ตอนที่ 9 : xx ♥ 008(100%)
DoubleX 008
Theme song : Call You Mine - 주영 (JooYoung)
I want everyone to know that you are mine and no one else’s.
ลู่หานทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่มแล้วถอนหายใจออกมาเสียงดัง หลากหลายความรู้สึกที่เกิดขึ้นทำให้เขารับมือไม่ไหว เหมือนเป็นความโกรธที่ผสมความผิดหวังกลั่นกรองออกมาให้ตอนนี้ลู่หานรู้สึกแย่สุดๆ
ภาพที่ผู้หญิงแสนสวยควงแขนเซฮุนยังติดตา แถมด้วยคำพูดที่แสดงสถานะชัดเจนยังดังก้องซ้ำไปมา ลู่หานกำลังสับสนและไม่เข้าใจว่าในเมื่อมีคู่หมั้นอยู่แล้วเซฮุนจะเข้ามาทำให้เขารู้สึกดีด้วยทำไม
“แย่ชะมัดเลย” พึมพำเบาๆ แล้วยกท่อนขาเล็กขึ้นมากอดไว้ แก้มกลมวางซุกลงตรงหัวเข่า พลางเหม่อมองไปยังดอกไฮเดรนเยียร์ที่เริ่มเหี่ยวเฉา
ลู่หานเกลียดความสัมพันธ์ที่ยุ่งยากและซับซ้อน แต่ตอนนี้ตัวเขากำลังเข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์ที่ว่า เหมือนเส้นเชือกที่พันปมอยู่แล้วขมวดแน่นขึ้นกว่าเดิม นั่นทำให้เขากลัวว่าจะหาวิธีคลายปมไม่ได้ หรือไม่ก็ขมวดแน่นจนรู้สึกเจ็บ
Ring Ring !
เสียงกริ่งที่ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังเหม่อต้องสะดุ้ง ลู่หานถอนหายใจอีกครั้ง แล้วยันตัวขึ้นยืน คงเป็นอีกครั้งที่จงอินลืมกุญแจห้อง ซึ่งเป็นรอบที่ร้อยที่เขาต้องลุกขึ้นมาเปิดประตูให้เพื่อนตัวดี กดเปิดประตูกระชากออกตั้งใจจะเปิดปากว่าเพื่อนเต็มที่ แต่คนที่เห็นตรงหน้าทำให้ลู่หานพูดอะไรไม่ออก
“นาย..” มือเล็กตั้งใจจะปิดประตูกลับแต่ร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าใช้แรงที่มากกว่าดันประตูให้เปิดกว้างออกพร้อมแทรกตัวเข้ามา ลู่หานตั้งใจจะถอยหลังหนีแต่ดันถูกคนมือไวรวบตัวเข้าสู่อ้อมกอด
“ปล่อยนะ ปล่อย!”
“ขอโทษ...”
คำพูดแผ่วเบากระซิบแนบชิดใบหูทำให้ลู่หานหยุดชะงัก ดวงตากลมโตช้อนมองคนตัวสูงกว่าที่กำลังส่งสายตาเว้าวอน ดวงตาสีเขียวที่ลู่หานชอบมองตรงมาแบบที่ต่อให้มีกำแพงสิบชั้นก็ต้องละลายตรงนั้น
เมื่อเห็นคนในอ้อมกอดหยุดนิ่งเซฮุนก็เปลี่ยนกอดหลวมๆ แล้วขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ กดจูบเบาๆลงบนหน้าผากมน แล้วกระซิบ “ขอโทษ..” ขยับปากหยักลงมาและกดจูบลงบนปลายจมูกโด่งรั้น “ขอโทษ”
ลู่หานทำได้เพียงหลับตาลงเมื่อตอนนี้ความร้อนไล่ลามตามริมฝีปากร่างสูงที่เคลื่อนมาสัมผัส มุมปากสวยถูกสัมผัสด้วยความรู้สึกแผ่วเบาที่แสนหนักแน่นกดลึกลงไปในความรู้สึก
“ผมขอโทษนะ...นะ” กระซิบแนบชิดอยู่ติดริมฝีปากอิ่ม
“…”
“ผมเคยบอกว่าพี่เป็นของผม แต่ผมก็เป็นของพี่เหมือนกัน”
ปากร้อนแนบสนิทลงบนปากอิ่ม เป็นอีกครั้งที่ลู่หานไม่สามารถปฏิเสธสัมผัสจากโอเซฮุน ไม่สามารถปฏิเสธความรู้สึกในใจได้เลยสักครั้ง
ช่อดอกกุหลาบสีแดงถูกยื่นมาตรงหน้า พร้อมกับตุ๊กตากวางตัวเล็ก ลู่หานมองคนที่ทำตัวร้อนแรงในตอนแรก เป็นเพียงเด็กผู้ชายคนหนึ่ง หลังจากนั่งอยู่โซฟาข้างกันเซฮุนก็ยื่นช่อดอกไม้สีหวานแหวนพร้อมด้วยตุ๊กตาให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงหน้า เกาหลังคอเมื่อไม่รู้ว่าจะเอามือไม้ที่อยู่ดีๆก็เกะกะขึ้นมาซะดื้อๆไว้ตรงไหน
“แค่นี้คิดว่าฉันจะหายโกรธรึยังไง”
“ไม่ต้องหายโกรธก็ได้ แค่ฟังคำอธิบายก็พอ”
“มีอะไรอธิบายได้ดีกว่าคำว่าเป็นคู่หมั้นอีกงั้นเหรอ?”
