คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Special - my secret
“แน่ใจนะคะ ว่าเป็นแบบนี้น่ะดีแล้ว”
“อือ แบบนี้อะดีแล้ว”
“กว่าจะคบกันได้ เล่นทำเอาพวกเราเหนื่อยเหมือนกันนะคะ”
“นั่นสิ แล้วเธอโอเคนะโอซาคาดะ?”
เสียงนุ่มทุ่มของคนข้างตัวเอ่ยถามเธอ โอซาคาดะ โทโมกะ หรือ ‘โทโมะจัง’ ที่เด็กสาวคนหนึงชอบเรียกเธอแบบนั้น
เธอกำลังยืนมองริวซากิ ซากุโนะคุยกับเอจิเซ็น เรียวมะอยู่ที่หน้าต่าง คนหนึ่งก็เพื่อนรัก ส่วนอีกคนก็เพื่อนร่วมรุ่นที่เธอนับถือในความเก่งกาจของเขา เธอยืนมองทั้งคู่มาตั้งแต่แรกแล้ว แม้ว่าด้วยระยะที่เธอยืนอยู่ นั่นคือจากชั้น 5 ลงไปที่สวนข้างตึกเรียน จะทำให้เธอไม่ได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน แต่เธอก็พอจะเดาออกว่า พวกเขาคงคุยกันด้วยดีแน่ๆ
“โอเคค่ะ ให้มันเป็นความลับของเราทั้งคู่ต่อไปแบบนี้น่ะ~”
เธอยิ้มน้อยๆในขณะที่มองเพื่อนรักของเธอกำลังกอดกับเจ้าชายเทนนิส ยัยเพื่อนรักคงต้องร้องไห้แน่ๆตามนิสัยขี้แงของเจ้าตัวนั่นแหละ
เธอเชื่อว่าทุกคนคงเคยมีความลับ ไม่ว่าจะกับครอบครัว หรือกับเพื่อนรัก โทโมกะเองก็มีเหมือนกัน มีความลับที่บอกให้ซากุโนะ เพื่อนรักเพียงคนเดียวของเธอรู้ไม่ได้ เพราะอาจจะทำให้บางอย่างมันเปลี่ยนไป
คงต้องเริ่มตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิในปีนั้นสินะ
ฤดูใบไม้ผลิในตอนที่โทโมกะอายุแค่ 10 ขวบ ณ ตอนนั้นเธอเป็นเพียงนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่พึ่งย้ายเข้ามาเรียนในเมืองหลวงอย่างโตเกียว แม้จะไม่อยากย้ายมาแต่เพราะคุณพ่อได้งานใหม่ งานนี้จะทำให้ครอบครัวของเธอสบายมากขึ้น มีเงินให้ใช้จ่ายได้มากขึ้น เธอจึงจำใจต้องย้ายจากบ้านเกิดมาที่โตเกียว
โทโมกะในวัย 10 ขวบมีปัญหากับการปรับตัวอย่างมาก เริ่มจากปัญหาของคนข้างบ้านเธอที่ชอบเสียงดังตอนกลางดึก นั่นทำให้น้องๆของเธอตื่นและทำให้โทโมกะต้องลุกขึ้นมานั่งกล่อมให้น้องนอน เธอรักน้องๆแต่เธอก็รักเวลานอนของเธอเช่นกัน แม้ว่าปัญหานี้คุณแม่จะเข้าไปจัดการให้แล้ว แต่มันก็ยังมีปัญหาต่อไปเข้ามา
นั่นคือโทโมกะปรับตัวกับโรงเรียนไม่ได้ เธอย้ายเข้ามาเรียนในโรงเรียนเอกชนที่อยู่ใกล้ๆบ้าน เด็กส่วนใหญ่ต่างรู้จักกันมาตั้งแต่ประถมปีที่ 1 แล้วตัวเธอที่พึ่งย้ายเข้ามาล่ะจะหาเพื่อนได้รึเปล่า ที่คุณแม่บอกว่า จะเจอคนสำคัญในโรงเรียนน่ะ เธอจะหาเจอรึเปล่านะ
แม้แรกๆจะมีคนเข้ามาทำความรู้จักกับเธอ มีคนชวนเธอไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน ชวนไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ในที่สุดเธอก็ได้รู้ความจริงว่าที่พวกนั้นเข้ามาชวนเธอ เพียงเพราะแค่สงสารเท่านั้น
‘ยัยโอซาคาดะเสียงแหลมมาก ฉันทนฟังไม่ไหวแล้วนะ’
