คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter2
"ใย....ปลาย...ฉันหิวแล้วนะ"
"จ้า.....ทำเป็นบ่นไปได้เดินแค่นี้ ไหนบอกขาช๊อปมาเองไง"
"นี้เล่นเดินทีติดต่อกันไม่ให้หยุดพักจะ3ชั่วโมงอยู่แล้ว ถึงขาช๊อปขนาดไหนก็ขาขวิดได้ย่ะ"ปลายฟ้าสายหน้าอย่างระอากับคนที่อ้างว่าเป็นขาช๊อปซะเต็มประดาก่อนมาอย่าเหลืออด
"จ๊ะๆ แม่ขาช๊อปพักก็พัก"
"งั้นตามมา ชั้นมีร้านเลิศรสรอแกมาพิสูจน์อยู่แล้ว"
"ขอให้อร่อยจริงเถอะ"
"เออน่า รับรองอร่อยสมกับราคาปากฉันว่าเนี่ยแหละ"
"มัวแต่โม้อยู่นั้นแหละ หิวไม่ใช่หรือไงจ๊ะ แม่ ขา.....ช๊อป"
"ย่ะๆคุณปลายฟ้าเดี๋ยว อิ ฉันจะพาไปเดี๋ยวนี้แหละเจ้าค่ะ "
ไม่นานนักทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่หน้าร้านอาหารฝรั่งเศสแห่งหนึ่ง หน้าร้านตกแต่งโดยใช้ภาพศิลป์ต่างๆ ตกแต่งด้วยไม้เรือนประดับอย่างหรูหรา ผู้คนที่เดินเข้าออกแสดงให้เห็นถึงฐานะได้เลยว่า ร้านแห่งนี้ไม่ใช่ร้านอาหารธรรมดาทั่วไป เพราะแต่ละคนที่ทัศนาจรเข้าออกร้านนั้นล้วนแต่พกพาความสง่า และราศี ของคนกระเป๋าหนักมาทั้งนั้น
"ยินดีตอนรับ ฟานซ์ฟองดู ครับ ไม่ทราบว่ามากันกี่คนครับ" บริกรหนุ่มเข้ามาตอนรับอย่างสุภาพตามแบบฉบับ ด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรใส่ชุดเครื่องแบบของร้านเสื้อแขนยาวสีขาวสวมทับด้วยแจ็กเก็ตสีดำ กางเกงขายาวสีดำ และหูกระต่ายสีดำ
"คือที่จริงนัดกับคุณ ภูวนาท ไว้ไม่ทราบว่าพี่ภูอยู่ไม๊ค่ะ"
"อ๋อ..งั้นคุณคงเป็น คุณ ภาวิดา ใช่ไม๊ครับ"
"ใช่ค่ะ"
"คุณภูเพิ่งจะเข้ามาได้ซักพักเองครับรู้สึกจะรออยู่ข้างในแล้วสั่งไว้ว่า ถ้าคุณมาแล้วให้พาไปพบได้เลย เชิญตามมาทางนี้ได้เลยครับ"สองสาวก้าวเท้าตามบริกรหนุ่มเข้าไปในร้าน สายตาก็สำรวจดูความหรูหราที่ตกแต่งได้สวยงามและลงตัว แบบบรรยากาศสบายๆง่ายๆ แต่ดูมีเสน่ห์ จะมีแต่เพียงปลายฟ้าเท่านั้นที่สงสัยเกี่ยวกับร้านอาหารฝรั่งเศสแห่งนี้ ก่อนจะตัดสินใจถามไปตรงๆ
"นี่ร้านพี่ภูหรอเฟรน"ปลายฟ้าถามสงสัย เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าญาติที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของ
เพื่อนสาวจะมาเปิดร้านอาหาร
"ไม่รุสิ ...เดี๋ยวเจอตัวเธอก็ถามเองสิ"ภาวิดา(เฟรน) พูดเป็นเชิงหยอกล้อเพื่อนสาวอย่าง สนุกเพราะเธอรู้นิสัยของเพื่อน ที่อยากรู้อะไรจะต้องรู้ให้ได้ เป็นผลให้แม่สาวที่อยากรู้จึงค้อนขวับให้ซะวงใหญ่
"ย่ะฝากไว้ก่อนเถอะ"
"ว่าไงครับคุณผู้หญิงทั้ง2 ทำไมถึงใจร้ายปล่อยให้พี่รอนานอย่างนี้ล่ะ"เสียงทุ้มลึกที่แทรกขึ้น ทำให้สองสาวหัน
