ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rush of Ruin: The First Flame of Ruin เพลิงแรกแห่งการล่มสลาย

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่3:เลือดล้างด้วยเลือด

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 67


    บทที่:3

    เลือดล้างด้วยเลือด

    เสียงแจ้งเตือนยังคงดังสนั่นไปทั่วเหมืองใต้ดิน เสียงกึกก้องของระเบิดจากพลังเวทย์และการต่อสู้ดังขึ้นไม่หยุดพัก เดวิด คาสัน และเอิร์ทกำลังพยายามฝ่ากองกำลังของกลุ่มลัทธิเอลดริทช์คาบาล ที่ล้อมรอบพวกเขาไว้ทุกทิศทาง ฝุ่นควันจากการต่อสู้คละคลุ้งในอากาศ ความมืดที่ปกคลุมรอบๆ ถูกฉีกกระจายเป็นระยะด้วยแสงสว่างจากคาถาและอาวุธของพวกเขา

    เดวิดตะโกนกู่ร้องเพื่อเรียกขวัญกำลังใจตามที่เขาเคยทำในแต่ละการบทุกครั้งและมันก็ได้ผล คาสันและเดวิดฆ่าฟันพวกมันอย่างดุเดือด ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกว่าที่แห่งนี้เคยมีการนองเลือดที่รุนแรงแบบนี้มาก่อน

    “อย่าให้ใครรอด!”เดวิดคำราม พลางหลบหลีกลำแสงเวทย์มนต์ที่พุ่งไปมาหาเขาตลอดการเคลื่อนไหว

    เอิร์ทที่ได้ยินถึงกับส่ายหัวเพราะทุกครั้งที่เขาได้ยินเดวิดคำรามหรือตะโกนมันทำให้เขารู้สึกกดดันและเสียสมาธิมากขึ้นกว่าเดิม "แม่งเอ้ย เหมือนเดิมทุกที"เขาคิดในใจก่อนจะตัดร่างของศัตรูที่ไม่คู่ควรแก่เขาและวิ่งออกไปตามทาง

    เดวิดสูดลมหายใจลึกก่อนจะพุ่งเข้าไปในกลุ่มศัตรูที่ขวางทางด้วยความเร็ว หนามเลือดสีแดงดำที่งอกออกมาจากร่างของเขาแหลมคมเหมือนคมดาบ ฟันทะลุเกราะของสมาชิกกลุ่มลัทธิได้อย่างง่ายดาย เลือดและไส้กระจายทั่วไปทั่วโถง ขณะที่เขาฟาดฟันทุกคนที่ขวางทางเขาก็พูดดูถูกพวกมัน “พวกมึงไม่รู้เลยว่ากำลังยุ่งกับอะไร!” เดวิดตะโกนด้วยเสียงที่แฝงไปด้วยความโกรธที่ถูกปลดปล่อยออกมาทุกครั้งที่เขาจัดการศัตรูได้

    แต่ในวินาทีนั้นเอง ความมืดในเหมืองที่หนาทึบก็ถูกเจาะทะลุด้วยแสงสีแดงสว่างวาบจากด้านหน้า คาสันกับเอิร์ทหยุดชะงัก พวกเขาหันไปมองเห็นร่างของชายคนหนึ่งยืนอยู่กลางแสงสว่างนั้น ใบหน้าของเขาถูกปกคลุมด้วยผ้าคลุมสีแดงเข้มที่มีอักขระสีดำปักอยู่ทั่วทั้งผืน ผ้าคลุมของเขาโบกสะบัดในอากาศราวกับจะเตือนถึงพลังอำนาจที่แฝงอยู่ภายในตัวของเขา

    “พวกแกมาทำอะไรที่นี่? ในดินแดนของข้า” น้ำเสียงของชายคนนั้นเยือกเย็น เหมือนกับเป็นเสียงที่สะท้อนออกมาจากนรก เขาค่อยๆ ก้าวออกมาจากแสงที่นั้น ตรงนั้น เผยให้เห็นหน้ากากเหล็กสีดำที่บิดเบี้ยวซึ่งบดบังใบหน้าของเขาไว้ มือข้างหนึ่งของเขาถือคทาอันยาวที่มีหนังสือปกหนังโบราณที่ดูเก่าแก่โบราณเปล่งแสงสีแดงออกมาเป็นระลอกคลื่น

