คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 7
*************************************************
Chapter 7
ภายหลังจากที่จินพาคนรักออกมาจากโรงแรมนั่นแล้ว ก็รีบนำตัวร่างบางในอ้อมแขนส่งโรงพยาบาลทันที
“โธ่โว้ย!!! ทำไมโบกแล้วแท็กซี่ถึงไม่มาจอดวะ” จินบ่นออกมาอย่างหงุดหงิดหลังจากที่โบกแท็กซี่มา 3 คันแล้วแต่ไม่มีคันไหนเลยที่จะจอดรับทั้งสองขึ้นรถ จึงตัดสินใจเดินไป ร.พ แทนเพราะอาการคาเมะในตอนนี้ดูแย่ลงกว่าเดิม
“คาซึยะ อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ อดทนอีกหน่อยนะคนดี อดทนนะครับคนดีของจิน” กระซิบถ้อยคำต่างๆ ลงข้างหูร่างบางในอ้อมกอดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“ใกล้จะถึงร.พแล้วนะคาซึยะ อยู่ข้างหน้านี่เองครับ พูดกับจินหน่อยสิครับ ช่วยพูดให้จินรู้ว่าที่รักของจินไม่เป็นอะไร นะครับ.....ได้โปรด” จินพร่ำกระซิบข้างๆหูร่างบางในอ้อมแขนเหมือนคนบ้า น้ำร้อนๆ ใสๆไหลลงอาบ 2 ข้างแก้มของผู้ชายที่ชื่อ
อาคานิชิ จิน ทุกคราที่เค้าก้มลงมองใบหน้ามนของคนรัก ที่บัดนี้หลับตาพริ้มสนิทอยู่ในอ้อมอกด้วยลมหายใจที่รวยริน ไม่มีทีท่าว่าจะรับรู้ถ้อยคำใดๆที่เค้าพร่ำบอกเลยสักนิดเดียว
อีกไม่กี่นาทีต่อมาร่างบอบบางของคาเมะก็ถูกเข็นเข้าสู่ห้อง ไอ.ซี.ยู เพื่อรับการรักษาอย่าเร่งด่วน
จินเองได้แต่เดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องราวกับหนูติดจั่นเพราะไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้วนอกจากรอคอย
“คาซึยะ อย่าเป็นอะไรนะ อยู่กะจินะครับ จินยอมแลกทุกอย่าที่จินมีขอเพียงแค่ให้คาซึยะปลอดภัย ได้โปรดเถิดนะครับ
อย่าพรากคาซึยะไปจากผมอีกเลย ได้โปรดเถิด”
อาคานิชิ จินผู้เฉยชา ไม่มีความเชื่อหรือแม้แต่ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า มาบัดนี้ร่างสูงกลับนั่งลงคุกเข่าสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ภาวนาให้คนรักของตนปลอดภัย คนเราถึงแม้ว่าจะเข้มแข็งดุจหินผาเพียงใด ก็ไม่สามารถแสดงความแข็งแกร่งนั้นได้ตลอดเวลา เฉกเช่นเดียวกับจินในเวลานี้ที่ดูอ่อนแอไร้หนทาง ยามที่ตนเองไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือคนรักได้
**********************************************
3 ช.ม ผ่านไปไฟหน้าห้องตรวจดับลงเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าการรักษาได้สิ้นสุดลงแล้ว
หมอหนุ่มซึบาสะในชุดกราวด์สีขาวเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าที่เหนื่อยอ่อน
“คาซึยะเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ” จินถามหมอหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน 3 ช.ม แห่งการรอคอยนานเสมือนชั่วกัปชั่วกัลป์ในความรู้สึกของจินยิ่งนัก
“คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ คุณสบายใจได้” หมอหนุ่มส่งยิ้มอ่อนๆให้ชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้า
“บาดแผลทางกายไม่ได้สาหัสอะไรมากเท่าไหร่ มีก็แต่รอยฟกช้ำนะครับ แต่ที่หมอเป็นห่วงคือสภาพจิตใจของคนไข้มากกว่า หมอเองก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น ในเวลานี้คุณคงต้องอยู่ข้างๆคอยเป็นกำลังใจให้คนไข้นะครับ อย่าให้สภาพจิตใจของคนไข้ได้รับความกระทบกระเทือนไปมากกว่านี้ ลองพาเค้าไปพักผ่อนในสถานที่ๆทำให้เค้าผ่อนคลายและรู้สึกสบายใจดูนะครับ เพราะมันจะช่วยให้สภาพจิตใจของเค้าฟื้นฟูได้เร็วยิ่งขึ้น” ซึบาสะพูดยิ้มๆ ตบไหล่จินเบาๆเพื่อให้กำลังใจ
“ขอบคุณมากนะครับ คุณหมอ ตอนนี้ผมเข้าไปเยี่ยมเค้าได้มั้ยครับ?”
