ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รีไรท์ [Marvel: cap×oc] power of mind (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #4 : แรกพบสบตาเธอเตะก้านคอ (2)

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 66


    ทางด้านอีวาน

    หลังจากที่อลิสติดต่อกับเจ้าหน้าที่นิค ฟิวรี่เสร็จแล้วก็ทำการติดต่อคนขับเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของอีวานให้เตรียมพร้อมในการบิน

    “นายท่านอีวานทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้วค่ะ” อลิสเดินมายังสวนด้านหลังที่ตอนนี้อีวานได้นั่งจิบชาอยู่

    “ทำงานเร็วดี” อลิสที่ได้รับคำชมดีใจอย่างมาก “ขอเวลาเตรียมตัวสักครู่ไปชุดนี้ เวลาสู้คงลำบาก”

    “ตามที่นายท่านอีวานต้องการ ข้าจะไปเช็คความพร้อมอีกรอบที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์” อลิสทำความเคารพแล้วเดินออกไป

    “จะมีอะไรสนุกๆให้ทำมั้ยนะ” อีวานลุกขึ้นเดินไปเปลี่ยนชุดที่ห้อง

    .

    .

    .

    ลานจอดเฮลิคอปเตอร์

    “ทุกอย่างพร้อมใช่มั้ย” อลิสหันกลับไปตามเสียงที่ดังอยู่ด้านหลัง

    อีวานอยู่ในชุดสีดำทั้งตัวไม่มีลวดลาย ตัวเสื้อจะไขว้ทับกันคล้ายๆชุดของจอมยุทธ์ของจีนเป็นเสื้อแขนยาวไม่รุ่มร่าม ส่วนกางเกงจะเป็นกางเกงรัดรูปสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ เดินตรงมาหาอลิสพร้อมกับพัดในมือ

    “ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะ เชิญนายท่านอีวาน ทางนั้นได้ติดต่อมาว่าเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วค่ะ” อลิสอดจะชื่นชมนายท่านอีวานไม่ได้ นายท่านของเธอนั้นไม่ว่าจะอยู่ในชุดไหนก็ดูดีมากเหลือเกิน “ชุดนี้เหมาะกับนายท่านมาก”

    “ชุดของเจ้าเองก็เหมาะ” อลิสอยู่ในชุดรัดรูปคอเต่ากับกางเกงรัดรูปสีแดงสดเช่นเดียวกัน รองเท้าส้นสูงสีแดงและที่ขาดไม่ได้คือที่คาดผมสีแดงอันใหญ่ที่เธอชื่นชอบ 

    “เป็นกรุณาอย่างสูงที่นายท่านชมข้า”

    “เราจะสายเอา ออกเดินทางได้แล้ว” อีวานเดินขึ้นไปนั่งประจำที่ตามด้วยอลิสที่ขึ้นตามมาติดๆเฮลิคอปเตอร์ออกตัวทันทีหลังสิ้นสุดคำของอลิส “ไปคุยกับทางนั้นเป็นยังไงบ้าง”

    “ข้าได้บอกกับคนพวกนั้นว่าทั้งท่านและข้าต่างมีพลังที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ และได้คุยกันเรื่องมณีเล็กน้อย ถ้านายท่านไปถึงแล้วคงได้คุยรายละเอียดมากกว่านี้ค่ะ” อลิสสังเกตุนายท่านอีวานหลายรอบแล้วภายนอกนายท่านอีวานดูเข้าถึงง่ายมาก แต่เอาเข้าจริงแล้วเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนายท่านอีวานเลยสักนิด

    “จะได้เจอแล้วสินะ เหล่าผู้ที่ยืนรับชัยชนะในสงครามครั้งนั้น” อีวานอยากจะเห็นนักว่าในตอนนี้ผู้กล้าที่สามารถกำชัยชนะมาสู่มวลมนุษย์ได้นั้นเป็นอย่างไร