    “มึงคือหัวหน้าสินะ”เดวิดจ้องมองมันด้วยสายตาที่เคียดแค้น เขากำหมัดแน่นแต่ยืนเก็ยแรงก่อนเพื่อคอยหาทางถล่มมันในครั้งเดียว

    “มึงเอาปีเตอร์ไปไว้ไหน ไอ้ส้นตีน”คาสันด่ามันพลางจับด้ามอุปกรณ์ของเขาไว้ในมืออย่างแน่น

    มันดูไม่แยแสอะไรต่อทั้งสามมากนักจนกระทั่งมันเริ่มมุ่งไปสนใจที่เดวิดที่แปลงสภาพจนดูเหมือนจะกลายเป็นปีศาจ ก่อนมันจะเริ่มยิ้มที่มุมปากอย่างน่ากลัว

    “เลือด…หนามเลือด….จอมโกหกและคนทรยศ”มันพูดออกมา แต่เดวิดกลับไม่เข้าใจในสิ่งที่มันกำลังจะสื่อ เดวิดตั้งท่าจะพุ่งไปหามันด้วยความเร็วของพละกำลังขาของเขา

    “เดี๋ยวเดวิด!”คาสันตะโกนแต่ก็ไม่ทันการ มันกระทบคทาของมันลงไปที่พื้น เกิดเป็นกรงบาเรียเลือดเพื่อไม่ให้ใครคนอื่นเข้ามายุ่งและปล่อยให้เวลานอกบาเรียช้าลงไปหลายเท่าตัว มีเพียงแค่เดวิดและนักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่เคลื่อนตัวได้อย่างอิสระ ภาพภายนอกบาเรียแสดงให้เห็นสิ่งต่างๆที่ช้าลง เดวิดชำเลืองมองไปที่กลุ่มเพื่อนของเขา คาสันและเอิร์ท ปากของคาสันที่กำลังตะโกนอย่างช้าๆ และเอิร์ทที่กำลังตวัดดาบไปทางนักเวทย์หลายคนที่โขดหิน

    “นี่มัน เหี้ยอะไรเนี่ย?”เดวิด พึมพำก่อนจะหันไปมองนักเวทย์คนนั้น

    “กูจำได้”เดวิดพูด เขาพยายามลุกขึ้นยืนหลังเกรงขาเพื่อจะพุ่งไปแต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจเป็นการระวังตน “หัวหน้ากลุ่มไม่ใช่แก ในวันนั้-” “ในวันนั้นข้าฆ่ามันด้วยเวทย์ของข้า”มันพูดตัดประโยคทันที

    “ต้องทำความรู้จักก่อนไหม หือ?”เดวิดชักชวน

    มันเอียงคอมองเดวิดไปสักพักก่อนจะตั้งคอเป็นแบบเดิมก่อนจะตั้งใจตอบ

    “ข้ามีนามว่า ลอร์ด ไอแซค ออก เดอะ เพน ผู้นำพามาซึ่งความเจ็บ”มันพูดออกมาด้วยท่าทีที่ดูภูมิใจ

    “นั้นชื่อคนหรือชื่อนิทานเด็กน้อยวะ ไอ่ปัญญาอ่อน!”เดวิดด่าใส่ก่อนจะปาหอกไปทางของไอแซค ไอแซคยกมือร่ายคาถาเพื่อจะหยุดหอกของเดวิดมันทำให้เขาต้องยอมหลบหอกมาแต่โดยดี มันตะลึงที่ว่าทำไมมันใช้พลังเวทย์สัมผัสหอกของเดวิดไม่ได้

    “นี้มัน…”