“อ๋อ...ได้สิครับ เดี๋ยวหมอให้คนมาจัดการทำเรื่องย้ายห้องไปอยู่ห้องพักฟื้นแล้วกันนะ”
“ขอบคุณ คุณหมอมากจริงๆนะครับ” จินพูดพร้อมก้มศีรษะลงคำนับคุณหมอด้วยความรู้สึกขอบคุณ
“งั้นหมอขอตัวก่อนนะ” ซึบาสะพูดยิ้มๆ แล้วหันหลังเดินกลับไป
************************************************************
จินค่อยๆเดินเข้าไปในห้องซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อ สายตาคมเข้มนั้นไม่ได้ละไปจากร่างเล็กๆบอบบางที่อยู่บนผ้าปูที่นอนสีขาวนวลสะอาดตาเลยสักนาทีเดียว ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆเตียงที่คนรักนอนหลับไหลอยู่
“คาซึยะ.........” เอื้อนเอ่ยเรียกชื่อคนรักออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูปวดร้าวยิ่งนัก บัดนี้ร่างของคนรักตรงหน้ามีสายห้อย
ระโยงรยางค์เต็มไปหมด ค่อยๆเอื้อมหลังมือไปไล้แก้มนวลใสของคนรักอย่างแผ่วเบา ราวกับกลัวว่าสัมผัสของตนอาจนำพามาซึ่งความเจ็บปวดให้แก่ร่างบางตรงหน้าได้
“เจ็บมากมั้ยครับคนดี.....หือ?....ถ้าทำได้ จินขอรับความเจ็บปวดมาไว้ที่จินคนเดียวได้มั้ยครับ......ถ้าจินไปเร็วกว่านี้.........คาซึยะคงไม่ต้องมาทรมานแบบนี้....จินขอโทษนะครับ.....ขอโทษจริงๆ....ยกโทษให้จินได้มั้ยครับ.....” ตอนนี้จินรู้สึกว่าลำคอของเค้าปวดร้าวไปหมด เหมือนมีก้อนอะไรแข็งๆมาจุกเอาไว้ เค้าไม่เคยรู้สึกอ่อนแอและไร้เรี่ยวแรงเท่านี้มาก่อนเลย
ทันใดนั้นเองตาเรียวคู่สวยของคาเมะก็เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่ามีมือแกร่งกำลังสัมผัสตนอยู่
“อือ....ไ.....ม่.....ไม่..อย่านะ!!!!!!!!!” คาเมะหวีดร้องออกมาอย่าตื่นตระหนก
“คาเมะจัง !! เป็นอะไรครับ เจ็บตรงไหนรึเปล่า บอกจินสิ เกิดอะไรขึ้น?” สองแขนแกร่งพยายามรวบร่างคนรักเข้ามาในอ้อมกอด คิดจะใช้สัมผัสของตนปลอบประโลมร่างบางให้คลายจากอาการหวาดกลัว แต่คาเมะกลับปัดป้องมือแกร่งให้ออกไปให้พ้นตัว ดิ้นสุดกำลังหวังจะหลีกหนีสัมผัสจากมือคนตรงหน้า
“จิ....จินนนน...ช่วยด้วย....ช่วยคาเมะด้วย!!!” กรีดร้องเรียกชื่อคนรักเหมือนคนคลุ้มคลั่ง ราวกับมองไม่เห็นว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคือจิน
“คาซึยะ!!! จินอยู่นี่ไงครับคนดี มองสิ มองนะ จินอยู่ตรงหน้าคาเมะจังนี่ไง ได้โปรดอย่าทำอย่างงี้ .........ล้อจินเล่นใช่มั้ยครับ.....ล้อเล่นใช่มั้ย!!!!...มันไม่ตลกเลยนะ...ได้โปรดอย่าทำแบบนี้....” จินถามออกมาผ่านลำคอที่ปวดร้าว น้ำตาที่ร่างสูงพยายามกลั้นไว้ไม่ให้ไหล แต่ตอนนี้มันกลับไหลลงมาไม่ขาดสาย ยามที่เค้าเชยคางคนรักขึ้นแล้วมองลึกเข้าไปในดวงตา
คู่นั้น แต่แล้วดวงตาเรียวสวยของร่างบางตรงหน้ากลับไม่สะท้อนเงาของเค้าในแววตานั่นเลย ไม่มีอีกแล้วภาพของ
อาคานิชิ จินในตาคู่นี้
“ไป...ไป..ให้พ้น..นะ...ไม่ !!!!!!!....อย่าทำอะไรคาเมะอีกเลย....ฮึก....ฮึก...นะ.....คาเมะ...กลัวแล้ว.....ฮึก...ฮึก....อย่าทำอีกเลย......พอ..พอแล้ว....”