    “ท่านจะได้เจอกับผู้ที่ใช้พลังมณีทั้งสองคนเลยค่ะ” อลิสจำรายชื่อของสมาชิกอเวนเจอร์ในตอนนี้ได้ 2 คนในนั้นเป็นผู้ที่ใช้พลังของมณีได้

    “ใคร นอกจากมนุษย์ชื่อโทนี่ สตาร์คแล้วมีใครอีก” อีวานแปลกใจมาก เขาคิดว่ามนุษย์ไม่น่าจะสามารถใช้มณีกันได้ แต่ก็มีคนใช้ได้ในสงครามครั้งนั้น ไม่ใช่แค่หนึ่งแต่มีถึง 2 คน

    “ชื่อของมนุษย์ผู้นั้นคือ บรูซ แบนเนอร์ ผู้ที่มียักษ์เขียวอยู่ภายในตัว” ยักษ์เขียว? ที่นี่มีอะไรอะไรมากมายที่ทำให้เขาแปลกใจอยู่เรื่อย

    “ตื่นเต้นซะแล้วสิ” อลิสมองรอยยิ้มที่กว้างขึ้นของนายท่านแล้วอดที่จะขนลุกไม่ได้

    .

    .

    .

    ยานแฮลิแคเออร์

    เฮลิคอปเตอร์ของอีวานได้ทำการลงจอดบริเวณลานจอดเครื่องบินของยานลำนี้ รอบข้างมีเครื่องบินมากมายจอดอยู่และตอนนี้ด้านหน้าของอีวานปรากฏกลุ่มคนของชีลด์

    “เอ่อ พระองค์คงเป็นพระญาติของควีน” ชายตาเดียวตรงหน้าของเขาเดินเข้ามาทักเขาด้วยความประหม่าเล็กน้อย

    “พูดปกติเถอะ ผมไม่ถือตัวขนาดนั้น” อีวานส่งยิ้มบางให้กับกลุ่มคนตรงหน้าแต่ดูเหมือนว่ามันไม่ได้ช่วยให้กลุ่มคนตรงหน้าหายเกร็งเลยสักนิดกลับเพิ่มความเกร็งมากกว่าเดิมเสียอีก

    “ฉันอลิส มอร์แกรน ส่วนท่านนี้คือนายท่านอีวาน เฟอร์เรอร์” อลิสแนะนำตัวกับทุกคนที่อยู่บริเวณนี้ “เรียกฉันว่าอลิสเฉยๆก็ได้ค่ะ ส่วนนายท่านอีวาน…”

    “เรียกผมว่าอีวานเฉยๆก็ได้ อย่างที่บอกไปผมไม่เคร่งเรื่องนี้ พวกคุณสามารถพูดแบบธรรมดากับผมได้ตามสบาย” อีวานไม่อยากให้ความเป็นเชื้อพระวงศ์ของตัวเองมาทำให้การทำงานของเขาต้องลำบากหรอกนะ

    “ถ้าอย่างงั้นพวกเราก็ขออนุญาต ผมเจ้าหน้าที่นิค ฟิวรี่ผู้บัญชาการของยานลำนี้ขอเชิญพวกคุณเข้าไปคุยทางด้านใน” ฟิวรี่แนะนำตัวกับคนตรงหน้าพร้อมเชิญให้เข้าไปคุยด้านในตัวยาน

    “ต้องรบกวนพวกคุณแล้ว” อีวานและอลิสเดินตามกลุ่มคนเข้ามายังด้านในยาน ด้านในยานกว้างมากๆมีห้องหลายห้องทั้งห้องที่ใช้สำหรับการประชุม ห้องปฏิบัติการและห้องที่ใช้สำหรับพักผ่อนของเจ้าหน้าที่

    “พวกคุณอยากเดินชมยานลำนี้ก่อนหรือคุยกันเลย” ฟิวรี่ถามคนทั้งคู่

    “ผมอยากเจออเวนเจอร์และอยากเห็นการปฏิบัติการตามหาเทสเซอแรคต์” อีวานอยากเห็นว่ามนุษย์ใช้อะไรในการตามหามณีและอยากจะพบใบหน้าของผู้ที่กำชัยในศีกสุดท้าย

