ตอนที่ 35 : | 05 | break | 100 %
05
แสงแดดตกกระทบคฤหาสน์ซิซิเลี่ยนที่แสนยิ่งใหญ่บ่งบอกถึงเช้าวันใหม่ บรรยากาศยามเช้าตรู่เงียบสงบและแสนลึกลับอย่างเช่นเคยเป็นมา มีเพียงเสียงนกร้องที่ดังสะท้อนในป่ารอบตัวปราสาท
ร่างสูงใหญ่ของเจ้าของคฤหาสน์แสนงดงามยืนตรงหน้ากระจกบานใหญ่ สะท้อนชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าแสนสมบูรณ์แบบ ไหล่กว้างแสนแข็งแรงภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว ท่อนขาสูงยาวไม่ต่างจากนายแบบหนุ่มในหน้านิตยาสาร มือแกร่งหมุนกระดุมตรงข้อแขนให้ติดแน่น
ดวงตาคมมองสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง ก่อนยกยิ้มมุมปากแล้วหมุนตัวเดินจากห้องแต่งตัว
“อรุณสวัสดิ์ครับท่านซื่อชวิน”
“อรุณสวัสดิ์หานเกิง”
โอเซฮุนยกรอยยิ้มรับพ่อบ้านที่ยืนรออยู่ปลายบันไดเหมือนอย่างในทุกเช้า ก่อนท่อนขายาวจะก้าวเดินไปยังห้องอาหารกลางคฤหาสน์ที่ชายสูงวัยเผยมือเชื้อเชิญ และเป็นพอดีกับลูกน้องคนสนิทอย่างเฉินเดินมายื่นแฟ้มเอกสารเพื่อรายงานข้อมูล
“ผลรายได้ไตรมาสแรก เป็นผลไปอย่างที่คุณเซฮุนวิเคราะห์ครับ มีเพียงหุ้นของจีเคเอส บริษัทส่งออกที่เราเพิ่งลงทุนไป ดูไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่”
“แล้วนายว่ายังไง”
“ครับ?”
“หุ้นตัวนี้น่ะ ฉันควรจะถอนดีไหม”
มาเฟียซิซิเลี่ยนคนเล็กสบตากับลูกน้องคนสนิทที่ฉลาดเสียยิ่งกว่ากรด ภายใต้รอยยิ้มสว่างไสวนั่น เซฮุนรู้ดีว่าลูกน้องที่เป็นเหมือนดั่งเพื่อนอีกคนของเขามองทุกอย่างได้เฉียบคมมากแค่ไหน ไม่ใช่เพียงแค่ในแง่ธุรกิจ แต่นั่นหมายถึงทุกอย่างของซิซิเลี่ยนในฮ่องกงที่เฉินช่วยจัดการ
“ผมว่ามันน่าสนใจที่คุณเซฮุนจะถือต่อไว้อีกสักหน่อย”
“หึ ก็ตามนั้น” เซฮุนเดาะกระพุ้งแก้มอย่างถูกใจในคำตอบ มือใหญ่ยื่นแฟ้มสีดำสนิทกลับคืนก่อนเปลี่ยนมาหยิบแทบเลตที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ ดวงตาคมมองกวาดข้อมูลในสายตาก่อนคิ้วเข้มจะขมวดลง
“นี่คือตัวสารที่นักวิจัยของเรา และคุณอี้เอินคาดการณ์ว่าใกล้เคียงกับยาที่คุณลู่หานได้รับครับ”
“มีแต่สารร้ายแรงทั้งนั้น”
“นั่นแหละครับที่น่าห่วง แต่คุณอี้เอินรายงานว่าร่างกายคุณลู่หานสามารถขับยาได้บางส่วนแล้ว...ฉะนั้นผลข้างเคียงอาจไม่ได้แรงนัก แต่ถึงแบบนั้นก็ยังไม่สามารถสรุปได้ครับ ส่วนเรื่องหยางเฟิงมันหายเข้ากลีบเมฆทันทีที่เราโต้กลับไปครับ”
มาเฟียหนุ่มพยักหน้ารับ เป็นพอดีก้าวถึงห้องรับประทานอาหาร กลิ่นอาหารเช้าทำให้โอเซฮุนพึงพอใจเมื่อเป็นข้าวต้มปลาของโปรด ก่อนที่จะทรุดตัวลงนั่งดวงตาคมกลับมองไปเห็นแผ่นหลังเล็กของใครบางคนผ่านกระจกใสในห้องครัว
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลายกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนเปลี่ยนใจเดินเข้าไปในห้องครัวที่แทบไม่เคยย่างกายไปใกล้
“ท่านซื่อชวินคะ…”
น้ำเสียงของสาวใช้ที่ยืนคอยรอรับคำสั่งหน้าห้องครัวเงียบลง เมื่อมาเฟียหนุ่มยกนิ้วมือทาบบนริมฝีปากตนเองเป็นสัญญาณให้เงียบเสียง แล้วก้าวเท้าเข้าไปใกล้ร่างน้อยที่ง่วนกับของตรงหน้าพร้อมเสียงหั่นผักกระทบเขียงได้ยินเป็นจังหวะไม่ขาดตอน
เมื่อเข้าใกล้กายเล็กที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มือใหญ่วางลงบนสะโพกกลมทันทีและนั่นทำให้คนตัวบางหันขวับพร้อมมีดเล่มเล็กที่ถืออยู่ในมือวางบนลำคอแกร่ง ทำให้สาวใช้ที่ตามเข้ามาหวีดร้องลั่น ดวงตาคมจดจ้องดวงตากลมโตที่ดูตื่นตระหนกเพราะความตกใจ คิ้วเข้มขมวดสงสัยก่อนคลายลง เมื่อมือน้อยแสนสั่นกลัวและลดระดับลง
“ใจเย็นซี่”
