ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : น้ำตาของแพนซี่
Chapter2:น้ำตาของแพนซี่
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ดัมเบิลดอร์ได้จากโลกนี้ไปแล้ว2วันต่อมา ได้มีการจัดงานศพของดัมเบิลดอร์ขึ้น เพื่อไว้อาลัยและแสดงความเคารพครั้งสุดท้าย มีพ่อมดแม่มดและทุกคนในโลกเวทมนต์จากทั่วทุกสารทิศต่างหลั่งไหลกันมาร่วมงาน
บรรยากาศในห้องโถงใหญ่ดูผิดไปจากทุกวัน ทุกคนสวมใส่เสื้อคลุมสีดำสนิทที่ดูทุกข์หนัก ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่มีเสียงพูดคุยดังแต่ก่อน มีแต่เสียงผู้คนกระซิบกระซาบเล่าสู่กันฟัง เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ2วันก่อน กลุ่มเด็กนักเรียนหญิงบ้านสลิธีรินก็เช่นกัน พวกเธอกำลังจับกลุ่มฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัอย่างเงียบเชียบ เว้นแต่แพนซี่คนเดียวที่ไม่เข้าไปแจมด้วยอย่างที่เคยเป็น ไดอานาจึงเดินออกจากกลุ่มไหแพนซี่ เธอรู้ดีว่าเพื่อนสนิทของเธอกำลังรู้สึกอย่างไร และต้องการมีคนปลอบประโลม
"พาร์กินสันทำไมไม่ไปคุยกับพวกเราล่ะ ฮึ...."
ไดอานาถามด้วยความเป็นห่วง แพนซี่สะดุ้งเล็กน้อย
"ชั้น....เอ่อ....ชั้นยังไม่อยากคุยกับใครน่ะ......"
"ไม่หรอก...พาร์กินสัน....ชั้นว่า...เธอน่ะ...เอ่อ......"ไดอานากตะกุกตะกัก ทำให้แพนซี่ขมวดคิ้วและมองหน้าไดอานาอย่างสงสัยว่าเพื่อนของเธอกำลังบอกอะไรเธอ
"อะไรล่ะมาร์น๊อค ชั้นทำไมเหรอ?"
"เอ่อ............."
"นี่มัวแต่เอ่อๆๆๆๆๆอยยู่ได้รรีบพูดมาซิ"แพนซี่ชักรำคาญ แต่ก่อนที่ไดอานาจะปริปากพูด..........
เก้งๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงเคาะแก้วของศจ.มักกอนนากัลดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าเธอกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง
"ใกล้ถึงเวลาแล้ว"มักกอนากัลกล่าวอย่างเศร้าๆ"กรุณาตามอาจารย์ประจำบ้านของเธฮไปที่สนาม กริฟฟินดอร์ ตามฉันมา"
จากนั้นแพนซี่และเด็กนักเรียนคนอื่นๆก็ค่อยๆเดินเรียงแกวตามอาจารย์ประจำบ้านของตนไป
ที่สนาม อย่างเงียบกริบ ไม่มีการพูดคุยกัน แพนซี่รู้สึกแปลกใจสังเกตุเห็น ศจ.เสปราต์ที่แต่งตัวสะอาดสะอ้านและดูเป็นทางการ แต่นั่นเธอก็ไม่รู้สึกแปลกใจ เท่าข่าวหนังสือพิมพ์ที่เธอได้อ่านไปเมื่อวันก่อนหรอก
---------------------------------------------
ดัมเบิลดอร์สิ้นชีพ ฆาตกรเสนป ทายาทตระกูลมัลฟอยหายสาปสูญ
ดัมเบิลดอร์ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนฮอกวอตส์และฯลฯ เสียชีวิตแล้ว ด้วยน้ำมือของเซเวอร์รัส เสนป อดีตอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดและปรุงยาของโรงเรียนฮอกวอตส์ ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการฆาตกรรมแล้ว จากการสอบปากคำสมาชิกองค์กรลับภาคีนกฟีนิกซ์บางคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น พบว่าเสนปหนีหายสาปสูญไปพร้อมกับ เดรโก มัลฟอย ทายาทตะกูลมัลฟอย วัย17 ปีแล้ว อ่านต่อหน้า13
---------------------------------------------
ไม่ต้องพลิกไปอ่านต่อหน้า13เธอก็รู้และเข้าใจความจริงที่แสนจะร้ายกาจ ที่แสนจะเชือดเฉือนหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้เจ็บปวดรวดร้าวยิ่งไปกว่าถูกคมหอกคมดาบว่า
........เดรโกได้จากเธอไปแล้ว และอาจจะไม่มีวันหวนกลับมาได้อีก อาจจะไม่มีวันนั้นที่เขาและเธอจะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน..........ไม่มีอีกแล้วคนที่จะคอยปลอบโยนเธอยามที่เธอร้องไห้.........ไม่มีอีกแล้วคนที่จะคอยเป็นเพื่อนยามเหงา เวลาไม่มีใคร....ไม่มีอีกแล้วไออุ่นประหลาดๆที่ยามเธออยู่ใกล้ชิดกับเขา เธอจะรู้สึกมันได้ดี...............