    “ได้ ทุกคนไปทำงานได้” ฟิวรี่เดินนำมายังห้องปฏิบัติการที่มีด็อกเตอร์แบนเนอร์และโทนี่ สตาร์คกำลังทำงานอยู่ แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนอื่นอยู่ด้วยและกำลังจะวางมวยกันในเร็วๆนี้

    “งั้นตอบหน่อยสิ พอถอดชุดออกมาแล้วคุณจะเป็นอะไรได้” ชายร่างใหญ่ในชุดสีน้ำเงินถามคนตรงหน้าที่เขาจำได้ว่าคนๆนี้คือคนที่ใช้มณีในครั้งนั้น อีวานยกมือห้ามไม่ให้นิค ฟิวรี่เข้าไปห้าม

    “งั้นก็จะตอบให้ เป็นมหาเศรษฐี อัจฉริยะ เพลย์บอย แถมยังใจบุญด้วย” หึคนๆนี้กวนอารมณ์ได้ใจเขาเลยจริงๆ ถ้าโดโนแวนได้ต่อปากต่อคำกับคนๆนี้แล้ว โดโนแวนจะต้องโมโหเลือดขึ้นหน้าแน่ๆ

    “คนติดดินบางคนยังมีค่ากว่าคุณสิบเท่า ผมดูคลิปประวัติของคุณแล้ว คุณต่อสู้เพื่อสิ่งเดียวคือตัวเอง ไม่ใช่คนที่จะรับบทเสียสละ นอนทับลวดหนามเป็นพื้นให้คนอื่นคลานข้ามไป” ส่วนคนๆนี้ดูแล้วเหมือนจะรักความยุติธรรมเป็นอย่างมาก

    “เป็นผมจะตัดลวดหนามทิ้งซะ” อันนี้เขาเห็นด้วยนะ

    “แถไปเรื่อย คุณอาจจะไม่เป็นภัยอะไรแต่คุณควรหยุดสร้างภาพวีรบุรุษได้แล้วนะ” อืมแรงใช้ได้

    “วีรบุรุษอย่างนายน่ะหรอ นายมันก็แค่หนูทดลองในแล็บโรเจอร์ส ความเหนือมนุษย์ทุกอย่างของนายมันออกมาขวดยาน่ะ” อ่าาอันนี้แรงกว่า

    “หึ ไปใส่ชุดเกราะมาแล้ววัดกันสักตั้ง” คนในชุดน้ำเงินดูเหมือนจะทนไม่ไหวแล้ว

    “5555555 พวกเจ้าช่างง๊องแง๊ง” ชายอีกคนพูดขึ้น คนนี้เขารู้จักเขาคือบุตรชายคนโตของโอดิน เทพเจ้าสายฟ้านามว่าธอร์

    “ใช่พวกกันแท้ๆ” แล้วก็ตามด้วยชายอีกคน

    “คุณโรมานอฟช่วยพาด็อกเตอร์ไปพักที่ห้อง-” ฟิวรี่ที่เห็นท่าไม่ดีก็เดินเข้าไปห้ามทัพในห้องส่วนเขากับอลิสรออยู่ด้านนอกไม่ได้ขัดขวางแบบตอนแรก

    “ไหน? ห้องผมไม่ว่างแล้ว” ชายคนนั้นดูอารมณ์ไม่คงที่นะ ต้องบอกว่าทุกคนในที่นี้เลยก็ว่าได้

    “คนนี้แหละค่ะ บรูซ แบนเนอร์คนที่สามารถใช้มณีได้อีกคนนึง” อลิสชี้ไปทางชายคำที่กำลังต่อปากกับฟิวรี่

