ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รีไรท์ [Marvel: cap×oc] power of mind (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #3 : แรกพบสบตาเธอเตะก้านคอ (1)

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 66


    เพพเพอร์ขึ้นมาที่ชั้นบนสุดก็เห็นคนที่เธอต้องการพบกำลังทะเลาะกับจิมมี่เจ้าแขนเหล็กอยู่ 

    “โทนี่-” เพพเพอร์ไม่รอช้าเปิดปากบ่นทันที

    “ขอเวลานอก!” โทนี่รีบห้ามเพพเพอร์ก่อนที่เธอจะเริ่มบ่นเขา “ขอถามอะไรหน่อย”

    “ได้ ฉันให้เวลาถาม 10 นาทีและหลังจากนี้ฉันจะบ่นคุณต่อ” เพพเพอร์วางของลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับโทนี่

    “เมื่อกี้เพื่อนคุณหรอ” โทนี่เข้าประเด็นทันทีเพราะรู้ว่าเพพเพอร์นั้นพูดจริงทำจริง

    “เมื่อกี้? อ่อที่หน้าตึกนั่นหรอ” โทนี่พยักหน้า “เธอชื่อ อลิส มอร์แกรน เธอไม่ได้เป็นเพื่อนฉันโทนี่ เธอแค่มายืนมองตึกของคุณแค่นั้น”

    “งั้นหรอ จาร์วิชตรวจสอบประวัติของคนนี้หน่อย” โทนี่สั่งการพร้อมกับยกแก้วกาแฟที่เย็นชืดแล้วขึ้นดื่ม

    “เรียบร้อยแล้วครับเจ้านาย” จาร์วิชได้นำประวัติของ อลิส มอร์แกรน ขึ้นกระดานข้อมูลหลังจากที่ค้นหาสำเสร็จ

    พรูดดดดด!!

    โทนี่หลังจากมองดูประวัติที่จาร์วิชหามาได้ก็พ่นกาแฟในปากออกมา ให้ตายเถอะคนคนนี้มาทำอะไรหน้าตึกของเขาเนี่ย ข้อมูลบนกระดานที่จาร์วิชหามาได้นั้นมีทั้งรูป ชื่อ ประวัติอาชญากรรม หน้าที่การงานและคนในครอบครัวน่ะสิ และโทนี่จะไม่สำลักกาแฟเลยถ้าไม่ได้ไปสะดุดตากับหน้าที่การงานของเธอคนนี้ในปัจจุบัน

    “ผู้ดูแลคนในราชวงศ์!!!” เพพเพอร์ตกใจมากไม่คิดเลยว่าคนที่เธอเดินเข้าไปทักจะเป็นถึงคนที่ดูแลบรรดาราชวงศ์ในพระราชวัง

    “เขามาทำอะไรที่ตึกของผมเนี่ยยย” โทนี่ก็อึ้งไม่ต่างกัน เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันนึงจะมีคนในวังมายืนอยู่หน้าตึกของเขาแบบนี้

    “เธอบอกกับฉันว่าเธอแค่มาดูตึกของคุณแค่นั้น แต่ว่าโทนี่คุณไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรให้กับราชวงศ์ใช่มั้ย” เพพเพอร์อยากจะเป็นลมตอนแรกเขาก็เครียดมากอยู่แล้วกับเรื่องที่โทนี่ไปก่อมา นี่ต้องมาเครียดกับเรื่องนี้อีก โอ้ยยยเธออยากลาออก!!!

    “เฮ้เพพถึงผมจะมีปัญหาบ่อยแต่ผมก็ไม่กล้าไปมีเรื่องกับราชวงศ์หรอกนะ!” โทนี่กุมหัวเลย หวังว่าจะแค่มาดูตึกเขาเฉยๆอย่างที่เพพเพอร์บอกกับเขาจริงๆนะ

    “ฉันว่าฉันขอตัวกลับไปนอนดีกว่า เอาไว้ฉันจะมาบ่นคุณใหม่” เพพเพอร์ไม่รอให้โทนี่ได้พูดตอบอะไรก็เดินหนีเข้าลิฟท์ไปซะแล้ว

    .