“คุณเซฮุน...ผมตกใจนะครับ” ลู่หานว่าเสียงอ่อย
มือเล็กที่กำมีดแน่นคลายลงพร้อมวางมีดทิ้งไว้ที่เขียงทันที ก่อนหันมาเผชิญหน้ากับร่างสูงใหญ่ที่กักลู่หานไว้ทั้งตัวเพราะมือแกร่งวางอยู่สะโพกกลมมน มาเฟียหนุ่มยกรอยยิ้มร้ายก่อนกระชากคอเสื้อกี่เพ้าเผยให้เห็นซึ่งร่องรอยที่มาเฟียหนุ่มได้ฝากเอาไว้
“รอยสวยกว่าที่ฉันคิดซะอีก”
ลู่หานเบิกตาโตกับสิ่งที่เกินขึ้น เจ้าของผิวเนื้อเนียนที่ตัดรอยคมฟันสีแดงช้ำยกมือปกปิดพร้อมติดกระดุมเสื้อกลับไปตามเดิมทันที ทำให้มาเฟียซิซิเลี่ยนที่แสนร้ายกาจหัวเราะแผ่วเบาด้วยความชอบใจและนั่นทำให้ร่างเล็กเผลอมองค้อนใส่
“และฉันจะบอกว่ามันดูเหมาะกับเธอดี”
...รอยที่น่ารังแกเพิ่มอีกสักครั้ง
มาเฟียซิซิเลี่ยนถูกใจกับเด็กที่ตนเองบังเอิญเก็บได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เมื่อสบกับดวงตาที่คล้ายจะดื้อดึงแต่กลับดูยินยอมและโอนอ่อน เซฮุนยกยิ้มมุมปากก่อนปล่อยร่างเล็กให้เป็นอิสระเมื่อเห็นริ้วรอยแดงที่แก้มใส
ลู่หานกำลังถูกพยายามจับจูงและลากออกมาด้วยผิงผิงและฟ่านปิงที่เข้าไปตามเขาถึงในครัวเพราะนายท่านซื่อชวินเรียกตัว ในคราแรกงอแงจะไม่ออกไปเพราะลู่หานยังไม่อยากเจอกับคนที่ชอบร้ายกาจใส่กันอยู่เรื่อยสักเท่าไหร่ แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีใครขัดขวางความต้องการของมาเฟียซิซิเลี่ยนที่แสนยิ่งใหญ่ได้
ใบหน้าหวานนั้นเบะปากอย่างแสนงอนใส่สองสาวใช้
“โธ่คุณลู่หานคะ ปกติแทบไม่มีใครได้นั่งทานข้าวกับนายท่านซื่อชวินหรอกนะคะ”
“เราไม่เห็นอยากทานด้วย”
มึนตึงไปแบบนั้นแต่สุดท้ายร่างเล็กก็ยอมก้าวเดินตามมาเพราะเกรงว่าความดื้อดึงของตนจะทำให้สองสาวเดือดร้อน เมื่อรู้ดีว่าโอเซฮุนนั้นแสนเอาแต่ใจมากเพียงใด จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ลู่หานรู้ซึ้งทีเดียว
“นั่งลงสิ…” ร่างเล็กที่เคยงอแงก่อนหน้ายอมทำตามอย่างง่ายดาย จะทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามแต่นายท่านของหานเกิงกลับส่งเสียงรั้ง
“...ข้างฉัน”
ลู่หานหมุนตัวจากโต๊ะตัวยาวฝั่งตรงข้ามมานั่งข้างกายมาเฟียซิซิเลี่ยน ตรงตำแหน่งบริเวณหัวโต๊ะ ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นแอบเบะบึ้งและใช่ว่าจะพ้นสายตาของมาเฟียหนุ่ม ท่าทางแบบนั้นทำให้นึกอยากแกล้งขึ้นมาอีกมากกว่าเดิม
“เธอทำข้าวต้มนี่เองเหรอ”
“ใช่ครับ แต่คุณหานเกิงทำเยอะมากกว่า ผมก็แค่ช่วย”
“รู้ใช่ไหมว่าฉันชอบ”
ลู่หานหลบสายตาหลังจากเผลอจ้องดวงตาคมนั่นไปในคราแรก ดวงตากลมเปลี่ยนมาจ้องควันที่ลอยฉุยเหนือชามข้าวต้มที่คุณหานเกิงเพิ่งตักให้ใหม่ น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ได้ยินเมื่อก่อนหน้าเหมือนมาเฟียแสนร้ายคนนี้ทำเพื่อแกล้งหยอก
ถึงลู่หานจะรู้ดีว่าโอเซฮุนนั้นร้ายกาจใส่เขามากเพียงไหน แต่คำสั่งที่ฝังลึกกลับทำให้ร่างบอบบางเลือกที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้มาเฟียคนเล็กของซิซิเลี่ยนพึงพอใจ
“ผมก็พอรู้ ...เลยขอให้คุณหานเกิงช่วยสอน” น้ำเสียงอ้อมแอ้มที่เอ่ยบอกพร้อมใบหน้าหวานที่ก้มลงมองเพียงแต่ชามข้าวต้ม มือน้อยคนข้าวในชามใสไปมา และริ้วรอยแดงจางที่แก้มใส
ทำให้มาเฟียซิซิเลี่ยนเพิ่งเคยรู้สึกว่าใครสักคนน่าเอ็นดู
“ข้าวต้มนี่จะร้อนเกินไปหรือเปล่า”
ลู่หานตักข้าวต้มชิมเพียงคำเดียว ก่อนหันไปมองคนที่เอ่ยบ่นพร้อมกับทิ้งช้อนกระเบื้องสีขาวไว้ในชามเช่นเดิม ท่าทางแบบนั้นทำให้ลู่หานขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนจะเฉลยเมื่อริมฝีปากหยักของคนที่หันมายกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่เอ่ยบอก
