ตอนที่ 18 : | 17 | fret | 100%
Naked Prisoner
17
แบคฮยอนเดินไปตามทางเดินที่เรียงเป็นท่อนไม้สลับกับผืนหญ้าสีเขียวเพื่อเดินไปยังสวนหลังคฤหาสถน์ที่มาเรียนัดให้ไปหา หลังจากแม่บ้านใหญ่เข้ามาปลุกด้วยการเปิดผ้าม่านทุกผืนจนแสงแดดส่องจ้าให้แบคฮยอนไม่มีโอกาสได้นอนหลับอีกต่อไป
ทั้งที่เมื่อคืนถูกมาเฟียใหญ่รังแกจนแทบไม่ได้นอน แต่เช้านี้กลับต้องตื่นมาฝึกการเป็นเลดี้ที่ดีของซิซิเลี่ยน
คนตัวเล็กได้แต่เบะปากคว่ำพร้อมดวงตาเรียวที่ปรือลงเพราะคิดถึงที่นอนมากกว่าสิ่งใดร่างเล็กที่เดินโงนเงนอยู่ด้านหน้าเดือดร้อนให้บอดี้การ์ดอย่างเคนและยูตะต้องช่วยกันดูมากกว่าเดิมเพราะกลัวว่าคนสำคัญของนายท่านใหญ่แห่งซิซิเลี่ยนจะสะดุดล้มลงไปกองกับพื้น
“แบคฮยอน!”
เสียงเรียกพร้อมร่างเล็กพอกันที่โบกมือกวักเรียก ทำให้แบคฮยอนยอมลืมตาตื่น ลู่หานนั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวที่ด้านหน้ามีกองดอกไม้หลากหลายสีสันวางอยู่ และด้านข้างนั้นมีแม่บ้านใหญ่ที่หยิบจับดอกไม้เหล่านั้นให้เป็นระเบียบ
“ง่วงจะตายอยู่แล้ว”
ลู่หานยิ้มขำกับว่าที่เลดี้ปาร์คที่ทิ้งตัวนั่งลงข้างกันแล้วพิงใบหน้ามาซุกอยู่ที่ไหล่ บีบแก้มกลมของคนที่ทำหน้าง่วงจัดด้วยความเอ็นดู แต่แค่เพียงไม่นานน้ำเสียงนิ่งของแม่บ้านใหญ่ก็ทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกันแล้วนั่งหลังตรง
“วันนี้คุณทั้งสองต้องหัดจัดดอกไม้กัน”
“อะไรนะ?”
การจัดดอกไม้สำหรับตัวลู่หานไม่ใช่เรื่องเดือดร้อนสักเท่าไหร่ แต่ดูท่าจะเป็นปัญหาหนักสักหน่อยกับเจ้าของดวงตาเรียวที่กำลังเบิกโต แบคฮยอนมองตามแม่บ้านใหญ่ที่กำลังริดหนามแหลมคมของกุหลาบขาวดอกโตอย่างไม่เข้าใจ การเป็นเลดี้เกี่ยวอะไรกับการจัดดอกไม้ในเมื่อนี่เป็นงานสำหรับหญิงสาวไม่ใช่หรือยังไง
“สงสัยอะไรอย่างนั้นหรือคุณว่าที่เลดี้ปาร์ค” น้ำเสียงนิ่งที่ดูเข้มงวดกว่าทุกทีของมาเรียทำให้แบคฮยอนต้องเผลอกลืนน้ำลายก่อนเอ่ยถามออกไป
“งานจัดดอกไม้พวกนี้เป็นของพวกผู้หญิงไม่ใช่เหรอครับ”
“ใครกำหนดกัน”
“…”
“ไม่ใช่ว่าเป็นงานผู้หญิง แล้วคุณทำแล้วไม่เหมาะ แต่เพราะการจัดดอกไม้จะทำให้หัวใจคุณละเอียดมากยิ่งขึ้น การรู้จักถนอมและอ่อนโยนเพื่อไม่ให้กลีบดอกไม้ช้ำ นั่นคือสิ่งที่คุณต้องเรียนรู้”
ดวงตาเรียวมองตามมือที่แม้ดูเหี่ยวย่นไปตามวัย แต่กลับคล่องแคล่วในการหยิบจับดอกไม้แต่ละดอกใส่ลงในแจกัน แม้ดูรวดเร็วแต่กลับแผ่วเบาจนดอกไม้หลากสีสันที่มาเรียหยิบมานั้นไม่บอบช้ำและยังคงสวยงามเช่นเดิม
“มาเฟียซิซิเลี่ยนจำเป็นต้องมีเลดี้ คุณทั้งสองคนทราบดีใช่ไหมคะ เพราะความอ่อนโยนและละเอียดอ่อนของเลดี้จะช่วยเติมเต็มให้แก่ซิซิเลี่ยน”
“….”
