ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END) Prince of tennis | 7 days with YOU (Ryoma x Sakuno)

    ลำดับตอนที่ #11 : The End (2)

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ค. 64


    “เรียวมะคุง?” ซากุโนะมองหน้าคนที่โอบเอวเธอเอาไว้อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เป็นเขาจริงๆหรอ คนที่เธอคอยคิดถึงมาตลอด 

    “อือ” เสียงทุ้มตอบกลับมา

    “เรียวมะคุงจริงๆหรอ” ซากุโนะเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าคนตรงหน้า เพราะต้องการให้แน่ใจว่าใช่เขาจริงๆเธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม

    “ไม่ใช่ฉันแล้วจะใครล่ะ” เสียงทุ้มหัวเราะเล็กน้อย และไม่ได้หลบมือซากุโนะ

    “ทำไม…”

    “?”

    “ทะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้” ซากุโนะถาม 

    “คือเรื่องมันยาวน่ะริวซากิ แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอที่ฉันกลับมา”

    ก่อนจะคุยอะไรกันมากไปกว่านี้ ซากุโนะก็รู้ตัวสักทีว่าเธอกำลังอยู่ในอ้อมกอดของเรียวมะ เธอเลยเอามือผลักหน้าอกของเขาเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดนี่

    “ปะ ปล่อยนะจ๊ะ”

    “เดี๋ยวสิ” ร่างสูงกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น

    “ปล่อยฉันนะจ๊ะเรียวมะคุง”

    “อย่าพึ่งริวซากิ” 

    “ปล่อยฉันเรียวมะคุง!” ซากุโนะเริ่มดิ้นแรงขึ้น แต่อ้อมแขนของเรียวมะก็กระชับให้แน่นขึ้นเช่นกัน

    “…”

     

     

    ชู่ว~

     

     

    “อ๊ะ!” เสียงเมื่อครู่เรียกความสนใจของซากุโนะ เธอหันไปมองตามเสียงก็พบงูเขียวตัวใหญ่กำลังเลื้อยผ่านไปทางด้านหลังของเรียวมะ 

    “เธอเกือบโดนงูฉกแล้วไม่รู้ตัวเลยรึไง” 

    “ขะ ขอบคุณนะจ๊ะเรียวมะคุง”

    “…” เมื่องูตัวดังกล่าวเลื้อยหนีไปแล้ว เรียวมะก็ปล่อยซากุโนะจากอ้อมแขนนั่น

    “เอ่อ…” 

    ซากุโนะเกิดอาการประหม่า เธอยกมือมากุมไว้ที่หน้าอกแบบที่เธอชอบทำทุกครั้งที่ประหม่าหรือกังวล คนที่เธอไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกกลับมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า ด้วยระยะห่างของทั้งคู่ที่ผ่านมา ทำให้เธอไม่รู้ว่าจะพูดกับคนตรงหน้าว่าอะไรดี เธอมีหลายอย่างที่อยากถามเขาแต่…

    “อย่าพึ่งริวซากิ ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ให้ฉันพูดก่อน”

    “เอ๊ะ?”

     

    ร่างสูงไม่รอให้อีกฝ่ายเป็นคนเริ่มบทสนทนาแบบที่ผ่านๆมาอีกแล้ว คราวนี้ควรเป็นเขาที่ต้องเริ่มก่อน เรียวมะหยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะเริ่มกดเบอร์ที่ได้มาเมื่อหลายวันก่อน ถึงเวลาที่ยัยเปียตรงหน้าต้องได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดสักที

     

    “คะ คือเรียวมะคุงจ๊ะ?” ซากุโนะมองตามการกระทำของเรียวมะ และไม่เข้าใจว่าเขาต้องการจะทำอะไรกันแน่

    “ตั้งใจฟังด้วยล่ะริวซากิ”

     

     

    ตรู๊ด ตรู๊ด

    “ฮัลโหล ถึงเวลาที่เธอต้องพูดแล้ว” เรียวมะถือโทรศัพท์ไปตรงหน้าเด็กสาว และเปิดลำโพงเพื่อให้ทั้งเธอและเขาได้ยินเสียงปลายสายชัดเจน

    “ฮัลโหล ริวซากิใช่ไหม ฉันชื่อโซเฟีย เป็นเพื่อนในสโมสรเทนนิสของเรียวมะ” เสียงที่ตอบกลับมาเป็นเสียงของเด็กสาวต่างชาติ เธอตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษแต่ซากุโนะก็พอจะฟังออก

    “คะ?”

