวชาญในเรื่องพวกนี้จากสมัยที่เธอยังเป็นพลสื่อสารที่ต้องใช้เรื่องพวกนี้เสมอๆ
การประสานงาน - อดีตพลสื่อสารที่ต้องคอยรับคำสั่งจากผู้บัญชาการและมาถ่ายทอดสู่แนวรบ ดังนั้นจึงต้องฝึกฝนเรื่องพวกนี้เสมอ
Multi Tasking - ทำหลายอย่างพร้อมกันได้ เช่น เขียนสมุดสองเล่มพร้อมกัน ซึ่งเป็นความสามารถที่เธอฝึกในตั้งแต่เด็กๆ
สิ่งที่ชอบ : ยาระงับประสาท - เธอขาดมันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แทบจะกินเหมือนขนมแล้วตอนนี้
การอยู่คนเดียว - ช่วยให้เธอเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
ขนมขบเคี้ยว - แก้เหงาปากได้ดี
สิ่งที่ไม่ชอบ : เสียงที่ดังถี่ๆ - เช่น เสียงไซเรนตำรวจ นั่นทำให้เธอรำคาญมาก
กลิ่นฉุน - สร้างความรำคาญของเธอและอาจจะทำให้เธอจามได้
อาหารสุขภาพ - แค่เห็นก็รู้รสชาติแล้วว่ามันต้องห่วยแน่ๆ
สิ่งที่เกลียด : การผูกสัมพันธ์ - เธอเกลียดการผูกสัมพันธ์มาก เพราะมันเหมือนกับการถูกใส่โซ่ตรวนอยู่ และเธอก็อาจจะถูกหักหลังจากคนที่เชื่อใจได้ทุกเมื่อ
การหักหลัง - สืบเนื่องมาจากกรณีข้างบน หากเธอผูกสัมพันธ์กับใครแล้วถูกหักหลังโดยคนๆ นั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเท่าไหร่นัก และเธอโดนมาครั้งนึงแล้ว ทำให้เธอเกลียดการถูกหักหลังมาก
สิ่งที่แพ้ : -
สิ่งที่กลัว : ปีศาจ - เธอนั้นกลัวปีศาจเป็นอย่างมากจนแทบจะเรียกได้ว่าหากเห็นแล้วก็แทบจะสิ้นหวังทันที จากเหตุการณ์ในอดีตของเธอ
อดีต - มักจะย้อนกลับมาเสมอๆ และเธอก็รับมันไม่ได้จนทำให้ทำอะไรไม่ถูกเลย
เพิ่มเติม :
พกวิทยุสื่อสารติดตัวตลอดเวลา
ต้องได้รับยาระงับประสาทเป็นประจำและขาดไม่ได้เลย หากขาดยา ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นจะย้อนกลับมาอีกครั้ง จึงพกกระปุกยาติดตัวตลอดเวลาและกินเกือบทุกๆ 30 นาที
อาศัยอยู่แต่ในห้องของเธอในคฤหาสน์ที่ถูกดัดแปลงเป็นสถานีส่งสัญญาณเท่านั้น และทำหน้าที่ส่งข้อมูลและประสานงานกับผู้วิเศษอื่นๆ
แทบจะไม่โผล่หน้าออกไปจากห้องเลย ทำให้ส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นหน้าเธอ แต่เกือบทุกคนต้องได้ยินเสียงเธอ บางคนคิดว่าเสียงเธอเป็นเสียงสังเคราะห์ด้วยซ้ำ
【Interview】
∆ สวัสดีครับ ก่อนอื่นก็คงต้องทำความรู้จักกันก่อน...คุณชื่ออะไรเหรอ?
: "ชาร์ล็อต...ชาร์ล็อต ไรท์" เสียงเรียบๆ ได้เอ่ยตอบออกไป หญิงสาวยังคงก้มหน้าลงและเอามือกุมศีรษะเพื่อไม่ให้ตนสติแตกก่อน
∆ เป็นชื่อที่ดีนะครับ แล้ว...คุณรู้สึกยังไงบ้างที่พบว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ?