มือเรียวตัดสินใจหยิบกุหลาบขาวดอกโตที่ยังคงมีหยดน้ำเกาะอยู่ที่กลีบดอกสีอ่อนสะท้อนกับแสงแดดให้ดูน่ามอง แบคฮยอนมองดอกไม้ในมือพร้อมกับหัวใจที่กำลังเปิดรับในสิ่งที่แม่บ้านใหญ่แห่งซิซิเลี่ยนเอ่ยบอก
เลดี้แห่งซิซิเลี่ยนไม่ใช่เพียงแค่คนที่ยืนอยู่ข้างกายของมาเฟียซิซิเลี่ยน แต่เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญมากกว่านั้น
“มาเรีย...ผมจะเป็นเลดี้ที่ดีของซิซิเลี่ยนได้หรือครับ”
แม่บ้านใหญ่เพียงส่งรอยยิ้มเอ็นดูให้กับเด็กน้อยที่มีแววตาแห่งความไม่มั่นใจตรงหน้า มือของเธอเอื้อมไปจับมือเรียวที่จับอยู่ที่ก้านกุหลาบ บีบกระชับเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ แม้ไม่ได้เจอกันมาทั้งชีวิต แต่ทุกสิ่งและความรู้สึกที่มาเรียสัมผัสได้จากว่าที่เลดี้คนนี้ก็คือหัวใจที่ทั้งเข้มแข็งและอ่อนโยน
“คุณชานยอลเลือกคุณแล้ว มั่นใจหน่อยสิค่ะ”
“…”
“แต่ถ้าความรู้สึกฉัน ความอ่อนโยนที่ดิฉันได้สัมผัสฉันเชื่อว่าแบบนั้นค่ะ คุณจะเป็นเลดี้ที่ดีของซิซิเลี่ยนได้ แม้ว่าบางครั้งคุณจะดื้อและซนจนน่าตีไปหน่อยก็ตาม”
“โธ่มาเรีย ผมไม่ได้ดื้อสักหน่อยเลยนะ”
พูดจบเจ้าของใบหน้าน่ารักก็ส่งรอยยิ้มเผล่ให้คนมองต้องเผลอเอ็นดู มาเรียเริ่มต้นสอนการจัดดอกไม้ให้แก่ว่าที่เลดี้ทั้งสองของซิซิเลี่ยน และได้แต่หวังไว้ภายในใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ยุ่งวุ่นวายอะไรเกิดขึ้นจากนี้อีก
ปัง ปัง ปัง !