    .

    .

    ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ริมทะเลสาบ

    เป็นเวลา 2 วันหลังจากที่อีวานได้ดูซับความทรงจำและได้ทำการปรับตัวให้เข้ากับความทรงจำที่ได้มาแล้ว เขารู้สึกดีมากๆที่ได้ความทรงจำนี้มา มันทำให้เขารู้ว่าชีวิตในวัยเด็กนั่นเป็นยังไง การที่ได้เล่นซนกับเพื่อนๆ การที่ได้รับความรักจากพ่อและแม่ อ้อมกอดอุ่นๆ มันดีมากๆ ช่างแตกต่างกับชีวิตจริงๆของเขาในวัยเด็กนัก ถึงแม้จะมีมารดาที่คอยดูแลมีพี่น้องพี่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันก็จริงแต่ทั้งชีวิตของเขาคือการควบคุมพลังให้ได้ ถ้าคุมไม่ได้ก็อย่าได้หวังที่จะมีชีวิตแบบคนทั่วไป 

    อันที่จริงจะเรียกว่าชีวิตแบบคนทั่วไปก็ไม่ได้ เพราะที่ๆพวกเขาอาศัยอยู่นั้นมีประชากรอยู่แค่ 20 กว่าคนเอง ทุกคนล้วนมีพลังคอยรักษาสมดุลของจักรวาล ไม่มีเวลาว่างมาทำอะไรแบบมนุษย์สักเท่าไหร่ 

    “นายท่านอีวาน” อลิสเดินเข้ามาในห้องโถงกลางเมื่อรับรู้ได้ว่าลูกแก้วที่กักเก็บความทรงจำได้สลายหายไปแล้ว

    “ได้ข่าวอะไรบ้าง” อีวานกางพัดในมือโบกเบาพร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนขณะที่สายตาทอดมองออกไปทางหน้าต่างบานใหญ่

    “เมื่อ 2 วันก่อนข้าได้ทำการเข้าไปในเมืองได้สอบถามประชาชนที่อยู่ที่นั่นเกี่ยวกับการมีอยู่ของโลกิ ปรากฏว่ามนุษย์ผู้นั้นไม่รู้จักโลกิ ข้าจึงรู้ว่ายังไม่เกิดเหตุการณ์ที่กองทัพชิทอรี่บุกทำลายเมือง” อลิสลอบสังเกตุท่าทีของอีวานก่อนจะพูดต่อ “ข้าได้เดินทางไปที่ตึกของมนุษย์ผู้ที่เสียสละตนเองในการใช้พลังของมณีทั้ง 6 เม็ดในสงครามครั้งนั้น”

    “ผู้ที่ใช้มณีในตอนนั้นน่ะหรอ” อีวานจำได้ในตอนท้ายของสงครามมีบุรุษผู้หนึ่งกล้าที่จะเสียสละตนเองใช้มณีลบล้างกองทัพของชาวไททัน “ชื่อว่าอะไร”

    “ใช่ค่ะ ชื่อของบุรุษผู้นั้นคือ โทนี่ สตาร์คค่ะ ส่วนภายในตัวตึกมีคนอาศัยอยู่จำนวนนึง เขาอาศัยอยู่ชั้นบนสุดของตึก” อลิสในตอนนั้นไม่เพียงแค่มองเฉยๆเธอได้ทำการตรวจสอบภายในตึกด้วย “และเมื่อวันก่อนมีรายงานว่าเขาได้เข้าร่วมโครงการขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า อเวนเจอร์ และโลกิได้ทำการขโมยมณีอวกาศไปแล้วเรียบร้อยค่ะ”

