คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7
แค่อยากเก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ทำไมต้องผลักไสราวกับรังเกียจขนาดนั้น ?
แสงแดดยามบ่ายส่งแสงแรงกล้าเล็ดลอดผ่านม่านหน้าต่างสีเข้มที่ไม่ถูกปิดให้สนิทนั้นปลุกให้เจ้าของห้องค่อยๆ รู้สึกตัวลืมตาตื่น กระพริบตาถี่ๆ ให้ดวงตาที่โดนปิดสนิทหลายชั่วโมงปรับสภาพรับแสงที่ส่องเข้ามาแยงตา มันเป็นเรื่องชินชาไปแล้วสำหรับคนที่ทำงานกลางคืนและนอนพักผ่อนในช่วงเวลาเช้ามืดของอีกวันหนึ่งไปแล้ว เพราะนาฬิกาปลุกของคนที่ทำงานผิดเวลาจากชาวบ้านชาวช่องอย่างเขานั้นคือดวงอาทิตย์กลมโตส่งแสงแรงกล้าของช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ เคลื่อนคล้อยไปทางทิศตะวันตก
พลันกวาดสายตามองผู้ที่มาอาศัยชั่วคราวเวลานี้ยังคงหลับอุตุไม่รู้เวล่ำเวลาว่าตอนนี้บ่ายแก่จนตะวันจะตกลงดินอีกครั้งแล้ว แต่ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้ไม่ต้องรับมือกับลูกกวางแสนดื้อดึงจนหมาต้อนแกะอย่างเขาต้องเหนื่อยเปล่า
ก็เขาเป็นเพียงหมาต้อนแกะ ถ้าจะให้รับมือกับกวาง คงต้องเดือดร้อนหาครูฝึกมาสอนเขาให้ต้อนกวางเป็นเสียแล้วสิ ...
ร่างเล็กที่โอบกอดซึงยูนไว้นั้นค่อยๆ ขยับร่างแล้วคลาย พลิกตัวนอนหงายก่อนค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกคน ดวงตากลมโตใสแป๋วกระพริบถี่ๆ ปรับสภาพไม่ต่างกันกับซึงยูนยามตื่นจากนิทราเลย พลางยกมือขึ้นขยี้ตาตัวเองเบาๆ เมื่อสายตาถูกปรับมาจนเป็นปกติ จินอูก็ต้องกรอกตามองทุกสิ่งรอบข้างแม้ยังไม่ลุกจากเตียงนอนนุ่ม ร่างกายจับสัมผัสไอความร้อนจากกายของมนุษย์อีกคน สมองจึงรีบสั่งการให้ใบหน้าหวานสะบัดมาเหลือบมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ แทบจะทันที
“อรุณสวัสดิ์”
“ย่าห์ !”
ปึก !
โครม !
“โอ้ย !”
ไวกว่าความคิด จินอูรีบขยับเท้าขึ้นมาถีบร่างของคนที่ยิ้มแป้นแล้นหน้าทะเล้นอยู่ข้างตัวจนซึงยูนกลิ้งตกจากเตียงนอนหนานุ่มกระแทกกับพื้นแข็งจนอวัยวะที่กระทบกับพื้นนั้นเจ็บปวดรวดร้าวไปหมด ส่วนตัวผู้ก่อเหตุนั้นกระโดดเด้งตัวด้วยความเร็วแสงไปยืนอีกฟากฝั่งหนึ่งของเตียงนอนพร้อมกับกำเสื้อคอเต่าที่แสนมิดชิดของตัวเองไว้แน่น กลัวว่าอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์อีกคนจะกระโจนเข้ามาทำอะไรมิดีมิร้ายตน
“คังซึงยูน ... เมื่อคืน ... เมื่อคืนนายทำอะไรฉัน ?”
เจ้าของห้องสุดหล่อระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นห้องพลางตระกุยตระกายร่างตัวเองขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียงนอนหนา เหลือบสายตาเรียวรีวางฟอร์มมองเจ้ากวางน้อยแม้ตัวเองจะยังเจ็บเพราะโดนกวางพยศถีบเข้าเต็มๆ เบ้า
ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ ซึงยูนเอ้ย ...
