คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : บทที่ 20 วงล้อแห่งโชคชะตา [END]
ซึงยูนยังคงยกมือของตัวเองขึ้นบดบังแสงสีทองเรืองรองพราวระยิบอยู่ตรงหน้าผา ประกอบกับเสียงของนาฬิกาที่ยังคงเดินวนไปราวกับช่วงเวลาของการนับถอยหลังอะไรบางอย่าง จินอูเลิกชายกระโปรงที่กล้อมดินวิ่งลุ่นๆ เข้ามาใกล้ร่างของอัศวินคนเก่ง ตะโกนพูดประโยคจี้ใจดำราวกับกำลังสังเวยให้หัวใจของซึงยูนต้องหยุดเต้นไปตลอดกาล
“ซึงยูน ... ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องกลับไปในที่ที่เจ้าจากมาแล้วนะ !”
“แต่ผมไม่อยากกลับไป เพราะที่นั้นไม่มีคุณ คิมจินอู !”
ราวกับอยู่ในสภาพที่ไร้น้ำหนักเมื่ออยู่ดีๆ ร่างของซึงยูนก็เริ่มยกขึ้นลอยเคว้งอยู่กลางอากาศชวนให้ตกใจจนต้องรีบคว้ามือบางของจินอูที่ดูเหมือนจะไม่ลอยตามเขาไป
เหตุการณ์นี้ ... มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว !
“ปล่อยมือข้าเถอะซึงยูน รั้งไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
คำพูดของจินอูกระตุกให้หัวใจของซึงยูนแทบหยุดเต้นขึ้นมาจริงๆ ใบหน้าชาวูบไปชั่วขณะ รับรู้ว่ามือของจินอูเริ่มจะคลายออกมาจากมือของเขาแล้ว และเป็นตัวของเด็กหนุ่มนามซึงยูนเองที่รั้งเอาไว้และยิ่งบีบมือบางนั้นแน่นกว่าเดิม
ยิ่งทำแบบนี้ ... อีกฝ่ายก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด
ข้อนี้ซึงยูนรู้ดี ...
น้ำตาของจินอูเอ่อที่ดวงตาคู่สวยแสดงความเสียใจอยู่ลึกๆ
เสียใจที่กำลังจะจากคนรักไป ...
“ถ้าผมปล่อยมือจากคุณ ก็เท่ากับว่าเราสองคนจะไม่ได้เจอกันอีกเลยนะครับ ผมจะไม่ปล่อย และคุณก็อย่าปล่อยมือผมด้วยนะครับ !”
“เราฝืนโชคชะตาไม่ได้หรอกนะ คังซึงยูน” จินอูว่าเสียงแผ่ว ความไม่มั่นใจเข้าแทนที่เทพร่างเล็กอีกครั้ง น้ำตาที่เคยเอ่ออยู่บริเวณขอบตาทิ้งตัวลงอาบแก้มใสทั้งสองข้างเพราะรับน้ำหนักตัวเองไม่ไหว ซึงยูนอยากจะเอื้อมมือของตัวเองไปเช็ดน้ำตาอุ่นๆ นั้นให้จินอูเหลือเกิน “โชคชะตามักจะชอบเล่นตลกพาให้เรามาเจอกัน ให้เรารักกัน และให้เราจากกัน แต่สักวันวงล้อแห่งโชคชะตาจะนั้นจะเวียนกลับมาเพื่อให้เราพบเจอและรักกันอีกครั้งแน่นอน คังซึงยูน”
“...”
“สักวัน เราจะได้พบกันอีก”
“ครับ ... ผมจะลองเชื่อคำพูดของคุณดู คิมจินอู” ว่าแล้วเด็กหนุ่มก็ค่อยๆ คลายมือที่เคยจับประสานกับมือของคนที่ตัวเองรักที่สุด ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะถูกดูดเข้าสู่มิติแห่งกาลเวลา “ผมรักคุณนะ คิมจินอู สุขสันต์วันเกิด ...”
