คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Special - Today
Momoshiro part
“แล้วสรุปนายชอบริวซากิจังตั้งแต่ตอนไหน?”
สวัสดีครับทุกคน ในที่สุดก็ถึงตาของผมสักที ผมโมโมชิโระ ทาเคชิ อดีตตัวจริงชมรมเทนนิสเซงาคุที่ตอนนี้กลายเป็นนักกีฬาเทนนิสประจำชาติญี่ปุ่นแล้วครับ งงกันล่ะสิ~ ตอนนี้ผมอายุ 26 แล้ว! และผมก็กำลังถามรุ่นน้องสุดที่รักตลอดกาลอย่างเอจิเซ็น เรียวมะ หมอนี่กลายเป็นนักกีฬาเทนนิสมือโปรระดับโลกไปแล้วล่ะครับ
“โมโมะ นายเลิกถามเจ้าเปี๊ยกเถอะ ฉันทนฟังนายถามมาตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาคบกันยันวันนี้ จะ 10 ปีแล้วนะเนี้ยว!”
รุ่นพี่เอจิ หรือคิคุมารุ เอจิ รุ่นพี่ร่วมสาบานของผมที่ตอนนี้ทำงานเป็นสตั๊นแมนคิวทองโวยวายขึ้น เพราะผมถามเจ้าน้องชายจอมเย็นชามาตั้งแต่วันแรกที่เจ้านี่คบกับหลานสาวคนสวยของคุณยายนั่นแหละ
ทุกคนลองคิดตามนะครับ เอจิเซ็นเป็นคนเย็นชา ชอบทำหน้าตาย ปากแข็งอีก เดาอะไรกับหมอนี่ไม่ค่อยได้ แม้ว่าผมจะสนิทกับเขาจนเดาอารมณ์ของหมอนี่ออก แต่มีเรื่องเดียวที่ผมเดาไม่ออกเลยคือเรื่องของริวซากิจัง ริวซากิ ซากุโนะ อดีตรุ่นน้องและอดีตหลานสาวคนสวยของอาจารย์ริวซากิ ซูมิเระที่ปรึกษาของชมรมเทนนิส ผมรู้ว่าริวซากิจังชอบเจ้าเอจิเซ็น มองจากนอกโลกก็รู้ครับ เพราะเด็กสาวคนนั้นมองออกง่าย ด้วยท่าทางต่างๆหรือแววตา รอยยิ้มที่เธอให้เจ้าเอจิเซ็นน่ะ หึ ชอบชัวๆ 100%
แต่พอกลับมามองเอจิเซ็นแล้ว… ในฐานะรุ่นพี่สุดหล่อและแสนเท่ของหมอนี่ บอกเลยนะครับว่ายาก! เพราะก่อนหน้าที่ทั้งสองจะคบกันน่ะ เวลาที่เด็กสาวเดินเข้ามาคุยด้วย หมอนี่ก็ชอบทำตัวเย็นชาใส่เธอจนบางทีผมก็รู้สึกสงสาร ไหนจะชอบไปล้อเรื่องผมยาวๆของเด็กสาว ที่ผมมองยังไง๊-ยังไงก็ดูน่ารักเหมาะกับเจ้าตัวดี แต่ก็คงมีแต่เอจิเซ็นนั่นแหละที่หาข้ออ้างมาขัดได้ทุกครั้ง
‘เอจิเซ็น นายจะแกล้งริวซากิจังทำไม’
‘อะไรนะครับ?’
‘เรื่องผมของเธอน่ะ ก็ดูน่ารักดีไม่ใช่หรอ’
‘มันยาวเกินไปครับ’
‘ฮะ? เฮ้ยอย่าเดินหนีสิเอจิเซ็น!’
งงเหมือนผมไหมครับ ผมยาวแล้วมันเกี่ยวอะไรกัน! นั่นน่าจะเป็นแค่เรื่องเดียวที่หมอนี่เข้าหาริวซากิจัง ที่เหลือก็มีแต่เด็กสาวเข้าหาทั้งนั้น และภายหลังทั้งคู่จะเคยไปเดทกันมาก็เถอะ แต่สำหรับผมแล้วนั่นไม่น่าเรียกว่าเดทนะ เพราะหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปอยู่ดี ความสัมพันธ์ยังคงเดิม เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันเหมือนเดิม
‘ริวซากิจังเสน่ห์แรงเนอะเอจิเซ็น’
‘อะไรของรุ่นพี่อีกล่ะครับ’
‘ก็ดูสิ เจ้าชายจากฝรั่งเศสมาชอบเลยนะ’
‘หึ อย่างริวซากิไม่ชอบหมอนั่นหรอกฮะ และอีกอย่าง…’
‘อีกอย่างอะไรเอจิเซ็น เฮ้ย! กลับมาพูดให้จบก่อน!’
อ๋อ จะบอกว่ามีสัญญาณว่าเอจิเซ็นชอบริวซากิจังไหมน่ะหรอ มีแค่ตอนเดียวก็ตอนเจ้าชายฝรั่งเศสมาตามจีบเด็กสาวนั่นแหละ แต่หลังจากจบ U17 world cup ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่ดี ยังคงเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน และต่อมาก็ห่างๆกันไป ผมก็นึกว่าริวซากิจังเลิกชอบเอจิเซ็นแล้วนะ
จนวันนั้นหลังจากเอจิเซ็นกลับมาต่อม.ปลายนั่นแหละ อยู่ๆก็ประกาศว่าคบกันแล้วเฉยเลยครับ ผมก็งงสิ ว่าเอจิเซ็นไปชอบริวซากิจังตอนไหน! ไม่มีทางที่รุ่นพี่สุดหล่ออย่างผมจะพลาดเลยนี่นา
“หึ! รุ่นพี่โมโมะ แค่นี้ยังอ่อนหัดอยู่นะครับ~” หนอยเจ้าเอจิเซ็น!