“นี่เมื่อคืนซดจินจนโดนทำลายสมองส่วนความจำไปหมดแล้วหรือไง ?” คำพูดลอบกัดของคนที่เป็นเหมือนลูกหมาลอยกระทบกับหูทั้งสองข้างพลอยทำโกรธจนหน้าแดงจัด หอบหายใจฟึดฟัดระบายความโกรธ แต่สมองภายในกลับพยายามประมวลความทรงจำ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก “เมาซะจำอะไรไม่ได้แบบนั้นฉันไม่คิดจะทำอะไรนายหรอก บอกเลย มันไม่เร้าใจ”
“ไอ้คนทะลึ่ง !” หยิบหมอนใบโตที่ตัวเองหนุนนอนตลอดคืนขึ้นขว้างปาใส่เจ้าของห้องหน้าหล่อ แต่ซึงยูนไหวตัวทันรีบเบี่ยงตัวหลบ “ปล่อยให้ฉันนอนที่คลับคนเดียวซะยังจะดีกว่าต้องมานอนร่วมชายคาเดียวกันกับนาย !”
“นอนที่คลับมันไม่สบายเท่านอนที่เตียงของฉันหรอก เชื่อสิ ... แถมยังได้นอนกอดฉันฟรีๆ ด้วย ข้อนี้มีแต่คนอยากได้จะตาย นายน่าจะดีใจมากๆ นะ คิมจินอู”
คราวนี้เจ้ากวางน้อยตาลุกโชนด้วยแรงโมโหที่ทวีคูณ อยากจะเหวี่ยงฟาดงวงฟาดงาใส่ แต่สิ่งที่อยู่ใกล้มือนั้นก็ไม่มีอะไรที่สามารถขว้างปาใส่ไอ้คนปากเสียแล้วจึงทำได้แค่ฟึดฟัดเหวี่ยงแขนขากระทืบเท้าปึงปังเท่านั้น
“มันก็เป็นเพราะฉันเมาไม่รู้เรื่องเท่านั้นแหละถึงได้ทำอะไรแบบนั้นออกไป” เบะปากใส่พลางคว้าแว่นตากันแดดสีดำสนิทที่วางนิ่งอยู่บนโต๊ะตัวเล็กข้างหัวเตียงมาสวมใส่ ถ้าไม่ติดว่าซึงยูนปากเสียและทะลึ่งหื่นกามเกินให้อภัย จินอูก็อยากจะขอบคุณที่เก็บแว่นตาราคาแพงลิ่วให้และยังแบ่งปันที่นอนนุ่มนิ่มให้หลับนอนอีกตลอดทั้งคืน “ฉันกลับล่ะ หวังว่าเราคงจะไม่ได้เจอกันอีกนะ คังซึงยูน ... ว่าแต่ ประตูห้องนี้มันอยู่ตรงไหนเนี้ย ?”
คนที่นั่งขัดสมาธิอยู่ริมเตียงอีกฝั่งแทบอยากจะหัวเราะกลิ้งลงไปนอนกองบนพื้นอีกรอบเมื่อฟอร์มที่เจ้ากวางน้อยสร้างขึ้นมานั้นแตกสลายกลายเป็นเรื่องตลกเมื่ออีกฝ่ายถามหาประตูห้องด้วยท่าทางเงอะงะ เจ้าของห้องสุดหล่อจึงตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาประชิดตัวจินอู มือขวาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือข้างซ้ายของคนตัวเล็กแน่น แน่นอนว่าจินอูต้องขัดขืน โวยวาย และพยายามสะบัดข้อมือออกจากการจับกุม แต่มีหรอที่ซึงยูนจะยอม จับแน่นขนาดนั้นไม่มีทางปล่อยให้ลูกกวางหลุดออกจากกรงเล็บหมาป่าหรอก
“เดี๋ยวไปส่ง”
“ฉันกลับเองได้”
“ประตูทางออกยังหาไม่เจอเลยแล้วจะกลับเองได้ยังไง ? ให้ฉันไปส่งแหละดีแล้ว เดี๋ยวไปเดินหลงทางข้างนอกแล้วจะยุ่งไปกันใหญ่”
“ฉันหลงทางแล้วนายเดือดร้อนอะไรด้วย ? ปล่อยนะ จำที่ฉันขอไม่ได้เลยหรือไง ?”
