ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~The Victim~ (Yaoi)ลงใหม่

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ย. 49


    เหอๆๆ ช่วงนี้รู้สึกตันๆ เริ่มแต่งไม่ค่อยออกซะงั้น ยังไงก็จะพยายามไม่ให้ฟิกเรื่องนี้ดองเค็มอย่างแน่นอนค่ะ 5555 ไปต่อตอนที่ 8 กันเลยดีกว่าเน้อ

    ***********************************

    Chapter 8




    ณ. โรงพยาบาล

    จินนั่งกุมมือคาเมะที่ยังคงหลับใหลเพราะฤทธิ์ยา

    “คาซึยะครับ...คนดีของจิน จะรู้บ้างรึเปล่าครับว่าจินรอคอยเวลานี้มานานขนาดไหน รอเวลาที่จะได้ใกล้ชิดกันแบบนี้มานานแค่ไหน พอจินคว้าเอาสิ่งที่ต้องการมาได้สำเร็จ คนดีของจินกลับมาเป็นแบบนี้ แล้วอย่างงี้จินจะต้องทำยังไงดีครับ ฮือ? ต้องทำยังไงทุกอย่างถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม บอกจินทีสิครับ....” ความเศร้าฉายออกมาทางดวงตาอันอันคมเข้มของร่างสูง น้ำตาที่ไม่มีเสียงสะอื้นก็ค่อยไหลออกมาอย่างเงียบๆ จินค่อยๆเอื้อมมือไปเกลี่ยผมที่ระหน้าผากร่างบางออกให้อย่างเบามือ

    “จิน รักคาซึยะมากนะครับ รักมากจนไม่สามารถจะปล่อยให้จากไปได้อีกแล้ว สัญญานะว่าถ้าตื่นขึ้นมาแล้วจะจำจินได้
    ได้โปรด.....ได้โปรดเถอะนะ อย่าพูดเหมือนจินไม่ได้อยู่ตรงหน้าคาซึยะจะได้มั้ย สัญญากับจินนะคนดี....” ค่อยๆทาบฝ่ามือของคนรักบนแก้มที่อาบด้วยน้ำใสๆของตนอย่างถนุถนอม

    -
    -
    -

    I could awake just to hear you breathing

    ชั้นสามารถลืมตาตื่นขึ้นมากลางดึกได้เพียงเพื่อจะฟังเสียงลมหายใจของเธอ

    While you're far away dreaming

    ในขณะที่เธอกำลังหลับใหลอยู่ในห้วงนิทราอยู่นั้น

    Wondering if it's me you're seeing

    ชั้นขอคาดหวังได้มั้ยว่าคนที่เธอพบเจอในความฝันคนนั้นคือชั้น

    Every moment spent with you is a moment I treasure

    ในทุกๆช่วงเวลาที่ชั้นได้ใช้มันร่วมกับเธอนั้น คือช่วงเวลาที่มีค่าสำหรับชั้นมากที่สุด

    Thank God we're together

    ขอบคุณพระเจ้าที่ได้สร้างให้เรามาคู่กันและกัน

    I just want you to stay with me in this moment forever

    เธอจะว่าอะไรมั้ยถ้าชั้นจะวอนขอเธอ ขอให้เธออยู่กับฉัน ณ เวลานี้ ทั้งจากนี้และตลอดไป

    Forever and ever……

    ตราบนานเท่านาน…… ชั้นขอเธอได้มั้ย.....

    -
    -
    -

    **********************************

    ขณะที่คาเมะกำลังตกอยู่ในห้วงนิทราอยู่นั้น ร่างบางกลับพบว่าตัวเองไปโผล่อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าที่นี่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด ไม่มีแม้แต่แสงสว่างใดๆที่จะช่วยส่องทาง

    คา-ซึ-ย-ะ

    “นั่นเสียงใครเรียกชื่อคาเมะนะ ทำไมฟังดูคุ้นจัง เหมือนเคยได้ยินที่ไหนสักแห่ง แต่ทำไมถึงนึกไม่ออกนะ ว่าแต่ที่นี่ที่ไหนเนี่ย คาเมะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วทำไมมันมืดแบบนี้ล่ะ จินฮะ จินอยู่ไหนฮะ ช่วยคาเมะด้วยสิฮะ คาเมะกลัวฮะ”

    ร่างบางพร่ำเรียกชื่อคนรักพร้อมๆกับเดินคลำทางไปเรื่อยๆ ราวกับว่าถ้ายิ่งเรียกชื่อนั้นเท่าไหร่จินจะมาปรากฏกายอยู่ตรงหน้าอย่างนั้นแหละ เดินคลำไปมากระทั่งพบหญิงสาวคนหนึ่งยืนหันหลังให้อยู่ไม่ไกลนัก

