ตอนที่ 16 : | 15 | intrust | 100%
Naked Prisoner
15
“ว ว่าที่เลดี้ปาร์คงั้นเหรอครับ?”
แบคฮยอนทวนคำอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ริมฝีปากบางพูดอู้อี้อยู่ในอกของร่างสูง
คนตัวโตที่มองดวงตาเรียวของคนในอ้อมกอดที่เบิกโต แล้วได้แต่อมยิ้มในท่าทางตื่นตูมเหมือนลูกหมาของคนตัวเล็ก หยิบเอาหมีตัวโตและช่อดอกไม้ในแขนเรียวที่เป็นตัวขวางกั้นชั้นดีไปวางไว้ด้านข้างแล้วใช้มือใหญ่นั่นรวบเอวบางให้แนบชิดกันมากกว่าเดิม
“ใช่ ฉันอยากให้นายมาเป็นเลดี้ของฉัน”
ไม่พูดเปล่ามาเฟียซิซิเลี่ยนยังช้อนคางเรียวให้คนตัวเล็กได้เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน ดวงตาคมที่มองสบแฝงด้วยความอ้อนวอนและขอร้องจนหัวใจดวงเล็กต้องอ่อนยวบ ปกติแบคฮยอนก็แทบไม่มีภูมิต้านทานปาร์คชานยอลสักเท่าไหร่
แล้วยิ่งมาเฟียหนุ่มมาส่งสายตามาให้แบบนี้ เขาก็แย่น่ะสิ…
“แล้วเลดี้จางละครับ?” เสสายตาหลบแล้วเอ่ยถามประโยคที่นึกสงสัยอยู่ในใจมาตลอด ทุกคำพูดและแววตาของเลดี้จางยังคงติดอยู่ในใจ เรื่องราวความรักที่แสนน่าสงสารของมาเฟียหนุ่มตรงหน้านั้นแบคฮยอนยังจำได้ดี
“จางอี้ชิงคือเมียพ่อ แต่นายน่ะเมียฉัน คือเลดี้ของปาร์คชานยอล ไม่เข้าใจหรือยังไง”
“ค ใครเมียคุณกัน !”
เอ่ยเถียงตะกุกตะกักเพราะประโยคอันตรายต่อหัวใจจากคนตัวสูงที่กำลังขมวดคิ้วอยู่ตรงหน้า หัวใจดวงเล็กเต้นรัวจนกลัวว่าจะดังให้มาเฟียหนุ่มได้ยินแล้วได้อายมากกว่าเดิม แก้มใสขึ้นสีแดงจัดลามไปจมูกโด่งรั้นที่น่าเอ็นดู จึงถูกรังแกจากคนที่กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น กดจูบลงบนจมูกสีแดงเรื่อนั่น
“อยากให้ฉันรื้อฟื้นหรือยังไง...คุณเมีย”
“พอเลยนะครับ”
สองมือเรียวดันใบหน้าหล่อเหลาที่พยายามเข้ามาคลอเคลียให้ออกห่าง ภาพที่มาเฟียหนุ่มบดจูบแม่สาวฝรั่งนั่นยังติดตา ทำให้คนตัวเล็กต้องเบะปากบูดบึ้ง จนนึกอยากจะข่วนใบหน้าหล่อเหลานี่ลงโทษสักที แม้ใจนึงจะหายโกรธไปแล้วก็ตามแต่แบคฮยอนก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดี
“คุณไม่ต้องเอาปากที่จูบผู้หญิงคนอื่นมาใกล้ผมเลยนะ”
“แบคฮยอน...อย่าหึงกันแบบนี่ซิ”
“ผมไม่ได้หึงสักหน่อย ผมแค่ไม่ชอบ”
ร่างเล็กกว่าครึ่งเอ่ยเถียงสู้ด้วยแก้มแดงหูแดงไปหมด ท่าทางน่ารักแบบนั้นทำให้มาเฟียหนุ่มอยากนึกขย้ำให้จมเขี้ยว ยื่นมือไปจับมือนุ่มนิ่มแล้วบีบพร้อมกระซิบแผ่วเบาเอ่ยขอโทษอีกครั้งเมื่อรู้ว่าคนตัวเล็กนั่นยังโกรธกันเรื่องนี้ไม่หาย ทั้งที่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนยอมยกโทษให้กันแล้วแท้ๆ
“ลบสัมผัสผู้หญิงคนนั้นด้วยจูบของนายสิ”
“อย่าท้านะครับ”
“ฉันไม่ได้ท้า แต่ฉันอยากให้นายทำ”
มาเฟียซิซิเลี่ยนเอ่ยเสียงหนักแน่น แล้วจ้องลึกไปในดวงตาเรียว จมูกโด่งเป็นสันของมาเฟียหนุ่มแตะลงบนจมูกโด่งรั้น สัมผัสแผ่วเบาเพื่อเรียกร้อง แบคฮยอนหลับตาลงเพื่อควบคุมความรู้สึกที่ทำให้หัวใจสั่น ลืมตามาอีกครั้งพร้อมการตัดสินใจที่แน่วแน่ในความรู้สึก
มือเรียวแสนสั่นทั้งสองเอื้อมไปแตะสันกรามสวย ปาร์คชานยอลยกยิ้มมุมปากแอบเฝ้าดูการกระทำของร่างเล็กที่พยายามจะทำลายกำแพงบางอย่าง ดวงตาคมที่จ้องมองมาอย่างไม่กระพริบทำให้แก้มใสต้องแดงจัดมากกว่าเดิม
“หลับตาลงสิครับ...”