“กระจอกจริงจริ๊งงงเจ้าหัวเม่น” ไม่มีทางที่คู่กัดตลอดกาลของผม ไคโด คาโอรุ จะพลาดในการซ้ำเติมผม ตอนนี้เจ้านี่ทำงานเป็นพนักงานบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นครับ รายได้ดีทีเดียว
“หนอยเจ้างูพิษ แกรู้รึไงว่าเขาไปชอบกันตอนไหน!”
“เออรู้! มีแต่แกนั่นแหละที่ไม่รู้!” อึ้ก เถียงไม่ออกเพราะเรื่องจริง ขนาดเจ้างูมันยังรู้แล้วทำไมผมไม่รู้อยู่คนเดียวล่ะครับ!
“ทั้งคู่เลิกทะเลาะกันได้แล้ว โตๆกันหมดแล้วนะ” และก็เป็นเหมือนทุกครั้งตลอด 10 ปีที่ผ่านมา รุ่นพี่โออิชิ ชูอิจิโร่ ที่ตอนนี้เป็นคุณหมอรูปหล่อประจำโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังเข้ามาห้ามไม่ให้ผมกับไคโดทะเลาะกัน
“เรื่องชอบกันตอนไหนมันไม่สำคัญแล้วนะเนี้ยว อย่าลืมสิว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่!” รุ่นพี่เอจิพูดเสียงดังย้ำถึงเหตุผลที่พวกผมมาร่วมตัวกันในวันนี้ นั่นก็เพราะ…
ไม่บอกหรอกครับ แบร่
“รีบไปจัดสถานที่กันได้แล้ว ริวซากิจะมาตอน 6 โมงเย็นไม่ใช่หรอ” รุ่นพี่อินูอิ ซาดาฮารุ ในชุดนักวิจัยของสถาบันวิจัยอันดับ 1 ของประเทศพูดและรีบเดินไปทางที่ที่เอจิเซ็นเตรียมไว้เพื่อวันนี้โดยเฉพาะ
ที่นั่นที่ว่าคือสวนข้างบ้านที่มีสนามเทนนิสอยู่ด้วย รอบด้านมีต้นซากุระเต็มไปหมด สวนนี้อยู่ข้างๆกับบ้านหลังใหญ่ที่เอจิเซ็นกับริวซากิจังซื้อร่วมกันเมื่อ 2 ปีก่อน สำหรับเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกันในวัยหนุ่มสาว บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของอาจารย์ริวซากิ เพราะริวซากิจังเป็นห่วงคุณย่าของเธอ
การตกแต่งของบ้านเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแบบที่ทั้งคู่ชอบ ส่วนพวกต้นซากุระนี่ ถ้าจำไม่ผิดเอจิเซ็นเป็นคนลงมือปลูกเอง เพราะว่าชื่อของริวซากิจังนั่นแหละ โคตรคลั่งรัก และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้นั่นคือสนามเทนนิส เพราะความชอบของทั้งคู่ที่ชอบเทนนิสเหมือนกัน แม้ว่าตอนม.ปลายริวซากิจังจะเลิกเล่นเทนนิสแล้ว แต่ก็ยังคอยไปให้กำลังใจเจ้าเอจิเซ็นเสมอ ไม่เคยพลาดทุกการแข่งเลยครับ ผมล่ะนับถือเธอจริงๆเรื่องการซัพพอร์ตเอจิเซ็นน่ะ
ตอนนี้ด้วยเวลาที่เปลี่ยนไป ทั้งเอจิเซ็นและริวซากิจังต่างก็เติบโตขึ้น ผมมองรุ่นน้องของชมรมที่เดินนำอยู่ข้างหน้า หมอนี่เคยตัวเล็กกว่าผม แต่ตอนนี้หมอนี่สูงเท่ารุ่นพี่โออิชิแล้ว ไม่ใช่เจ้าเปี๊ยกอีกต่อไป
ส่วนริวซากิจังเองตอนนี้ก็โตเป็นสาวสวยมากๆ ย้ำว่า มากๆ เธอทำงานเป็นคุณหมอเหมือนกับรุ่นพี่โออิชิ อยู่โรงพยาบาลเดียวกันแต่คนละแผนก รุ่นพี่โออิชิอยู่แผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟู สำหรับดูแลทำกายภาพบำบัด ส่วนริวซากิจังอยู่แผนกศัลยกรรม ทั้งคู่ต่างยุ่งไม่ต่างกัน แต่ริวซากิจังก็ยังหาเวลาบินตามไปเชียร์เจ้าเอจิเซ็นติดขอบสนามได้ทุกครั้ง สุดยอดจริงๆครับเด็กสาวคนนี้
“มากันแล้วสินะ ^^”
รุ่นพี่ฟูจิ ชูสึเกะที่มาตกแต่งสถานที่ก่อนหน้าพวกผมทักขึ้น ตอนนี้รุ่นพี่เป็นนักกีฬาเทนนิสมือโปรเหมือนเจ้าเอจิเซ็นครับ เห็นว่าอีกไม่กี่เดือนจะต้องบินไปแข่งเทนนิสรายการใหญ่ที่อังกฤษด้วย เก่งสมเป็นอัจฉริยะของโรงเรียนผมจริงๆ
“เหนื่อยหน่อยนะครับรุ่นพี่”
“ไม่เป็นไรหรอกเอจิเซ็น เพื่อซากุโนะจังแล้ว แค่นี้สบายมาก ^^”
