ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หอมกลิ่นพันธุ์ไม้

    ลำดับตอนที่ #1 : ดอกจาน

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 50


    ดอกจาน



    ภาพจากhttp://research.rmu.ac.th/botanical/bookpic/tongkaew.htm


    ดอกจาน..บานสะพรั่งหน้าแล้ง
    สีแดงแต้มแต่งพื้นดินอีสาน
    ลมร้อนโชยพลิ้ว...พัดปลิวโชยผ่าน
    แย้มเยือนพื้นถิ่นอีสาน
    แดนกันดารสุดแสน...ไกล



    ผมได้ยินเพลงดอกจานของคาราบาวครั้งแรกตอนนั่งเล่นอยู่ที่ชมรมอาสาพัฒนาฯ สมัยเรียนอยู่ปีหนึ่ง
    "ดอกมันเป็นอย่างไรครับ" ผมอดสงสัยไม่ได้ต้องถามรุ่นพี่ที่นั่งข้างๆ
    "ก็ต้นทองกวาวนั่นแหละ"
    "แล้วต้นทองกวาวเป็นอย่างไงละ" ผมต้องถามต่อก็ผมไม่รู้จักต้นทองกวาวนี่
    "งั้นไปดูที่หลังคณะอักษรฯ" ผมไปดูก็ยังงงๆ ว่ามันต้นไหน แต่แล้วตอนหน้าแล้ง ดอกไม้สีแดงอมส้มก็บานเต็มต้นน่าตื่นตา แถมยังมีแต้มสีแดงจากดอกที่ร่วงโรยอยู่ตามพื้นสวยงามยิ่งนัก


    ภาพจากhttp://www.plantcreations.com/butea_monosperma.htm


    อ่านมาถึงตรงนี่บางท่านอาจจะแปลกนิดหนึ่งที่ผมใช้ชื่อเรื่องว่าดอกจานแทนที่จะเป็นทองกวาวอย่างที่ในภาษากลางเรียก เหตุก็เพราะผมชอบเพลงดอกจานครับ และอยากให้หลายคนได้รู้จักต้นดอกจานหรือต้นจานนี้ด้วย

    มาดูรายละเอียดทางพฤษศาสตร์นิดหนึ่งครับ

    ดอกจาน


    ชื่อวิทยาศาสตร์ Butea monosperma (Lam.) Taub.
    วงศ์ LEGUMINOSAE - PAPILIONOIDEAE(พืชตระกูลถั่ว)
    ชื่อสามัญอื่นๆในภาษาไทย ทองกวาว กวาว ก๋าว จอมทอง จ้า จาน ทองธรรมชาติ ทองพรมชาติ ทองต้น
    ชื่อสามัญในภาษาอังกฤษ Flame of the forest, Bastard Teak
    ลักษณะทั่วไป ไม้ต้น ขนาดกลาง ผลัดใบ สูง 10 -15 เมตร เรือนยอดรูปทรงไม่แน่นอนส่วนใหญ่ ทรงกระบอกหรือทรงกลม โดยถ้าอยู่ในที่ลมแรงกิ่งและต้นจะคดงอ เปลือกต้นมีสีน้ำตาลเทาแตกและเป็นตะปุ่มตะปุ่ม
    ถิ่นกำเนิด อยู่ในอินดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้



    ดอกจานมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Butea monosperma. ซึ่งไม้ในจีนัส Butea ที่รู้จักกันดีอีกต้นหนึ่งก็คือทองหลางซึ่งมีดอกสีแดงจัดเหมือนกัน (และผมคิดว่าหลายคนคงเคยกินใบทองหลางที่ใช้ห่อเมื่ยงคำคู่กับใบชะพลู) ใบของต้นดอกจานเป็นใบประกอบสามใบ โดยใบย่อยมีขนาดใหญ่กว่าใบทองหลาง ใบย่อยกลางรูปร่างค่อนไปทางกลม ส่วนอีกสองใบด้านข้างค่อนไปทางวงรี บางใบมีขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือของผู้ใหญ่ที่มือใหญ่ๆ อีก เคยได้ยินมาว่าบางท้องที่นำเอาใบดอกจานมาห่อขนมพวกขนมสอดไส้ ขนมกล้วย ขนมมัน ในยามใบตองขาดแคลน


    ใบดอกจานถ่ายจากหลังคณะอักษรฯ ทับแก้ว


    ไม้ในจีนัส Butea นี้(ดอกจาน ทองหลาง)บางครั้งปลูกเพื่อใช้เลี้ยงครั่งครับ ซึ่งครั่งก็นำมาใช้ในการทำครั่งสำหรับผนึกตรา และเชลแลกซ์ย้อมไม้

