คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : อาคุมุ ริน
“ยะ...อย่า..เข้ามา แค่กๆ ” ชายวัยกลางคนคนนึงกำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างที่กำลังเดินตามเขามาอย่างใจเย็น
“แหม วิ่งได้แค่นี้เองหรือคะ” เสียงหญิงสาวดังมาจากความมืด “วิ่งช้าแบบนี้เดี๋ยวก็โดนแยกเป็นชิ้นๆหรอกค่ะ”
“ไม่! ได้โปรดล่ะปล่อยฉันไปเถอะ!” ชายวัยกลางสะดุดล้มลงกับพื้น เขาพยายามตะเกียกตะกายหนีหญิงสาวที่เดินอยู่ด้านหลัง
“เสียใจด้วยนะคะที่ต้องตอบว่าไม่ได้ ก็คุณอยากซื้อบริการฉันนี่คะ นี่ไงฉันกำลังบริการคุณอยู่” หญิงสาวก้าวออกมาจากความมืด
ปรากฎร่างของหญิงสาวผมสีดำน้ำหมึกยาวสลวย บนหัวของเธอเต็มไปด้วยเครื่องหัวปิ่นดอกไม้ ปิ่นระย้าที่ห้อยกระทบกันเวลาที่เธอก้าวเดินมันส่งเสียงชวนให้ใจกระตุก พร้อมกับชุดกิโมโนสีขาวลายดอกไม้หลากสี ชุดแหวกเนินอกที่เกินหน้าเกินตาและเนินขาที่โชว์ให้เห็นอะไรต่อมิอะไรได้เป็นอย่างดีแต่ชุดที่เธอใส่นั้นแตกต่างจากกิโมโนทั่วไปตรงที่ทุกส่วนของชุดนั้นเต็มไปด้วยอาวุธที่ซ่อนเอาไว้ ใบหน้าของเธอถูกแต่งแต้มอย่างสวยงามที่โดดเด่นที่สุดเลยคงเป็นดวงตาที่ถูกกรีดจนดูดุร้ายกับสีปากแดงเข้มของเธอ
หญิงสาวเดินเข้ามายืนข้างๆชายวัยกลางยกขาเรียวสวยที่ประดับไปด้วยรองเท้าส้นสูงสีแดงยาว 6 นิ้วเหยียบลงไปบริเวณกลางหลังของเขา
“อั่ก! เจ็บ” ชายวัยกลางพยายามดิ้นหนี
“วันนี้คุณโชคดีมากเลยนะคะที่ฉันเอามิมิมาด้วย คุณจะได้ลิ้มลองรสชาติของมันในไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้แล้วค่ะ ตื่นเต้นจังเลยว่ามั้ยคะ!!” มิมิที่เธอพูดถึงคือดาบคาตานะสีดำ ใบดาบเงางามสะท้อนกับแสงจันทร์ที่ส่งกระทบ
“มะ…ไม่!” ดาบในมือของหญิงสาวถูกยกขึ้นเหนือหัวเตรียมที่จะฟาดลงมาที่หลังของชายวัยกลาง
“เอาล่ะนะคะ!”
ฉัวะ!!
“อ๊ากกกกก!” เลือดสีแดงไหลออกมาจากบาดแผลด้านหลังของชายวัยกลางจนเกิดเป็นแอ่งเลือด มันค่อยๆขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ
“อ่าาาา เป็นเสียงที่ไพเราะจริงๆ” หญิงสาวใช้เท้าที่เคยกดอยู่กลางหลังเปลี่ยนมาเหยียบตรงแผลกลางหลังแทน เธอค่อยๆกดลงไปช้าๆท่ามกลางเสียงร้องขอชีวิตของชายวัยกลาง “ร้องอีกสิคะ ร้องมันให้ดังกว่านี้!”
