ตอนที่ 22 : xx ♥ 019(100%) resting ☆
DoubleX 019
Theme song : One more step - Kihyun
That may be we found love right we are.
ลู่หานลืมตาตื่นขึ้นมาเนื่องจากสัมผัสนุ่มหยุ่นที่ละลานใบหน้า รู้สึกอุ่นเมื่อถูกกอดไว้ด้วยอ้อมแขนใครบางคน คิดแล้วก็อายเป็นบ้า เพราะแบบนั้นลู่หานเลยแกล้งหลับตาต่อ ปล่อยให้คนที่ลวนลามกันอยู่นั่นกดจูบบนปลายจมูกจนเสียงดังจุ้บ แล้วกระซิบบอกข้างหูเบาๆ
"ผมจะเตรียมอาหารเช้าให้ พี่ไม่ต้องรีบตื่นหรอก...รู้ว่าลุกไม่ไหว"
จบประโยคนั่นเขาเลยฟาดมือไปบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าแรงๆ พร้อมได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะตอบกลับมาอย่างชอบใจ ลู่หานค้อนใส่วงใหญ่ แล้วทิ้งตัวลงนอนซุกผ้าห่มอยู่เหมือนเดิม
จากที่คิดว่าจะแกล้งหลับกลายเป็นว่าลู่หานหลับลงไปจริงๆ คนตัวเล็กสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงโวยวายดังมาจากด้านนอก
เกิดอะไรขึ้น?
เกิดคำถามขึ้นมาในใจพร้อมกับพยายามยันตัวขึ้นนั่ง อาการปวดช่วงล่างมีให้รู้สึกแต่ไม่ได้ปวดจนเดินไม่ไหวอย่างที่คิด อาจเพราะเซฮุนถนอมเขามากกว่านั้น คิดแล้วแก้มกลมก็แดงวาบด้วยความเขิน
เปิดประตูก้าวเท้าออกมาจากห้องนอน ทำให้ดวงตากลมเบิกโตด้วยความตกใจในสิ่งที่เห็น คิมจงอินอยู่ตรงนั้น ข้างกันมีพี่คยองซูยืนยื้อแขนไว้ และโอเซฮุนที่ยืนหันหน้าไปอีกทาง แล้วเมื่อคนตัวโตหันกลับมามองลู่หานก็ได้ตกใจมากกว่าเดิม
"ต่อยกันทำไม?!"
รอยช้ำข้างแก้มพร้อมสีเลือดจางๆที่ติดอยู่มุมปากของเซฮุนทำให้ลู่หานเอ่ยออกไปด้วยความตกใจ คนตัวเล็กรีบวิ่งเข้าไปคั่นกลาง แล้วแหงนหน้ามองคนตัวสูงทั้งสองที่แค่นยิ้มมุมปากให้แก่กัน
"เกิดอะไรขึ้นพี่คยองซู?"
"หมัดลูกผู้ชาย" เป็นเสียงเพื่อนสนิทที่ดังตอบแทน
"ลูกผู้ชายอะไรกันวะ"
"มันทำมึงเจ็บ กูกำลังเอาคืนให้ และเป็นการฝากฝังให้ดูแลมึงให้ดี"
คำเฉลยที่ได้ยินทำให้ลู่หานเข้าใจ รู้ว่าคิมจงอินรักเพื่อนมากแค่ไหน แต่ไม่เข้าใจคนที่อยู่ด้านซ้ายที่ยืนเช็ดแผลมุมปากเงียบๆ ทำไมยอมยืนเฉยให้เพื่อนสนิทของเขาต่อยต่างหาก แต่คนตัวโตที่ลู่หานเป็นห่วงก็ยกยิ้มบางให้ เหมือนว่านี่ไม่ใช่เรื่องเดือนร้อนอะไรนัก
จงอินยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้ใส่ลู่หานแล้วเดินออกจากห้องครัวไปทางห้องรับแขกตามแรงลากไม่ใช่น้อยของพี่คยองซู เหมือนเปิดโอกาสให้เขาได้จัดการกับคนตัวโตตรงหน้า ลู่หานสาวเท้าเข้าไปใกล้ร่างสูง เอื้อมมือไปจับคางแหลมแล้วดันลงให้มองเห็นแผลได้ชัด
“นายเป็นมาโซหรือไง แผลตอนนี้ยังเยอะไม่พอเหรอ”
เอ่ยน้ำเสียงดุใส่คนที่ยืนมองนิ่งๆ ลู่หานลากแขนคนที่ตัวโตกว่ามากไปนั่งบนเก้าอี้ตัวสูงข้างเคาเตอร์ในครัว ผลักให้เซฮุนนั่งลงไปพร้อมเอ่ยบอกให้นั่งรอตรงนี้เพื่อที่จะทำแผลให้ แน่นอนว่าคนเด็กกว่าก็พยักหน้ารอแต่โดยดี
ตั้งใจจะเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผล แต่พี่คยองซูก็เดินหยิบมาให้ คนที่ความสูงพอกัน ส่งรอยยิ้มล้อเลียนพร้อมกับกระซิบบอกให้ลู่หานได้หน้าแดงด้วยความอาย
“พี่ว่าคอเสื้อนายกว้างไปนะลู่หาน”
“…”
มือบางรีบรวบคอเสื้อให้ปิดร่องรอยบางอย่างที่พี่คยองซูกำลังส่งสายตาล้อเลียนใส่ ให้ตายเถอะลู่หานอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายซะตอนนี้ หวังว่าจงอินคงไม่ทันได้สังเกตเขาหรอกนะ ไม่เช่นนั้นมีหวังได้ซักอีกระลอกใหญ่ด้วยนิสัยที่ชอบทำตัวเป็นพ่ออีกคนของเขา
“ทำไมหน้าแดง”
“ยุ่งหน่า...”
“ผมทำพี่เขินได้คนเดียวก็พอแล้ว”
คนที่ยื่นมือมาจิ้มแก้มของเขาขมวดคิ้วมุ่น ทำไมถึงได้เป็นคนขี้หวงได้ขนาดนี้กันนะ เหมือนอย่างที่เคยขู่กันไว้ไม่มีผิดL
“ก็เพราะนายนั่นแหละ”
เบะปากคว่ำแล้วจงใจกระแทกสำลีเช็ดแผลที่อาบด้วยแอลกอฮอล์ด้วยความหมั่นไส้คนตัวสูงกว่ามาก จากเป็นคนเข้มแข็งมีกำแพงอยู่เสมอ กลายเป็นว่าทุกอย่างที่เคยเป็นกลไกป้องกันตัวเองของลู่หานกับพังลงเพราะใครบางคนที่ยู่หน้าด้วยความเจ็บจากการทำแผลที่รุนแรงของเขาเอง
“นาย นาย นายคนเดียวเลย...”
“แค่ผมคนเดียวก็พอแล้ว...เชื่อสิ”
ข้อมือบางถูกกอบกุมไว้ด้วยมือใหญ่ที่รู้สึกอุ่น ปล่อยสำลีเช็ดแผลร่วงลงสู่พื้น เอวของลู่หานถูกเบียดดันเข้ามาใกล้ร่างสูงด้วยท่อนขาแข็งแรง เพราะแรงที่มากเกินไปทำให้จมูกโด่งรั้นกระแทกกับแผ่นอกแกร่ง นั่นทำให้คนตัวเล็กกว่าหน้างอ เลยถูกง้อด้วยริมฝีปากอุ่นที่กดจูบบนริมฝีปากโด่งรั้น แล้วตามด้วยปากอิ่มสีเชอร์รี่
เผยอปากตอบรับจูบอรุณสวัสดิ์ที่ลู่หานคิดว่ามันหวานจนตัวเขาเกือบลอยซะให้ได้
“อะแฮ่ม…”