เสียงปืนดังรัวจากปากกระบอกปืนที่เจ้าของมือเรียวถืออยู่ แบคฮยอนมองภาพจำลองหุ่นกระดาษที่ขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะกระดาษที่ว่ายังคงปราศจากรอยไม่ต่างจากในตอนแรก
หลังจากที่มาเรียสอนให้เขารู้จักความอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น ตอนบ่ายเป็นการฝึกการยิงปืนขั้นพื้นฐานที่สอนอย่างละเอียดของยูตะ แม้ตอนแรกแบคฮยอนไม่อยากที่จะแตะอาวุธสังหารนี่อีกเลยสักนิด แต่สุดท้ายก็ต้องยอม
เพราะรู้ดีว่าพื้นที่ข้างกายมาเฟียซิซิเลี่ยนนั่นอันตรายมากแค่ไหน
“คุณแบคฮยอนต้องเล็งศูนย์หน้าให้อยู่กึ่งกลางศูนย์หลังมากกว่านี้ครับ แล้วจะไม่พลาดเป้า เวลาคุณมองจะเห็นศูนย์หน้าได้ชัดและศูนย์หลังจะเบลอ”
“ฉันไม่อยากฝึกยิงแล้วนะยูตะ” ว่าที่เลดี้ของซิซิเลี่ยนปาดเหงื่อที่ผุดข้างขมับ เมื่อเป็นเวลาเกือบชั่วโมงแล้วที่แบคฮยอนต้องอุดอู้อยู่ในห้องซ้อมยิงปืนที่ชั้นใต้ดินของคฤหาสน์
“เรื่องนี้ผมจะไม่ตามใจนะครับ ถ้าไม่ฝึก คุณแบคฮยอนก็จะไม่เก่งนะครับ”
พยักหน้าอย่างจำยอม แล้วยอมหยิบปืนพกพาขนาดเล็กบรรจุกระสุนใส่แม็กอย่างรวดเร็วมากกว่าเดิม มือเรียวกระชับปืนขนาดเหมาะมืออย่างแน่วแน่ ตั้งใจจะยอมแพ้แต่เหตุการณ์ที่เคยผ่านมา โดยเฉพาะภาพแผ่นหลังกว้างของใครบางคนที่พาเขาหลบหนีถูกยิงจนล้มลงกับพื้นนั้นยังติดตา
และแบคฮยอนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกแล้ว ถ้าเพียงเขาเก่งขึ้นอีกสักนิด
ดวงตาเรียวหรี่ลงพร้อมจ้องไปยังตำแหน่งที่ยูตะกำชับบอก นั่นเป็นพอดีกับสัมผัสแสนคุ้นเคยของใครบางคนโอบกอดอยู่ด้านหลัง คนที่ตัวโตกว่าแบคฮยอนมากโขซ้อนตัวอยู่ พร้อมกับเอื้อมมือมาจับบนมือเรียวที่จับกระบอกปืนไว้
“เกร็งแขนให้ตรง ต่ำกว่าไหล่ประมาณยี่สิบองศาแบบนี้ แล้วขยับขาออกให้มั่นคง”
มาเฟียใหญ่แห่งซิซิเลี่ยนใช้ท่อนขายาวช่วยแยกขาเล็กให้กว้างขึ้นเพื่อการรองรับแรงให้มั่นคง วางคางบนไหล่เล็กแล้วกระซิบบอกพร้อมทั้งจัดท่าทางคนตัวเล็กให้ถูกต้อง
“…ค คุณ”
“ชู่ว...เล็งให้ถูกเป้าหมายโดยเฉพาะจุดสำคัญ กลั้นหายใจก่อนที่จะตัดสินใจยิง”
ปัง ปัง ปัง !
“คุณ ผมทำได้แล้ว!”
ลูกกระสุนในรอบนี้ไม่พลาดเป้า นั่นทำให้แบคฮยอนเผยรอยยิ้มอย่างดีใจพร้อมหันกลับมาหาคนที่ยกยิ้มมุมปากอยู่ด้านหลัง เป้ากระดาษเคลื่อนเข้ามาใกล้เพื่อให้เห็นชัดเจนว่าในครั้งนี้ความพยายามของแบคฮยอนนั้นเป็นผล แม้ว่าเกือบทั้งหมดนั้นเป็นเพราะความช่วยเหลือของมาเฟียใหญ่แห่งซิซิเลี่ยนก็ตาม
“เคลียร์งานเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือครับ” เจ้าของริมฝีปากบางและแก้มกลมๆที่ขึ้นสีแดงจางเพราะอากาศในห้องซ้อมที่อึดอัดและร้อนกว่าทุกที่เอ่ยถาม พร้อมกับมือใหญ่ช่วยหยิบเครื่องป้องกันเสียงออกจากใบหูเล็ก
“อืม”
ตอบรับเพียงแค่นั้น แล้วคนที่เอาแต่ใจอยู่เสมอก็ยกร่างเล็กวางลงบนโต๊ะไม้ด้านหน้าที่เป็นที่วางกองกระสุน นั่นทำให้กระสุนบางส่วนกลิ้งตกจนส่งเสียงสะท้อนดัง แม้แบคฮยอนพยายามจะขืนตัวลงยืนเช่นเดิม แต่ก็ถูกแขนแกร่งคร่อมไว้จนหนีไปไหนไม่ได้
“คุณชานยอลครับ แบบนี้มัน...”