“อ๊ากกก ฮืออได้..โปรด” ชายวัยกลางพยายามใช้มือของเขาทุบไปที่ขาของหญิงสาว
“มันเจ็บนะคะ” หญิงสาวก้มลงไปจับที่มือของชายวัยกลางและจัดการฟันดาบลงที่ข้อมือของเขาอย่างแรงหวังให้มันขาดในดาบเดียว เธอทำแบบนี้ทั้งสองข้าง “ทีนี้คุณก็ตีฉันไม่ได้แล้วนะคะ คุณอยากให้ฉันบริการคุณสินะคะถ้าอย่างนั้นฉันจะเริ่มทรมานคุณจริงๆแล้วนะคะ”
ชายวัยกลางส่ายหน้าด้วยความหวาดกลัวและเจ็บปวด หญิงสาวจัดการถีบให้ชายวัยกลางนอนหงายและลงมือกระชากเสื้อของชายวัยกลางออกเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่า
“เอาล่ะค่ะ ฉันจะกรีดแล้วน้าาาา” หญิงสาวจัดการนั่งคร่อมร่างใช้เข่ากดแขนเอาไว้ มือซ้ายวางไว้บริเวณหัวใจที่เต็มเร็วจนน่ากลัวของชายวัยกลางส่วนมือขวานั้นกำดาบไว้แน่น “ช่วยกรีดร้องให้สุดเสียงเลยนะคะ…เหยื่อผู้น่าสงสาร”
“อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!!!”
.
.
.
“อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!!!!”
“เสียงอะไรน่ะ!”
“เสียงผะ..ผีรึเปล่า รันเรารีบไปกันดีกว่านะ” โซโนโกะเพื่อนสนิทของโมริ รัน พยายามดึงเพื่อนให้รีบกลับ
“แต่นั่นอาจจะเป็นเสียงของคนก็ได้นะ ถ้าเราไปอาจจะช่วยเขาได้ก็ได้” รันทำท่าที่จะวิ่งไปยังต้นเสียง
“ไม่นะรัน!!” โซโนโกะรีบคว้าแขนของรันเอาไว้แน่น “อย่างน้อยก็โทรหาใครสักคนเถอะ”
“ถ้าอย่าง-” รันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมายังไม่ทันได้กดอะไรก็ถูกโซโนโกะดึงเอาไปกดซะก่อน
ตืดด ตืดดดด ตืดด-
“ฮัลโหลเจ้าบ้าชินอิจิ! ช่วยห้ามรันหน่อยสิย่ะ” คนที่โซโนโกะโทรหานั่นก็คือ คุโด้ ชินอิจิ นั่นเอง
“มีอะไรรึเปล่า รันเป็นอะไร” เสียงปลายสายเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ก็เมื่อกี้มีเสียงคนร้องน่ะสิ รันน่ะจะไปให้ได้เลย” โซโนโกะ
“เสียงคนร้อง? ตอนนี้พวกเธออยู่ไหนกันเนี่ย”
“อยู่ระหว่างทางกลับบ้านรันน่ะ ตรงสวนสาธารณะ- เดี๋ยวสิรัน!” โซโนโกะรีบคว้าแขนของรันเอาไว้เพราะตอนที่เธอหันไปรันทำท่าทางเหมือนจะวิ่งไปทางต้นเสียง
“รันเป็นอะไร! เห้โซโนโกะ!”
“ไม่เป็นอะไรแค่ตั้งท่าจะวิ่งไปทางต้นเสียงอีกแล้วน่ะสิ”
“ฉันว่าเราควรไปดูนะ ถ้าหากเป็นคนเจ็บขึ้นมาจะทำยังไง ชินอิจินายจะปล่อยให้คนเจ็บต้องตายหรอ!” รัน
“ถ้าอย่างนั้นค่อยๆไปเงียบๆ ถ้าเจออะไรไม่ชอบมาพากลรีบออกมานะรัน”
“ได้ ไปกันเถอะโซโนโกะ” รันวิ่งออกไปเป็นคนแรก
“อย่าวางสายนะ”
“ฉันไม่วางอยู่แล้วย่ะ รันรอฉันด้วย!” โซโนโกะรีบวิ่งตามหลังรันไป
รันและโซโนโกะวิ่งมายังด้านในสวนสาธารณะ แม้จะมีแสงจากเสาไฟคอยช่วยให้ความสว่างแต่มันก็ไม่มากพอที่จะเห็นระยะไกลได้เลย รันค่อยๆเดินเข้าไปทางด้านในที่เริ่มมืดลงเรื่อยๆ
“รัน ฉันว่าอย่าไปทางนั้นเลยนะ” โซโนโกะดึงแขนรันเอาไว้
“มีอะไรรึเปล่า”
“ชินอิจิฉันได้กลิ่นเหมือนสนิม กลิ่นมันแรงมาก” รันที่วิ่งเข้ามาที่นี่แล้วนอกจากกลิ่นนี้เธอก็ไม่ได้กลิ่นอะไรอีกเลย
“รัน..”