    “เธอไม่ใช่เพื่อนของฉัน” เป็นเรียวมะที่ตัดบท เขากลอกตามองบนเล็กน้อยและพูดต่อ “พูดเข้าเรื่องได้แล้ว”

    “ฉัน…ชอบเอจิเซ็น ชอบเขามาตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรกเมื่อ 2 ปีก่อน และพยายามเข้าหาเขามาตลอด”

    “…” ซากุโนะเริ่มงง เธอพอจะเดาออกว่าเด็กสาวปลายสายน่าจะชอบเรียวมะ แต่ไม่เข้าใจว่าเธอจะมาบอกซากุโนะทำไม

    “แต่เธอรู้อะไรไหมริวซากิ ฉันไม่เคยเข้าหาเขาได้เลย เพราะเขาไม่เคยเปิดช่องให้ฉันได้พัฒนาความสัมพันธ์สักครั้ง”

    “…”

    “ฉันเคยบอกชอบเขาไปตรงๆแต่เขาปฏิเสธ”

    “…”

    “แต่ตอนนั้นฉันยังไม่ยอมแพ้ ฉันพยายามทำทุกวิถีทางให้ได้เข้าใกล้เขา ไม่ว่าวิธีพวกนั้นมันจะแย่แค่ไหน จนฉันไปรู้มาว่าเขามักจะได้จดหมายจากเพื่อนชาวญี่ปุ่นทุกเดือน ตอนแรกฉันก็คิดว่าคงเป็นเพื่อนที่โรงเรียนเก่าของเขา แต่พอวันนึง วันที่ฉันไปรับจดหมายแทนเขา…”

     

     

     

     

     

     

     

    ‘จดหมายถึงเอจิเซ็นหรอคะ?’

     

    โซเฟียเด็กสาวผมสีน้ำตาลเข้ม ตาสีฟ้าสดใสเอ่ยถามรุ่นพี่ในสโมสรเทนนิสที่เธอเป็นสมาชิกอยู่ เธอเผอิญเจอกับรุ่นพี่ที่กำลังจะเอาจดหมายไปให้เรียวมะ 

     

    ‘ใช่แล้ว จดหมายนี่ส่งมาทุกสัปดาห์เลยนะ’ รุ่นพี่โบกจดหมายนั่นตรงหน้าโซเฟีย ‘พ่อของเอจิเซ็นฝากฉันมาให้หมอนั่นน่ะ เห็นบอกว่าจากหวานใจ

    ‘เอ๊ะ!?’ โซเฟียตกใจ เธอไม่รู้มาก่อนว่าเรียวมะมีแฟนอยู่แล้ว

    ‘ฮ่าฮ่า ดูทำหน้าเข้า ตกใจใช่ไหมล่ะ!’ รุ่นพี่เอ่ยแซวเธอ 

     

    โซเฟียรู้ว่ารุ่นพี่คนนี้ไม่รู้หรอกว่าเธอชอบเรียวมะ เพราะนอกจากเรียวมะแล้วเธอไม่เคยบอกใครเรื่องนี้เลย อีกอย่างเรียวมะก็ไม่ใช่คนปากมาก ซ้ำยังประหยัดคำพูดอีกต่างหาก ดังนั้นเรื่องที่เธอเคยบอกชอบเขาแล้วโดนปฏิเสธ คนภายนอกจึงไม่มีใครรู้เลยสักคน

     

    ‘ก็นิดหน่อยค่ะ ให้หนูเอาไปให้แทนไหมคะ หนูกำลังจะไปสนามเดียวกับเอจิเซ็นพอดี’ โซเฟียอยากรู้ว่าใครเป็นคนส่งจดหมายมาจึงขออาสาเอาไปให้เรียวมะ และอีกอย่าง สิ่งที่เธอต้องการคือเธออยากเห็นปฏิกิริยาตอบสนองจากเรียวมะด้วย

    ‘จริงหรอโซเฟีย งั้นฉันฝากหน่อยนะ ฉันกำลังอยากไปหาโดนัทกินพอดีเลย!’ รุ่นพี่คนนั้นส่งจดหมายให้เธออย่างว่าง่าย และรีบเดินแยกออกไปอีกทางทันที

     

     

    Ryuzaki Sakuno

     

     

    ‘Cherry blossom?’ 