คนตัวสูงหลุบตาลงมองใบหน้าหวานที่ครึ่งหน้าด้านบนนั้นถูกบดบังด้วยแว่นตากันแดดกรอบโต ซึงยูนยกมืออีกข้างที่ว่างอยู่กดวัตถุกรอบใหญ่สีดำนั้นลงพอให้เห็นตากลมแป๋วคู่นั้นกรอกขึ้นมองซึงยูนอย่างเอาเรื่อง
“จำได้ แต่ขอโทษนะ ฉันทำไม่ได้”
คำตอบกวนประสาทอยากจะยกมือขึ้นฟาดตีร่างของคนตัวโตกว่านั้นแทบจะฉุดให้จินอูระเบิด แต่ยังไม่ทันจะจุดชนวนระเบิดได้สำเร็จก็โดนเจ้าลูกหมาลากให้ออกจากห้องโดยไม่ถามความสมัครใจของตัวนายแบบร่างเล็กเลยสักคำว่าอยากให้ลากจูงแบบนี้หรือเปล่า ?
“คังซึงยูน ปล่อยนะ !”
โวยวายเสียงดังลั่นจนก้องตึก พร้อมทั้งรวบรวมเรี่ยวแรงที่มีขัดขืนรั้งตัวเองสุดชีวิต พร้อมทั้งสะบัด ทั้งพยายามแกะมือที่แสนแน่นเหนียวบนข้อมือของตัวเองออก ทั้งพยายามที่จะต้านไม่ก้าวเท้าให้เดินตามแรงฉุด แต่ก็ดูเหมือนสิ่งที่พยายามทำทุกอย่างนั้นจะไร้ผล อาจเพราะขนาดตัวที่ต่างกันและเรี่ยวแรงของหมาลากจูงที่มีมากกว่ากวางตัวเล็กแล้ว เจ้าคนตรงหน้าก็ไม่สนใจเดินดุ่มพลางลากตัวคนร่างเล็กอย่างไม่แยแสสนใจว่าใครจะมาเห็น หยุดยืนที่หน้าลิฟท์โดยสารขนาดใหญ่ ยกนิ้วกลางขึ้นกดปุ่มเครื่องหมายชี้ลงมาดเท่ห์ แต่การกระทำนั้นกลับขวางหูขวางตาคนหน้าสวยว่าจะทำเป็นหล่อไปทำไมเมื่อหน้าตัวเองก็งั้นๆ เมื่อเทียบกับระดับนายแบบอย่างเขา
จินอูเท่ห์กว่าตั้งเยอะ ...
“ถ้านายอยากจะดังเรื่องเสียๆ หายๆ ล่ะก็ เชิญที่ชั้นใต้ดินเลยตามสบาย นี่ก็เย็นมากแล้ว คนเขาที่กลับจากทำงานก็คงจะเยอะน่าดู พวกเขาจะได้เนนายอยู่กับฉัน แล้วก็ถ่ายรูปนายไปขายให้พวกนักข่าว ก็อยากรู้เหมือนกันว่าพวกแมวจะเขียนข่าวว่ายังไง ? คราวนี้แหละ คังซึงยูนคนนี้จะพลอยดังระเบิดไปกับเขาด้วย”
เมื่อเท้าทั้งสองคู่พาร่างของซึงยูนกับจินอูเข้ามาในลิฟท์โดยสารแล้ว ร่างสูงโปร่งกดแป้นปุ่มชั้นที่ต้องการลงก่อนยกนาฬิกาเรือนหรูบนข้อมือมาดูเวลาแล้วยกยิ้มอย่างพออกพอใจ ตรงกันข้ามกับจินอูที่เม้มปากแน่นซ่อนอารมณ์โกรธเคืองทางสายตาด้วยแว่นตาสีดำอันโต มือบางรวบนิ้วเข้าหากันแน่นโดยลืมไปว่าข้อมือข้างขวานั้นโดนซึงยูนกุมเอาไว้อยู่ แรงอารมณ์โมโหสั่งการให้ร่างกายต้องสั่นเทิ้มไปหมดจนไอ้ลูกหมาสัมผัสได้ แต่นั้นไม่ได้ทำให้ซึงยูนรู้สึกสงสารแต่อย่างไร กลับยิ่งทำให้รู้สึกดีที่เขาอยู่เหนือกว่าจินอูไปหลายขั้น