“ฉันจะเข้าไปดู ฉันหวังว่ามันจะเป็นแค่เหล็กที่ขึ้นสนิมเท่านั้น”
“พูดอะไรกันน่ะ แล้วหวังว่าคืออะไร” โซโนโกะไม่เข้าใจในสิ่งที่ทั้งคู่คุยกันเลยสักนิด
“โซโนโกะอยู่ตรงนี้-”
“ไม่! ฉันจะไปด้วย” โซโนโกะเกาะเข้าที่แขนรัน
“ถ้าอย่างนั้นช่วยส่องไฟไปตรงนั้นทีนะ” รันชี้ไปที่พุ่มไม้ข้างหน้า
“ดะ..ได้” โซโนโกะฉายไฟไปที่พุ่มไม้ด้านหน้าพร้อมกับค่อยๆเดินตามรันเข้าไปอย่างช้าๆ
“จะเปิดแล้วนะ” รันค่อยๆแหวกพุ่มไม้ออกช้าๆ ก่อนจะตัดสินใจแหวกออกสุดแรง
“!!!!!!”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
“เกิดอะไรขึ้น! รัน! โซโนโกะ!”
“ศะ…ศพ! ศพคนถูก..แยกส่วน!!!” รันตอบกลับชินอิจิพร้อมกับถอยให้ห่างจากพุ่ม ส่วนโซโนโกะนั้นทิ้งมือถือไว้กับรันแล้ววิ่งออกไปอ้วกอยู่ด้านข้าง
“รัน! แจ้งตำรวจ”
“อะ..อือ”
ทางด้านหญิงสาวชุดกิโมโน
หญิงสาวไม่ได้ไปไหนเลยเธอยังคงอยู่ตรงนั้น หลังจากที่ลงมือทรมานเหยื่อและจัดการแยกออกเป็นส่วนๆเสร็จแล้วเธอก็ไม่ได้ไปไหน อันที่จริงเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปไหนดี เพราะอยู่ดีๆเธอก็มาอยู่ที่นี่โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามาได้ยังไง ตอนแรกกะว่าจะไปหาที่ล้างตัวเพราะคาบเลือดของคุณลุงคนนั้นมันเปื้อนมือเธอไปหมดดีนะที่ไม่โดนชุดของเธอ
ในตอนที่เธอกำลังตัดสินใจอยู่นั้นก็ปรากฎคนสองคนที่กำลังเดินมายังจุดที่เธอยืนอยู่ เธอจึงค่อยๆถอยหลังแอบอยู่ด้านหลังต้นไม้ขนาดใหญ่ เธอพยายามเพ่งมองฝ่าความมืดเพื่อที่จะมองหน้า และดูเหมือนสวรรค์จะเข้าข้างเธอในจังหวะที่สองคนนั้นเจอศพมีคนนึงทิ้งโทรศัพท์ลงทำให้แสงไฟฉายของโทรศัพท์นั้นฉายหน้าอีกคน