แพนซี่ฟื้นจากพะวงอันแสนเศร้าเมื่อไดอานาถองเบาๆที่สีข้าง น้ำตาอุ่นๆค่อยๆไหลรินอออกมาจากดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตาของเธอ สู่แก้มขาวซีดที่บัดนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความเศร้า......
ทุกคนมุ่งหน้าไปยังบริเวณทะเลสาปซึ่งมีเก้าอี้มากมายหลายร้อยที่จัดไว้สำหรับกลุ่มคน
มากมายที่จะมารวมตัวกันเพื่อแสดงความเคารพต่อดัมเบิลดอร์เป็นครั้งสุดท้าย
แพนซี่และเพื่อนๆของเธอเลือกนั่งปลายๆแถวกลางซึ่งมีพุ่มดอกฟอร์เก็ตมีน็อตที่กำลังออ
อกดอกสีฟ้าบานสะพรั่ง ผู้คนเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนจะมากมายขึ้นทุกทีๆ.....
แล้วรูฟัส สคริมเจอร์และผู้อาวุโสและ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงค่อยๆทยอยกันมา แพนซี่สังเกตุเห็น คอนีเลียส ฟัดจ์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนต์ค่อยๆเดินไปนั่งที่แถวหน้าอย่างช้าๆ สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก ถัดมาคือ ริต้า สกีตเตอร์ นักหนังสือพิมพ์จากเดลี่พรอเฟ็ตที่กำสมุดโน๊ตไว้ในมือตามเคย จากนั้น โดโรเลส อัมบริสจ์ ก็เดินมาด้วยสีหน้าอาลัยอาวรณ์อย่างไม่สมจริง.....และจากนั้น เซอร์วิลเลียม พาร์กินสัน
และ เลดี้วิกตอเรีย พาร์กินสัน ...พ่อและแม่ของแพนซี่ ก็เดินผ่านไปนั่งที่แถวหน้า โดยไม่ทันได้สังเกตุเห็นลูกสาวคนเดียวของพวกเขา..........
