ตอนที่ 5 : xx ♥ 004
DoubleX 004
Theme song : A Little Close – HIGH4 & Lim Kim
I’m falling for your eyes, but you don’t know me yet.
ควันสีขาวลอยกรุ่นอยู่เหนือขอบแก้วโกโก้ร้อน ลู่หานมองคนตัวโตกว่าตัวเองแล้วก็พ่นลมหายใจขึ้นจมูก มันเรื่องบ้าอะไรที่เขาต้องพาผู้ชายคนนี้เข้ามาในเพ้นเฮ้าส์ของตัวเอง และยิ่งไปกว่านั้นผู้ชายคนนี้บอกชัดเจนว่าตัวเองอันตรายแค่ไหน
แน่นอนว่าลู่หานถูกพิสูจน์ความอันตรายที่ว่านั่นมาแล้วโดยการโดนจูบมุมปากถึงสองวันติด และมันน่าตลกที่ตอนนี้ผู้ชายดวงตาสีแปลกประหลาดกำลังนั่งจิบไวน์อยู่ตรงหน้าเขา โซฟาข้างๆกัน ที่ห่างไม่เกินหนึ่งเมตร
นี่คงเป็นเรื่องบ้าที่สุดในชีวิตเขาแล้ว ถ้ารอบหน้ามีนิตยสารสัมภาษณ์ว่าเรื่องบ้าที่สุดในชีวิตคืออะไร ลู่หานก็บอกให้สัมภาษณ์ว่าเป็นเรื่องนี้แน่นอน
“อ่า...ผมอุ่นขึ้นเยอะเลย”
“อุ่นแล้วก็กลับไปสิ” พยักหน้าไปทางประตูเป็นการไล่อย่างซึ่งๆหน้า ดวงตากลมโตไหวระริก ถึงจะทำเป็นเก่งแค่ไหนแต่ในใจลู่หานก็แอบหวั่นใจกับโอเซฮุนไม่ใช่น้อย
“…”
“…”
เกมส์จ้องตาเริ่มขึ้นทันทีที่คนตัวเล็กพูดจบ ดวงตาคมสีที่ลู่หานชอบยังคงมองมา คนตัวเล็กไม่ยอมแพ้จ้องกลับไปเช่นกัน แต่สุดท้ายก็เป็นลู่หานที่หลบสายตาเมื่อไม่สามารถทนจ้องดวงตาที่มีความรู้สึกหลากหลายที่จ้องมาได้ไหว
เหมือนเป็นหลุมดำที่สามารถดูดตัวเขาให้จมไปกับความรู้สึกที่มากมายนั่น และเขาก็รู้ตัวว่าทันทีที่หลุดเข้าไป คงไม่มีทางออกมาได้ง่ายๆ
“คุณขอเข้าห้องผม เพราะตัวคุณเย็นมาก และแน่นอนว่าผมเป็นคนดีพอที่จะพาคุณเข้ามาจิบไวน์สักแก้ว และตอนนี้คุณก็ตัวอุ่นแล้ว...”
“แต่ตอนนี้ผมหิว”
ลู่หานเบิกตาโตใส่คนตัวโตกว่าเขามากกำลังทำหน้าอ้อนชนิดที่แบบว่าต่อให้มีเขาอีกสักยี่สิบคนก็ไม่สามารถต้านทานได้ ทำหน้าเหมือนลูกแมวตัวโตๆที่กำลังขออาหารกิน แถมลูบท้องประกอบอีก ให้ตายเถอะผู้ชายคนนี้ชักจะร้ายกาจมากเกินไปแล้ว L!
มือเล็กกระแทกแก้วโกโก้ที่จิบอยู่ พลางทำหน้าบูดบึ้ง แต่ก็ยอมเดินลากสลิปเปอร์เข้าไปในครัว บ่นงึมงัมไปตามทาง จนคนตัวโตที่มองตามต้องกดยิ้มมุมปาก ความจริงเซฮุนก็ไม่ได้หิวอะไรมากมายขนาดนั้นหรอก แต่เพราะตอนนี้เขาแก้สมการตัวเองออกแล้ว เลยหาวิธีที่จะได้มองคนตัวเล็กนานขึ้นอีกหน่อย ให้อาการวุ่นวายใจที่แปลกประหลาดนี่สงบลง
“บอกไว้ก่อนเลยนะ ผมหนะทำอาหารได้ห่วยแตกที่สุดในโลก!”