“เหนื่อย”
คำบอกแค่เพียงสั้นๆ ทำให้คนที่แสนดื้อรั้นต้องหยุดชะงักแล้วปล่อยให้มาเฟียหนุ่มเอนตัวลงมากอดไว้ทั้งตัวแล้วซุกใบหน้าอยู่บนไหล่เล็ก ความเหนื่อยและเมื่อยล้าที่ปาร์คชานยอลมักเก็บไว้อยู่เสมอถูกเผยออกมา
เพราะเรื่องราวเมื่อเช้า รูปถ่ายมากมายหลายใบนั่น บ่งบอกว่ามีใครบางคนหรือคนบางกลุ่มกำลังตามว่าที่เลดี้แห่งซิซิเลี่ยนตลอดเวลา รอยเลือดที่แห้งกรังนั่นไม่น่ากลัวเท่ากับการไม่มีแม้กระทั่งรอยนิ้วมือ หรืออะไรที่จะตามหาได้ว่าใครเป็นคนส่งมา แสดงให้เห็นว่ามีความเป็นมืออาชีพมาแค่ไหน
เป็นสัญญาณเตือนบางอย่างว่านี่คือการท้าทายที่รอบคอบและผ่านการคัดกรองมาอย่างดี
และทุกอย่างก็ชัดเจนพอว่านี่เกี่ยวข้องกับแบคฮยอน นั่นเลยดูยากสำหรับเขา ถ้ามันมุ่งหน้ามาที่ตัวของชานยอลเอง เขาจะไม่กลัวเลยสักนิด
“ตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังสู้กับอะไร และกับใคร”
“…”
“ฉันรู้ว่ามันเห็นแก่ตัวมากกับการที่พยายามให้นายอยู่ข้างกัน เพราะฉันรู้ดีว่ามันอันตรายมากแค่ไหน...แต่ฉันก็อยากให้นายอยู่ตรงนี้”
“ครับผมรู้”
“แบคฮยอน…”
อ้อมกอดของมาเฟียซิซิเลี่ยนโอบกอดแบคฮยอนแน่นขึ้นมากกว่าเดิม ทำให้มือเรียวเล็กนั่นโอบกอดกลับไป ปาร์คชานยอลกังวลในเรื่องนี้มากกว่าที่ตัวเองคิด แม้เขาจะไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง แต่นั่นก็มาพร้อมกับความเสี่ยง
แต่สำหรับในเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
“ผมกำลังพยายามอยู่นี่ไงครับ เหมือนที่คุณทำ”
เขาไม่ต้องการให้แบคฮยอนจะต้องมีแม้ซักความเสี่ยง
42 %
แบคฮยอนกำลังทำหน้ามุ่ย เจ้าของริมฝีปากบางสีเชอร์รี่นั่นกำลังบิดคว่ำแบบที่เจ้าตัวเผลอทำทุกครั้งเมื่อไม่พอใจ สิ่งที่ดวงตาเรียวมองเห็นตอนนี้คือชุดลูกไม้สีขาวฟูฟ่องอยู่เต็มบริเวณห้องรับแขก แต่สิ่งที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือชุดที่ว่านั่นเป็นชุดเจ้าสาวทั้งนั้น
ไม่ต้องบอกก็รู้ได้ทันทีว่าใครจะเป็นคนใส่ ไม่ใช่มาเฟียร่างใหญ่ที่ตอนนี้เดินเข้าไปลองชุดสูทเนี้ยบสีขาวอยู่แน่ๆ
“ล้อผมเล่นใช่ไหมครับ ชุดพวกนี้”
เอ่ยถามกับพนักงานสาวที่ยืนยิ้มอยู่ข้างกับแม่บ้านใหญ่ที่กำลังช่วยหยิบจับและเลือกชุดให้กลับว่าที่เลดี้คนสำคัญของซิซิเลี่ยน
“เป็นธรรมเนียมค่ะคุณแบคฮยอน เพราะงานแต่งงานของซิซิเลี่ยนเป็นงานยิ่งใหญ่ แขกเหรื่อร่วมทั้งนักข่าวทั่วโลกต่างก็สนใจกันทั้งนั้น”
“นี่มันเกินไปนะครับมาเรีย ให้ผมมาแต่งชุดเจ้าสาวแบบนี้ตลกตายเลย”
