คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 8 อดีตที่ยากจะหวนกลับ
ริมฝั่งแม่น้ำสายหลักของดินแดนเทพที่ทอดยาวตั้งแต่ดินแดนทางทิศเหนือ ไหลผ่านทิศตะวันออก ทิศกลาง ทิศใต้ และไปสุดสายที่ป่าแห่งสำนึกผิดชอบชั่วดี โดยที่ร่างของเด็กหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์นั่งชันเข่าเคี้ยวขนมปังกินเพื่อประทังความหิว สายตาทอดชมดวงสุริยันสีทองในยามเย็นกำลังตกดินบอกลาท้องฟ้า ส่วนอีกร่างของผู้ที่เป็นเทพตัวสูงนั้นกลับนอนบนพื้นหญ้าสีเขียวอย่างสบายอารมณ์ มือข้างซ้ายยกขึ้นมาหนุนหัวแทนหมอน ส่วนมือขวาหยิบคุกกี้ที่วางอยู่ข้างตัวเคี้ยวเข้าปากขนแก้มตุ่ยโดยไม่สนใจว่าเจ้าตัวกำลังนอนอยู่นะ
นอนกินเป็นหมูไปได้ เทพบ้า !
“คราวนี้เล่าเรื่องของนายให้ฟังได้หรือยัง ? เทพซึงฮุน ...”
“ใจร้อนจริงๆ” ซึงฮุนว่าฉุนเฉียว ก่อนม้วนตัวขึ้นนั่งขัดสมาธิ แต่มือก็ยังคงส่งคุกกี้ชิ้นเล็กเข้าปากเคี้ยวไม่หยุด เคี้ยวแม้ตอนที่กำลังพูดอยู่ จึงทำให้คำพูดของผู้เป็นเทพนั้นฟังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร “เรื่องของข้ากับจินอูเกิดขึ้นมานานมาแล้ว ...”
ร่างเล็กเดินวนไปเวียนมาอยู่ท่ามกลางสวนใหญ่กลางเมือง แม้บรรยากาศในช่วงเย็นจะดีแสนเหลือเกินแต่กับร่างเล็กกลับร้อนรน ริมฝีปากบางจิ๊จ๊ะเสียงดังในโพลงปาก ลิ้นบางดันกระพุ้งแก้มจนนูนออก มือเล็กยกขึ้นขยุ้มเส้นผมสีน้ำตาลจนยุ่งเยิงไปหมด ใบหน้าหวานตีสีหน้าบึ้งตึงแสดงความโมโหออกมาอย่างเห็นได้ชัด
แต่รออีกเพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งนาที ร่างสูงๆ ของอีซึงฮุนก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาคนอารมณ์เสียแค่เปลือกนอก ก่อนจะหอบหายใจตัวโยน แขนทั้งสองข้างค้ำที่หัวเข่าและลมหายใจเข้าออกยาวๆ สม่ำเสมอบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังเหนื่อยหอบอย่างจัด
“ขอโทษนะจินอู รอนานไหม ?”
“ไม่นานหรอก”
ตอบน้ำเสียงตัดเพ้อก่อนเสมองไปทางอื่น แขนเล็กยกขึ้นมากอดประสานกันที่อก เบะปากคว่ำจนใบหวานหวานหวานแลดูน่าเกลียดนิดๆ ไม่อยากเห็นหน้าของคนที่ทำให้ตนต้องรอนานเกือบครึ่งชั่วโมง
“ไม่เอาสิ อย่าประชดกันแบบนี้นะคนดี”
ซึงฮุนเข้าไปโอบไหล่แคบของจินอู เทพตัวเล็กพยายามสะบัดไหล่ของซึงฮุนออก แต่ก็ต้องยอมนิ่งเมื่อโดนนิ้วเรียวของซึงฮุนจิ้มลงบนแก้มเนียนใสของเจ้าตัว
จุดอ่อนอีกอย่างหนึ่งของจินอู ...
“ย่าห์ ! อีซึงฮุน !”