    “ไม่ด็อกเตอร์ ห้องขังนั้นมีไว้-” ฟิวรี่

    “มีไว้เผื่อต้องใช้ฆ่าผมทิ้ง ซึ่งผมคงไม่ตายผมลองแล้ว ช่วงจิตตกน่ะ อดอะไรตายอยากเลยเอากระสุนกรอกปากตัวเองแต่ไอ้คนนึงมันถุยออกมา เลยต้องอยู่ต่อทุ่มเททั้งชีวิตช่วยเหลือคนอื่น ชีวิตฉลุย จนพวกคุณลากผมกลับมาเล่นละครสัตว์ที่นี่ เอาชีวิตทุกคนมาเสี่ยง อยากรู้เคล็ดลับมั้ยคุณโรมานอฟ เคล็ดลับในการสงบสติอารมณ์น่ะ” บรูซ แบนเนอร์ช่างน่าสงสารดูแววตาของเขาในขณะที่กำลังเล่านั่นสิ

    “ด็อกเตอร์แบนเนอร์ วางคฑาลง” ชายชุดน้ำเงินบอกกับคนตรงหน้าที่กำลังถือคฑาอยู่

    “เจอต้นต่อแล้ว” อีวานมองมณีที่ติดอยู่ด้านบนของคฑา “มาเถอะอลิส เรื่องมันเริ่มยุ่งยากแล้ว”

    “ค่ะนายท่าน”

    “พวกคุณกำลังโดนพลังของมณี” อีวานที่เห็นทุกอย่างน่าจะลงตัวแล้วก็เดินเข้ามาแต่ดูเหมือนว่าเขาจะเข้ามาแบบไม่ให้คนในห้องนั้นได้ตั้งตัว ชายชุดน้ำเงินที่หันกลับมาพร้อมเหวี่ยงหมัดซ้ายใส่อีวานอย่างเต็มแรง อีวานใช้พัดปัดหมัดนั้นออกไปแล้วจัดการหมุนตัวฟาดขาลงที่ต้นคอของคนตรงหน้าอย่างจัง

    “………..” คนในห้องที่เห็นเหตุการณ์ต่างนิ่งอึ้งกันทันทีที่เห็นกัปตันอเมริการโดนคนตรงหน้าเตะก้านคอลงไปนอนกับพื้น

    “ต้องขออภัย ไม่คิดว่าจะเตะแรงขนาดนี้” ดูเหมือนเขาจะใส่แรงเยอะเกินไปสินะ “แต่ว่าผมไม่ผิดนะคุณเริ่มก่อนเอง”

    “…….” คนในห้องอยากจะตะโกนถามคนตรงหน้าจริงๆว่าแรงเยอะเกินไปมั้ย ขนาดกัปตันที่มีพลังของเซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์ยังร่วงลงไปนอนกองกับพื้นเลย

    “อ่าา ผมไม่เป็นอะไรแล้วก็ขอโทษด้วย” กัปตันที่หายมึนแล้วยันตัวเองขึ้นมาจากพื้น

    “ไม่เป็นไร แต่อึดดีนะปกติน่าจะคอหักไปแล้ว” อีวานเดินเข้าไปใกล้คฑา “เมื่อกี้พวกคุณทุกคนต่างตกอยู่ในมนต์ของมณีจิตใจ มันดึงอารมณ์ด้านลบของพวกคุณออกมาทำให้พวกคุณมีอารมณ์โกรธ ฉุนเฉียว รวมไปถึงเคียดแค้นอย่างที่พวกคุณเป็นอยู่”

    “ก็คือที่พวกเราทะเลาะกันเมื่อกี้เป็นเพราะมณีอะไรนั่นน่ะหรอ” โทนี่ถามคนที่กำลังยืนถือคฑาอย่างใกล้ชิดแต่ดูเหมือนคนๆนี้จะไม่ได้รับผลกระทบเหมือนที่บอกกับพวกเขาเลย