“!!!!!” เป็นไปไม่ได้ทำไมตัวละครถึงได้มาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ
“ชินอิจิ ฉันโทรเรียกตำรวจเรียบร้อยแล้ว” รันรีบวิ่งเข้าไปลูบหลังให้โซโนโกะที่ยังคงอ้วกอยู่
“ชินอิจิ รัน นี่มันอะไรกัน” หญิงสาวค่อยๆถอยหลังออกมาและใช้ความมืดพลางตัวออกจากสวนสาธารณะดีหน่อยที่ก่อนจะออกมาเธอเจอเข้ากับอ่างล้างมือทำให้เธอสามารถล้างคาบเลือดออกได้ ตามด้วยการฉีดน้ำหอมกลบกลิ่นเลือด
หลังจากล้างตัวฉีดน้ำหอมเรียบร้อยแล้วก็หยิบผ้าคลุมที่ถูกม้วนเป็นขนาดเล็กที่เธอซ่อนเอาไว้ใต้ชุดออกมาสวมเพื่อปกปิดดาบคาตานะที่ถูกซ่อนอยู่ด้านหลังของเธอ หลังจากนั้นเธอก็เดินออกจากสวนสาธารณะโดยพยายามหลบมุมและใช้ความมืดให้เป็นประโยชน์ เมื่อผ่านไปสักพักเธอก็หลุดออกมายังถนนที่ยังมีผู้คนเดินกันอยู่และมีร้านค้าขายของที่ยังคงเปิดขายของอยู่
สายตาของคนรอบตัวเธอให้ความสนใจกับตัวเธอมากเพราะชุดที่เธอใส่นั้นช่างวาบหวิว ผสมกับเครื่องหน้าที่มองเท่าไหร่ก็รู้สึกไม่พอหากเธอมีหูและหางล่ะก็คงไม่พ้นเป็นปีศาจจิ้งจอกแน่นอน
“พี่สาวคะ” ก่อนที่เธอจะเดินต่อก็มีเด็กสาวอายุประมาณ 7 ขวบเข้ามาทักเธอ “อายูมิจังขอถ่ายรูปด้วยได้มั้ยคะ”
“ได้สิคะ ไม่ทราบว่าหนูน้อยอยากถ่ายตรงไหนดี” เพื่อความกลมกลืนเธอยอมให้เด็กน้อยถ่ายรูปด้วย จะว่าไปหน้าตาของเด็กคนนี้-
“ตรงนั้นก็ได้ค่ะ อายูมิจังออกมากับเพื่อนๆและด็อกเตอร์ค่ะ” เด็กน้อยชี้ไปยังเก้าอี้ที่ด้านหลังเป็นต้นซากุระ ตรงนั้นมีเด็กอีก 3 คนกลับผู้ใหญ่ร่างหนาอีกคนนึงยืนอยู่ คุ้นๆจังเลยนะ
“เอาสิคะ” อายูมิถือวิสาสะคว้ามือของหญิงสาวตรงไปยังกลุ่มของเธอ
“นี่ๆ อายูมิพาพี่สาวมาได้แล้วล่ะ” เด็กน้อยชื่ออายูมิปล่อยมือออก “พวกเรามาถ่ายรูปกับพี่สาวกันเถอะ!”