“เป่าให้เย็นหน่อยสิ”
นั่นแหละนิยามของคำว่าเอาแต่ใจ
คนตัวเล็กมุ่ยหน้เพียงแค่ไม่นาน สุดท้ายมือเล็กก็ยอมยื่นไปหยิบช้อนในชามมาเฟียหนุ่ม ตักข้าวต้มในชามใสก่อนริมฝีปากแดงเรื่อจะห่อกลมแล้วเป่าลมเพื่อช่วยให้ข้าวต้มในช้อนเย็นลงตามความต้องการของคนแสนเอาแต่ใจ
เมื่อควันกรุ่นที่ลอยอยู่จางหายลู่หานจึงยื่นช้อนจ่อปากคนที่ยกรอยยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ มือใหญ่กอบกุมมือน้อยให้เข้ามาใกล้ก่อนใบหน้าแสนหล่อร้ายนั่นจะขยับเข้ามาค่อยละเมียดชิมอาหารในช้อน
เป็นท่าทางแสนธรรมดา แต่ลู่หานกลับร้อนแก้มอย่างประหลาดและแก้มใสยิ่งขึ้นสีแดงจัดไปใหญ่เมื่อปลายจมูกโด่งแตะลงเรียวนิ้วสวย และนั่นทำให้ร่างเล็กของเจ้ากวางน้อยตื่นตูมรีบดึงข้อมือของตนกลับ
“ทะทานเองไปเลยนะครับ” ท่าทางแสนร้อนรนนั่นถูกใจมาเฟียซิซิเลี่ยน เหมือนลูกกวางป่าที่สะดุ้งตื่นตัวจากกับดักแสนร้ายของนายพราน
มาเฟียหนุ่มตักทานข้าวต้มแสนอร่อยในชามไปเพียงไม่กี่ช้อนภาพที่เคยเห็นตรงหน้าก็ดับวูบเพราะมือนิ่มนุ่มของใครบางคนทามทับที่เปลือกตา กลิ่นเป็นเอกลักษณ์พร้อมเสียงหัวเราะหวานใสที่ดังข้างหูทำให้โอเซฮุนแย้มรอยยิ้มกว้าง
“เซอไพรส์”
“…”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่เซฮุน”
รอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าสวยหวานเป็นสิ่งแรกที่เซฮุนมองเห็นหลังจากมือนุ่มนิ่มนั้นปล่อยให้ดวงตาคมเป็นอิสระ มือใหญ่ยีลงบนกลุ่มผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อนของคนที่ยิ้มทะเล้นอยู่ข้างตัว
“เล่นอะไรเนี้ยหืม”
“เซอไพรส์ไงคะ”
เซฮุนส่งรอยยิ้มเอ็นดูให้หญิงสาวร่างเล็กที่ยืนยิ้มแป้นสดใสยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ในตอนเช้าตรงหน้า จื่อวียังคงสดใสเหมือนอย่างในทุกครั้งที่เจอ มือเล็กแตะบนไหล่กว้างก่อนเอ่ยบ่นถึงว่าช่วงนี้โอเซฮุนไม่ได้ติดต่อไปหา
“ช่วงนี้พี่งานยุ่งเราก็รู้”
“ค่าค่า คุณมาเฟียสุดฮอตก็แบบนี้”
“เดี๋ยวเถอะ...” มาเฟียหนุ่มทำท่าจะเขกศีรษะเล็กของคุณหมอคนสวยไปหนึ่งที และนั่นทำให้เรียกเสียงหัวเราะคิกคักของหญิงสาว
“อ้าว สวัสดีจ้ะลู่หาน เป็นยังไงบ้างอยู่ที่นี่โอเคดีไหม”
“สวัสดีครับคุณหมอจื่อวี ทุกอย่างโอเคครับ”
“พี่เซฮุนไม่ได้แกล้งอะไรน้องใช่ไหม”
คุณหมอสาวหันมามองทางมาเฟียของพ่อบ้านหานเกิงอย่างจับผิด ก่อนจะมองไปทางร่างเล็กของอดีตคนไข้ของเธอสวมชุดกี่เพ้าที่บ่งบอกถึงสถานะว่าเป็นคู่นอนของโอเซฮุน แม้มาเฟียหนุ่มไม่เคยบอกแต่เธอก็เคยขยั้นคะยอถามพี่ชายของเธอ เมื่อในครั้งแรกที่เห็นหญิงสาวใส่ชุดกี่เพ้าเดินอยู่ในบ้าน
แต่ในทุกครั้งเซฮุนจะตอบเธอว่าเป็นเพียงคนรับใช้ในบ้านเท่านั้น แต่เธอก็รู้ดี
“เห็นพี่เป็นคนยังไงกัน”
“คนนี้พี่อี้เอินหวงน่าดูนะคะพี่เซฮุน” คำพูดจากริมฝีปากเคลือบลิปสติกกรอสทำให้รอยยิ้มของมาเฟียหนุ่มยกยิ้มเพียงบางเบาก่อนเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉย มือใหญ่เอื้อมรั้งหญิงสาวให้เข้ามาใกล้
“แล้วยังไงกัน นี่เรามาหาพี่ทำไมแต่เช้า”
“คุณพ่อให้มาชวนพี่เซฮุนไปงานเลี้ยงปิดไตรมาสที่บ้านน่ะค่ะ ลู่หานด้วยนะพี่อี้เอินอยากเจอ คิดถึงจะแย่” จื่อวียิ้มจนตาปิดใส่ร่างเล็กพอกัน ดวงตากลมโตนั่นช้อนมองด้วยท่าทางที่แสนน่ารัก และเพราะแบบนี้พี่ชายเธอถึงตกม้าตายสินะ ท่าทางบริสุทธิ์นั่นแสนน่าเอ็นดูโดยเฉพาะริ้วแก้มแดงเมื่อเธอบอกย้ำอีกครั้งว่าพี่ชายของเธอคิดถึงมากแค่ไหน
“อ่า...จริงหรือครับ”
“ทานข้าวกันเถอะหน่า ลู่หานลุกไปอีกฝั่งสิให้จื่อวีนั่ง”