เมื่อทุกคนนั่งลงเรียบร้อยแล้ว งานศพก็ได้เริ่มขึ้นด้วยเสียงร้องโหยหวนของชาวเงือกที่สะท้อนให้เห็นความรู้สึกของผู
้ร้องได้ดี......แล้วแฮร์กริดก็เดินมาพร้อมกับวางห่อผ้ากำมะหยี่สีม่วงปักเลื่อมดาวทองลงบนโต๊ะ ซึ่งหล่ยๆคนรู้ดีว่าคือร่างของดัมเบิลดอร์ แพนซี่แทบไม่อยากจะเชื่อว่าดัมเบิลดอร์ตายไปแล้ว แล้วคนที่ทำการฆาตกรรมเขาก็คือ อาจารย์คนหนึ่งที่เธอค่อนข้างยกย่องนับถือ
แล้วชายร่างเล็กที่ใส่เสื้อคลุมสีดำเรียบๆก็ลุกขึ้น เขามีลักษณะที่น่าขันเล็กน้อย เพื่อนๆของแพนซี่ต่างหัวเราะกคิกคักเมื่อเห็นชายคนนั้น เว้นแต่เธอ......เธอไม่มีความรู้สึกแล้วนี่...........เธอรู้แค่ว่าน้ำตาอุ่นๆกำลังไหลออกมาจากดวงตาราวกับสายธารา โดยไม่มีเพื่อนคนไหนสังเกคุเห็น..... เธอรู้สึกว่างเปล่า.....ทุกสิ่งทุกอย่างจบสิ้นแล้วสำหรับเธอ......เธอไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกแล้ว......อยากจะรับรู้เพียงว่าสิ่งที่เกดขึ้นตอนนี้เป็นความฝัน และเมื่อเธอตื่นขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม.........แต่ทว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เป็นความฝัน มันคือเรื่องจริง...........เดรโกตอนนี้เธออยู่ที่ไหนนะ........
กว่าแพนซี่จะฟื้นขึ้นมาจากพะวงได้จู่ๆผู้คนก็ต่างพากันกรีดร้อง ไม่รู้เพราะอะไร เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอถึงรู้ว่า เพราะอะไร มีควันสีขาวที่กำลังหมุนเป็นเกลียวอย่างบ้าคลั่งขึ้นไปบนอากาศและก่อตัวเป็นรูปร่าง รอบๆร่างของดัมเบิลดอร์ และฉับพลันสุสานหินอ่อนสีขาว ก็ปรากฎขึ้นมา
ผู้คนกรีดเสียงร้องอีกครั้งเมื่อเหล่าเซ็นทอร์ต่างพร้อมใจยิงธนูขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วค่อยๆหายเข้าไปในพุ่มพรรณพฤษา ชาวเงือกก็ดูเหมือนจะกลับลงไปยังวังใต้ท้องทะเลสาปแล้วเหมือนกัน การแสดงความคารพครั้งสุดท้ายต่อหน้าดัมเบิลดอร์ได้สิ้นสุดลงแล้ว ผู้คนต่างพากันแยกย้ายกลับถิ่นฐานของตนเช่นเดียวกับเซ็นทอร์และชาวเงือก
แพนซี่ เดินแยกกับกลุ่มเพื่อนของเธฮอย่างล่องลอยกลับไปยังปราสาท และคิดว่าพ่อและแม่ของเธอคงจะรออยู่ที่ห้องทำงานของซลักฮอร์น และก็เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ ซลักฮอร์นกำลังพูดคุยกับพ่อและแม่ของเธอตามประสาอาจารย์กับศิษย์เก่าที่ไม่ได้เจอกัน
นาน
"วิลเลี่ยม ฉันได้ข่าวว่าตอนนี้เธอเป็นท่านเซอร์แล้วใช่มั้ย"ซลักฮอร์นถาม
"ใช่ครับอาจารย์ ผมได้รับตำแหน่งนี้สืบทอดจากพ่อของผม"พ่อของแพนซี่หรือเซอร์วิลเลียมตอบ
"แล้วเธอก็เลยได้เป็นเลดี้ด้วยใช่มั้ยวิกตอเรีย"ซลักฮอร์นถามแม่ของเธอ
"ใช่ค่ะอาจารย์"
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ใครน่ะ" ซลักฮอร์นละจากพ่อแม่ของเธอ และเดินไปที่ประตู