กระซิบแผ่วเบาและมาเฟียร่างสูงตรงหน้าก็ให้ความร่วมมืออย่างดี เปลือกตาที่ปิดดวงตาคมลง ทำให้ร่างเล็กสูดลมหายใจลึกเพื่อให้กำลังใจตัวเอง พร้อมตัดสินใจเขย่งปลายเท้า จนริมฝีปากนุ่มนิ่มสีเชอรี่แตะลงบนริมฝีปากหนา เพื่อลบสัมผัสคนอื่นด้วยสัมผัสแสนแผ่วเบาของตนเอง
ริมฝีปากบางแนบสนิทลงบนริมฝีปากร้อน แค่เพียงเสี้ยววินาทีที่ตั้งใจจะถอนจูบออก มือแกร่งที่โอบรอบเอวบางกลับกระชับแน่นพร้อมริมฝีปากร้อนกดจูบย้ำลงแทน สัมผัสแสนหวานที่ไม่ลุกล้ำทำให้หัวใจทั้งสองเต้นรัวไม่ต่างกัน
ปาร์คชานยอลแนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ดึงให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกหลงใหลอยากสัมผัสและไม่เคยพออยู่เสมอ ริมฝีปากร้อนดูดดึงกลีบปากบางจนเผยอออกแล้วสอดลิ้นร้อนเพื่อสัมผัสที่ลึกซึ้ง ดูดดึง เอาแต่ใจเหมือนอย่างเคย
“อ อื้อ”
แบคฮยอนได้แต่ครางอื้ออึงและขย้ำคอเสื้อเชิ้ตสีขาวของร่างสูงเพื่อระบายความรู้สึกวาบหวานที่มาเฟียหนุ่มมอบให้ ปลายลิ้นร้อนหยอกล้อเรียวลิ้นเล็กจนแทบตามไม่ทัน แบคฮยอนถูกมาเฟียใหญ่ไล่ต้อนผ่านกองของมากมายจนมาถึงโซฟาตัวใหญ่ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ รู้แค่ตอนนี้ร่างเล็กถูกจับซ้อนนั่งบนตัก ตั้งใจจะขืนตัวหนีเพราะลมหายใจที่ถูกลิดรอน
แต่มาเฟียซิซิเลี่ยนก็ไม่เปิดโอกาสนั้น ปาร์คชานยอลยังคงบดจูบลงบนริมฝีปากนิ่มเพื่อชดเชยกับสองอาทิตย์ที่หายไป แต่สุดท้ายมือเรียวก็เลือกที่จะทุบอกแกร่งเมื่อตอนนี้แทบหมดลมหายใจ
ริมฝีปากร้อนกดจูบลงไปอีกครั้งบนริมฝีปากนุ่มนิ่มที่บวมเจ่อหลังจากปล่อยให้เป็นอิสระ แบคฮยอนซบหน้าลงบนอกกว้างอย่างหมดแรง นึกอยากจะกัดบนไหล่กว้างเพื่อเอาคืนที่ถูกเอาเปรียบ แต่ก็ทำได้เพียงหอบหายใจอยู่บนอกของมาเฟียหนุ่มด้วยแก้มแดงๆเท่านั้น
“คนโลภ” กัดริมฝีปากแล้วเอ่ยว่าเจ้าของอกแกร่งที่ตนเองกำลังซุกใบหน้าอยู่
“เพราะนายทั้งนั้น”
แบคฮยอนเบะปากอิ่มที่บวมเจ่อใส่คนที่ไม่เคยยอมรับความผิดสักอย่าง แผ่นอกด้านซ้ายของมาเฟียหนุ่มที่แบคฮยอนกำลังแนบใบหน้าลงไปนั้น ทำให้ได้ยินเสียงหัวใจเต้นรัวอย่างชัดเจน ไม่ต่างจากหัวใจของเขา
นั่นทำให้แบคฮยอนต้องเผลออมยิ้ม
“แบคฮยอน...”
“…”
“กลับอิตาลีพร้อมฉันนะ กลับไปซิซิเลี่ยนในฐานะเลดี้ปาร์คคนใหม่”
เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยประโยคหนักแน่นเพื่อร้องขอกับคนตัวเล็กที่นั่งพิงอกอยู่บนตัก มองกลุ่มผมนุ่มสีน้ำตาลช็อกโกแลต แล้วกดจูบไปบนกลุ่มผมหอม เอื้อมมือไปกอบกุมมือเรียวไว้บนตัก บีบกระชับอย่างรอคอยคำตอบจากคนตัวเล็ก
เป็นวินาทีการรอคอยที่ปาร์คชานยอลรู้สึกว่ายาวนานมากเกินไป
แต่เขาก็เลือกที่จะไม่เร่งเร้า มืออุ่นเพียงแค่ลูบมือบางเพื่อรอคำตอบ
แบคฮยอนมองมือใหญ่ที่บีบกระชับมือเรียวของตนเอง มือที่ใหญ่กว่าครึ่งกอบกุมมือเขาไว้ได้ทั้งหมด ความอบอุ่นและแสนปลอดภัยทำให้หัวใจดวงเล็กต้องยอมรับความรู้สึกทุกอย่างที่เกิดขึ้น บีบกระชับตอบนิ้วมือใหญ่เมื่อหัวใจได้ตัดสินใจที่จะมอบความเชื่อใจและความรู้สึกที่มีให้แก่มาเฟียใหญ่แห่งซิซิเลี่ยน