“ข้าก็รักเจ้า คังซึงยูน”
เปลือกตาของซึงยูนค่อยๆ เปิดขึ้นพร้อมกับโฟกัสสายตารับกับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่เข้าแยงตา เตียงนอนหนานุ่มยืดหยุ่นยุบตัวยกตัวตามร่างของเด็กหนุ่มเมื่อเขาพยายามที่จะยันตัวให้ลุกขึ้นนั่ง
แต่แล้วความเจ็บปวดก็แล่นพล่านไปทั่วต้นแขน และตามร่างกาย จนซึงยูนต้องหลุบตามอง
ท่อนแขนที่เต็มไปด้วยบาดแผล และผิวหนังใต้เสื้อก็เป็นรอยถลอกเห็นได้ชัดเจนเมื่อเลิกชายเสื้อขึ้นดู ซึงยูนตกใจแทบผงะ สองเท้ารีบกระโดดลงจะเตียงแล้ววิ่งลิ่วเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ตรงไปที่กระจกเงาบานใหญ่ที่อยู่เหนืออ่างล้างหน้าแล้วต้องตกใจซ้ำซ้อน เพราะที่รอบคอของซึงยูนนั้นเป็นรอยมือคล้ายกับเพิ่งโดนบีบคอมาจนช้ำม่วง
มันคือเรื่องจริงหรือความฝันกันแน่ ?
ถ้ามันคือเรื่องจริง มันก็เกินที่จะเหลือเชื่อ ...
แต่ถ้ามันคือความฝัน ก็อยากจะกลับไปนอนต่อ ...
เพราะมันคือความฝันที่มหัศจรรย์และมีความสุขที่สุดเท่าที่เคยฝันมา
ในความฝันมีคนที่ซึงยูนรัก
“เห้ย ! สายแล้วนี่นา !”
แม้จะเลือนลอยก้าวขายาวๆ ออกมาจากห้องน้ำได้แล้ว แต่ซึงยูนก็ต้องรีบวิ่งกลับเข้าไปอีกครั้งเมื่อสายตาที่แสนดีเห็นเวลาที่ปรากฏในหน้าปัดนาฬิกาที่หัวนอน
ทันทีที่อาบน้ำเสร็จซึงยูนก็ลนลานสวมเสื้อกางเกงเครื่องแบบของนักเรียนมัธยมปลายแข่งกับเวลาที่ยังคงเดินรุดไปข้างหน้า มือของเจ้าตัวหยิบสมุดหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือใส่กระเป๋าเป้ โดยที่ไม่ลืมที่จะพาดขายาวๆ ลงกับเตียงนุ่มเอื้อมมือไปหยิบหนังสือการ์ตูนที่นอนนิ่งอยู่
หนังสือการ์ตูนที่เป็นตัวปัญหาทั้งหมดของเรื่องที่เกิดขึ้น ...
แต่ก็อยากขอบคุณมันเหมือนกันที่นำพาให้ซึงยูนพบเจอกับจินอู ...
คนที่เป็นรักแรกของเขา
สักวัน โชคชะตาจะนำพาให้จินอูมาพบเจอกันอีกตามที่เทพตัวเล็กเคยบอกเอาไว้
“สายแล้ว !”
แล้วสองขายาวก็วิ่งไปสวมรองเท้าแล้วพุ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
แม้จะกลับมาสู่โลกความจริงแล้ว แต่ในหัวใจของซึงยูนก็ยังคงวนเวียนคิดถึงแต่ใครบางคนที่ฝากหัวใจเอาไว้ให้กันและกัน ...
คิมจินอู
วันเวลาหมุนเวียนแปรเปลี่ยนไปทุกวัน แต่กับหัวใจของซึงยูนมันเหมือนหยุดอยู่ที่เดิม หยุดอยู่แค่วันที่จากจินอูในจินตนาการมา ....
ห่างหายจากการเช่าหนังสือการ์ตูนมานาน วันนี้ซึงยูนเลยขอเข้าร้านการ์ตูนสักหน่อย เผื่อจะมีอะไรที่น่าสนใจทำให้ซึงยูนสามารถลบเลือนจินอูได้บ้าง
แม้จะไม่มีวันเลยก็ตาม ...
“อ่ะ ! น้องที่เคยเช่าการ์ตูนเมื่อหลายวันก่อนนี่นา พอดีเลยค่ะ วันนี้การ์ตูนเรื่องที่น้องเคยเช่าไปออกเล่มสองพอดีเลย เพิ่งมาถึงเมื่อตอนกลางวันนี่เองนะคะ สนใจรับไปอ่านไหมคะ ?”
พนักงานสาวคนเดิมหยิบหนังสือการ์ตูนที่มีชื่อเรื่องคุ้นเคยขึ้นมาถือไว้ในมือโชว์หน้าปกที่เป็นรูปการ์ตูนสวยลายเส้นดีให้ซึงยูนดู ใบหน้ายิ้มร่าเริงจนดวงตาสวยปิดลง แต่เมื่อสายตาของซึงยูนเหลือบเห็นตัวการ์ตูนบนหน้าปกก็ต้องตีสีหน้าเรียบเฉยเก็บอาการเจ็บปวด
เพราะตัวการ์ตูนบนปกช่างเหมือนกับคิมจินอูเสียเหลือเกิน ...