"หนูเองค่ะอาจารย์ แพนซี่ พาร์กินสัน ขอเข้าไปหน่อยได้มั้ยคะ?"แพนซี่ถาม
ซลักฮอร์นส่องดูที่รูประตูอีกทีก่อนจะแน่ใจว่าเป็นแพนซี่จริงๆ แล้วเขาก็เปิดประตูให้เธอเข้ามา
"เข้ามาซิมิสพาร์กินสัน ชั้นกำลังคุยกับพ่อแม่เธออยู่พอดี"สลักฮอร์นเชิญชวนตามมรรยาท แล้วเธอก็เดินเข้าไป และพบว่าพ่อกับแม่ของเธอรออยู่ที่นี่จริงๆ แล้วแพนซี่ก็วิ่งไปกอดและจูบแก้มแม่และแม่ของเธอด้วยความคิดถึง
"คุณพ่อขา คุณแม่ขา♥คิดถึงจังเลย มารับหนูกลับบ้านเหรอคะ"
"จ๊ะ แม่กับพ่อก็คิดถึงลูกเหมือนกันจ๊ะ เมื่อกี้เพิ่งคุยกับ ศจ.สลักฮอร์นมา อ้อลืมไป อาจารย์คะเด็กคนนี้ก่อวีรกรรมอะไรไว้บ้างคะ?"แม่ของเธอถาม
"55555สบายใจได้วิลเลียม วิกตอเรีย ลูกของพวกเธอไม่ได้ก่อวีรกรรมอะไรท้งนั้น แต่ตั้งใจเรียนมากแทบ ไม่คุยกับใครระหว่างเรียนเลยล่ะ"สลักฮอร์นตอบตามความจริง
"5555จริงเหรอครับอาจารย์ อาจารย์ดูผิดหรือปล่าว"วิลเลียมแซวลูกสาวเล่น
"พ่ออ่ะ "แพนซี่ค้อนใส่พ่อของเธอ ที่กำลังหัวเราะกระเซ้าเธออยู่
"พ่อล้อเล่นน่าแพนซี่ พ่อรู้ว่าลูกป็นเด็กดี มากลับบ้านได้แล้ว"วิลเลียมบอกแล้วทั้ง3พ่อแม่ลูกก็บอกลาสลักฮอร์น และเดินมุ่งหน้าไปยังถนนสายหนึ่งในหมู่บ้านฮอกมี้ดโดยมีมือปราบมใร2-3คนคอยคุ้มกัน และขึ้นรถคันหรูบึ่งออกจากหมู่บ้านไป แพนซี่เหลียวหลังไปมองปราสาทเป็นระยะๆจนกระทั่งปราสาทฮอกวอตส์หายลับสายตาไป..............
§ § § § ♀♀♀♀♀§§§§
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ดัมเบิลดอร์ได้จากโลกนี้ไปแล้ว2วันต่อมา ได้มีการจัดงานศพของดัมเบิลดอร์ขึ้น เพื่อไว้อาลัยและแสดงความเคารพครั้งสุดท้าย มีพ่อมดแม่มดและทุกคนในโลกเวทมนต์จากทั่วทุกสารทิศต่างหลั่งไหลกันมาร่วมงาน
บรรยากาศในห้องโถงใหญ่ดูผิดไปจากทุกวัน ทุกคนสวมใส่เสื้อคลุมสีดำสนิทที่ดูทุกข์หนัก ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่มีเสียงพูดคุยดังแต่ก่อน มีแต่เสียงผู้คนกระซิบกระซาบเล่าสู่กันฟัง เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ2วันก่อน กลุ่มเด็กนักเรียนหญิงบ้านสลิธีรินก็เช่นกัน พวกเธอกำลังจับกลุ่มฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัอย่างเงียบเชียบ เว้นแต่แพนซี่คนเดียวที่ไม่เข้าไปแจมด้วยอย่างที่เคยเป็น ไดอานาจึงเดินออกจากกลุ่มไหแพนซี่ เธอรู้ดีว่าเพื่อนสนิทของเธอกำลังรู้สึกอย่างไร และต้องการมีคนปลอบประโลม
"พาร์กินสันทำไมไม่ไปคุยกับพวกเราล่ะ ฮึ...."
ไดอานาถามด้วยความเป็นห่วง แพนซี่สะดุ้งเล็กน้อย
"ชั้น....เอ่อ....ชั้นยังไม่อยากคุยกับใครน่ะ......"
"ไม่หรอก...พาร์กินสัน....ชั้นว่า...เธอน่ะ...เอ่อ......"ไดอานากตะกุกตะกัก ทำให้แพนซี่ขมวดคิ้วและมองหน้าไดอานาอย่างสงสัยว่าเพื่อนของเธอกำลังบอกอะไรเธอ
"อะไรล่ะมาร์น๊อค ชั้นทำไมเหรอ?"