เซฮุนเพียงแค่ระบายยิ้ม แล้วคิดในใจว่าเขาเองก็เป็นคนที่กินอาหารได้ง่ายที่สุดในโลกเหมือนกัน แค่เพียงมองคนตัวเล็กที่กำลังแกะซองรามยอนแล้วทำหน้ายุ่งอยู่ในครัว เซฮุนไม่เข้าใจว่าทำไมหัวใจของเขาถึงสงบลง และมีความรู้สึกที่เป็นตัวของตัวเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ทิ้งความรู้สึกที่ต้องเป็นใครคนใดคนนึง เหลือเพียงแค่โอเซฮุน
รออยู่ไม่นานรามยอนร้อนๆก็ถูกวางลงตรงหน้า ลู่หานทำหน้ามุ่ยตามประสาคนแสนรั้น คนตัวเล็กดันชามที่ว่าให้ขยับไปทางคนตัวโต แล้วถอยออกมานั่งโซฟาที่ห่างขึ้นอีกหนึ่งตัว มันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่เขาต้องถอยไปให้ห่างผู้ชายคนนี้ เพราะเหมือนสามารถดึงดูดให้เขาทำอะไรให้ง่ายๆ และแน่นอนนั่นมันอันตรายมากเกินไป
เพราะคนแบบแอรีสลู่เคยทำรามยอนให้ใครกินซะที่ไหนกัน L
“ได้แค่นี้แหละ จงอินไม่อยู่ผมก็ทำเป็นแค่รามยอน”
“จงอิน?”
“ใช่...เมทผมเอง”
“ผู้ชาย?”
“ใช่...ผู้ชายที่ฮอตมากที่สุดในโลกJ” หัวใจของเซฮุนกระตุก เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กๆกับลูกกวางที่นั่งอยู่ตรงข้ามกำลังทำตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงผู้ชายอีกคน แถมยังพูดว่าฮอตมากใส่หน้าเขาอีก พยายามไล่ความหงุดหงิดออก และหยิบตะเกียบมาใช้ด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ
“คุณใช้ตะเกียบตลก”
“ผมไม่ถนัด” คำตอบที่หลุดออกมาจากคนตัวโตทำลู่หานต้องเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“เป็นคนเกาหลีภาษาอะไรใช้ตะเกียบไม่เก่ง”
“อ่า...”
นึกไปถึงชานยอลมันก็เคยทักเขาแบบนี้เหมือนกัน แต่รายนั้นกับล้อเขายกใหญ่ ทำให้เซฮุนต้องวิ่งไล่เตะแทบไม่ทัน แต่คนตัวเล็กกับแค่ยิ้มๆแล้วเดินไปหยิบส้อมมาวางให้ เป็นแค่การดูแลเล็กน้อยที่อาจไม่ได้ตั้งใจ แต่กับคนตัวโตที่กำลังมองตามหลังเล็กๆนั่น เซฮุนรู้สึกอะไรมากกว่านั้น
“ถ้าให้ผมเดาคุณคงเป็นลูกครึ่ง ใช่ไหม? ใช้ตะเกียบไม่เก่ง แถมตาคุณ...”
“ผมจะตอบคำถามก็ต่อเมื่อคุณยอมเล่นเกมส์กับผม” วางช้อนส้อมที่กินรามยอนจนหมดแล้วเอ่ยขึ้น
สายตาเจ้าเล่ห์เหมือนนายพรานผู้ล่า ทำให้ลูกกวางต้องตื่นตัว ลู่หานจ้องมองตอบดวงตาคมที่มองมา เหมือนอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาต้องยอมจำนน เหมือนมีเหตุผลลอยฟุ้งอยู่ในอากาศเป็นร้อยข้อแต่เขาก็หยิบมาอธิบายตัวเองไม่ได้
“ทำไมคุณคิดว่าผมจะเล่นเกมส์ด้วย”
“เพราะมันเป็นเกมส์ที่คุณจะได้รู้จักผมมากขึ้น”
ลู่หานกรอกตาขึ้นมองด้านบนแล้วกอดอก ผู้ชายคนนี้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนมากขนาดนั้นว่าเขาจะยอมเล่นเกมส์ด้วย ถึงมันจะเป็นเปอร์เซ็นน้อยนิดที่เขาอยากรู้จักผู้ชายคนนี้มากขึ้น แต่เพราะความจริงเกมส์นี้เขาอยากจะเป็นผู้ล่าและทำให้ผู้ชายที่พกความมั่นใจมามากขนาดนี้เป็นคนแพ้ ก็น่าสนุกดีไม่ใช่เหรอ?