“โห่ววว ดูใกล้ๆพี่สาวสวยมากเลย” เด็กน้อยตัวอวบอ้วน
“เก็นตะคุงอย่ามองแบบนั้นสิครับมันเสียมารยาทนะครับ” ตามด้วยเด็กที่มีกละอยู่บนหน้า
“นี่พวกเธอทำอะไรกันอยู่เนี่ย” เสียงของเด็กชายสวมแว่นดังมาจากด้านหลังของเขา
“……” ก็ว่าอยู่ว่าทำไมหน้าตาของเด็กพวกนี้มันช่างคุ้นที่แท้ก็นักสืบเยาวชนนี่เองแถมยังมีโคนันอยู่ในกลุ่มแล้วด้วย แสดงว่าเรื่องจริงสินะที่ในตอนนี้เธอกำลังอยู่ในโลกของโคนันน่ะ
“อายูมิกำลังจะถ่ายรูปกับพี่สาวคอสเพลย์ล่ะ” อายูมิชี้มายังเธอที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ “ว่าแต่พี่สาวคอสเพลย์เป็นตัวอะไรหรอคะ อายูมิลืมถามไปเลย”
“เกอิชาน่ะค่ะ อายูมิจังรู้จักมั้ยคะ” เธอค่อยๆขยับตัวช้า ทำให้ต้นขาที่อยู่ด้านในนั้นโผล่ออกมาจากรอยแหวกของชุด เธอค่อยๆดังชายผ้าอีกฝั่งมาปิดเอาไว้เรียกสีหน้าเขินๆจากหนุ่มๆและเด็กๆได้เป็นอย่างดี “หึหึ”
“เอ๋ เกอิชางั้นหรอ” อายูมิทำหน้างงก่อนจะหันไปหาเด็กสาวอีกคน “ไฮบาระรู้มั้ยว่ามันคืออะไร”
“เกอิชา ก็คือผู้หญิงที่มีความเชี่ยวชาญด้านศิลปะ สร้างความบันเทิงให้กับแขกด้วยการร่ายรำ ขับร้อง เล่นดนตรี ไปจนถึงการปรนนิบัติบริการอย่างรินเหล้า ปกติจะใส่ชุดหรูหราทำผมอลังการและก็ทาหน้าขาวน่ะ” ไฮบาระ ไอหรืออีกชื่อที่รู้จักกันในองค์กรคือเชอร์รี่ตอบเด็กน้อยอายูมิ
“เอ๋ แต่พี่สาวไม่เห็นทาหน้าขาวเลย” อายูมิ
“นี่ๆ ถ้าให้ทาหน้าขาวแล้วมาเดินแบบนี้คนได้แตกตื่นกันพอดีน่ะสิ” เป็นโคนันที่ตอบ โคนันได้เดินเข้ามาใกล้เธอแล้วแนะนำตัว “ผมชื่อเอโดงาวะ โคนันต้องขอโทษแทนเจ้าพวกนี้ด้วยนะครับที่เรียกพี่สาวมาถ่ายรูปแบบนี้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันชื่ออาคามุ รินค่ะ” รินขยับตัวแล้วโค้งตัวทักทาย
“หนูชื่อโยชิดะ อายูมิค่ะ” เด็กน้อยอายูมิเองก็โค้งตัวลงตามรินที่ทำก่อนหน้านี้
“ผมชื่อซึบุรายะ มิซึฮิโกะ” เด็กชายเองก็ก้มตัวลง 90 องศาเลยทีเดียว
“โคจิมะ เก็นตะครับผม” เด็กคนนี้เองก็ทำตามเช่นกัน
“เห้ๆ พวกนายไม่ต้องเกร็งกันขนาดนั้นก็ได้” โคนันส่ายหน้าให้กับเด็กพวกนี้
“ไฮบาระ ไอค่ะ” ไฮบาระยื่นมือออกมาด้านหน้า รินที่เห็นก็ยื่นมือไปจับเขย่าเบาๆแล้วปล่อยมือออก
“ทำบ้าอะไรของเธอน่ะ” โคนันกระซิบข้างหูของไฮบาระ
“ก็เช็คแฮนด์ไง สวยขนาดนี้ฉันจะพลาดได้ยังไงกัน” ไฮบาระตอบกลับ “ เสียดายถ้าเธอคอสเป็นโออิรันคงจะสวยน่าดู ”
“......” โออิรันงั้นหรอ
“นี่เธอ-”
“เอ่อ ผมด็อกเตอร์อากาสะ ฮิโรชิครับ” ด็อกเตอร์อากาสะเองก็ยื่นมือออกมาเช่นเดียวกัน