มือของลู่หานที่ไปคล้องเกี่ยวคอเซฮุนไว้ตอนไหนไม่รู้ เปลี่ยนมาผลักคนตัวโตให้ออกห่าง ใช้แขนเสื้อเช็ดคราบน้ำใสที่ไหลเปื้อนข้างริมฝีปาก ตอนนี้แก้มลู่หานแทบจะระเบิดพลางหลบสายตาจับผิดของเพื่อนแล้วหันไปขอความช่วยเหลือจากพี่ชายคนสนิท
“หิวน้ำไม่ใช่เหรอจงอิน...ลู่หานไปเอาให้หมีบ้านี่หน่อยสิ”
“อ อื้อ”
เกาหลังหูแล้วหลบสายตาด้วยท่าทางที่น่ารัก เพราะแบบนี้จะไม่ให้จงอินหวงเพื่อนได้ยังไง เขารู้จักลู่หานดีว่าเพื่อนเขานั้นแข็งนอกแต่อ่อนใน ถ้ารู้จักไว้ใจใครสักคนลู่หานก็พร้อมที่จะเทหมดหน้าตัก ขัดกับบุคลิกเย่อหยิ่งที่สร้างมาเป็นกำแพงในตอนแรก
แล้วหมอนี่ก็ผ่านกำแพงแสนหนานี่มาได้
“ร้ายนะมึง”
กัดฟัดข่มขู่คนที่ความสูงพอกัน เมื่อเห็นร่องรอยบางอย่างโผล่พ้นจากคอเสื้อของเพื่อนตัวเล็ก เซฮุนทำเป็นเพียงยักไหล่ พลางเอ่ยชวนกินมื้อเช้าแต่ทั้งจงอินและคยองซูก็ปฏิเสธ ลู่หานจึงเพียงช่วยรินน้ำส้มให้ทั้งสอง
“พี่ตามหาผมเจอได้ยังไง” ลู่หานเอ่ยถามผู้จัดการตัวเล็กด้วยความสงสัย
“ฉันเป็นผู้จัดการนายนะ”
“โอเค โอเค...” แย้มยิ้มอย่างน่ารักพลางตักไส้กรอกเข้าปาก อาหารเช้าธรรมดาที่คนที่กำลังยกกาแฟขึ้นจิบทำไว้ให้ เพราะลู่หานให้ความสำคัญกับอาหารเช้ามาก และเซฮุนก็รู้ตรงนี้ เป็นความใส่ใจเล็กน้อยที่ลู่หานแอบรู้สึกดี
“อยู่ดีๆก็หายไป คราวหลังกูไม่เอาแบบนี้แล้วนะ มีอะไรก็บอกกูบ้าง ..นี่เพื่อนมึงนะ”
“อย่ามาดราม่า”
ลู่หานเบะปากใส่คิมจงอินพลางปาเศษขนมปังด้วยความหมั่นไส้ นั่นทำให้คนที่พร้อมจะลวนลามพี่ชายตัวเล็กของเขาอยู่เสมอเอนตัวไปซุกอยู่ที่ไหล่แคบที่ไม่ได้ขยับหนีเหมือนในทุกที นั่นทำให้ลู่หานสงสัยว่าพี่คยองซูเหนื่อยที่จะหนีคิมจงอิน หรือเพราะความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปแล้วกันแน่ J
“นอกจากเป็นห่วงแล้ว อีกอย่างก็คือมีงานด่วนเข้ามานะสิ”
“หือ? ผมไม่รับได้ไหมเนี่ย”
“งานนี้บอสขอมา ออกนอกสถานที่ด้วยนะ”
ลู่หานทำหน้างอแงที่ไม่ได้เห็นบ่อยนักใส่พี่ผู้จัดการคนเก่ง ทำหน้าอ้อนแล้วกระพริบตาปริบอย่างไม่อยากรับงานอีกสักอาทิตย์ ถึงจะไม่เจ็บสักเท่าไหร่ แต่ลู่หานก็อยากนอนหยุดมากกว่า
“บอสขอมาแปลว่าผมไม่มีสิทธิ์สินะ”
“เออหน่า ถ่ายคู่กับกูจะกลัวอะไร” เพื่อนสนิทเขายักคิ้วด้วยท่าทีกวนประสาท จนอดไม่ได้ที่จะปั้นก้อนขนมปังแล้วปาใส่หัว