“เจ้ายิ้มแล้ว คิมจินอู เจ้ายิ้มแล้ว” ดวงตาเล็กแทบปิดลงเมื่อเห็นรอยยิ้มของจินอูเปื้อนบนใบหน้าใส ลักยิ้มบุ๋มลงลึกบนแก้มเนียนของจินอูทำเอาซึงฮุนรู้สึกดีไปด้วย คิมจิอูเป็นคนที่โกรธใครได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีหรอก เชื่อสิ ... ตราบใดที่หน้าผากของเจ้าตัวตีตราเอาไว้ว่าเป็นเทพแห่งความรักไมตรีและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ตัวโต “ขอโทษนะที่มาช้า ยกโทษให้ข้านะ”
ว่าแล้วเจ้าตัวก็เต้นท่าตลกๆ เพื่อเอาใจจินอู ทำเอาผู้เป็นเทพหน้าหวานหัวเราะร่วนออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะคลายแขนที่กอดอกออกมาตีที่ไหล่กว้างของซึงฮุน
“พอแล้ว ซึงฮุน ข้าไม่ได้โกรธเจ้าสักหน่อย”
“เจ้าน่ารักที่สุดเลยรู้ไหม ? คิมจินอู”
แขนที่เคยโอบไหล่แคบทิ้งตัวลงมาข้างตัวก่อนที่มือหนาของซึงฮุนจะจับเข้าที่มือบางของจินอู นิ้วทั้งสิบของทั้งสองคนสอดประสานเข้าหากันก่อนค่อยๆ เดินเคียงข้างกันไปตามทางเดินของสวน ชมดวงอาทิตย์สีทองดวงใหญ่ที่กำลังสิ้นแรงขอตัวไปพักผ่อนหลังภูเขาลูกใหญ่ไกลๆ ทางทิศตะวันตก
“อย่าบอกนะว่านายกับจินอู ...”
“ใช่ ... ข้ากับคิมจินอูเคยคบหากัน”
คำตอบของซึงฮุนทำหัวใจของซึงยูนชาวาบไปชั่วขณะ สมองประมวลข้อสงสัยข้อใหม่ขึ้นมา
“แล้วตอนนี้ล่ะ ?”
คำถามที่เด็กหนุ่มโพล่งถามออกไปนั้นทำเอารู้สึกจุกขึ้นมาอย่างดื้อๆ กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ซึงยูนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมหัวใจของตัวเองต้องบีบรัดความเจ็บปวดไว้ด้วยเมื่อรู้ว่าซึงฮุนคนที่อยู่ข้างๆ เขาในเวลากับจินอูคนที่ทำให้หัวใจสั่นไหวทุกครั้งเวลาที่อยู่ใกล้ๆเคยคบกัน
“เจ้านี่ร้อนรนเรื่องของจินอูจริงๆ นะ ชอบเทพตัวเล็กนั้นแล้วหรือไง ?”
“ตอบคำถามมาก่อนสิ”
“โอเคๆ ยอมตอบคำถามเจ้าแล้ว” ซึงฮุนทิ้งตัวลงนอนบนพื้นหญ้าสีเขียวอีกครั้ง “ข้ากับจินอูเป็นอดีตไปแล้ว เป็นอดีตที่ยากจะหวนกลับ ข้ากับจินอูในเวลานี้เป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น จินอูสดใสและบริสุทธิ์เกินไปที่ข้าจะทิ้งขวางแบบไม่ใยดีสักเท่าไร”
ยิ่งคิดถึง รอยยิ้มของซึงฮุนก็ระบายเปื้อยบนใบหน้าจนโหนกแก้มยกสูง ดวงตาเรียวเล็กคู่นั้นเหม่อมองท้องห้าสีทอง ซึงยูนก้มมองซึงฮุนในเวลานี้แล้วอดยิ้มตามไม่ได้ เชื่อว่าซึงฮุนคงมีความสุขมากกับฐานะปัจจุบันของเขา
และซึงยูนก็มีความสุขเมื่อรู้ความจริงว่าซึงฮุนและจินอูเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน เป็นเพียงอดีตที่ไม่หวนกลับมาพัฒนาเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งนั้นได้อีกแล้ว ...
ว่าแต่ ... ทำไมซึงยูนถึงมีความสุขมากมายขนาดนี้ล่ะ ?
“...”
“ที่เจ้าอยากรู้เรื่องของข้ากับจินอูมากขนาดนี้เพราะเจ้ากำลังคิดอะไรกับเทพตัวเล็กอยู่ใช่ไหม เจ้ามนุษย์อัศวิน ?”