    “เอ๋? ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันนะ มายืนทำอะไรในที่มืดๆแบบนี้ ไม่กลัวบ้างรึยังไงนะ? คาเมะยังกลัวเลย” พึมพำกับตัวเองเบาๆ

    “สวัสดีฮะ” คาเมะตะโกนเรียกหญิงสาวผมดำยาวสลวยในชุดขาวบางสีนวล แต่ร่างนั้นกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง ไม่มีท่าทีว่าจะ
    ได้ยินเสียงเรียกของคาเมะเลยสักนิด

    “สงสัยคงไม่ได้ยินเราเรียกมั้ง” คิดได้อย่างงั้นก็เดินเข้าไปหาหญิงสาวใกล้ๆ ใกล้มากพอที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสได้

    “สวัสดีฮะ” คาเมะเอ่ยแล้วเอื้อมมือไปสะกิดแผ่นหลังตั้งตรงของคนตรงหน้าเบาๆ ร่างบอบบางในอาภรณ์สีนวลตาก็ค่อยๆหันมาหาคาเมะช้าๆ ใบหน้านวลนั้นสวยหมดจด หากแต่แววตากลับแฝงไปด้วยความเศร้าสร้อยจนน่าใจหาย

    “คา~~~ซึ~~~ยะ~~~” สิ้นเสียงแหบๆ เย็นๆ น้ำตาอุ่นๆก็ไหลลงมาตามร่องแก้มซีดๆของหญิงสาว

    “คิดถึงเหลือเกิน คา~ซึ~ยะ” มือเรียวบางสีซีดเหมือนคนที่ไม่ต้องแสงแดดมานาน ค่อยๆยื่นออกมาแตะแก้มนวลใสของ
    คาเมะอย่างแผ่วเบา

    “คุณน้าเป็นใครเหรอฮะ ทำไมถึงรู้จักชื่อคาเมะด้วยล่ะ เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึเปล่าฮะ?” คาเมะเอียงคอถามอย่างสงสัยท่าทางของร่างบางเรียกรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าหญิงสาวได้ดี

    แปลกจังทำไมคุณน้าคนนี้หน้าคล้ายคาเมะจังเลย ขนาดคุณแม่ที่ว่าคล้ายแล้วนะยังไม่คล้ายกับเราขนาดนี้เลย แถมรู้จักชื่อ
    คาเมะด้วย เค้าเป็นใครกันนะ

    หลังจากที่หญิงสาวเพ่งพิศใบหน้ามนของคาเมะอยู่นานราวกับต้องการประทับทุกรายละเอียดของใบหน้าใสตรงหน้า ก็พูดขึ้นมาว่า

    “กลับไปซะเถิดนะคาซึยะ ที่นี่ไม่ใช่ที่หนูควรจะอยู่นะ มีใครบางคนกำลังเสียใจที่หนูมาหาน้าที่นี่ เค้ารอให้หนูกลับไปหาอยู่นะ อย่าเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกเลย” หญิงสาวยิ้มเศร้าๆให้ร่างบางตรงหน้า

    ถึงเวลาที่เราต้องจากกันอีกครั้งแล้วซินะคาซึยะ

    “เอ๋? ทำไมล่ะฮะ? คุณน้าไม่อยากให้คาเมะอยู่เป็นเพื่อนเหรอฮะ? ว่าแต่คุณน้ายังไม่ได้บอกเลยนะฮะว่าเรารู้จักกันมาก่อน
    รึเปล่า อันที่จริงนะฮะคาเมะว่าคุณน้าเนี่ยหน้าเหมือนคาเมะอย่างกับแกะเลยนะฮะ 5555”

    หญิงสาวหยุดมองคาเมะนิ่งหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่ร่างบางพูด

    “ถ้าหากน้าบอกว่าอยากให้คาเมะมาอยู่เป็นเพื่อนน้าที่นี่ตลอดไปล่ะ คาซึยะจะยังอยากมาอยู่กับน้ามั้ยล่ะจ๊ะ ถ้าเราไปอยู่ด้วยกัน แล้วหากน้าบอกว่าจะทำให้คาซึยะมีความสุข คาซึยะจะไปด้วยกันมั้ย?” พูดจบก็ยื่นมือเรียวๆสีซีดมาตรงหน้าคาเมะ เหมือนต้องการเปิดโอกาสให้ร่างบางมีทางเลือกว่าจะอยู่หรือจะไปจากหล่อน

    น่าแปลกจังทั้งๆที่เพิ่งจะเจอกันแท้ๆ แต่ทำไมรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดเลยล่ะ มันเหมือนกับความรู้สึกที่ได้เจอกับจินเมื่อ
    ครั้งแรกเลย แต่กับคนๆนี้มันให้ความรู้สึกที่แรงกล้ากว่า ราวกับเคยมีความผูกพันที่ลึกซึ้งกันมากมาก่อนอย่างนั้นแหละ