เอ๊ะ เหมือนผมจะเห็นประกายสายฟ้าระหว่างเอจิเซ็นกับรุ่นพี่ฟูจิ บ้าน่า ผมคงคิดมากไปเอง นอกจากพวกผม อดีตตัวจริงชมรมเทนนิสก็ยังมีโฮริโอะ คาจิโร่ คาสึโอะที่มาช่วยตกแต่งสถานที่ด้วย ทั้งสามคนนี้ตอนนี้ต่างก็แยกย้ายกันไปตามทางแล้ว
อย่างเจ้าโฮริโอะ ซาโตชิ ตอนนี้ก็ทำงานเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เอจิเซ็นอยู่ อึ้งใช่ไหมล่ะครับว่าได้ยังไง หมอนี่น่ะพัฒนาขึ้นทุกวัน แม้เรื่องเทนนิสอาจจะไม่ได้เก่งมาก แต่เรื่องการจดบันทึก การจัดการต่างๆน่ะทำได้ดีจนเกินคาดเลยครับ เลยได้รับตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวของเอจิเซ็นไป
ส่วนคาโต้ คาจิโร่ ตอนนี้เป็นผู้จัดการสโมสรเทนนิสต่อจากคุณพ่อ เห็นว่าไปได้ดีเลยนะ มีทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ที่เข้าใช้บริการของสโมสรไม่ขาดเลย และที่นั่นก็เป็นที่รวมตัวของพวกผมเวลาว่างจากงานกันด้วย นัดกันไปออกกำลังกายเรียกเหงื่อและก็ไปจบกันที่ร้านซูชิของรุ่นพี่คาวามูระกันงี้
ถัดมาก็มิซึโนะ คาสึโอะ ตอนนี้เป็นเชฟให้กับโรงแรมชื่อดังที่ได้มิชลินสตาร์ด้วยนะครับ คนนี้แอบตกใจนิดหน่อย แต่คาสึโอะทำอาหารเก่งจริงๆ อร่อยมากๆด้วย ผมไปฝากท้องบ่อยพอๆกับร้านรุ่นพี่คาวามูระเลยครับ
“เรียวมะคุง สายไฟพวกนี้ให้พวกเราห้อยไว้ตรงไหนหรอ”
“ตรงนั้นก็ได้คาจิโร่”
“แล้วเทียนพวกนี้ล่ะ”
“ไว้ตรงมุมคอร์ดเทนนิสก็ได้คาสึโอะ”
“แล้วช่อดอกไม้นี่ล่ะ”
“นายเอาไปเก็บไว้ในบ้านก่อนโฮริโอะ”
ไฟเอย เทียนเอย ช่อดอกไม้เอย ทุกคนพอจะเดาออกกันรึยังครับว่าพวกผมกำลังทำอะไรอยู่
ตอนนี้ขาดแค่รุ่นพี่คาวามูระ ทาคาชิ เหมือนรุ่นพี่จะมาตอน 5 โมงเย็นสำหรับซูชิถาดยักษ์ 3 ถาดที่เอจิเซ็นสั่งมาสำหรับวันนี้โดยเฉพาะ ตอนนี้รุ่นพี่รับช่วงร้านต่อจากคุณพ่ออย่างเป็นทางการแล้ว แถมฝีมือในการปั้นซูชิก็เก่งกาจจนสามารถขยายสาขาร้านออกไปได้อีกตั้ง 2 ที่ด้วย นอกจากเล่นเทนนิสแล้วรุ่นพี่ผมนี่เก่งกันทุกคนเลยจริงๆนะครับ
ถ้าถามว่าพวกผมมารวมตัวกันได้ยังไงน่ะหรอ เรื่องมันเริ่มจากเมื่อสัปดาห์ก่อน รุ่นน้องสุดที่รักนัดพวกผมให้ไปเจอกันที่ร้านซูชิของรุ่นพี่คาวามูระ เพื่อจะแจ้งเรื่องที่สำคัญมากกกกกก
‘รุ่นพี่ครับ ผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ’
‘มีอะไรหรอเอจิเซ็น ท่าทางกังวลจังเลยนะ ^^’
‘นั่นสิ ตอนที่ฉันเห็นข้อความก็รีบมาจากโรงพยาบาลเลยนะ’
‘คือว่าผมมีเรื่องจะขอให้พวกรุ่นพี่ช่วยครับ’
นั่นแหละครับคือสาเหตุที่พวกเรามาร่วมตัวกันเพื่อช่วยรุ่นน้องสุดที่รัก ผมกวาดสายตามองแต่ละคนที่อยู่ตรงนี้ รุ่นพี่คิคุมารุกับรุ่นพี่โออิชิกำลังช่วยกันติดสายไฟกับต้นซากุระทางด้านขวา ส่วนทางด้านซ้ายเป็นคาจิโร่กับรุ่นพี่อินูอิที่ช่วยกัน บริเวณคอร์ดเทนนิสก็เป็นรุ่นพี่ฟูจิ ไคโด คาสึโอะที่ช่วยกันเรียงเทียนเป็นแถวทางเดิน ส่วนตัวผมก็กำลังช่วยเจ้าโฮริโอะจัดการกับบริเวณในบ้านอยู่ ไม่ได้ทำอะไรมากหรอกครับ นอกจากจัดเก็บและเตรียมพื้นที่สำหรับซูชิของรุ่นพี่คาวามูระ
“จะว่าไปแล้ว เจ้าเอจิเซ็นก็เล่นใหญ่เหมือนกันนะครับรุ่นพี่โมโมะ” อยู่ๆโฮริโอะก็พูดขึ้น ในมือของผมทั้งคู่กำลังยุ่งอยู่กับดอกไม้ในแจกัน
“นั่นสิ แต่นายน่าจะชินที่สุดแล้วไม่ใช่หรอโฮริโอะ”
“แหมรุ่นพี่ครับ ชินมันก็ชินครับ แต่ว่า” โฮริโอะหยุดมือและหันไปมองรอบๆ “นี่มันไม่มากเกินไปหรอครับ?”
