ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END) Prince of tennis | 7 days with YOU (Ryoma x Sakuno)

    ลำดับตอนที่ #6 : Friday

    • อัปเดตล่าสุด 27 มิ.ย. 64


    Day 5

    Ryoma Part 

     

    “ซากุโนะเอ้ย เมื่อวานร้องไห้หนักขนาดไหนกันเนี่ย” อาจารย์ริวซากิพูดกับยัยเปียที่นอนซมอยู่บนเตียง ข้างๆยัยนั่นก็คือผมที่นอนเฝ้าอยู่ เพราะเมื่อวานยัยริวซากิร้องไห้หน้าหลุมศพพ่อแม่เธอมากเกินไปจนไข้ขึ้น วันนี้อาจารย์ริวซากิเลยต้องหยุดงาน 1 วันเพื่อมาดูแลยัยนี่ ผมเอามือไปแตะที่หน้าผากเธอ ตัวเธอยังร้อนอยู่เลย

    “เมี้ยว”

    “หนูไม่ได้ร้องไห้เลยนะคะคุณย่า” อาจารย์ริวซากิคงเชื่อเธอหรอกนะยัยเปีย ในเมื่อตาเธอบวมขนาดนี้ “ฮารุคุงห่วงฉันหรอ~”

    “ยังจะมาเถียงอีกนะ ดูสิตาบวมแถมตัวยังร้อนจี๋เลย” 

    “หนูขอโทษนะคะ เพราะหนู คะ-คุณย่าเลยลำบากอีกแล้ว” ยัยเปียทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกรอบ 

    “ลำบากอะไรกัน ดูแลเจ้าพวกตัวจริงเหนื่อยกว่านี้เยอะ” เอ่อ…ขอโทษนะครับที่พวกผมทำให้อาจารย์เหนื่อย 

    “นอนพักได้แล้วนะซากุโนะ ส่วนเจ้าฮารุ จะลงไปข้างล่างด้วยกันไหม” อาจารย์คลุมผ้าห่มให้ยัยริวซากิ ก่อนจะหันมาถามผม

    “เมี้ยว” ไม่อ่ะ 

    “ดื้อเหมือนเจ้านั่นจริงๆเลยนะ” อาจารย์ถอนหายใจใส่ผม 

    “เมี้ยว” อาจารย์ยังไม่ชินอีกหรอครับ

     

     

     

    หลังจากอาจารย์ริวซากิลงไปข้างล่างแล้ว ยัยริวซากิก็นอนหลับไปเรียบร้อย เมื่อวานหลังกลับมาจากไปเยี่ยมหลุมศพมา ริวซากิก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่ยอมออกมาข้างนอก ผมเลยเฝ้าอยู่หน้าห้องตลอดเพราะอดเป็นห่วงไม่ได้ แต่พออาจารย์ริวซากิกลับมา แกก็บอกผมว่า

     

    ‘ปล่อยไว้แบบนั้นแหละฮารุ คนเราบางทีก็ต้องการเวลาอยู่คนเดียวกันบ้างนะ ไว้ซากุโนะดีขึ้นแล้วเดี๋ยวก็จะออกมาเอง’

     

    ถามว่าผมฟังไหม แน่นอนเด็กดีที่สุดในชมรมเทนนิสเซย์งาคุแบบผมน่ะ หึ ไม่ฟังอาจารย์แกหรอก ผมก็นอนเฝ้าอยู่แบบนั้นจนริวซากิออกมาจากห้อง สภาพตอนออกมาของริวซากิผมนึกว่าศพเลยครับ ผมยาวๆที่ยัยนั่นชอบถักเปียไว้ถูกปล่อยสยายแถมดูยุ่งๆ ไหนจะตาบวมๆแดงๆจนเหมือนจะลืมตาไม่ได้อีก ดูก็รู้ว่าเธอน่าจะไม่ไหวแล้ว

    จนมาตอนเช้าที่ริวซากิไม่ได้ลุกมาทำอาหารเช้าแบบปกติเพราะป่วยจนลุกไม่ไหว อาจารย์เลยต้องขึ้นมาดูริวซากิถึงบนห้อง ก็นั่นแหละครับ ร้องไห้จนไข้ขึ้นสูงเลยล่ะ อาจารย์เลยต้องหยุดอยู่บ้านแล้วคอยมาดูแลริวซากิ

