ตอนที่ 6 : xx ♥ 005(100%)
DoubleX 005
Theme song : Shake it - sistar
I need you like a heart needs a beat.
ลู่หานค่อนข้างเชื่อในทฤษฎีที่ว่าโลกค่อนข้างกลม แม้ไม่ได้กลมแบบลูกฟุตบอลแต่ถึงแบบนั้นมันก็ยังถือว่ากลมอยู่ดี เพราะมันทำให้เกิดความบังเอิญให้เจอใครคนเดิมอีกครั้ง เป็นความบังเอิญที่พระเจ้าดูจงใจมากเกินไป เมื่อทำให้เขาได้เจอกับโอเซฮุนที่เพิ่งเจอกันเมื่อคืน
เรื่องราวน่าอายเมื่อคืนไหลย้อนมา ทุกความรู้สึกเลยพุ่งเข้าใส่คนตัวเล็กจนอยากจะระเบิด แต่ก็ทำได้เพียงซ่อนทุกอย่างไว้ ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยแสนเย่อหยิ่ง
“คุณแอรีสคะ? จินนี่ว่าเติมแก้มอีกหน่อยไหม?” สไตล์ลิสสาวไม่แท้ ส่งเสียงบีบดัดพร้อมกับถือบรัชออนสีอ่อนเตรียมแต้มบนแก้มใส ที่เจ้าของพนักหน้าขึ้นลงอนุญาติ
“นี่จินนี่ เธอรู้จักช่างกล้องคนนั้นไหม”
“ช่างกล้องสุดฮอตคนนั้นเหรอคะ”
“อื้ม”ตอนรับเสียงเนือยๆ แล้วกอดอกรอฟังคำบอกเล่าจากสไตล์ลิสคนสนิท
“เห็นยัยพวกสาวๆข้างนอกเม้าว่าเป็นช่างกล้องฝีมือดีที่หาตัวจับยากเลยแหละค่ะ บอสอยากได้มาถ่ายให้นิตยสารเราตั้งหลายรอบ แต่คุณเขาดันรับเฉพาะถ่ายแบบเมืองนอกและรูปวิวอะไรประมาณนั้น นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งคะที่รับงานถ่ายแบบในเกาหลี”
“ทำไมหละ?” เอ่ยถามอย่างสงสัย พลางขมวดคิ้ว
ลู่หานกำลังคิดว่านี่คือความบังเอิญมากเกินไป หรือไม่ก็เป็นความจงใจของใครบางคน ใครบางคนที่ดูอันตรายและทำให้เรื่องบังเอิญเกิดขึ้นมาง่ายดายซะขนาดนั้น
“อันนี้จินนี่ก็ไม่รู้ สงสัยคุณแอรีสต้องไปถามช่างกล้องคนนั้นเองมั้งคะ”
สไตล์ลิสที่แต่งแต้มเครื่องสำอางค์สีอ่อนบนใบหน้าหวานใสเสร็จหัวเราะออกมาน้อยๆ พร้อมทั้งเอ่ยแซวนายแบบคนสวยที่ตอนนี้ทำตาโตดุเพราะเธอดันหัวเราะใส่เสียงดังมากเกินไป ถึงคุณแอรีสของเธอจะดูเหวี่ยงมากซะขนาดไหน แต่ความจริงแล้วนายแบบหนุ่มตัวเล็กคนนี้ น่ารักและสุดแสนจะเป็นกันเอง ถ้าสนิทกันแล้วแบบจินนี่หนะนะ
รอเวลาไม่นานผู้จัดการคยองซูของลู่หานก็เดินออกมาตาม คนตัวเล็กเดินออกไปจากห้องแต่งตัว พร้อมกับสายตาไปสบกับดวงตาคมของใครบางคน โอเซฮุนก็ยังคงดูฮอตเป็นบ้าเหมือนทุกทีที่เจอกัน แค่เพียงใส่ยีนส์สีซีดหนึ่งตัว กับเสื้อยืดสีขาวที่ดูไม่มีอะไรนั่น แค่นั้นก็เพียงพอให้ผู้ชายคนนี้ตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายคน
เป็นช่างกล้องที่ดูเหมือนจะมาเป็นนายแบบซะเอง
“สวัสดีครับคุณแอรีสลู่” ช่างกล้องตัวโตยื่นมือมาทำความรู้จักกับนายแบบตัวเล็กที่ตอนนี้ทำหน้าบึ้งใส่ แต่ก็ยอมยื่นมือเล็กนุ่มนิ่มมาจับ เซฮุนก้มลงไปจูบบนหลังมือเล็กเพื่อเป็นการทักทายแบบธรรมเนียมต่างชาติ แต่ถึงแบบนั้นคนตัวเล็กก็แอบสะดุ้งพลางดึงมือน้อยของตัวเองกลับไปทันที
ท่าทางเหมือนกวางน้อยตื่นตูมแบบนั้น ทำให้เซฮุนรู้สึกอยากรังแกขึ้นมามากกว่าเดิม
แถมเซทธีมถ่ายแบบวันนี้ก็ทำให้คนตัวโตต้องแอบยิ้มร้ายกาจ ‘ความเซ็กซี่ที่แสนบริสุทธิ์’แค่ชื่อธีมเซฮุนก็รู้สึกท้าทายไม่ใช่น้อย ที่ต้องถ่ายคนตัวเล็กให้ออกมาในแนวเซ็กซี่แต่ก็ดูไร้เดียงสา
“โอเคใช่ไหมลู่หาน ธีมค่อนข้างยากนะ”
“โอเคสิพี่คยองซู ไหวอยู่” ส่งรอยยิ้มน่ารักไปให้ผู้จัดการส่วนตัว แล้วเดินเข้าฉากสีขาวที่ถูกเซทออกมาอยากดี คนตัวเล็กปีนตัวขึ้นบนที่นอนสีขาวที่ถูกจัดวางมา เมื่อฉากแรกเขาต้องถ่ายเล่นอยู่บนที่นอน และทำทีเหมือนเพิ่งตื่นนอนตอนเช้า
“พร้อมไหมครับ?”