Xx HunHan xX
แก้วไวน์ถูกวางไว้ตรงหน้าของทั้งคู่ กติกาของเกมส์นี้ไม่มีอะไรมากมาย แค่เพียงสลับถามตอบกันธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาตรงที่คำถามไหนที่คนถูกถามไม่ยอมตอบ คนนั้นต้องดื่มไวน์หนึ่งแก้ว
“ผมถามก่อน...งั้นตอบมาสรุปคุณเป็นลูกครึ่ง”
“ใช่ ผมเป็นลูกครึ่ง เกาหลี-อังกฤษ ผมเลยมีตาประหลาดแบบนี้”
“ผมว่าสีตาแบบนี้หนะโคตรเจ๋ง” เซฮุนรู้สึกแปลกใจกับคำตอบที่ได้ แต่จากดวงตาโตๆที่ส่องประกายวิบวับ ที่ดูเหมือนเด็กเจอของถูกใจทำให้เซฮุนเลือกที่จะเชื่อในคำพูดของคนตัวเล็ก
“คุณ...เป็นคนแรกที่พูดแบบนั้น”
“จริงเหรอ?”
“ใช่ ตอนนี้คุณถามผมสองข้อแล้วนะ” ยกยิ้มเจ้าเล่ห์เอ่ยเตือน ทำให้คนตัวเล็กทำตาโตและยกมือปิดปากอย่างลืมตัว ทั้งที่ตั้งใจจะชนะในเกมส์แต่พอเริ่มต้นก็ดูพลาดไปเยอะแล้ว
“…”
“คุณ...ชื่ออะไร?” ลู่หานหัวเราะออกมาเบาๆ ทำให้ผู้ชายแสนฮอตตรงหน้าเกาจมูกแบบเขินๆ และนั่นทำให้คนขี้เก๊กดูเด็กลงไปสักสิบปี
“ผมชื่อลู่หาน ชื่อในวงการก็แอรีสลู่”
“แล้ว...คนชื่อจงอินเป็นอะไรกับคุณ และผู้ชายคนนั้นที่ผมเจอตอนบนเรือ”
“ผมบอกไปแล้วนะว่าจงอินคือเมทของผม รูมเมทหนะคุณไม่เข้าใจเหรอ? ส่วนผู้ชายคนนั้น...ผมก็ไม่รู้” ชั่วขณะหนึ่งเซฮุนเห็นแววของคนตัวเล็กว่างเปล่าแต่สุดท้ายก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ข้อที่แล้วผมจะถือว่าสองคำถาม” ยกยิ้มซนๆแล้วก็ชูสองนิ้วยืนยันว่าเซฮุนถามคำถามเกิน
“โอเค ถามผมมาได้เลย”
“ทำไมคุณต้องทำตัวเป็นสองบุคลิก” คนตัวโตไม่ตอบอะไรเพียงแค่ยกแก้วไวน์ขึ้นกระดกจนหมด ชั่วขณะหนึ่งเหมือนความอึดอัดแทรกตัวเข้ามาหา แต่สุดท้ายก็ฟุ้งกระจายหายไปในอากาศเมื่อลู่หานเลือกที่จะถามคำถามเพื่อผ่อนคลายความรู้สึกนี้
หลายสิบคำถามถูกหยิบยกขึ้นมา มีคำถามที่ตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง ทำให้ขวดไวน์พร่องไปเกือบหมด เสียงหัวเราะจากคนตัวเล็กดังขึ้นเป็นระยะเมื่อบางครั้งคนตัวโตกว่าก็ถามยิงมุกแบบหน้าตาย
นั่นทำให้ทั้งสองคนรู้จักกันมากขึ้นเหมือนจิ๊กซอร์ที่หมุนวนไปมาจนได้ช่องล๊อกที่พอดี
“พี่ครับ...” ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ระยะห่างของทั้งสองคนลดลง ลู่หานนั่งขัดสมาธิและตอนนี้ขาข้างนึงเกยอยู่บนตักของเด็กหนุ่มตัวสูง ลู่หานรู้ตัวว่านี้คือความใกล้ชิดที่เกินพอดีแต่เขาก็ไม่คิดจะขยับออกเหมือนนี่เป็นพื้นที่ที่พอดีสำหรับตัวเขา
บางทีเซฮุนอาจเป็นขั้วลบ และลู่หานเป็นขั้วบวก ตามกฏฟิสิกส์ที่ขั้วลบและขั้วบวกมักดึงดูดกันและกันอยู่เสมอ เป็นแรงดึงดูดที่รวดเร็วและรุนแรง
“หืม? คำถามรอบนี้เป็นของนาย” สรรพนามของทั้งคู่เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อความสนิทสนมเริ่มมากขึ้น คำพูดแบบไม่เป็นทางการจึงถูกหยิบขึ้นมาใช้
เซฮุนกดยิ้มมุมปาก เสยผมอย่างเคยชินด้วยท่าทางที่ลู่หานเคยคิดว่ามันดูฮอตเป็นบ้า ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่คนตัวเล็กรู้สึกถึงความร้อนแรงที่แผดเผามากกว่าเดิม เมื่อดวงตาคมมองสบพร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปาก และคำถามสุดท้ายถูกพูดขึ้นมา
“…จูบลึกซึ้งครั้งสุดท้ายของพี่คือเมื่อไหร่?”