‘เธอจะเอาคนบ้านนอกแบบนั้นเข้ามาอยู่ในกลุ่มเราหรอ’
‘ยัยนั่นไม่รู้หรอว่าเราแค่สงสารน่ะ’
ครั้งแรกที่เธอได้ยินที่พวกนั้นคุยกัน มันทำให้เธอรู้สึกเจ็บจนน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด มันเป็นปัญหาที่ยากเกินกว่าเด็ก 10 ขวบจะคิดวิธีแก้ได้ และจะให้เธอแก้จากอะไรในเมื่อเสียงแหลมๆนี่มันคือเสียงของเธอ
แต่แล้วก็มีนางฟ้าตัวน้อยมาปรากฏตัวขึ้น
‘พะ พูดแบบนั้นมันไม่ดีนะจ๊ะ ถ้าคุณโอซาคาดะมาได้ยินเข้าจะเสียใจนะ’
เสียงหวานใสของเด็กผู้หญิงที่ตัวเล็กไม่ต่างกับเธอเท่าไรพูดขัดพวกคนที่กำลังนินทาเธออยู่ โทโมกะมองไม่เห็นหน้าเพราะเด็กคนนั้นหันหลังให้จากจุดที่เธอซ่อนตัว
เด็กคนนั้นผมยาวสีน้ำตาลอมแดงถูกมัดเป็นแกละไว้ข้างหลังสองข้าง ใส่ชุดกระโปรงสีชมพู สะพายกระเป๋านักเรียน ดูท่าแล้วคงกำลังจะกลับบ้านแต่บังเอิญมาได้ยินที่พวกนั้นคุยกันเข้า
‘คุณริวซากิ?’
‘คุณริวซากิก็บอกมาเถอะว่าคิดเหมือนกันกับพวกเรา’
‘มะ ไม่ใช่นะ! ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นนะจ๊ะ!’
‘แล้วคุณริวซากิจะยุ่งอะไรด้วย?’
‘นั่นสิ เธอรู้จักยัยบ้านนอกนั่นหรอ’
‘กะ ก็ไม่ แต่ว่า…’
อะไรของเด็กคนนั้นกันนะ รู้จักกันกับเธอหรอ ก็ไม่ โทโมกะมั่นใจว่าตั้งแต่ย้ายเข้ามาไม่เคยคุยกับคนชื่อริวซากิ เธอมองอย่างไม่เข้าใจ เธอพึ่งเคยเจอกับเด็กคนนี้ครั้งแรกเลย แล้วจะเข้ามาช่วยเธอทำไมกัน?
‘คะ คุณแม่บอกว่าการนินทามันเป็นสิ่งที่ไม่ดีนะจ๊ะ แล้วอีกอย่างคุณโอซาคาดะ เธอก็น่ารักมากๆด้วย! ถ้าเธอมาได้ยินที่พวกคุณคุยกัน เธอจะเสียใจได้นะจ๊ะ’
‘…’
‘ละ และคงไม่มีใครชอบที่ถูกเรียกว่าบ้านนอกเพียงเพราะเขาเกิดคนละที่กับพวกเราหรอกนะจ๊ะ’
‘หึ ใจดีจังเลยนะคุณริวซากิ ไปกันเถอะ พวกเราอย่าคุยกับยัยนี่เลย!’
พวกเด็กที่นินทาเธอเดินหนีไปแล้ว เด็กที่ช่วยเธอยังยืนอยู่ เธอเลยเดินออกมาจากที่ซ่อน
‘ขอบใจนะ’ โทโมกะบอกขอบคุณ พอมามองใกล้ๆแล้วยัยนี่ผิวขาวมากและมือก็กำลังขย้ำชายกระโปรงอยู่ เธอคงกลัวเด็กพวกนั้นแต่ก็เข้ามาช่วยสินะ ทั้งๆที่เธออาจจะไม่รู้ว่ามาช่วยเนี่ยนะ แปลกจัง
‘อ๊ะ! คุณโอซาคาดะ? ดะ ได้ยินสินะคะ’ เด็กคนนั้นหันหน้ากลับมามองโทโมกะ
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
จังหวะหัวใจของโทโมกะเต้นแรงขึ้น เพียงเพราะแค่ได้เห็นใบหน้าของเด็กคนนี้ ตาโตเหมือนลูกกวางที่มีประกายระยิบระยับอยู่ข้างในนั้น แก้มขาวที่ดูนุ่มนิ่มมีสีแดงระเรื่อเล็กน้อย ริมฝีปากสีเชอร์รี่แบบสีลิปที่คุณแม่ชอบทา จมูกโด่งรั้นรับกับใบหน้าอย่างพอดิบพอดี ไหนจะฉากหลังของยัยนี่ที่เป็นต้นซากุระที่ออกดอกบานสะพรั่งอีก ยิ่งขับให้เด็กคนนี้เหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ
‘สวย’ นั่นคือคำแรกที่ผุดเข้ามาในหัวหลังจากที่เห็นหน้าของเด็กคนนี้ ถ้าโตไปยัยนี่ต้องสวยมากแน่ๆ และเมื่อบวกกับทรงผมที่ทำแล้ว มันเลยให้ความรู้สึกเหมือน ‘กระต่ายตัวน้อย’ ที่ทั้งสวยและน่ารักในเวลาเดียวกัน
‘อืม แต่เธอไม่เห็นจะต้องเข้ามาพูดเลยหนิ’ โทโมกะตั้งสติและพูดออกไป ‘มันไม่เกี่ยวกับเธอเลยสักนิด’
‘กะ ก็จริงจ้ะ แต่คุณโอซาคาดะไม่ได้ทำอะไรผิดนี่’ ยัยกระต่ายตรงหน้าพูดกับเธอด้วยตาใสแป๋ว ‘อีกอย่างคุณโอซาคาดะน่ารักจริงๆนะจ๊ะ ฉันคิดแบบนั้นนะ’
‘ขอบใจนะ’
‘อ๊ะ!’ กระต่ายน้อยหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าและค่อยๆเอาผ้านั่นซับลงบนใบหน้าของโทโมกะ ‘อย่าร้องไห้เลยนะจ๊ะ คุณโอซาคาดะเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่านะ’
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
จังหวะหัวใจของโทโมกะเต้นเร็วขึ้นอีกแล้ว รอบนี้เกิดจากการกระทำของกระต่ายน้อยตรงหน้า และรอยยิ้มที่ยัยนั่นยิ้มให้กับเธอ มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้รู้สึกเหมือนถูกปลอบประโลม ถูกกอดทั้งๆที่ไม่ได้กอด
และมันทำให้เธอรู้สึกอยากร้องไห้มากกว่าเดิม
‘อ๊ะ! อย่าร้องไห้เลยนะจ๊ะ!’
‘ฮึก เธอชื่ออะไร’
‘ริวซากิ ซากุโนะจ้ะ’
หน้าตาน่ารักมากแล้วยังชื่อน่ารักเหมือนหน้าตาอีกนะ โทโมกะตัดสินใจแล้วว่า เพื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเธอ ตำแหน่งนี้เธอขอยกมันให้กับกระต่ายน้อยตรงหน้าคนเดียวเท่านั้น คนที่กล้าพูดขัดกับคนที่นินทาเธอทั้งๆที่ไม่รู้จักกันและทั้งๆที่ขี้กลัวแบบยัยนี่น่ะ มันต้องรักษาไว้ไม่ใช่หรอ
‘อือ ฮึก… ฉันเรียกเธอว่าซากุโนะได้ใช่ไหม?’
‘แน่นอนจ้ะ!’
นั่นคือจุดเริ่มต้นในมิตรภาพของเธอกับซากุโนะ และตลอดเวลาที่ผ่านมา ซากุโนะก็พิสูจน์ให้เธอเห็นว่าเธอเลือกคนไม่ผิดจริงๆ ในมิตรภาพของพวกเธอ มีกันแค่สองคน ต่อให้จะมีเล่นกับเพื่อนคนอื่นในห้องบ้าง แต่สุดท้ายพวกเธอก็มีกันและกันเท่านั้น โทโมกะพอใจกับมิตรภาพในครั้งนี้ และเธอก็คิดว่าซากุโนะก็คิดเหมือนกัน มีแค่พวกเธอสองคนก็พอแล้ว ไม่มีที่ว่างสำหรับคนอื่นหรอกนะ
และนิสัยของกระต่ายน้อยจอมซุ่มซ่าม ยัยนี่น่ะแม้จะขี้กลัวแต่พอบทจะกล้า ก็กล้าอย่างน่าใจหาย และข้อเสียของซากุโนะที่เธอพบก็คงเป็นเรื่องของความใจดี ความขี้สงสาร ยัยนี่สงสารแม้แต่กับคนที่มาแกล้งเจ้าตัว ความขี้เห็นอกเห็นใจคนไปทั่ว แม้ปากจะบอกว่าเป็นข้อเสีย แต่ความจริงพวกนี้คือข้อดีและสเน่ห์ของซากุโนะต่างหาก บวกเข้ากับรอยยิ้มร่าเริงสดใส และบรรยากาศรอบๆตัวของเธอที่มีแต่พลังบวกด้วยแล้ว มันจึงทำให้ใครหลายๆคนที่เข้าใกล้ เกิดความรู้สึกเอ็นดูซากุโนะกันทั้งนั้น