“ตอนนั้นคุณเลดี้จางเธอก็แต่งนะคะ ไม่ใช่แค่คุณ เพราะเลดี้ทุกคนนั้นก็ล้วนใส่ชุดเจ้าสาวเพื่อแสดงถึงความอ่อนโยนและอ่อนหวาน เป็นธรรมเนียมที่ถือว่าเคร่งครัดในระดับหนึ่งไม่ต่างจากการฝึกเกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาที่คุณได้เรียนรู้หรอกนะคะ”
แม่บ้านใหญ่เอ่ยชื่อใครบางคนที่ทำให้ริมฝีปากบางนั้นบิดคว่ำลงมากกว่าเดิม เลดี้จางที่แสนดีของแบคฮยอนนั้นหายไปแล้วตั้งแต่ในวันนั้น การถูกพูดเหน็บแนมพร้อมทั้งการกลั่นแกล้งในเรื่องเล็กน้อยเป็นเรื่องที่เจอได้เกือบทั้งอาทิตย์ที่แบคฮยอนพยายามฝึกเป็นเลดี้ที่ดีของซิซิเลี่ยน
“ตอนนั้นคุณชานยอลไม่เห็นเคยบอกผม”
ถ้ารู้ว่าการที่เลือกมาอยู่ข้างกายมาเฟียซิซิเลี่ยนแล้วต้องเจอเรื่องมากมายขนาดนี้ เขาควรยอมถอยแล้วกลับไปเป็นแบคฮยอนคนธรรมดาเหมือนเดิมไม่ดีกว่าหรือยังไง แต่แบคฮยอนก็รู้จักหัวใจตัวเองดีพอ เขาคงถอยหลัง และขึ้นจากหลุมพรางของมาเฟียซิซิเลี่ยนไม่ได้อีกแล้ว
“ฉันไม่ได้บอกอะไรกัน...”
เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยแทรกเข้ามา ร่างกายสูงสมส่วนที่สวมชุดสูทสีขาวแสนดูดีของใครบางคนเดินเข้ามาใกล้ ปาร์คชานยอลที่วันนี้เซทผมมาอย่างดี เผยให้เห็นเครื่องหน้าหล่อเหลา ดวงตาคมที่มองตรงมานั้นเป็นสิ่งที่แบคฮยอนไม่สามารถละสายตาไปไหนได้
“...”
“ยังเลือกชุดไม่ได้หรือยังไง”
“ผมไม่เลือกหรอกครับ” ดวงตาเรียวที่สบดวงตาคมนั้นเบนหนีกันไปอีกทาง พร้อมทั้งมองดูชุดสีขาวลูกไม้รอบตัวอย่างนึกปลงตกในใจ
“งั้นเหรอ...”
“…”
“แต่ชุดไหนก็ได้ทั้งนั้น เพราะยังไงนายก็ต้องถอดอยู่ดี”
“คุณชานยอล!!”
ปากเล็กยังคงพึมพำบ่นทันทีที่ถูกมาเฟียซิซิเลี่ยนพูดประโยคแบบนั้นด้วยใบหน้านิ่งใส่ แบคฮยอนก็หยิบเอาชุดเจ้าสาวที่มาเรียยื่นให้แล้วหนีเข้าห้องลองที่ถูกจัดเตรียมด้วยพนักงานทันทีด้วยใบหน้าที่แดงก่ำและร้อนลามไปใบหูเล็ก
“มาเฟียลามก”
ถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ออกจนหมด เผยให้ผิวขาวเนียนที่สะท้อนแสงไฟสีส้มอ่อนในห้องลองชุด มือเรียวหยิบชุดลูกไม้สีขาวที่ดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูหรูหราด้วยเพชรเม็ดเล็กที่สะท้อนให้เห็นอยู่รอบเอวที่ต่อเป็นชายกระโปรงผ้าซีฟองฟูฟ่อง ช่วงบนของชุดเป็นลูกไม้สีขาวซีทรูที่ทำให้คนสวมใส่ต้องหน้าแดงเพราะเผยผิวขาวเนียนมากเกินไป
มือเรียวพยายามเอื้อมไปรูดซิปด้านหลังด้วยท่าทางเก้กังเพราะความไม่ถนัด นั่นเป็นพอดีกับเจ้าของร่างสูงใหญ่ของมาเฟียหนุ่มเดินเปิดผ้าม่านผืนใหญ่เข้ามาพอดี
“คุณ!”