ท่าทางที่แปรเปลี่ยนของมาเฟียหนุ่มทำให้คนตัวเล็กทั้งสองหันมองอย่างไม่เข้าใจ จื่อวีเอ่ยขัดพลางบอกให้ลู่หานนั่งลงที่เดิม แต่สายตาที่เหมือนขับไล่ที่ส่งมาจากโอเซฮุนทำให้ ลู่หานต้องรีบยกชามข้าวต้มร้อนนั้นจนกระเด็นเปรอะมือลวกเนื้อนิ่มให้เป็นสีแดงจางแม้จะรู้สึกแสบแต่ลู่หานกลับยกรอยยิ้มหวานใส่คุณหมอแสนสวย
“เชิญนั่งเถอะครับ นั่นที่ของคุณ”
50 %
รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวเงียบเฉียบท่ามกลางถนนสายยาว ภายในห้องโดยสารมีเพียงเสียงแอร์คอนดิชั่นเนอร์ทำงานปราศจากไร้ซึ่งบทสนทนา ลู่หานเหลือบมองเสี้ยวใบหน้าด้านข้างของคนที่นั่งอยู่ข้างกาย วันนี้คุณโอเซฮุนอยู่ในชุดสูทผ้าเนื้อดี ไหล่แสนกำยำทำให้กายร่างสูงใหญ่นั้นน่าเผลอมองโดยเฉพาะทรงผมที่เซตอย่างดีเผยใบหน้าคม
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลา ยังคงขมวดคิ้วเข้มจนแทบจะชิดกันจดจ่ออยู่เพียงเอกสารบนตัก ตั้งแต่ที่ลู่หานถูกคุณเฉินจับจูงให้ขึ้นรถคันนี้ทันทีที่จอดลงแวะรับเขาในช่วงค่ำเพื่อไปงานเลี้ยงที่คุณหมอจื่อวีเอ่ยชวน
เหลือบมองผ้าสีขาวที่พันรอบมือด้านซ้าย พร้อมความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ลู่หานรับรู้ได้ถึงสถานะของตนเองชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“เป็นยังไงบ้าง”
“ครับ?”
เจ้าของใบหน้าหวานหันไปมองเจ้าของเสียงทุ้ม มาเฟียหนุ่มถอดแว่นสายตาไว้บนตักก่อนเอื้อมไปหยิบข้อมือเล็กที่แม้จะถูกแรงยื้อยึดในคราแรก แต่เมื่อดวงตาคมมองดุ ร่างเล็กที่แสนดื้อดึงจึงยอมให้มือของตนวางบนอุ้งมือใหญ่
“มือของเธอน่ะ” ดวงตากลมโตมองตามมือใหญ่ที่จับมือของตนเองพลิกไปมา เซฮุนตั้งใจจะดูแผลให้กับคนตัวเล็กที่ลูกน้องคนสนิทกระซิบบอกในตอนที่เขาออกมาทำงาน แต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นขัด ทำให้มือใหญ่ปล่อยมือเล็กไว้ที่เดิมพร้อมหยิบโทรศัพท์เครื่องบางขึ้นกดรับ เมื่อเห็นว่าหน้าจอเป็นรายชื่อของใครบางคน
“พี่ออกมาแล้วครับ”
“…”
“...อืม ถึงหน้าประตูรั้วบ้านเราแล้วล่ะ”
ลู่หานช้อนสายตามองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังแย้มยิ้มพร้อมตอบรับเสียงของคนในสาย มือน้อยค่อยยกมือตนเองกลับไว้ที่ตักเช่นเดิม พลางนึกสงสัยว่าความรู้สึกในอกนั้นคืออะไร แต่ลู่หานก็ไม่คิดจะหาคำตอบ
มืออีกข้างที่ไร้ซึ่งบาดแผลกำเสื้อตรงอกด้านซ้ายอย่างไม่เข้าใจ
...หรือลู่หานจะมีแผลที่ตรงนี้กันนะ
ก่อนบานประตูฝั่งมาเฟียซิซิเลี่ยนจะเปิดออกเมื่อรถจอดนิ่งสนิท พร้อมกันกับบานประตูฝั่งลู่หานเปิดออกเช่นกัน ร่างสูงใหญ่ของพี่หมอที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะแปรเปลี่ยนทันทีที่เห็นใบหน้าหวานที่ตนคิดถึง
“เราร้องไห้ทำไม”
ทันทีที่คุณหมอหนุ่มเอ่ยทักลู่หานยกมือขึ้นแตะบนแก้มที่มีน้ำใสเปื้อนอยู่ ก่อนมือใหญ่แสนอุ่นจะเกลี่ยเช็ดน้ำตาพร้อมสายตาที่ส่งมาด้วยความเป็นห่วง ท่าที่แสนเป็นกังวลของพี่ชายที่แสนดีทำให้ลู่หานต้องยิ้มกว้างก่อนเอ่ยให้คนตรงหน้าสบายใจ
เมื่อลู่หานก็ไม่เข้าใจตนเองเช่นกันว่าหยดน้ำตานี้มาจากไหน
“ดีใจที่จะเจอพี่หมอมากไปหน่อยมั้งครับ”
“อ่า...ไม่ได้ถูกแกล้งใช่ไหม” คุณหมอหนุ่มที่รู้สึกประหม่าจนต้องเอามือไปลูบท้ายทอยเพราะเจอรอยยิ้มหวานจากคนน่ารักตรงหน้า แต่ก็ไม่วายซักถามเพราะรู้สึกกังวล
“จะคุยกันบนรถอีกนานไหมสองคนนั้น!”
น้ำเสียงทุ้มที่ตะโกนลั่นจากฝั่งตรงข้ามทำให้ลู่หานถูกมือใหญ่ของคุณหมอจับจูงให้ออกมาจากรถ แน่นอนว่าคนตัวเล็กไม่ลืมที่จะแอบมือที่พันผ้าพันแผลไว้ด้านหลังเพราะกลัวว่าพี่ชายคนนี้จะห่วงอีกเช่นกัน
“แล้วมันทำไมล่ะวะ!”