ช่างกล้องสุดฮอตเดินเข้ามาใกล้ แล้วเอ่ยถามร่างบางที่อยู่ในเสื้อเชิร์ตสีขาวที่ปลดกระดุมออกหลายเม็ด เป็นความเซ็กซี่เย้ายวนที่เซฮุนรู้สึกถึงความเป็นมืออาชีพของคนตัวเล็ก คล้ายกับอังเดรนายแบบเฟมินิสซึมชื่อดังของโลกที่เขาพึ่งเป็นถ่ายแบบมาทั้งสวยทั้งหล่อใบหน้าคมหวานมีเสน่ห์ แต่ลู่หานกลับดึงดูดใจของเขามากกว่านั้น
“พร้อมตั้งนานแล้ว นายละ?”
ประโยคสุดท้ายเอ่ยถามช่างกล้องตัวโตเบาๆพลางกดยิ้มอย่างยั่วยวน เวลานี้แหละที่ลู่หานจะเอาคืนและทำให้ช่างกล้องมืออาชีพที่หาตัวจับยากได้หัวปั่น J
แชะ !
ภาพแรกถูกถ่ายขึ้นมา เมื่อลู่หานบิดตัวขี้เกียจอย่างเป็นธรรมชาติ มือเล็กปิดปากทำทีหาวนั่นก็ดูน่ารักจนช่างกล้องแอบใจสั่น เซฮุนถ่ายแบบให้นิตยสารเมืองนอกมาหลายฉบับเจอทั้งนายแบบนางแบบที่เซ็กซี่เป็นอับดับต้นของโลก แต่กลับไม่มีใครทำให้เขาตั้งสมาธิกับงานได้ยากขนาดนี้
แค่เพียงคนตัวเล็กช้อนสายตามองอ้อน พร้อมกับกัดริมฝีปากอิ่มเล็กๆ ก็เหมือนสติของช่างกล้องมืออาชีพเริ่มสั่นคลอน
“ดีครับดี” เอ่ยชม พลางกดมือรัวถ่ายรูปต่อไป และพยายามตั้งสติให้มากกว่าเดิม
“…”
“ปรับแสงลงด้านขวาหน่อยครับ” ขยับมือเป็นสัญญาณให้กับคนควบคุมไฟ แล้วเดินเข้าไปใกล้นายแบบคนสวย เซฮุนเปลี่ยนกล้องเป็นอีกแบบเมื่อเป็นรูปถ่ายระยะใกล้ เอื้อมมือไปจัดหมอนที่กระจายอยู่รอบตัวคนตัวเล็กให้วางในตำแหน่งที่เหมาะสม
“ขอโทษนะครับ” แตะไหล่บางเบาๆ เพื่อให้อยู่ในท่าทางทีที่ต้องการ ในตอนแรกลู่หานตั้งใจจะทำเซ็กซี่ใส่ ตอนนี้ทำได้เพียงเป็นลูกกวางแสนรั้นที่ขยับตัวถอยห่างเมื่อร่างสูงเข้าไปใกล้ เซฮุนแอบกดยิ้มกับท่าทางของคนตัวเล็กที่อยู่ในกรอบสายตา
“จะให้ทำท่ายังไงก็บอกมาสิ”
“แบบนี้แหละครับ ผมแค่อยากจัดเสื้อคุณนิดหน่อย”
พูดจบนิ้วเรียวของคนตัวโตก็เอื้อมไปแตะเสื้อเชิ้ตสีขาวของคนตัวเล็ก แล้วขยับให้ล่นลงมาเผยให้เห็นไหล่ขาวนวลเนียน ที่ทำให้หลายคนในสตูดิโอแอบใจสั่นไม่เว้นแม้แต่คนตัวโตที่จงใจแกล้งก็เช่นกัน
“เหมือนเชือกด้านหลังคุณจะหลุด”
“อืม งั้น...มัดให้หน่อยสิ” แกล้งพูดกัดปากขอแบบที่ร้อยทั้งร้อยต้องยอมสยบ