    ส่วนผมก็ทำตัวให้มีประโยชน์สุดๆด้วยการนอนเฝ้ายัยนี่ ทำไงได้อะครับ ในร่างแมวแบบนี้ก็ทำได้แค่นี้แหละ รอผมกลับร่างเดิมก่อนเถอะ ยัยนี่จะไม่ต้องร้องไห้คนเดียวแบบเมื่อวานอีก

     

     

     

    ตอนนี้ริวซากิหลับไปแล้ว คงเพราะพึ่งกินยาไปเมื่อกี้ ชอบทำให้คนอื่นเขาเป็นห่วงจริงๆเลยนะเธอนี่ ถนัดนักแหละที่ชอบทำให้คนอื่นใจเต้นด้วยรอยยิ้มหวานๆนั่นและทำให้ต้องคอยเป็นห่วงไปพร้อมๆกันได้เนี่ย

    “เรียวมะคุง” ดูสิ ริวซากิเผลอละเมอเรียกชื่อผมออกมาล่ะ

    “เมี้ยว” ไง ฉันอยู่นี่

    “เรียวมะ” 

    “เมี้ยว” คิดถึงฉันรึไงริวซากิ

    “คิดถึง” 

    “…” บ้าเอ้ยยยย 

    ผมเลิกสนใจริวซากิละหันไปมองรอบๆห้องแทน ถ้าเกิดยังสนใจอยู่ ผมว่าหัวใจผมต้องทำงานหนักเพราะยัยนี่อีกแน่ๆ ไม่ใช่ผมเขินนะ ทุกคนเชื่อผมใช่ไหมครับ! 

     

     

     

    ผมนอนมองไปรอบๆห้องของเธอ สภาพห้องของริวซากิจากที่เป็นระเบียบเรียบร้อยมีร่องรอยของการรื้อค้น เรียกว่าพายุลงเลยล่ะ ข้าวของกระจัดกระจายไปหมด เหมือนเมื่อวานยัยนี่จะรื้อของตอนที่ขังตัวเองไว้ในห้องแน่ๆ ผมกระโดดลงจากเตียงไปเดินสำรวจ เธอเปิดตู้เสื้อผ้าของเธอเอาไว้ ข้างในนอกจากเสื้อผ้าของริวซากิ ก็มีเสื้อผ้าผู้ชายกับผู้หญิงหนึ่งชุดโผล่ออกมาจากตู้ นั่นคงเป็นชุดของพ่อและแม่ของเธอ ผมเห็นมาตลอด เมื่อไรที่เธอว่างก็จะเอาออกมาดูไม่ก็เอาออกมารีด แม้ว่าเสื้อผ้ามันจะไม่ยับเลยสักนิดก็เถอะ 

    ‘เอาออกมารีดอีกแล้วหรอซากุโนะ’

    ‘ค่ะคุณย่า หนูอยากให้มันเรียบตลอดเวลาค่ะ’

    ‘แต่มันก็ไม่ยับเลยนะ เฮ้อเอาเถอะหลานคนนี้’

    ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์สูญเสียแบบเธอ ผมคงตัดสินไม่ได้หรอกว่าการกระทำของเธอมันเป็นยังไง แต่ถ้ามันทำให้เธอรู้สึกดี เธอมีความสุขที่จะทำก็ปล่อยให้เธอทำไปเถอะ มันคงเป็นวิธีรักษาจิตใจของเธอนั่นแหละ

     

     

     

    ผมเดินสำรวจต่อที่ชั้นวางหนังสือและพวกกรอบรูป พวกหนังสือบนตู้ไม่ได้มีการขยับเลยแต่ที่มันรกคงเพราะริวซากิเอาพวกอัลบั้มออกมาดูด้วยไงล่ะ อัลบั้มรูปวางกระจัดกระจายเต็มพื้นห้องไปหมด อัลบั้มแต่ละอันก็ขนาดใหญ่ๆทั้งนั้น พวกนี้มีกลิ่นของริวซากิอยู่ แต่ผมไม่มีแรงพอที่จะเปิดมันออกมาดูหรอก และจากที่ผมคิด ริวซากิคงเปิดอัลบั้มพวกนี้ดูและร้องไห้ไปด้วยสินะ เพราะตามขอบของอัลบั้มมีรอยน้ำตาอยู่เล็กน้อย บางอันมีกลิ่นของริวซากิชัดเจนคงเป็นเพราะเธอกอดพวกมันทั้งน้ำตา

