ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [WINNER + YG] The midnight knight [YOONWOO]

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 15 งานเต้นรำในคืนจันทราสีเงิน

    • อัปเดตล่าสุด 7 มี.ค. 58







     

                     “จะให้ข้าแต่งตัวแบบนี้จริงหรือ ? ท่านพี่ซานดาร่า”

     

                ดวงตากลมโตยืนหมุนตัวเองอยู่หน้ากระจกสะท้อนบานใหญ่เบิกตากว้างกับภาพที่ตนเห็น ชุดราตรียาวเกาะอกทรงสุ่มไก่ฟูฟ่องทิ้งชายลงกองกับพื้นสีชมพูอ่อน ไหล่มนเปลือยเปล่าถูกปกปิดด้วยกลุ่มผมนุ่มสลวยสีน้ำตาลแดงของวิกผมปลอม ท่อนแขนที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อปกปิดด้วยผ้าแพรเนื้อบางสีเดียวกันกับชุดที่ถูกตัดเย็บด้วยความประณีต หน้าอกที่เคยแบนราบกับถูกยัดด้วยผ้าหนาจนนูนออกมาเต็มชุด ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางโทนสีเดียวกันกับชุดราตรีจนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

     

                “สวยออกจะตายไป”

     

                ซานดาร่าหยิบหน้ากากสีทองทรงครึ่งหน้าสีทองสวยหรู ประดับด้วยขนนกสีขาวยิ่งเสริมเสน่ห์ให้หน้ากากดูพิศวงมากขึ้นขึ้นมาสวมใส่ปิดบังใบหน้าสวยของจินอู เวลานี้จึงเห็นเพียงดวงตากลมโตที่ถูกแต้มด้วยขนตาปลอมทำให้หนังตารู้สึกหนักและริมฝีปากบางสีชมพูของลิปสติกเท่านั้นที่ไม่ถูกปกปิด แต่ก็อยากที่จะคาดเดาได้ว่าสาวงามผู้นี้คือใคร

     

                แม้แต่ซานดาร่ายังตกตะลึงในความเปลี่ยนแปลงไปของน้องชาย ...

     

                “แต่ข้าไม่เคยแต่งตัวแบบนี้เลยนี่นา แอบเขินเหมือนกัน”

     

                “อย่ากังวลไปหน่อยเลย คิมจินอู ตอนนี้เจ้าสวยมากเลย รู้ไหม ?” ผู้เป็นพี่สาวเดินอ้อมมาซ้อนหลัง วางมือขนไหล่มนเปลือยเปล่า ยื่นหน้าวางคางบนมือของตัวเองแล้วกระซิบถามเสียงใส “จินอู เจ้าชอบซึงยูนใช่หรือไม่ ?”

     

                คำถามสะกิดหัวใจของคนฟังจนใบหน้าร้อนผ่าว อยากจะขอบคุณหน้ากากอันสวยเหลือเกินที่ช่วยปกปิดเบาหน้าที่เริ่มแดงเรื่อ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจหยุดความเขินของตัวเองได้เมื่อกลีบปากบางคู่สวยเม้มเข้าหากันแน่น

     

                “ทะ ทะ ท่านพี่ดาร่า ...”

     

                “ติดขัดเชียวนะ จินอู” ซานดาร่ายิ้มสดใสให้จินอูเหลือบตามองภาพสะท้อนของตัวเองและน้องชายในร่างของสาวน้อยในกระจก “ข้าไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้าเจ้าจะรักซึงยูน ข้าไม่อาจขัดขวางเจ้าได้ ซึงยูนก็เป็นเด็กดีคนหนึ่ง อีกอย่าง ซึงยูนก็เป็นอัศวินของเจ้า ข้าและเหล่าพี่น้องเชื่อว่าเด็กคนนั้นจะปกป้องเจ้าได้ อีกอย่าง ดูๆ แล้วซึงยูนก็รักเจ้าเหมือนกัน”

     

                “ขอบคุณท่านพี่ที่เข้าใจ”

     

                “แต่ว่า ... เจ้าอย่าลืมนะว่ายังไงซึงยูนก็เป็นเพียงมนุษย์ที่มาตามคำทำนายของท่านยางฮยอนซอกเท่านั้น พอเสร็จศึก ซึงยูนก็ต้องกลับไป”