ลู่หานเพียงแค่ยิ้มและยกไวน์ขึ้นจิบ พอดีกับเด็กหนุ่มแสนอันตรายขยับใบหน้าเข้ามาใกล้จนห่างเพียงแค่คืบ ลมหายใจร้อนเป่ารดจมูกโด่งรั้น ลู่หานมองสบกับสีดวงตาที่เขารู้สึกชอบใจและหลงใหล แค่เพียงเสี้ยววินาทีที่หัวใจเต้นรัวแรง ริมฝีปากอุ่นร้อนก็ทาบทับลงมา
จูบร้อนแรงเคล้ารสไวน์ทำให้สมองของลู่หานพร่าเบลอ ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าทันทีที่คนตัวเล็กกว่าเผยอปากหอบหายใจ ปลายลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดทำให้ลู่หานต้องยกมือขยำปกคอเสื้อคนตัวโตกว่า
จูบที่เริ่มต้นด้วยความร้อนแรงเพราะรสของไวน์ในตอนแรก เปลี่ยนเป็นจูบหวานละมุนเหมือนไอสครีมรสวนิลลาในตอนท้าย
เหมือนถูกจับเหวี่ยงแบบเครื่องเล่นเฮอร์ริเคนแต่ตอนสุดท้ายกลับลงมาเล่นม้าหมุน ผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีแค่ความอันตรายแต่เขาหนะฮอตเป็นบ้า !
“อ่า…”
“ไม่ว่าจูบครั้งสุดท้ายของพี่จะเป็นใคร แต่จำไว้นะครับ...ว่าหลังจากนี้เป็นต้นไป
จูบของพี่คือของผม”
บ้าชะมัดที่ลู่หานรู้สึกเหมือนตกหลุมกับดักของผู้ชายคนนี้เข้าเต็มเปา
ด้วยจูบเพียงจูบเดียว
และลู่หานรู้ตัวว่าควรหยุด แต่เขากลับห้ามตัวเองไม่ได้เลยที่จะไม่ตอบรับจูบที่สองจากร่างสูงที่กำลังกักเกี่ยวเอวเขาให้เข้าไปใกล้มากกว่าเดิม
คุณก็รู้ว่าแอปเปิ้ลในสวนต้องห้าม นั่นหอมหวานสักเท่าไหร่
Oh Sehun
Loading…50%
เปลือกตาบางขยับยุกยิกไม่นานก็เปิดออก ดวงตากลมโตเหม่อมองไม่ยังเพดานสีขาวที่คุ้นตาไล่มองไปยังผ้าม่านสีเดียวกับเพาดานปลิวไสวเพราะสายลมอ่อนที่พัดเข้ามา ลู่หานกระพริบตาปริบ สายตามองไปเห็นโซฟาสีขาวตัวนิ่มที่มีร่องรอยของใครบางคน
ใครบางคนที่เพียงแค่นึกถึง นิ้วเรียวสวยก็เอื้อมไปแตะที่ริมฝีปากอวบอิ่มพร้อมกับยกยิ้มออกมา แก้มใสเปลี่ยนสีแดงเรื่ออย่างน่ารักน่ารักน่าชัง เมื่อได้สติลู่หานสะบัดหัวไล่ความคิดแปลกประหลาดนั่นทันที
เมื่อคืนจบลงเพียงแค่จูบแต่ลู่หานไม่รู้ว่าเป็นจูบที่เท่าไหร่จำได้เพียงแค่เขาถูกจูบจนหมดแรง จนเด็กที่ตัวโตกว่าต้องพาอุ้มมานอนในห้อง และนั่นมันน่าอายเป็นบ้า! L
เขาตั้งใจจะไล่โอเซฮุนแสนอัตรายคนนั้นกลับไป แต่สุดท้ายก็ใจอ่อนยอมให้นอนค้างที่นี่ เพราะเห็นว่าคนตัวโตอ้างว่าขับรถกลับไม่ไหวทั้งที่กินไวน์ไปไม่เกินห้าแก้ว ถึงแม้ลู่หานรู้ทันทีว่านั่นคือคำโกหกแต่เขาก็ยอมโยนผ้าห่มกับหมอนไปให้ผู้ชายแสนเจ้าเล่ห์คนนั้น