     

    ชื่อหวานขนาดนี้ไม่ต้องใช้สมองก็รู้ว่าเป็นเด็กผู้หญิง แม้ในใจของโซเฟียอยากเปิดจดหมายอ่านให้รู้แล้วรู้รอด แต่เธอรู้ดีว่านั่นมันเสียมารยาท เธอจึงรีบเดินเอาจดหมายฉบับนี้ไปส่งให้เรียวมะด้วยใจที่ร้อนรน เธอกลัวว่าจะเป็นอย่างที่เธอคิด รุ่นพี่บอกว่า เจ้าของจดหมายเป็นหวานใจของเขา ถ้าเป็นความจริงเธอจะทำยังไงดี…

     

     

     

    ‘เอจิเซ็น มีจดหมายถึงนายล่ะ’ 

    ‘อ่า ขอบใจ’

     

    เธอส่งจดหมายนี่ให้กับเขา ท่าทางของเขาที่รับจดหมายและมองชื่อที่อยู่บนหน้าซองนั่น ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเธอทั้งหมด เขาทำหน้าเรียบนิ่ง เหมือนจดหมายไม่ได้สำคัญอะไรกับเขา นั่นทำให้เธอรู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็คงไม่ใช่แฟนของเขาจริงๆนั่นแหละ

     

     

     

     

     

    ‘เฮ้! เรียวมะ แฟนนายส่งจดหมายมาอีกแล้วหรอ’ เพื่อนในสโมสรวิ่งเข้ามากอดคอเรียวมะ ‘ฉันชักอยากจะเห็นหน้าแฟนของนายแล้วล่ะเรียวมะ’

     

    นี่เป็นอีกวันที่เรียวมะได้รับจดหมายจากเด็กคนนั้น โซเฟียยืนมองดูเขาอยู่ในระยะใกล้ๆ แม้ว่าเขาจะไม่รับรู้เลยสักนิดว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้ด้วย เรียวมะกำลังยืนอ่านจดหมายฉบับนั้นอยู่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

     

    ‘ยัยนี่ไม่ใช่แฟนฉัน’ เรียวมะบอกปฏิเสธทันที ประโยคนั่นทำให้โซเฟียใจเต้นแรง นี่แปลว่าเธออาจจะมีความหวังแล้วใช่ไหม?

    ‘หรอ งั้นฉันขอนะ!’ เพื่อนของเรียวมะคว้าจดหมายที่เรียวมะกำลังอ่านอยู่ไปจากมือของเขา

    ‘เอาคืนมาจอร์จ!’ เรียวมะตะโกนเรียกเพื่อนของตน

    ‘ว้าว~ เด็กคนนี้สินะ น่ารักชะมัดเลยนี่นาเรียวมะ’ แซมโบกรูปที่แนบกับจดหมายไปมาตรงหน้าเรียวมะ ‘ถ้าไม่ใช่แฟนนาย งั้นฉันจีบเธอได้ใช่ไหม?’

    ‘อย่ายุ่งกับยัยนั่น!’ เรียวมะทำสายตาเย็นชาใส่เพื่อนของเขา นั่นเป็นใบหน้าที่โซเฟียไม่เคยเห็นมาก่อน มันน่ากลัวมากๆ ดูผิดกับตอนปกติ แต่ถ้าไม่ใช่แฟน แล้วเรียวมะจะสั่งห้ามทำไม นอกจากว่า…หวง?

    ‘โอ้~ อย่าทำหน้าน่ากลัวแบบนั้นสิเพื่อนรัก Just kidding ฉันไม่จีบ cherry blossom ของนายหรอก~’ แซมส่งรูปคืนเรียวมะ แต่ก่อนที่มันจะถึงมือของเขา สายลมเจ้ากรรมก็พัดรูปใบนั้นมาตกตรงหน้าของโซเฟีย เธอหยิบรูปขึ้นมาดู

     

    ในรูปเป็นเด็กผู้หญิงชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในชุดนักเรียนแบบญี่ปุ่น ข้างหลังของเธอเป็นสนามเทนนิส เด็กคนนี้มีผมยาวสีน้ำตาลอมแดงที่ถูกถักเป็นเปียสองข้างไว้อย่างเรียบร้อย มีผิวขาวอมชมพูที่ดูสุขภาพดี ตาของเธอกลมโตเหมือนลูกกวาง รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเธอขนาดมองในรูปก็ยังรู้สึกว่าเธอน่ารักมากๆแล้ว ถ้าเจอตัวจริงเด็กคนนี้คงต้องเป็นคนที่ทั้งสวยทั้งน่ารักแน่ๆ