    ผมเดินดูพวกมันทีละอัน บางอันมีเขียนไว้ที่หน้าปกว่า ‘คุณย่าและซากุโนะจัง’ ‘ซากุโนะและโทโมะจัง’ จนมาเจออัลบั้มที่ถูกเปิดไว้อยู่ หน้าที่เปิดค้างไว้เป็นรูปของพ่อแม่และเธอ มีรูปตอนเธอน่าจะอายุสัก 1 ขวบได้ เธอถูกอุ้มโดยแม่ของเธอ มีรูปที่เธอขี่หลังพ่อของเธอด้วย และนั่น! เป็นรูปที่เธอเข้าเรียนชั้นอนุบาลโดยมีคุณพ่อของเธอไปส่งที่โรงเรียน ในรูปพ่อของเธอกอดริวซากิไว้แน่น น้ำตาเต็มใบหน้าต่างจากริวซากิที่ยิ้มสดใสริบลับ โดยที่มีคุณยายยืนอยู่ข้างหลังทำสีหน้าหนักใจ ดูท่าตอนนั้นคุณพ่อคงไม่อยากห่างจากเธอสินะครับ ฮาฮ่า 

     

     

     

    และถัดมาคือโต๊ะหนังสือของเธอ กรอบรูปพ่อแม่ลูกที่ยัยนี่ชอบนั่งมองเวลาอ่านหนังสือถูกวางคว่ำหน้าลงกับโต๊ะ กรอบรูปนั่น ถ้าผมจำไม่ผิด มันคือรูปที่ริวซากิอยู่ในชุดยูคาตะพร้อมกับพ่อแม่ของเธอในบรรยากาศของงานเทศกาล แสงไฟจากงานเทศกาลยังสว่างสดใสไม่เท่ารอยยิ้มของทั้ง 3 คนในรูป เธอเคยบอกกับผมว่ากรอบรูปนี่เป็น

     

    ‘กำลังใจของฉันล่ะฮารุคุง’ 

     

    ถ้าให้ผมเดา ตอนที่เธอเข้ามาในห้อง เธอคงไม่อยากให้พ่อแม่เห็นว่าเธอร้องไห้ เธอเลยเลือกที่จะคว่ำรูปนั่นลงซะ นิสัยของยัยนี่ที่เป็นคนชอบทำอะไรซับซ้อน เหมือนตอนที่ส่งผมไปอเมริกา ในขณะที่เพื่อนและรุ่นพี่มาส่งผมกันครบแล้ว ยัยนี่กลับมาสายเพราะหาของให้ผมไม่ได้ จนสุดท้ายก็ได้ลูกเทนนิสที่เขียนว่า ‘ที่ 1 ของทั่วประเทศ’ มา แม้จะเขียนว่าทั่วประเทศ แต่ความหมายตามฉบับริวซากิคือทั่วประเทศที่เป็นนานาประเทศทั่วโลก หรือก็คือที่ 1 ของทั่วโลก

     

    ‘ถ้าเป็นเรียวมะคุงล่ะก็ต้องทำได้แน่!’

     

    แม้จะงงๆกับความหมายของมันไปบ้าง แต่ก็นะถ้าเป็นของที่ริวซากิให้ล่ะก็แปลว่ามันต้องผ่านการคิดมาอย่างดีแล้วไงล่ะ ไม่มีทางที่เธอจะเลือกของแย่ๆให้ผมหรือใครๆอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ 

     

    “!!!”

     

    และสายตาของผมดันไปสบเข้ากับลังกระดาษสีน้ำตาลขนาดใหญ่ใต้โต๊ะหนังสือของเธอเข้า ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนคงเป็นเพราะริวซากิซ่อนมันโดยที่เอาเก้าอี้มาบังมันไว้ตลอด ลังนั่นถูกเปิดทิ้งไว้อยู่ ผมเดินเข้าไปใกล้ๆมัน ลังนี่มีกลิ่นของริวซากิแรงมาก เธอคงคลุกอยู่กับพวกมันเมื่อวานสินะ แต่ลังมันใหญ่กว่าตัวผมมากๆทำให้ผมมองไม่เห็นของข้างในนั่น ทำไงดีนะ สงสัยก็สงสัย อยากรู้มากๆเลยล่ะ ถ้าแอบดูเธอจะโกรธรึเปล่านะ 

    ผมหันกลับไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียง ยัยนั่นหลับปุ๋ยอยู่ ขอโทษแต่ขอฉันดูหน่อยนะริวซากิ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมเลยเริ่มมองรอบๆตัว มีเก้าอี้ตั้งอยู่ เก้าอี้นี่ผมน่าจะพอกระโดดขึ้นไปได้นะ พอเป็นแมวแล้วมันลำบากจังแฮะ ของทุกอย่างมันดูใหญ่และสูงกว่าตัวไปเยอะ มีข้อดีแค่ตรงที่ตัวเบาอย่างเดียวเนี่ยแหละ