“ไม่มากไปหรอกน่า ครั้งเดียวในชีวิตนี่นา!”
เห็นเอจิเซ็นแบบนี้ แต่เรื่องความเวอร์ของเจ้าเอจิเซ็นน่ะพอๆกับคุณอาโตเบะจากเฮียวเท ที่ตอนนี้เป็นนักธุรกิจที่รวยเป็นอันดับต้นๆของโลกเลยล่ะครับ แต่มันเวอร์เฉพาะเรื่องของริวซากิจังนะ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย
อย่างเช่นตอนวันวาเลนไทน์ตอนม.ปลาย หมอนี่ที่พึ่งจะมีแฟนเป็นครั้งแรกก็เกิดรับมือไม่ถูกขึ้นมาซะงั้น พวกรุ่นพี่ในชมรมก็แนะนำว่า หาดอกไม้ไปให้ริวซากิจังก็พอแล้ว ไม่ก็พาเธอไปทานข้าวด้วยกัน หรือซื้อช็อกโกแลตให้เธอก็ได้ เพราะริวซากิจังน่ะเป็นคนเรียบง่ายมาก เธอขอแค่มีเอจิเซ็นอยู่ด้วยกันก็พอแล้ว
แต่ถามว่าหมอนี่ฟังไหม ฟังครับ แต่ฟังครึ่งเดียวเท่านั้น หมอนี่เล่นพาพวกผมไปร้านดอกไม้แถวๆโรงเรียนเพื่อให้ช่วยเลือกดอกไม้ให้ริวซากิจัง เพราะเอจิเซ็นไม่รู้ว่าริวซากิจังชอบดอกไม้อะไร ก็นะริวซากิจังเล่นชอบทุกชนิดเลยนี่
‘อืม ลองเป็นดอกกุหลาบไหมเอจิเซ็น 98.99% ผู้หญิงมักชอบดอกไม้ชนิดนี้ และดอกกุหลาบก็เป็นที่นิยมในเทศกาลนี้ด้วยนะ’
‘ลองเป็นดอกเดซี่ดูไหมเจ้าเปี๊ยก เล็กๆน่ารักแบบนี้ซากุโนะจังน่าจะชอบนะเนี้ยว’
‘เอจิเซ็น ดอกไม้ชนิดนี้เป็นไง ดอกเบญจมาศสีสวยด้วยนะ’
‘ไม่เห็นจะยากเลย เอาดอกกล้วยไม้ไปให้ก็จบแล้วชู่ว~’
‘ดอกทานตะวันล่ะเอจิเซ็น ซากุโนะจังน่าจะชอบนะ ^^’
‘อืม… ขอบคุณนะครับรุ่นพี่ คุณน้าครับผมขอซื้อดอกไม้ทุกชนิดในร้านอย่างละ 1 ดอก ช่วยจัดช่อให้ผมด้วยนะครับ’
‘ฮะ!!!’
นั่นคือเหตุการณ์ที่ทำให้ผมได้รู้ว่าเอจิเซ็นมันเวอร์ขนาดไหน เพราะว่าเลือกไม่ได้ ดอกกุหลาบก็หอม ดอกทานตะวันก็สวย ดอกเดซี่ก็เหมาะกับริวซากิจังอีก เอจิเซ็นเลยเลือกซื้อมันทุกชนิดแล้วเอาไปให้ริวซากิจัง ช่อใหญ่มากเลยครับ ใหญ่กว่าตัวริวซากิจังอีก
‘เอ่อ…เรียวมะคุงจ๊ะ?’
‘ฉันไม่รู้ว่าเธอชอบดอกไม้อะไร ก็เลย… ถ้าไม่ชอบก็บอกนะ’
‘ฮ่าฮ่า เรียวมะคุงจ๊ะ แค่เป็นของที่เรียวมะคุงให้ ไม่ว่าอะไรฉันก็ชอบหมดเลยจ้ะ!’
สิ่งที่เอจิเซ็นได้กลับมาก็คือรอยยิ้มหวานๆของริวซากิจัง นั่นคือครั้งแรกเลยนะครับที่ผมเห็นเอจิเซ็นหน้าแดงมากๆ หมอนั่นเขินริวซากิจังอย่างชัดเจน ตลกเป็นบ้า แต่ก็น่ารักดีนะครับ ริวซากิจังเป็นคนที่ทำให้พวกผมได้เห็นด้านอื่นๆนอกจากด้านที่อวดดีของหมอนั่นเลยนะ ริวซากิจังคงมีผลกับใจของเอจิเซ็นมากจนถึงขั้นเปลี่ยนเจ้าชายเย็นชาให้กลายเป็นลูกแมวได้เนี่ย
ผมกวาดสายตามองรอบๆอีกครั้ง ตรงส่วนที่ผมต้องจัดการกับโฮริโอะเสร็จแล้ว มองไปทางด้านสนามก็เรียบร้อยดีแล้ว รุ่นพี่คาวามูระก็มาถึงพร้อมกับซูชิถาดยักษ์แล้ว ขาดอะไรนะ อ๋อ ขาดเจ้าเอจิเซ็นไงล่ะ!