ความเงียบโปรยตัวเข้าคลุมกล่องสี่เหลี่ยมที่เอาไว้โดยสารตลอดเวลาที่ทั้งสองอยู่ภายใน ซึงยูนไม่ปล่อยมือออกจากข้อแขนของจินอู และจินอูก็ไม่คิดโวยวายต่อกรอะไรซึงยูนเพราะรู้ดีว่าพูดอะไรออกไปก็จะโดนซึงยูนไล่ต้อนจนจนมุม
ลิฟท์โดยสารของคอนโดหรูหยุดอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ประตูลิฟท์เปิดออก ซึงยูนจึงออกแรงดึงแขนของจินอูให้เดินตามแม้จะไม่แรงเท่าเมื่อตอนอยู่ชั้นห้า แต่ก็ทำให้เจ้ากวางน้อยเบะปากอย่างไม่สบอารมณ์ได้เหมือนกัน
รีโมทรถยนต์คันงามถูกกดลงด้วยน้ำหนักของปลายนิ้ว ไฟหน้ารถส่องสว่างพร้อมเสียงสัญญาณว่าประตูรถทุกด้านถูกปลดล็อกออกแล้ว ซึงยูนที่เดินพาร่างบางมาทางฝั่งผู้โดยสารปล่อยมือออกจากข้อมือบางของนายแบบหน้าใส ก่อนยกมือขึ้นเปิดประตูรถพร้อมผายมือเชื้อเชิญให้คนตัวเล็กเข้าไปนั่งด้านใน
จินอูจิ๊ปากเซ็งๆ แต่ก็ยอมว่าง่ายขยับตัวเข้าไปนั่งบนเบาะหนังสังเคราะห์สีแดงสด ซึงยูนปิดประตูรถเบาๆ แล้ววิ่งอ้อมมาทางฝั่งคนขับบ้าง เปิดประตูก่อนทิ้งตัวลงนั่งบ้างก่อนปิดประตูเสียงเบาพร้อมทั้งเอี้ยวตัวคาดเข็มขัดนิรภัย สตาร์ทให้ตัวเครื่องยนต์ติด ปลดเบรกมือ ใส่เกียร์เดินหน้า เหยียบแป้นคันเร่งพร้อมหมุนพวงมาลัยให้รถคันงามเคลื่อนตัวออกจากช่องจอดรถชั้นใต้ดิน
“คาดเข็มขัดนิรภัยด้วยสิเจ้ากวางน้อย”
จินอูเค้นเสียงไม่พอใจอีกครั้ง ขยับแว่นตาบนใบหน้าหวานหนึ่งทีก่อนยอมลดทิฐิลงมากึ่งหนึ่งเอี้ยวตัวคาดเข็มขัดนิรภัยตามคำสั่ง เสร็จแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองถนนหนทางเบื้องหน้าด้วยสีหน้าบูดบึ้งเป็นกวางป่วย
และแค่พูดบอกทางเมื่อซึงยูนถามไถ่เท่านั้น
ร่างหนายืนพิงรถแลมโบกินีคันสวยที่จอดเทียบทางเท้าหน้ามหาวิทยาลัยของนัมแทฮยอนมาเกือบครึ่งชั่วโมง ท่าทางร้อนรน เท้ากระดิก ยกนาฬิกาบนข้อมือขึ้นดูเข็มนาฬิกาเดินวนเป็นรอบแล้วรอบเล่า มีบรรดานักศึกษามากหน้าหลายตาเดินออกมาจากรั้วนั้นแล้วหลายคน แต่ในหมู่กลุ่มคนนับร้อยที่เดินออกมานั้นไร้ซึ่งเงาของคนที่มินโฮยืนรออย่างร้อนรนเลย แต่มินโฮก็ยังยืนยันว่าจะรอต่อไป ถ้าวันนี้ไม่ได้ทำความรู้จักกับนัมแทฮยอนอย่างเป็นทางการ ซงมินโฮคนนี้ก็จะขอนอนข้างถนนรอต่อไปโดยไม่ถอนใจกลับไปแน่นอน จะต้องเจอแมวอ้วนผมแสกกลางคิ้วตกที่เขาเห็นแวบๆ เมื่อเช้าที่ร้านของอีซึงฮุนให้ได้เลย
คิดจะเลี้ยงแมวรู้แค่ชื่อมันยังไม่พอ มินโฮต้องรู้ข้อมูลของแมวให้มากกว่านี้ ...