    “อเวนเจอร์งั้นหรอก็เป็นชื่อที่ดี แล้วตอนนี้โลกิอยู่ที่ไหน” ถ้าหากเขาได้ตัวโลกิมาก่อนอาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างก็ได้

    “ถูกจับกุมโดยอเวนเจอร์ค่ะ” อีวานหุบพัดแล้วหันมาเผชิญหน้ากับอลิส

    “ดูเหมือนเราต้องวางแผนซะแล้ว” อีวานเดินนำอลิสออกมาจากห้องนั้นมุ่งหน้าไปห้องรับแขกที่อยู่ไม่ไกล

    “นายท่านอีวานต้องการจะทำอะไรคะ” อลิสยืนอยู่ทางด้านข้างโซฟาของอีวาน

    “ข้าต้องรวบรวมมณี เมื่อรวบรวมได้หมดข้าจะนำส่งคืนให้กับพี่น้องของข้ารวมถึงเปลี่ยนอนาคตของโลกใบนี้ไม่ให้ดำเนินตามโลกหลักได้” อีวานโบกพัดในมืออย่างช้าๆ “แต่ติดอย่างเดียว ตอนนี้ข้าเป็นคนในราชวงศ์มันยากแก่การทำเรื่องแบบนี้”

    “ราชวงศ์ไม่ยุ่งกับการเมืองก็จริง แต่ใช่ว่าจะดูแลประชาชนไม่ได้” อลิสมีความคิดหนึ่งที่อยากจะเสนอให้กับอีวานได้ฟัง

    “เจ้ามีแผนในใจสินะ เอาสิกล่าวต่อ” อีวานมองรอยยิ้มดีใจของอลิสเล็กน้อยก่อนจะละสายตา

    “นายท่านสามารถใช้ข้ออ้างเกี่ยวกับการดูแลประชาชนในการสนับสนุนชีลด์ที่เป็นเจ้าของโครงการอเวนเจอร์ได้ค่ะ นอกจากจะได้ความไว้ใจจากประชาชนแล้วนายท่านยังสามารถเข้าใกล้มณีได้ด้วยค่ะ” ที่อลิสกล่าวมาก็น่าสนใจแต่ว่า

    “แล้วพลังของข้าแล้วก็ของเจ้าล่ะ จะบอกคนพวกนั้นว่าอย่างไร” อีวานอยากจะหัวเราะดูท่าทางของอลิสในตอนนี้สิจะอึ้งอะไรขนาดนั้น

    “ขออภัยนายท่าน ข้าช่างโง่เขลาไม่คิดถึงในส่วนนี้” อลิสคุกเข่าลงกับพื้นอย่างแรง

    “ข้าไม่ได้ตำหนิเจ้า ลุกขึ้น” อลิสลุกขึ้นยืนในท่าเดิม “ถ้าข้าบอกกับคนพวกนั้นว่าเป็นพลังของราชวงศ์จะเชื่อมั้ยนะ”

    “นายท่านอีวานไม่ต้องกังวล ข้าจะรีบจัดการทุกอย่างให้เองค่ะ” อลิสรับอาสาที่จะทำเพื่อเป็นการไถ่โทษกับเรื่องเมื่อกี้

    “นานเท่าไหร่” อีวานหันไปสบตากับอลิส

    “เดี๋ยวนี้ค่ะ” อลิสสบตากลับไปด้วยความแน่วแน่

    “ทำไมข้าไม่เจอเจ้าให้เร็วกว่านี้นะอลิส เอาเถอะข้าจะดื่มชารอแล้วกัน” อีวานลุกขึ้นเดินออกไปที่บริเวณสวนทางด้านหลัง

    “เตรียมชาให้นายท่าน นายท่านประทับอยู่ในสวนด้านหลัง” อลิสเดินเข้าไปในห้องครัวของคฤหาสน์หลังนี้จัดการสั่งข้ารับใช้ให้เตรียมชาให้กับอีวาน

    “รับทราบเจ้าค่ะท่านอลิส” อลิสสั่งงานเสร็จก็รีบออกไปจัดการปัญหาทันที จะปล่อยให้นายท่านอีวานของเธอรอนานไม่ได้

    .