ไปสนใจบุคคลตรงหน้า ผมยาวปะบ่า กับคิ้วเข้มที่เข้ากับรูปหน้าคมได้เป็นอย่างดีดูราวๆสูงซัก180ที่นั่งเอามือผสานเท้าอยู่บนโต๊ะอาหาร
"แหมๆคุณชายรอนิดรอหน่อยทำเป็นไม่ได้ก็ใครหว่า..พาช๊อปจนลืมเวลานัด"หลอนพูดแก้มหยอกล้อพร้อม
เหลียวตาไปมองเพื่อนสาวที่อยู่ข้างๆ
"ไม่ต้องมาโยนให้ฉันเลยใยเฟรน พี่ภูก็เหมือนกันไม่ยอมโทรบอกปลายก่อนหนิ แล้วมันก็ไม่ใช่ความผิดของปลายซะหน่อยก็เล่นไม่มีใครบอกปลายก่อนเลย ที่จริงความผิดมันต้องตกอยู่ที่คนกลางจริงไม๊พี่ภู"(นันไงโดนเขาให้แล้วไงแม่ภาวิดาตัวแสบเล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับนางเอกของผม)
"ย่ะๆฉันมันผิด ตกลงเราจะมาหาอะไรกินหรือว่าจะทำอย่างอื่นกันแน่ หืม"เมื่อดูท่าไม่ดี หญิงสาวจึงต้องเปลี่ยนเรื่องก่อนเพราะโต้ตอบอะไรเพื่อนสาวไม่ได้แต่กลับจะเป็นฝ่ายโดนซะเองเสียมากกว่า
"เปลี่ยนเรื่องเร็วจริงน่ะ คุณภาวิดา....."ปลายฟ้าได้โอกาสจึงหยอก เฟรนกลับบ้าง
"เอาๆ พอได้แล้วคู่นี้หนิ แกล้งกันเป็นเด็กๆไม่สงสารคนหิ้วท้องรอบ้างหรือไง"คนพูดทำหน้างอนพลางเอามือลูบท้องอย่าเอ็นดู การกระทำที่เรียกรอยยิ้มจากสองสาวตรงหน้าได้อย่างไม่รู้ตัว
"เชิญครับ"บริกรหนุ่มคนเดิมที่เดินนำสองสาวมาพบกับ ภูวนาท บอกพลางเลื่อนเก้าอี้ให้สองสาวอย่างสุภาพ
"ขอบคุณค่ะ"
"แล้วนี้ได้ข้อมูลการสัมภาษณ์ แล้วใช่ไม๊ปลาย"ภูวนาทเอ่ยถามขึ้นพลางจิบน้ำอย่างสุภาพ
"อ้าว ตกลงพี่ภู เป็นคนหาข้อมูลให้ปลายหรอเนี่ย"ปลายฟ้าเอ่ยก่อนจะหันไป มองใช้สายตาจิกเพื่อนสาวอย่างสงสัยเพื่อต้องการคำตอบที่หล่อนต้องการ"ว่าไงจ๊ะ...."
"แหม..แกก็ ยังไงฉันกับพี่ภูก็พี่น้องกัน ก็เหมือนคนๆเดียวกันนั้นแหละ ใครจะหามาก็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง สำคัญที่แกก็ได้เหมือนกันนั้นแหละ"ภาวิดาเอ่ย อย่างเก้ๆกังๆ ไม่เต็มปากนัก ก่อนจะหลบตาเพื่อนอย่างสำนึกผิดที่ไม่ยอมบอกให้ละเอียดถึงการหาข้อมูลสัมภาษณ์งาน
"จ๊ะ...แม่คนพลิกแพลง ไหลเก่งยิ่งกว่าปลาไหลอีกนะแกอะ"
"อ่ะแน่น๊อนนน......ก็ฉันน้องพี่ภูหนิ"
"อ้าวๆใยแสบ ทำไมลากพี่ไปเกี่ยวกับพฤติกรรมสัปดี้สัปดน ของตัวเองซะงั้นหล่ะ"ภูวนาทเอ่ยออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อปัดกับคำพูดที่ชักตวงโยนความผิดมาให้จากน้องสาวตัวแสบ ที่ตอนนี้หัวเราะร่าอย่างเริงใจแม้แต่ปลายฟ้าก็ยังผสมโรงหัวเราะกันไปด้วย