บยอนแบคฮยอนเลือกที่วางทั้งหัวใจให้ปาร์คชานยอลได้ดูแล
“สัญญากับผมได้ไหมครับ ว่าถ้าผมยอมเป็นเลดี้ปาร์คของคุณแล้ว คุณจะไม่ใจร้ายกับผมอย่างในตอนแรกอีก” มือเรียวที่บีบนิ้วมือใหญ่เอ่ยถามออกไปในสิ่งที่กังวล
“ฉันสัญญา ให้โอกาสฉันนะแบคฮยอน ฉันไม่ขอให้นายยกโทษสิ่งเลวร้ายที่ฉันเคยทำกับนาย แค่อยากให้นายให้โอกาสฉัน”
ร่างเล็กยกตัวขึ้นจากอกแกร่ง มองสบกับดวงตาคมที่มองมาตรงมาด้วยความรู้สึกที่ชัดเจน แบคฮยอนแย้มรอยยิ้มบางแล้วเอ่ยตอบ นั่นทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อเหลายกรอยยิ้มที่ไม่มีโอกาสได้เห็นบ่อยนักตอบกลับมา
“ผมให้โอกาสคุณ อย่าทำลายมันทิ้งนะครับ”
“ไม่มีวันนั้นหรอก”
ริมฝีปากร้อนกดจูบแผ่วเบาลงบนหน้าผากมนเพื่อยืนยันในคำตอบแสนหนักแน่นของตนเอง จูบลงเปลือกตาบางทั้งสอง ตามด้วยจมูกโด่งรั้น แล้วจบลงที่ริมฝีปากนุ่มนิ่ม เพื่อประทับความรู้สึกลงบนหัวใจดวงเล็ก
“เราจะกลับอิตาลีกันวันไหนครับ”
แบคฮยอนเอ่ยถามคนที่เสียสละไหล่กว้างให้เขาพิง ดวงตาเรียวเหม่อมองดวงดาวที่ส่องประกายอยู่บนแผ่นฟ้าสีดำสนิท มือเรียวข้างหนึ่งถูกกอบกุมไว้ด้วยมืออุ่นของคนที่พาออกมานั่งรับลมเย็นอยู่บนระเบียงบนชั้นสูงสุดของคอนโดหรูใจกลางกรุงโซล
“พรุ่งนี้”
“อะไรนะครับ?!”
“เราจะกลับอิตาลีกันวันพรุ่งนี้”
คนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดหันมาจ้องใบหน้าของมาเฟียหนุ่มที่ยังคงพ่นควันรสเย็นออกมาโดยไม่ได้สนใจอะไร แบคฮยอนยู่จมูกใส่ แล้วดึงแท่งนิโคตินจากก้านนิ้วมือใหญ่ บี้ทิ้งลงบนถาดกรองบุหรี่ที่วางอยู่บนโต๊ะไม้เล็กตรงหน้า
นั่นเรียกสายตาแปลกใจจากมาเฟียหนุ่มอยู่ไม่ใช่น้อย สายตาที่มองตรงไปยังร่างเล็กทำให้แบคฮยอนต้องขมวดคิ้วใส่ แล้วเบะปากอย่างในทุกครั้งที่รู้สึกไม่พอใจ
“ผมไม่ชอบ เลิกสูบมันได้ไหมครับ”
ช้อนสายตาขึ้นร้องขอด้วยท่าทางน่ารักที่มาเฟียหนุ่มทำได้เพียงแต่พยักหน้าตอบรับเท่านั้น
“ทำไมต้องรีบกลับวันพรุ่งนี้เลยละครับ”
“ไม่อยากทิ้งไว้นานแบบตอนนั้น ฉันยังไม่ไว้ใจสถานการณ์ที่อิตาลีในตอนนี้สักเท่าไหร่”
ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วเข้มลง เมื่อนึกกังวลไปถึงสถานการณ์ที่แม้จะดีขึ้นมาแล้วของซิซิเลี่ยน แต่มาเฟียใหญ่ก็ยังไม่ไว้ใจสักเท่าใดนัก มือแกร่งดึงร่างบอบบางที่ขมวดคิ้วตามให้พิงอยู่บนท่อนแขนเช่นเดิม
“เข้าใจแล้วครับ...”
“…”
“แต่ผมอยากบอกคุณพ่อก่อน”
“ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว”
คำบอกที่ได้ยินทำให้แบคฮยอนนึกแปลกใจอีกครั้ง คิดไปถึงคำพูดของพ่อตนเองที่ไปเจอเมื่อไม่กี่วันก่อนนั่นทำให้ได้รู้ว่าการที่บริษัทของคุณพ่อเขาเฟื่องฟูมาอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะความโชคดี แต่เพราะความช่วยเหลือของคนที่นั่งอยู่ข้างกันกับเขา
“ขอบคุณนะครับ”
“…” แบคฮยอนแอบอมยิ้มพลางเอนศีรษะพิงตัวไปบนไหล่กว้างที่รู้สึกปลอดภัย
“แต่ยังมีอีกคนนึงที่ผมอยากคุยกับเขา”
“ไม่...ฉันไม่ให้นายไปเจอหมอนั่นอีกแล้ว”
“คริสฟานคือพี่ชายของผม คุณอย่าคิดมากสิครับ”
“ฉันไม่ได้คิดมากแต่ฉันแค่หวงนาย เข้าใจไหม?”