“ว่าแต่เจ้าเอจิเซ็นหายหัวไปไหนอะครับ” ผมถามทุกคนที่นั่งกันอยู่ตรงระเบียงติดกับสนามเทนนิส “นี่จะ 6 โมงเย็นแล้วนะครับ”
“เห็นบอกว่าจะไปสนามบินแป๊ปหนึงนะ” รุ่นพี่โออิชิหันหน้ามาตอบผม
“ไปทำไมอะครับ” ไคโดทำหน้าสงสัย อย่าว่าแต่ไคโดงงเลยครับ ผมและทุกคนก็งง ยกเว้นรุ่นพี่ฟูจิที่นั่งยิ้มเฉยๆเหมือนรู้อะไรสักอย่าง
“นั่นสิโออิชิ~ คุณยายจะมาพร้อมซากุโนะจังไม่ใช่หรอเนี้ยว”
“ก็มากันแล้วนั่นไง ^^” รุ่นพี่ชี้ไปทางประตูบ้าน และสิ่งที่พวกผมเห็นก็ทำให้พวกผมตกใจมากๆครับ
“เท็ตสึกะ!!!”
คนที่ปรากฏตัวไม่ใช่ใครที่ไหน พ่อของชมรมเทนนิสพวกเราเองครับ อดีตกัปตันของชมรมเทนนิสเซงาคุ เท็ตสึกะ คูนิมิทสึ ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นนักเทนนิสมือโปรอันดับต้นๆของโลกไปแล้ว และเห็นว่าได้สัญชาติเยอรมันแล้วด้วย เพราะกัปตันได้เป็นนักกีฬาทีมชาติเยอรมัน แม้ว่าที่ผ่านมาพวกเราจะห่างใกล้กันด้วยระยะทาง แต่สิ่งที่เรามีร่วมกันมาตลอดนั่นคือสายสัมพันธ์ครับ เทนนิสคือตัวที่เชื่อมพวกเราไว้ด้วยกันเสมอ
พวกเราทุกคนรีบลุกเดินเข้าไปหาอดีตกัปตันที่น่าภาคภูมิใจของตัวเองทันที
“ยินดีต้อนรับกลับมานะเท็ตสึกะ” เปิดด้วยรุ่นพี่คาวามูระที่เดินเข้าไปตบบ่ารุ่นพี่เท็ตสึกะเบาๆ
“มาไม่เห็นบอกกันบ้างเลยนะนายนี่” รุ่นพี่โออิชิรีบเข้าไปกอดคอเพื่อนสนิทของตน
“นั่นสิ รู้งี้ฉันจะได้เอาน้ำผักสูตรใหม่ที่พึ่งทดลองเมื่อวานมาให้นายด้วย” และก็ตามด้วยรุ่นพี่อินูอิที่กำลังกอดอกมองรุ่นพี่เท็ตสึกะอยู่ข้างๆ
“ก็นะ เผอิญเอจิเซ็นวานให้ช่วยหาของมาให้หน่อยน่ะ” รุ่นพี่เท็ตสึกะหยิบของที่เอจิเซ็นวานให้ช่วยหาออกมาโชว์ แต่ผมไม่บอกหรอกครับว่าคืออะไร
“แบบนี้ก็อยู่กันครบแล้วสินะ ^^”
“ใช่มะฟูจิ แบบนี้ต้องจัดปาร์ตี้กันหน่อยแล้วเนี้ยว!”
“เฮ้อ พวกรุ่นพี่อย่าลืมเป้าหมายวันนี้สิครับ” เอจิเซ็นถอดหมวกออกและนวดขมับเล็กน้อย ท่าทางหมอนี่คงเริ่มปวดหัวกับพวกเราแล้วสินะครับ ฮ่าฮ่า
“อ๋อ เรื่องนั้นน่ะหรอชู่ว~”
“ใช่มะๆๆเจ้าอสรพิษ เรื่องนั้นน่ะหรอ~” เป็นครั้งแรกที่ผมกับไคโดใจตรงกันนะเนี่ย
กริ๊ง กริ๊งงงงง
“ทุกคน เงียบก่อนโอซาคาดะโทรมาแล้ว!”
รุ่นพี่อินูอิรีบบอกให้พวกผมเงียบเสียง ตามแผนที่พวกผมทุกคนวางไว้ ถ้าริวซากิจังใกล้มาถึงแล้ว โอซาคาดะจะโทรมาบอก เพราะเธอเป็นคนไปรับริวซากิจังที่โรงพยาบาลเอง
“ว่าไงโอซาคาดะ” รุ่นพี่อินูอิกดรับสาย และกดเปิดลำโพงเพื่อให้พวกเราได้ยินเสียงกันชัดๆ
‘รุ่นพี่คะ ตอนนี้ฉันพาซากุโนะมาหยุดแถวซุปเปอร์ใกล้ๆบ้านแล้วนะคะ เห็นซากุโนะบอกว่าจะแวะซื้อของเข้าบ้านหน่อย อ๊ะ! ซากุโนะเดินออกมาแล้วค่ะ อีก 5 นาทีเจอกันนะคะ!’ เสียงปลายสายเป็นเสียงของโอซาคาดะ
ตอนนี้โอซาคาดะ โทโมกะ เธอเป็นถึงดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังที่พึ่งออกคอลเล็คชั่นใหม่ไป คอลเล็คชั่นนี้ใช้ชื่อว่า ‘Sakuno’ เป็นชื่อเพื่อนรักของตัวเองนั่นแหละ มาในธีม ‘รักแรกในฤดูใบไม้ผลิ’ อย่าว่าแต่คอลเล็คชั่นนี้เลยครับ ส่วนใหญ่ผลงานของโอซาคาดะก็จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับริวซากิจังเสมอ ไม่แรงบันดาลใจก็เฉดสีที่ใช้ ขนาดโลโก้ยี่ห้อแบรนด์ของเธอยังเป็นรูปดอกซากุระเลยฮะ ดูแล้วก็รู้เลยนะครับว่ารักริวซากิจังแค่ไหน ส่วนผลตอบรับก็ดีมาก เห็นว่าต้องสั่งจองล่วงหน้ากันเป็นเดือนเลยนะ กว่าจะได้ครอบครองเสื้อผ้าแบรนด์ของโอซาคาดะสักตัว