แต่แล้วเหตุการณ์ฝันร้ายที่ทำลายรอยยิ้มของกระต่ายน้อยที่โทโมกะหลงรักก็ผ่านเข้ามา ซากุโนะสูญเสียคุณพ่อและคุณแม่ไปเพราะอุบัติเหตุ นั่นทำให้ซากุโนะเปลี่ยนไป จากเด็กที่มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าตลอดเวลากลายเป็นเด็กเก็บตัว เงียบขรึม และขี้กลัวมากกว่าเดิม
‘โทโมะจัง คุณพ่อคุณแม่…’
‘ไม่ต้องพูดแล้วซากุโนะ’ โทโมกะดึงซากุโนะเข้ามากอดไว้แน่น กระต่ายน้อยซบหน้าลงกับบ่าของเธอและเริ่มร้องไห้
‘ฮือออ โทโมะจัง’
‘ไม่เป็นไรนะ ไม่ว่าจะยังไงเธอก็จะมีฉันอยู่’
โทโมกะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นและลูบหัวซากุโนะไปด้วย เธอรู้สึกแย่ที่ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่กอดปลอบกระต่ายน้อยเท่านั้น เธอไม่อยากเห็นน้ำตาของซากุโนะสักหยด ยัยนี่เหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าตัวของเธออีก
‘เธอจะมีฉันอยู่จนกว่าวันที่เธอจะไม่ต้องการฉัน ริวซากิ ซากุโนะ’
และนั่นคือเหตุการณ์ที่ทำให้เธอรู้ตัวว่าเธอไม่ได้คิดกับซากุโนะแค่เพื่อน เธอหลงรักยัยกระต่ายน้อยนี่ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ อาจจะวันนั้นในฤดูใบไม้ผลิ อาจจะตอนเดินกลับบ้านด้วยกันครั้งแรก รู้ตัวอีกที โทโมกะก็คิดแค่ว่า ‘ความสุขของกระต่ายน้อยคือความสุขของเธอ’ ไปแล้ว
แต่โทโมกะรู้ดี ความรักของเธอมันไม่มีทางเป็นจริงได้ ด้วยอะไรหลายๆอย่าง เธอทำได้แค่เพียงภาวนาให้ที่ตรงนี้ ที่ข้างๆซากุโนะมีแค่ตัวเธอกับอาจารย์ริวซากิก็พอ แค่เธอที่ได้อยู่ข้างซากุโนะก็พอแล้ว คนอื่นน่ะไม่จำเป็นหรอกนะ
แต่ดูเหมือนโชคชะตาจะยิ่งตอกย้ำความจริงเข้าไปอีกว่าความรักของเธอมันไม่มีวันเป็นไปได้ เมื่อมีใครบางคนเดินเข้ามาในชีวิตของพวกเธอ คนที่ทำให้เธอรู้ว่ายังไงก็แพ้
เด็กชายที่ตัวสูงพอๆกับซากุโนะ ผมสีดำอมเขียว หน้าตาหล่อเหลาที่ดูเย็นชา เธอเจอกับเขาครั้งแรกในคอร์ดเทนนิสของโรงเรียน เพราะเธอเป็นคนพาซากุโนะเดินเข้าไปหาเขาเอง ก็นะ เธอแค่อยากรู้จักไอ้คนที่ทำให้กระต่ายน้อยของเธอมองไม่หยุดตั้งแต่ตอนที่อยู่บนตึกเรียน คนที่ทำให้ซากุโนะมองได้นานๆนอกจากโทโมกะแล้วไม่มีหรอกนะ จนหมอนี่เข้ามาเนี่ยแหละ
‘สวัสดีจ้ะเรียวมะคุง’ ซากุโนะเป็นฝ่ายทักก่อน ชื่อเรียวมะสินะ
‘สวัสดีค่ะ ฉันโอซาคาดะ โทโมกะ เพื่อนของริวซากิ ซากุโนะค่ะ’ โทโมกะแนะนำตัวเองบ้าง
‘ริวซากิ ซากุโนะ… ใครอ่ะ?’ แต่ดูเหมือนเด็กชายจะไม่สนใจเธอด้วยซ้ำ เพราะทันทีที่เธอแนะนำตัวจบ เด็กนี่ก็หันไปมองซากุโนะทันที
‘อ่าว…’ เป็นซากุโนะที่ตอบเสียงแผ่ว และเดินหนีทันทีเพราะอายที่เรียวมะจำไม่ได้
โทโมกะคิดจะเดินตามไปอยู่หรอก ถ้าไม่เห็นสายตาของเรียวมะซะก่อน สายตามันแปลกๆ เด็กนี่มองตามซากุโนะไม่ละสายตาเลยด้วย ไหนว่าจำไม่ได้ไง แล้วทำไมต้องมองขนาดนั้นด้วยล่ะ?