ส่งเสียงกระแทกแต่ถึงแบบนั้นก็หยิบช่อดอกกุหลาบสีแดงที่ว่าไว้ในมือ กุหลาบสิบห้าดอกที่เห็นตรงหน้า ทำให้คนที่รู้จักความหมายดอกไม้ดีใจอ่อนไปเกือบครึ่ง ปากอิ่มเชิดรั้น แต่ถึงแบบนั้นลู่หานก็ยังไม่ยอมใจอ่อนให้ผู้ชายตรงหน้านี่แน่
“ผมไม่ได้รักเธอ แค่นี้พอไหม?”
ดวงตาสีเขียวเข้มมองสบพร้อมกับความรู้สึกมากมายที่สื่อออกมาอย่างชัดเจน ลู่หานเบนสายตาหลบมองดอกกุหลาบสีแดงในมือ หัวใจดวงเล็กสั่นไหวอีกครั้ง เมื่อลู่หานไม่สามารถควบคุมให้หัวใจตัวเองสงบนิ่งได้
“แต่เราควรจะหยุด” กระซิบแผ่วเบาพร้อมกับเด็ดกลีบดอกกุหลาบที่ขึ้นสีช้ำ
“ผมไม่หยุด”
“เซฮุน...”
สีหน้าจริงจังที่บึ้งตึงพร้อมกับแรงบีบเบาๆที่ข้อมือ ทำให้ลู่หานเงยหน้ามองคนตัวโตกว่า เซฮุนกระชับข้อแขนเล็กในอุ้งมือแน่น “ผมไม่หยุด ไม่มีทางแน่ๆ”
“แต่นายมีเธอ ฉันก็...”
ไม่ทันได้พูดจบประโยคริมฝีปากร้อนก็ทาบทับลง เซฮุนกดจูบบดเบียดริมฝีปากอิ่มเมื่อประโยคร้ายกาจถูกพูดออกมา คำบางคำที่มีคมมีดของความเป็นจริงคอยกรีดหัวใจจนเลือดซึม แม้จะรู้ว่าต่อไปมันจะเป็นแผลใหญ่ แต่เซฮุนก็หยุดตัวเองไม่ได้ เขาหยุดตัวเองที่จะไม่ตกหลุมรักลู่หานไม่ได้จริงๆ
จูบร้อนแรงแปรเปลี่ยนเป็นจูบอ้อนวอนและเต็มไปด้วยความรู้สึก
“ได้โปรด...บอกผมสิว่าตอนนี้พี่ไม่ได้รู้สึกอะไร ถ้าหัวใจพี่ไม่ได้เต้นแรงเพราะผม ผมจะหยุด” กดจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มอีกครั้งเพื่อย้ำเอาคำตอบ
ลู่หานทำได้เพียงหลับตาลงและยอมรับความจริง เมื่อรู้ดีว่าตัวเองปฏิเสธเซฮุนไม่ได้เลยสักนิด เพราะความจริงที่ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเต้นรัวแรงอย่างชัดเจน
คนตัวเล็กขยับตัวเข้าไปใกล้ส่งรอยยิ้มบางๆแล้วกดจูบลงข้างริมฝีปากหยัก ยอมรับความจริงอย่างพ่ายแพ้เมื่อตัวเองมีใจไปเกือบครึ่งให้กับคนอันตรายที่กำลังกดรอยยิ้มอยู่ตรงหน้า ท่าทางน่าหมั่นไส้แบบนั้นทำให้เจ้าดวงตากลมโตต้องกัดลงบนคางแหลมจนเป็นรอย แน่นอนว่าถูกเอาคืนด้วยคนตัวโตที่ก้มลงมาจูบเบาๆบนจมูกโด่งรั้นแทน
มีเสียงหัวเราะหึๆจากคนเจ้าเล่ห์ด้านบนที่เห็นว่าแก้มนิ่มขึ้นสีแดงมากกว่าเดิม นั่นทำให้ลู่หานเบะปากใส่แต่แก้มยังแดงอยู่แบบนั้น เซฮุนยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆรอยยิ้มเป็นเด็กน้อยที่ลู่หานนิยาม รอยยิ้มแบบนั้นที่ลู่หานแพ้มากกว่ารอยยิ้มร้ายกาจนั่นเป็นไหนๆ
“หยุดยิ้มแบบนี้” มือเล็กเอื้อมมาบีบแก้มของคนตัวโตกว่าทันที เมื่อเห็นว่าเซฮุนยังยิ้มไม่หยุด รอยยิ้มที่เผยเห็นเขี้ยวเล็กๆแบบนั้นมันอันตรายต่อหัวใจคนมองมากเกินไป
“ทำไม”
“...”