เสียงอ้อนวอนของคนรักไม่ต่างอะไรกับคมมีดที่กรีดลึกลงไปในอกของจิน หัวใจของเค้าปวดหนึบราวกับแผลที่กำลังกลัดหนอง
“คา-ซึ-ยะ......” เสียงที่ไร้เรี่ยวแรงถูกเปล่งออกมา จินค่อยๆคลายอ้อมกอดออก แล้วถอยห่างออกมายืนอยู่ข้างเตียงแทน
“ฮึก...ฮึกกกก” ร่างเล็กๆบอบบางของคาเมะกำลังนั่งกอดเข่าตัวสั่นเทิ้มเพราะความหวาดกลัวอยู่บนเตียงหลังใหญ่
“คาซึยะ นายกำลังลงโทษชั้นใช่มั้ยที่ทำให้นายต้องเป็นแบบนี้ ถ้าในสายตาของนายไม่มีชั้นแล้วในตอนนี้สู้ฆ่าชั้นให้ตายไปเลยดีกว่า อย่าทรมานชั้นแบบนี้เลย...ได้โปรดเถอะ” จินพึมพำกับตัวเอง น้ำใสๆคลออยู่เต็มเบ้าตาอันคมเข้มด้วยความอัดอั้นตันใจ
“ไม่....ไม่...อย่า..ทำ...ฮึก...ฮึกกก” คาเมะยกแขนขึ้นกอดตัวเองแน่นราวกับต้องการจะสร้างการ์ดขึ้นมาปกป้องตัวเองจากสัมผัสของคนตรงหน้า
จินที่ยืนมองดูอยู่ไม่ไกลนัก ทนรับกับอาการแบบนี้ของคนรักไม่ไหว กดปุ่มเรียกหมอมาดูอาการคนรักทันที
ภายหลังฉีดสารมอร์ฟีนเข้าสู่ร่างกายคาเมะแล้ว ร่างบางที่แสดงอาการคลุ้มคลั่งจึงค่อยๆสงบลงในที่สุด ดวงตาเรียวที่เคยฉายแสงร่าเริงราวกับพระอาทิตย์ยามเช้ากลับม่นแสงลงจนน่าใจหาย เปลือกตาบางค่อยๆปิดลงช้าๆเข้าสู่ห้วงนิทราที่แสนหวาน ทิ้งให้คนที่อยู่ข้างหลังต้องทุกข์ทรมานเหมือนหัวใจกำลังจะแตกออกเป็นสี่ยงๆ
“ทำไมเค้าถึงเป็นแบบนี้ไปได้ครับ ผมไม่เข้าใจ ทั้งๆที่ผมอยู่ตรงหน้าเค้าแต่เค้าทำเหมือนไม่เห็นผม นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” เสียงที่แสดงถึงความท้อแท้และสิ้นหวังถูกเปล่งออกมาหลังจากที่คนทั้งสองเดินออกมาจากห้องพักฟื้นคนไข้แล้ว จินเอามือกุมหน้าตัวเองอย่างคนหมดแรง
“คนไข้อาจจะยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ เลยเห็นเป็นภาพซ้อนขึ้น แทนที่เค้าจะเห็นว่าเป็นคุณ เค้ากลับคิดว่าคุณคือผู้ชายที่กำลังทำร้ายเค้านะครับ”
“แล้วเค้าจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนครับ”
“ผมเองก็บอกคุณไม่ได้หรอกนะครับว่าเมื่อไหร่ ไม่แน่พรุ่งนี้เค้าอาจจะตื่นขึ้นมาแล้วสามารถแยกแยะเรื่องทุกอย่างออกก็ได้นะครับ ผมบอกคุณแล้วไงว่าสภาพจิตใจของคนไข้ไม่สู้ดีนัก คุณต้องอดทนอยู่ข้างๆเค้า กาลเวลาจะช่วยฟื้นฟูจิตใจของคนไข้ให้ดีขึ้นได้ แต่ต้องอาจจะต้องใช้เวลา ที่หมอทำได้ก็แค่รักษาบาดแผลภายนอกเท่านั้นเอง” ซึบาสะบอกกับชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้าด้วยความเห็นใจ
“อย่างงั้นเหรอครับ” จินรับคำออกมาอย่างยากลำบากด้วยสายตาที่เหม่อลอย
“เอ่อ ถ้าไม่มีอะไรหมอขอตัวไปดูคนไข้คนอื่นก่อนนะครับ”
---เงียบ--- ไม่มีเสียงที่บ่งบอกว่าร่างสูงตรงหน้าได้ยินในสิ่งที่เค้าพูด ซึบาสะจึงเดินจากไปอย่าเงียบๆ ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนจมอยู่กับความคิดของตนเองคนเดียว