‘ฉันจะเข้าชมรมเทนนิสนะจ๊ะโทโมะจัง’
‘ซากุโนะน่ะหรอ?’ จะไม่ให้ตกใจได้ไง ซากุโนะไม่เก่งกีฬา ข้อนี้เธอรู้ดีที่สุดเลยด้วย ‘ทำไมล่ะ?’
‘กะ ก็เพราะ…’ สายตาซากุโนะเหล่ไปทางเด็กที่เธอเคยเข้าไปทัก หมอนั่นกำลังยืนอยู่แถวที่พวกเธอคุยกันพอดี ‘ฉันอยากลองดูจ้ะ’
โทโมกะเก็บความสงสัยไว้ในใจ และเธอก็คิดว่าบางทีเธออาจจะระแวงไปเอง ยังไงซะ ที่ข้างๆของซากุโนะก็เป็นของเธออยู่แล้ว เพราะนอกจากเธอก็ไม่มีใครเข้าหาซากุโนะ ไม่ใช่สิ มีใครหลายคนอยากเข้ามาทำความรู้จักกับซากุโนะ เพราะความสวยของยัยนี่ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครผ่านด่านของเธอกับอาจารย์ริวซากิหรอก ยกเว้นหมอนั่น
เอจิเซ็น เรียวมะ เด็กที่จำหน้าซากุโนะไม่ได้ตอนแรกนั่นแหละ หมอนี่แสดงออกกับซากุโนะด้วยท่าทีเย็นชา แทบจะไม่พูดคุยกันเลยด้วยซ้ำ ถามคำตอบคำเลยล่ะ โทโมกะคิดเสมอว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ยังไงซากุโนะก็คงไม่ชอบหมอนี่หรอก ที่ซากุโนะชอบนั่นคือเทนนิสของเรียวมะเท่านั้น และเธอก็ได้ผันตัวเองไปเป็น แฟนคลับอันดับ 1 ของท่านเรียวมะ เพราะซากุโนะชอบเทนนิสของหมอนี่
เทนนิสของเขามันทำให้ยัยกระต่ายน้อยยิ้มได้มากกว่าที่ผ่านมา เธอเคยบอกแล้ว อะไรที่เป็นความสุขของกระต่ายน้อยก็คือความสุขของเธอ และนั่นก็ทำให้ใครหลายๆคนเข้าใจผิดว่า เธอชอบเรียวมะ แต่ไม่ใช่เลย เพราะคนที่เธอชอบมีแค่ยัยกระต่ายน้อยที่คอยมาเกาะขอบสนามดูเรียวมะแข่งเทนนิสเท่านั้นแหละ
แต่สุดท้ายโทโมกะก็ถูกท่าทางเย็นชาพวกนั้นหลอกเข้าเต็มๆ เคยได้ยินกันไหมว่าคนที่ไว้ใจ (?) ร้ายที่สุด คนที่เธอไว้ใจว่าจะต้องไม่แย่งกระต่ายน้อยของเธอไปแน่ๆและไอ้ท่าทางเย็นชาพวกนั้นที่แสดงออกมาตลอด นั่นน่ะทุกอย่างคือของปลอม ถามว่าเธอรู้ได้ยังไง
ครั้งแรกเลยคือตอนที่เรียวมะมาสอนเทนนิสให้กับซากุโนะและโทโมกะ หน้าตอนหมอนั่นรู้ว่าเป็นพวกเธอน่ะตลกเป็นบ้า เธอคิดว่า วันนี้คงจบแล้วล่ะเพราะตามนิสัยของเรียวมะแล้วต้องปฏิเสธและหนีกลับบ้านแน่ๆ แต่เปล่า หมอนี่กลับตั้งใจสอนเฉย โดยเฉพาะซากุโนะ หมอนั่นแทบจะจ้องทุกการกระทำเลยล่ะ โทโมกะก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าคงเพราะพวกของฝากที่อาจารย์ให้ไปละมั้ง เรียวมะถึงตั้งใจสอนคงไม่ใช่เพราะยัยกระต่ายน้อยหรอก…
แต่ที่ทำให้เธอรู้สึกถึงสัญญาณเตือนที่สุดคือตอนที่เรียวมะรีบวิ่งไปช่วยซากุโนะ หมอนี่ไม่รอฟังเรื่องราวด้วยซ้ำกลับรีบวิ่งไปช่วยทันที แต่โทโมกะก็คิดเข้าข้างตัวเองอีกว่าเพราะซากุโนะเป็นเพื่อนนั่นแหละ เพื่อนร่วมชั้นไง เป็นหลานสาวโค้ชไง คงไม่มีอะไรหรอก เธอหวังว่านะ…
แต่เปล่าเลย ซากุโนะมักถูกหาเรื่องตลอดและก็เป็นเรียวมะที่เข้าไปช่วยทุกครั้ง จนโทโมกะเริ่มโกรธตัวเอง หากเธอเกิดเป็นผู้ชาย เธอคงเป็นคนที่เข้าไปช่วยซากุโนะเอง ไม่ต้องเดือดร้อนหมอนั่นหรอก และเพราะทุกครั้งที่เป็นเรียวมะ ในที่สุดซากุโนะก็เริ่มชอบเรียวมะเข้าจริงๆแล้ว ชอบทั้งหมอนั่นและเทนนิสของเขา สิ่งที่เธอกลัวที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้
ต้องบอกว่าเพราะเป็นเรียวมะต่างหาก ซากุโนะเลยชอบ
และถ้าโทโมกะเป็นผู้ชาย ซากุโนะจะชอบเธอไหมนะ?