แบคฮยอนเบิกตาโตขึ้นอีกครั้ง ไม่รู้ว่าทำไมมาเฟียซิซิเลี่ยนถึงมักมีประโยคที่ทำให้เขารู้สึกตกใจและใจเต้นแรงได้ทุกครั้ง คำพูดว่าหวงพร้อมใบหน้าบึ้งตึงที่ดูไม่พอใจของมาเฟียหนุ่มทำให้แบคฮยอนต้องยอมแพ้
สุดท้ายก็ได้เพียงโทรศัพท์เครื่องบางเพื่อโทรไปจัดการคุยกับพี่ชายอย่างคริสฟาน นิ้วเรียวเล็กแตะกดหมายเลขบนหน้าจอ แล้วก็ได้แต่ตกใจเมื่อทั้งร่างลอยหวือมาอยู่บนตักแกร่ง
“เฮ้ คุณจะยกผมมานั่งบนตักทำไม”
“ฉันอยากได้ยินทุกคำที่นายพูดกับมัน”
“เขาชื่อคริสฟานครับ ไม่ใช่มัน”
“…”
ถอนหายใจใส่คนที่ยังคงทำหน้านิ่งไม่สนใจที่แบคฮยอนพูดเลยสักคำ ดิ้นหนีเพื่อจะถอยตัวลงไปนั่งที่เดิมแต่ท่อนแขนแข็งแรงที่เหมือนคีมเหล็กนั่นก็รัดให้คนตัวเล็กได้แต่นั่งอยู่บนตักแกร่ง แบคฮยอนตัดสินใจเลิกดิ้นให้เหนื่อยเปล่าแล้วกดโทรศัพท์ต่อสายไปยังพี่ชายคนสนิททันที
‘ฮัลโหล สวัสดีครับ’
“พี่คริสฟาน...”
‘แบคฮยอน!! นั่นเราเหรอ เราอยู่ที่ไหนกัน ให้พี่ไปรับไหม’
“ม ไม่เป็นไรหรอกครับ”
ดวงตาเรียวผลุบต่ำ มองปลายนิ้วมือที่อยู่บนตักกำลังขย้ำจนปลายเสื้อนจนยู่ยี่เพราะความกังวลและความรู้สึกผิดจากน้ำเสียงร้อนรนที่บ่งบอกถึงความเป็นห่วงของคนปลายสายได้เป็นอย่างดี เพราะสายตาขอร้องที่แสนน่าสงสารก่อนจากกันมานั้นยังติดอยู่ในใจ
‘ไม่เป็นไรได้ยังไงกัน’
“พี่คริสฟานครับ ผมขอโทษ”
‘...’
“ผมกำลังจะไปอิตาลี ผมกำลังจะจากพี่ไปอีกแล้ว ผมขอโทษนะครับ...”
‘...ไหนเราว่าจะไม่ทิ้งพี่ไงแบคฮยอน!’
ใบหน้าน่ารักที่หม่นหมองลง พร้อมดวงตาเรียวที่เอ่อด้วยน้ำใสของคนที่อยู่บนตัก ทำให้มาเฟียหนุ่มเลือกที่จะแย่งมือถือเครื่องบางมาจากใบหูเล็กพร้อมทั้งกรอกเสียงตามลงไป
“แบคฮยอนจะไปอยู่กับกูแล้ว ได้ยินชัดเจนดีนะ”
พร้อมทั้งกดตัดสายไปทันที
สายตัดลงไปแล้ว แต่มือถือเครื่องบางยังคงถูกถือค้างไว้ด้วยมือแกร่งที่เกร็งแน่น เสียงของคนที่คริสฟานรู้สึกเกลียดจับใจที่ดังลอดให้ได้ยิน ทำให้อารมณ์คุกกรุ่นระเบิดออกมากกว่าเดิม มือถือเครื่องที่อยู่ในมือถูกปาใส่ฝาผนังจนแตกกระจาย
มือแกร่งกำบีบกันแน่นจนเส้นเลือดปูนโปน ขบสันกรามเพื่อข่มอารมณ์โกรธแค้น ลุกขึ้นยืนจากโซฟากลางห้องที่เปิดไฟสลัวแสนเลือนราง
อู๋อี้ฟานเดินตรงไปยังกำแพงห้องที่ติดรูปถ่ายของใครบางคนไว้จนเต็มทุกพื้นที่ หยิบรูปถ่ายที่มีร่างเล็กกำลังส่งรอยยิ้มสดใสท่ามกลางเทศกาลหน้ากากกลางเมืองใหญ่ กดจูบพร้อมน้ำตาที่ไหลรินเพราะความเสียใจ ที่แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกแสนบิดเบี้ยว
“แบคฮยอน เราเป็นของพี่ ได้ยินไหม!! เราเป็นของพี่!”
ร้องตะโกนใส่รูปในมือ แล้วช้อนสายตาเหม่อลอยขึ้นมองรูปถ่ายของอดีตคนรักในแทบทุกอิริยาบถที่ติดอยู่เต็มผนังห้องที่รายล้อมตัว ทรุดตัวลงพื้นพรมแล้วดึงทึ้งผมตนเองด้วยความเสียใจอย่างที่สุด
คริสฟานที่แสนดีของแบคฮยอนในเวลานี้กับถูกโอบล้อมด้วยความรู้สึกสิ้นหวังที่แสนมืดหม่น ลุกขึ้นยืนโงนเงนแล้วเดินตรงไปยังโต๊ะเล็ก หยิบแท่งนิโคตินยี่ห้อดังแล้วยกไฟแช็คขึ้นจุด จนเปลวไฟสีส้มเผาไหม้แท่งบุหรี่จนปล่อยควันลอยฉุย
“แบคฮยอน...”ร้องครางแผ่วเบาแล้วเดินไปหยิบรูปถ่ายใบใหญ่ที่มีร่างเล็กของคนที่คริสฟานรักสุดหัวใจอยู่ในภาพ และข้างกันกับมีใบหน้าคมเข้มของใครบางคนยืนอยู่ด้านข้าง ใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้เปรอะไปด้วยน้ำตาแสยะยิ้มน่ากลัวใส่
หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แล้วยกมือที่ถือแท่งบุหรี่ที่กำลังเผาไหม้ กดลงไปบนศีรษะของมาเฟียใหญ่แห่งซิซิเลี่ยนที่อยู่ในรูปจนกลายเป็นรูปโหว่สีดำ
“หายไปซะไอ้ปาร์คชานยอล หึ ฮะฮะฮ่า แบคฮยอนเป็นของกู!!”