อี้เอินตะโกนตอบกลับพลางยักคิ้วใส่เพื่อนสนิทที่ตอนนี้แขนถูกจับจองด้วยยัยน้องสาวตัวแสบที่ยืนยิ้มแป้น ปากก็บอกไม่คิดอะไรแต่สิ่งที่เห็นในสายตากับการกระทำของน้องสาวกับเพื่อนเขาทำให้อดคิดไม่ได้
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาก็ยินดี แม้จะรู้สึกหวงน้องสาวไม่ใช่น้อย แต่โอเซฮุนก็ไม่ใช่คนเลวร้ายแม้เพื่อนเขาจะเคยร้าย แต่นั่นเพราะสิ่งรอบกายที่หล่อรวมเซฮุนให้เป็นแบบนั้น
“รีบเข้างานเถอะค่ะ คุณพ่อรออยู่”
“อืม”
เสียงของคุณมาเฟียและคุณหมอเอ่ยตอบรับหญิงสาวเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่ตรงนั้น ก่อนแขนเล็กจะถูกจับมาเกี่ยวไว้ที่ท่อนแขนแกร่ง และนั่นทำให้ลู่หานหยุดชะงัก ก่อนยื้อเอาไว้พลางช้อนสายตามองคุณหมอหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ
“เกี่ยวเอาไว้เหมือนสองคนนั้น เราได้ไม่หลงไง”
ลู่หานพยักหน้าเข้าใจก่อนยอมให้มือของตนเกี่ยวบนท่อนแขนคุณหมออย่างว่าง่าย พร้อมมองไปยังชายหญิงต้นแบบท่าทางนั้น และนั่นทำให้ดวงตากลมโตมองสบกับดวงตาคมที่มองมาด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก ท่าทางไม่ต่างจากในคืนนั้นที่ลู่หานถูกปีศาจในตัวโอเซฮุนรังแก
สายตาของโอเซฮุนน่ากลัวเกินไป ทำให้มือเล็กปล่อยจากท่อนแขนหนาเปลี่ยนมาอยู่ข้างตัวเช่นเดิม และนั่นทำให้มาเฟียซิซิเลี่ยนยกรอยยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจโดยที่ไม่มีใครเห็น
“เดินข้างกันดีกว่าครับ ผมเป็นผู้ชายคงจะไม่เหมาะ”
“อ่าแบบนั้นก็ได้” อี้เอินยอมรับว่ารู้สึกเสียดาย แต่คนตัวโตก็อ้างเหตุผลว่าลู่หานจะหลงเพราะคนในงานไม่ใช่น้อย คนตัวเล็กเลยเลือกที่จะเกาะชายเสื้อเขาไว้พร้อมช้อนตามองแล้วกระพริบตาปริบ
“...แค่นี้ก็ไม่หลงแล้วครับ” พร้อมรอยยิ้มที่อี้เอินจะทำอะไรได้นอกจากตามใจน้อง
และน้ำเสียงเร่งของมาเฟียหนุ่มเพื่อนสนิทที่ดังขึ้นมาอีกครั้งทำให้คุณหมอหนุ่มที่วันนี้อยู่ในชุดสูทสีเทาเข้มพร้อมผมที่เซตตั้งขึ้นเผยซึ่งใบหน้าหล่อเหลา ยอมเดินตามเข้าไปในงาน พร้อมมีร่างเล็กที่วันนี้ถูกจับแต่งตัวด้วยชุดเสื้อเชิ้ตสีครีมที่ผูกด้วยโบว์กระต่ายสีแดงที่ดูเข้ากันและน่าเอ็นดูไม่ใช่น้อย
สี่ร่างต่างเดินเข้าไปในงานเลี้ยงฉลองไตรมาสบริษัทขายยาและเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ติดหนึ่งในห้าบริษัทที่มีอำนาจมากที่สุดในเกาะฮ่องกง แขกเหรื่อที่อยู่เต็มลานจัดงานทำให้ลู่หานเผลอกำชายเสื้อของคุณหมอหนุ่มแน่นขึ้น
และนั่นทำให้อี้เอิ้นเปลี่ยนมาจับมือเล็กไว้หลวมๆแทน พร้อมข้ออ้างที่กลัวคนตัวเล็กหลงถูกหยิบมาใช้อีกครั้ง และเพราะจำนวนคนที่ลู่หานได้เห็นทำให้ยอมเชื่ออย่างง่ายดาย
“เห็นผู้ชายที่ใส่สูทสีขาวที่ยืนตรงนั้นไหม คุณพ่อพี่เองล่ะ”
ลู่หานพยักหน้ารับพลางมองไปตามมือที่ผายให้เห็นชายสูงวัยที่ดูภูมิฐาน แล้วก้าวเดินเข้าไปใกล้ตามแรงจูง โดยมีมาเฟียซิซิเลี่ยนพร้อมคุณหมอสาวมาถึงและทักทายก่อนแล้ว ลู่หานหยุดยืนพร้อมยกรอยยิ้มและโค้งทักทาย
“นี่เด็กที่เราเล่าให้พ่อฟังใช่ไหม”
“สวัสดีครับ”
ลู่หานโค้งทำความเคารพชายสูงวัยตรงหน้า ใบหน้าที่กร้านตามวัยนั้นแสนใจดี และนั้นทำให้ลู่หานต้องจับขมับเมื่อภาพตรงหน้าถูกซ้อนทับด้วยบางภาพที่เลือนราง ท่าทางที่แปลกไปทำให้อี้เอินรีบแตะแผ่นหลังเล็กแต่ไวน้อยกว่ามือของมาเฟียซิซิเลี่ยนที่เอื้อมมาประคองร่างเล็กทันที
“เกิดอะไรขึ้น / ลู่หาน!”