เซฮุนยังคงตามเกมส์ของลู่หานทันอยู่ แม้จะรู้ตัวว่าถูกปั่นหัวจนแทบบ้าตายกับความเซ็กซี่ร้ายเดียงสาที่ทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจของคนตัวเล็ก แขนแกร่งอ้อมไปด้านหลังทำให้ระยะห่างทั้งคู่ลดน้อยลง ลมหายใจร้อนเป่ารดต้นคอขาว ท่าทางเหมือนถูกกอดอยู่กลายๆทำให้คนแสนรั้นต้องแอบสั่นไหว เมื่อไม่คิดว่าจะถูกเอาคืนด้วยวิธีการแบบนี้
มือร้อนเอื้อมไปผูกเชือกด้านหลังของเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ร่างบางสวมใส่ จงใจขยับนิ้วเข้าไปในเสื้อเชิ้ตแล้วแกล้งลากนิ้วร้อนผ่านเอวคอดแล้วอ้อมไปแผ่นหลังบาง เซฮุนกดยิ้มมุมปากเมื่อร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดแอบเกร็งตัว คนตัวโตมัดปมเสื้อเสร็จพอดีกับมือเล็กผลักอกแกร่งให้ออกห่าง จมูกรั้นขึ้นสีแดงจางทำให้เซฮุนแอบกดรอยยิ้ม พลางเอื้อมไปหยิบกล้องมาไว้ในมือตามเดิม
ตั้งใจจะทำให้เซฮุนต้องใจสั่น แต่กลายเป็นตัวเองซะเอง เหมือนสุดท้ายแล้วเกมส์นี้ ผู้ชนะก็ยังคงเป็นชายหนุ่มที่แสนอันตรายคนนั้นเหมือนเดิม
แชะ !
เสียงกดถ่ายภาพยังคงดำเนินต่อไป ลู่หานตอนนี้เปลี่ยนมานอนคว่ำแล้วแกล้งส่งสายตาไปให้ช่างภาพตัวโตที่กำลังเซทกล้องอยู่ให้ใจสั่นเล่น ทำให้เซฮุนต้องขยับตัวเข้าไปใกล้แล้วแอบกระซิบใส่หูเล็กทันที
“ถ้าผมเป็นแฟนพี่...คงหึงตาย”
“ขอโทษทีนะ...”
“….”
“ก็ตอนนี้นายไม่ได้เป็นแฟนฉันนี่”
ขยับตัวเข้าไปกระซิบกลับใส่หูของคนตัวโตกว่า แล้วกัดปากยิ้มอย่างอารมณ์ดี เมื่อคิดว่าตัวเองเอาคืนได้สำเร็จ พูดจบก็ลุกขึ้นเพื่อไปเปลี่ยนชุดทันทีตามที่ผู้จัดการส่วนตัวเดินมาบอก นั่นทำให้เซฮุนต้องยกยิ้มร้าย เมื่อรู้สึกถึงความท้าทายที่ส่งมาจากคนตัวเล็ก
ฉากต่อไปเป็นการถ่ายทำฉากใกล้กันที่ถูกจัดเป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่มีลำธารเล็กๆให้น้ำใสไหลผ่าน และดอกไม้หลายชนิดส่งกลิ่นหอมอบอวน ลู่หานเผลอสูดกลิ่นหอมธรรมชาติที่ตัวเองหลงใหลอย่างอารมณ์ดี คนตัวเล็กหยิบดอกไฮยาซินท์ที่วางอยู่ขึ้นมาจับพลางมองช่อดอกไม้สีม่วงอ่อนด้วยแววตาชื่นชมกับกลีบดอกห้าแฉกสวยงามที่บานสะพรั่ง
แชะ!