    ผมกระโดดขึ้นมาบนเก้าอี้ วิวที่มองจากตรงนี้สูงใช้ได้เลยล่ะ แต่มันก็ยังไม่เห็นข้างในลังนั่นอยู่ดี ใช้ไม่ได้เลยเรียวมะ! ผมกระโดดกลับไปที่พื้นใหม่ และเอาตัวผมดันเก้าอี้ให้มันไปใกล้ๆลัง โชคดีที่เก้าอี้ตัวนี้มีล้อเลื่อนอยู่ มันเลยง่ายกับผมเยอะ แต่มันก็แอบหนักอยู่ดี กว่าจะเลื่อนมันมาใกล้ลังได้ก็ทำผมเหนื่อยเหมือนกัน เมื่อได้มุมที่ต้องการแล้วผมก็กระโดดขึ้นไปบนเก้าอี้ใหม่ แต่รอบนี้เหมือนผมจะกระโดดแรงเกินไป เก้าอี้เจ้ากรรมมันเลยเคลื่อนที่ ทำเอาผมเซเสียหลักตกลงไปในลัง

    “แอ่ก!” เจ็บ! 

    ตอนนี้ผมเข้ามาอยู่ลังเรียบร้อยแล้วครับแม้จะรู้สึกเจ็บตัวนิดหน่อยก็เถอะ ของในนี้มีกลิ่นริวซากิชัดเจน กลิ่นหอมๆแบบดอกไม้ของยัยนั่น ผมไม่ได้โรคจิตนะครับ ตอนเป็นคนเวลาอยู่ใกล้ๆก็ได้กลิ่นอยู่หรอก แต่พอเป็นแมวประสาทสัมผัสมันดีขึ้นเยอะ เลยทำให้ได้กลิ่นอะไรๆชัดเจนขึ้น

     

     

    ผมเริ่มสำรวจของในลัง ในนี้มีกล่องเล็กกล่องน้อยเต็มไปหมด แต่ที่สะดุดตาผมที่สุดน่าจะเป็นหนังสือพิมพ์เก่าๆนี่ หน้าปกมันเขียนพาดข่าวไว้ว่า

     

    ‘สุดสลด พ่อแม่ปกป้องลูกน้อยจนเสียชีวิต’ 

     

    ไม่ต้องคิดอะไรมาก นี่คือข่าวของพ่อแม่เธอตอนนั้น ดูจากปีที่พิมพ์แล้วคือก่อนหน้าที่ผมจะเข้าเซย์งาคุ 2 ปีได้ ผมรู้สึกจุกนิดหน่อย ริวซากิคงโทษตัวเองจากเหตุการณ์นี้สินะ แม้ว่าจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ยัยนี่ก็ยังเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ไว้ ผมไม่รู้ว่าเธอจะเก็บมันไว้ทำไม แต่จากนิสัยของยัยนี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ผมคงไม่เข้าใจอีกนั่นแหละ ก็นะผมไม่เคยเจอแบบยัยนี่ ผมจะเอาตัวเองไปตัดสินว่ามันผิดหรือมันถูกไม่ได้ คนแบบริวซากิก็ต้องมีเหตุผลแบบเธอนั่นแหละ ผมทำได้แค่อยู่ข้างๆ คอยเป็นกำลังใจให้เธอเท่านั้นเพราะบางคนเขาอาจจะต้องใช้เวลาถึง 10 ปีในการทำใจหนิ

     

     

    “…”

    และสิ่งที่ซ่อนอยู่หลังหนังสือพิมพ์เป็นสิ่งที่ผมคุ้นหูคุ้นตาดี แร็กเก็ตสีแดงอันเก่าของผมที่ผมเคยให้เธอไว้ก่อนจะกลับไปอเมริกา น่าจะตอนหลังแข่งศึกทั่วประเทศจบ

    ‘ระ-เรียวมะคุง ยินดีด้วยนะจ๊ะ’ เธอเข้ามาคุยกับผม ตอนนี้เราอยู่กันแค่สองคน 

    ‘ขอบใจริวซากิ’

    ‘แบบนี้…เรียวมะคุงต้องกลับไปอเมริกาเลยรึเปล่า’