    .

    .

    บนยานลอยฟ้าของหน่วยชีลด์

    ภายในห้องปฏิบัติการมีกลุ่มคนกำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ที่โต๊ะ ประกอบไปด้วยไอรอนแมนคนดัง กัปตันอเมริกา เจ้าหน้าที่โรมานอฟ ด็อกเตอร์แบนเนอร์ เทพเจ้าสายฟ้าธอร์ เจ้าหน้าที่ฟิล โคลสัน เจ้าหน้าที่มาเรีย ฮิลล์ และเจ้าหน้าที่นิค ฟิวรี่ ตอนนี้ทุกคนอยูในสภาวะตึงเครียดเพราะพวกเขายังตามหาเทสเซอแรคต์ไม่เจอเลย

    “เราจะนั่งรอกันอยู่อย่างนี้งั้นหรอ” แบนเนอร์ หรือ ฮัลค์ ถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ

    “ไม่ด็อกเตอร์ ผมกำลังรอลูกน้องของผม พวกเขากำลังเตรียมห้องให้คุณในการตามหาเทสเซอแรคต์” นิค ฟิวรี่ละสายตาจากแผงควบคุมตรงหน้าหันไปตอบคำถาม

    “แล้วคนที่เหลือล่ะ” โทนี่ถาม

    “สตาร์คนายไปช่วยด็อกเตอร์ตามหาเทสเซอแรคต์ เจ้าหน้าที่โรมานอฟผมขอยืมแรงคุณไปสืบมาเขาต้องการที่จะทำอะไร ส่วนที่เหลืออยากทำอะไรเชิญตามสบาย” นิค ฟิวรี่สั่งงานเสร็จก็มีลูกน้องในหน่วยเดินเข้ามา

    “ขอโทษที่รบกวนครับท่าน ห้องปฏิบัติการที่ท่านสั่งไว้เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ” ลูกน้องคนแรกที่เดินเข้ามาทำความเคารพแล้วรายงานเรื่องกับฟิวรี่

    “นำทางด็อกเตอร์แบนเนอร์และคุณสตาร์คไปยังห้องนั้น แล้วนายล่ะมีอะไร” ลูกน้องคนแรกทำความเคารพแล้วเดินนำด็อกเตอร์แบนเนอร์และสตาร์คไปยังห้องที่ว่า

    “ขออนุญาติครับ มีการติดต่อมาจากศูนย์บัญชาการใหญ่ครับ” ลูกน้องคนที่สองที่เดินตามเข้ามารายงาน

    “รู้มั้ยว่าเรื่องอะไร” ฟิวรี่รู้สึกแปลกใจปกติเวลานี้ศูนย์ใหญ่ไม่น่าจะมีเรื่องด่วนอะไร

    “ทางศูนย์ใหญ่บอกว่า ราชวงศ์ ครับ” ทุกคนที่อยู่ในห้องพร้อมใจกันมองไปที่ลูกน้องคนนี้ทันที

    “ราชวงศ์? มันเรื่องบ้างอะไรกัน” ฟิวรี่ไม่เข้าใจหน่วยงานของเขาเกี่ยวอะไรกับราชวงศ์ “โอเค ฉันจะคุยเอง”

    นิค ฟิวรี่เดินออกจากห้องประชุมนี้ไปยังอีกห้องที่ใช้สำหรับคุยเรื่องสำคัญหรือเรื่องที่ไม่ต้องการใครคนนอกรับรู้

    “สวัสดีครับผมเจ้าหน้าที่ นิค ฟิวรี่ ไม่ทราบว่าท่านต้องการที่จะคุยเรื่องอะไรครับ” ด้านหน้าของฟิวรี่เป็นจอขนาดใหญ่ที่กำลังฉายภาพของผู้หญิงคนนึง