    “เสียใจด้วยที่ต้องตอบว่าไม่ มันแค่ช่วยส่งเสริมอารมณ์ด้านลบของพวกคุณแค่นั้น ส่วนคำพูดที่พวกคุณพูดออกมานั้นมาจากตัวของพวกคุณเอง” มณีจิตใจไม่ได้บังคับให้คนพวกนี้พูดแต่มันแค่ส่งเสริมอารมณ์ด้านลบต่างหาก เป็นมณีที่เล่นกับใจคนจริงๆ

    “…….” ทุกคนต่างนิ่งเงียบ

    ตืดดด ตืดดด ตืดดด

    เสียงสัญญาณดังมาจากคอมพิวเตอร์ที่ด็อกเตอร์แบนเนอร์กับโทนี่ สตาร์คได้ป้อนคำสั่งให้ค้นหาเทสเซอร์แรคต์ ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะเจอแล้ว

    “เจอเทสเซอร์แรคต์แล้ว” แบนเนอร์เดินเข้าไปที่คอมพิวเตอร์ที่กำลังแสดงผลการค้นหาที่หน้าจอ

    “เทสเซอร์แรคต์มันควรอยู่ที่แอสการ์ด มนุษย์ควบคุมมันไม่ได้หรอก” ธอร์

    “ห้ามชิ่งไปคนเดียว” ชายชุดน้ำเงินดึงแขนของโทนี่เอาไว้

    “ห้ามไหวหรอ” โทนี่สะบัดแขนออก

    “ใส่ชุดสิ เดี๋ยวได้รู้แน่” ชายชุดน้ำเงิน

    “งั้นอย่าหาว่าตื้บคนแก่” โทนี่ก็ไม่ยอม

    “ไปใช่ชุดเกราะมา!!” อ่าาเขาควรหยุดเหตุการณ์ตรงหน้าสินะ

    “ดูเหมือนผลของมณีจะยังอยู่คงต้องหยุดมันก่อน” ดวงตาของอีวานค่อยๆเรืองแสงสีเหลือง “หยุด!!!”

    สิ้นเสียงของอีวานทุกคนในห้องหยุดการกระทำทุกอย่างทันที “ถ้าปล่อยไว้แบบนี้พวกคุณได้ออกไปตายกันแน่ๆ จิตใจตอนนี้ของแต่ละคนนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ ออกไปสู้คงยากที่จะรับมือกับศัตรูไหว”

    “แล้วเราต้องทำยังไง” ฟิวรี่ถามคนตรงหน้า ดูเหมือนราชวงศ์คนนี้จะรู้อะไรที่เขาไม่รู้อีกเยอะเลย

    “……” อีวานไม่ตอบเพียงแค่ส่งยิ้มบางให้เท่านั้น 

    อีวานเดินเข้าไปใกล้ๆกับเหล่าอเวนเจอร์ พร้อมกับชูคฑาของโลกิขึ้นมา มณีเริ่มเปร่งแสงสีเหลืองออกมาพร้อมๆกับดวงตาของคนตรงหน้าที่เริ่มเปลี่ยนสี

    คนในห้องต่างตกใจกับสิ่งที่เห็น คนตรงหน้าพวกเขาไม่ใช่มนุษย์งั้นหรอดวงตาถึงได้เป็นแบบนั้น คนตรงหน้าจะไม่ฆ่าพวกเขาใช่มั้ย?

    ละลองพลังสีเหลืองเริ่มก่อตัวขึ้นรอบๆตัวของอีวาน เขายื่นมือที่ว่างไปด้านหน้าละลองพลังเริ่มออกมาจากตัวของเหล่าอเวนเจอร์มารวมกันอยู่บนมือของอีวาน ก่อนจะค่อยๆลอยเข้าร่างของตัวเอง

    เมื่อละอองโดนอีวานดึงไปจนหมดทุกคนรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงทันที อารมณ์ของพวกเขากลับมาคงที่เหมือนเดิมไม่มีแม้แต่อารมณ์โกรธหรือหงุดหงิดหลงเหลืออยู่เลย

    “เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกคุณกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมแล้ว” อีวานที่เก็บพลังของตัวเองไปเรียบร้อยแล้วพูดกับเหล่าอเวนเจอร์ที่ตอนนี้มองมาที่เขาอย่างตะลึง 

