ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [WINNER + YG] The midnight knight [YOONWOO]

    ลำดับตอนที่ #18 : บทที่ 17 เปิดศึก

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 58







     

                  แผ่นดินไหวยังคงไม่หยุดสั่นไหวง่ายๆ ทุกสิ่งทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด พื้นดินที่เคยปูลาดด้วยอิฐหินเนื้อดีไร้รอยเวลานี้เริ่มแตกร้าว อาคาร บ้านเรือน ปราสาท สิ่งก่อสร้างต่างๆ เริ่มต้านแรงแรงสั่นไม่ไหวเริ่มผลัดชิ้นส่วนร่วงลงตามแรงโน้นถ่วง ซึงยูนพยายามพาร่างของเทพตัวเล็กไปหาที่หลบภัยอย่างทุลักทุเล ลำบากแม้กระทั่งเวลาเดินย่ำแต่ละก้าวเท้าเดิน อีกทั้งกระโปรงเจ้าปัญหาของคนในอ้อมกอดที่มักจะทำให้เขาสะดุดเสมอ

     

                แต่แค่ไม่กี่เท้าเดินก็ต้องชะงักเพราะชิ้นส่วนของยอดปราสาทสีมุกหล่นหล่นลงมาขวาง ท้องฟ้าที่เคยมืดสนิทก็แลบวาบชวนให้ตกอกตกใจ หลับตาปี๋เพราะกลัวสายตาจะมืดบอดไปเสียก่อน

     

                “ฮ่าๆ”

     

                เสียงหัวเราะดุดันและน่ากลัวดังก้องปฐพีพร้อมๆ กับร่างของสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ยักษ์แทบค้ำฟ้าปรากฏตัวขึ้น ซึงยูนเหลือบมองสัตว์ประหลาดตัวนั้นแล้วแทบเบิกตากว้างจนถลนเพราะมันเป็นตัวอะไรซึงยูนก็ไม่แน่ใจและไม่เคยเห็น ดวงตาสีแดงกร่ำน่ากลัว และคนที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนหัวของมันก็กำลังหัวเราะอย่างสะใจ

     

                นั้นสินะ คนที่หัวเราะได้อย่างน่าเกลียดดังก้อง ...

     

                “ชเวซึงฮยอน”

     

                ใบหน้าหวานที่ยังซบอยู่กับแผ่นอกของซึงยูนหันไปมองร่างของผู้เป็นพญามารบนหัวสัตว์ประหลาดแล้วลอบกัดฟันตัวเองแน่น จินอูเกลียดคนที่หัวเราะสะใจในเวลานี้เหลือเกิน ...

     

                เพราะคนคนนั้น ทำให้จินอูต้องตกอยู่ภายใต้คำสาปบ้าๆ นี่ !

     

                “เจ้านั้นน่ะหรอ ? พญามารซึงฮยอน”

     

                “อะไรนะ ? เจ้านั้นหรือ ? เด็กหนุ่มมนุษย์ผู้นี้ช่างโง่เขลานักที่บังอาจกล้าเรียกข้าต่ำๆ แบบนั้น !

     

                ความโกรธเกรี้ยวเรียกให้สัตว์ประหลาดเพื่อนยากกวาดมือใหญ่และหยาบกร้านแย่งชิงคว้าตัวของจินอูเหวี่ยงขึ้นกลางอากาศ จินอูกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์นั้นจะโยนร่างเล็กๆ ของจินอูฝ่าอากาศไปนั่งแหมะข้างๆ กับซึงฮยอน

     

                อยากจะกระโดดลงไปเหลือเกิน แต่ความสูงระดับนี้ถ้ากระโดดลงไปมีแต่ตายกับตาย !

     

                “จินอู !

     

                “ซึงยูน ช่วยด้วย !

     

                มือหนาบีบสันกรามสวยของจินอูที่กำลังเพ่งมองร่างของอัศวินคนเก่งให้หันมามองตน ใบหน้าสวยที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางนั้นเหยเกด้วยความเจ็บราวกับใบหน้าของตัวเองจะแหลกคามือของมารตัวใหญ่

     

                เจ็บจนน้ำตาเล็ดกันเลยทีเดียว

     

                “เสียดายนะที่ข้ามีชายาคนสวยข้างกายแล้ว ไม่งั้นข้านี่แหละจะรวบหัวรวบหางเอาเจ้ามาเป็นชายาของข้าเมื่อยามเสร็จศึก !

     

                ขยะแขยง !