“ด็อกเตอร์ก็ด้วยหรอ!” โคนันถึงกับกุมขมับ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” รินยื่นมือไปเช็คแฮนด์แล้วเลิกให้ความสนใจกับเด็กสาว “ถ่ายรูปกันดีมั้ยคะ พอดีว่าฉันมีธุระต่อน่ะค่ะ”
“ได้ครับ! เอาล่ะเด็กๆมาถ่ายรูปกันๆ” ด็อกเตอร์อากาสะเป็นคนถ่ายรูปให้กับเด็กๆจนครบ
“คุณเองก็มาถ่ายด้วยกันสิคะ” รินส่งยิ้มให้กับด็อกเตอร์อากาสะ
“คะ..ครับ!” โคนันที่ได้รับบทตากล้องจำเป็นถ่ายรูปให้กับด็อกเตอร์ที่ยืนนิ่งอย่างกับหุ่มแถมรอยยิ้มยังแข็งทื้ออีกด้วย “เรียบร้อยแล้วครับ”
“หืม” โคนันที่เช็คภาพอยู่นั้นซูมเข้าไปทางด้านหลังของหญิงสาวที่ถูกผ้าคลุมเอาไว้ “เน่ๆ พี่สาวครับ”
“ว่าไงคะหนูน้อย” รินส่งยิ้มหวานให้กับโคนัน โคนันเองถึงกับเขว่ไปแปปนึงเลย
“ด้านหลังของพี่สาวนั่นคืออะไรหรอครับ” โคนันชี้ไปยังด้านหลังของหญิงสาวที่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าคลุม
“เป็นเด็กที่ตาดีจริงๆเลยนะคะ” รินค่อยๆสอดมือเข้าไปในเสื้อคลุมด้านหลัง เมื่อจับโดนสิ่งที่ต้องการแล้วก็ค่อยๆดึงมันออกมา “กระบองขนาดเล็กน่ะค่ะ”
“เอ๋?” โคนันเลิกคิ้วเมื่อเห็นสิ่งของที่ผู้หญิงตรงหน้าเอาออกมา
“พี่สาวเอาไว้ป้องกันตัวน่ะ มันจะมีแฟนคลับบางประเภทที่ทำตัวไม่น่ารักน่ะเพราะฉะนั้นพี่สาวจะต้องพกติดตัวเอาไว้” ช่างสังเกตจริงๆ ดีนะที่คิดถูกหยิบเสื้อคลุมออกมาใส่
“แย่เลยนะครับ แล้วแบบนี้จะดีหรอครับตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว” ด็อกเตอร์อากาสะ
“ไม่เป็นอะไรค่ะ ธุระของฉันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ค่ะ” รินเก็บกระบองเข้าที่เดิม “ถ้ายังไงฉันขอตัวก่อนนะคะ ลาก่อนนะคะเด็กๆ”
“ถ้ามีโอกาสขอให้อายูมิได้เจอกับพี่สาวอีกนะคะ” อายูมิจับมือรินเอาไว้
“แน่นอนค่ะ” เมื่อได้คำตอบอายูมิก็ปล่อยมือของริน “อ่าาใช่...หนูน้อยคะ โออิรันก็คือโออิรัน เกอิชาก็คือเกอิชาไม่มีเกอิชาหรือโออิรันคนไหนอยากจะเป็นอีกฝ่ายหรอกนะคะ”
รินหันมาพูดกับไฮบาระที่ยืนอยู่ข้างๆโคนันด้วยรอยยิ้มที่ดูยังไงมันก็ฝืนๆชัดๆ หลังจากนั้นก็หันไปยิ้มให้กับเด็กๆที่เหลือกับด็อกเตอร์อากาสะอีกครั้งก่อนที่จะเดินออกมา
“เอ่อ..รู้สึกเหมือนโดนเหม็นใส่เลยนะ ว่าแต่นายสงสัยอะไรงั้นหรอคุโด้” ไฮบาระถามคนข้างๆที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“รู้สึกแปลกๆน่ะ เธอไม่รู้สึกแปลกๆกับผู้หญิงคนนั้นบ้างเลยหรือไง” โคนัน