คนที่ตัวเล็กกว่าครึ่งเอ่ยด้วยความตกใจ พร้อมหันหลังหนีเข้าหาบานกระจกเพื่อซ่อนแผ่นหลังขาวเนียน แต่แบคฮยอนคิดผิดไปเสียหน่อยเพราะเงาสะท้อนแผ่นหลังบางที่มาเฟียหนุ่มก็ยังคงเห็นอยู่ดี
“ฉันช่วย หันหลังสิ” น้ำเสียงนิ่งที่เอ่ยบอกทำให้คนที่ลังเลจนเผลอกัดริมฝีปากต้องยอมโอนอ่อนหันหลังให้ช่วยรูดซิบที่พยายามเท่าไหร่ก็ยังคงไม่ได้สักที ดวงตาคมมองแผ่นหลังขาวเนียนพร้อมกับลิ้นแลบเลียริมฝีปากหนาอย่างถูกใจ มือใหญ่รูดซิบให้อย่างรวดเร็วพร้อมขยับตัวไปกระซิบข้างใบหูเล็ก
“รู้ตัวไหมว่าเซ็กซี่แค่ไหน”
“….”
เจ้าของร่างเล็กที่สวมใส่ชุดเจ้าสาวที่ขนาดพอดีตัว ขยับใบหน้าน่ารักหนีลมหายใจร้อนที่เป่ารดข้างแก้ม แต่ก็เพียงเท่านั้นเมื่อถูกกอดไว้ด้วยท่อนแขนแข็งแรง สุดท้ายแก้มนุ่มนิ่มก็ถูกกดหอมฟอดใหญ่ด้วยจมูกโด่งของมาเฟียซิซิเลี่ยนอยู่ดี
“แล้วฉันจะไม่ยอมให้ใครเห็นนายในชุดนี้หรอกนะ ถึงนายจะใส่แล้วสวยแค่ไหนก็ตาม”
“ผ ผมไม่ได้สวยสักหน่อย” หันหลังกลับมาเถียงพร้อมเบี่ยงตัวหลบใบหน้าหล่อเหลาที่ขยับเข้ามาใกล้ แบคฮยอนทำหน้าบึ้งใส่กับคนที่พูดประโยคร้ายกาจด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์แบบนั้น
แบบนี้หัวใจของเขาก็ทำงานหนักเกินไปกันพอดีสิ
“หื้ม งั้นเหรอ...งั้นนายก็เป็นเด็กขี้เหร่แล้วกัน” พูดจบคนที่ยกยิ้มมุมปากก็ดีดนิ้วเบาๆบนหน้าผากเล็กส่งผลให้คนที่ถูกแกล้งต้องทำหน้ามุ่ย ทั้งที่หัวใจเต้นรัวเพราะรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นของคนตรงหน้า แต่ก็ยังคงเปิดปากเถียงตามประสาคนที่ยังคงดื้อรั้นอยู่เสมอ
“คุณนี่ หาเรื่องผมหรือไง”
ปาร์คชานยอลไม่โต้ตอบเพียงแค่ส่งรอยยิ้มมุกปากบางเบา ให้คนที่แม้ทำหน้ายุ่งแถมด้วยขมวดคิ้วเหมือนไม่พอใจแต่แก้มยุ้ยก็ยังคงขึ้นสีจางให้รู้สึกเอ็นดู มาเฟียหนุ่มเลือกที่จะเอื้อมมือไปด้านหลังพร้อมกับรูดซิบชุดของคนตรงหน้าออก เมื่อไม่พอใจกับชุดที่เผยให้เห็นเนื้อเนียนแสนน่าทำรอยนี้มากเกินไป
“มาเรีย หาชุดที่มิดชิดมากกว่านี้ให้หน่อยได้ไหม”
แค่เพียงไม่นานแม่บ้านใหญ่แห่งซิซิเลี่ยนก็ยื่นชุดเจ้าสาวสีสะอาดตาเป็นชุดมิดชิดตามความต้องการอทำให้มาเฟียหนุ่มพยักหน้าอย่างพอใจ
“ออกไปสิครับ ผมจะเปลี่ยนชุด”
“เห็นมาหมดแล้วแค่นี้จะอายอะไร”