โลกรอบตัวของจินเหมือนหยุดนิ่งลงชั่วครู่หลังจากได้ฟังคำบอกเล่าของหมอ
แล้วนี่ชั้นต้องทำยังไง คาซึยะถึงจะกลับมายิ้มแย้มกับชั้นเหมือนเดิม ชั้นต้องใช้เวลานานขนาดไหนถึงจะขจัดเอาความ
หวากลัวออกไปจากดวงตาเรียวสวยคู่นั้นของนายได้ จะมีทางไหนบ้างมั้ยที่จะสามารถปลุกนายขึ้นมาจากฝันร้ายที่กำลังเผชิญอยู่เพียงลำพัง หลายคำถามเกิดขึ้นในใจของผม คำถามซึ่งไม่มีคำตอบ ปัญหาที่ไม่มีทางแก้ ทำได้แค่เพียงเฝ้ามองอยู่ข้างๆ แต่ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือได้เลย
“แก มันไร้ค่าจริงๆ ไอ้จิน!!!!” ร่างสูงกระแทกกำปั้นกับกำแพงอย่างแรงเพื่อระบายความอัดอั้นในจิตใจ
**************************************************
ณ. บ้านคาเมนาชิ
~~~~กริ้งงงงงงงงงงงงงงง~~~~~
“สวัสดีค่ะ บ้านคาเมานาชิค่ะ” เสียงหวานๆสบายอารมณ์ของหญิงสาวกรอกไปตามสายโทรศัพท์
“อ้อ นึกว่าใคร ที่แท้ก็นายนั่นเอง เป็นยังไงบ้างล่ะกับเด็กคนนั้นนะ สนุกมั้ย หึหึหึ” สุ่มเสียงที่แสดงออกถึงความพออกพอใจของนางคาเมนาชิถูกเอื้อนเอ่ยออกมา แต่พลันรอยยิ้มที่ฉาบอยู่บนใบหน้างามก็ค่อยๆหุบลง
“อะไรนะ? นายหมายความว่ายังไงที่บอกว่ามีคนมาช่วยมันนะ”
“ว่าไงนะ!!! นายนี่มันไร้ประโยชน์จริงๆเลย กะอีแค่เด็กตัวเล็กๆคนเดียวยังจัดการไม่ได้ เรื่องแค่นี้ยังปล่อยให้พลาด ไม่ได้เรื่อง!!!”
“หึ นี่แกยังกล้าจะมาทวงอีกเหรอ ทำไมชั้นต้องจ่ายด้วยในเมื่อแกทำงานพลาดแบบนี้ จำเอาไว้นะไม่ต้องเสนอหน้าโมรมาอีกเป็นครั้งที่สองล่ะ!!!!” กระแทกหูโทรศัพท์ลงอย่างแรงด้วยความโกรธที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามแผนการที่วางเอาไว้
“แกนี่มันตายยากตายเย็นจริงๆเลยนะ คาซึยะ !!! ไอ้สารเลวที่มันบังอาจมาขัดขวางทางชั้น มันต้องตายอย่างทรมานตาม
แกไป!!!! คอยดูเถอะ“ พูดพลางกวาดข้างของที่วางไว้อยู่บนโต๊ะจนมันหล่นลงมาแตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้นเต็มไปหมดเพื่อระบายอารมณ์โกรธแค้นที่กำลังพลุ่งพล่าน
“ในเมื่อยืมมือคนอื่นมาทำลายแกไม่ได้ ชั้นก็จะทำให้แกเห็นนรกด้วยน้ำมือของชั้นเอง หึหึหึ อย่าคิดว่าจะหนีจากน้ำมือ
ชั้นพ้น!!!!!” แววตาแข็งกร้าวที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาตจ้องมองกำแพงตรงหน้าเขม็งราวกับว่าคาเมะกำลังยืนอยู่ตรงนั้น
**********to be con chapter 8***************************************
จบไปอีกตอนแล้วอ่ะ เป็นไงกันบ้างเอ่ย แต่เรานี่รู้สึกว่านี่ชั้นเขียนอะไรลงไป๊ -*- รู้สึกถึงความพร่ำเพ้อตะหงิดๆ เหอๆ ยังไงก็ช่วยเม้นด้วยนะค้า แบบว่าอยากรู้ว่าชอบกันมากน้อยแค่ไหนอ่ะ ขอบคุณล่วงหน้า จุ๊บส์ๆๆ
ความคิดเห็น