"เอ่อ............."
"นี่มัวแต่เอ่อๆๆๆๆๆอยยู่ได้รรีบพูดมาซิ"แพนซี่ชักรำคาญ แต่ก่อนที่ไดอานาจะปริปากพูด..........
เก้งๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงเคาะแก้วของศจ.มักกอนนากัลดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าเธอกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง
"ใกล้ถึงเวลาแล้ว"มักกอนากัลกล่าวอย่างเศร้าๆ"กรุณาตามอาจารย์ประจำบ้านของเธฮไปที่สนาม กริฟฟินดอร์ ตามฉันมา"
จากนั้นแพนซี่และเด็กนักเรียนคนอื่นๆก็ค่อยๆเดินเรียงแกวตามอาจารย์ประจำบ้านของตนไป
ที่สนาม อย่างเงียบกริบ ไม่มีการพูดคุยกัน แพนซี่รู้สึกแปลกใจสังเกตุเห็น ศจ.เสปราต์ที่แต่งตัวสะอาดสะอ้านและดูเป็นทางการ แต่นั่นเธอก็ไม่รู้สึกแปลกใจ เท่าข่าวหนังสือพิมพ์ที่เธอได้อ่านไปเมื่อวันก่อนหรอก
---------------------------------------------
ดัมเบิลดอร์สิ้นชีพ ฆาตกรเสนป ทายาทตระกูลมัลฟอยหายสาปสูญ
ดัมเบิลดอร์ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนฮอกวอตส์และฯลฯ เสียชีวิตแล้ว ด้วยน้ำมือของเซเวอร์รัส เสนป อดีตอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดและปรุงยาของโรงเรียนฮอกวอตส์ ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการฆาตกรรมแล้ว จากการสอบปากคำสมาชิกองค์กรลับภาคีนกฟีนิกซ์บางคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น พบว่าเสนปหนีหายสาปสูญไปพร้อมกับ เดรโก มัลฟอย ทายาทตะกูลมัลฟอย วัย17 ปีแล้ว อ่านต่อหน้า13
---------------------------------------------
ไม่ต้องพลิกไปอ่านต่อหน้า13เธอก็รู้และเข้าใจความจริงที่แสนจะร้ายกาจ ที่แสนจะเชือดเฉือนหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้เจ็บปวดรวดร้าวยิ่งไปกว่าถูกคมหอกคมดาบว่า
........เดรโกได้จากเธอไปแล้ว และอาจจะไม่มีวันหวนกลับมาได้อีก อาจจะไม่มีวันนั้นที่เขาและเธอจะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน..........ไม่มีอีกแล้วคนที่จะคอยปลอบโยนเธอยามที่เธอร้องไห้.........ไม่มีอีกแล้วคนที่จะคอยเป็นเพื่อนยามเหงา เวลาไม่มีใคร....ไม่มีอีกแล้วไออุ่นประหลาดๆที่ยามเธออยู่ใกล้ชิดกับเขา เธอจะรู้สึกมันได้ดี...............
แพนซี่ฟื้นจากพะวงอันแสนเศร้าเมื่อไดอานาถองเบาๆที่สีข้าง น้ำตาอุ่นๆค่อยๆไหลรินอออกมาจากดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตาของเธอ สู่แก้มขาวซีดที่บัดนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความเศร้า......
ทุกคนมุ่งหน้าไปยังบริเวณทะเลสาปซึ่งมีเก้าอี้มากมายหลายร้อยที่จัดไว้สำหรับกลุ่มคน
มากมายที่จะมารวมตัวกันเพื่อแสดงความเคารพต่อดัมเบิลดอร์เป็นครั้งสุดท้าย
แพนซี่และเพื่อนๆของเธอเลือกนั่งปลายๆแถวกลางซึ่งมีพุ่มดอกฟอร์เก็ตมีน็อตที่กำลังออ
อกดอกสีฟ้าบานสะพรั่ง ผู้คนเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนจะมากมายขึ้นทุกทีๆ.....