เสียงหัวเราะดังก้องอยู่ท่ามกลางห้องมืดสลัว คริสฟานจมดิ่งลงในความเสียใจที่แสนบิดเบี้ยว พร้อมอารมณ์โกรธแค้นประทุอยู่ในใจ
60 %
รถลีมูซีนคันหรูเคลื่อนตัวไปอย่างเชื่องช้าไม่เร่งรีบ เปิดโอกาสให้ดวงตาเรียวได้สำรวจสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองใหญ่อย่างอิตาลี แม้นี่ไม่ใช่การเห็นในครั้งแรก แต่ยังตื่นตาทุกครั้งกับคนที่หัวใจรักในงานศิลปะและสถาปัตยกรรม
เมื่อแบคฮยอนนึกย้อนไปในชีวิตที่ผ่านมาของเขาที่มีมาเฟียซิซิเลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยยังคงฝังลึกอยู่ในใจ ความรู้สึกแตกต่างจากในครั้งแรกที่เขาเหยียบที่อิตาลี ตอนนั้นเขาเดินอยู่ข้างมาเฟียหนุ่มในฐานะนักโทษที่ปาร์คชานยอลนั้นถูกใจ แต่ตอนนี้ความรู้สึกและสิ่งที่มาเฟียหนุ่มได้ทำให้แก่เขานั้นแตกต่าง เขากลับมายังอิตาลีอีกครั้งในฐานะเลดี้ปาร์คที่มาเฟียซิซิเลี่ยนได้ร้องขอ
ความใจดียังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาให้อภัยมาเฟียหนุ่มโดยง่าย แต่สิ่งที่ชัดเจนกว่านั้นคือความรู้สึกของตัวแบคฮยอนเองที่เปลี่ยนไป และเขาไม่ใช่คนที่หลอกตัวเองเก่งเท่าใดนักถึงเลือกที่จะยอมรับและตกลงอยู่กับข้างกายปาร์คชานยอล
แม้ยังคงมีเศษเสี้ยวส่วนลึกในใจที่ยังหวาดระแวงอยู่เพราะอดีตที่ผ่านมา เพราะลางสังหรณ์บางอย่างที่ร้องเตือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจากนี้อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เพราะมือใหญ่ที่กอบกุมมือของเขาไว้ตอนนี้ทำให้แบคฮยอนมองข้ามไป
เสียงพลิกกระดาษดังขึ้นท่ามกลางความเงียบที่ได้ยินเพียงเสียงลมเครื่องปรับอากาศ แบคฮยอนหันไปมองด้านข้าง ก็พบกับเจ้าของเครื่องหน้าหล่อคมที่ดวงตาถูกปกปิดไว้ด้วยแว่นสายตาทรงกลม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มาเฟียหนุ่มดูหล่อน้อยลงแต่อย่างใด ปาร์คชานยอลยังคงสนใจเอกสารในมือตั้งแต่เหยียบขึ้นบนรถยนต์คันหรู โดยที่มืออีกข้างยังคงจับมือของเขาไว้
แบคฮยอนไม่นึกอยากก่อกวนสักเท่าไหร่ ปล่อยให้มาเฟียหนุ่มนั่งเครียดกับกองเอกสารบนตักไปนั่นน่ะดีแล้ว ดีกว่าที่ต้องมายุ่มย่ามกับตัวเขาเหมือนอย่างตอนอยู่บนเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวของซิซิเลี่ยน ให้หัวใจของเขาต้องทำงานหนักมากกว่าเดิม
“ดีโอ สั่งคนจัดการเคลียร์เรื่องเซฟเฮ้าส์ที่เวนิชหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับบอส”
“อืม”
ประโยคพูดคุยที่ดังให้ได้ยินเพียงแค่ผ่านหูร่างเล็กที่กำลังตื่นตากับวิหารใจกลางเมืองมิลานอย่างมหาวิหารดูโอโม สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความทันสมัยที่เทียบเท่ากับนิวยอร์คหรือปารีสทำให้แบคฮยอนรู้สึกสนใจ
บรรยากาศภายนอกจากที่ลีมูซีนคันหรูขับผ่านบ้านเมืองและตึกใหญ่ เริ่มบางตาลงแล้วถูกแทนที่ด้วยธรรมชาติเขียวขจี บ้านเรือนหลังใหญ่ที่ดูอบอุ่นนั่นตั้งอยู่ห่างกัน และถูกคั่นกลางด้วยสวนผลไม้หรือไม่ก็ต้นโอ๊คสลับกันต้นสนเรียงราย
แบคฮยอนไม่แน่ใจนักว่านี่คือที่ใด จะว่าทางไปเซฟเฮ้าส์ที่เวนิชนั้นก็ไม่ใช่นัก
“ตอนนี้เรากำลังไปที่ไหนเหรอไคน์ ดีโอ”