     

                คำพูดของผู้เป็นพี่กระตุกหัวใจของคนฟังต้องชาวาบ มือเล็กเลิกชายกระโปรงขึ้นเพื่อให้สะดวกก่อนเดินมาพิงกรอบประตูโค้งมนสไตล์โรมัน สายตากลมโตภายใต้หน้ากากสวยเหลือบมองดวงจันทร์สีเงินสวยดวงใหญ่แล้วรู้สึกใจหวิวแปลกๆ

     

                จันทราสีเงิน ... ศึกนั้นใกล้เข้ามาแล้วจริงๆ สินะ

     

                “ข้อนั้นข้ารู้ดี แต่ขอสองมือของข้าแตะเอื้อมความสุขเหล่านั้นเอาไว้ก่อนได้หรือไม่ ? เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ ข้าคงตัดใจได้เอง”

     

                แววตาที่ยังจดจ้องดวงจันทราสั่นไหว น้ำเสียงเศร้าสอยลงฟังได้ชัดเจน ทั้งๆ ที่เพิ่งเขียนบทรักกับซึงยูนได้เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น แต่ดูเหมือนความต่างจะนำพาทั้งสองชีวิตไปถึงตอนอวสานแล้ว

     

                หวั่นใจเหลือเกินว่าวันนี้จะเป็นวันที่ท่านยางฮยอนซอกทำนายไว้เมื่อสามร้อยปีที่แล้ว

     

                วันคืนที่จันทราสีเงิน ...

     

                บวกกับวันนี้เป็นวันเกิดของเจ้าตัวด้วย แต่ยังไงก็ไม่อาจปรับเปลี่ยนคำทำนายได้ ...

     

                “ก็ได้ๆ เพื่อความสุขของเจ้า ข้าไม่อาจขัดขวาง” ซานดาร่าสวมหน้ากากของตัวเองบ้างก่อนเข้ามาจับมือบางของน้องชายในร่างเทพีสีชมพูสวยหวานมากุมไว้ “เราลงไปด้านล่างกันเถอะ ป่านนี้พวกพี่น้องของเราคงสนุกสนานจนลืมเจ้าของวันเกิด และอัศวินคนเก่งของเจ้าคงรอเจ้าจนลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่เป็นสุขแล้วเป็นแน่”

     

                ซานดาร่าจูงมือของสาวน้อยที่ไม่เคยสวมใส่ชุดสวยลงบันไดหินอ่อนเนื้อดีช้าๆ เพราะไม่อยากเห็นน้องชายคนสวยของตัวเองต้องสะดุดชายกระโปรงจนต้องกลิ้งตกบันไดหกคะเมนตีลังกาไปนอนกองกับพื้นเป็นลูกกวางเฉิ่มหมดมาดเจ้าของวันเกิดสุดหรู

     

                ภายในห้องโถงใหญ่ของปราสาทเวลานี้คลาคล่ำไปด้วยชาวเมืองที่ถูกรับเชิญให้มางานจนโถงที่เคยเงียบงันคึกครื้น เสียงดนตรีจากเครื่องสีเครื่องตีเครื่องเป่าเครื่องดีดนาๆ ดังขึ้นบรรเลงเป็นเสียงเพลงสนุกสนานไม่ทำให้บรรยากาศของงานเลี้ยงเงียบเหงา ส่วนผนังห้องมีโต๊ะอาหารตัวยาวที่วางอาหารไว้หลากหลาย ซึ่งแน่นอนว่ามุมนี้เป็นมุมโปรดของแทฮยอน รายนั้นน่ะ สำหรับงานเลี้ยงแล้ว  อาหารคือสิ่งที่สำคัญที่สุด สำคัญมากกว่าความสนุกสนานเสียอีก

     

                ส่วนพื้นที่ตรงกลางถูกปูด้วยพรมพื้นใหญ่จัดไว้สำหรับพื้นที่เต้นรำ และแน่นอนว่าพื้นที่ตรงนี้เพียงพอสำหรับการเต้นรำของชาวเมืองทุกคนแน่ๆ

     

                “ไหนดูสิ ซึงยูนอยู่ตรงไหน ?”