“คงไม่หรอกครับ ขอบคุณนะครับที่แนะนำ”
ว่าแล้วเด็กหนุ่มก็โค้งหัวให้เชิงขอบคุณอย่างสุภาพแล้ววิ่งลิ่วเปิดประตูกระจกบานเลื่อนออกมาจากร้าน ทิ้งให้พนักงานสาวต้องยืนงงงวยกับท่าทางของเด็กหนุ่ม เพราะปกติแล้วซึงยูนจะเห็นดีเห็นงามด้วยเวลาที่แนะนำหนังสือการ์ตูนเรื่องอะไรไป และไม่มีทีท่าว่าจะปฏิเสธต้องหิ้วกลับบ้านไปทุกที แต่วันนี้กลับตรงกันข้าม นอกจากจะไม่สนใจการ์ตูนที่แนะนำแล้ว ยังวิ่งลิ่วออกจากร้านไปโดยที่ไม่คิดจะเลิกเช่าการ์ตูนเรื่องอื่นๆ
สองขายาวๆ เดินทอดน่องมาเรื่อยๆ ตามทางเดินพื้นซีเมนต์แข็ง มือถูกยกขึ้นเพื่อจับกระชับกระเป๋าเป้ที่เลื่อนลงพร้อมจะตกลงจากบ่าให้พาดขึ้น ในใจคิดถึงแต่เรื่องราวที่พบเจอราวกับมันคือเรื่องมหัศจรรย์
คิดถึงจินอู
คิดถึงจนอยากเจออีกครั้ง ...
“ย่าห์ ! แล้วฉันจะต้องไปทางไหนกันล่ะเนี้ย ?”
เสียงของใครบางคนที่โวยวายดังมาจากอีกฝากฝั่งของถนนคล้ายกับคนหลงทาง ยิ่งตอกย้ำให้ซึงยูนยิ่งคิดถึงจินอูมากขึ้น ...
เพราะคิมจินอูน่ะ เก่งที่สุดเรื่องหลงทาง
ซึงยูนมองไปที่คนที่โวยลั่นว่าหลงทาง ดวงตาเรียวเบิกกว้างเพราะคนๆ นั้นช่างเหมือนกับคิมจินอูเหลือเกิน ...
ร่างเล็ก ผิวขาวใส ใบหน้าหวาน เส้นผมสีน้ำตาลที่ปกปิดหน้าผากเนียน ดวงตากลมโต จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากบางคู่สวยสีอ่อนธรรมชาตินั้นอีก
ในมือถือแผนที่บอกตำแหน่งของสถานที่และทิศทางเส้นทางของเมือง
แม้จะมีแผนที่ แต่เจ้าตัวก็ยังคงหลงทาง ...
ไม่ต่างอะไรกับเทพจินอูในจินตนาการ ที่แม้แต่เดินไปเดินมาในดินแดนของตัวเองแต่ก็ยังหลงทางเสียได้ ...
“โอ้ย !”
ซึงยูนร้องลั่นเมื่อเจ้าตัวหยิกแขนตัวเองแล้วรู้สึกเจ็บแปลบ มองที่แขนของตัวเองที่แม้จะมีแผลถลอกที่เริ่มจะเลือนรางหายไปแล้ว แต่กลับมีรอยเล็บจางๆ ขึ้นมาเพิ่ม
แน่นอนว่านี่คือความจริง ไม่ใช่ความฝันหรือจินตนาการ ...