“นายมันร้ายกาจเป็นบ้า”
“ผมร้ายกาจได้มากกว่านี้อีก” ยกยิ้มชนิดที่ว่าลู่หานบอกได้คำเดียวว่าแบดสุดๆ
“ทำแบบนี้ทำไม”
“ผมต่างหากที่ต้องถาม...ว่าพี่ทำแบบนี้ทำไม”
“…”
“ทำให้หัวใจของผมเต้นผิดจังหวะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”
สายตาของเด็กนั่นจริงจังเกินไปจนลู่หานไม่กล้ามองสบ คำสารภาพกลายๆที่ออกมาทำให้เขารู้สึกสับสน เหมือนเป็นช่วงเวลาเพียงไม่นานแต่คนคนนี้กลับให้ความมั่นใจว่าสิ่งที่พูดออกมานั้นจริงจัง
ลู่หานปาหมอนใบเล็กใส่คนที่อยู่บนโซฟาพร้อมกับกดปิดไฟบนหัวนอน ทำให้ภายในห้องมืดสนิท มีเพียงเสียงเสียดสีของเสื้อผ้ากับผ้าห่มดังอยู่ในความมืด น่าแปลกทั้งที่ลู่หานกำลังอยู่ในห้องกับบุคคลที่แสนอันตราย แต่หัวใจของเขากลับ...รู้สึกปลอดภัย เหมือนอยู่ในที่ที่เป็นของตัวเอง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กที่กำลังเหม่อลอย ต้องเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะเล็กข้างเตียง ดวงตากลมเหลือบมองชื่อบนหน้าจอ เมื่อเป็นชื่อใครบางคนที่คุ้นเคยก็สไลด์นิ้วเรียวรับทันที
“ว่ายังไงอี้ชิง”
‘เมื่อวานเขามาตรวจตามนัด’
“อาการเป็นยังไงบ้าง” เอ่ยถามเสียงเนือยพร้อมหัวใจที่บีบรัดอย่างทุกที
‘ดีขึ้นกว่าทุกทีนะลู่หาน’
“…”
‘อีกไม่นานเกินรอหรอก ฉันแค่อยากโทรมาบอกว่าอาการครั้งนี้ดีขึ้นกว่าทุกครั้ง แปลว่าเรายังมีหวัง’
“ขอบใจนะอี้ชิง”
เอ่ยตอบรับเสียงแผ่ว พร้อมกับล้มตัวลงนอนบนที่นอนสีขาวแสนนุ่มนิ่ม เปลือกตาบางปิดลงพร้อมกับปล่อยให้ความคิดที่ล่องลอยไม่เป็นรูปร่างตกตะกอนจนหนักอึ้งในใจ ลู่หานลืมตาก็พบกับเพดานสีขาวสะอาด
ห้องนอนของลู่หานถูกตกแต่งด้วยสีขาวล้วน เพราะมีใครบางคนเคยบอกเขาเสมอว่าเหมาะกับสีนี้
Xx HunHan xX
ผลัวะ !
เสียงเปิดประตูดังรุนแรงจนคนตัวเล็กที่กำลังนอนหลับตาพริ้มสะดุ้ง ลู่หานยกมือพร้อมกับชูนิ้วกลางให้กับคนไร้มารยาทที่ตอนนี้โถมทั้งตัวใส่ที่นอนด้านข้างกัน ไม่วายยังเอาแขนมาพาดคอจนแทบหายใจไม่ออก
“ไอ้บ้าจงอิน!!” ฟาดมือไปบนหลังของรูมเมทที่กำลังนอนคว่ำแล้วส่งยิ้มกว้างมาให้จนน่าขนลุก
“J”
“เป็นบ้าอะไรยิ้มจนปากแทบฉีก น่ากลัวชิบหาย”
“กูแค่ดีใจ ทำไม...กูจะยิ้มไม่ได้รึไง!”