“ชอบผมขึ้นมาอีกนิดแล้วละสิ”
เอ่ยอย่างตรงใจจนคนที่ไม่ยอมรับความจริงได้แต่ทำหน้าบึ้งมากกว่าเดิม ลู่หานผลักเซฮุนให้ออกห่างตัว แล้วลุกขึ้นหยิบช่อดอกไม้เพื่อหาแจกันมาใส่ หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้หัวใจตัวเองต้องตกอยู่สภาวะอันตราย
เซฮุนยังคงยิ้มออกมาไม่หยุด เขารู้ตัวดีว่าไม่ใช่คนยิ้มง่าย แต่ก็ไม่รู้ทำมาถึงอยากยิ้มออกมา แค่เห็นใบหน้าน่ารักที่ทำบึ้งตึงขัดกับแก้มแดงๆ เซฮุนก็รู้สึกเอ็นดูจนต้องยิ้มออกมา
รอยยิ้มทั้งหมด ผมยกให้คุณ
Oh Sehun
Loading…40%
แรงสั่นสะเทือนจากมือถือเครื่องบางทำให้เซฮุนต้องละความสนใจจากคนตัวเล็กที่กำลังจัดดอกไม้อยู่ในครัว มือใหญ่สไลด์หน้าจอกดรับเพื่อรอฟังข่าวบางอย่างจากเพื่อนสนิท
‘งานซื้อรอบนี้ไม่เป็นไปตามแผนหวะ’ ผ่อนลมหายใจออกเมื่อข่าวที่ต้องการได้ยินกลับไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสักเท่าไหร่
“ไม่เป็นไร แต่ซื้ออีกตัวให้ได้”
‘เออ...ไม่พลาดซ้ำเดิมหรอก แล้วนี่มึงจะมาสนามไหม?’
“อาจจะ”
‘ถ้ามึงมา กูได้ลงชื่อนะมิสเตอร์โอ’
“เออ” ตอบรับห้วนๆแล้วก็กดวางสาย พลางลุกขึ้นยืนเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ง่วนอยู่กับดอกกุหลาบอยู่นานสองนาน รอยยิ้มเล็กๆที่เผยออกมาทำให้เซฮุนต้องหยุดชะงัก ลู่หานยังคงทำให้เขาควบคุมหัวใจตัวเองได้อย่างยากลำบากเสมอ
“พี่”
“…?”
“ไปกันเถอะ”
เอื้อมไปจับข้อมือเล็กไว้ แล้วขยับมืออีกข้างปลดเนกไทด์มาพาดบนบ่า ส่วนคนที่กำลังถูกจูงออกจากห้องอย่างไม่ทันตั้งตัวได้แต่กระพริบตาปริบ
“จะพาไปไหน?”
ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงแค่แรงดึงเบาๆที่ทำให้ลู่หานต้องเดินตามออกมา ถึงจะยังไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ว่าจะถูกพาไปไหน แต่คนตัวเล็กก็ยังคงเดินตามแรงดึง อาจเป็นเพราะมืออุ่นที่จับอยู่ตรงข้อมือเป็นความพอดีที่ไม่อึดอัด
เซฮุนยกมือเสยผมด้วยความเคยชิน แล้วหันไปกดรอยยิ้มใส่คนตัวเล็กกว่าที่ยังคงทำหน้ามึนไม่หาย ท่าทางที่เหมือนจะรั้นแต่ก็ยอมเดินเตาะแตะตามมานี่ดูน่ารักใช่น้อยซะเมื่อไหร่ เขาเลยเลือกที่จะยืดเวลาเฉลยไปอีกหน่อย
“พาไปรู้จักกันมากกว่าเดิมJ”
ประตูลิฟท์เปิดออกเหมือนกับหัวใจของลู่หานที่เริ่มเปิดให้กว้างขึ้น เพื่อเรียนรู้โอเซฮุนขึ้นมาทีละนิด
XX HUNHAN XX
ลู่หานมองภาพสนามแข่งรถขนาดใหญ่ตรงหน้าแล้วก็ได้เบิกตากลมๆไปมากกว่าเดิม ท่าทางเหมือนลูกกวางตื่นตูมที่เห็นทำให้เซฮุนต้องส่งเสียงหัวเราะในลำคอ นั่นทำให้คนตัวเล็กต้องหันกลับมามองอย่างค้อนๆ เมื่อถูกจับได้ว่าตื่นเต้นมากแค่ไหน
“อย่าบอกนะว่านายแข่งรถด้วย”
“อ่า...ใช่” เซฮุนยักไหล่แล้วเอ่ยตอบร่างบางที่มองมาอย่างอึ้งไม่หาย
“ทั้งเป็นช่างกล้องถ่ายรูประดับท้อปคลาส แข่งรถ แล้วเรียนนิติฯ อีก นี่ทำไมนายต้องทำอะไรมากมายขนาดนี้”
“เพื่ออิสระละมั้ง” เซฮุนกดรอยยิ้มน้อยๆ แล้วเอ่ยตอบคนตัวเล็กกว่าที่กำลังมองมาอย่างไม่เข้าใจ เอื้อมไปจับข้อมือเล็กเบาๆแล้วกระซิบบอกให้ลงไปด้านล่างได้แล้ว
ลู่หานผลักประตูรถและเดินลงไปตามแผ่นหลังของคนที่อยู่ด้านหน้า คิ้วเล็กขมวดอย่างไม่เข้าใจกับคำที่เซฮุนบอกสักเท่าไหร่ อิสระแบบไหนกันนะที่เซฮุนต้องการ? ยังไม่ได้คิดอะไรต่อ คนที่เดินนำอยู่ด้านหน้าก็หันหลังกลับมา เอื้อมมืออุ่นๆมาจับที่ข้อมือพร้อมลากให้เดินไปทางบ้านกระจกหลังเล็กที่ตั้งอยู่ตรงข้ามสนาม
“ทำไมต้องมองกันด้วยหวะ”
“โมโหอะไร?” ลู่หานเอ่ยถามแล้วทำตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจกับอารมณ์แปรปรวนของคนที่อยู่ด้านข้าง ตอนนี้เซฮุนเปลี่ยนจากจับข้อมือมาโอบไหล่เขาไว้อย่างหลวมๆ หลายคนในสนามยังคงหันมามองตั้งแต่เขาสองคนลงจากรถ นั่นทำให้ลู่หานรู้ได้ทันทีว่าเซฮุนคงจะดังไม่ใช่น้อย
มือใหญ่ผลักประตูสีขาวด้านหน้าพร้อมกับดันตัวคนตัวเล็กให้เดินเข้าไปทันที ปกติเซฮุนก็เคยชินกับการที่มีสายตาหลายคู่มา แต่ครั้งนี้เขากลับรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่กับสายตาที่มองมายังคนที่เดินอยู่ข้างๆ
“พี่ลู่หาน!”