เจ้าของร่างเล็กที่โงนเงนพร้อมใบหน้าหวานที่ขมวดลงด้วยท่าทางที่แสนไม่สบายนั่นทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง ลู่หานซุกใบหน้าบนแผ่นอกกว้างของมาเฟียหนุ่มก่อนจะกระพริบตาไล่ภาพซ้อนทับที่มาพร้อมแสงสว่างจ้าจนลืมตาขึ้นไม่ได้
“รีบพาน้องขึ้นไปด้านบนก่อนเถอะ” น้ำเสียงมีอำนาจของประมุขของงานทำให้โอเซฮุนตวัดกายเล็กที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงแนบอกทันที พร้อมเดินไปตามทางที่เพื่อนสนิทบอก ท่อนขายาวรีบก้าวเดินพร้อมความรู้สึกเป็นกังวล
“ฉันเตรียมยาไว้แล้วยังไงรีบพาน้องนอนลงตรงนี้”
คุณหมอหนุ่มเปิดห้องที่ชั้นสองของบ้านออกคำสั่งให้โอเซฮุนวางกายเล็กไว้บนเตียงพร้อมค้นหายาที่ตนเองเพิ่งวิจัยว่าสามารถช่วยคนไข้ของตนได้ในกล่องยาที่จื่อวีรีบวิ่งไปหยิบมาให้ ก่อนจะรีบสวมถุงมือแล้วเตรียมชุดเข็มพร้อมดูดยาเตรียมฉีดทันที
“ยานี่ใช่ไหมที่แกบอกฉัน”
“อืม” ตอบรับเพียงแค่นั้นก่อนคุณหมอหนุ่มจะเอาสายรัดแขนเจ้าของใบหน้าน่ารักที่บิดตัวใบหน้าเหยเกด้วยท่าทางที่ดูทรมาน เช็ดแอลกอฮอลบนเนื้อนิ่มก่อนแทงเข็มเข้าสู่เส้นเลือด รอจนเกือบนาทียาจึงออกฤทธิ์ทำให้ลู่หานลืมตาขึ้นได้ตามเดิม
“เกิดอะไรขึ้น” โอเซฮุนเอ่ยถาม
“Side effect ผลข้างเคียงจากตัวยาเมื่อมีสิ่งกระตุ้น”
มาเฟียหนุ่มนั่งขอบเตียงนอนข้างร่างบางมือใหญ่เกลี่ยปรอยผมที่ชื้นเหงื่อไว้ทัดข้างหูเล็ก ท่าทางที่แสนอ่อนโยนนั่นตกอยู่ในสายตาของทุกคน และเมื่อโอเซฮุนได้มองสบกับดวงตากลมที่ช้อนด้วยน้ำใสด้วยท่าทีแสนน่าสงสารสะกิดความรู้สึกบางอย่าง
มาเฟียหนุ่มหยุดชะงักก่อนยืดตัวเต็มความสูงทันที
“นายคงจัดการได้อยู่แล้วสินะไอ้หมอ”
“…”
“งั้นฉันลงไปข้างล่าง จื่อวีไปกันเถอะ ป่านนี้นักข่าว แขกเหรื่อและคุณพ่อคงตกใจแย่ฉันจะลงไปรับมือก่อน” มาเฟียหนุ่มพูดรัวเร็ว พลางถอยหลังไกลจากร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียง กักเก็บความรู้สึกต้องห้ามบางอย่างให้ฝังลึกก่อนหันหลังเดินออกจากห้องไปด้วยความสับสน โดยมีจื่อวีวิ่งตามลงไป
“พี่เซฮุนคะ...”
ประตูปิดลงเรียกสติคุณหมอหนุ่มที่เผลอแปลกใจกับท่าทีของเพื่อนสนิท ต้วนอี้เอินขยับตัวเข้าไปใกล้กายเล็กส่งรอยยิ้มให้คนไข้ในความดูแลที่ตอนนี้ใบหน้ากลับมีสีเลือดเหมือนอย่างในปกติ มือใหญ่ซับเหงื่อข้างขมับ
“เป็นยังไงบ้าง”
“หายปวดหัวแล้วครับ เมื่อตะกี้เหมือนมีอะไรมาบีบหัวผมอย่างแรงเลย”
ลู่หานค่อยๆยกตัวขึ้นนั่งโดยมีหมอหนุ่มคอยช่วยพยูง คนตัวเล็กรู้สึกปกติต่างจากในตอนนั้น เหมือนดวงตาเขาไม่สามารถลืมขึ้นมาได้เพราะมีภาพบางอย่างซ้อนทับกับความเป็นจริง และนั่นคือสิ่งที่เอ่ยบอกคุณหมอที่คอยดูแล
“มันเป็นผลข้างเคียง...จากยานั่น พี่พยายาม พยายามแล้ว แต่ยังหาสารทั้งหมดจากตัวยาที่แท้จริงไม่ได้ ...ขอโทษนะตัวเล็ก” อี้เอินไม่เคยรู้สึกว่าความรู้ที่มีด้อยค่ามาก่อน จนในวันนี้ที่เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากประคับประคองอาการของลู่หานไว้
“ไม่เป็นอะไรเลยครับ” ลู่หานลูบหลังมือคนที่จับประคองมือของตนเองไว้อย่างเข้าใจ
“มือ...นี่เราไปโดนอะไรมา”
“อ่า...คือแค่แผลน้ำร้อนลวกน่ะครับ”
คุณหมอต้วนพลิกมือเล็กในฝ่ามือไปมาเพื่อสำรวจแผลหลังจากแกะผ้าสีขาวที่พันไว้ออก รอยแดงปื้นที่เห็นตรงหลังมือตัดกับผิวกายขาวจนคุณหมอหนุ่มอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วหยิบเอาหลอดยาที่วางในกล่องเครื่องมือนวดทามือเล็ก
“ระวังหน่อยสิครับ รอยแดงพวกนี้ไม่เหมาะกับเราหรอกนะ”