    “มึงเอาปีเตอร์ไปไว้ไหน!”เดวิดตะคอกถามพลางวิ่งมาทางไอแซค

    “แกคิดว่าตัวเองอยู่ในฐานะที่จะเจรจาได้อย่างนั้นเหรอ? แกไม่รู้เลยสินะ ว่าสิ่งที่พวกเราเฝ้ารออยู่คืออะไร” ไอแซคกล่าว เขายกคทาขึ้นสูง อักษรรูนโบราณเปล่งแสงสีแดงรอบตัวเขา กลิ่นคาวเลือดเริ่มคละคลุ้งในอากาศพร้อมกับพลังงานแปลกประหลาดที่กระจายออกจากร่างของเขา ราวกับเป็นแรงกดดันที่พยายามจะบดขยี้เดวิดอย่างหนัก ทำให้เดวิดต้องหยุดอยู่กับที่

    เดวิดกัดฟันแน่นก่อนที่เขาพยายามขยับร่างกายของเขา“งั้น…มึงก็ไม่ต้องพูดมาก มันก็แค่คำพูดขยะของไอ้พวกระยำส้นตีนที่กูเคยเจอมาหลายครั้ง” เดวิดพูดก่อนพุ่งตัวไปที่ไอแซค หมัดของเขาเหวี่ยงลงมาจากด้านบน แต่ทันใดนั้นเอง ไอแซคก็ยกคทาขึ้นกัน คาถาเวทมนตร์ที่เปล่งแสงออกมาจากคทาของเขาสร้างเกราะพลังป้องกันการโจมตีของเดวิดได้อย่างง่ายดาย แรงปะทะนั้นทำให้เดวิดกระเด็นออกไป เขาพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง

    “อ่อนแอไม่เหมือนญาติของมัน” ไอแซคกล่าวเสียงต่ำ รอยยิ้มยียวนกวนประสาทปรากฏใต้หน้ากากเหล็กของเขา “ถ้าคิดจะมาสู้กับพวกเรา แกต้องทำได้ดีกว่านี้"

    “ปากหมาชิบหาย...” เสียงของเดวิดดังขึ้นอย่างหนักแน่น เขากระโจนพุ่งไปหาไอแซค ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยหนามเลือดที่เต้นเป็นจังหวะพริบตาเหมือนเปลวเพลิงสีดำแดง เขาเหวี่ยงหมัดใส่ไอแซคด้วยความเร็วที่เหนือมนุษย์จนโดนไปที่บาเรียเกราะเวทย์ของไอแซคอย่างแรงก่อนเดวิดจะกลิ้งตัวไปหยิบหอกของเขา ไอแซคที่พยายามจะตั้งตัวขึ้นมาก็โดนเดวิดที่ใช้ความสามารถของหอกวาร์ปไปทางด้านหน้าเขาและเตะไปที่ใบหน้าของไอ่นักเวทย์ผู้นี้ด้วยความเร็ว ก่อนที่เดวิดจะตัดสินใจหันไปใช้หอกฟาดลงไปที่มัน คมของหอกฟาดลงไปบนเกราะเวทย์ที่ไอแซคสร้างขึ้น แต่แรงปะทะนั้นทำให้เกิดเสียงแตกหักขึ้นในบาเรียที่ปกคลุมร่างของไอแซค

    ไอแซคสะดุ้งไปชั่วครู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองเดวิด รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าใต้หน้ากากของเขา “แกนี่... ช่างแตกต่างจากพวกมันจริงๆ สายเลือดนั่น... จะกี่ร้อยปีก็ยังคงเหมือนพวกเขา” น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเป็นจริงจังและเย็นชา “ถึงแม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยว แต่แกก็มีพลังของเทพเจ้าในตัว... พลังที่พวกเราเฝ้ารอมาแสนนาน”

    “พูดบ้าอะไรของมึงวะ?” เดวิดถามขณะดันตัวเองเข้าประจัญบานกับไอแซคอีกครั้ง เขาพยายามบุกทะลวงเข้าไป แต่ไอแซคกลับกวัดแกว่งคทาของเขาสร้างคลื่นพลังเวทย์ที่กระแทกใส่เดวิดจนร่างของเขาถูกผลักกระเด็นออกไปชนกับกำแพงหินเข้าอย่างแรง

