ตอนที่ 17 : xx ♥ 014(100%)
DoubleX 014
Theme song : KANG NAM – Chocolate (feat. San E)
When you say you love me, know I love you more.
เสียงถอนหายใจระบายเบาๆ จากจมูกโด่งรั้น ลู่หานปาดครีมเช็ดเครื่องสำอางค์ออกจากใบหน้าใสจนหมด พลางย่นจมูกใส่ตัวเองในกระจก เมื่อเห็นรอยด่างดำบริเวณถุงใต้ตา เชื่อไหมว่างานที่หักโหมทำตอนนี้ทำให้เขาแทบไม่มีเวลาพักเลยสักนิด
“คุณแอรีสคะ เครื่องดื่มที่พี่คยองซูสั่งไว้ให้ค่ะ” เสียงเคาะประตูพร้อมกับร่างของเด็กฝึกงานโผล่มาจากกรอบบานประตู ลู่หานหันไปพยักหน้าน้อยๆใส่ ระบายยิ้มพลางชี้ตำแหน่งที่จะให้วางเครื่องดื่มไว้ให้
“ขอบใจนะ”
ส่งรอยยิ้มหวานจนเด็กสาวได้แต่เขินหน้าแดงแล้วหันหลังออกจากห้องแต่งตัวของนายแบบหนุ่มชื่อดังไปทันที ร่างเล็กเดินถือแก้วโกโก้เย็นไว้ในมือ คงเพราะเริ่มมืดแล้วแน่พี่คยองซูถึงไม่ยอมสั่งลาเต้ของโปรดให้กิน
ดูดเครื่องดื่มไปพลางก็หยิบโทรศัพท์มาเล่น แน่นอนว่าไม่ลืมตอบข้อความทั้งของคริสและอี้ชิง อี้ชิงย้ำกับเขาเสมอว่าช่วงนี้ดูแลคริสให้ดีก่อนที่จะเดินทางเพื่อไปรักษา นั่นทำให้ลู่หานพยายามดูแลและใส่ใจคริสมากกว่าก่อนหน้าในแบบที่เขาพอจะทำได้
Xingxing : นายจะว่าอะไรไหมถ้าฉันต้องไปอยู่กับเขา
Aries Lu : ไม่ ไม่เลย ..นายก็รู้นะอี้ชิง
Xingxing : ฉันกลัวนายไม่สบายใจ
Aries Lu : ไม่มีทาง นายก็รู้
ลู่หานยิ้มออกมาน้อยๆ กับความขี้กังวลของเพื่อนสนิท ทั้งที่อี้ชิงก็รู้ดีว่าความสัมพันธ์ของเขากับคริสเป็นเช่นไร แต่เพื่อนผู้แสนดีของเขาก็ยังขี้กังวลเหมือนอย่างในทุกที คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยโทรศัพท์ที่อยู่ในมือก็แผดเสียงดังลั่นเมื่อมีใครบางคนโทรมา
“ฮัล..”
‘เดี๋ยวผมเข้าไปรับ’
“เฮ้...เดี๋ยวสิ”
ลู่หานขมวดคิ้วใส่หน้าจอมือถือที่สายถูกตัดไปแล้วเพราะคนจอมบงการที่ยังคงเป็นตัวอันตรายเสมอ ยังไม่ทันได้พูดประโยคอะไรสักคำ นี่มันน่าโมโหไม่ใช่น้อย! ปากอิ่มเบะคว่ำไม่พอใจ แต่ถึงแบบนั้นคนตัวเล็กก็ยอมลุกขึ้นมาเก็บของและเตรียมตัวออกไปยืนรออยู่หน้าสตูดิโอตามที่ใครบางคนบอกเอาไว้
รออยู่เพียงแค่อึดใจแสงไฟจากเมซิเดสเบนซ์เลขทะเบียนคุ้นตาก็มาจอดตรงหน้า ลู่หานเปิดประตูและแน่นอนว่าไม่ลืมจะปิดประตูเสียงดังใส่ตามประสาคนแสนรั้น จมูกเชิดรั้น ปากอิ่มเบะน้อยๆ ท่าทางดื้อดึงที่น่ารักมากกว่าเป็นไหนๆ
“นี่...อื้อ”
หันไปหาคนที่ขับรถอยู่ด้านข้าง แค่เพี้ยงเสี้ยววินาทีก็ถูกบดจูบลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ปากอุ่นร้อนสัมผัสรุกล้ำแต่ลู่หานกับต้านทานไม่ได้เลยสักนิด เซฮุนดูดดึงริมฝีปากล่างของคนตัวเล็กกว่าอย่างเอาแต่ใจ จนริมฝีปากอวบอิ่มเผยอออกอย่างยอมแพ้ให้ลิ้นร้อนเข้ามาสัมผัสกักเกี่ยวลิ้นเล็ก
จูบร้อนแรงและเอาแต่ใจในตอนแรก เปลี่ยนเป็นจูบอ้อยอิ่งและหวานล้ำจนลู่หานได้แต่เปลี่ยนจากมือที่จิกอยู่ที่ไหล่หนา มาโอบรอบคอของคนตัวโตอย่างไม่รู้ตัว
โอเซฮุนยังอันตรายและหลอกล่อให้เขาติดกับได้เสมอ
คนตัวโตถอนจูบออกมาให้คนตัวเล็กได้กอบโกยเอาอากาศเข้าปอดหลังจากถูกรังแกจนลมหายใจเกือบหมด ปากร้อนยังคลอเคลียไม่ห่าง เซฮุนจูบซับที่ริมฝีปากอิ่มอยู่แบบนั้น จนถูกมือบางผลักให้ห่างออก
“เดี๋ยวมีคนมาเห็น”
“ฟิล์มผมดำจะตายไป”
“นายนี่นะ ทำไม...”