    ดอกของดอกจานเป็นดอกแบบดอกถั่ว มีสี ตั้งแต่สีเหลืองไปจนถึงสีแดงเข้ม ผมเคยไปเที่ยวโคราช ดอกจานบานแดงจัดจ้านมาก ส่วนต้นที่อยู่ที่หลังคณะอักษรที่ทับแก้วมีสีค่อนไปทางสีส้ม โดยทั่วไปออกดอกในหน้าแล้งและจะทิ้งใบทั้งต้น

    ภาพจากhttp://school.obec.go.th/tanajarn/jarn.htm

    ภาพจาก http://research.rmu.ac.th/botanical

    ภาพจากhttp://www.plantcreations.com/butea_monosperma.htm


    เป็นที่น่าเสียดายที่ดอกจานที่อักษรตอนนี้ไม่บานดอกดกเหมือนสมัยก่อนแล้ว จะด้วยว่ามันถูกตัดแต่งมากไป หรือถูกไม้ใหญ่อื่น ๆ แย่งแสง หรือจะว่าน่าแล้งไม่แล้งพอก็ไม่ทราบ ดอกมันไม่งามเหมือนหลายปีก่อนหน้านั้น คิดดูสิครับปีที่แล้วมันแทบไม่บานดอกเลย ปีนี้ก็มีดอกน้อยมากมาก แถมไม่ทิ้งใบตอนบานดอกด้วย



    ดอกจานที่เกลื่อนพื้นหลังคณะอักษรฯ ทับแก้ว

    ยังมีไม้ในจีนัส Butea ที่มีดอกลักษณะคล้ายๆ ดอกจานก็คือ ทองหลางที่ผมได้กล่าวไปข้างต้น  ทองหลางใบลาย และทองหลางใบมน ซึ่งจะหารูปและเรื่องมาเล่าให้ฟังอีกในโอกาสหน้าครับ

    ท้ายนี้ก่อนจากกันขอฝากเนื้อเพลงดอกจานของคาราบาวที่ผมชอบให้อ่านและร้องเล่นนะครับ

    เนื้อเพลง: ดอกจาน
    อัลบั้ม: วณิพก

    ดอกจาน..บานสะพรั่งหน้าแล้ง
    สีแดงแต้มแต่งพื้นดินอีสาน
    ลมร้อนโชยพลิ้ว...พัดปลิวโชยผ่าน
    แย้มเยือนพื้นถิ่นอีสาน
    แดนกันดารสุดแสน...ไกล

    เสียงแคน...โหยแผ่วแว่วมา
    พื้นนา...ร้องครวญดินแตกระแหง
    ทุกผู้คนหม่นหมองสิ้นเรี่ยวแรง
    ดอกจานเจ้าบานหน้าแล้ง
    กลีบดอกสีแดง...ยังหมองไหม้

    ท้อง...ทุ่งนานี้ขาดนาง
    น้องนาหนีบาง...เข้าสู่เมืองกรุงสวรรค์
    ทิ้งทุ่งนาเปลี่ยวร้างลงกลางคัน
    มุ่งไปด้วยจิตใฝ่ฝัน หาเงินหางานเลี้ยงกาย

    ท้อง...ทุ่งนานี้ขาดนาง
    น้องนาหนีบาง...เข้าสู่เมืองกรุงสวรรค์
    ทิ้งทุ่งนาเปลี่ยวร้างลงกลางคัน
    มุ่งไปด้วยจิตใฝ่ฝัน หาเงินหางานเลี้ยงกาย

    เฝ้ารอ...คอยน้องจนสองปีกว่า
    ย่างเข้าเดือนเมษางานสงกรานต์เคยสัญญา
    คอยแล้วเงียบหาย...สูญไปดังสายลมพา
    หรือลืมสิ้นแล้วบ้านนา ลืมดอกจานเสียงแคน

    วอน...วอนฝากสายลมโชยผ่าน
    ด้วยจิตอธิษฐานโปรดได้สงสารและเมตตา
    กระหนํ่าเมฆฝน...ฝูงคนกลับคืนบ้านนา
    อีสานกันดารหนักหนา
    ลมเอ๋ยช่วยพาความสุขมาเยือน
    ฮืม...........
    ขอบคุณเนื้อเพลงจาก http://www.siamzone.com/



    อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
    -http://www.dnp.go.th/EPAC/province_plant/cheangmai.htm
    -http://www.plantcreations.com/butea_monosperma.htm
    -http://research.rmu.ac.th/botanical/book/tongkaw.htm

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×