: "ถ้าฉันไม่ได้เป็นผู้วิเศษคงดีกว่านี้...เพราะถ้าไม่ได้เป็น แสดงว่ามันคงไม่เกิดอะไรแบบนั้น" เธอค่อยๆ ปล่อยมือออกจากศีรษะของตน ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบกระปุกยาระงับประสาทออกมา
∆ งั้นเหรอครับ แล้วคุณคิดว่าตัวเองจะเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษย์มากแค่ไหนกัน?
: "จะถามไปทำไม พวกรัฐบาลสนใจด้วยหรอ ยังไงก็ใช้แล้วทิ้งอยู่ดี" ยาระงับประสาทถูกเทใส่มือของชาร์ล็อตก่อนที่จะถูกยกขึ้นนำจ่อกับปากของเธอ
∆ โอ้... แล้วคุณคิดยังไงกับพวกปีศาจล่ะ?
: "อันตราย" เธอกรอกยาในกำมือของเธอลงไปในลำคอ เธอไม่สนใจเรื่องมารยาทอีกแล้ว เพราะการที่ให้เธอพูดเรื่องนี้ เท่ากับเธอกินยาได้
∆ ฮะๆ โอเคครับ สำหรับคำถามในวันนี้ก็หมดลงเพียงเท่านี้ ขอให้โชคดีครับ :)
: "เช่นกัน ลาก่อน" พูดเช่นนี้ก่อนจะลุกขึ้นหันหลัง และเดินออกจากห้อง
【Talk with parents】
∆ แฮะะ นานๆทีจะหาเรื่องคุย//เขินตัวบิด—เอาเป็นว่าสวัสดีค่ะ ทางนี้ชื่อสโนว์หรือโนนะคะ ทางนู้นชื่ออะไรเอ่ยย
: ด้าครับผม~
∆ อาจจะเวิ่นเว้อพล่ามเยอะเรื่องพล็อตไปหน่อย... แต่คิดยังไงถึงมาเรื่องนี้คะ ;;w;;
: เปลี่ยนเป็นคิดยังไงถึงสมัครตัวนี้ดีกว่าเนาะ ก็นะครับ อยากเห็นพวกโอเปอเรเตอร์ด้วย แล้วก็อ่านๆ ไปนึกถึงเรื่องโรค PTSD พอดี ก็เลยมาเป็นโอเปอเรเตอร์ฮิกคิโคโมริป่วย PTSD ติดยาระงัยประสาทนั่นเองครับ
∆ โนไม่ใช่คนขยันหรือเก่งอะไรนะคะ อาจมีการเงียบหายไปบ้างไม่ว่ากันนะคะ จะไม่เรียกว่าดองให้ใจเสียหรอกค่ะ พยายามจะไม่ทำแบบนั้น5555 (ไม่นานนู๋จิกลับมา—)
: โอเคครับ ต่างคนก็มีธุระของตนเนาะ~
∆ โนไม่ค่อยถนัดฉากหวานๆเท่าไหร่ และเนื้อเรื่องอาจไม่ได้เน้นความรักอย่างเดียว มันอาจมีอะไรดาร์คๆมานิดนึง ซึ่งอาจลามไปถึงตัวละครด้วยที่อาจจะโดนย่ำยี(?) และถูกโนกระทำชำเรา(?)บ้างนะคะ อาจมีตายด้วย ไม่ว่ากันนะคะ แจ้งไว้ก่อนเนอะ ;;w;;
: โอเคครับผม ยกให้เลยครับ ทำอะไรตามสบายเลย~
∆ ถ้าหากว่าตัวละครนี้ไม่ติดตามบทบาทที่ต้องการ จะอนุญาตให้เปลี่ยนบทบาทหรือรับกลับคะ
: เปลี่ยนเลยครับ~
∆ มีอะไรจะบอกโนไหมคะ อย่างเช่นอยากให้โนข่มขืนตัวละค—แค่ก เช่น อยากได้ฉากไหนเป็นพิเศษไหมอ่ะค่ะ ถ้าทำได้จะจัดให้เน้อ! =w=
: ฉากที่อยากได้ก็ฉากตายครับ จะตายยังไงก็ได้ แบบโดนปีศาจฆ่าปิดปากไรงี้~ อีกฉากก็กรอกยาระงับประสาทครับ แบบเทมาเป็นกำๆ แล้วเอาใส่ปากทีเดียว
ขอบคุณที่สมัครนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ!//เตรียมของเซ่นไหว้ให้(?)
ความคิดเห็น