“ครับ...” ลู่หานอดไม่ได้ที่จะพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มแม้ความรู้สึกบางอย่างในใจที่แสนแปลกประหลาดนั่นจะทำให้รอยยิ้มที่ว่ากลายเป็นรอยยิ้มฝืนไปในบางที เกือบนาทีที่อี้เอินนวดจนยาซึมผ่าน ร่างสูงจึงขยับตัวหยิบอุปกรณ์ตรวจร่างกายออกมาจากกล่อง
“พี่ว่าจะตรวจร่างกายเราอย่างละเอียดหน่อย”
มือใหญ่หยิบปรอทเพื่อวัดไข้ร่างเล็ก พร้อมใช้มือวัดชีพจรเพื่อดูจังหวะการเต้นหัวใจ ตัวเลขที่นับได้ในใจที่อยู่ในค่าปกติทำให้คุณหมอหนุ่มโล่งใจในระดับหนึ่ง ก่อนจะหยิบหูฟังคล้องคอพร้อมขออนุญาตเพื่อเปิดเสื้อคนไข้ตัวเล็กและนั่นทำให้ลู่หานเบิกตาโตพลางกำคอเสื้อไว้แน่นเพราะกลัว
กลัวว่าร่องรอยบางอย่างจะปรากฏให้ต้วนอี้เอินให้เห็น
“ไม่เปิด...ไม่ได้เหรอครับ” ดวงตากลมโตที่ฉายแววอ้อนทำให้คุณหมอต้วนลังเล แต่เพราะประสิทธิภาพที่จะสามารถฟังเสียงในช่วงอกได้ชัดเจนทำให้ร่างสูงต้องใจแข็ง แม้แพ้ไปแล้วเกือบครึ่งกับท่าทางแสนอ้อนของร่างเล็ก
“ไม่ได้ครับ”
“พี่หมอ...ครับ”
อี้เอินทำใจแข็งสุดฤทธิ์ทำหน้าบึ้งใส่อีกอย่างบ่งบอกว่าคุณหมอคนนี้ไม่ได้ใจดีอย่างในตอนแรก สุดท้ายโบว์กระต่ายสีแดงก็มาอยู่ในมือก่อนเสื้อเชิ้ตกระดุมเม็ดบนจะหลุดออกจากกันและตามด้วยเม็ดถัดมา
ผิวกายขาวสะอาดช่วงไหล่แคบทำให้ต้วนอี้เอินเผลอกลืนน้ำลาย ก่อนคุณหมอหนุ่มจะเรียกสติตัวเองสวมหูฟังเสียงสะท้อนก่อนแหวกผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาว และนั่นทำให้มือใหญ่หยุดชะงักเมื่อสายตาไปพบกับรอยสีแดงช้ำที่ตรงไหล่แสนบอบบาง
อี้เอินตัวแข็งทื่อพร้อมข่มอารมณ์และความรู้สึก แต่ใบหน้าหวานที่เปรอะด้วยหยาดน้ำตาในตอนแรกที่พบกันทำให้เรื่องราวทุกอย่างประติดประต่อได้แจ่มชัด
“เพราะแบบนี้ใช่ไหมเราถึงร้องไห้” เอ่ยถามและขบสันกรามเพื่อข่มความโกรธ
แต่ทุกอย่างก็พังทลายลงเมื่อเจ้าของใบหน้าน่ารักที่ขโมยหัวใจคุณหมอหนุ่มไปในตั้งแต่ในตอนแรกพยักหน้าลงเพื่อยอมรับ และนั่นทำให้ร่างสูงยืดตัวตรงแล้วกระชากหูฟังโยนทิ้งไปกับพื้นเมื่อความรู้สึกในใจนั้นร้อนเป็นไฟ
ขายาวก้าวเดินจนไม่ต่างจากวิ่ง ผ่านบันไดวนกลางคฤหาสน์พร้อมมือที่กำหมัดแน่น คล้ายภูเขาไฟลูกใหญ่ที่พร้อมจะระเบิดประทุ ดวงตาคมมองกวาดหาร่างของเพื่อนสนิทที่ทำให้เกิดรอยช้ำที่ไม่น่าอภัยบนผิวกายเล็ก
จนถึงกลางลานจัดงานที่เต็มด้วยแขกเหรื่อ ใบหน้าเพื่อนสนิทที่วันนี้ต้วนอี้เอินรู้สึกโกรธเกลียดขึ้นจับใจ ท่าทางที่กำลังหัวเราะอย่างไม่ทุกข์ร้อนทำให้คุณหมอหนุ่มที่ใจเย็นอยู่เสมอพุ่งตัวพร้อมหมัดที่กำแน่นกระแทกหน้าจนกายร่างสูงใหญ่ของมาเฟียซิซิเลี่ยนที่ไม่ทันตั้งตัวล้มลง
พลั่ก !
เสียงหวีดร้องดังลั่นเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ลูกน้องของเหล่ามาเฟียจะเข้ามาใกล้แต่โอเซฮุนกลับยกมือห้ามไว้ คอเสื้อถูกมือของเพื่อนสนิทกระชากด้วยท่าทีโกรธจัด ก่อนทุกอย่างจะเฉลยเมื่ออี้เอินกระซิบลอดผ่านรอยฟัน
“เซฮุน...มึงทำอะไร กับลู่หาน”
“หึ มึงคิดว่ากูทำอะไรล่ะ” โอเซฮุนยกรอยยิ้มร้ายก่อนตอบกลับด้วยท่าทียียวน
อี้เอินกระชากคอเสื้อมาเฟียหนุ่มด้วยความโกรธจัดร่องรอยที่เห็นบ่งบอกถึงสิ่งที่โอเซฮุนได้กระทำเป็นอย่างดี และนั่นทำให้หมอต้วนรู้สึกผิดหวังทั้งที่ไว้ใจให้ดูแลคนที่ตนทะนุถนอม ความรู้สึกที่ปนเปทำให้ไม่ฟังแม้เสียงร้องห้ามของผู้เป็นพ่อหรือน้องสาว
ไม่สนใจเสียงแฟรชจากหลายสำนักข่าวที่ถ่ายภาพเก็บเอาไว้ ตอนนี้ต้วนอี้เอินไม่สนใจแม้ตนเองและเพื่อนจะกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ในวันพรุ่งนี้เช้า
“ถ้ามึงดูแลไม่ได้ ก็อย่ารับปากสิวะ!”