    คาเมะค่อยๆยื่นมือของตนทาบทับลงบนฝ่ามืออันขาวซีดและเย็นเฉียบของหญิงสาวที่ยืนมาตรงหน้า แต่น่าแปลกที่มือเย็นๆ
    คู่นี้กลับเติมเต็มความอบอุ่นให้เต็มหัวใจของคาเมะ

    รอยยิ้มสวยงามประทับอยู่บนหน้าของหญิงสาว ยิ้มที่ตัวหญิงสาวเองเกือบลืมไปแล้วว่าเป็นยังไงหลังจากต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในโลกแห่งความมืดมิดนี้มานานนับปี

    *************************************

    ขณะที่คาเมะกำลังเดินจูงมือไปกับหญิงสาวแปลกหน้าอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงทุ้มๆฟังดูอบอุ่นของชายหนุ่มเรียกเค้าเอาไว้
    ชายหนุ่มที่เค้ารักหมดหัวใจ ชายที่เค้ามอบหัวใจตัวเองให้ตั้งแต่วันแรกที่สบตาด้วย

    คาซึยะ คาซึยะ จิน.....

    “อ๊ะ!!!!! นั่นเสียงจินนี่นา” คาเมะพึมพำออกมาเบาๆเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตนจากคนรัก

    “มีอะไรรึเปล่าจ๊ะ?” หญิงสาวถามออกมาเมื่อเห็นคาเมะมีสีหน้าแปลกไป

    “ไม่มีอะไรหรอกฮะ เราไปกันต่อดีกว่านะฮะ” ตัดสินใจเมินเฉยต่อเสียงคนรักที่กำลังเรียกเค้าอยู่ เนื่องจากไม่อาจปล่อยมือไปจากหญิงสาวข้างกายได้

    “เอ๋? !!!!!” แล้วคาเมะก็ต้องชะงักเท้าทันทีหลังจากที่รู้สึกถึงความเปียกชื้นบนฝ่ามือของตน

    นั่นเสียงเหมือนคนกำลังร้องไห้เลย นี่จินกำลังร้องไห้เพราะเค้าเหรอ

    “จิน!!” คาเมะครางชื่อคนรักออกมาอย่างเจ็บปวด

    หญิงสาวเห็นท่าทางเจ็บปวดของคาเมะจึงถามขึ้น

    “จินคุงนี่เค้าสำคัญกับคาเมะมากมั้ยจ๊ะ?”

    “เอ่อ..คือ”

    “น้าไม่โกรธหนูหรอกนะ พูดออกมาเถอะจ๊ะ” พูดจบก็ยกมือขึ้นลูบหัวร่างบางราวกับต้องการให้กำลังใจ

    “ฮะ เค้าเหมือนลมหายใจของผม ผมคงอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้าไม่มีเค้า ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทุกครั้งที่เค้าเศร้าหรือเจ็บปวด ผมก็จะรู้เจ็บปวดไปกับเค้าด้วย” คาเมะตอบออกมาตรงๆแทบจะไม่ต้องเสียงเวลาคิดด้วยซ้ำ

    หญิงสาวฟังสิ่งที่ร่างบางสารภาพออกมาก็ยิ้มบางๆให้กับคนตรงหน้า

    เหมือนลมหายใจเลยเหรอ คาซึยะจะจำได้มั้ยนะว่าหนูนะเคยรับปากตกลงว่าจะแต่งงานกันเค้าด้วยซ้ำ

    “ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะจ๊ะ ถ้าไม่อยากให้คนสำคัญของคาซึยะเสียใจไปมากกว่านี้”

    “คุณน้าไปกับผมนะฮะ ไปอยู่กับผม ผมจะแนะนำให้รู้จักกับจินด้วยนะฮะ”

    “ไม่ได้หรอกจ๊ะ” แล้วแววตาเศร้าๆก็ฉายออกมาทางดวงตาคู่สวยชองหญิงสาวอีกครั้ง

    “ทำไมล่ะฮะ”

    “ที่นั่นไม่ใช่ที่อยู่สำหรับน้าอีกต่อไปแล้วล่ะ คาซึยะเดินตรงไปตรงนู้นนะจ๊ะ เห็นมั้ย? เดินตรงไปเรื่อยๆแล้วหนูจะเจอทางออก น้าดีใจมากเลยนะที่ได้เจอกับหนูในวันนี้ คงอีกนานเลยล่ะกว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้ง”

    แล้วหญิงสาวก็เดินเข้ามาโอบกอดคาเมะ บรรจงจูบลงไปที่แก้มเนียนใสนั้นเบาๆ จูบที่เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความอาลัยอาวรณ์