การได้สนทนากับ ภูวนาท และ ภาวิดา สำหรับปลายฟ้านั้นถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่ช่วยแบ่งเบาความหนักอกหนักใจออกไปได้บ้าง ถึงมันจะไม่ใช่ทั้งหมดแต่ก็เป็นส่วนเติมเต็มในชีวิตที่ทำให้หล่อนรู้ว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ภูวนาทเปรียบเสมือนได้กับพี่ชายของหล่อนเองเลยก็ว่าได้ เพราะบุคลิกที่เป็นกันเองของภูวนาทและความเอ็นดูของเขาที่มีให้ ก่อนที่ความคิดจะลอยไปไกล ก็มีเสียงของบริกรหนุ่มแทรกขึ้นมาเมื่ออาหารมาถึงโต๊ะแล้ว
"อาหารพร้อมแล้วครับ"บริกรหนุ่มเอ่ยก่อนจะวางอาหารลงบนโต๊ะอย่างนุ่มนวล
"โอ๊ย....ลาบปาก ทีหลังต้องแวะมากินที่นี้บ่อยๆเน๊อะปลาย อาหารดีแถมฟรีอีกต่างหาก"ภาวิดาพูดพลางทูมืออย่างสนุก กับแผนการอันหลักแหลมของเธอ ส่งผลให้เจ้าของร้านต้องสะดุ้งกับแผนเจ้าเล่ห์ของน้องสาว
"ไม่ค่อยเลยนะใยตัวแสบไม่คิดจะลงทุนเลยหรือไง"ก่อนจะคิดแผนแก้เก้อแกล้งน้องสาวเล่นได้ทันควัน"แต่ถ้าเป็น ปลายหล่ะ พี่ยินดีเลยนะจ๊ะอยากกินไรก็สั่งได้เลย พี่เลี้ยงตลอดชีวิตพี่ก็ไหว"
"ได้ไงอ๊า...พี่ภูลำเอียง รักน้องไม่เท่ากัน"
การทะเลาะกันของพี่น้องคู่นี้ถือเป็นปกติของพี่น้องคู่นี้ตั้งแต่ปลายฟ้ารู้จักมาหลายปี แต่ก่อนที่พี่น้องจะตีกันตายไปมากกว่านี้คนกลางที่กำลังทนต่อกลิ่น และสีของอาหารจะทำให้ทรมานต่อสภาพจิตหล่อนไปมากกว่านี้อย่างปลายฟ้าจึงเอ่ยออกมาเพื่อห้ามทัพในที่สุด
"เฮอ......ปลายยังไม่อยากเป็นโรคกระเพาะช่วงนี้หรอกนะ" แต่เหมือนมันจะไม่ค่อยเป็นผลเท่าที่ควรเลยซักนิด
"ก็ฉันไม่ใช่คนเริ่ม"
"นี้เธอหาว่าพี่เริ่มหรอ"
"หยุดเด๋วนี้!!"เสียงประกาศิตของปลายฟ้าที่เปล่งออกมาอย่างเหลืออด แต่ทีนี้ไม่ผิดหวังอย่างคราวที่แล้วเพราะไม่มีเสียงใดรอดออกมาจากปากของสองพี่น้องแต่อย่างใด
"เออ...ฉันว่าเรากินข้าวกันดีกว่า"คำพูดที่หาทางหนีทีไล่ของ ภาวิดา ในการเอาตัวรอดที่พร้อมจะออกมาอัตโนมัติ โดยตลอดเวลา ส่งผลให้ ภูวนาทนั้นอมยิ้มอยู่น้อยๆ จะมีซักกี่คนที่จะหยุดการทะเลาะของเขากับภาวิดาให้จบเร็วได้ขนาดนี้ ขนาดผู้เป็นมารดาของทั้งสองยังระอากับการทะเลาะของเขากับน้องสาวเลย จะมีแต่ปลายฟ้านี้แหละที่จะทำให้ น้องของเขานั้นหงอยลงได้
"พี่ภู ไม่ต้องยิ้มพี่ก็เหมือนกัน"ดีใจไม่ทันได้ทั่วท้องก็ต้องหน้าจ๋อย ไม่แพ้น้องสาว พร้อมกับรอยยิ้มของ น้องสาวที่ ส่งมาให้อย่างล้อเลียน
"จ้าาาา .....พี่จะลงมือกินแล้วคร๊าบบ"ภูวนาทเอ่ยออกมาพร้อมกับทำท่าเหมือนเด็กๆที่เพิ่งจะได้ของเล่น เรียกรอยยิ้มได้อย่างง่ายดายกับสาวๆทั้งสอง ก่อนจะลงมือรับประทานอาหารกันอย่างไม่รีรอ