สองเท้าที่รู้งานวิ่งมุ่งไปที่หัวมุมถนนหยุดรอสัญญาณไฟคนข้ามด้วยอาการร้อนรน สายตาจับจ้องร่างเล็กที่คุ้นเคยนั้นอย่างไม่คาดสายตาเพราะเกรงว่าจะพลาดกันอีก แต่ถึงอย่างนั้นซึงยูนก็ไม่อยากจะตะโกนเรียกชื่อออกไป กลัวจะไม่ใช่จินอูแล้วจะหน้าแตกหมอไม่รับเย็บเปล่าๆ
ร่างเล็กก็มองดูโน่นดูนี่ไปเรื่อย ไม่ได้มองมาที่เขาเลย
ทันทีที่สัญญาณไฟเขียวให้คนข้ามสว่างขึ้น ซึงยูนก็ไม่รอช้ารีบวิ่งฝ่าฝูงผู้คนที่กำลังใช้ทางข้าม ถ้าวิ่งชนใคร เด็กหนุ่มก็จะตะโกนว่าขอโทษๆ และวิ่งมุ่งตรงไปยังคนร่างเล็กที่ยังคงเดินอย่างไร้จุดหมาย
ซึงยูนวิ่งอย่างรวดเร็วก่อนไปตัดหน้าของคนตัวเล็กที่ยังคงมองโน่นนี่ไปเรื่อยๆ แต่พอมีคนตัดหน้าแบบนี้ ใบหน้าหวานก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วสบตาเข้ากับคนร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าตน
ซึงยูนหอบหายใจถี่เพราะความเหนื่อย
“คิมจินอู ...”
“รู้จักฉันด้วยหรอ ? เอ๊ะ ! ฉันรู้สึกว่าฉันคุ้นหน้านายนะ”
แม้คนตัวเล็กตรงหน้าจะเอ่ยคำพูดที่สามารถทำร้ายหัวใจของซึงยูนได้ แต่เด็กหนุ่มกลับไม่โกรธเคือง อย่างน้อยคนตรงหน้าของเขาก็คือคิมจินอู คนที่อยู่ในหัวใจ จินตนาการ และความทรงจำของซึงยูนตลอดมา
ถึงจินอูจะจำซึงยูนไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ดีใจที่ยังคุ้นหน้าคุ้นตา
ซึงยูนคว้าตัวจินอูเข้ามากอดไว้แน่น ดวงตากลมโตของจินอูเบิกกว้างราวกับตกใจ แต่ถึงอย่างนั้น คิมจินอูกลับไม่ขัดขืน และยังยินยอมให้ซึงยูนกอดตนต่อไป
แผนที่ในมือปลิวลงพื้นซีเมนต์แข็ง
“จินอู ... นี่คือคุณจริงๆ ด้วยสินะ” น้ำตาของเด็กหนุ่มขึ้นชื้นที่ขอบตาก่อนจะเริ่มสะอึกสะอื้นจนร่างสั่นเทารู้สึกได้ “คุณรู้ไหมว่าผมคิดถึงคุณมากเลย ขอบคุณโชคชะตาที่นำพาให้คุณกลับมาหาผม ต่อไปนี้คุณไม่ต้องกลัวอะไรแล้วนะครับ เพราะผมจะเป็นคนดูแลคุณเอง จะคอยปกป้องคุณให้เป็นเหมือนอัศวินของคุณตลอดไป ...”
“อืม ...”
แม้คำตอบจะสั้นๆ ในลำคอ แต่ซึงยูนกลับยิ้มออกมาได้อย่างร่างเริงก่อนผละร่างของจินอูออก มือยังคงกุมที่ไหล่แคบก่อนค่อยๆ เลื่อนใบหน้าของตัวเองจุมพิตเบาๆ ที่หน้าผากเนียนมอบความอบอุ่นไปถึงขั้วหัวใจของคนที่ตัวเองรักมากที่สุด
เชื่อแล้วว่าวงล้อแห่งโชคชะตาจะวนกลับมาอีกครั้งเมื่อถึงเวลาอันสมควร ...
[END]
XXXXX
อ่ะๆ อยากรู้ไหมเอ่ยว่าจินอูทะลุมิติมาหาซึงยูนได้อย่างไร ?
เลื่อนลงไปอ่านได้เลยจ้า ^^
XXXXX
ร่างเล็กนั่งบนม้านั่งไม้ตัวยาวในพระวิหารสีขาวสะอาด ร่างทั้งร่างสั่นทึ่มเพราะแรงสะอื้น มือบางทั้งสองข้างกุมประสานอยู่ระดับออก ดวงตากลมโตหลับพริ้ม สวดภาวนาในใจแต่กลับไม่สามารถห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาได้เลย
“จินอู ...”
“อ่ะ ! ท่านนักบวช”
ร่างเล็กลืมตาขึ้นมาก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆ เด้งตัวลุกขึ้นยืนเพื่อไม่ให้เสียมารยาทกับท่านนักบวชคนเก่ง
“มีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือ ? ถึงได้มีถึงวิหารแห่งนี้ ?”