“เพราะถ่ายคู่กับมึงนี่แหละ”
“เดี๋ยวผมไปส่งลู่หานเอง” คนที่นั่งเงียบจิบกาแฟมานานเอ่ยขึ้น คั่นกลางสงครามที่กำลังจะเริ่มขึ้น
“คุณสองคนก็กลับไปได้แล้ว”
น้ำเสียงนิ่งเอ่ยขึ้น พลางก้าวนำเดินออกจากห้องอาหารไป นั่นทำให้คิมจงอินบ่นอุบว่าจะหวงอะไรนักหนา แต่ก็ยอมเดินตามออกไป
“จงอิน พี่คยองซูเดี๋ยวเจอกันนะ”
เขย่งตัวโบกมือใส่หนึ่งเพื่อนสนิทและหนึ่งพี่ชายคนสนิท เพราะคนตัวโตกว่ามากกำลังยืนขวางประตูไว้ ทำให้มองเห็นกันไม่ถนัดสักเท่าไหร่ นั่นทำให้ลู่หานหมั่นไส้กัดไปบนแผ่นหลังหนาเพื่อลงโทษความขี้หวงที่ชักจะเกินเหตุมากไปซักหน่อย
และเพราะแบบนั้นจึงถูกเอาคืนด้วยการถูกจับอุ้มพาดบ่าอย่างไม่ทันตั้งตัว ลู่หานโวยวายเสียงดังใส่ เท้าเล็กดีดไปมาเลยถูกตีก้นนิ่มเป็นการลงโทษให้อยู่นิ่ง เพราะเซฮุนตั้งใจพาไปอาบน้ำ
“ถ้าพี่ไม่หยุดดื้อ ผมจะไม่จบแค่อาบน้ำนะ”
เพราะคำขู่แสนร้ายกาจนั่นลู่หานที่แสนดื้อรั้นจึงนิ่งสงบกลายเป็นเด็กดีทันที
XX HUNHAN XX
ลู่หานมองค้อนใส่คนที่ผิวปากฮัมเพลงพลางหมุนพวงมาลัยขับรถอย่างอารมณ์ดี อยากจะปีนตัวไปต่อยสักทีสองทีถ้าไม่ติดว่าคงสู้แรงเด็กตัวโตไม่ไหวอีกตามเคย แถมอาจโดนเอาคืนหนักกว่าเดิม คนตัวเล็กทำหน้าบึ้งทั้งที่แก้มยังแดงไม่หาย กอดอกทำปากเบะเพราะรู้สึกขัดใจที่ตอนอาบน้ำโดนรังแกจนหมดแรง ทั้งที่ก็ไม่ได้ดิ้นหรือดื้อเลยสักนิด
“แวะไปเยี่ยมมิโนที่โรงพยาบาลก่อนนะ”
“มิโนเป็นยังไงบ้าง”
“เห็นชานยอลบอกแทบไม่เหมือนคนป่วย”
นึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็ทำให้ลู่หานแอบกลัว แม้พยายามเก็บไว้ซ่อนลึกขนาดไหนแต่เขาก็ยังหวั่นใจกับเรื่องที่เกิดในคืนนั้นอยู่ดี ไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีกแต่ลู่หานก็รู้ว่าในทุกครั้งหัวใจของเขาจะเข้มแข็งมากขึ้น ไม่รู้ว่าผู้หญิงน่ากลัวคนนั้นจะมีแผนการอะไร
มือใหญ่ที่กำพวงมาลัยหักเลี้ยวไปตามเส้นทางแยกเข้าโรงพยาบาล เหลือบมองร่างเล็กที่เหมือนมีอะไรให้คิด จอดรถนิ่งสนิทแล้วเอื้อมมือไปกุมมือเล็กนุ่มนิ่ม แววตาเป็นห่วงสีฟ้าเขียวที่ทอดมองทำให้ลู่หานแย้มรอยยิ้มพลางบอกว่าไม่เป็นอะไร
“ไม่เป็นอะไรจริงๆ รีบไปหามิโนเถอะ”
“ถ้าพี่คิดถึงเรื่องเมื่อคืน...”