รู้สึกจุกขึ้นมาดื้อๆ อีกครั้งกับคำถามเย้าแหย่ที่เด็กหนุ่มไม่คาดคิดว่าเทพบ๊องจะออกปากถาม เหลือบมองบุคคลที่นอนแผ่หลาอย่างสบายอารมณ์ยิ้มกรุ่มกริ่มแล้วรู้สึกหมั่นไส้ อยากกระโดดทับร่างหนานั้นแบนราบเป็นทางเดินเสียจริงๆ
“ปะ ปะ ...”
“อีซึงฮุน คังซึงยูน”
เสียงหวานดังแว่วขึ้นมาไกลๆ ช่วยเหลือชีวิตของซึงยูนที่กำลังจนมุม เด็กหนุ่มแทบอยากจะวิ่งเข้าไปกระโดดขี่คอคนที่เข้ามาช่วยเหลือตนในเวลานี้เหลือเกิน
จินอู ...
ดวงตาของซึงยูนเบิกกว้าง หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้เมื่อเห็นรอยยิ้มกว้างและร่างเล็กๆ ที่วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาหา ซึงฮุนจึงม้วนตัวขึ้นมานั่งอีกครั้ง
“จินอู มาทำอะไรเนี้ย ?”
“มารับซึงยูนไง ทำไมหรอ ? ข้ามารับอัศวินของข้าไม่ได้เชียวหรือ ?” หันไปแขวะซึงฮุน บุคคลที่ตั้งหน้าถามคำถามงี่เง่าเต่าประหลาดแล้วแล้วส่งยิ้มบางๆ ให้ รอยยิ้มที่ซึงยูนแอบกลัว กลัวว่ารอยยิ้มนั้นจะเปลี่ยนใจซึงฮุนให้กลับไปรู้สึกดีกับจินอูอีกครั้ง “กลับกันเถอะซึงยูน”
“คะ ครับ”
เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนตัวตรง แต่เทพประหลาดก็ยังไม่หยุดแขวะ
“พาอัศวินกลับดีๆ ล่ะจินอู อย่าพาหลงทางเชียวนะ”
“ย่าห์ ! อีซึงฮุน เจ้าอยากโดนเสกให้กลายร่างเป็นเพื่อนอี๊ฮีหรือไง ?”
“เป็นแค่พี่ชายอี๊ฮีก็ลำบากพอแล้ว อย่าให้ข้ากลายร่างเป็นเพื่อนอี๊ฮีเลย เดี๋ยวอี๊ฮีน้องรักของข้าจะไม่มีพี่ชายที่แสนดีคอยปกป้อง”
“เจ้านี่เพี้ยนได้ตลอดเวลาเลยนะ” จินอูนึกหมั่นไส้เพื่อนรัก แลบลิ้นเล็กให้หนึ่งที แล้วเหลือบมองเด็กหนุ่มที่อมยิ้มกลั้นขำเทพทั้งสองทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย “กลับกันเถอะซึงยูน อย่าไปใส่ใจซึงฮุนนักเลย รายนั้นชอบแขวะข้าแบบนี้ตลอดแหละ”
ว่าแล้วแขนเล็กของจินอูก็คล้องเข้ากับแขนยาวของซึงยูน เด็กหนุ่มเหมือนตกอยู่ในภวังค์อีกครั้งเมื่อไม่คิดมาก่อนว่าผู้เป็นเทพจะถึงเนื้อถึงตัวบ้าง ราวกับร่างกายทั้งร่างชาวาบไร้ความรู้สึกแม้จะโดนเทพตัวเล็กนี้ลากให้เดินตามแล้วก็ตาม
“ซึงยูน พรุ่งนี้อย่าลืมมาซ้อมดาบกับข้าอีกนะ !”
แม้ดวงตะวันจะลาลับขอบฟ้าเสียสละหน้าที่ส่องแสงสว่างยามค่ำคืนให้กับดวงจันทราและแสงดวงดาวพราวระยับ แต่สำหรับจินอูกลับไม่สนใจท้องฟ้าแสนสวยในเวลานี้ เพราะดูท่าทางคนตัวเล็กจะเกิดปัญหาใหญ่จากการหลงทางตามคำสบประมาทของเพื่อนรักตัวสูงแล้วสิ
แย่จัง ... หลงทางจริงๆ แล้วสินะ
ทั้งๆ ที่เดินไปเดินมาอยู่ทุกวัน ...
“เอ่อ ... ข้าคิดว่า ...”
“หลงทางใช่ไหมครับ ?”