    “แกไม่รู้จริงๆ สินะ...” ไอแซคกล่าว เขาย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นร่ายคาถา อักขระสีแดงปรากฏขึ้นบนพื้นดินรอบๆ แสงจากอักขระนั้นเริ่มก่อร่างเป็นรูปทรงแปลกประหลาดที่ส่องประกายไปทั่วทั้งเหมือง ความมืดรอบๆ กลายเป็นคลื่นพลังที่กระเพื่อมราวกับผืนน้ำตามมาด้วยแสงม่วงอ่อนปนขาวที่กระพริบไปทั่วอากาศ “พวกเราไม่ได้ต้องการแค่เขา... แต่แกต่างหากเดวิด เขาเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่ง พวกเราเฝ้ารอเจ้าของสายเลือดแห่งเทวทูตที่จะปลดปล่อยพลังแห่งบรรพกาลของเทอร่า” มันพูดพลางเดินไปหาเขาก่อนจะใช้มือฉีกกระชากหนามออกจากสวนของอกฝั่งซ้ายของเขาหลายชิ้นอย่างรวดเร็วก่อนมันจะพยายามกดมือของมันทะลวงไปที่หัวใจของเดวิดมันบีบหัวใจของเดวิดแน่นและดูดเลือดจากหัวใจของเขาไปทีละน้อย

    เดวิดกระอั่กเลือดออกจากปากก่อนจะรีบใช้หลังมือฟาดไปที่หัวของไอแซคก่อนจะถีบจนมันกระเด็นไปไม่ไกลมากจากตัวเขาเดวิดตั้งตัวขึ้นอีกครั้ง พยายามหันไปมองฝ่ายตรงข้ามที่พยุงตัวเองจากพื้น

    “กุญแจอันสุดท้าย..ข้าเห็นท่านแล้วบุตรแห่งโลหิต”ไอแซคพึมพำก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาช้าแสดงให้เห็นน้ำตาที่ได้กลายเป็นเลือดและมีหนามสีแดงที่มีลักษณะคล้ายเดวิด

    เดวิดอ้าปากค้าง เขาลืมตัวไป เลือดของเขามันฆ่าคนได้ก็จริงแต่บางคนก็ฆ่าไม่ได้

    เดวิดคำรามลั่นห้องโถง ละอองฝุ่นและเลือดกระจายไปทั่ว เขาสมานแผลที่หน้าอกจากผลงานของไอแซคที่ได้ทำเอาไว้อย่างรวดเร็ว ฮาโล่สีแดงเข้มปรากขึ้นมาบนหัวของเขาอย่างช้า รูขุมขนปล่อยฟีโรโมนประหลาดรอบๆตัวเขาและตามมาด้วย หนามแหลมสีเลือดได้งอกที่พื้น ตรงจุดที่เดวิดกำลังยืนอยู่ เขาเปิดเงื่อนไขความตายเอาไว้แล้ว 

    “เอาเลือดกูคืนมาหรือจะตายทั้งเป็น”เดวิด ขู่มัน

    ท่าทางของไอแซคยังคงนิ่งเฉยก่อนมันจะเริ่มกระอั่กเลือดไปทั่วพื้นโดยรอบของมัน และมันก็ยกมือไปทางเดวิด

    เสียงการเฉือนดังขึ้น ปรากฏภาพหนามแหลมคมขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายคริสตัลงอกขึ้นมาจากช่วงศอกขวาของเดวิดจนปลายแขนขวาของเขาขาดและหล่นลงกับพื้น

    สิ่งนี้เหมือนเป็นการท้าท้าย มันขโมยสิ่งที่อันตรายที่สุดในโลกไป เดวิดคิด

    มันถอดหน้ากากออกทิ้งลงไปกับพื้นก่อนจะมองไปทางเดวิดและยิ้มส่งให้เขา

    แขนขวาที่ขาดของเดวิดเกิดกระตุก เปรียบเสมือนการปลุกสัญชาตญาณของเขาและมันก็เป็นเหมือนธงที่โบกให้รถออกตัวทันที