“ไง แบคฮยอน” ส่งรอยยิ้มหวานไปให้จนเด็กน้อยได้แต่ทำท่าเขินใส่ แต่ก็ยังเดินมาลากคนตัวเล็กพอกันให้เดินไปทางโซฟาที่โต๊ะด้านหน้าเต็มไปด้วยถุงขนมมากมายตามประสาเด็กอ้วน
เซฮุนแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกนั่นทำให้ชานยอลที่นั่งอยู่ข้างแฟนเด็กต้องใช้มือใหญ่ของตัวเองปิดตาแบคฮยอนทันที ลู่หานได้แต่ทำหน้าสงสัยใส่กับท่าทางแปลกประหลาดของชานยอล จึงหันหลังกลับไปก็พบกับแผ่นหลังขาวๆที่เต็มไปมัดกล้ามเนื้ออย่างคนออกกำลังกายมาอย่างดี นั่นทำให้ลู่หานต้องรีบหันหลังกลับมาแทบไม่ทัน
“พี่ปิดตาผมทำไม”
“ไอ้เซฮุนมันโป๊”
เซฮุนยักไหล่ใส่เพื่อนที่ขี้หึงไม่เข้าเรื่อง แล้วเดินไปทางตู้เสื้อผ้าด้านหลัง เพราะชีวิตของเขาและปาร์คชานยอลมักอยู่ที่นี่บ่อยๆ ทำให้เขาทั้งสองคนเลือกที่จะมีที่พักอยู่ติดสนาม เหมือนเป็นแหล่งกบดานขนาดย่อมๆ
มองตรงไปยังเสื้อผ้าตรงหน้าแล้วจึงเอ่ยถามคนตัวเล็กที่นั่งหันหลังให้กันอยู่
“พี่ชอบสีอะไร”
“ฉัน..?” หันกลับไปมองคนที่กำลังยืนอวดท่อนบนที่มีมัดกล้ามท้องเรียงสวย แก้มทั้งสองข้างลู่หานร้อนขึ้นมาดื้อๆ เมื่อเซฮุนกดรอยยิ้มมุมปากเสยผมแล้วมองตรงมา ท่าทางแสนฮอตมากกว่านายแบบคนไหนที่เคยเจอมา
ลู่หานกระพริบตาปริบเรียกสติ แล้วยกมือชี้หน้าตัวเองเพื่อย้ำประโยคที่ถูกถามก่อนหน้า เซฮุนพยักหน้ายืนยันทำให้ลู่หานตอบออกมา
“สีขาว...แหละมั้ง”
พอได้ยินคำตอบเซฮุนก็เดินเข้าไปหยิบเสื้อยืดสีขาวด้านในมาสวม พร้อมกับหยิบแจ๊คเก็ตสีดำที่มีตัวอักษร OH ปักอยู่ด้านหลังติดมือออกมาด้วย แล้วโยนคลุมใส่คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟา
“ใส่ไว้...”
“…?”
“…จะได้รู้ว่าพี่เป็นของใคร”
“ขี้หวงจังน้า”
เสียงล้อเลียนแสนทะเล้นของเจ้าเด็กแก้มกลมที่กำลังอมจุ๊บปาจุ้บจนแก้มตุ่ย ทำให้เซฮุนที่กำลังจะเดินผ่านต้องแอบเคาะหัวกลมๆไปหนึ่งทีเป็นการลงโทษ ด้วยความหมั่นไส้เด็กอ้วนแบบเกินพิกัด
ลู่หานหยิบเสื้อแจ๊คเกตที่ถูกคลุมอยู่ออก อ่านชื่อบนหลังเสื้อของคนตัวโตที่เดินออกไปด้านนอกระเบียงกับชานยอล แล้วก็ได้แต่บังคับปากของตัวเองไม่ให้ยิ้มออกมา และนี่มันบ้าไปหน่อยที่ลู่หานจะมายิ้มและใจเต้นแรงเพราะความขี้หวงของใครบางคนที่แสดงออกอย่างชัดเจน
“พี่เซฮุนนี่ไม่ค่อยเลยเนาะพี่ลู่หาน” แบคฮยอนที่อยู่ข้างๆหันมาพยักเพยิดหน้าใส่ ลู่หานก็ได้แต่เออออกับเจ้าเด็กแก้มกลม แล้วหยิบเสื้อคลุมมาใส่ตามที่เซฮุนบอก จนแบคฮยอนแซวขึ้นมาอีกรอบจนได้
“หยุดแซวเดี๋ยวนี้นะแบค!”
“ก็พี่ลู่หานเขินแล้วน่ารัก”
“ใครเขิน!”
“ดูดิ โคตรน่ารักเลยแก้มแดงๆอะ”
ลู่หานไม่รู้จะจัดการกับเจ้าเด็กอ้วนนี่ยังไงให้หยุดแซว เลยตัดสินใจดึงแก้มกลมๆจนยืดติดมือ ทำให้แบคฮยอนพูดได้แต่เสียงอู้อี้ แบบนั้นเลยทำให้คนน่ารักหัวเราะใส่จนเสียงดัง เสียงหัวเราะที่ดังมาด้านนอกทำให้ชายหนุ่มทั้งสองคนที่อยู่ตรงระเบียงต้องหันกลับมามอง ภาพสดใสที่ได้เห็นทำให้เผลอยิ้มออกมาตามๆกัน
“มึงยิ้ม”
“แล้วทำไม” รอยยิ้มกว้างๆหุบลงทันทีที่เพื่อนสนิทอย่างชานยอลเอ่ยทัก
“กูแค่คิดว่ามันดี...”