    “สวัสดีค่ะเจ้าหน้าที่ฟิวรี่ ฉันอลิส มอร์แกรน ข้ารับใช้คนสนิทของนายท่านอีวาน เฟอร์เรอร์ พระญาติของควีนในปัจจุบัน” อลิสยิ้มให้กับใบหน้าที่ตกตะลึงของฟิวรี่

    “ไม่ทราบว่าท่านต้องการให้กระหม่อมทำอะไรพะยะค่ะ” ฟิวรี่ที่ไม่คุ้นชินกับการพูดราชาศัพท์และไม่รู้ว่าจะต้องคุกเข่าด้วยมั้ยได้แต่ทำท่างกๆเงิ่นๆ

    “พูดปกติเถอะค่ะ ฉันและนายท่านอีวานไม่ได้เคร่งขนาดนั้นแล้วอีกอย่างเหมือนคุณจะลืมเราไม่ทำแบบนี้กันแล้ว” อลิสนึกเอ็นดูชายหน้าโหดด้านหน้า “ส่วนเรื่องที่เราต้องการให้คุณช่วย ก็คือปกป้องประชาชนของเราจากสิ่งที่คิดที่จะทำลายโลกใบนี้ค่ะ”

    “คุณรู้อะไรมา” ฟิวรี่เครียดขึ้นมาทันทีเพราะเรื่องของเทสเซอแรคต์มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้

    “อย่าดูถูกราชวงศ์ มีอีกหลายอย่างที่คุณยังไม่รู้” อลิสยังคงยิ้มแต่กลับกันตอนนี้ใบหน้าของฟิวรี่มีแต่ความเคร่งเครียด “และตอนนี้คุณจะได้รู้”

    “รู้อะไร” ฟิวรี่ไม่พร้อมที่จะรับรู้อะไรในตอนนี้เลยแต่ก็ขัดคนตรงหน้าไม่ได้เขายังไม่ยังโดนโทษขัดคำสั่งราชวงศ์หรอกนะ

    “นักโทษที่อยู่ในการดูแลของคุณคือ โลกิ เทพมุสาบุตรคนที่สองของโอดิน เขาต้องการเปิดประตูมิตินำกองทัพชิทอรี่เข้ามายังโลก เราต้องการสนับสนุนหน่วยของคุณและอเวนเจอร์” อลิสสังเกตุท่าทีของคนตรงหน้าที่ดูเหมือนอีกนิดก็จะเป็นลมแล้ว

    “ราชวงศ์รู้ได้ยังไงผมถามได้มั้ยหรือที่นี่มีสายของพวกคุณอยู่” ฟิวรี่อยากจะเป็นลมหนีคนตรงหน้าจริงๆแค่เรื่องตามหาเทสเซอแรคต์ก็ปวดหัวมากพอแล้วนี่ยังมีเรื่องของราชวงศ์อีก ให้ตายเถอะ!!

    “ไม่ใช่หรอกค่ะ ก่อนอื่นคุณต้องฟังให้ดีราชวงศ์ของเราตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ได้มีการให้กำเนิดบุตรชายที่เป็นลูกรักของเทพและเทพีทั้งหลายขึ้นมา บุตรชายผู้นั้นได้มีความสามารถของการทำนายอนาคตทำให้ราชวงศ์ของเรามีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ เมื่อท่านสิ้นพระชนม์ไปก็ไม่มีใครให้กำเนิดบุตรที่มีความสามารถอีกเลย จนเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ราชวงศ์ได้มีบุตรชายที่เกิดมาพร้อมกับพลัง บุตรคนนั้นก็คือนายท่านอีวาน เฟอร์เรอร์” 

    อลิสเห็นใบหน้าที่ตกตะลึงของชายตรงหน้าแล้วรู้สึกสนุกอย่างน่าประหลาด มนุษย์นี่น่าสนใจจริงๆ “ไม่มีใครรู้นอกจากคนในราชวงศ์ เอาตามจริงน้อยคนนักที่รู้จักใบหน้าของนายท่านอีวาน เพราะนายท่านแยกตัวออกมาจากราชวงศ์ตั้งนานแล้ว”

    “สรุปง่ายๆก็คือนายท่านของคุณมีพลังที่สืบทอดมาจากราชวงศ์ใช่มั้ย” พารา เขาต้องการพารา 1 กระปุกด่วน!