     

                ซานดาร่าและจินอูกวาดสายตามองหาชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งก่อนจะสะดุดสายตาที่คนๆ หนึ่งที่มีริมฝีปากหนาเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว

     

                “พี่ดาร่าๆ นั้นไงคังซึงยูน”

     

                จินอูชี้ไปที่ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดสูปสีเขียวเข้มที่ทับกับเสื้อเชิ้ตสีเทาด้านใน หน้ากากทรงครึ่งหน้าสีพื้นธรรมดาๆ ปกปิดใบหน้าของเด็กหนุ่มไว้จนมองเห็นเพียงแค่ริมฝีปากหนาสีแดงสดธรรมชาติ

     

                จัดว่าดูดีเลยทีเดียว

     

                “จินอู ฟังข้านะ” ซานดาร่ากระซิบบอกจินอู “เหตุผลที่ข้าจับเจ้าแต่งตัวเป็นหญิงสาวเพราะข้าก็อยากให้เจ้าได้เต้นรำกับอัศวินคนเก่งของเจ้า เพราะถ้าเจ้าแต่งตัวเยี่ยงชายหนุ่มแล้วไปเต้นรำร่วมกันกับซึงยูนคงจะดูแปลกๆ น่าดู ฉะนั้นแล้ว เจ้ารีบไปเต้นรำกับเด็กหนุ่มคนนั้นเถิด”

     

                กลีบปากบางสีสวยยิ้มกว้างโค้งหัวถี่ให้พี่สาวคนสวย

     

                “ขอบคุณท่านมากนะท่าพี่ดาร่า”

     

                “อ้อ ... แต่ระวังเสียงของเจ้าให้ดีๆ นะ เพราะรูปกายเป็นสาวงาม ถ้ามีน้ำเสียงหนักราวเสียงชายหนุ่มล่ะก็ ข้าเกรงว่ามันจะไม่ดี”

     

                “ย่าห์ ! พี่ดาร่าอ่ะ!

     

     

     

     

                ซึงยูนกวาดสายตามองหาคนรักร่างเล็กไปทั่วโถงก็ไม่เห็นจินอูเลยในอาณาบริเวณนี้ จินอูไม่น่าจะแต่งตัวนานขนาดนี้นะ และเป็นเจ้าของวันเกิดด้วย จินอูน่าจะลงมาต้อนรับแขกเรื่อได้แล้ว ...

     

                สายตาเรียวกวาดมองหาร่างเล็กอีกครั้ง แต่กลับเห็นเพียงคนร่างสูงที่สวมสูทสีเข้มและหน้ากากสีเงินที่ปกปิดใบหน้า แขนข้างหนึ่งโอบอุ้มลูกสนุขตาโตสีน้ำตาลที่ใส่ชุดฟูฟ่องสีขาวสะอาดตา

     

                แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเป็นซึงฮุน ...

     

                ไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าไปหาเจ้าตัวทันที

     

                “ซึงฮุน นายเห็นจินอูบ้างไหม ?”

     

                “ไม่เลย ... นี่อย่าบอกนะว่าเจ้าทำคนรักหายน่ะ อย่างนี้มันใช้ไม่ได้เลยนะซึงยูน”

     

                “ซึงฮุน ที่ฉันถามเพราะฉันแค่อยากได้คำตอบจากนายเท่านั้นนะ นายไม่ต้องต่อด้วยการแว้งกัดกันกลับแบบนี้”

     

                ซึงยูนเบะปากคว่ำ นึกหมั่นไส้อยากจะดึงหน้ากากสีขาวตัดกับสีของสูทนั้นให้ดีดเข้าหน้าของเทพเพี้ยนจริงๆ ในใจก็อยากรู้เหมือนกันว่าอี๊ฮีอยู่กับคนเพี้ยนๆ แบบนี้อย่างอย่างไร ?

     

                แต่ดูเหมือนลูกสุนัขตาโตจะมีความสุขดี ...