แต่โทโมกะก็ยังตายใจ เธอไม่ห่วงเรื่องที่ซากุโนะชอบเรียวมะหรอก ตราบใดที่เรียวมะไม่ได้ชอบตอบ ที่ข้างๆของซากุโนะมันก็ยังเป็นของเธออยู่ดี มือหรืออ้อมกอดของซากุโนะก็จะยังเป็นของเธออยู่ดี แต่ก็นั่นแหละเธอโดนหลอก เรียวมะชอบซากุโนะ เธอที่คอยสังเกตคนทั้งคู่มาตลอดน่ะทำไมจะไม่รู้ ตัดซากุโนะออกไปได้เลย แม่กระต่ายน้อยแสดงออกชัดเจน แต่หมอนี่น่ะ…
‘ผมชอบริวซากิ’
‘จนได้สินะ’
‘…’
‘เอาไงกันต่อดีล่ะ’
‘ปล่อยไปเถอะค่ะ พวกเราคงทำอะไรไม่ได้แล้ว ก็เขามีอาจารย์หนุนหลังอยู่นี่’
ถ้าไม่ได้เขาคนนั้นมาเค้นปากให้เรียวมะพูด ชาตินี้เธอคงไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนและก็ตายใจต่อไป รู้ตัวอีกทีกระต่ายน้อยคงโดนลากไปกินแล้ว จะขอบคุณก็ไม่ได้อีก เพราะนั่นก็เป็นอีกคนที่จ้องจะแย่งกระต่ายน้อยของเธอเช่นกัน
ถ้าโทโมกะเกิดเป็นผู้ชาย อะไรมันน่าจะง่ายกว่านี้จริงๆนั่นแหละ
ในตอนนั้นทุกวันของโทโมกะผ่านไปแบบว่างเปล่า พื้นที่ข้างๆของซากุโนะเริ่มมีเรียวมะเข้ามาเรื่อยๆ สายตาและรอยยิ้มของซากุโนะเริ่มถูกหมอนั่นแย่งเข้าไปทุกที ยัยกระต่ายน้อยยังคงยิ้มและหัวเราะกับเธอ แต่ความต่างของรอยยิ้มมันก็ชัดเจนเช่นกัน ‘รอยยิ้มให้เพื่อนรัก’ กับ ‘รอยยิ้มให้คนที่ชอบ’ ยังไงก็ต่างกัน ประกายความสุขที่ออกมาก็ชัดแล้ว ต่อให้เธออยากจะเข้าไปขัดขวางแต่ก็ทำไม่ได้หรอก เพราะหมอนั่นมีอาจารย์ริวซากิคอยหนุนหลังอยู่
แต่ข้อดีของหมอนั่นคือทำให้โทโมกะเริ่มได้ยัยกระต่ายน้อยคนเดิมกับตอนนั้น ตอนฤดูใบไม้ผลิของป.4 กลับมา รอยยิ้มที่สดใส ความอ่อนโยน ความน่ารัก ทุกอย่างของยัยนั่นค่อยๆกลับมา นี่คือสิ่งเดียวที่เธอต้องขอบคุณเรียวมะจากใจ เพราะเขา ซากุโนะถึงได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้สักที
‘เอ๊ะ เรียวมะคุง?’ อยู่ๆเรียวมะก็เดินเข้ามาหายัยกระต่ายน้อย และพยักหน้าเป็นเชิงว่าให้ซากุโนะไปด้วยกันหน่อย
‘…’ แต่มือของซากุโนะกำลังถูกโทโมกะจับไว้อยู่ แน่นอนว่าเธอไม่อยากปล่อยไปเลยสักนิด
‘ทะ โทโมะจัง…’ ซากุโนะหันมาหาเธอทันทีที่เธอปล่อยมือ กระต่ายน้อยคงกลัวเธอคิดมากสินะ แต่มันถึงเวลาที่เธอต้องปล่อยมือคู่นี้แล้วล่ะ
‘ไปสิซากุโนะ’ โทโมกะดันหลังซากุโนะเบาๆ และเรียวมะที่รออยู่ก็ไม่พลาดที่จะเข้ามาจับมือคู่นั้นแทนโทโมกะ และพาซากุโนะเดินหายไปทันที
โทโมกะมองตามคนทั้งคู่ไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แม้ในใจมันจะเจ็บไปหมดก็ตาม เธอกำลังมองมือคู่ที่เธอจับมาตลอดหลายปีนี้กำลังถูกคนอื่นกุมไปอยู่