    ‘อืม’ ผมมองหน้าเธอ ท่าทางเธอดูเศร้าๆนิดหน่อย ‘แต่ไม่ได้ไปแล้วไปลับหนิ เดี๋ยวฉันก็กลับมา’

    ‘นั่นสินะจ๊ะ~’ เธอยิ้มออกมา

    ‘นี่ริวซากิ’ ผมเรียกเธอ ‘เอาไปสิ’ ก่อนจะส่งแร็กเก็ตอันโปรดของผมให้กับเธอ

    ‘เอ๊ะ! ทะ ทะ ทำไมล่ะจ๊ะเรียวมะคุง’ 

    ‘ไม่มีอะไรหรอก แค่…’ 

    ‘…’

    ‘อยากให้เฉยๆเท่านั้น’

    ตอนนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าให้แร็กเก็ตกับเธอทำไม เพียงแค่ได้เห็นสีหน้าของเธอที่ดูเศร้า เพราะต้องห่างกับผมล่ะมั้ง รู้ตัวอีกทีผมก็ส่งแร็กเก็ตอันนั้นไปให้กับเธอแล้ว หึ ยังเก็บไว้อยู่อีกนะริวซากิ

     

     

     

    ถัดมาคือตุ๊กตากระต่ายหน้ายิ้มสีชมพูหวาน เจ้านี่ผมรู้จักดีเพราะผมเป็นคนคีบมันจากตู้ตุ๊กตามาให้เธอเองกับมือ 

    ‘อ่ะ ฉันให้’ ผมเอาตุ๊กตานี่ไปแตะที่แก้มริวซากิ ดูใกล้ๆกันแล้วยัยนี่เหมือนตุ๊กตานี่เลย

    ‘ขอบใจนะจ๊ะเรียวมะคุง~’ และยัยนั่นก็ส่งยิ้มสดใสมาให้กับผม

    นั่นเป็นวันที่เราไปเดทกัน ตอนนั้นผมโดนไล่ออกจากค่าย U17 แล้วบังเอิญไปเจอเธอเข้าพอดี เลยชวนเธอออกเดท เป็นช่วงเวลาที่ผมผ่อนคลายมาก และเป็นช่วงเวลาเดียวที่ผมไม่คิดถึงเทนนิส อ๋อ ยกเว้นตอนที่เธอชวนผมตีเทนนิสแล้วผมดันนึกถึงหน้าลุงเบียวโดอินจนตีลูกแรงเกินไป แต่ก็นะทุกอย่างมันผ่อนคลายอย่างเหลือเชื่อ คงเป็นเพราะตัวของริวซากินั่นแหละ

     

     

     

    ผมมองในลังอีกครั้ง ในนี้ไม่มีอะไรที่ผมคุ้นอีกแล้ว นี่คงเป็นของที่เกี่ยวกับพ่อแม่ของเธอแล้วสินะ ผมว่าผมควรพอได้แล้ว ผมเลยมองหาทางออกจากลังแต่ก็พบความจริงว่า ปากลังมันสูงจนผมกระโดดไม่ถึง ฉิบหาย!

    “เมี้ยว!”

    “เข้าไปทำอะไรในลังน่ะฮารุคุง” ริวซากิตื่นตั้งแต่นอนไหนไม่รู้มาก้มมองผมในกล่อง

    “เมี้ยว~” ยัยนั่นอุ้มผมออกมาอย่างง่ายดาย นี่สินะความแตกต่างของมนุษย์กับแมว

    “นี่เป็นลังเก็บของสำคัญของฉันเลยนะจ๊ะฮารุคุง” เธอกอดผมไว้แน่น มือและตัวเธอยังร้อนอยู่นิดหน่อย คงพึ่งฟื้นเลยสินะ

    “…”

    “อย่าบอกใครนะจ๊ะ” จุ้บ 

    “…” ยะยะยะยะยะยะยะยะยัยริวซากิจุ้บหัวของผม โอ้ยยยยยยยยยยยยยย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk : 

    สวัสดีค่า~ มาต่อกันนะคะ ตอนนี้เอามาจากนิสัยแมวที่บ้านเลยค้าบ แมวที่บ้านชอบสำรวจของในห้องมากๆ มีอะไรเปลี่ยนที่นิดหน่อยไม่ได้เลยมันต้องคอยเช็คอยู่ตลอด55555 

    แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ เรามาถึงกันครึ่งทางแล้วค่ะ! เอ็นจอยรีดดิ้งค้าบ!

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×