“งั้นหรอ โอเค เริ่มแผน B เลยนะ” รุ่นพี่อินูอิกดวางสาย และหันมาส่งซิกให้กับพวกเราที่ยืนอยู่ตรงนั้น เอาล่ะครับ ได้เวลาแล้วสินะ
ทุกคนต่างรีบแยกย้ายกันไปตามจุดประจำของตัวเอง
รุ่นพี่ฟูจิ ไคโด และคาสึโอะรีบหลบไปแถวๆหลังพุ่มไม้ใกล้ๆกับเหล่าเทียนที่วางเอาไว้ ในมือรุ่นพี่ฟูจิมีกล้องไว้สำหรับถ่ายรูป ส่วนในมือของไคโดกับคาจิโร่เป็นไฟแช็คไว้จุดเทียน ทางด้านรุ่นพี่โออิชิรีบไปประจำจุดสำหรับเสียบปลั๊กไฟของพวกสายไฟบนโต๊ะซากุระ
ส่วนรุ่นพี่เอจิ รุ่นพี่อินูอิ และคาจิโร่รีบไปซ่อนตัวแถวๆสนามพร้อมกับแผ่นป้ายกระดาษที่มีข้อความเขียนเอาไว้ และผมกับโฮริโอะก็รีบปิดไฟ ปิดม่าน ล็อกประตูบ้านให้ดูเหมือนว่าไม่มีคนอยู่บ้านก่อนจะรีบตามไปสมทบกับพวกรุ่นพี่เอจิโดยมีรุ่นพี่คาวามูระกับรุ่นพี่เท็ตสึกะตามมาด้วย ตอนนี้ทั้งบ้านทั้งสนามเทนนิสต่างก็มืด เหมือนไม่มีคนอยู่แล้วล่ะฮะ
ส่วนเจ้าเอจิเซ็นรีบวิ่งหายไปไหนแล้วไม่รู้ครับ พวกผมก็รอกันสักพักก็ได้ยินเสียงรถจอด นั่นคงเป็นรถของโอซาคาดะกับริวซากิจังนั่นแหละ
“เอ๊ะ? เรียวมะคุงยังไม่กลับบ้านอีกหรอ?” ไม่เห็นตัวแต่ผมจำเสียงหวานๆนี้ได้ ริวซากิจังแน่นอน
“นั่นสิ ท่านเรียวมะหายไปไหนกันนะ” และคนที่มาด้วยกันก็โอซาคาดะชัว
“งั้นโทโมะจัง เราเข้าไปรอในบ้านกันก่อน- อ๊ะ!!”
“ฉันเองริวซากิ” เอจิเซ็นคงเริ่มทำตามแผนแล้วสินะ
“เรียวมะคุง! เล่นอะไรอีกจ๊ะ ปล่อยนะ”
“น่าๆ เดินมาทางนี้เร็วเข้า”
สิ้นเสียงของเอจิเซ็น พวกผมที่อยู่แถวนั้นก็เริ่มทำหน้าที่ตามที่วางกันไว้ รุ่นพี่ฟูจิไปประจำจุดสำหรับถ่ายรูป ส่วนไคโดกับคาจิโร่ก็ไล่จุดเทียนทั้งหมด รุ่นพี่โออิชิรีบเสียบปลั๊กไฟทำให้สายไฟบนต้นซากุระบริเวณสนามเทนนิสที่ห้อยระโยงระยางสว่างไสวขึ้นทันที และดูโรแมนติกมาก พวกรุ่นพี่เอจิก็ออกมายืนเรียงแถวหน้ากระดาน ในมือของแต่ละคนมีแผ่นป้ายที่เขียนข้อความเอาไว้ ปิดท้ายแถวด้วยรุ่นพี่เท็ตสึกะกับโฮริโอะ ในมือโฮริโอะมีช่อดอกกุหลาบสีขาวขนาดใหญ่อยู่ ส่วนรุ่นพี่เท็ตสึกะก็เป็นกล่องเล็กๆขนาดเท่าฝ่ามือ บุด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงสดอย่างดี
ทางด้านรุ่นพี่คาวามูระก็เดินกลับเข้าไปเปิดไฟในบ้าน และออกมาพร้อมกับโอซาคาดะ ที่ไปรับอาจารย์ริวซากิ คุณพ่อคุณแม่ และญาติคนสวยของเอจิเซ็น มาพร้อมกับแฟนของผมด้วย ทาจิบานะ แอน
“กว่าจะมาได้นะ” ผมเอ่ยแซวแฟนสาวของผมเสียงเบา
“ใครจะรีบมาตั้งแต่ไก่โห่เหมือนโมโมชิโระคุงล่ะ” และก็โดนเธอสวนกลับมาทันทีครับ ฮ่าฮ่า
ผมทำหน้าที่เดินแจกพลุอันเล็กๆให้กับคนที่ไม่ได้ถือป้าย ตอนนี้เจ้าเอจิเซ็นพาริวซากิจังเดินมาถึงสนามแล้ว หมอนั่นเอาผ้าปิดตาริวซากิจังเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอมองเห็นพวกผม
“เรียวมะคุงจะพาฉันไปไหนจ๊ะ”
“น่าๆ เดินมาเถอะ”
เอจิเซ็นพาริวซากิเดินเข้ามาในสนาม ตรงหน้าของทั้งคู่คือพวกรุ่นพี่คิคุมารุที่ถือแผ่นป้ายอยู่ และถูกพวกผมคนอื่นๆล้อมเอาไว้เป็นวงกลมขนาดใหญ่ ผมแอบเห็นอาจารย์ริวซากิในวัย 60 กว่าปีร้องไห้ด้วยครับ แต่ผมจะไม่แซวอาจารย์หรอกนะ เดี๋ยวโดนทุบก่อน
เอจิเซ็นปล่อยให้ริวซากิจังยืนคนเดียวก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปรับกล่องกำมะหยี่สีแดงสดจากรุ่นพี่เท็ตสึกะ และมาคุกเข่าลงตรงหน้าของริวซากิจัง ถึงตรงนี้ทุกคนคงเดาออกกันหมดแล้วใช่ไหมครับว่า เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของทั้งคู่
ช่วงขอแต่งงานไงล่ะ!