‘เจ็บหน่อยนะ’
‘รุ่นพี่ก็คงไม่ต่างกันสินะคะ’
และแม้โทโมกะจะเจ็บที่ไม่ใช่คนที่ได้เป็นเจ้าของสายตาหรือรอยยิ้มหวานๆของซากุโนะ หรือแม้แต่มือของซากุโนะที่เริ่มถูกเรียวมะมาแย่งไปจับนั่นอีก แต่สุดท้ายความสุขของซากุโนะสำคัญที่สุดอยู่ดี มันสำคัญกว่าความรู้สึกของเธอนั่นแหละ
แต่แล้ว โชคชะตาก็เล่นตลกกับกระต่ายน้อยของเธออีกครั้ง เรียวมะต้องบินไปอเมริกา แม้ช่วงแรกๆจะเป็นการไปๆกลับๆ แต่แป๊ปเดียวหมอนั่นก็จะกลับมายืนข้างๆซากุโนะแล้ว มาคอยกวนซากุโนะด้วยประโยคเดิมๆอย่าง ‘ผมเธอก็ยาวเกินไป’
แต่สุดท้ายด้วยอะไรหลายๆอย่าง เรียวมะต้องกลับไปอเมริกาแบบไม่มีกำหนด โทโมกะได้แต่มองทั้งคู่เอ่ยลากันที่สนามบิน เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด ในเมื่อชอบกันทำไมไม่บอกกันไปเลยล่ะ ไม่รู้หรอว่ามันทำให้เธอมีความหวัง ความหวังที่ว่าข้างๆซากุโนะจะกลับมาเป็นของเธอเหมือนเดิม
แต่นั่นแหละ สุดท้ายก็เป็นได้แค่ความหวังลมๆแล้งๆ เพราะต่อให้ซากุโนะจะขาดการติดต่อกับเรียวมะไปนานแค่ไหน และแม้ว่าทั้งเธอและคนนั้นจะพยายามทำคะแนนเท่าไร ก็ไม่สามารถเอาชนะใจของยัยกระต่ายน้อยได้อยู่ดี เพราะในใจของยัยนั่นก็มีแต่เอจิเซ็น เรียวมะ เด็กชายผมดำอมเขียวคนนั้นอยู่ในใจมาตลอด 2 ปี และเธอที่อยู่ในตำแหน่งเพื่อนรักน่ะรู้ดีที่สุดเลย
“ความรักมันซับซ้อนจังเลยเนอะ”
“นั่นสิคะรุ่นพี่ฟูจิ”
โทโมกะหันกลับมาอยู่กับปัจจุบัน สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้ให้กับเรียวมะ เธอเลิกโทษโชคชะตาที่ทำให้เธอเกิดมาเป็นผู้หญิง และก็หันมาอวยพรให้กับความรักอันผลิบานเหมือนดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิของซากุโนะแทน
ฤดูใบไม้ผลิหรอ
โทโมกะหัวเราะเล็กน้อย เธอก็เจอกับซากุโนะในฤดูใบไม้ผลิเหมือนเรียวมะ แต่ซากุโนะกลับสนใจแต่ฤดูใบไม้ผลิที่ได้เจอเรียวมะซะงั้น อย่างว่านั่นแหละ คนที่ใช่ไม่ต้องพยายามเลยสักนิด เพราะยัยกระต่ายน้อยหายใจเข้า-ออกเป็นเจ้าชายของเธอตลอดเวลา
ถ้าถามว่าซากุโนะชอบเรียวมะขนาดไหน โทโมกะในฐานะเพื่อนรักอันดับ 1 ของซากุโนะสามารถตอบได้ทันที ให้ดูจากที่ตั้งชื่อแมวดำท่าทางหยิ่งๆตัวนั้นว่า ‘ฮารุคุง’ สิ ตอนที่เธอได้ยินชื่อครั้งแรก เธอก็รู้ทันทีว่าซากุโนะเอาเจ้าแมวตัวนั้นมาแทนเรียวมะ ที่ตั้งชื่อนั่นน่ะเพราะซากุโนะชอบฤดูใบไม้ผลินั่นเพราะว่าได้เจอกับเจ้าชายไงล่ะ