“ให้กูเดาคงเรื่องพี่คยองซูละสิ”
เพื่อนผิวแทนไม่ยอมตอบเพียงแค่ยกยิ้มกว้างกว่าเดิม ยิ้มแบบดีใจสุดๆ ไม่ใช่รอยยิ้มกัดปากแสนฮอตที่ชอบทำแบบทุกทีที่อยู่หน้ากล้อง ซึ่งนั่นทำให้ลู่หานต้องแอบอมยิ้มขำ และด้วยความหมั่นไส้ทำให้คนตัวเล็กหยิบหมอนที่ตกอยู่ข้างตัวฟาดใส่หลังเพื่อนที่ทำตัวเพ้อเจ้อจนน่าสยองพิลึก คาดว่าเมื่อคืนคงมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่นอน
แรงสั่นเตือนข้อความเข้าทำให้ลู่หานต้องหยุดทำร้ายเพื่อนตัวโต แล้วกดเปิดอ่านข้อความจากผู้จัดการส่วนตัวที่ส่งมา
‘คริสบอกว่าจะไปรับนาย พี่ไปรอที่สตูฯเลยนะ’
“ทำบ้าอะไร พี่คยองซูไม่ยอมมารับกูเลย”
“จริงเหรอหวะ?” ทำหน้าสลดจนลู่หานต้องเฉลยความจริงว่าคริสจะมารับ ทำให้เพื่อนตัวโตทำตัวเพ้อเจ้อเป็นสาวน้อยเหมือนเดิม จนอยากจะถ่ายรูปไปประจานไคแฟนด้อมที่หลงใหลในภาพพจน์แสนร้อนแรงของเพื่อนผิวแทนของเขาคนนี้
ตัดสินใจจะวางโทรศัพท์เพื่อไปอาบน้ำเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่คริสจะมารับ แต่แรงสั่นสะเทือนเพราะข้อความเข้าก็ทำให้มือเรียวต้องกดเพื่อเปิดดู
‘ไม่ต้องสงสัยว่าผมเอาเบอร์พี่มาจากไหน แค่เมมเบอร์ผมในเครื่องพี่ก็พอ’
ข้อความที่อ่านจบก็ทำให้ลู่หานรู้ทันทีว่าเป็นใคร รอยยิ้มเล็กๆปรากฎขึ้นมุมปาก ถึงในใจจะด่าว่าเด็กคนนี้ร้ายกาจมากขนาดไหน แต่มือเล็กก็กดเมมเบอร์อย่างที่คนในข้อความบอก
Xx HunHan xX
มือเล็กเอื้อมไปเปิดประตูบีเอ็มดับบลิวสีขาวคุ้นตาที่จอดนิ่งอยู่ตรงประตูทางเข้าเพ้นเฮ้าส์ จอดตรงที่เดียวกันกับรถของใครบางคนเมื่อคืน ลู่หานส่งยิ้มตอบกลับให้กับคนที่กำลังส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ มือแกร่งเอื้อมมือมาลูบหัวกลมด้วยความเอ็นดูแบบทุกที
“ไม่ได้มาหาสองวันคิดถึงกันไหม?”