     

                “ขอโทษแล้วกันๆ เอาน่า ... เดี๋ยวจินอูก็คงจะมาหรอก อย่ากังวลให้มากมายเลย” ซึงฮุนตอบยิ้มๆ  หลุบตามองลูกสุนัขในอ้อมแขน “อะไรนะอี๊ฮียา อยากกินไก่หรือ ? โอเคครับ เดี๋ยวพี่พาไปกินนะ”

     

                แล้วซึงฮุนก็เดินเลียบๆ ไปตามแนวของผนังโถงเพื่อไปหยุดอยู่มุมอาหารที่ถูกจัดเอาไว้ในรูปแบบของค๊อกเทลเหมือนที่งานเลี้ยงทั่วๆ ไปนิยมจัดการ

     

                เห้อ ... เพี้ยนไม่คิดจะฟื้นจริงๆ

     

                เพราะมัวแต่ดึงความสนใจไปก่นด่าซึงฮุนในใจเลยทำให้ไม่ทันสังเกตร่างเล็กๆ ของหญิงสาวปริศนาที่เข้ามาประชิดตัวทางด้านหลังแล้วใช้มือบางๆ นั้นดึงชายเสื้อสูทสีเขียวเข้มของเขา พอซึงยูนหันมาสบกับดวงตากลมโตตามแรงสะกิดก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันภายใต้หน้ากากสีพื้น

     

                “ท่านต้องการอะไร ?” แม้จะคุ้นกับกลีบปากบางคู่สวย แต่ซึงยูนก็คิดไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน สาวเจ้าก็ไม่ตอบอะไรออกมาจากปากบางนั้น นิ้วชี้เรียวชี้โบยไปทางพื้นที่กลางโถงกว้าง “หืม ? อยากไปเต้นรำหรอครับ ? กับผมหรอ ? อ่า ... ผมคงไม่สะดวกหรอกครับ ผมรอเจ้าของวันเกิดอยู่”

     

                ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสาวน้อยร่างอ้อนแอ้นไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ทันทีที่ชะเง้อคอมองหาจินอูต่อ หญิงสาวชุดสีชมพูฟูฟ่องปกปิดใบหน้าหวานด้วยหน้ากากสีทองก็ลากซึงยูนออกมากลางโถง มือบางข้างหนึ่งประสานเข้าที่มือของเด็กหนุ่ม มืออีกข้างจับมือคู่เต้นที่ตนเพิ่งบังคับมาได้จับบนเอวคอดแล้วยกมือขึ้นวางบนไหล่กว้าง

     

                แม้จะตกใจ แต่ถึงขั้นนี้แล้วคงต้องปล่อยเลยตามเลย ยอมเป็นคู่เต้นด้วยความเซ็ง

     

                แต่ดวงตากลมคู่นั้นกลับแวววับด้วยความดีใจ กลีบปากบางยกยิ้มตลอดเวลา

     

                แค่แวบเดียว ซึงยูนก็รู้สึกคุ้นหน้าของหญิงสาวภายใต้หน้ากากทองที่เป็นคู่เต้นตรงหน้าเขา

     

                รอยยิ้มนี้ ... มีเพียงคนเดียวเท่านั้น

     

                “คิมจินอู !” และแล้วซึงยูนก็คิดออก เผลอเรียกชื่อของคู่เต้นรำอยู่ตรงหน้าตัวเองเสียงดัง จินอูผละตัวออกวิ่งแหวกฝูงผู้คนที่กำลังสนุกสนานไปทางด้านหลังของปราสาทซึ่งเป็นพื้นที่ของสวนที่จินอูชอบไปเล่นอยู่บ่อยๆ แค่นี้ซึงยูนก็รู้แน่ชัดแล้วว่าต้องเป็นจินอูอย่างแน่นอน “เดี๋ยวสิจินอู รอผมด้วย !

     

                สองเท้าไม่รอช้า ทันทีที่สมองสั่งการก็ออกวิ่งตามร่างเล็กที่ตอนนี้วิ่งอย่างทะลักทุเลเพราะนอกจากจะต้องเลิกชายกระโปรงขึ้นแล้ว ขาสั้นๆ นั้นก็เป็นอุปสรรคไม่ต่างกัน

     

                สวนหย่อมเล็กๆ หลังปราสาทในเวลาค่ำคืนแบบนี้ก็ดูสวยไปอีกแบบ แสงไฟสลัวๆ ผลักดันให้สวนสวยเหมือนมีเวทย์มนบางๆ ปกคลุมไว้ แสงของแสงจันทร์สีเงินนวลส่องกระทบกับต้นไม้ใบหญ้าทำให้ภาพที่เห็นมีมิติ

     