“ก็เรื่องเดิมๆ นั้นแหละครับ” จินอูค่อยๆ ก้มหน้าลงอย่างปลงตก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจทำให้เทพร่างเล็กต้องคลายความกังวลในหัวใจได้เลย “คิดถึงคังซึงยูน”
“เจ้าคงรักอัศวินหนุ่มนั้นมากสินะ”
จินอูพยักหน้าเนิบๆ เป็นคำตอบ คราวนี้น้ำตายิ่งไหลออกมามากกว่าเดิมหลังจากที่เจ้าตัวเช็ดมันออกไปอย่างลวกๆ ก่อนหน้านี้ คราวนี้ต่อให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ก็ไม่อาจซับน้ำตาของเทพตัวเล็กได้
“ข้าคิดว่า ข้าคงอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้าไม่มีซึงยูน ฮึก ... ข้าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ?”
สภาพของจินอูเวลานี้ไม่ต่างอะไรกับคนที่อ่อนแอไร้ทางออกอย่างถึงที่สุด ...
“คิมจินอู ...”
“จะมีทางไหนบ้างไหมท่านนักบวช ทางไหนที่จะทำให้ข้าได้พบเจอกับซึงยูนอีกครั้ง ข้าพร้อมที่จะทำทุกวิถีทาง”
“หนทางน่ะ มีอยู่นะคิมจินอู” คนที่ได้ยินทางออกหยุดสะอื้น เงยหน้าหวานพร้อมทั้งสบตากลมโตเข้ากับสายตาเรียวเล็กของผู้ที่เป็นนักบวช “แต่เจ้าจะต้องกล้าทิ้งความเป็นเทพเพื่อไปใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ธรรมดาๆ นะจินอู เจ้ากล้าพอไหม ?”
คำถามเรียบๆ กระตุ้นให้คนฟังรู้สึกจุกขึ้นมาแทบจะทันที แต่ถึงอย่างนั้น ทางออกที่เจ้าตัวได้ยินกลับไม่ทำให้คิดหนักอะไร กลีบปากบางคู่สวยตอบคำถามออกไปอย่างมั่นใจตามคำสั่งของสมอง
“ข้ายอม ข้ากล้าพอท่านนักบวช ข้ายอมทุกอย่างจริงๆ ขอแค่ข้าได้พบเจอกับซึงยูนอีกสักครั้งก็พอ”
นักบวชคนเก่งเมื่อได้ยินคำตอบจากเทพร่างเล็กก็พยักหน้าเนิบๆ อย่างเข้าใจดี
“มิติแห่งกาลเวลาเที่ยงคืนจะเปิดอักครั้งในคืนที่จันทราเต็มดวงในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า ... แต่เจ้าต้องแน่ใจว่าเจ้าจะสามารถใช้ชีวิตมนุษย์ธรรมดาได้จริงๆ และไม่มีห่วงกังวลอะไรทางนี้”
“อันที่จริงข้าห่วงแทฮยอนมาก ยิ่งเวลานี้มินโฮยิ่งอยู่ใกล้แทฮยอนมากขึ้นทุกที ข้าก็ยิ่งเป็นห่วง” ใบหน้าหวานก้มลงแทบชิดอกอีกครั้ง “แต่ถ้าข้าฝากแทฮยอนไว้กับผู้ที่ไว้ใจได้อย่างพี่น้องของข้าและท่าน ข้าคงไม่มีห่วงกังวลอะไรเกี่ยวกับแทฮยอนอีก”
“ข้ารับปากว่าข้าจะดูแลแทฮยอนให้ดี จินอู” นักบวชคนเก่งถอนหายใจออกมาช้าๆ กับการตัดสินใจของเทพร่างเล็ก “แต่เจ้าต้องจำไว้อย่างหนึ่งนะ ถ้าเมื่อใดก็ตามที่เจ้าทะลุมิตินั้นไปได้ ความทรงจำของเจ้าบางอย่างอาจจะลบเลือนไป เจ้าต้องระมัดระวังตัวเองให้ดีนะ คิมจินอู”
XXXXX
จบด้วยความมึนๆ และน้ำเน่าสุดฤทธิ์เจ้าค่ะ 5555555555
อย่างน้อยก็จบเนาะ ^^ ส่วนสเปเชี่ยลตอนหน้านั้น จะเป็นการพูดถึงใคร ต้องรอติดตามนะคะ ^^
ขอบคุณรีดเดอร์ และ ฟลว. ณ ดินแดนทวิตเตอร์ทุกคนด้วยนะคะที่อยู่เคียงข้างเจ๊ตีบตลอด
รักทุกคนมากจริงๆ ค่ะ
#ฟิคอัศวินเที่ยงคืน
ความคิดเห็น