    เดวิดวิ่งไปหามันด้วยความเร็วที่คนธรรมไม่สามารถมองทันได้ เขาฟาดหอกใส่ไอแซคด้วยความแรงที่สุดเท่าที่เขาจะทำ จนเกิดเป็นรอยขาดระหว่างเกราะเวทย์มนต์และตัวของไอแซค 

    ไอแซคตั้งตัวอย่างรวดเร็วแต่ไม่เท่าเดวิด เดวิดใช้หอกปักแทงทะลุตัวของไอแซคด้วยแรงของแขนซ้าย ก่อนจะปล่อยหอกของเขาแล้วหันไปใช้มือต่อยไปที่ใบหน้าของมันและต่อด้วยการทุบใส่หัวของมันอย่างแรงจนกระโหลกของมันร้าวไป

    เดวิดพยายามจะต่อคอมโบแต่ก็โดนมันร่ายเวทย์สายฟ้าใส่เดวิดจนเขาล้มไปนอนกับพื้น ก่อนมันจะซ้ำต่อด้วยการใช้มือทุบไปที่พื้นหินจนเกิดรอยร้าวไปทั่วพื้นและก็ปรากฏหนามแหลมมากมายที่งอกขึ้นไปทางเดวิด เดวิดดันตัวเองหลบด้วยแขนซ้ายที่มีก่อนจะรีบวิ่งไปหามัน หมัดของเขาตรงไปใส่ไอแซคที่เอาคทากันเอาไว้ ลมหายใจแห่งโทสะของทั้งสองปะทะกัน

    “เอาเพื่อนกูคืนมา!”เดวิดตะโกนใส่

    “เขาอยู่ในการสังเวย สาแก่ใจหรือยังเจ้าหนู?”ไอแซคก็ตอบ

    “ยังแน่ ถ้ากูไม่ได้เหยียบหน้ามึง!”

    “หึ แกกับเขาเป็นอะไรกัน เพื่อนก็ไม่ใช่ เดวิด แกเข้าใจผิดไปหมดเลย... แกไม่รู้หรอกว่าปีเตอร์คือส่วนที่ทำให้แกเป็นหนึ่งในแผนมาตลอด”มันตอบกลับก่อนจะต่อยไปที่เดวิด

    เดวิดสวนกลับ"ตอแหล"ก่อนจะซัดหมัดที่หนักที่สุดใส่เบ้าหน้าของมัน

    เสียงคำรามแห่งโทสะและเสียงกระแทกของพลังเวทมนตร์ก้องกังวานไปทั่วโถงของเหมืองร้าง ลมหายใจหนักหน่วงของทั้งสองปะทะกันในระยะใกล้ เมื่อเดวิดได้ใช้หัวโขกสวนไปที่หน้าของไอแซคจนมันเสียหลัก เขารีบใช้มือซ้ายคว้าบีบไปที่คอของไอแซคแน่น และพลังเลือดภายในตัวเขาก็ถูกปลดปล่อยออกมาราวกับน้ำหลาก

    หนามคริสตัลเลือดสีดำแดงงอกออกมาจากร่างของไอแซคทันที มันทะลุทะลวงผิวหนังของเขาจนเลือดสาดกระจายออกมา ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่าง แต่ไอแซคกัดฟันแน่น มือขวาที่เหลืออยู่ของมันกุมคทาแน่น และพยายามรวบรวมพลังเพื่อปลดพันธนาการที่เดวิดสร้างขึ้น

    “คิดว่าแค่นี้…แค่นี้จะหยุดข้าได้รึไง!?” ไอแซคคำรามพลางยกคทาขึ้นสูง อักษรรูนสีแดงเลือดสว่างวาบรอบตัวของมัน หนามคริสตัลที่งอกออกมาจากร่างของมันเริ่มสั่นสะเทือนก่อนที่พลังเวทมนตร์อันเข้มข้นจะไหลเวียนออกมา บังคับให้หนามเหล่านั้นแตกกระจายกลายเป็นผุยผงลอยในอากาศ พลังอำนาจนั้นส่งผลให้เดวิดถอยหลังออกไปสองสามก้าว

    เดวิดพลิกตัวหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตั้งตัวขึ้นมาใหม่ พลังเลือดในร่างของเขายังคงพุ่งพล่าน เขาหยิบหอกขึ้นมากระชับในมือ “มึงไม่รู้จักคำว่าพอหรือไง ไอ้ส้นตีน!” เขาตะโกนออกมาก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปอีกครั้ง หอกในมือของเขาฟาดฟันไปที่ไอแซคด้วยความเร็วและความรุนแรง

    สายตาของไอแซคจับจ้องไปที่หอกของเดวิด เขาทั้งชอบและกลัวมัน ชอบในการออกแบบลวดลายของหอกและแสงสีทองของมันและกลัวมันที่สิ่งนี้กำลังจะฆ่าเขาในตอนนี้

    “กุญแจของข้า…”มันพูดพลางปัดหอกของเดวิด

    “เส้นทางไปสวรรค์ของข้า” 

    แต่ละประโยคที่ได้ยินทำเอาเดวิดรู้สึกหงุดหงิดในระหว่างฟาดฟันมัน เขาเกลียดพวกมัน พวกมันทั้งหมด พวกลัทธิบูชาปีศาจ เขาไม่ใจมันในทุกๆครั้ง เปรียบเสมือนว่าการกระทำของพวกมันมักย้อนแย้งต่อแรงจูงใจของตัวเอง เขาไม่เข้าใจอะไรในคนพวกนี้เลย เขาเคยเจอคนมากมายบนโลกใบนี้ เขาชอบมัน ชอบที่โลกเป็นแบบนี้แต่เกลียดแค่สังคมมนุษย์ที่เขาไม่ชอบหน้า แต่แล้วห่าฝนหนามเลือดก็พุ่งไปหาเดวิดทำให้เขาต้องสละความคิดพวกนี้ออกหัวแล้วตั้งใจสู้ มือขวาของเขาเริ่มงอกกลับมาเป็นปกติแต่ก็ไม่เต็มร้อยนัก ก่อนเดวิดจะสังเกตุช่องว่างเล็กๆที่คอของไอแซคที่ไร้จุดป้องกัน

    ไอแซคยกคทาขึ้นป้องกัน แรงปะทะทำให้มันถอยไปหลายก้าว แต่ก็ยังยืนอยู่ได้ มันหายใจหอบ แต่สายตาเต็มไปด้วยความท้าทาย “ข้าคือความบ้าคลั่ง” มันกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม

    “สมองเต็มไปเต็มเลือดสินะ ไอ่เวร กูจะให้มึงเห็นความบ้าคลั่งที่แท้จริงเดี๋ยวนี้แหละ!” เดวิดตะคอกใส่มันด้วยความโกรธที่ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นทุกช่วงเวลา เขาพุ่งเข้าหาไอแซคอีกครั้ง แต่คราวนี้พลังเลือดในร่างของเขาถูกเร่งเร้าขึ้นไปถึงขีดสุด หนามเลือดและคริสตัลสีแดงเข้มปะทุออกมาจากร่างของเขาราวกับเปลวเพลิงสีดำแดง หอกในมือของเขากระพริบแสงสีเลือดเป็นจังหวะเหมือนหัวใจที่เต้นแรง เขาเหวี่ยงหอกใส่ไอแซคด้วยพลังทั้งหมดที่มี 

    "เจ้าคือบุต-

    ไอแซคปัดหอกออกแต่แล้ว

    กร๊อบ

    เสียงกระดูกหักดังขึ้น

    ปรากฏว่าจังหวะที่ไอแซคเพ่งสมาธิอยู่กับหอกเขาก็ถูกเดวิดที่สละหอกก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างบิดหัวไอแซคหมุนไปอีกด้านอย่างแรง

    “จ..เจ้-”ไอแซคพยายามพูดต่อแต่ก็ถูกเดวิดใช้หอกปักคอของมันต่อ

    เลือดข้นทะลักเหมือนน้ำมันเครื่องออกมาคอหอยของไอแซค เขาทรุดตัวลงนั่ง ปากพะงาบเหมือนพยายามจะพูดแต่ก็ถูกเดวิดดึงหอกออกจากคอก่อนเขาจะถอยออกมาดูผลงานของตัวเอง