“ริวซากิ เปิดผ้าออกได้แล้ว”
“เรียวมะคุงเล่นอะไร…!!!”
ทันทีที่ริวซากิจังเปิดผ้าปิดตาออก เธอก็เอามือปิดปากตัวเองทันที เธอดูตกใจมากๆที่เห็นพวกผม เธอกวาดสายตาไปมองรอบๆ มองไล่ไปทีละคนที่อยู่ตรงนี้ และมองแผ่นป้ายที่พวกรุ่นพี่กำลังถืออยู่
‘Will you marry me Sakuno?’
นั่นคือข้อความในป้ายที่พวกรุ่นพี่กำลังถืออยู่ เธอกวาดสายตามองอาจารย์ริวซากิที่ยืนยิ้มทั้งน้ำตาแห่งความปิติยินดีให้กับเธอ มองพ่อแม่ของเอจิเซ็นที่ส่งรอยยิ้มยินดีให้กับว่าที่ลูกสะไภ้คนโปรดของตน มองโอซาคาดะที่ตอนนี้เริ่มร้องไห้เพราะดีใจกับเพื่อนรักโดยมีคุณนานาโกะกำลังปลอบอยู่ และสุดท้ายก็ก้มลงไปมองว่าที่เจ้าบ่าวที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเธอ และตอนนั้นน้ำตาของเธอเริ่มไหลออกจากดวงตาคู่สวยแล้วครับ
“ริวซากิ ซากุโนะ แต่งงานกับฉันไหม?”
“ระ เรียวมะคุง”
“มาอยู่ข้างๆกันไปจนแก่เฒ่า จนผมขาวขึ้นเต็มหัวนะ”
“…”
“เปลี่ยนมาใช้นามสกุลเอจิเซ็นของฉันเถอะ และ…”
“…”
“ฉันรักเธอซากุโนะ แต่งงานกันนะ”
“อื้อ! แต่งจ้ะ ฉันจะแต่งงานกับเรียวมะคุง!”
“เฮ้!!!”
เสียงเฮดังลั่นพร้อมๆกับพลุอันจิ๋วที่ถูกจุด เอจิเซ็นคว้ามือของว่าที่เจ้าสาว ก่อนจะหยิบแหวนเพชรออกมาสวมให้ที่นิ้วนางข้างซ้ายของริวซากิจัง แหวนวงนี้มีรูปดอกซากุระที่ประดับด้วยเพชรอยู่ตรงกลาง ดูสวยเหมาะกับริวซากิจังมากๆ เจ้าเอจิเซ็นมันทุ่มน่าดูเลยนะ ถึงขนาดให้รุ่นพี่เท็ตสึกะเอาแหวนวงนี้กลับมาให้จากเยอรมันเนี่ย
และเอจิเซ็นก็คว้าตัวว่าที่เจ้าสาวเข้าไปกอดเอาไว้แน่น ริวซากิจังก้มหน้าซบลงกับไหล่กว้างของหมอนั่นและเริ่มร้องไห้ด้วยความดีใจ ส่วนเอจิเซ็นก็ยิ้มกว้าง แววตาของหมอนั่นเป็นประกายแห่งความสุข วันที่เอจิเซ็นรอนานก็มาถึงสักทีนะ ดีใจด้วยนะเจ้าน้องชาย~
และบรรดาคนอื่นๆก็ร่วมกันปรบมือให้กับว่าที่คู่บ่าวสาว พวกแก๊งสามสหายต่างก็กำลังกระโดดโลดเต้นดีใจกับเหตุการณ์นี้อยู่ เจ้าพวกนั้นเชียร์คู่บ่าวสาวมาตั้งแต่ม.1 เลยนะ ผมเห็นรุ่นพี่เอจิร้องไห้กับรุ่นพี่โออิชิด้วยล่ะครับ รุ่นพี่อินูอิเองก็กำลังจดบันทึกช่วงเวลานี้ลงสมุดประจำตัวไว้ด้วย ส่วนเจ้าไคโดผมแอบเห็นหมอนั่นน้ำตาซึมด้วยแหละ คงดีใจที่รุ่นน้องสุดที่รักที่เอ็นดูมาตลอดได้เป็นฝั่งเป็นฝากับรุ่นน้องคนสวยสักทีสินะ ส่วนรุ่นพี่ฟูจิก็กำลังถ่ายรูปคู่บ่าวสาวและทุกคนที่อยู่บริเวณรอบๆไปด้วยรอยยิ้ม เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำนั่นแหละ รุ่นพี่เท็ตสึกะก็กำลังยืนยิ้มยินดีอยู่ข้างๆรุ่นพี่คาวามูระ เป็นรอยยิ้มที่หาดูได้ไม่บ่อยนะครับ
ส่วนบรรดาญาติๆของคู่บ่าวสาว นำทีมโดยอาจารย์ริวซากิและโอซาคาดะ รีบเข้าไปกอดหลานสาวและเพื่อนรักของตัวเองทันที ตามมาด้วยคุณนันจิโร่กับคุณรินโกะ พ่อและแม่ของเอจิเซ็นก็เดินเข้าไปกอดว่าที่สมาชิกใหม่ของบ้าน พร้อมเอ่ยแซวเอจิเซ็นด้วย ผมเห็นหมอนั่นหน้าแดงล่ะ ฮ่าฮ่า