เซฮุนยังคงทำหน้าที่ต่อไป มือใหญ่กดรัวชัตเตอร์เมื่อเห็นว่านายแบบตัวเล็กเผยให้เห็นสีหน้าที่ผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติ เหมือนคนตัวเล็กกำลังหลุดไปในโลกที่ตัวเองสร้าง มือเล็กหยิบช่อดอกไม้ขึ้นมาใกล้จมูกโด่งรั้น สูดดมความหอมแล้วหลับตาพริ้ม แสงไฟสีอ่อนที่กระทบใบหน้าหวานใส ทำให้แอรีสลู่ดูน่าหลงใหลมากขึ้นกว่าเดิม
นั่นเป็นอีกครั้ง หัวใจที่เซฮุนเคยคิดว่ามันตายด้าน กลับเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้
“ดอกไฮยาซินท์ มันมีตำนานที่น่าเศร้า แต่ความหมายของมันคือดีมากเลยนะ”
ปากอิ่มเอ่ยอธิบาย เมื่อเซฮุนขยับตัวเข้ามาเพื่อถ่ายภาพระยะใกล้ คนตัวโตยังคงกดชัตเตอร์ถ่ายภาพต่อไปแต่ก็เอ่ยถามความหมายของดอกไม้ชนิดนี้จากร่างบาง
“ความหมายของมันก็คือความรักที่มั่นคง”
รอยยิ้มสวยถูกเผยออกมา พอดีกับเซฮุนกดปุ่มชัดเตอร์ ภาพที่ดูสวยงามและอ่อนหวานถูกถ่ายออกมาผ่านเลนส์กล้อง ภาพที่ทำให้ผู้ชายยิ้มยากแบบเซฮุนต้องเผยรอยยิ้มตามออกมา รอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้มร้ายกาจแบบทุกทีทำให้คนตัวเล็กที่จ้องมองอยู่ต้องเผลอใจเต้นแรง
เซฮุนเดินอ้อมไปทางด้านหลังคนตัวเล็กเมื่อเห็นดอกกุหลาบพันธุ์เล็กสีชมพูอ่อนที่มีเกสรสีเหลืองบานอยู่ตรงกลาง เซฮุนแทบไม่รู้จักความหมายของดอกไม้ มีเพียงดอกกุหลาบชนิดนี้ที่เซฮุนรู้จักเป็นอย่างดี เพราะปาร์คชานยอลมันชอบบอกว่าความรักของเขาก็เป็นแบบนี้
“โรซ่าแคโรไลน่า” ปากอิ่มเอ่ยชื่อดอกไม้ดอกเล็กที่ถูกวางลงบนมือบาง
พร้อมกับสบสายตากับดวงตาคมสีเขียวเข้มที่มองมาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ที่พร้อมจะดึงดูดให้ตกลงไปในหลุมที่ถูกสร้างเอาไว้ อย่างจงใจ
รักที่อันตราย คือความหมายของดอกกุหลาบดอกนี้
ความรักของผมอันตราย แต่ก็อยากให้คุณสัมผัสมัน
Oh Sehun
Loading…45%
“ลู่หาน...เดี๋ยวเหลือสัมภาษณ์อีกอย่างนะ พี่ว่าจะออกไปก่อน”
ผู้จัดการตาโตเดินมาสะกิดไหล่เล็กของนายแบบในสังกัดที่กำลังนั่งเหม่อลอยพร้อมกับหมุนขวดแก้วใบเล็กที่ใส่ดอกกุหลาบไปมา ท่าทางดูไม่ปกติแบบทุกทีทำให้คยองซูรู้สึกแปลกใจ หรืออาจเป็นเพราะช่างกล้องคนนั้นที่ดูเหมือนทั้งสองคนจะรู้จักกันมาก่อน
“มีอะไรรึเปล่า?”
“อ่า..ไม่หรอก ว่าแต่พี่ทำไมไม่อยู่รอกลับพร้อมกันเลยหละ”
มือเล็กเก็บขวดแก้วใบเล็กใส่กระเป๋าพลางเอ่ยเสียงอ้อนใส่ผู้จัดการส่วนตัว วันนี้ลู่หานรู้สึกเหนื่อย การถ่ายแบบนั่นกินพลังงานของเขาไปมากโข ไหนจะต้องพยายามปั่นหัวช่างกล้องจอมเจ้าเล่ห์นั่นอีก เพราะแบบนั้นเขาเลยเสียพลังงานมากเกินจำเป็น ตอนนี้อยากกลับไปนอน แต่ก็ติดต้องที่มีสัมภาษณ์ต่อ L
“เจ้าหมีบ้านั่นหนะสิ โทรไปเป็นสิบสายยังไม่ยอมรับโทรศัพท์ อีกหนึ่งชั่วโมงก็ต้องไปงานแล้ว นอนขึ้นอืดอยู่แน่ๆ”
“งั้นพี่รีบไปเลย” คนที่รู้แผนการของเพื่อนสนิทดีก็ดันหลังผู้จัดการที่ตกหลุมพรางเจ้าหมีขี้เซาให้ออกไปทันที
“ห้ามไปกินหัวคนสัมภาษณ์ละ เหนื่อยๆแบบนี้”
“รู้แล้วละหน่า”
“รถจอดที่เดิมนะ”
“รู้แล้ว”
“แล้วก็….”