     

                “ ปล่อยจินอูเดี๋ยวนี้นะ ซึงฮยอน !

     

                “ถ้าปล่อยไปง่ายๆ แล้วจะสนุกตามคำทำนายได้อย่างไรกันล่ะ ? เด็กน้อย ...” ซึงฮยอนยิ้มเย้ยมองเด็กหนุ่มที่อยู่บนพื้น สองมือเปล่าแบบนั้นจะไปช่วยอะไรใครได้ ? “เป็นอัศวินไม่ใช่หรือ ? เข้ามาช่วยจินอูสิ”

     

                “แก !

     

                เด็กหนุ่มกัดฟันกรอด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้เขามีเพียงแค่สองมือเปล่าจริงๆ

     

                และในเวลานี้ เหล่าบริวารครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์เดียรัจฉานก็อ้อมล้อมพื้นที่ปราสาทแห่งนี้เอาไว้ด้วย แบบนี้ ซึงยูนจะไปสู้อะไรกับใครได้ ?

     

                เหล่าเซนทอร์น่าเกลียดน่ากลัวพวกนี้ ...

     

                “ฮี่ ...”

     

                เสียงม้าตัวที่คุ้นเคยดังขึ้นทางด้านหลัง ซึงยูนหันไปตามสัญชาตญาณก็พบกับม้าหนุ่มตัวสีขาวที่มาพร้อมกับเจ้านายของมัน

     

                พี่ซึงรี ...

     

                “เอาล่ะ เด็กน้อย ... ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องโชว์ฝีไม้ลายมือแล้วนะ”

     

                “กำลังคันไม้คันมืออยู่พอดีเลย”

     

                ซึงรีกระโดดลงจากหลังม้าแล้วตบปุบๆ ให้ผู้เป็นอัศวินขึ้นไป เด็กหนุ่มพยักหน้าเข้าใจดีถอดเสื้อสูทสีเขียวเข้มของตัวเองออกโยนให้ซึงรีถือไว้เป็นเชิงฝาก ก่อนเหยียบโกลนแล้วเหวี่ยงตัวเองขึ้นไปหนังบนอานหลังม้าได้สำเร็จ มือที่จับบังเหียนได้เตรียมสะบัดให้เจ้าม้าหนุ่มแข็งแรงวิ่งไปข้างหน้า

     

                “ซึงยูน ดาบของเจ้า !

     

                “ซึงยูน รับนี่ไปด้วย”

     

                ซึงฮุนโยนดาบที่ยังคงอยู่ในฝักให้เด็กหนุ่ม เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นักบวชคนเก่งมาหยุดอยู่ข้างๆ ซึงฮุนด้วยอาการเหนื่อยหอบพร้อมทั้งโยนย่ามที่สะพายมาให้กับซึงยูน

     

                ดาบ ซึงยูนพอจะเข้าใจ แต่ย่ามที่ท่านนักบวชให้มา เอามาทำอะไรในศึกสงครามแบบนี้ ?

     

                “นี่คืออะไร ท่านนักบวช ?”

     

                “อาวุธลับแห่งความดีทั้งเจ็ด” ท่านนักบวชคนเก่งตอบเสียงเหนื่อยหอบ “มันจะช่วยเจ้าได้ เพราะการต่อสู้กับมาร คมดาบอย่างเดียวใช่ไม่ได้ผลแน่ๆ”

     

                แม้จะไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ซึงยูนก็ก้มหัวลงขอบคุณท่านนักบวชผู้แสนดี หันหน้ามองไปยังพญามารที่ยังคงยิ้มเยาะอย่างมีชัย มือของเด็กหนุ่มสะบัดบังเหียนให้เจ้าม้าสีขาววิ่งผ่าสายลมไปอย่างแข็งแรง

     

                “จะเป็นพระเอกคนเดียวหรือไง ? พ่อหนุ่มอัศวิน”

     

                แม้ม้าจะวิ่งผ่าสายลมโหมอยู่แต่เสียงที่ดังข้างตัวก็เรียกความสนใจของซึงยูนให้หันไปมอง พบเจ้าชายผู้สง่างามขี่ม้าตัวสีน้ำตาล มือข้างขวาถือดาบอันยาวและผ้าคลุมไหล่พัดสะบัดไปตามแรงลม

     

                “เจ้าชาย !” ดวงตาเรียวเบิกขึ้นเมื่อเห็นเจ้าชายที่ขี่ม้าอยู่ข้างๆ เขา “เจ้าชาย ท่านจะทำอะไร ?”