“ดีใจด้วยนะซากุโนะจัง” แอน แฟนสาวของผมที่ยืนอยู่ข้างๆกับผมเอ่ยขึ้น เธอกำลังมองดูคู่บ่าวสาวที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยบรรดารุ่นพี่และเครือญาติที่ร่วมยินดีกับงานแต่งที่กำลังจะเกิดขึ้นของทั้งคู่
“เอจิเซ็นคุงนี่จริงๆเลยนะ ถ้าบอกชอบไปตั้งแต่ตอนนั้นก็จบแล้ว ซากุโนะจังไม่ต้องทนรอถึง 2 ปีแท้ๆ”
“ฮะ? บอกชอบตอนไหน” ผมงงกับคำพูดของเธอ ไม่แปลกที่เธอจะรู้เรื่องราวทั้งหมด เพราะแอนเองก็สนิทกับริวซากิจังอยู่แล้ว
“เอ้า โมโมชิโระคุงไม่รู้หรอ” เธอเงยหน้าขึ้นมาถามผม มีเรื่องอะไรที่ผมไม่รู้อีกเนี่ย!
“ฮะ?”
“ก็ที่ทั้งคู่ชอบกันมาตั้งแต่เมื่อ 10 กว่าปีก่อนนั่นไง ที่เราแข่งกันครั้งแรกน่ะไม่รู้หรอ” แอนพยายามอธิบายให้ผมเข้าใจ แต่หน้าของผมมันแสดงออกชัดเจนว่างง ที่แข่งกับฟุโดมิเนะครั้งแรกก็ตอนฤดูร้อนที่ผมอยู่ปี 2 เลยนะ เธอจึงอธิบายต่อด้วยท่าทางปลงๆกับผม
“โมโมชิโระคุงไม่รู้จริงๆหรอว่าเอจิเซ็นคุงชอบซากุโนะจังมาตั้งแต่ตอนนั้นน่ะ ลองคิดดูนะ ด้วยนิสัยของเอจิเซ็นคุง ถ้าเป็นคนอื่นที่เข้าไปในสนาม ที่ไม่ใช่ซากุโนะจัง เอจิเซ็นคุงไล่ตะเพิดไปนานแล้ว แต่ตอนนั้นแค่ผลักเบาๆเพื่อไม่ให้ซากุโนะจังเห็นแผลที่ตาเองนะ นั่นก็แปลว่าชอบไม่ใช่หรอ”
“ฮะ!!!”
“เฮ้อ ยังอ่อนหัดอยู่นะโมโมชิโระคุง” และแอนก็เดินหนีผมไปหาคู่บ่าวสาวเพื่อแสดงความยินดีทันที
เอาจริงดิ! เอจิเซ็นน่ะหรอชอบริวซากิจังมาตั้งแต่ตอนนั้น ในตอนนั้นผมโฟกัสแค่ว่าหมอนั่นมีแผลที่ตาข้างซ้ายกับต้องแข่งภายใน 10 นาทีเองนะ นี่ผมต้องกลับไปย้อนโมเมนต์คู่นี้ตั้งแต่แรกเลยรึเปล่าเนี่ย!
แต่ว่า…คงไม่จำเป็นแล้วล่ะครับ เพราะตอนนี้ทั้งสองคนก็กำลังจะแต่งงานกันแล้ว กำลังจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันหลังจากผ่านเรื่องราวต่างๆด้วยกันมานานถึง 10 ปี ผมมองรอยยิ้มของคนทั้งคู่ สายตาของเอจิเซ็นที่มองริวซากิจังน่ะมันทั้งอบอุ่น อ่อนโยน และดูมีความสุขมากๆเลยครับ ในฐานะรุ่นพี่สุดหล่อและแสนเท่ของหมอนั่นแล้วคงพูดได้แค่ว่า
“ยินดีด้วยนะทั้งสองคน”
Talk :
เขาขอกันแล้วๆๆๆ ใกล้จะแต่งงานกันแล้วค้าบ จะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ววว ไรท์ขอรับบทประตูเงินประตูทองก่อนเลยหนึ่ง อยากร่วมแห่ขันหมากแต่สังขารไม่ไหวจริงๆ55555
โมโมะ นายยังอ่อนหัดอยู่นะ! กลับไปทบทวนโมเมนต์คู่นี้มาก็รู้สึกว่าเจ้าเรียวมะมันชอบหนูซากุโนะอยู่นะ แต่แบบลึกๆ ลึกมากๆ นี่ไรท์ไม่ได้ชิปเล้ยยยยยย
ตอนหน้าแต่งกันแล้วนะคะ มาร่วมกันรับบทแขกในงานแต่งกันนน แจกการ์ดไปให้ทั่วๆเลย งานแต่งลูกเราต้องยิ่งใหญ่เกรียงไกร!!!
เจอกันตอนหน้านะคะ เอ็นจอยรีดดิ้งค้าบ!
ขอฝากทวิตเตอร์ของไรท์นะคะ
@ppenelopeland
ความคิดเห็น