     

    โซเฟียรู้สึกเจ็บในอก แค่หน้าตาเด็กคนนี้ก็ชนะขาดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์กับเรียวมะ ยัยนี่เจอเรียวมะก่อนเธอ ได้ใกล้ชิดเรียวมะก่อนเธอ ความทรงจำที่มีร่วมกันมีอะไรบ้างก็ไม่รู้ และถ้าไม่สำคัญจริงเรียวมะคงไม่แสดงออกกับจอร์จแบบนั้นหรอก ไอ้ใบหน้าหวงของนั่นน่ะ

     

    ‘นี่แฟนของนายหรอ?’ โซเฟียถามเรียวมะที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ 

    ‘เปล่าหนิ’ เรียวมะดึงรูปออกจากมือของเธอทันที และรีบเก็บใส่กระเป๋าก่อนจะเดินหนีไป

     

    โกหก เขาโกหกเธอ

     

    โซเฟียที่คอยเฝ้ามองเรียวมะมาตลอด ทำไมจะไม่รู้นิสัยอย่างนึงของเขา ถ้าอะไรที่ไม่ใช่แล้วเรียวมะจะปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดทันที แต่เสียงที่เอ่ยคำว่า เปล่าหนิ ออกมานั่นมันไม่เหมือนปกติของเขา

     

    และในตอนที่เรียวมะดึงรูปออกจากมือของเธอ แล้วเอารูปไปดูว่าเสียหายรึเปล่า สายตาของเขาที่มองเด็กใบรูปมันทั้งอ่อนโยนและดูอบอุ่น เป็นสายตาที่เธอไม่เคยได้รับจากเขาเลยสักครั้ง ไม่มีใครในสโมสรที่เคยได้รับ ทั้งน้ำเสียง ทั้งท่าทางและสายตา แบบนี้คำตอบมันก็ชัดเจนแล้วล่ะว่า เรียวมะชอบยัยเด็กคนนี้

     

     

     

     

     

     

     

    “ตอนนั้นฉันเคยคิดว่า ทำไมถึงเป็นฉันไม่ได้นะ ฉันก็คอยอยู่ข้างๆเขาเหมือนเธอแม้จะพึ่งไม่กี่เดือนก็เถอะ ฉันก็พยายามไม่น้อยไปกว่าเธอเลย ฉันพยายามหาคำตอบมาตลอดว่าทำไมเขาถึงชอบเธอทั้งๆที่ถ้าเรื่องเทนนิสฉันเก่งกว่าเธอด้วยซ้ำ”

    “…”

    “จนวันนั้น ฉันตัดสินใจที่จะสารภาพรักกับเอจิเซ็นอีกครั้งผ่านทางจดหมาย เพราะคิดว่าอย่างน้อยเขาอาจจะมองเห็นความพยายามของฉันบ้าง แต่รู้ไหมสิ่งที่เขาตอบกลับมาน่ะมันใจร้ายมากแค่ไหน”

     

     

     

     

     

     

     

    ‘จดหมายนี่ของเธอสินะ’ เรียวมะยื่นจดหมายไปตรงหน้าของโซเฟีย ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่อยู่ในสนามเทนนิสแค่เพียงสองคนเท่านั้น ‘เธอคือคนที่เอามันมาใส่ในล็อคเกอร์ของฉันสินะ’

    ‘อื้อ! คะ คือว่า…’ โซเฟียหน้าแดง เธอคิดว่านี่อาจจะถึงโอกาสของเธอแล้วก็ได้ 

    ‘คำตอบอยู่ในนั้น’ เรียวมะชี้ไปที่จดหมาย ไม่รอช้าโซเฟียรีบเปิดมันอ่านทันที 

     

     

    ‘รำคาญ เลิกยุ่งกับฉันสักที’

     

     

    ‘…’ โซเฟียทรุดลงไปอยู่กับพื้น ทำไม?