“พี่คยองซู ไม่ต้องถ่วงเวลาหรอก...ยังไงจงอินไม่ยอมตื่นง่ายๆ พี่ต้องไปปลุกหมอนั่นบนที่นอนอยู่ดีนั่นแหละJ”
ลู่หานหัวเราะจนตาปิดให้กับผู้จัดการที่ทำหน้ามุ่ยและทำปากมุบมิบยกใหญ่ ไม่พ้นก็สาปแช่งคิมจงอินอีกตามเคย จนผู้จัดการตัวเล็กหายไปจากกรอบสายตา มือเล็กก็หยิบขวดแก้วใบเดิมขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับดวงตากลมโตจ้องไปที่ดอกโรซ่าแคโรไลน่าสีชมพูอ่อน
เพราะลู่หานรู้ความหมายของดอกไม้ดอกนี้ดี รักที่อันตรายคงไม่ต่างจากผู้ชายคนนั้น
“คุณแอรีสคะ มีสัมภาษณ์ต่อที่สวนนะคะ”
“โอเค ขอบคุณนะ” เอ่ยขอบคุณทีมงานที่เดินมาตาม พร้อมกับเปิดประตูห้องพักส่วนตัวออกไป เดินไปตามทางเดินสตูโอแล้วเปิดประตูไม้ด้านข้างที่ทีมงานหญิงคนนั้นบอกว่าเป็นสวนที่มีการสัมภาษณ์รออยู่ คนตัวเล็กผลักบานประตูไปเจอกับสวนไม้สีเขียวที่ร่มรื่น เดินตรงไปยังโต๊ะไม้สีขาว แล้วส่งยิ้มให้ทีมงานสัมภาษณ์ที่พอคุ้นหน้าคุ้นตากันดี
“สวัสดีครับ ผมสายใช่ไหม?”
“สำหรับคุณแอรีส พวกเรารอได้อยู่แล้วแหละค่ะ” ส่งยิ้มตอบรับตามมารยาทและหย่อนตัวลงนั่ง พลางหยิบแก้วลาเต้ปั่นแบรนด์สีเขียวของโปรดขึ้นมาดื่ม คงเป็นพี่คยองซูตามเคยที่สั่งอะไรมาดับอารมณ์เหนื่อยของเขา เพราะงานวันนี้กินเวลาเกือบทั้งวันทำให้ตอนนี้ลู่หานแทบจะหมดแรง
“เริ่มกันเลยดีกว่าไหมครับ”
“อ่า งั้นคำถามแรกเลยนะคะ คุณแอรีสคิดยังไงกับธีมถ่ายแบบวันนี้คะ?”
“สำหรับผมคิดว่าเป็นคอนเซปที่ค่อนข้างท้าทายนะครับ เพราะว่าปกติแล้วธีมการถ่ายจะแยกเป็นแนวๆฉีกกันไปเลย แต่นี่เอาทั้งสองธีมที่ดูต่างกันมากๆมารวมกัน ให้ทั้งเซ็กซี่แต่ก็ดูใสๆ ผมเลยรู้สึกว่ามันค่อนข้างยากซักหน่อย แต่พอถ่ายทำดูแล้วก็ดูสนุกดีนะครับ”
“แต่จากที่ดูในสตูดิโอ คุณแอรีสก็สื่อออกมาได้ดีมากเลยนะคะ เชื่อว่ารอบนี้นิตยสารของเราคงเป็นที่ต้องการอีกตามเคยแน่เลยค่ะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”
บทสัมภาษณ์ยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ กลิ่นหอมอ่อนดอกไม้ในสวนที่ลอยแตะจมูกทำให้ลู่หานรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมานิดหน่อย แต่ถึงแบบนั้นก็ยังภาวนาให้บทสัมภาษณ์จบลงเร็วๆซักที เพราะตอนนี้เขาอยากจะพักเต็มแก่
“ขอบคุณนะคะ”
ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีเวลาที่ลู่หานรอคอยก็มาถึงพิธีกรสาวที่สัมภาษณ์โค้งตัวลา ทำให้นายแบบหนุ่มตัวเล็กต้องยืนตัวและโค้งบอกลาเช่นกัน ลู่หานกล่าวขอบคุณทีมงานทุกคนที่วันนี้ก็เหน็ดเหนื่อยไม่ต่างกัน พลางหันหลังไปอีกด้านเผื่อหมุนตัวออกไปอีกเส้นทางที่สามารถไปโรงจอดรถ แต่ก็เป็นความโชคร้ายเมื่อข้อเท้าเล็กก้าวพลาดสะดุดท่อนไม้ที่วางขวางไว้จนล้ม
เสียงหวีดร้องของคนที่เห็นเหตุการณ์ดังขึ้นทันทีเมื่อนายแบบตัวเล็กล้มไปกองกับพื้น
“โอย บ้าเอ้ย” สถบออกมาเสียงดัง พลางดันตัวขึ้นแต่ความรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ข้อเท้าก็ทำให้คนตัวเล็กต้องทำหน้าแหยเก โดยไม่รู้เลยสักนิดว่ามีใครบางคนที่กำลังจ้องมองร่างบางอยู่ตลอดเวลาที่ให้สัมภาษณ์พุ่งตัวเข้ามาหาทันที
“อยู่นิ่งๆสิ” เอ่ยบอกเสียงเข้มพลางขยับตัวลงไปนั่งอยู่ข้างคนตัวเล็กที่เงยหน้ามามองอย่างตกใจ ลู่หานคิดว่าโอเซฮุนจะกลับไปแล้วซะอีก แต่ไหงคนตัวโตมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา แถมจับข้อเท้าเขาดูอยู่แบบนี้ !
