ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เคียงใจนับนิรันดร์ ตอน ณธีร์

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 1 ลาพักใจ 2/2

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 67


    “ถึงแล้วครับคุณลูกค้า คุณลูกค้าครับ...”

    เสียงคนขับเอ่ยบอกหญิงสาวที่กำลังนั่งเหม่ออยู่ด้านหลังอย่างไม่ได้ตั้งใจฟังอะไร

    “อะ...เอ่อขอโทษทีค่ะ พอดีคิดอะไรเพลินไปหน่อย นี่ค่ะเงินค่ารถ ไม่ต้องทอนนะคะ” เอวาเอ่ยพลางยื่นเงินค่าโดยสารให้เขาพร้อมกับทิป

    หลังจากที่ก้าวเท้าลงจากรถแท็กซี่ สัมผัสแรกที่เธอได้รับก็คือกลิ่นโอโซนที่สุดแสนจะบริสุทธิ์ เอวาสูดหายใจเอาอากาศเข้าปอดอย่างเต็มที่

    “ทะเลช่วยฮีลใจฉันด้วยนะ” เธอพึมพำคนเดียวเบา ๆ

    และเวลาไม่นานพนักงานยกกระเป๋าของโรงแรมก็เดินตรงลิ่วเข้ามาหาเธอและช่วยเธอยกกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าด้านใน

    โรงแรมที่เธอจองเป็นโรงแรมเปิดใหม่ บรรยากาศโดยรวมของโรงแรมประดับตกแต่งสไตล์มินิมอล มีการใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น ถึงแม้จะดูเรียบง่ายแต่ก็มีเอกลักษณ์ที่ดูหรูหราไปในตัว อีกทั้งโรงแรมนี้ยังอยู่ติดริมทะเล เพียงแค่เดินไปไม่กี่ก้าวก็ได้สัมผัสกับผืนน้ำทะเลแล้ว เอาเป็นว่าบรรยากาศมันดีมาก ๆ

    “ช่วงนี้แขกเยอะไหมคะ”

    เธอถามพนักงานยกกระเป๋าที่ดูจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มและเป็นมิตร

    “ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ครับ ช่วงนี้เป็นช่วงโลวซีซั่น แถมโรงแรมก็เพิ่งเปิดได้ไม่นาน คุณผู้หญิงมาช่วงนี้ถือว่าโชคดีมาก ๆ ครับ ไม่วุ่นวาย มีความเป็นส่วนตัวสูง พนักงานสามารถบริการได้ทั่วถึงครับ”

    “แล้วนอกจากฉัน ยังมีแขกคนอื่นไหมคะ”

    เพราะมันดูเงียบจนดูชอบกลและดูไม่วุ่นวายอย่างที่เขาบอกจริง ๆ เธอจึงเปิดประเด็นถามออกไปโต้ง ๆ ทันที

    “มีแค่คุณผู้หญิงครับ”

    “คะ!” หญิงสาวอุทานเสียงหลง

    ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะพูดแบบนี้ออกมา เธอเลิกคิ้วขึ้นและเอ่ยออกไปสั้น ๆ ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างตกใจ ใครมันจะไปคิดว่าจะส่วนตัวขนาดนี้กันล่ะเนี่ย ส่วนตัวขนาดที่ว่า ไม่มีแขกคนไหนมาพักเลยสักห้อง ยกเว้นเธอ

    “ละ แล้วที่นี่มีโกสไหมคะ” เอวาถามต่อ

    “โกสอะไรครับ” พนักงานยกกระเป๋าทำหน้างงเล็กน้อย

    “หมายถึงผีค่ะ โรงแรมนี้มีผีมั้ย”

    “ผมเองก็ยังไม่เคยเจอเลยครับ ไว้เจอแล้วจะมาบอกนะ”

    “อ้าวคุณ!”

    “พูดเล่นครับ ไม่มีผีหรอก ที่นี่เป็นโรงแรมเปิดใหม่ ถ้าเจอผีมาบอกผมได้เลย เดี๋ยวผมไปจัดการให้ครับ”

    “อะ…เอ่อค่ะ ขอบคุณค่ะ!”

    เนื่องจากโรงแรมเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แถมยังเป็นช่วงโลวซีซั่น จึงทำให้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเข้าพักสักเท่าไหร่ ซึ่งเอวาก็เข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะเธอเองก็เคยทำงานในสายงานบริการเช่นกัน เธอพยายามคิดในแง่บวก ไหน ๆ มาเที่ยวทั้งทีแถมทั้งโรงแรมมีเธอเป็นแขกแค่คนเดียวแบบนี้ก็คิดเสียว่าเธอเหมาโรงแรมเพื่อทริปครั้งนี้เลยแล้วกัน

    และการที่เธอมาเที่ยวช่วงโลวซีซั่นแบบนี้นอกจากจะได้ส่วนลดห้องพักแบบจุก ๆ แล้ว เธอยังได้บัตรกำนัลบริการเสริมส่วนอื่น ๆ ของโรงแรมอีกด้วยโดยที่ไม่ต้องจ่ายส่วนต่างใด ๆ เพิ่มเติมเลยแม้แต่บาทเดียว

    เมื่อเช็คอินเสร็จ เอวาก็เดินไปที่ห้องพักทันที โดยมีพนักงานยกกระเป๋าคนเดิมเดินติดตามถือกระเป๋าไปส่งเธอที่หน้าห้องพักด้วย ซึ่งชั้นที่เธอจองนั้นอยู่ชั้น 3 แต่ได้ทำการอัพเกรดเป็นชั้น 6 แทน ซึ่งจะเป็นห้องที่ค่อนข้างครบครันกว่าเดิมและเธอมาพักหลายวัน การที่โรงแรมมีส่วนลดเพิ่มให้อีก เธอจึงไม่ลังเลที่จะอัพเกรดห้องใหม่ในทันที

    “ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ”

    เมื่อทั้งสองเดินมาถึงหน้าห้องพัก เอวาก็เอ่ยขอบคุณเขาทันที ถึงแม้โรงแรมมันจะดูวังเวงไปหน่อย เพราะไม่มีแขกห้องอื่นมาพักเลย แต่อย่างน้อย ๆ ก็ยังมีพนักงานเดินไปเดินมาให้เธอได้พออุ่นใจ...