ซากุโนะที่ไม่เคยลืมเรียวมะได้เลยสักครั้งไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ก็เหมือนเธอนั่นแหละ ที่ไม่เคยตัดใจจากแม่กระต่ายน้อยได้เช่นกัน
“ฉันไปก่อนนะ ^^”
“ค่ะรุ่นพี่ฟูจิ ฉันเป็นกำลังใจให้นะคะ”
“ขอบใจนะ ^^”
โทโมกะกล่าวลารุ่นพี่ผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกันกับเธอ ชะตากรรมของคนรักข้างเดียวนั่นไงล่ะ และคนที่รุ่นพี่รักไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ยัยกระต่ายน้อยที่ตอนนี้กำลังเดินจับมือกับเจ้าชายของตัวเองมาทางขึ้นตึก หมดเวลาแล้วสินะ ที่ข้างๆของซากุโนะไม่ใช่ของเธอแล้วสินะ…
อย่าว่าแต่ให้กำลังรุ่นพี่ฟูจิเลย โทโมกะเองก็ต้องทำใจเหมือนกัน ทั้งๆที่เธอก็รู้นะว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ รู้ตั้งแต่วันแรกที่ใจเต้นกับรอยยิ้มนั่นแล้ว แต่ก็เพราะความดื้อของตัวเองนั่นแหละ
โทโมกะกล้าพูดว่าการอยู่กับซากุโนะมันทำให้ชีวิตของเธอมีแต่ความสุข ภาพความทรงจำของเธอทั้งสองคนผุดเข้ามาในหัวเต็มไปหมด ช่วงเวลาที่โลกมีแค่เธอสองคนมันเหมือนความฝัน แต่สุดท้ายเธอก็ต้องตื่นจากฝันนั่นอยู่ดี เพราะมันไม่ใช่ความจริงตั้งแต่แรก…
“ดีใจด้วยนะซากุโนะ ยัยกระต่ายน้อยของฉัน”
ถึงเวลาที่เจ้าหญิงกับเจ้าชาย เขาต้องอยู่ด้วยกันแล้วล่ะ :)
Talk :
หากเพียงแค่เธอหันมองซะหน่อยยยยย~
เป็นตอนที่ทั้งเจ็บและสุขไปในคราวเดียวกันเลยค่ะ สำหรับไรท์แล้ว โทโมะจังเป็นเด็กที่น่ารักมากเลย คอยซัพพอร์ตยัยหนูตลอด และด้วยอะไรไม่รู้ ไรท์ดันไปเจอทวิตเตอร์ของคนญี่ปุ่นคนหนึงเข้าค่ะ เขาพิมพ์ประมาณว่า ที่โทโมะจังมาชอบเรียวมะนั่นก็เพราะเธอชอบซากุโนะ เชิงว่าชอบซากุโนะและยัยหนูก็ชอบเรียวมะ ส่วนตัวโทโมะจังชอบแค่เทนนิสของเรียวมะเฉยๆ นี่เลยเป็นเหตุที่ทำให้ไรท์มองคู่นี้ไม่เหมือนเดิม คู่เพื่อนไม่จริง คู่เพื่อนเล่นไม่เล่นเพื่อน ;-; บวกกับไปเจอแฟนอาร์ตของคู่โทโมะซากุเข้าอีก บอกตรงๆเลยนะคะ แทบร้องไห้ ความรู้สึกที่เราชอบเขาทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้เนี่ย ฮืออออเศร้า
ส่วนคุณรุ่นพี่คนนั้น…อันนี้ก็เพราะเจอแฟนอาร์ตและความขี้ชิปค่ะ เขาคุยกันได้ 3 ประโยค = ฉันชิป มาฟิลเดียวกันเลยแต่เนื้อเรื่องไม่เหมือนกันนะคะ ขอจุ๊ๆไว้ก่อนนนน ซึ่งไรท์จะเอาไปเฉลยในเรื่องใหม่แทนค่ะ ไรท์ตัดสินใจว่าจะแต่งเรื่องใหม่ พลอตเปลี่ยนเพิ่มทั้งปมทั้งตัวละครด้วย! รับรองว่าแซ่บค่าาาา
เจอกันตอนหน้าฮะ ซียูค้าบ!
ความคิดเห็น