“นาย..”
“อย่าขยับอีกนะ...ดูถ้าข้อเท้าจะผลิก เดินเองคงไม่ไหวหรอกเดี๋ยวอุ้มไปแล้วกัน”
“จะบ้ารึยังไง?”
“หรือพี่จะลุกขึ้นเดินละ”
จ้องมองคนตัวเล็กที่ทำหน้ารั้นขึ้นตามประสา แม้หางตาจะคลอไปด้วยน้ำใสเพราะดันอวดเก่งขยับตัวเองพยายามลุกขึ้นยืน ท่าทางที่ดูขัดตานั่นทำให้เซฮุนต้องสอดมือไปรองท่อนขาเรียวแล้วยกคนตัวเล็กแสนอวดเก่งขึ้นอุ้มทันที
“ย๊า!” ตั้งใจจะร้องโวยวายเสียงดังแต่ก็ต้องปิดปากตัวเองไว้ เพราะภาพพจน์ที่ควรจะรักษา ทีมงานหลายคนที่อยู่ล้อมรอบพยายามจะถามคนตัวโตว่าต้องการความช่วยเหลืออะไรไหม แต่เซฮุนก็เพียงทำหน้านิ่งส่ายหัวและอุ้มนายแบบตัวเล็กออกนอกจากสวนข้างสตูดิโอทันที
“นายจะพาฉันไปไหน รถฉันอยู่ตรงนู้นนะ!”
พอพ้นจากคนมาได้สักพักลู่หานก็เอ่ยโวยวายเสียงดังใส่ทันที เมื่อเห็นว่าแทนที่คนตัวสูงจะพาเขาไปตรงโรงจอดรถของบริษัทแต่กลายเป็นว่าพาไปโรงจอดรถอีกทาง และสัญชาตญาณบางอย่างในใจของลู่หานก็ร้องเตือนทันทีว่านี่ไม่ปลอดภัยเลยสักนิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากเมื่ออาการปวดจี๊ดที่ข้อเท้าเริ่มเล่นงานเข้าอย่างจัง
“นี่...ได้ยินกันไหมเนี่ย!”
เซฮุนเลือกที่จะไม่โต้ตอบอะไรคนตัวเล็กที่กำลังโวยวายใส่ เพียงแค่เดินมุ่งหน้าไปที่รถของตัวเอง ใบหน้าแหยเกที่หลุดออกมาก็บ่งบอกได้ทันทีว่าคนตัวเล็กแสนรั้นนี่รู้สึกเจ็บมากแค่ไหน นั่นทำให้เซฮุนต้องก้าวเท้าเร็วๆไปที่รถ แล้วกดปลดล๊อคทันที
“นายจะพาฉันไปไหน พาฉันไปที่รถบริษัทเดี๋ยวนี้นะ โอเซฮุน!”
“ผมนึกว่าพี่จะจำชื่อผมไม่ได้ซะอีกJ” กดยิ้มมุมปากแล้วเปิดประตูเมอร์ซิเดสคันหรูพร้อมกับวางร่างบางลงบนเบาะข้างคนขับ
คนที่เพิ่งเคยเรียกชื่อเซฮุนครั้งแรกได้แต่ทำหน้าเหวอเมื่ออยู่ๆคนที่ไม่ยอมพูดอะไรสักอย่างก็ตอบกลับมาแบบนี้ ยังไม่ทันให้สมองได้ประมวลผลดี คนเจ้าเล่ห์ก็สตาร์ทรถและเร่งเครื่องยนต์ออกตัวทันที
“นี่...นายจะพาฉันไปไหน?” ลู่หานตอนนี้พยายามทำตัวให้ลีบติดเบาะและประตูรถมากที่สุด แตกต่างจากครั้งแรกที่เคยขึ้นรถกับผู้ชายคนนี้ ก็ตอนนั้นเขายังไม่ทันรู้ว่าผู้ชายดวงตาสีเขียวอมฟ้านี่อันตรายมากขนาดไหน แต่ตอนนี้รู้แล้ว...แถมรู้ซึ้งดีเชียวละ
“ผมจะพาพี่ไปรักษาอาการข้อเท้านี่ไง”
ได้ยินเสียงเข้มๆตอบกลับมาลู่หานก็รู้สึกเบาใจไปได้เปราะหนึ่ง ก้มมองดูข้อเท้าของตัวเองที่ตอนนี้สีเริ่มม่วงคล้ำจนน่ากลัว นั่นทำให้ปากอิ่มต้องเบะลงเมื่ออาการปวดเริ่มมีมากขึ้นกว่าเดิม
“พี่อยู่ร้านไหม? มีคนข้อเท้าพลิกผมจะพาไปที่คลินิก”
ดวงตากลมโตหันไปสบกับคนตัวโตที่ตอนนี้กำลังต่อสายโทรศัพท์หาใครบางคน คิ้วเข้มขมวดมุ่นจนแทบจะติดกัน เหมือนอาการข้อเท้าพลิกของเขานั่นร้ายแรงหนักหนา ความจริงมันก็ร้ายแรงนั่นแหละ เพราะตอนนี้เขารู้สึกเจ็บจี๊ดจนน้ำตาแทบไหลแถมสียังช้ำจนน่ากลัว แต่มันก็ไม่ได้ฉุกเฉินมากขนาดที่โอเซฮุนต้องขู่กรรโชกคนปลายสายซะขนาดนั้นนี่ .__.