    ‘หวังว่ามันคงจะชัดเจนพอแล้วนะ’ เรียวมะหันหลังเดินหนีโซเฟียทันที

    ‘ทำไมล่ะ?’ โซเฟียมองตามแผ่นหลังของเรียวมะที่ค่อยๆไกลออกไปทีละนิด ทั้งๆที่เธอพยายามมาตลอด ทำไมถึงเป็นเธอไม่ได้ ไม่ว่าจะวิธีไหนเธอก็ทำเพื่อให้ได้อยู่ในสายตาของเขามาตลอดแท้ๆ แต่ทำไมล่ะ?

    ‘…’

    ‘ทำไมถึงเป็นฉันไม่ได้ หรือเพราะเด็กญี่ปุ่นคนนั้น!’ 

    ‘ใช่ เพราะเธอไม่ใช่ยัยนั่น’ เรียวมะตอบโดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามองโซเฟีย เขายังคงเดินต่อไป ‘จะให้ฉันชอบคนที่สตอกเกอร์ฉันหรอ? ให้ชอบคนที่คอยแต่จะเอาเทนนิสไปจัดการคนรอบตัวของฉันหรอ?’

    ‘…’ โซเฟียตกใจ เรียวมะรู้ได้ยังไงว่าเธอใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ได้เข้าใกล้เขา

    ‘และอีกอย่างนะ’ เรียวมะหยุดเดินและหันกลับมามองโซเฟีย ‘คนที่ฉันชอบก็มีแค่ซากุโนะเท่านั้น’

     

     

     

     

     

     

     

    “…”

    “และหลังจากนั้น เพราะความโกรธที่ถูกปฏิเสธ ฉันเลยแอบดักจดหมายที่เธอส่งให้เอจิเซ็นทั้งหมด นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ได้จดหมายจากเธอ และฉันก็เป็นคนสับเปลี่ยนจดหมาย โดยทันทีที่เธอและเอจิเซ็นส่งจดหมายให้กัน ฉันก็แอบเก็บพวกมันเอาไว้ และเอาฉบับที่เอจิเซ็นให้ฉัน ไปส่งให้เธอแทน”

    “…” สิ่งที่เด็กสาวปลายสายอธิบายทั้งหมดทำให้ซากุโนะอึ้ง เธอไม่คิดว่าเรื่องมันจะซับซ้อนขนาดนี้

    “เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ล่ะริวซากิ” เรียวมะบอกกับซากุโนะ และหันไปพูดกับคนปลายสาย “นี่ ยังไม่รีบพูดอีกหรอ”

    “ขอโทษนะ…เอจิเซ็น”

    “คนที่เธอควรขอโทษคือยัยนี่ไม่ใช่ฉัน” เรียวมะถอนหายใจใส่โทรศัพท์

    “ฉัน…ขอโทษริวซากิ”

    ตี๊ด

     

     

     

     

     

    เรียวมะตัดสายโทรศัพท์ทันที หมดบทของโซเฟียแล้ว และเขาก็คิดว่าที่ยัยนั่นเล่ามาทั้งหมดน่าจะพอทำให้ริวซากิเข้าใจอะไรหลายๆอย่างสักที

    “…” ซากุโนะก้มหน้าลงทำให้เรียวมะไม่รู้ว่าตอนนี้ซากุโนะกำลังคิดอะไรอยู่

    “ริวซากิ”

    “แป๊ปนึงนะจ๊ะเรียวมะคุง ขอเวลาให้ฉันทบทวนเรื่องทั้งหมดก่อน”

    ซากุโนะยกมือขึ้นมานวดขมับ การที่ต้องรับรู้เรื่องราวมากมายแบบที่เธอไม่ทันเตรียมพร้อมก่อน มันทำให้เธอรู้สึกปวดหัว

    “ก็นะ ตอนฉันรู้เรื่องทั้งหมดก็ปวดหัวเหมือนกัน”

    “แต่คุณโซเฟียก็น่าสงสารนะจ๊ะเรียวมะคุง เธอคงชอบเรียวมะคุงมากแน่ๆ”

    “นี่เธอสงสารคนที่ทำให้เราไม่ได้คุยกันมาตลอด 2 ปีหรอริวซากิ”

    “ก็…”

    “เฮ้อ ยังไม่เปลี่ยนไปจริงๆนะริวซากิ อ่อนโยนเกินไป ใจดีเกินไป ขี้สงสารเกินไป” เรียวมะถอนหายใจและเอื้อมมือมาจับผมเปียของซากุโนะ “ส่วนผมนี่ก็ยาวเกินไป”