    แปลกจังทำไมคาเมะถึงรู้สึกคุ้นเคยกับอ้อมกอดนี้จัง อบอุ่นจังเลย ไม่อยากจากอ้อมอกนี้เลย

    แล้วน้ำตาที่คาเมะไม่รู้สาเหตุก็ค่อยๆไหลลงมาตามร่องแก้มของตนเมื่ออยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของหญิงสาวแปลกหน้า

    “ไปเถอะจ๊ะ ได้เวลาแล้วนะ เดี๋ยวจะสายเกินไป”

    ชั้นคงจะเห็นแก่ตัวมากเกินไปไม่ได้แล้วล่ะ ได้เวลาต้องปล่อยมือนี้แล้วสินะ

    “แต่ว่าคุณน้าฮะ แล้วเมื่อไหร่คาเมะจะได้เจอคุณน้าอีกล่ะฮะ คาเมะอยากเจอคุณน้าอีก ฮึก..ฮึกกก”

    “อย่าร้องเลยนะจ๊ะ เด็กดี เมื่อไหร่ก็ตามที่คาซึยะคิดถึงหน้าก็มองไปที่ดวงดาวที่ส่องประกายสว่างที่สุดบนฟากฟ้านะ น้าจะอยู่ที่นั่น คอยมองคาซึยะอยู่ที่นั่นเสมออย่าที่เคยเป็นมา ไม่ว่าคาซึยะของน้าจะอยู่ในยามทุกข์หรือยามสุขน้าก็จะอยู่ตรงนั้นเพื่อคาซึยะของน้านะจ๊ะ”

    พูดจบหญิงสาวก็ค่อยๆ ดันร่างบางออกจากอ้อมกอดขอนตนเบาๆ เอื้อมมือสีซีดๆนั้นมาเช็ดน้ำตาออกจากแก้มนวลให้อย่างแผ่วเบา แล้วรุนหลังร่างบางให้เดินไปยังจุดที่ตนเองชี้ให้ดู สถานที่ที่คาเมะควรจะอยู่ สถานที่ที่หญิงสาวสามารถวางใจได้ว่าคนๆคนหนึ่งจะสามารถปกป้องร่างบางนี้ให้พ้นจากน้ำมือของคนๆนั้นได้

    ฝากน้องด้วยนะอาคานิชิคุง

    ฝ่ายคาเมะนั้นรู้สึกใจหายอย่างแรงเมื่อรู้ตัวว่าถึงเวลาต้องจากลากับหญิงสาวตรงหน้าตนแล้ว

    “คุณน้าฮะ!!!!! ไม่ อย่าไป...อย่าทิ้ง..ฮึก..คาเมะไป..ฮึกก” คาเมะตะโกนเรียกหญิงสาว เพราะหลังจากที่ตนหันหลังกลับมาร่างๆนั้นได้หายไปเสียแล้ว

    “ฮึก..ฮึกกก” คาเมะยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้นเป็นนานไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ยามนี้เค้ารู้สึกเคว้งคว้างเหลือเกิน เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ความมืด ไม่มีใครเลยสักคน

    ทำไมทุกคนถึงชอบทิ้งผมไปจังเลยฮะ ฮึกกกก

    ขณะที่คาเมะกำลังยืนสะอึกสะอื้นอยู่นั้น

    รัก..... คาซึยะ......รัก....จิน.....

    “นั่นเสียงจินนี่นา..ฮึก..ฮึกก”ว่าแล้วคาเมะจึงค่อยๆก้าวออกเดินไปยังทิศทางที่คนรักร่างสูงกำลังพร่ำเรียกชื่อของตนอย่าง
    ไม่ขาดปาก

    “ฮึก..ฮึก..รอผมก่อนนะฮะจิน...ฮึก.. ผมกำลังกลับไปหาจินแล้วนะฮะ...ฮึกกกก” เดินไปพลางยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาไปพลาง จิตใจมุ่งมั่นจะกลับไปหาคนรัก จนในที่สุดก็เจอแสงสว่างตรงปลายทางออกอย่างที่หญิงสาวแปลกหน้าบอกเค้าเอาไว้

    นี่คาเมะจะรู้ตัวมั้ยนะว่าสิ่งที่เค้าเฝ้าวอนขอต่อพระเจ้าอยู่ทุกค่ำคืนมาบัดนี้มันได้กลายมาเป็นความจริงแล้ว

    ********to be con chapter 9*******************************

    จบแล้วอีกหนึ่งตอน ชอบกันรึป่าวเอ่ย เม้นกันหน่อยน้าเพื่อเป็นกำลังใจในการเขียนต่อไป เหอๆๆ


    หลังจากตอนนี้อาจจะหายไปหลายวันหน่อยนะคะ  ยังไงก็อดใจรอและติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×