“ปิดร้านอะไรตอนนี้หวะ พี่เป็นหมอประสาอะไรเนี้ย”
เสียงดังต่ออีกพักใหญ่แล้วกดวางมือถือ พร้อมกับหักพวงมาลัยแล้วกลับรถทันทีจนลู่หานได้แต่กอดเข็มขัดนิรภัยแน่น ความจริงเขาก็ชอบความเร็ว แต่ไม่ใช่ความเร็วที่มากขนาดนี้ แถมหน้าตาคนขับยังน่ากลัวจนลู่หานแทบไม่กล้าปริปากออกมา ไม่กล้าที่จะถามด้วยซ้ำว่ากำลังพาเขาไปที่ไหน
Xx HunHan xX
ตอนนี้ลู่หานกำลังนั่งอยู่บนโซฟาสีดำสนิท ดวงตากลมโตมองสำรวจไปทั่วห้องชุดคอนโดขนาดใหญ่ที่ถูกตกแต่งดีไซน์ด้วยสีขาวสลับดำ ลู่หานถูกอุ้มมาวางโดยคนตัวโตหลังจากที่เลี้ยวรถเข้าจอดที่คอนโดแห่งนี้ หลังจากนั้นก็ถูกพาขึ้นมาบนห้องชุดชั้นนี้โดยลิฟท์โดยสารที่ยกพาขึ้นมาได้ทั้งรถ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคอนโดนี่จะแพงมากขนาดไหน
“นี่...” ส่งเสียงเรียกหาคนที่เอายาแก้ปวดมาวางแล้วเดินหายไปไหนไม่รู้
เจ้าของดวงตาสีเขียวเข้มโผล่ตัวออกมาจากห้องด้านข้างแล้วทำหน้ายุ่ง พลางสาวเท้าเดินเข้ามาหา แววตาจริงจังที่มองสบทำให้ลู่หานได้แต่ลอบกลืนน้ำลาย เซฮุนตอนนี้เหมือนกับกองไฟขนาดย่อมดูกำลังโมโหและหงุดหงิดอะไรอยู่ซักอย่าง
“นี่คือยานวดแก้ปวดใช่ไหม”
ยื่นหลอดสีขาวสลับส้มมาให้ ทำให้ลู่หานขยับตัวไปอ่านแล้วพยักหน้าตอบรับ ร่างสูงยังคงขมวดคิ้วอยู่แบบนั้นแม้สายตาที่มองมาจะอ่อนลงก็ตาม เซฮุนทิ้งตัวลงนั่งตรงหน้าพลางหยิบข้อเท้าบางมาวางบนหน้าตัก ลู่หานเบิกตาตกใจเมื่อไม่คิดว่าคนตัวโตจะทำอะไรแบบนี้
“ฉะ..ฉันทาเองก็ได้นะ”
“อยู่นิ่งๆไปเลย”
เงยหน้ามาสบดวงตากลม แล้วก็ก้มลงไปสนใจกับข้อเท้าเล็กที่ตอนนี้เริ่มขึ้นสีม่วงช้ำจน่ากลัว เซฮุนกำลังจะบ้าตายกับความรู้สึกปั่นป่วนในใจ เขากำลังเสียศูนย์และควบคุมตัวเองไม่ได้ กับแค่เห็นหยาดน้ำใสไหลจากดวงตากลมโตตอนที่เขาอุ้มคนตัวเล็กเข้ามาในห้อง
ป้ายยาลงบนข้อเท้าของตัวเล็กอย่างแผ่วเบา เซฮุนไม่เคยนวดเท้าให้ใครมาก่อนแต่เขาก็เคยข้อเท้าพลิกตอนเล่นกีฬาอยู่บ่อยๆเลยจะพอมีความรู้อยู่บ้าง แม้ตอนแรกจะแอบสับสนกับตัวยาทาที่พี่หมอซิ่วหมินเก็บไว้ให้เกือบสิบหลอด เพราะมีช่วงหนึ่งที่เขาเล่นบาสบ่อยและมักจะพึ่งพายานวดแก้ปวดอยู่เสมอ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอเป็นตอนนี้ก็อยากจะเลือกยาที่ดีที่สุดให้กับคนตัวเล็กที่กำลังเบะปากอิ่มพร้อมกับทำหน้าแหยอยู่ตรงหน้า