    “ผมยาวๆมันไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรเลยนะจ๊ะเรียวมะคุง” 

    “และนี่คือหลักฐาน หากเธอไม่เชื่อ” เรียวมะยื่นจดหมาย 3 ฉบับที่โซเฟียเคยเก็บไว้ให้ซากุโนะดู “นี่คือจดหมายที่เธอเคยส่งมาแต่ยัยนั่นเก็บเอาไว้ นี่คือเหตุผล ว่าทำไมฉันถึงไม่เคยได้รับจดหมายจากเธอ”

    “…” ซากุโนะรับจดหมายมาดู เธอจำมันได้แม่นว่านี่คือจดหมายฉบับก่อนหน้าที่เธอเคยส่งไปให้เรียวมะ ก่อนที่จะได้จดหมายปลอมกลับมา

    “และนี่” เรียวมะโชว์เหล่าจดหมายที่ซากุโนะพึ่งส่งไปให้ “เธอคิดถึงฉันมากเลยใช่ไหมริวซากิ”

    “เอ่อ…” 

    “ฉันกลับมาแล้ว ไม่ดีใจหรอ” เรียวมะโบกเหล่าจดหมายไปมา ท่าทางยียวนกวนประสาทของเขาทำให้ซากุโนะเริ่มเขินอายอีกครั้ง

    “คะ คือว่า…” 

    “เธอคิดถึงฉันมาตลอดเลยไม่ใช่หรอ?” เรียวมะก้มตัวลงและยื่นหน้าไปไกลๆเด็กสาว

    “กะ ก็ใช่-”

    “แล้วไม่ดีใจหรอที่เจอฉัน น่าน้อยใจจังเลยนะ” เรียวมะยิ้มมุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์เล็กน้อย สายตาของเขาที่มองซากุโนะ ทำให้เธอรู้สึกยิ่งเขินอายมากกว่าเดิม

    “ไม่ใช่แบบนั้นนะจ๊ะเรียวมะคุง แต่ว่า…” ซากุโนะก้มหน้าหลบสายตาของเรียวมะ “ฉันแค่รู้สึกว่าเรื่องทุกอย่างมันซับซ้อนเกินไป จนฉันตั้งตัวไม่ทัน”

    “…”

    “คนที่ฉันคิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วแน่ๆกลับมาอยู่ตรงหน้า” 

    ซากุโนะเริ่มพูดความในใจออกมา ไม่รู้ว่าเพราะได้รับรู้เรื่องราวมากมายจนเธอรู้สึกอ่อนไหวไปเองรึเปล่า หรือว่าบรรยากาศเป็นใจให้พูดออกไป แต่ไหนๆเขาก็ได้อ่านจดหมายหมดแล้ว คงไม่มีอะไรที่เธอต้องปิดบังเขาอีก

    “…”

    “คนที่ฉันคอยเฝ้ามองผ่านหน้าจอโทรทัศน์มาตลอด” 

    มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่เธอปิดบังเขามาตลอด เธอรู้ว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเธอชอบเขา แต่เธอไม่เคยพูดตรงๆกับเขาเลยสักครั้ง อย่างน้อยถ้าครั้งนี้มันไม่สมหวัง เธอก็จะไม่เสียใจอีกแล้ว!

    “…”

    “คนที่ฉันชอบมาตลอด 2 ปี ฮึก” 

    ซากุโนะเอ่ยเสียงเครือ เพราะความอ่อนไหวที่เกิดขึ้นทำให้เธอเริ่มรู้สึกอยากร้องไห้ เธอได้พูดมันออกไปแล้ว เธอได้บอกชอบกับเขาตรงๆโดยไม่ต้องเขียนผ่านจดหมาย หรือไปบอกกับเขาในฝันแล้ว

    “!”