                ร่างของจินอูยืนหันหลังให้ซึงยูนอยู่ เด็กหนุ่มไม่รอช้าวิ่งเข้าไปกอดร่างเล็กๆ นั้นจากทางด้านหลัง เรียกความตกใจของคนที่โดนโอบกอดให้หันมาเผชิญหน้ากับดวงตาเรียวภายใต้หน้ากากสีพื้น

     

                ซึงยูนเลื่อนมือข้างหนึ่งมาถอดหน้ากอดบนใบหน้าของตัวเองออกแล้วจัดการเขวี้ยงทิ้งลงบนพื้นหญ้าอย่างไม่แยแสหรือใส่ใจ

     

                “หนีผมออกมาทำไมครับ ?”

     

                ถามพร้อมๆ กับเลื่อนมือมาถอดหน้ากากสีทองหรูบนใบหน้าของคนที่อยู่ตรงหน้าออกบ้าง

     

                ทันทีที่หน้ากากถูกปลดออก ใบหน้าหวานสวยก็เผยออก ทุกอย่างบนใบหน้าเปลี่ยนแปลงไปจนซึงยูนเองก็แทบจำไม่ได้ คิ้วสวยถูกขีดเขียนจนเข้ม สวย และโก่ง ขนตาปลอมผลักให้ดวงตากลมโตยิ่งมีเสน่ห์ เปลือกตา พวงแก้ม และริมฝีปากสีชมพูสวยเข้ากับสีของชุดที่เจ้าตัวสวมใส่

     

                ราวกับผู้หญิงจริงๆ ...

     

                “เอ่อ ... รังเกียจข้าไหมที่ข้าแต่งตัวแบบนี้ ?”

     

                “ไม่หรอกครับ” ว่าแล้วก็กระชับกอดแน่น ก้มหน้ามองร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนของตน “ไม่ว่าจินอูจะเป็นอย่างไร ยังไงผมก็มองข้ามไป เพราะผมมองแค่หัวใจของจินอูเท่านั้น ผมรักจินอูนะครับ”

     

                คำรักที่ชักชวนให้คนฟังเขินและอบอุ่นไปถึงขั้วหัวใจก้มหน้างุดหลีกหนีสายตาคมเรียวของเด็กหนุ่ม ซึงยูนยกมือขึ้นช้อนปลายคางของจินอูให้สบมองใบหน้าของตนอีกครั้ง รอยยิ้มอบอุ่นส่งมาถึงจินอูจนใบหน้าชาวาบ และเพราะใบหน้าที่อยู่ห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตรเลยกระตุ้นให้หัวใจของทั้งคู่ต้องเต้นแรง

     

                “ข้าก็รักเจ้าเหมือนกัน อัศวินซึงยูน”

     

                แล้วคำบอกรักก็เหมือนลอยหายไปกับอากาศทันทีที่ริมฝีปากหนาของซึงยูนแตะเข้าที่ริมฝีปากบางของจินอู ความหวานคละคลุ้งไปทั่วแม้ไม่มีการรุกล้ำ แค่เพียงสัมผัสกันเบาๆ ก็สามารถทำให้หัวใจของทั้งสองต้องพองโตจนแทบระเบิดแล้วแหละ ...

     

    XXXXX

     

    ย่าห์ ! หมั่นไส้เกินต้านทานค่า คังคิมเขาจะหวานกันไปถึงไหน ?

    บอกรักกันแบบไม่ให้รีดเดอร์ที่น่ารักของเจ๊ได้หยุดพักหายใจหายคอกันเลย =___=

    เขิน >///< เขินจนเจ๊จะกัดหน้าจอคอมพ์แตกแล้ว 5555555

     

    เย้ๆ ใกล้จะถึงตอนจบแล้ว 20 ตอนบริบูรณ์

    แต่เจ๊ไม่หยุดแค่นี้ค่ะ เจ๊จะมีสเปเชี่ยลให้รีดเดอร์ฟินต่อค่ะ ยังไงช่วยรอกันด้วยนะคะ ^^

     

    ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนมากๆ นะคะที่อยู่เคียงข้างและให้กำลังใจกันเสมอมา

    รักทุกคนเสมอคะ และจะรักตลอดไป ^^

     

    #ฟิคอัศวินเที่ยงคืน


    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×