“ชู่...มันผ่านไปแล้ว และตอนนี้ฉันก็โอเคกับมัน นายเลิกขอโทษได้แล้ว”
นิ้วมือเล็กวางปิดริมฝีปากอุ่นไม่ให้พูดคำขอโทษออกมาอีก ลู่หานรู้สึกดีขึ้นมากแล้วและทั้งหมดนั่นก็เพราะโอเซฮุน
เปิดประตูออกพร้อมกับภาพที่ลู่หานได้แอบตกใจเล็กน้อย เมื่อคนที่ควรนอนซมป่วยกับโอบไหล่พยาบาลสาวหุ่นอวบทั้งสองคน คิ้วบากยกขึ้นเพื่อทักทาย เซฮุนโยนแอปเปิ้ลของฝากใส่ซงมินโฮนั่นทำให้สาวหน้าฝรั่งทั้งสองร้องหวีดด้วยความตกใจ
“ออกไปก่อนนะที่รัก” มิโนกระซิบบอกสาวคอสเพลล์ชุดพยาบาลทั้งสอง
“มึงนี่มันจริงๆเลยนะ กูควรปล่อยให้หนักกว่านี้”
“โธ่พี่ อยู่โรงพยาบาลมันเหงานะเว้ย”
คนที่ไม่ได้เหมือนคนป่วยแม้มีผ้าพันแผลพันอยู่โดยรอบ แถมด้วยเข็มน้ำเกลือห้อยโยง แต่ซงมิโนก็ยังนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกระดิกเท้ากดเปลี่ยนช่องทีวีตรงหน้า นั่นทำให้โดนเซฮุนปาแอปเปิ้ลใส่อีกลูกและมิโนก็รับได้พอดีเช่นเดิม
“คุณไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม”
คนป่วยหันมาถามพร้อมส่งสายตาหวานเยิ้มประหลาดมองมา ลู่หานได้แต่ทำหน้าสงสัยกับสายตาประหลาดนั่นแต่ก็พยักหน้าปฏิเสธว่าสบายดี ส่วนคนที่นั่งอยู่ข้างกันก็ปาแอปเปิ้ลใส่รุ่นน้องคนสนิทและแน่นอนว่ารอบนี้ซงมินโฮพลาดแอปเปิ้ลลูกเล็กจึงโดนหัวเข้าเต็มๆ
“โอ้ย พี่เซฮุนแม่ง ผมเป็นคนป่วยนะเว้ย”
“คนป่วยแบบมึงนี่มันรกโรง’บาล และเกะกะลูกตากู”
จบประโยคพอดีกับประตูห้องพักชั้นบนสุดของโรงพยาบาลแห่งนี้เปิดออก สองร่างที่ความสูงต่างกันปรากฏให้เห็นในสายตา แบคฮยอนยกยิ้มจนตาหยีพร้อมวิ่งเข้าไปกอดคนที่ตัวเล็กพอกัน
“พี่โอเคขึ้นแล้วใช่ไหม?”
“อื้ม ขอบใจนะแบคฮยอน มิโนและชานยอลด้วย”
“ไม่เป็นไรเลยครับ ผมเต็มใจ”
แฟนของเด็กตัวเล็กเอ่ยพลางส่งยิ้มให้แก่เขา คนป่วยที่อยู่บนเตียงก็เช่นกัน นั่นทำให้ลู่หานต้องเผลอยิ้มออกมา ส่วนเจ้าลูกหมาตัวเล็กก็ยังกอดซุกพลางไถหัวใส่แล้วบอกว่าไม่เป็นอะไร เพราะเจ้าตัวเต็มใจมาก
“แบคฮยอนพาพี่ลู่หานขึ้นไปเดินเล่นที่สวนบนดาดฟ้าไป”
“คับแฟนJ” คนตัวเล็กรับคำจากแฟนตัวสูงพลางยิ้มน่ารักใส่ดูสดใสจนลู่หานเผลอยิ้มตาม
“ส่วนเซฮุนมึงออกไปคุยกับกูที่ระเบียง”
ใบหน้าเคร่งเครียดที่เห็นไม่บ่อยนักของปาร์คชานยอล นั่นทำให้ลู่หานที่มองเห็นแอบเป็นกังวลตาม แต่เพราะแรงดึงจากเด็กน้อยที่พาเดินออกนอกห้องให้ทำให้ไม่ทันได้ถามอะไรออกไป
Loading…100%
*ประกาศ*
ขอพัก#ดับเบิ้ลxฮฮ ไว้ก่อนนะคะ
แล้วเราจะกลับมานะคนดี
สงสัยก็สอบถามได้นะคะ ที่คอมเม้น หรือติดแท๊ก #ดับเบิ้ลxฮฮ
หรือจะคุยกันที่ @master_yp ก็ได้แจ้
อวดอีกอย่างเราสองคนมีโปรเจคฟิคเรื่องใหม่แล้วนะ สนใจไหม? ;-)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แล้วไมดู ชานยอลเครียดๆ
น้องฮุนคนขี้หวงงง