เอ่ยถามด้วยเสียงกระซิบเพราะเกรงว่าใครบางคนที่หลับตาอยู่บนตักนั้นจะรู้สึกตัวตื่น แบคฮยอนกลายเป็นหมอนจำเป็นกับมาเฟียหนุ่มที่บ่นว่าง่วงและปวดตาเพราะจ้องเอกสารมากมายนั่น
คนตัวโตที่ใช้ตักเขาเป็นหมอนนั่นไม่ขออนุญาต แค่พูดว่าง่วงแล้วก็ทิ้งตัวนอนลงบนตักเขาตามประสาคนเอาแต่ใจ แบคฮยอนก็ได้เพียงแต่ทำหน้าบูดแล้วปล่อยคนมาเฟียหนุ่มหนุนนอนหลับมาจนถึงตอนนี้
“นี่คือมิลานครับ เพราะคฤหาสน์ซิซิเลี่ยนหลังใหญ่ที่คุณแบคฮยอนเคยอยู่กำลังซ่อมแซมใหม่ ตอนนี้บอสเลยให้ย้ายมาอยู่คฤหาสน์ซิซิเลี่ยนหลังเก่าที่เคยอยู่กันมาหลายช่วงอายุ”
จบประโยคบอกเล่าจากไคน์บานประตูรั้วเหล็กบานสูงก็เปิดออกแล้วคฤหาสน์หลังโตไม่ต่างจากที่เคยเจอก็ปรากฎตรงหน้า แบคฮยอนแทบแยกไม่ออกเลยสักนิดว่าคฤหาสน์ซิซิเลี่ยนหลังเก่าที่รถลีมูซีนกำลังพาไปถึงนี่แตกต่างจากคฤหาสน์หลังที่เขาเคยอยู่ตรงไหน
อาจเป็นขนาดที่เล็กกว่ากัน หรือไม่ก็ความมีมนต์ขลังที่ดูแล้วรู้สึกเป็นคฤหาสน์คนชั้นสูงสมัยก่อน
“ถึงแล้วครับ บ บอส”
ดีโอที่กำลังหันมาปลุกต้องหยุดชะงักเพราะหัวหน้าของตนเองที่หลับสนิทอยู่บนตักของคนตัวเล็ก เป็นมุมที่ไม่ได้เห็นสักเท่าไหร่ตั้งแต่ที่มาเฟียหนุ่มได้ขึ้นมาครองตำแหน่งคนที่ปกครองซิซิเลี่ยน เหมือนดีโอกำลังได้พี่ชายคนเก่าที่เคยมีชีวิตชีวากลับคืนมา นั่นอาจเป็นเพราะว่าที่เลดี้ปาร์คคนใหม่
“เดี๋ยวผมปลุกเขาเองก็ได้ครับ”
“ฝากด้วยนะครับคุณเลดี้ปาร์ค”
“ยังไม่ใช่สักหน่อย”
“อีกไม่นานหรอกครับ”
แบคฮยอนทำหน้าบึ้งตอบมือขวาของมาเฟียที่ยังหลับสนิทอยู่บนตักที่ตัดสินใจลุกเดินตามมือซ้ายที่ปิดประตูออกไปก่อนหน้า มือเรียวสางกลุ่มผมของคนที่ดูหลับสนิทจริงๆ ร่องรอยความเมื่อยล้ายังปรากฏให้เห็น
เพราะสิ่งที่แบคฮยอนได้ฟังจากคำบอกเล่าจากคนใกล้ชิดอย่างบอดี้การ์ดทั้งสอง ทำให้เขาได้รู้ว่าปาร์คชานยอลต้องเหนื่อยล้ามากแค่ไหนกับการที่ต้องรีบจัดการทุกอย่างให้เร็วที่สุดเพื่อได้รับเขากลับมา
และนั่นทำให้แบคฮยอนยอมเสียสละตักเป็นหมอนหนุนเพิ่มอีกสักนิดนึงก็ได้
ผ่านไปไม่นานคนนอนกอดอกหนุนตักเล็กก็ขยับตัวแล้วลุกขึ้นนั่งหลังตรง แน่นอนว่าตอนนี้แบคฮยอนขาชาไปแล้วเรียบร้อย ปลายเท้านั่นจี๊ดจนไม่สามารถลงแรงได้เลยสักนิด แต่ยังดีที่ไม่ลามไปทั้งขา เป็นเพียงแค่ตรงบริเวณเท้าเท่านั้น
ปากบางเบะคว่ำทำให้มาเฟียหนุ่มตัวต้นเหตุได้แต่ขมวดคิ้วสงสัยว่าอะไรที่ทำให้เจ้าของใบหน้าน่ารักต้องทำหน้าบึ้งใส่กันอีกแล้ว
“เป็นอะไร”
“ขาผมชา เพราะคุณเลย...จะเดินออกไปได้ยังไง”
แค่เพียงจบประโยคนั้นมาเฟียหนุ่มก็เปิดประตูรถออกไปทันที ปล่อยใครคนตัวเล็กนั่งอึ้งเพราะไม่รู้ว่าพูดอะไรทำให้คนฟังต้องขัดใจ
เขาก็แค่บ่นเท่านั้นเองนะ
แต่สุดท้ายแล้วคนที่เปิดประตูรถจากไปนั้นก็เปิดประตูอีกฝั่งที่ตรงกับที่นั่งของคนตัวเล็ก คนตัวใหญ่ขยับตัวย่อลงมาใกล้พร้อมกันสองแขนที่ช้อนใต้ร่างคนตัวบางทันทีอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่แบคฮยอนก็ยังจิกมือลงกับเบาะหนังไว้แน่นอย่างไม่ยอมถูกอุ้มไปโดยง่าย
“แบคฮยอน...อย่าดื้อ”
“ผ ผมไม่ได้ดื้อสักหน่อย”