แล้วรูฟัส สคริมเจอร์และผู้อาวุโสและ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงค่อยๆทยอยกันมา แพนซี่สังเกตุเห็น คอนีเลียส ฟัดจ์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนต์ค่อยๆเดินไปนั่งที่แถวหน้าอย่างช้าๆ สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก ถัดมาคือ ริต้า สกีตเตอร์ นักหนังสือพิมพ์จากเดลี่พรอเฟ็ตที่กำสมุดโน๊ตไว้ในมือตามเคย จากนั้น โดโรเลส อัมบริสจ์ ก็เดินมาด้วยสีหน้าอาลัยอาวรณ์อย่างไม่สมจริง.....และจากนั้น เซอร์วิลเลียม พาร์กินสัน
และ เลดี้วิกตอเรีย พาร์กินสัน ...พ่อและแม่ของแพนซี่ ก็เดินผ่านไปนั่งที่แถวหน้า โดยไม่ทันได้สังเกตุเห็นลูกสาวคนเดียวของพวกเขา..........
เมื่อทุกคนนั่งลงเรียบร้อยแล้ว งานศพก็ได้เริ่มขึ้นด้วยเสียงร้องโหยหวนของชาวเงือกที่สะท้อนให้เห็นความรู้สึกของผู
้ร้องได้ดี......แล้วแฮร์กริดก็เดินมาพร้อมกับวางห่อผ้ากำมะหยี่สีม่วงปักเลื่อมดาวทองลงบนโต๊ะ ซึ่งหล่ยๆคนรู้ดีว่าคือร่างของดัมเบิลดอร์ แพนซี่แทบไม่อยากจะเชื่อว่าดัมเบิลดอร์ตายไปแล้ว แล้วคนที่ทำการฆาตกรรมเขาก็คือ อาจารย์คนหนึ่งที่เธอค่อนข้างยกย่องนับถือ
แล้วชายร่างเล็กที่ใส่เสื้อคลุมสีดำเรียบๆก็ลุกขึ้น เขามีลักษณะที่น่าขันเล็กน้อย เพื่อนๆของแพนซี่ต่างหัวเราะกคิกคักเมื่อเห็นชายคนนั้น เว้นแต่เธอ......เธอไม่มีความรู้สึกแล้วนี่...........เธอรู้แค่ว่าน้ำตาอุ่นๆกำลังไหลออกมาจากดวงตาราวกับสายธารา โดยไม่มีเพื่อนคนไหนสังเกคุเห็น..... เธอรู้สึกว่างเปล่า.....ทุกสิ่งทุกอย่างจบสิ้นแล้วสำหรับเธอ......เธอไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกแล้ว......อยากจะรับรู้เพียงว่าสิ่งที่เกดขึ้นตอนนี้เป็นความฝัน และเมื่อเธอตื่นขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม.........แต่ทว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เป็นความฝัน มันคือเรื่องจริง...........เดรโกตอนนี้เธออยู่ที่ไหนนะ........