    “ใช่ และก็ฉัน ผู้มีพลังจากสายเลือดข้ารับใช้ของราชวงศ์” เพิ่มเป็น 2 กระปุกเลย!!! “ไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้ เอาเป็นว่าทางเราจะสนับสนุนทุกอย่างที่เกี่ยวกับชีลด์ โดยทุกอย่างจะต้องผ่านการตรวจสอบจากคุณมาก่อนโดยมีข้อแลกเปลี่ยน”

    “ข้อแลกเปลี่ยนอะไร” ฟิวรี่ภาวนาขออย่าให้มันยากมากละกัน

    “มณี จะต้องถูกส่งมอบให้กับราชวงศ์เท่านั้น” โอเคเหมือนพระเจ้าจะไม่เห็นใจเขาเลยสักนิด!!!!!!

    “ตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่ามณีที่คุณพูดถึงมันคืออะไร ผมไม่สามารถรับปากได้ และผมเดาได้ว่ามันจะต้องเป็นสิ่งที่ยุ่งยากมากแน่ๆ คุณก็น่าจะรู้ถ้าผมมอบอะไรก็ตามที่มันก่อให้เกิดเรื่องยุ่งยากให้กับคุณมันต้องมีผลกระทบตามมาแน่” ฟิวรี่เหนื่อยการคุยกับผู้หญิงตรงหน้าจริงๆ มันใช้พลังงานเยอะมากในการคุย

    “คุณไม่ต้องห่วงเจ้าหน้าที่นิค ฟิวรี่ เราไม่ได้ให้คุณส่งมอบให้เราโดยตรง เราแค่ขอทางเฉยๆ” ขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะเขาจะไม่คุยกับผู้หญิงตรงหน้าอีกเด็ดขาด!! “นายท่านอีวานและฉันกำลังจะเดินทางไปที่ยานแฮลิแคเออร์ของคุณ เตรียมตัวให้พร้อมแล้วเจอกัน” 

    สิ้นสุดประโยคหน้าจอก็ดับไปทันที

    หลังจากคุยกับคนในราชวงศ์เรียบร้อยแล้วฟิวรี่ก็เดินเข้าไปในห้องเดิมที่ใช้ในการประชุมอเวนเจอร์ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องนอกจากเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่และเจ้าหน้าที่มาเรีย ฮิลล์เท่านั้น

    “เกิดอะไรขึ้น” มาเรีย ฮิลล์เห็นท่าทางเหนื่อล้าเหมือนฟิวรี่ไปสู้กับเสือมายังไงยังงั้น

    “คนของราชวงศ์จะมาที่นี่” ฟิวรี่ทิ้งตัวลงกับเก้าอี้อย่างหมดแรง

    “พวกเขามาทำอะไร” มาเรีย ฮิลล์ไม่เข้าใจราชวงศ์ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้มาก่อน

    “ไปตามโคลสันมา จะได้เล่าทีเดียว” ฟิวรี่

    “แล้วคนอื่นๆล่ะ” มาเรีย ฮิลล์ได้โทรตามเจ้าหน้าที่โคลสันแล้วหันมาถามฟิวรี่

    “บางทีพวกเขาอาจจะชอบเรื่องเซอร์ไพรส์” หลังจากนี้ฟิวรี่คงได้รับคำสาปแช่งจากทุกคนที่เหลือแน่ๆ

    .ฉบับรีไรท์.

    .

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×