    ซากุโนะตกใจเพราะอยู่ๆเรียวมะก็คว้าตัวเธอไปกอดเอาไว้แน่น อ้อมกอดของเขาทำให้ซากุโนะรู้สึกอบอุ่น รู้สึกปลอดภัยทั้งๆที่เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม

     

    ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก นั่นคือเสียงหัวใจของเธอที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

     

    “ไม่ต้องร้องไห้เลยยัยขี้แง” เรียวมะลูบหัวซากุโนะเบาๆ “ฉันรู้”

    “ฮือออ” ซากุโนะซบหน้าลงกับไหล่ของเรียวมะ ใช้ไหล่ของเขาเป็นที่ซับน้ำตาของเธอ

    “ถึงคราวที่ฉันต้องพูดแล้วสินะริวซากิ”

    “เอ๊ะ?” ซากุโนะเงยหน้าขึ้น ทั้งคู่สบตากัน ใบหน้าของเธอกับเรียวมะอยู่ใกล้กันมาก ห่างกันเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น 

    “ตั้งใจฟังให้ดีๆนะ”

    “ไม่ฟังได้ไหมจ๊ะ ฉันกลัวคำตอบ”

    “ไม่ได้! เธอต้องตั้งใจฟัง” 

    “…”

    “ฉันชอบเธอซากุโนะ”

    “อือ…” ใบหน้าของทั้งคู่ต่างก็แดงขึ้นเรื่อยๆ

    “ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันก็ไม่ต่างกับเธอหรอกนะ”

    “…”

    “ฉันเคยมานั่งโกรธด้วยเพราะคิดว่าเธอลืมฉันไปแล้ว แต่จดหมายพวกนี้ก็ทำให้รู้ว่าเธอไม่เคยลืมฉัน เธอยังคิดถึงฉันมาตลอด”

    “…”

    “คราวนี้มาอยู่ข้างๆกันได้แล้วนะซากุโนะ” เรียวมะสบตากับซากุโนะ เหมือนเป็นการยืนยันในคำพูดของเขา

    “อื้อ!” ซากุโนะตอบรับคำขอของเขา แม้ว่ามันจะไม่ใช่ เป็นแฟนกันนะ แบบที่คู่อื่นใช้กัน แต่กับเขา กับเจ้าชายเทนนิสอย่างเรียวมะแล้ว นี่ก็คือคำขอที่เป็นตัวเขานั่นแหละ

    “ไปได้แล้วริวซากิ อยากขึ้นห้องเรียนสายหรอ” 

    เรียวมะผละออกจากกอดนี้ แม้ว่าตัวเขาจะไม่อยากทำและเอื้อมมือไปจับมือเล็กนุ่มนิ่มของซากุโนะ แล้วพากันเดินไปทางขึ้นตึก

     

     

    ระหว่างทางของทั้งคู่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ บรรยากาศรอบตัวล้วนอบอวนไปด้วยความรักของทั้งคู่ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อตอนที่ทั้งเธอและเขาอยู่ม.1 อีกครั้ง แม้ว่าตอนนี้จะขึ้นม.ปลายกันแล้ว เวลาที่เปลี่ยนไปทำให้ทั้งคู่ต่างเติบโตขึ้น บุคคลรอบตัวมากมายต่างแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเองแล้ว

     

     

    แต่มีสิ่งเดียวที่มันไม่เคยเปลี่ยนไปตามกาลเวลา นั่นคือความรู้สึกของเขาทั้งคู่ มันยังคงเหมือนเดิม และมันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป 

     

     

    หากเรื่องราวทั้งหมดของซากุโนะและเรียวมะเป็นนิยาย 1 เล่ม ทั้งคู่ก็จะจับมือกันไปจนถึงหน้าสุดท้ายของนิยายเล่มนั้น เพราะไม่ว่าจะให้เขาและเธอแยกห่างกันเพียงใด สุดท้ายพวกเขาก็จะกลับมาอยู่ด้วยกันอยู่ดี 

     

     

    เพราะนี่คือพรหมลิขิตของพวกเขาไงล่ะ :)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk :

    และแล้วก็เดินทางกันมาถึงตอนจบแล้วนะคะทุกคนนนนน ฮือออออออไรท์ดีใจมากๆเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะแต่งจบด้วย เปิดเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะว่าอินกับอนิเมะล้วนๆเลย 

    ไรท์ขอบคุณสำหรับกำลังใจ หัวใจ คอมเมนต์ หรือทุกคนที่กดติดตามกันนะค้าบ ขอบคุณจริงๆนะคะ

    และสุดท้าย ตอนหน้าพับกบ เอ้ย! พบกับตอนพิเศษค่าาาาาา

     

     

     

    ปล.ส่งท้ายจริงๆแล้วค่ะ ไรท์อยากเล่น Q&A ;-; หากใครมีคำถามหรือสงสัยอะไร ถามมาได้นะคะ อยากตอบเพราะไรท์เหงาม๊าก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×