“ก็เด็กมันยั่วซะขนาดนั้น ใครจะไปทนได้
และอย่าลืมอี้เอิน เด็กนั่นเป็นของกูโดยชอบธรรม”
“ไอ้เหี้ยเซฮุน!!” เส้นความอดทนทั้งหมดที่มีของต้วนอี้เอินหมดลงในวินาทีนั้นหมัดที่กำแน่นปล่อยไม่ยั้งบนใบหน้าคมจนเลือดกลบปาก ก่อนจะถูกจับแยกด้วยลูกน้องของมาเฟียซิซิเลี่ยนและคนของผู้เป็นพ่อ
อี้เอินสะบัดตัวออกจากการจับกุมก่อนการตัดสินใจบางอย่างว่าคนแบบโอเซฮุนไม่ควรจะได้ดูแลลู่หานอีกต่อไป
หลังจากคุณหมอคนสวยทำแผลมุมปากให้มาเฟียซิซิเลี่ยนเสร็จ รถยนต์ส่วนตัวของผู้เป็นพี่ชายก็สตาร์ทเครื่องและออกจากบ้านไปด้วยความรวดเร็ว และพี่เซฮุนก็มานั่งดื่มแบบนี้
“พอก่อนดีไหมคะ”
แก้วน้ำสีอำพันแก้วที่ห้าถูกห้ามด้วยมือเรียวสวยของคุณหมอจื่อวี โอเซฮุนยกรอยยิ้มมุมปากก่อนเลือกที่จะกระดกแอลกอฮอล์รสชาติดีนั่นเข้าปากอย่างที่ไม่มีใครห้ามอยู่ ตอนนี้ร่างของมาเฟียซิซิเลี่ยนนั่งในห้องรับแขกกลางคฤหาสน์ตระกูลต้วน แขกเหรื่อในงานทยอยกลับทันทีที่เกิดเรื่อง นายท่านต้วนประมุขของบ้านสามารถจัดการทุกอย่างไว้ได้
และท่านไม่โกรธที่พี่ชายสุดที่รักของเธอก่อเรื่องแบบนั้น
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันคะ บอกฉันได้ไหม”
จื่อวีเก็บแก้วเจียระไนใสให้ไกลห่างจากมือใหญ่ เธอรู้ดีว่าพี่ชายคนนี้คอแข็งอย่างกับอะไรดี ไม่ได้ห่วงว่าโอเซฮุนจะเมา แต่เธอห่วงว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่ชายที่สนิทกันมากขนาดนี้มีเรื่องผิดใจอะไรกัน
“เรื่องของผู้ใหญ่ค่ะ”
“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ” จื่อวีไม่มีทางหลงกลรอยยิ้มของคนตรงหน้า แต่โอเซฮุนก็ตัดความหวังโดยการยืดตัวเต็มความสูงพร้อมกับยีผมของเธอเหมือนอย่างในทุกครั้ง
“ฝากขอโทษคุณพ่อเราด้วย และไม่ต้องห่วงพี่จะไปเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นเอง”
“พี่เซฮุน…”
จื่อวีพยายามร้องเรียกแต่เจ้าของแผ่นหลังกำยำก็เพียงโบกมือว่าไม่เป็นไร ก่อนรีบเดินไปยังรถสปอร์ตคันหรูที่มีเพียงไม่กี่คันบนโลก จอดรอไว้ตั้งแต่สั่งลูกน้องคนสนิทให้เตรียมไว้ให้ ร่างสูงแสนดูดีนั้นก้าวขึ้นนั่งบนเบาะพร้อมใบหน้าที่เคยยกยิ้มเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉย
‘คนของเราเพิ่งรายงานว่าคุณอี้เอินไม่ได้ออกไปคนเดียวครับ’
“หมายความว่ายังไง!!”
‘คุณลู่หานไปกับคุณอี้เอินด้วยครับ’
เซฮุนเหยียบเร่งเครื่องเมื่อออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลต้วน มาเฟียหนุ่มกำพวงมาลัยแน่นตัดสินใจว่าจะไม่สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คำพูดที่เฉินรายงานเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า กับดังแว่วขึ้นมาอีกครั้งทำให้รถสปอร์ตที่เคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูงหักหมุนเปลี่ยนทิศทางทันทีจนล้อบดเบียดถนนจนเกิดประกายไฟ
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ส่งแผนที่มา และไม่ต้องให้ใครตามฉัน”
‘คุณเซฮุนครับ...ผมเกรงว่า..’
มือใหญ่หยิบเอียร์โฟนที่ใส่หูเป็นประจำเพื่อติดต่อกับลูกน้องคนสนิททิ้งทันทีที่แผนที่ตำแหน่งของเพื่อนสนิทปรากฏในเนวิเกเตอร์ที่คอนโซลด้านหน้าของตัวรถ และนั่นทำให้เท้าเหยียบคันเร่งเพื่อเร่งเครื่องให้เต็มประสิทธิภาพเพราะหัวใจที่ร้อนรุ่มในวินาทีที่รู้ว่าคนของตนเองไม่ได้อยู่ใกล้
โอเซฮุนแค่สรุปเอาเองในใจว่าลู่หานเป็นเพียงของเล่นชิ้นใหม่
และตอนนี้ที่เขาเป็นคืออาการที่แค่หวงของเท่านั้น
100 %
#มาเฟียขย้ำแบค
ทีมมาเฟีย หรือ ทีมหมอ
คอมเม้นและติดแท๊ก #มาเฟียขย้ำกวาง มาเลย
J
หรือใครจะทีมมาสเตอร์ก็ได้นะ
ปล.จากนี้จะเข้มข้นขึ้นแล้วแบบไม่ให้ได้หายใจหายคอ รัก<3
@master_yp
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ทีมพี่หมอค่ะ