“พี่แทฮยอน ให้บ๊อบบี้ไปส่งนะ”
“ไม่ต้อง”
“อย่าเพิ่งตัดรอนกันแบบนั้นสิ ให้บ๊อบบี้ไปส่งพี่เถอะนะ พี่แทฮยอน”
“ก็บอกว่าไม่ต้องไง ไอ้เด็กฟันยื่น !”
“โหย ... คำว่าเด็กฟันยื่นอีกแล้ว ได้ยินคำนี้ทีไรหัวใจบ๊อบบี้แทบจะสลายแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ทุกทีแน๊ะ”
“นายก็อย่าตามตอแยฉันสิ นายจะได้ไม่ต้องได้ยินคำพูดทิ่มแทงหัวใจนายแบบนี้”
“ต่อให้พี่แทฮยอนบีบบ๊อบบี้ให้ตายคากำมือ บ๊อบบี้ก็จะตามพี่ตลอดแบบนี้แหละครับ ตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก”
บทสนทนาที่มีชื่อของแมวอวบเรียกความสนใจของมินโฮให้ไปมอง สายตาคมสองข้างมองเห็นร่างของเด็กที่ตนอยากเจอก้าวเท้าเดินนำหน้าเด็กร่างเตี้ยแต่กำยำ ท่าทางของแทฮยอนที่แสดงออกนั้นกำลังบ่งบอกว่ารำคาญเจ้าเด็กนั้นเต็มทนด้วยท่าเดินที่รวดเร็วและคำพูดกระแทกแดกดันแฝงขับไล่ให้เด็กเตี้ยฟันยื่นนั้นไปไกลๆ
มินโฮเข้าไปขวางทางเจ้าแมวอวบผมแสกกลางคิ้วตกพร้อมทั้งยิ้มกว้างจนโหนกแก้มยกขึ้นทั้งสองข้าง ส่วนแทฮยอนเมื่อโดนขวางก้อดไม่ได้ที่จะมองร่างหนานั้นด้วยสายตาเคือง ในใจสบถก่นด่าชีวิตว่าเจ้าตัวกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่าหนีเสือปะจระเข้อยู่ใช่ไหม ? ไม่ต่างกับบ๊อบบี้ เด็กน้อยตาสระอิฟันหน้ากระต่ายมองมินโฮสายตาเคืองราวกับหวงของ ก็มินโฮมายืนขวางทางคนที่ตัวเองถูกอกถูกใจ แถมยังมีท่าทีเหมือนจะเป็นก้างชิ้นใหญ่เยื้อแย่งแทฮยอนไปอีก แบบนี้บ๊อบบี้ยอมไม่ได้หรอก
“นายเป็นใคร ?”
ไม่ใช่คำถามที่ถูกถามออกมาจากปากของบุคคลร่างอวบ แต่กลับเป็นคำถามจากเด็กฟันยื่น เวลานี้บ๊อบบี้ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าชายแปลกหน้าผู้นี้มายืนขวางทางทั้งสองคนเพราะอะไร มินโฮเองเมื่อได้ยินคำถามก็ต้องหัวเราะร่วนแต่เพราะกลัวโดนตอกกลับว่าไร้มารยาทจึงจำเป็นต้องกลืนก้อนอารมณ์ขันนั้นลงลำคอก่อนกรอกสายตามองข้ามร่างแมวอ้วนไป เห็นแค่เพียงใบหน้าคมของเด็กน้อยตีบึ้งตึง ตาเล็กแทบปิดนั้นมองมินโฮด้วยความไม่เข้าใจผสมปนเปกับอาการหวงคนยืนกั้นกลางระหว่างมินโฮกับบ๊อบบี้อย่างชัดเจน
“อ่า ... ฉันต้องแนะนำตัวอย่างเป็นทางการสินะ ขอโทษทีที่เสียมารยาทไปหน่อย” มินโฮยกมือขึ้นประสานกอดอกด้วยท่าทางสบายๆ แต่เรียกความไม่พอใจอย่างแรงจากแทฮยอนได้ เจ้าแมวอ้วนอยากจะเดินหนีจากสถานการณ์ที่แสนอึดอัดและไร้สาระนี้เต็มทน แต่ก็ทำได้แค่เสมองไปทางอื่นและถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะบุคคลร่างหมีนั้นยืนขวางทางอยู่ “ฉันมีชื่อว่ามินโฮ ซงมินโฮ ... ที่ฉันมาขวางทางพวกนายวันนี้เพราะฉันอยากจะรู้จักกับนัมแทฮยอนให้มากกว่านี้ แบบว่าฉันสนใจแทฮยอนน่ะ และคงจะเดินหน้าจีบอย่างเป็นทางการสักที”
“ห๊า ! อะไรนะ !”