“คุณชานยอล!” แบคฮยอนกดเสียงต่ำใส่เพื่อข่มขู่กับมาเฟียหนุ่มที่วันนี้กลั่นแกล้งจนหัวใจของเขาทำงานอย่างหนัก มือเรียวตีไปยังแขนแกร่งแล้วทำท่าขู่ฟ่อแต่ก็เหมือนลูกแมวตัวน้อยที่ทำให้ปาร์คชานยอลเพียงแค่ยกรอยยิ้มมุมปากแล้วทำสายตาเจ้าเล่ห์อยู่แบบเดิม
แต่พระเจ้าก็ยังเห็นใจแบคฮยอนเมื่อมีเสียงเรียกของลูกน้องคนสนิทตะโกนด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนกกว่าปกติ
“บอสครับ...!”
“ว่ายังไงไคน์”
“เลดี้จางครับ คุณเขาหกล้มตกจากรถเข็นครับ”
จบประโยคที่ว่าคนที่พิงตัวอยู่ที่เก้าอี้ไม้ตัวใหญ่ก็ยืดตัวตรง พร้อมแววตาที่เปลี่ยนไปทันที ท่าทางรีบร้อนที่จะออกไปนั้นทำให้แบคฮยอนต้องเผลอดึงชายเสื้อสีขาวไว้อย่างไม่รู้ตัว
“แบคฮยอน...”
เสียงเรียกของมาเฟียหนุ่มที่กำลังจะเปิดผ้าม่านห้องลองชุดออกไป ทำให้ดวงตาเรียวนั้นเบิกโตพร้อมรีบปล่อยมือที่พยายามยื้อไว้ทันที
“อยากให้ฉันไปไหม”
“ไปเถอะครับ ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงคุณเลดี้จาง”
มองมือเล็กของตัวเองที่ปล่อยจากปลายเสื้อสูทสีขาวที่เข้ากันกับชุดที่ตนเองสวมใส่ แล้วเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ท่าทางที่แสดงออกอย่างชัดเจนของว่าที่เลดี้ทำให้ปาร์คชานยอลเอื้อมมือไปลูบกลุ่มผมนุ่มนิ่ม พร้อมให้คำสัญญาว่าจะรีบกลับมา
แบคฮยอนไม่เข้าใจว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้นั้นคืออะไร แต่เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องยื้อให้ปาร์คชานยอลยังอยู่ตรงนี้
ร่างเล็กยังคงนั่งรอคอยใครบางคนอยู่ที่โซฟารับแขกกลางห้องรับรองขนาดใหญ่ที่ตอนนี้เสื้อผ้าที่มีให้เลือกเพื่อใส่ในวันแต่งงานที่จะมาถึงนั้นถูกเก็บไปจนเกือบหมด มือเล็กบีบเข้าหากันพร้อมกับไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มาเฟียซิซิเลี่ยนจะกลับมา
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจตอนนี้แบคฮยอนรู้ดีว่ามันงี่เง่ามากแค่ไหน แต่เขาก็ห้ามตัวเองไม่ได้ที่เลยสักนิด ทั้งที่เคยคิดว่าตัวเองควบคุมความรู้สึกได้เสมอ แต่ไม่ใช่เวลานี้
“คุณแบคฮยอนคะ”
เสียงเรียกของเมดสาวนั้นทำให้ร่างเล็กที่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาต้องลุกขึ้นยืน พลางเดินเข้าไปหาเธอที่กำลังถือกล่องพลาสติกใสที่ด้านในมีตุ๊กตาไขลานที่ใส่ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวกำลังเต้นรำที่ดูสนุกสนาน