กว่าแพนซี่จะฟื้นขึ้นมาจากพะวงได้จู่ๆผู้คนก็ต่างพากันกรีดร้อง ไม่รู้เพราะอะไร เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอถึงรู้ว่า เพราะอะไร มีควันสีขาวที่กำลังหมุนเป็นเกลียวอย่างบ้าคลั่งขึ้นไปบนอากาศและก่อตัวเป็นรูปร่าง รอบๆร่างของดัมเบิลดอร์ และฉับพลันสุสานหินอ่อนสีขาว ก็ปรากฎขึ้นมา
ผู้คนกรีดเสียงร้องอีกครั้งเมื่อเหล่าเซ็นทอร์ต่างพร้อมใจยิงธนูขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วค่อยๆหายเข้าไปในพุ่มพรรณพฤษา ชาวเงือกก็ดูเหมือนจะกลับลงไปยังวังใต้ท้องทะเลสาปแล้วเหมือนกัน การแสดงความคารพครั้งสุดท้ายต่อหน้าดัมเบิลดอร์ได้สิ้นสุดลงแล้ว ผู้คนต่างพากันแยกย้ายกลับถิ่นฐานของตนเช่นเดียวกับเซ็นทอร์และชาวเงือก
แพนซี่ เดินแยกกับกลุ่มเพื่อนของเธฮอย่างล่องลอยกลับไปยังปราสาท และคิดว่าพ่อและแม่ของเธอคงจะรออยู่ที่ห้องทำงานของซลักฮอร์น และก็เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ ซลักฮอร์นกำลังพูดคุยกับพ่อและแม่ของเธอตามประสาอาจารย์กับศิษย์เก่าที่ไม่ได้เจอกัน
นาน
"วิลเลี่ยม ฉันได้ข่าวว่าตอนนี้เธอเป็นท่านเซอร์แล้วใช่มั้ย"ซลักฮอร์นถาม
"ใช่ครับอาจารย์ ผมได้รับตำแหน่งนี้สืบทอดจากพ่อของผม"พ่อของแพนซี่หรือเซอร์วิลเลียมตอบ
"แล้วเธอก็เลยได้เป็นเลดี้ด้วยใช่มั้ยวิกตอเรีย"ซลักฮอร์นถามแม่ของเธอ
"ใช่ค่ะอาจารย์"
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ใครน่ะ" ซลักฮอร์นละจากพ่อแม่ของเธอ และเดินไปที่ประตู
"หนูเองค่ะอาจารย์ แพนซี่ พาร์กินสัน ขอเข้าไปหน่อยได้มั้ยคะ?"แพนซี่ถาม
ซลักฮอร์นส่องดูที่รูประตูอีกทีก่อนจะแน่ใจว่าเป็นแพนซี่จริงๆ แล้วเขาก็เปิดประตูให้เธอเข้ามา
"เข้ามาซิมิสพาร์กินสัน ชั้นกำลังคุยกับพ่อแม่เธออยู่พอดี"สลักฮอร์นเชิญชวนตามมรรยาท แล้วเธอก็เดินเข้าไป และพบว่าพ่อกับแม่ของเธอรออยู่ที่นี่จริงๆ แล้วแพนซี่ก็วิ่งไปกอดและจูบแก้มแม่และแม่ของเธอด้วยความคิดถึง
"คุณพ่อขา คุณแม่ขา♥คิดถึงจังเลย มารับหนูกลับบ้านเหรอคะ"
"จ๊ะ แม่กับพ่อก็คิดถึงลูกเหมือนกันจ๊ะ เมื่อกี้เพิ่งคุยกับ ศจ.สลักฮอร์นมา อ้อลืมไป อาจารย์คะเด็กคนนี้ก่อวีรกรรมอะไรไว้บ้างคะ?"แม่ของเธอถาม
"55555สบายใจได้วิลเลียม วิกตอเรีย ลูกของพวกเธอไม่ได้ก่อวีรกรรมอะไรท้งนั้น แต่ตั้งใจเรียนมากแทบ ไม่คุยกับใครระหว่างเรียนเลยล่ะ"สลักฮอร์นตอบตามความจริง
"5555จริงเหรอครับอาจารย์ อาจารย์ดูผิดหรือปล่าว"วิลเลียมแซวลูกสาวเล่น
"พ่ออ่ะ "แพนซี่ค้อนใส่พ่อของเธอ ที่กำลังหัวเราะกระเซ้าเธออยู่
"พ่อล้อเล่นน่าแพนซี่ พ่อรู้ว่าลูกป็นเด็กดี มากลับบ้านได้แล้ว"วิลเลียมบอกแล้วทั้ง3พ่อแม่ลูกก็บอกลาสลักฮอร์น และเดินมุ่งหน้าไปยังถนนสายหนึ่งในหมู่บ้านฮอกมี้ดโดยมีมือปราบมใร2-3คนคอยคุ้มกัน และขึ้นรถคันหรูบึ่งออกจากหมู่บ้านไป แพนซี่เหลียวหลังไปมองปราสาทเป็นระยะๆจนกระทั่งปราสาทฮอกวอตส์หายลับสายตาไป..............
§ § § § ♀♀♀♀♀§§§§
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น