ทั้งเด็กร่างอวบและเด็กร่างเตี้ยหันหน้ามองชายแปลกหน้าโดยพร้อมเพรียงกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ดวงตาเลิกโพลงจนแทบถลนเพราะคำประสงค์ของเจ้าตัวแกร่งกล้าเกินกว่าที่ทั้งสองคนจะตั้งรับได้ทันท่วงที โดยเฉพาะแทฮยอนที่ไม่เชื่อหูตัวเองว่าซงมินโฮจะใจกล้าหน้าด้านขนาดที่จะมาพูดตรงๆ ว่าจะเดินหน้าจีบตนอย่างไร้ยางอายเช่นนี้
ในใจของแทฮยอนคิดว่าแค่บ๊อบบี้ที่มาตามตอแยให้ชีวิตของตัวเองก็วุ่นวายพอตัวอยู่แล้ว นี่ต้องมาเจอมินโฮคอยตามรังควานชีวิตที่แสนสงบสุขของตัวเองอีก อยากจะดึงทึ่งหัวตัวเองให้เส้นผมสีน้ำตาลบนหัวหลุดหลุนหมดหัวเสียจริงๆ
“คอนโดนายนี่สวยใช่ได้เลยนะเนี้ย ท่าทางจะแพงลิ่ว ใช่สินะเป็นถึงระดับนายแบบชื่อดังทั้งที จะให้ไปอยู่หอพักหรือคอนโดกระจอกงอกง่อยได้ยังไง จริงไหม ?”
ซึงยูนหยุดปากเอยชมอาคารชุดที่มีดีไซน์สวยงามแปลกตาและการตกแต่งอย่างมีสไตล์ไม่ได้ ทั้งสวนหย่อมลอยฟ้าสีเขียวชอุ่มเมื่อมองจากด้านนอกอาคารแบบนี้ สระว่ายน้ำกว้างที่อยู่ด้านข้างลานจอดรถ หรือแม้กระทั่งทางเดินตามโถงที่ปูลาดด้วยพรมสีแดงราวกับทางเดินของพวกดารา Hollywood ที่สามารถมองเห็นได้จากด้านนอกเมื่อทะลุเข้าไปในผนังกระจก แม้จะอยู่ท่ามกลางเมืองใหญ่ แต่เรียกได้ว่าคอนโดนี้เป็นสวรรค์กลางกรุงได้เลยทีเดียว
คอนโดที่เป็นที่พักของซึงยูนแทบจะเทียบไม่ติดเลยแหละ แม้ราคาจะใกล้เคียงกันแต่ความหรูหราและสะดวกสบายที่ได้รับนั้นเรียกได้ว่าต่างกันโดยสิ้นเชิง
“หมดธุระของนายแล้ว กลับๆ ไปเถอะ”
เจ้ากวางน้อยเปิดประตูรถแล้วกุลีกุจอกระโดดออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งปิดประตูรถเสียงดังราวกับตั้งใจให้รถคันงามพังพินาศไป หันหลังเดินโดยไม่คิดที่จะหันกลับมาโบกไม้โบกมืออำลาเจ้าของใบหน้ากลมที่ยังคงนั่งเอ๋ออยู่กับเบาะหนังสีแดงฝั่งคนขับ ซึงยูนเห็นว่าจินอูเสียมารยาทที่ไม่คิดจะกล่าวคำขอบคุณอะไรเขาบ้างเลยตั้งแต่ยอมให้อาศัยอยู่ในคอนโดข้ามวันข้ามคืน ไหนจะขับรถมาส่งถึงคอนโดอีก อย่างน้อยคำว่าขอบคุณ เขาก็น่าจะได้ยินจากเจ้าของกลีบปากบางคู่นั้นบ้าง