ลู่หานมองคนตัวโตที่กำลังนวดข้อเท้าให้ตัวเองได้อย่างเบาเหลือเชื่อ ตากลมโตมองสำรวจใบหน้าที่ถูกพระเจ้าปั้นแต่งมาอย่างดี จมูกโด่งที่รับเข้ากับริมฝีปากหยัก พร้อมกับคิ้วเข้มที่ขมวดเป็นปมเพราะกำลังตั้งใจนวดข้อเท้าของเขาอยู่ นั่นทำให้ต้องยอมรับว่าโอเซฮุนเป็นผู้ชายที่หล่ออย่างร้ายกาจ
ความอ่อนโยนที่ลู่หานได้สัมผัส ทำให้คนตัวเล็กต้องเผยรอยยิ้มบางเมื่อได้เห็นบางมุมที่ดูน่ารักของผู้ชายที่บอกว่าตัวเองอันตรายนักหนา
“ผมไม่เคยนวดข้อเท้าให้ใครมาก่อน...”
“และฉันเป็นคนแรก” คนตัวเล็กที่รู้คำตอบดีเผยรอยยิ้มหวานพร้อมกับเอ่ยขอบคุณเบาๆกับคนตัวโตตรงหน้า ใบหน้าน่ารักขึ้นสีจางทำให้โอเซฮุนอดใจไว้ไม่อยู่ เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้ทั้งเซฮุนขยับตัวเข้าไปใกล้ร่างเล็กมากยิ่งขึ้น
“พี่เป็นคนแรกที่ทำให้ผมอยากจูบโดยไม่มีเหตุผล”
ทันทีที่ประโยคสารภาพสิ้นสุดลง ริมฝีปากอุ่นร้อนก็ทามทับลงมา ความหวานละมุนที่ได้สัมผัสทำให้ลู่หานต้องเผลอตอบรับจูบแสนหวาน ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอออกทำให้ลิ้นร้อนรุกล้ำเข้าหยอกล้อกับลิ้นเล็กอย่างง่ายดาย สัมผัสแสนละมุนนุ่มเหมือนสายไหมละลายทำให้ร่างเล็กต้องใจสั่น มือบางเกาะเกี่ยวหลังเสื้อคนตัวสูง พอดีกับแผ่นหลังบางแนบสนิทกับโซฟา
จูบแสนหวานยังดำเนินต่อไป สิ้นสุดลงตรงที่ร่างบางครางประท้วงเมื่อลมหายใจถูกเก็บเกี่ยวไปเกือบหมด ลู่หานเผยอปากหอบหายใจเพื่อสูดอากาศเมื่อจูบแสนยาวนานจบลง ใบหน้าหวานใสขึ้นสีแดงจัดทำให้เซฮุนต้องกดรอยยิ้ม และก้มตัวลงไปกดจูบลงบนไหปลาร้าสวยที่โผล่พ้นเสื้อสเวตเตอร์สีครีม
นั่นทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อถูกคิสมาร์คอย่างไม่ทันตั้งตัว
“และ...พี่เป็นคนแรกที่ผมอยากเป็นเจ้าของ”
แม้เซฮุนจะรู้...
“ทั้งตัว...และหัวใจ”
ว่าคนตัวเล็กที่กำลังแก้มแดงอยู่ตรงหน้ามีเจ้าของแล้วก็ตาม
ถึงเวลาที่เซฮุนจะทำลายกฏบ้าบอที่ตีกรอบชีวิตของเขาอยู่ตอนนี้สักที
คุณเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมอยากฝ่ากฏทุกข้อบนโลกใบนี้
Oh Sehun
Loading…100%
เลือกทีมกันถูกไหม #ทีมเซ #ทีมแอรีส
#ดับเบิ้ลxฮฮ
อย่าลืมแท๊กและคอมเม้นนะฮับ
อยากได้กำลังใจ ฮื่อ
มาสเตอร์ผู้ฟิตหมาก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โอเซ ทำอะไร ก่ใจสั่นไปหมด 5555555
อยากจูบโดยไม่มีเหตุผล
อยากเปนเจ้าของทั้ง และหัวใจ ตายยยยย
เดวทุกสิ่งอย่างจะเปนของโอเซ คอยดูสิ
ลู่ยังไม่มีเจ้าของนะ คิคิ