    บาดแผลที่กำลังสมานของไอแซคก็หยุดลง แสดงให้เนื้อในและซี่โครงของเขาที่แตกหักอย่างน่ากลัว  

    เขาพยายามจะลุกแต่เรี่ยวแรงก็ขาดหาย

    “ข้า..”เขาพูดเหมือนคนขาดสติและเลือดก็ออกเต็มคอ

    เดวิดยืนดูมันกำลังขาดใจอย่างน่าสมเพชก่อนเขาจะใช้มือฉีกกระชากคอของไอแซคขาดปล่อยให้มันได้ตายอย่างช้าๆ

    “บ-บ้าน…แม่”มันเอ่อร้องไห้ก่อนล้มหงายไปนอนจมกองเลือด

    เดวิดไม่พูดอะไรก่อนจะหันกลับไปมองกรงเลือดและบาเรียที่เริ่มแตกสลายหายไปและเวลาข้างนอกที่ค่อยๆกลับมาเป็นปกติ เอิร์ทและคาสันกำลังจัดการกับเหล่าสมาชิกกลุ่มลัทธิที่ยังคงเหลืออยู่ในเหมือง แม้สภาพร่างกายของพวกเขาจะเต็มไปด้วยรอยแผล แต่ก็ยังสู้ต่อไปด้วยความตั้งใจจนเหลือสมาชิกหนึ่งคนที่หนีไปได้

    เดวิดก้าวออกจากวงบาเรียที่แตกสลาย ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือดและเหงื่อ ลมหายใจที่หนักหน่วงหลังการต่อสู้อันดุเดือดกับไอแซค เมื่อคาสันหันมาเห็นเดวิด เขารีบเดินเข้ามาหาพร้อมกับเอิร์ทที่ตามมาติดๆ

    “โอ้เหี้ย โหดจังวะ”คาสันพูดพลางชะโงกหัวไปดูสภาพศพของไอแซค

    เดวิดที่ได้ยินก็หัวเราะเบาๆพลางหายใจหอบ"กูนึกว่าจะมีคำพูดที่ดีกว่านี้ออกจากปากมึงนะ"เขายิ้มเล็กน้อยก่อนเปลี่ยนเรื่อง “กูจัดการมันแล้ว แต่ปีเตอร์ยังไม่อยู่ที่นี่ มันปากมากชิบหายแต่ก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ตรงไหน”เดวิดพูด

    “เหี้ยจริง... แล้วตอนนี้จะเอาไงต่อ?” เอิร์ทถามพลางหอบหายใจ ฝุ่นควันจากการต่อสู้ยังคงคละคลุ้งในอากาศ ความมืดรอบๆ ทำให้บรรยากาศเหมืองดูวังเวงจนน่าขนลุก

    “มันบอกว่าปีเตอร์เป็นแค่เบี้ย... พวกมันต้องมีที่ซ่อนหรือสถานที่สำหรับการสังเวย” เดวิดพูด ขณะที่พยายามเรียบเรียงความคิดในหัว “มันบอกว่าปีเตอร์อยู่ในการสังเวย มันจะต้องมีทางไปที่นั่น”

    เอิร์ทพยักหน้าเห็นด้วย “ถ้าเป็นแบบนั้นจริง พวกมันอาจจะไม่อยู่ไกลจากที่นี่ เราต้องรีบหาทางที่สังเวยของพวกมันก่อนที่พวกมันจะทำอะไรกับปีเตอร์”

    “หวังว่ามันคงไม่อัดดากปีเตอร์นะ”คาสันพูด"

    “พ่อมึง”เดวิดและเอิร์ทหันหน้าด่าไปทางคาสันพร้อมเพียงกัน

    “จ้าๆ แค่ล้อเล่น รีบไปได้แล้ว”คาสันพูด

    ทั้งสามรีบมุ่งตรงไปข้างหน้าแม้จะไม่รู้ว่าเวลาของพวกเขาว่าเหลือน้อยแค่ไหน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×