“คำขอบคุณสักคำก็ไม่มี แถมยังไม่คิดที่จะให้ขึ้นไปส่งถึงห้องอีกหรอ ? ใจดำเกินไปหน่อยไหมอ่ะ ?” สารถีจำเป็นเปิดประตูรถแล้วยืดตัวขึ้นตะโกนถามเจ้าของใบหน้าหวานที่เคยเป็นผู้โดยสารราวกับตัวเขานั้นเป็นคนขับแท็กซี่มิเตอร์เพื่อรั้งให้จินอูหันกลับมามองเขา ซึงยูนก้าวเท้าเหยียบพื้นซีเมนต์แข็ง ปิดประตูรถเบาๆ แล้วเดินมายืนตรงหน้าจินอู แม้เจ้าตัวคนหน้าหวานจะไม่ค่อยพอใจทำท่าฟึดฟัดเงียบๆ แต่ก็ไม่สามารถลดความหน้าด้านของซึงยูนได้เลย จินอูทำได้แค่เบะปากบางแสดงความไม่พอใจใส่ “เดี๋ยวไปส่งถึงห้อง”
“ไม่จำเป็น ฉันขึ้นไปเองได้ ห้องก็ห้องฉัน ไม่หลงขนาดจำห้องตัวเองไม่ได้หรอก กลับไปเดี๋ยวนี้เลยนะ เดี๋ยวนักข่าวมาเห็นแล้วจะเอาฉันไปเขียนข่าวเสียหาย ฉันจะเดือดร้อน”
แต่ดูท่าทางซึงยูนจะไม่สนใจคำขอร้องที่ลอดไรฟันนั้นเลย คว้าข้อมือของจินอูแล้วออกแรงลากให้ร่างเล็กนั้นตามเขาเข้าไปในตัวคอนโด คนตัวเล็กที่โดนฉุดให้เดินตามนั้นทำได้แค่สบถในใจพลางคิดไปว่าตัวเองนั้นยังเป็นคนอยู่ใช่ไหม ? ทำไมถึงได้โดนเจ้าลูกหมาตัวโตลากไปลากมาราวกับตัวเขานั้นเป็นรถของเล่นยังไงยังงั้น ...
XXXXX
ทำไมนายเอกของเราต้องชอบใช้กำลังด้วย ? 5555555
เกือบแล้ว เกือบฟินอีกแล้ว แต่ยังค่ะ ถ้าคุณคิมเขาไม่ยอม เจ๊ก็จะไม่ทำให้รีดเดอร์ฟินง่ายๆ หรอก :p
แล้วอะไรของคุณคังคะ ? กรีดร้อง คำพูดสองแง่สามง่ามแบบนี้เจ๊ตีบไม่ทน
คิดจะลักหลับก็ทำไปเถอะค่ะคุณ ไม่ต้องมาอ้างว่าไม่เร้าใจ 55555555
ตอนนี้บวกความฟินของคู่นัมซงให้ด้วยเนาะ คุณซงตรงเกินไปแล้วว่าไหมคะ ?
พูดตรงว่าจะจีบน้องนัมแบบนี้ เป็นใครก็ตั้งตัวไม่ติดหรอกเนาะ แต่ถ้าคุณซงมาพูดแบบนี้ต่อหน้าเจ๊ตีบ
เจ๊จะระทวยอ่อนยวบยาบละลายเป็นน้ำต่อหน้าคุณซงเลย 55555555
พบกันใหม่ตอนหน้านะคะรีดเดอร์ที่น่ารักของเจ๊ตีบ ขอบคุณมากๆ ที่อยู่เคียงข้างกันตลอดเลย
รักรีดเดอร์ทุกคนเลยค่ะ *จุ๊บแก้มซ้ายขวาเรียงคน*
#ฟิคจินแอนด์โทนิก
ปล. เจ๊อ่านคอมเมนท์ทุกคอมเมนท์อยู่น๊า ... ไม่ใช่ไม่อ่าน ขอบคุณมากนะคะที่ให้กำลังใจกันตลอด
และทุกคอมเมนท์ เจ๊ตีบเอามาปรับปรุงและเอามาเสริมในฟิคด้วยแหละคะ
เท่ากับว่ารีดเดอร์ที่น่ารักของเจ๊ตีบก็มีส่วนในการแต่งฟิคเรื่องนี้เนาะ ^^ ขอบคุณจากหัวใจจริงๆ ค่า
@SQWEEZ
ความคิดเห็น