    “อย่าลืมนะครับ ถ้าเจอผีมาบอกผมได้ ฮ่า ๆ”

    แล้วเขาก็ไม่วายที่จะอำเธอเรื่องนี้อีกครั้งก่อนที่จะเดินจากไป

    เอวาเดินลากกระเป๋าเข้ามาภายในห้องพัก เธอกวาดสายตามองไปทั่วทุกมุมห้องและยกยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ภายในประดับตกแต่งอย่างสวยงามอย่างที่เธอคาดหวัง คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เธอตัดสินใจอัพเกรดห้องใหม่ และเธอหวังว่าทริปนี้จะเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีสำหรับเธอ

    ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

    ยังไม่ทันได้จัดข้าวของเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย เสียงเคาะประตูจากทางด้านหน้าห้องพักก็ดังขึ้นสามครั้งติดกัน จนทำให้เธอสะดุ้งตกใจ

    “ใครมาเคาะอีกล่ะเนี่ย!”

    เอวาเดินบ่นพึมพำไปจนถึงหน้าประตูห้อง เพราะแทนที่เธอจะได้พักผ่อนจากการเดินทางที่ค่อนข้างยาวนานหลายชั่วโมง แต่ก็ดันมีใครมาขัดจังหวะช่วงเวลาอันแสนพิเศษซะงั้น

    “จะมาอำเรื่องผีอีกแน่ ๆ”

    เธอเดาว่าคงจะเป็นพนักงานยกกระเป๋าคนเดิมที่เพิ่งเดินจากไป เขาอาจจะลืมของบางอย่างหรืออาจจะลืมบอกเรื่องสำคัญบางเรื่องก็เป็นได้ เธอคิดในใจพลางส่องลอดตาแมวและมองออกไปด้านนอกห้องทันที

    “...” แต่ทว่าสิ่งที่พบก็มีแต่เพียงความว่างเปล่า คิ้วสวยขมวดเข้าหากันด้วยความงุนงงเล็กน้อย หรือว่าเธอจะหูแว่วไปเองว่ามีใครสักคนมาเคาะประตูหน้าห้อง แต่เธอก็ไม่ได้กลัวผีจนถึงขั้นหลอนขึ้นสมองพลางคิดไปเองขนาดนั้นนะ แล้วเมื่อกี้เธอได้ยินเสียงอะไร

    ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

    เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นอีกครั้ง...

    ร่างบางยืนนิ่งอยู่สักพักใหญ่ ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเดินไปส่องตาแมวอีกครั้งด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ และมันก็เป็นเช่นเดิม ด้านหน้าห้องพักของเธอนั้นมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีพนักงานยกกระเป๋าคนนั้นหรือพนักงานคนไหนเลยสักคนและประตูก็ยังคงถูกเคาะอยู่

    “...นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย”

    จะว่ากลัวผีเธอก็กลัว แต่การเคาะไม่หยุดจนทำให้เธอไม่ได้พักผ่อนกับทริปที่คาดหวังเอาไว้ เริ่มจะทำให้เธอหงุดหงิดเต็มทน

    “ผีก็ผีเถอะ แม่จะด่าให้กลับหลุมไม่ถูกเลย”

    ผ่างงง!!

    ว่าพลางเอื้อมมือเรียวสวยไปเปิดประตูห้องออก พร้อมที่จะด่าสิ่งลี้ลับด้านหน้าประตูเหตุเพราะมารบกวนเวลาพักผ่อนของเธอ แต่เมื่อประตูถูกเปิดออก เธอก็ต้องตกใจกับสิ่งตรงหน้าทันที...

    “กรี๊ดดดดดดดดด ผะ ผะ...ผีเด็ก!!”

    เธอกรีดร้องสุดเสียงทันทีเมื่อได้เห็นเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม ผิวพรรณซีดเซียวอายุราว ๆ หกขวบกำลังแหงนหน้าจ้องมองมาที่ใบหน้าของเธออยู่อย่างน่าเวทนา ในอ้อมแขนของเด็กน้อยมีตุ๊กตาหมีสีชมพูขนาดกำลังเหมาะสำหรับเด็กตัวเท่าเธอ เธอกอดมันไว้แน่น และบีบแขนตุ๊กตาหมีตัวนั้นด้วยความสั่นกลัว

     

    “พี่สาวเห็นป่าป๊าหนูบ้างไหมคะ ฮือออ”

     


     

    ฝากกด ❤️ กดเก็บเข้าชั้น และกดติดตาม นามปากกา เพชรลลินณ์ ด้วยนะคะ กราบบบ

    หรือจะแวะมาพูดคุยกันก็ได้น้าาา ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบค่ะ :)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×