“ไม่ ไม่เลยสักนิด แล้วนี่ไปไหนมา”
มองจ้องตาคนตัวโตที่ตอนนี้หลบตากันไปแล้วเรียบร้อย คริสไม่ตอบคำถาม พลางเบี่ยงสายตาไปมองถนนแล้วทำทีใส่เกียร์และออกรถ ลู่หานเพียงแค่ลอบถอนหายใจเบาๆและปล่อยให้ความเงียบจับจองพื้นที่
“คริสไปธุระ เสี่ยวลู่ก็รู้”
“…”
“โอเค เลิกงอนเถอะนะคนดี นี่คริสทำอาหารเช้าของโปรดเสี่ยวลู่มาด้วยนะ”
พอติดสัญญาณไฟ คนตัวโตที่รู้ตัวว่าทำผิดก็หยิบกล่องอาหารสีน่ารักมาวางบนตักเล็ก เหตุการณ์เดิมๆย้อนกลับมา แล้วลู่หานก็ใจอ่อนลงเหมือนเดิม แต่วันนี้คนตัวเล็กมีถ่ายแบบตั้งแต่เช้า และถ้ากินอาหารเช้าไปเยอะคงต้องลำบากแน่ๆ ดูจากธีมที่ทางทีมงานส่งมาก็คงต้องรักษาหุ่นกันหน่อย
“ทำให้กินเยอะขนาดนี้ ถ้าพี่คยองซูรู้ต้องโดนฆ่าตายแน่ๆ”
“คยองซูไม่รู้หรอก เสี่ยวลู่กินหมดนี่ ตัวก็ยังเล็กเท่าเดิม”
“ถ้าถ่ายแบบแล้วอ้วนขึ้นมา คริสต้องรับผิดชอบ” พูดไปแต่ก็หยิบข้าวปั้นหน้าตาน่าทานยัดใส่ปากแล้วเคี้ยวจนแก้มตุ่ย ทำให้คนที่แอบมองต้องยื่นมือไปเช็ดเม็ดข้าวที่ติดอยู่บนแก้มใส แล้วก็แอบบีบแก้มกลมๆนั่นหนึ่งทีด้วยความหมั่นเขี้ยว
“รับผิดชอบทั้งตัวและหัวใจเลยแหละครับ”
พูดประโยคหวานเลี่ยนจนคนตัวเล็กที่กำลังเจริญอาหารต้องแอบเบะปาก แต่แก้มใสก็ยังคงขึ้นสีแดงอ่อนจนคนตัวโตที่แอบมองอยู่ต้องอมยิ้ม การแสดงออกที่ดูขัดแย้งและแสนรั้นแบบนี้แหละที่เป็นเสน่ห์ของเสี่ยวลู่
ผ่านไปไม่นานบีเอ็มดับบลิวคันหรูก็จอดเทียบท่า ทันทีที่เห็นผู้จัดการตัวเล็กยืนรอรับอยู่ลู่หานก็รีบเก็บกล่องข้าวไปไว้เบาะหลังรถของคริสแทบทันที เพราะมันไม่คุ้มเลยสักนิดที่ต้องเสี่ยงกับการโดนบ่นหูชาตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำงาน ยกขวดน้ำผลไม้ที่คริสปั่นมาให้ขึ้นดื่มแล้วเตรียมตัวรับมือกับการเป็นแอรีสลู่
ดับเครื่องเสร็จคริสก็เดินไปเปิดประตูให้คนตัวเล็กอีกฝั่ง ใบหน้าสวยหวานสงบนิ่งพลางเชิดขึ้นอย่างแสนรั้น แต่ถึงแบบเสี่ยวลู่ก็ยังดูน่ารักน่าชังในสายตาของคริสเสมอ
“ไง โชคดีนะที่ไม่สาย”
“มันไม่คุ้มหรอกที่จะโดนพี่บ่นตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน” ส่งเสื้อโค้ทไปให้ผู้จัดการตัวเล็กที่ยื่นมือไปรับอย่างเคยชิน แล้วพากันเดินเข้าไปในสตูดิโอถ่ายภาพของนิตยสารแฟชั่นชื่อดัง ที่ยอดขายขึ้นอับดับหนึ่งในโซลเสมอ
“จะอยู่ดูด้วยเหรอคริส?” หลังจากยื่นรูปแบบเสื้อผ้าที่ต้องใส่ให้นายแบบตัวเล็กในสังกัดเสร็จ คยองซูก็หันมาคุยกับคนที่เดินตามมานั่งที่โซฟาข้างกัน
“วันนี้ไม่มีงาน...ก็ว่าจะอยู่ดูซะหน่อย จะเกะกะไหมละครับ”
“ไม่...ไม่เลย แล้วนี้ลู่หานบอกธีมรึยัง?”