     

                “ข้าก็จะช่วยชาวเมืองของข้ายังไงล่ะ” เจ้าชายตอบยิ้มๆ ดวงหน้าออกหวานของเจ้าชายฉายแววเข้มแข็ง “เจ้าไม่ต้องห่วงนะ ไปช่วยเทพจินอูเถอะ ส่วนเหล่าบริวารงี่เง่าที่อ้อมล้อมพวกเราเอาไว้อยู่ตอนนี้ ให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง”

     

                “ขอบพระทัยเจ้าชาย” ซึงยูนยิ้มให้ก่อนวาดดาบในมือจัดการกับบริวารหน้าตาน่าเกลียดตัวหนึ่ง ผู้เป็นเจ้าชายก็ไม่ต่างกัน คมดาบในมือของผู้กล้าทั้งสองตวัดสู้กับอาวุธในมือของเซนทอร์ที่เริ่มวาดลวดลายปกป้องตัวเองและเจ้านายของมัน “ระวังตัวเองด้วยนะ เจ้าชาย”

     

                ฟาดปลายดาบลงกรีดบนร่างของครึ่งม้าครึ่งมนุษย์จนเลือดสีดำสาดกระจายเปรอะเปื้อนไปทั่วพื้น กลิ่นสาบเลือดของสัตว์เดียรัจฉานคละคลุ้งจนแทบอยากจะอาเจียน

     

                แต่ถึงอย่างนั้น ซึงยูนก็เลือกที่จะมองข้าม บังคับม้าสีขาวให้วิ่งไปใกล้สัตว์ประหลาดตาสีแดงน่าเกลียดน่ากลัวนั้น ...

     

                แต่ยิ่งใกล้ก็เหมือนจะเจออุปสรรค ม้าหนุ่มแข็งแรงหยุดวิ่งทันทีที่เห็นร่างของมารในชุดดำหกคนยืนเรียงหน้ากระดาน แต่ที่น่าแปลกใจคือหนึ่งในหกคนนั้นมีผู้หญิงด้วย !

     

                ซึงยูนเบิกตาจนแทบจะถลนออกมานอกเบ้า ...

     

                “ขอต้อนรับเข้าสู่การสงครามอย่างเต็มรูปแบบ คังซึงยูน”

     

                “นาย !” ยิ่งเห็นใบหน้าของคนที่พูดเสียงทุ้มต่ำแล้วซึงยูนก็ต้องหน้าชาวาบอย่างเลี่ยงไม่ได้ มือที่ถือดาบและบังเหียนอยู่นั้นกำเข้าหากันแน่นจนปวด หัวใจเต้นโครมขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ “ซงมินโฮ ที่แท้นายก็คือมารสินะ นายมันเลว เลวที่สุด !

     

    XXXXX

     

    มาเอาใจช่วยซึงยูนให้ช่วยจินอูให้ได้ด้วยกันเถอะค่ะ ^^

    ตอนนี้เจ๊ตีบแต่งด้วยความมึนขั้นที่สุดของที่สุด เลยออกมาแบบมึนๆ เอ๋อๆ 55555555

    ในที่สุดซึงยูนก็รู้แล้วว่ามินโฮของเราเป็นหนึ่งในมาร

    ต้องลุ้นกันค่ะว่าซึงยูนจะทำอย่างไรต่อไป ...

     

    ต้องขอบคุณทุกๆ คนมากนะคะที่หลงเข้ามาอ่าน แม้ฟิคเรื่องนี้จะยิ่งไม่รู้เรื่องขึ้นทุกวัน

    ตอนแรกเจ๊ก็ตั้งใจจะแต่งฟิคเรื่องนี้ให้สนุกๆ แต่ไปๆ มาๆ เวลาเร่งรัดเหลือเกินเลยออกมาแบบมึนๆ

    แต่ทุกคนก็ยังให้กำลังใจเจ๊ตลอดเลย TT

    ยิ่งใกล้ถึงวันที่ 15 เข้าไปทุกทีแล้ว ความมึนก็ยิ่งมากขึ้น

    ช่วงนี้ต้องเริ่มพึ่งยาหอมยาลมยาอมยาหม่องเป็นคนแก่ทุกวัน 55555555

    แต่ยังไง เจ๊ตีบจะอัพให้จบ 20 ตอน + สเปเชี่ยล 1 ตอน แน่นอนค่ะ ^^

     

    #ฟิคอัศวินเที่ยงคืน


    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×