“รู้สึกแปลกๆงั้นหรอ” ไฮบาระทำท่านึก “จะว่าไปก็มีนะ”
“เธอรู้สึกอะไร” โคนันคิดไว้ไม่มีผิดว่าผู้หญิงคนนี้ต้องมีบางอย่างแปลกๆ
“รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้สวยเกินไปน่ะสิ มองหน้าเธอแล้วรู้สึกเหมือนโดนมนต์ของจิ้งจอกอยู่เลย ยิ่งใส่ชุดของเกอิชาแล้วด้วย เสียดายจังนะที่ฉันไม่ใช่ผู้ชาย” ไฮบาระพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ยัยบ้าเอ้ย!” โคนันรู้สีกเสียเวลาจริงๆ “ด็อกเตอร์กลับกันเถอะครับผมมีเรื่องที่ต้องจัดการอยู่”
“เอาสิโคนันคุง เอาล่ะขึ้นรถกลับบ้านกันดีกว่าเด็กๆ” ด็อกเตอร์อากาสะพาเด็กๆไปที่รถที่จอดอยู่ไม่ไกล
“มีเรื่องอะไร” ไฮบาระ
“ก่อนหน้านี้รันโทรหาฉัน เจอศพอยู่ที่สวนสาธารณะที่ห่างออกไปไม่มาก รันบอกว่าสภาพศพนั้นถูกแยกออกเป็นชิ้นๆ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดูพื้นที่อยู่” โคนัน
“ถูกแยกออกเป็นส่วนๆงั้นหรอ” ไฮบาระนึกภาพตาม “สยองจริง”
“ไปกันเถอะ”
ทางด้านริน
หลังจากที่แยกตัวออกมาจากกลุ่มเด็กนักสีบเยาวชนได้แล้วเธอก็หาที่พักทันที ตัวเธอในตอนนี้ต้องหาที่อยู่ก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นค่อยคิดต่อว่าจะทำอย่างไรต่อ
เดินมาได้ไม่นานก็เจอบาร์ที่สามารถเปิดห้องนอนค้างคืนได้ เธอเลยเลือกที่จะเดินเข้าไป เมื่อเธอเดินเข้าไปก็เป็นจุดรวมสายตาทั้นทีเนื่องจากการแต่งกายและหน้าตาของเธอที่เป็นจุดเด่น เธอเลือกเดินไปที่บาร์
“ขอโทษนะคะ ฉันต้องการห้องพัก” รินนั่งลงบนเก้าอี้นุ่มหน้าเคาเตอร์บาร์
“ที่นี่ค่าห้องพักแพงนะครับคุณผู้หญิง” บาร์เทนเดอร์ตอบกลับทั้งๆที่มือยังคงชงเหล้าอยู่
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจ่ายได้” ถ้าหากถามว่าเอาเงินมาจากไหนเธอตอบได้ทันทีว่าได้มาจากคุณลุงที่เธอเพิ่งจะเชือดไปไม่กี่ชม.ที่ผ่านมา
“ถ้าอย่างนั้นผมจะจัดการให้ ต้องการรับเครื่องดื่มอะไรมั้ยครับ” บาร์เทนเดอร์
“ขอเป็นยินละกันค่ะ” รินนั้นโปรดปรานเหล้ายินเป็นอย่างมาก ทำไมถึงชอบน่ะหรอก็เพราะว่ามันเป็นโค้ชเนมของคนที่เธอหลงรักยังไงล่ะ
“นี่ครับคุณผู้หญิง” บาร์เทนเดอร์ยื่นแก้วเหล้าที่มีเหล้าสีขาวที่ทำมาจากการกลั่นข้าวและผสมกลิ่นรสชาติของสมุนไพรและผลจูนิเปอร์ส่งให้ริน
“ขอบคุณค่ะ” รินไม่รอช้ายกดื่มทีเดียวจนบาร์เทนเดอร์อึ้ง “คอฉันเปรียบดั่งทองแดงฉันไม่เมาง่ายๆหรอกค่ะ”
“555555 ถ้าอย่างนั้นจะรับเพิ่มมั้ยครับ?” บาร์เทนเดอร์
“รบกวนด้วยนะคะ”
…..
….
…
.1.
ความคิดเห็น