อาหารที่นี้ถือไม่แพ้ภัตตาคารหรูที่ไหนเลยก็ว่าได้ อาหารซะส่วนมากจะเน้นความเข้มข้นของ น้ำซอสซะเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่เริ่มจาก น้ำซอสกุ้ง ที่มีเครื่องเคียงเป็นผักจำพวกเห็ดต่างๆน้ำซอสที่น่าจะทำมาจากถั่วและกุ้งที่ส่งกลิ่นออกมาได้อย่างไม่ต้องคิดให้มากนัก และอาหารที่เห็นจะถูกปากใครก็ใครมากที่สุดในโต๊ะนี้น่าจะเป็น ตับห่านราดซอสที่ย่างอย่างเกรียมๆส่งกลิ่นหอมเรียกน้ำลายอย่างง่ายดาย อาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ส่วนใหญ่จะกินคลุกเคล้าไปกับสลัดผัก เพราะเนื้อครีมของน้ำสลัดจะช่วยลดความเลี่ยนของเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี และที่เห็นจะโดนใจสองสาวมากที่สุดเห็นจะเป็นซุบชีสเห็ดที่ทำออกมาได้อย่างเข้มข้น ได้ใจของสาวๆไปอย่างไม่ยากนัก
ในระหว่างที่สองสาวนั้นกำลังสวาปามอาหารอย่างเอร็ดอร่อย มีแต่ภูวนาทที่คอยเฝ้ามองพฤติกรรมของทั้งสองอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่ใช่เหตุผลอะไรเลย เพียงแต่เป็นผลจากการเอือมระอาแม้กระทั้งปลายฟ้าที่ดูจะเรียบร้อยกว่าน้องสาวของเขานั้นก็ไม่วายทำให้ขานั้นแปลกใจไม่ได้ สำหรับเขาแล้วปลายฟ้าเปรียบเสมือนน้องสาวคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ถึงจะเกิดในตระกูลที่ถือว่ามั่งมีเลยก็ว่าได้แต่กลับไม่เคยทำตัวหยิ่งยโสมากเกินเหมาะสมเลย ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการออกมาอยู่ตัวคนเดียวของหล่อน แต่นิสัยอย่างปลายฟ้าที่ไม่ยอมรับความช่วยเหลือใครง่ายๆแม้กระทั้งเขาก็ตามที
"พี่ภู เป็นอะไรไปค่ะ"ปลายฟ้าเมื่อเห็นภูวนาทหยุดพักจากการกินเลยถึงขึ้นอย่างใคร่รู้ ไม่วายที่ปากยังเม้มส้อมเล่นอยู่เพื่อลิ้มรสของรสชาติอาซอสที่ติดอยู่
"พี่กำลังมองผู้หญิงสองคนที่มูมมามที่สุดที่พี่เคยเจอมานะสิ"ภูวนาทพูดพลางยิ้มล้อเลียนทั้งสองอย่างเอาใจ
"พี่ภู!!"ทั้ง ปลายฟ้า และ ภาวิดา จึงเอ่ยออกมาเพื่อท้วงกับคำพูดที่ผู้หญิงคนไหนฟังก็ต้องเคืองเป็นธรรมดาของพี่ชายเธอ
"โอ๋....พี่ล้อเล่นหรอกหน่ากินกันต่อเถอะ เด๋วอารมณ์ในการกินจะหายกันไปป่าวๆ อะนี้"พูดพลางคีบอาหารให้สาวๆอย่างเอาอกเอาใจ
"โอ๊ยยยอิ่มจนลุกไม่ไหวแล้ว" ภาวิดาเอ่ยออกมาตามจริงที่ตอนนี้หนังท้องเธอคงตึงจนไม่สามารถยัดอะไรลงไปได้อีกแล้ว
"เฮ้ออออ.............ปลายบอกพี่ทีสิพี่มีน้องสาวหรือน้องชายกันแน่"ภูวนาทหันไปขอความคิดเห็นกับปลายฟ้าอย่างระอากับพฤติกรรมของน้องสาว
"ปลายยังไม่แน่ใจเลยว่า เพื่อนปลายเป็นผู้หญิงหรือเปล่า"
ภาวิดาจึงค้อนขวับให้ปลายฟ้าซะวงใหญ่พร้อมๆกับเสียงหัวเราะของ ภูวนาทอย่างสบายๆ
"เช๊อะ....ถึงฉันจะไม่เรียบร้อยอย่างน้อยฉันก็มีความสนใจต่อบุรุษเพศมากกว่าแกแหละใยปลาย "
"ฉันอยากสลับร่างกับแกจริงๆเลยยัย เฟรน"
To be con........
ความคิดเห็น