“...?”
“ดีที่อย่างน้อยมึงก็กลับมายิ้มแบบนั้นอีกครั้ง”
จบประโยคจากเพื่อนสนิท เซฮุนก็เหม่อมองออกไปที่สนามแข่งรถด้านล่าง เสียงเร่งเครื่องยนต์ดังสนั่น พร้อมกับเสียงล้อที่บดเบียดกับพื้นถนน ไม่ได้ทะลุโสตประสาทสักเท่าไหร่ เมื่อคำพูดจากชานยอลทำให้เซฮุนเผลอคิดว่าหลังจากวันนั้นมันก็คงนานมาแล้วที่เขาไม่ได้ยิ้มโง่ๆ แบบที่ไม่มีเหตุผลออกมาแบบนี้
“....”
บุหรี่มวนสีขาวถูกจุดพร้อมกับยื่นให้ตรงหน้า เซฮุนรับไว้ในมือพร้อมกับยกแท่งนิโคตินขึ้นจ่อริมฝีปาก อัดลมร้อนเข้าปอดและผ่อนออกมา จนควันสีขาวลอยวนและจางหายไป
“เรื่องหุ้นคุณชเวที่ซื้อไม่ได้ เหมือนสายจะบอกว่าเขาต้องการอัพราคา…มึงว่าไง”
“อัพเท่าไหร่?”
“สามเท่า แต่กูว่า...”
“คุณชเวมีจุดอ่อน มึงลืมไปรึเปล่าปาร์คชานยอล”
ยกยิ้มร้ายกาจ จนเพื่อนสนิทที่อยู่ข้างๆ ต้องยกยิ้มตามอย่างชอบใจ เมื่อดันเผลอลืมอะไรบ้างอย่างดีๆไปอย่างที่โอเซฮุนบอก ตั้งใจจะกดโทรศัพท์เพื่อจัดการตามที่คิดได้ แต่เสียงประตูที่เปิดพรวดเข้ามา พร้อมกับหน้าตื่นๆของลูกหมาของแฟนตัวเอง ก็ทำให้ชานยอลต้องรีบพุ่งตัวไปหาทันที
“เกิดอะไรขึ้น?” กอดแฟนเข้าอก แล้วลูบหัวปลอบเบาๆ
“มีคนมาเคาะประตูเสียงดังมาก ใครก็ไม่รู้น่ากลัวชะมัดเลย”
“เดี๋ยวกูไปดูเอง ...” เซฮุนดับบุหรี่ในมือพร้อมกับเดินออกจากริมระเบียงไป และไม่ลืมหันมากระชับคนตัวเล็กที่ใส่เสื้อแจ็คเก็ตของตัวเอง ให้อยู่ด้านในกับปาร์คชานยอล
ผมไม่ใช่คนขี้หวงแค่อยากให้รู้ ว่าคุณเป็นของผม
Oh Sehun
Loading…100%
#ดับเบิ้ลxฮฮ
ไม่ต้องกลัวใจเรา มาสเตอร์ไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้นหรอก !
แต่แท๊กกันเยอะๆ คอมเม้นกันเยอะๆหน่อยสิค้าบ .__.
ให้กำลังใจนี่หน่อยนะ ฮื่อ
คำผิดบอกได้นะคะ จะแก้ไข ขอบคุณสำหรับที่บอกนะคะ :)
มาสเตอร์คนเดิมที่โปรเจคกำลังกองทับหัว :(
@Master_yp
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฮรือ แต่งชานแบคโหน่ยยย
รู้สึกดีที่ว่าฟิคมีตัวโกง(ขอถือว่าพี่คริสกับยัยแจริมเป็นตัวโกงนะ5555 *กราบพี่คริส*)
แต่ทำไรพระเอกนางเอกไม่ได้55555555 ขออย่าให้ทำไรได้ไปตลอด
ขอให้พระนางเข้าใจกันแบบนี้ตลอดไปนะก๊ะ
อยากให้สองคนเค้าลงเอยกันจังง TT