“ของคุณค่ะ มีคนฝากมาให้”
“ใครงั้นเหรอ”
เมดสาวคนนั้นเพียงแค่ยิ้มพร้อมกับเปิดแผ่นพลาสติกใสออก ทำให้แบคฮยอนรู้สึกสงสัยแต่ก็เลือกที่จะเอื้อมมือเรียวไปหยิบตุ๊กตาไขลานที่ว่า ภาพตุ๊กตาไขลานทั้งคู่บ่าวสาวนั้นดูสดใสสมจริง เพราะงานปั้นดินเผาที่ดูประณีต
“เขาเพียงแค่บอกแสดงความยินดีกับคุณค่ะ”
พยักหน้ารับ แม้ไม่รู้ว่าคนใจดีที่ส่งมานั้นคือใคร มือเรียวตัดสินใจหมุนบิดฐานเพราะอยากได้ยินเสียงเพลงบรรเลงของตุ๊กตาไขลานนี้ว่าจะไพเราะมากแค่ไหน ดูจากความสวยงามของตัวตุ๊กตาแล้ว เสียงเพลงก็คงเพราะไม่ต่างกัน เสียงดนตรีใสก้องที่ดังให้ได้ยินทำให้ร่างเล็กยกยิ้มพึงพอใจ
ดนตรีไพเราะที่เล่นไปไม่นานก็เกิดตะกุกตะกัก พร้อมเปลี่ยนเป็นเสียงเปล่งที่แสบแก้วหู เจ้าของใบหน้าน่ารักขมวดคิ้วมุ่นพร้อมจ้องมองตุ๊กตาไขลานที่กระตุก จากนั้นดวงตาเรียวเบิกโตพร้อมมือแสนสั่นนั้นโยนตุ๊กตาที่ว่าลงพื้นจนแตกกระจายด้วยความตกใจ
เมื่อตุ๊กตาบ่าวสาวนั้นมีเลือดไหลซึมจากรอยต่ออย่างน่ากลัว กลิ่นคาวที่แตะจมูกพร้อมกับเลือดที่กองรวมอยู่ตรงบริเวณเศษเครื่องปั้น ทำให้ร่างเล็กตัวสั่นอย่างหวาดกลัวในสิ่งที่ต้องเจอ
นั่นเป็นพอดีกับซิซิเลี่ยนคนเล็กที่เห็นเหตุการณ์รีบก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ พร้อมกระชับไหล่เล็กของคนที่เดินถอยหลังหนีจากเศษซากเลือดที่กระจายอยู่บนพื้น
“อาซ้อ...”
“….”
หมุนตัวให้ร่างเล็กของว่าที่พี่สะใภ้ให้หันกลับมา ดวงตาเรียวที่ยังคงเบิกโตเพราะความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เซฮุนแนบมือใหญ่บนแก้มนิ่มเพื่อเรียกสติของว่าที่เลดี้ปาร์คให้กลับคืนมา
“ไม่เป็นไรนะครับ”
สุดท้ายมาเฟียซิซิเลี่ยนคนเล็กก็เลือกที่จะกอดปลอบร่างบอบบางคนสำคัญของซิซิเลี่ยนไว้แนบอก พร้อมเอ่ยสั่งลูกน้องให้ไปตามหาจับของคนที่เขาเห็นเพียงอยู่ไกลๆด้วยน้ำเสียงทุ้มที่จริงจังกว่าในทุกครั้ง
“ไปตามจับเมดนั่นมาให้ได้ วิธีไหนก็ได้ให้มันมีปากไว้พูดตอบก็พอ!”
100 %
#มาเฟียขย้ำแบค
ฮุ้ย ความเข้มข้นกำลังเพิ่มขึ้นทุกตอนหลังจากนี้
เตรียมใจไว้เลย ผมไม่ได้ขู่ แฮ่ :)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่ฮุนละมุนมากงื้อ อบอุ่นสุดๆเลย
#โฟกัสผิดจุด กราบขออภัยค่ะ 55555