“ที่นายทำอยู่ตอนนี้เขาเรียกว่าดื้อ”
คนที่ดื้อรั้นไม่มีใครเกินก็ต้องยอมอ่อนลงเพราะดวงตาคมดุที่มองตรงมา ปากอิ่มที่เชิดรั้นนั้นบิดคว่ำในทุกครั้งที่โดนขัดใจ ท่าทางดื้อที่ไม่เคยเปลี่ยนนั่นทำให้มาเฟียหนุ่มอยากนึกลงโทษขึ้นมาสักที
“ไม่อุ้มได้ไหม ผมขอขี่หลังแทน”
สุดท้ายมาเฟียซิซิเลี่ยนที่ไม่เคยอ้อนข้อหรือยอมเสียเปรียบในข้อต่อรองไหน ก็ต้องยอมตามใจให้กับคนที่กระพริบตาปริบใส่ตรงหน้า หัวใจที่เคยแข็งแกร่งกับสั่นคลอนเพราะดวงตาเรียวเหมือนลูกหมาที่ช้อนมองอย่างร้องขอนั่น
แผ่นหลังกว้างที่หันหลังให้ทำให้แบคฮยอนยกรอยยิ้มเมื่อคำร้องขอของตนเองนั้นได้ผล เรื่องอะไรจะให้มาเฟียหนุ่มอุ้มท่าทางแบบนั้นไป เพราะรู้ดีว่าคนที่รอต้อนรับทายาทคนโตแห่งซิซิเลี่ยนคนโตจำนวนไม่เคยน้อยเหมือนในทุกครั้ง
“ฉันอุ้มแบบนี้ไม่เจ็บใช่ไหม”
“ไม่เจ็บแล้ว”
อาการปวดซ่าบริเวณเท้าที่ไม่ได้ลุกลามมายังท่อนขา ทำให้มาเฟียหนุ่มสามารถเกี่ยวท่อนขาเล็กไว้กับเอวแล้วพาเดินนำเข้าไปในบริเวณคฤหาสน์ที่มีลูกน้องหลายสิบชีวิต และเมดสาวอีกมากมายยืนรอเรียงแถวเพื่อต้อนรับ
“มาเรีย!!”
แบคฮยอนตะโกนเสียงดังพร้อมโบกมืออยู่บนหลังมาเฟียหนุ่ม ใส่แม่บ้านใหญ่แห่งตระกูลทำให้เธอต้องชูนิ้วขึ้นปิดปากส่งสัญญาณเตือนว่าที่เลดี้ปาร์คให้สำรวมกิริยามากกว่านี้ คนตัวเล็กที่ถูกดุด้วยสายตาก็ปิดปากทั้งสองด้วยมือเรียวทันที
“เธอเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ”
“แค่ขาชานิดหน่อยน่ะมาเรีย”
ชานยอลตอบกลับแม่บ้านวัยกลางคนที่ส่งสายตาเป็นห่วงไปยังร่างเล็กที่กำลังยิ้มแป้นอยู่บนหลังกว้าง ปฏิเสธไม่ได้ว่าแบคฮยอนผูกพันและคิดถึงคนในซิซิเลี่ยนไม่ใช่น้อย ดวงตาเรียวหันไปเจอกับบอดี้การ์ดหนุ่มประจำตัวทั้งสองคนที่ยืนต้อนรับอยู่ด้านหน้าทำให้ร้องเรียกด้วยความดีใจ
“เคน ยูตะ ! ฉันคิดถึงนายสองคนมากเลย”
จบประโยคจากร่างเล็กทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองยิ้มกว้างอย่างดีใจที่คุณหนูแสนซนนั้นยังคิดถึงกัน แต่ก็ต้องผลุบตาต่ำลงมองปลายเท้าของตนเองเหมือนเดิมเมื่อดันเผลอไปสบกับดวงตาคมดุของนายท่านใหญ่ ทำให้ทุกอย่างสงบนิ่งลงทันที และนั่นพอดีกับที่ใครบางคนเข็นรถเข็นเข้ามาใกล้บริเวณนั้น
“กลับมาแล้วเหรอชานยอล”
น้ำเสียงนุ่มที่เรียกหาพร้อมรอยยิ้มหวานที่ปรากฏบนใบหน้าของคนที่อยู่บนรถเข็น ทำให้แบคฮยอนรู้สึกสะกิดในใจ รีบบอกให้มาเฟียหนุ่มปล่อยตัวเองลงด้านล่างทันที กระซิบบอกว่าตนเองหายจากอาการเจ็บบริเวณปลายเท้าแล้วทั้งที่ยังคงรู้สึกอยู่
เพราะสิ่งที่เลดี้จางเคยบอกกับแบคฮยอนนั้นยังจำได้ดี
“คุณก็กลับมาด้วยสินะครับ เลดี้ปาร์คคนใหม่”
รอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าหวานนั้นแย้มกว้างกว่าเดิม แม้ดวงตายังคงสงบนิ่งแต่แค่เพียงเสี้ยววินาทีเดียวจางอี้ชิงก็กลับไปเป็นเลดี้จางที่แสนดีคนก่อนของแบคฮยอน ยิ้มทั้งปากยิ้มทั้งตายินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“เลดี้จาง...” ริมฝีปากเรียวครางชื่อคนที่ขยับรถเข็นเข้ามาใกล้ รอยยิ้มที่จริงใจที่ส่งมาทำให้แบคฮยอนต้องแย้มรอยยิ้มกลับ ยังจำได้ดีว่าจางอี้ชิงนั้นดีต่อตนเองมากแค่ไหน แม้เหตุการณ์บนเรือนกอนโดร่านั่นแบคฮยอนยังรู้สึกสะกิดในใจ แต่อาจเป็นเพราะความเข้าใจผิด