คำถามที่น่าขันไม่ได้ทำให้จินอูอยากจะหัวเราะแล้วตอบออกมา แต่กลับก้มหน้าหลบสายตาเรียวและใบหน้าเรียบเฉยของซึงยูนอย่างสำนึกผิด เทพร่างเล็กอาจจะโดนมนุษย์ร่างสูงโปร่งคนนี้ตำหนิแน่ๆ ที่พาหลงทาง เวลานี้ความมั่นใจของจินอูเหมือนถูกฉุดให้กระโดดลงเหวลึกของหัวใจ พยักหน้ารับเบาๆ เป็นคำตอบ
แต่สำหรับซึงยูนกลับเข้าใจดี คำพูดติดตลกนั้นของซึงฮุนลอยเข้ามาในโสตประสาท หลุบตามองร่างเล็กที่เวลานี้ก้มหน้างุดเห็นเพียงกลุ่มเรือนผมนุ่มสีน้ำตาลเข้มที่สะท้อนแสงจันทร์เท่านั้น
พาเขาหลงทางจนได้ น่าแกล้งเสียให้เข็ด ...
พาหลงทางแล้วยังไม่คิดจะหาทางกลับอีก กลับก้มหน้าหนีปัญหาอย่างนี้มันใช้ไม่ได้เลยนะ ...
“ฮ่าๆ” เสียงระเบิดหัวเราะของซึงยูนเรียกให้ใบหน้าหวานของจินอูเงยขึ้นมามองอย่างไม่เข้าใจ แต่ดูท่าทางคนที่อารมณ์ดีเกินไปจะไม่หยุดหัวเราะง่ายๆ จินอูก็ยิ่งเอียงคอสงสัยในท่าทางของเด็กหนุ่ม เมื่อครู่ยังตีสีหน้านิ่งอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับระเบิดหัวเราะราวกับเป็นไบโพลาด์ “ไม่เป็นไรครับ หลงทางแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”
พูดจบเด็กหนุ่มก็คว้าตัวผู้เป็นเทพเข้ามาฝังตัวในอ้อมกอด ความอบอุ่นแผ่กระจายไปทั้งสองร่าง ก้อนเนื้อหัวใจที่อยู่ในอกข้างซ้ายเต้นประสานไปพร้อมๆ กัน และพร้อมที่จะเต้นรุนแรงมากขึ้นด้วย ไร้การขัดขืนของจินอูและไร้ท่าทีว่าจะปล่อยร่างเล็กให้ออกไปจากความอบอุ่นนี้ง่ายๆ ของซึงยูน
อ้อมกอดที่เวลานี้ ไม่สนใจความแตกต่างว่าทั้งสองคนเป็นใครมาจากไหนหรืออยู่ในฐานะที่แตกต่างอย่างไร ...
XXXXX
กรี๊ดดดดดด ! ยูนอูชิปเปอร์ฟินกันไหมคะ ?
ตอนนี้เจ๊มาเฉลยแล้วนะคะว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ฮุนนี่ของเจ๊ตีบ (?) เหม่อลอย
และแถมด้วยยูนอูที่เขาเริ่มหวานใส่กันแล้วค่า ><
ขอเสียง #ทีมคังคิม หน่อยเร็วววววววว .. . (กริบ)
โอ้ย ! ไม่ไหว หมอนบ้านเจ๊ตีบขาดจนต้องเย็บหลายใบแล้วค่ะ 55555555
อยากพูดคำว่าขอบคุณให้ได้หลาย ๆ ภาษาจัง จะได้ตอบแทนรีดเดอร์ที่น่ารักของเจ๊ตีบทุกคนเนาะ
น่ารักมาก ๆ เลย อยู่กับเจ๊ตีบตลอด J
ตอนนี้ความสนุกอาจจะลดน้อยถอยลงไปบ้างเนาะ เพราะเจ๊เริ่มมึน 5555555
อีกอย่าง เจ๊ต้องปิดเรื่องนี้ก่อนวันที่ 15 มีนาคม นี้ด้วย
สายตัวแทบขาด TT แทบไม่ได้พักไม่ได้ผ่อนไม่ได้เที่ยวเล่น (?) 555555555 เวอร์เนาะ
ยังไงถ้าเป็นไปได้ จะมาอัพทุกวันเนาะ ^^
รักนะคะ จุ๊บ >3<
#ฟิคอัศวินเที่ยงคืน
ความคิดเห็น