    “เมื่อกี้คุณทำได้ไง แล้วคุณเป็นใคร” ชายชุดน้ำเงินคนที่เขาเตะก้านคอไปถามเขาด้วยสายตาระแวง

    “อีวาน เฟอร์เรอร์ และนี่ อลิส มอร์แกรน” อีวานแนะนำตัวพร้อมแนะนำอลิสที่ยืนหลบมุมอยู่ตั้งแต่แรก

    “เดี๋ยวนะ!! คุณที่มายืนมองตึกตอนนั้นแถมยังเป็นข้ารับใช้ในราชวงศ์หนิ ใช่มั้ย!!” โทนี่จำผู้หญิงคนนี้ได้

    “ห๊ะ!!!” ทุกคนยกเว้นฟิวรี่ไม่ได้ตกใจกับคำพูดของโทนี่

    “ราชวงศ์มาทำอะไรที่นี่” แบนเนอร์

    “เรื่องของฉันค่อยเอาไว้ทีหลังดีกว่าค่ะ เรามาดูที่อยู่ของเทสเซอร์แรคต์กันก่อนดีมั้ยคะ” ดูเหมือนทุกคนจะลืมเรื่องนี้กันซะแล้ว

    “นั่นสิ ว่างไงด็อกเตอร์ตอนนี้เทสเซอร์แรคต์อยู่ที่ไหน” ฟิวรี่ถาม

    “คุณพระช่วย” แบนเนอร์มองผลที่แสดงบนหน้าจอ

    “เกิดอะ-” 

    ตู้ม!!!!!

    แรงระเบิดส่งผลให้แรงอัดเข้ามาในห้องที่พวกอเวนเจอร์กำลังคุยกันอยู่อย่างจัง แต่ทุกคนในห้องไม่เป็นอะไรเพราะก่อนที่จะระเบิดอีวานได้สร้างม่านพลังได้ทันทำให้แรงระเบิดไม่สามารถเข้ามาได้

    “ไปใส่ชุดเกราะ” ชายชุดน้ำเงินบอกกับโทนี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ

    “ได้ จัดให้” ตอนนี้ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปประจำที่ จากที่ได้ฟังดูเหมือนเครื่องยนต์ที่ 3 ของยานจะได้รับความเสียหาย

    “อลิส” อลิสที่รอคำสั่งจากอีวานอยู่แล้วเดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าอีวานรอรับคำสั่ง “ไปช่วยผู้หญิงผมแดงคนนั้นซะ ดูเหมือนยักษ์ใหญ่จะออกอาละวาดแล้ว”

    “ตามที่นายท่านต้องการ แล้วท่านล่ะคะ” อีวานส่งยิ้มให้กับอลิส

    “ข้าอยากเห็นความสามารถของผู้ที่ใช้มณีและชายชุดน้ำเงินคนนั้นสักหน่อย” อลิสไม่แปลกใจที่นายท่านอีวานอยากจะเห็นพลังของบุรุษคนนั้น แต่ทำไมถึงได้อยากเห็นบุรุษในชุดน้ำเงินด้วยล่ะ?

    “บุรุษในชุดน้ำเงินมีชื่อว่า สตีฟ โรเจอร์ส เป็นมนุษย์ที่ได้รับเซรุ่มที่มีชื่อว่าซุปเปอร์โซลเยอร์ค่ะทำให้แข็งแรงกว่ามนุษย์ทั่วไป และยังเป็นมนุษย์ที่ติดอยู่ในน้ำแข็งเป็นเวลา 70 ปีด้วยค่ะ” อีวานนึกแปลกใจมนุษย์ที่แข็งแรงกว่าคนทั่วไป? แถมยังติดในน้ำแข็งตั้ง 70 ปีเลยงั้นหรอ?

    “หึ น่าสนใจจริงๆ”

    .ฉบับรีไรท์.

    .

      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×