“ไม่นี่”
“อ่า...ยังไงก็อดทนให้มากๆแล้วกันนะ” ประโยคสุดท้ายคยองซูเพียงแค่ก้มไปกระซิบเบาๆแล้วส่งรอยยิ้มรูปหัวใจ พลางพยักเพยิดไปยังราวชุดสำหรับนายแบบคนดังของวงการ แต่ละชุดที่แขวนอยู่ทำให้คนที่มองแอบใจสั่น ทั้งเป็นสีขาวและแสนบางเบาทั้งนั้น
บรรยากาศที่เคยวุ่นวายดูเงียบสงบลง เมื่อใครบางคนเปิดประตูเดินเข้ามา เรียวขายาวภายใต้กางเกงยีนสีซีดก้าวเข้ามายืนอยู่กลางสตูดิโอ ร่างสูงแสนดูดีมีเพียงกล้องโปรคล้องอยู่ที่คอ สิ่งที่ดึงดูดทุกคนให้จ้องมองไปไม่ใช่เพียงแค่นั้น แต่เป็นใบหน้าแสนหล่อเหลาสีขาวซีดที่ขับให้ดูดีด้วยแว่นกันแดดที่ชาที่วางอยู่บนจมูกโด่งเป็นสัน ทรงผมที่ดูเซตมาอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้ผู้ชายคนนี้ดูหล่ออย่างร้ายกาจ
และเซ็กแอพพิลสูงซะจนดึงดูดทุกความสนใจของทุกคนในสตูดิโอแห่งนี้ ไม่เว้นแม้กระทั่ง...แอรีสลู่ที่แสนเย่อหยิ่ง
“โอเซฮุน” ปากอิ่มเผลอพูดชื่อใครบางคนออกมาแผ่วเบา เมื่อคนที่ดึงดูดสายตาอยู่เสมอถอดแว่นออกมาแล้วเผยให้เห็นดวงตาสีเขียวเข้มอยู่ภายใน
“เหมือนงานจะเข้าซะแล้ว”
ร่างสูงโปร่งที่อยู่ด้านข้างเอ่ยออกมาเสียงดัง จนร่างเล็กที่กำลังเหม่อมองใครบางคนแอบสะดุ้ง คริสขมวดคิ้วใส่มือถือพลางเอ่ยบอกคนตัวเล็กว่าจะต้องไปทำธุระ เลยไม่ได้อยู่ดูลู่หานถ่ายแบบอย่างที่ตั้งใจในตอนแรก
“ไปก่อนนะครับคนดี”
กดจูบเบาๆบนข้างหน้าผากเล็กอย่างถนุถนอม แสดงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน พร้อมทั้งหันไปสบกับสายตาคู่หนึ่งที่มองตรงมา บางอย่างที่สื่อออกมาทางแววตาคมสีแปลกประหลาด ทำให้คริสต้องจ้องมองกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ รู้สึกคุ้นแต่คริสกลับนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน
“เฮ้ คริส...มีคนโทรตามแล้วนะ ไม่ไปงั้นเหรอ”
คนตัวเล็กเขย่าท่อนแขนหนาเบาๆ โดยไม่รู้เลยสักนิดว่าตัวเองกำลังเป็นฉนวนสงครามทางสายตาของชายหนุ่มทั้งสอง คริสยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมาดูตามที่ลู่หานบอก และนั่นก็ทำให้หัวใจของลู่หานต้องกระตุก เหมือนตะกอนที่อยู่ในใจถูกคนจนฟุ้งกระจายเมื่อเหลือบไปเห็นรายชื่อโทรเข้าที่แสนคุ้นเคย
‘อี้ชิง’
พระเจ้ามักสร้างความบังเอิญ มาทดสอบหัวใจคุณอยู่เสมอ
Aries Lu
Loading…100%
#ดับเบิ้ลxฮฮ
ไม่เปลี่ยนใจไป #ทีมเค กันหรอกใช่ไหม55555
ใครยัง #ทีมเซ เหนียวแน่นก็ยกมือบอกนี่
มีบางอย่างเริ่มโผล่มาให้ทุกคนคันหัวใจเล่น
หลังจากที่ปล่อยความฮอตมานาน
จริงๆโผล่มาทุกตอน อยู่ที่ใครจะสังเกตเห็นเท่านั้นแหละ (づ ̄ ³ ̄)づ
ขอแท๊กกับเม้นเยอะๆเลยนะฮับ
มาสเตอร์สามทีม #ทีมเซ #ทีมเค #ทีมลู่
@Master_yp
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

555555
555555
แค่คิดก่สนุกแล้ว
คริส อี้ คืออะไร ไหนจะคริสลู่อีก ลู่หานกะ อี้ อีก แล้วลู่ให้อี้ไปทำอะไร
ปล... กรี๊ดดดมาก ** หลังจากนี้เป็นต้นไป จูบของพี่ คือของผม*** ้ำเไพีรไ้ดน่ไพว้เรนดพัคเจรำ
แล้วฮุนเป็นตากล้องงี้ลู่จะมีสมาธิทำงานมั้ย 555