“มากอดกันหน่อยสิครับ เกือบเดือนที่ไม่มีคุณแบคฮยอนชีวิตผมขาดสีสันไปเยอะเลย”
แบคฮยอนที่ตอนนี้ขาเริ่มหายจากอาการชา แย้มยิ้มตอบรับแล้วรีบวิ่งเข้าไปหาเลดี้จางที่แสนใจดีของตนเองเช่นเดิม ลบภาพดวงตาที่เคยมองอย่างเย็นชาแทนที่ด้วยดวงตาที่แย้มยิ้มพร้อมรอยยิ้มกว้าง ขยับตัวเข้าหาอ้อมกอดที่อ้ารับพร้อมกับกอดแน่นตอบกลับไป
ภาพของคนตัวเล็กทั้งสองที่กอดกันแน่นด้วยความคิดถึง นั่นทำให้มาเฟียซิซิเลี่ยนวางใจ ว่าสิ่งที่ตนได้พูดบอกกับเลดี้จางไปนั้นได้ผล ร่างสูงใหญ่เพียงแค่พยักหน้าส่งสัญญาณกับบอดี้การ์ดประจำตัวเพื่อไปสะสางงานที่ยังไม่เสร็จสิ้นดี
แล้วหันไปพูดคุยกับแม่บ้านใหญ่ที่เดินตามมาส่ง
“ฝากด้วยนะมาเรีย”
“ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ คุณชานยอล ดิฉันจะอบรมให้คุณแบคฮยอนเป็นเลดี้ที่ดี”
คำตอบรับที่ยืนยันจากแม่บ้านใหญ่อย่างมาเรียที่เคยอบรมว่าที่เลดี้ให้เป็นเลดี้แห่งซิซิเลี่ยนได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นทำให้ปาร์คชานยอลไม่จำเป็นต้องรู้สึกกังวลก่อนที่วันงานแต่งตั้งเลดี้ปาร์คนใหม่แห่งตระกูลจะมาถึง
หรือก็คือวันแต่งงานระหว่างปาร์คชานยอลและบยอนแบคฮยอน เพื่อประกาศให้ทุกคนได้รับรู้
ขายาวก้าวพ้นจากบันไดหน้าคฤหาสน์ต้องหยุดชะงัก พอดีกับที่เสียงเครื่องยนต์ของเฟอร์รารี่สีแดงสด วิ่งเข้ามาใกล้แล้วเบรกเสียงดังจอดลงตรงหน้า ใบหน้าที่ปาร์คชานยอลเห็นเกือบทั้งชีวิตปรากฏขึ้นทันทีที่กระจกสีทึบเลื่อนลง
“สวัสดีพี่ชาย พี่สะใภ้ของผมไปไหนแล้วละ”
โอเซฮุน ทายาทคนเล็กแห่งซิซิเลี่ยนเอ่ยประโยคทักทายกวนประสาทพี่ชายที่เพียงกอดอกแล้วมองนิ่ง รอยยิ้มสนุกผุดพรายตามประสาคนขี้เล่นที่มักหาเรื่องมาทำให้พี่ชายของตัวเองหลุดมาดอยู่เสมอ พอคิดได้แบบนั้นมาเฟียคนเล็กจึงร้องตะโกนเสียงดังออกไป ให้เจ้าของใบหน้าหวานที่นั่งอยู่เบาะข้างกันต้องตีแขนปราม
“อาซ้ออยู่ไหน ผมซื้อขนมมาฝากเพียบเลย!”
100 %
#มาเฟียขย้ำแบค
การจะเป็นเลดี้ปาร์คแห่งตระกูลซิซิเลี่ยนนั้นไม่ง่าย
ทางเดินคงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหรอกนะคนดี
แต่ตอนหน้าเรามีฉปอยหน่อย
ใครอยู่ทีม #มาเฟียขย้ำกวาง เขาจะมาเรียกเรตติ้งแล้วนาจา :)
*ประกาศจากทาสมาเฟียซิซิเลี่ยน*
เนื่องจากตอนนี้ฟิคมาเฟียได้ดำเนินมาเกินครึ่งทางแล้ว
เราเลยคิดว่าจะแง้มถามว่ามีใครสนใจเก็บคุณมาเฟียไว้ในอ้อมกอดไหมคะ?
ถ้าสนใจก็กดโพลด้านล่างได้เลย เราจะขอดูยอดโหน่ย
คอมเม้นหรือติดแท๊กบอกเราก็ได้นะ
ถ้ามีคนสนใจเกินกว่าเป้าที่เราตั้งไว้ ก็จะได้จัดการทำปกและอื่นๆ เตรียมไว้ก่อนมานำเสนอเนอะ
(ใครอ่านในแอพก็กดโหวตในลิ้งนะจ้ะคนดี)
http://my.dek-d.com/Peach_Maple/poll/?id=157595
ให้กำลังใจด้วยคอมเม้นและติดแท๊ก #มาเฟียขย้ำแบค กันเยอะๆ นะคะ *โค้ง
สงสัยอะไรก็ถามได้ข้างล่างนี้เหลย (人゛ ∀゛)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปล.พี่คริสดูจิตมากอ่ะ พอๆกับอี้ชิงเลยแฮ่ะ เอาสองคนนี้มาอยู่ด้วยกันดีมั้ยคะท