“เหนื่อยไหม?”
แค่ประโยคเดียวพร้อมกับรอยยิ้มบางของคนตรงหน้า คำพูดต่อว่าที่เคยคิดจะพ่นใส่ก็ต้องเก็บกลืนลงคอ ลู่หานแพ้เซฮุนในรูปแบบนี้ มันค่อนข้างรับมือไม่ถูก และทำให้หัวใจเต้นแรงจนน่ากลัว มือใหญ่ลูบไล้อยู่ที่แก้มพร้อมดวงตาสีเขียวอมฟ้าที่สื่อแววตาอ่อนโยนทำให้ลู่หานต้องเสสายตาหนี ปล่อยให้แก้มกลมขึ้นสีแดงเรื่ออย่างน่ารักจนคนมองแบบโอเซฮุนแทบยั้งใจไม่ไหว ทำเพียงแค่กดจูบบนจมูกโด่งรั้นของคนตัวเล็กที่กักเกี่ยวไว้ในอ้อมแขน
“แล้วนายละ”
“....”
เซฮุนเพียงแค่ยิ้ม และขยับตัวเตรียมขับรถต่อไปตามเดิม เขาจะไม่บอกหรอก ว่าแค่เห็นหน้าคนตัวเล็ก ความเหนื่อยล้าที่สั่งสมก็แทบหายเป็นปลิดทิ้ง เพราะนั่นมันน้ำเน่าเกินไปในแบบที่ปาร์คชานยอลรู้ต้องล้อเขาแน่ เซฮุนจึงทำเพียงคว้ามือบางที่เล็กกว่าเขาเกือบครึ่งมากดจูบและจับประสานนิ้วให้ไออุ่นแผ่ถึงกันเอาไว้แบบนั้น
XX HUNHAN XX
ลมเย็นที่ลอยปะทะใบหน้าทำให้ลู่หานเผลอยิ้มออกมา นั่งชันเข่าอยู่บนกระโปรงรถเมอซิเดสพร้อมหยิบแก้วชาอุ่นที่คนตัวโตกว่ายื่นมาให้ เซฮุนเคยขับรถพาเขามาที่นี่ ที่ที่เคยมาในตอนที่เราเจอกันครั้งแรก แน่นอนว่าคืนนั้นเป็นความคิดที่โคตรบ้าบิ่น เพราะเขาดันขึ้นรถกับคนแปลกหน้าเพราะแค่ถูกใจในสีตาที่แสนน่าหลงใหลของคนที่อยู่ข้างตัวตอนนี้
ถึงมันจะบ้าบิ่น แต่ถ้าให้ย้อนกลับลู่หานก็ยังคงเลือกทำเหมือนเดิม
“ย้อมสีผมใหม่?”
ลู่หานเพิ่งสังเกตุความเปลี่ยนแปลงของคนตัวโตกับแสงดวงจันทร์ที่สะท้อนให้เห็นเส้นผมสีเทาแสนดูดีของเซฮุน คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าดูฮอตเป็นบ้ามากขนาดไหน เบนสายตาหนีจากคนที่กำลังยกยิ้มร้ายกาจในแบบที่ทำให้หัวใจสั่นไหวได้ง่ายๆ
“ดาวยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ”
เอ่ยขึ้นพลางแหงนมองท้องฟ้าที่เห็นดาวได้อย่างชัดเจน แสงสีขาวระยับที่ถูกแต่งแต้มบนผืนฟ้าสีน้ำเงินทำให้ลู่หานยิ้ม รอยยิ้มสวยที่ถูกเผยออกมายังคงทำให้เซฮุนหัวใจเต้นผิดจังหวะในเหมือนทุกครั้ง และเซฮุนรู้ดีว่าลู่หานตอนนี้มีอิทธิพลต่อหัวใจที่เคยด้านชาของเขามากขนาดไหน
“พี่...รู้ใช่ไหม? ว่าแจริมกับผมเป็นแค่คู่หมั้นที่ถูกบังคับ”
“ฉันรู้” ลู่หานจิบชาร้อนในมือพลางเท้าแขนมองดวงดาวต่อไป แต่หูก็ยังคงตั้งใจฟังในสิ่งที่คนตัวโตกว่าพยายามอธิบาย บางทีมันคงถึงเวลาแล้วที่เขาทั้งสองคนควรจัดการทุกอย่างให้มันชัดเจน
“ผมยังยืนยันว่าไม่ได้รักเธอ...มันออกจะใจร้ายไปสักหน่อย แต่ผมไม่เคยรู้สึกอะไรกับเธอ หัวใจผมมันตายด้าน จนมาเจอกับพี่...”
“มีคนเคยบอกไหมว่ามันน้ำเน่า”
“ผมแคร์ที่ไหนกัน ก็แค่อยากบอกให้พี่รู้และมั่นใจ…จากนี้มันอาจยุ่งยากขึ้น”
เซฮุนเดินมาทิ้งตัวข้างคนตัวเล็ก เสยผมสีเทาของตัวเองด้วยความคุ้นชินอย่างทุกที หันไปมองสบกับดวงตากลมโตของใครบางคน ที่กำลังกัดปากด้วยท่าทีประหม่าที่ดูน่ารัก เหมือนลู่หานกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง และประโยคที่ออกมาจากริมฝีปากอิ่มที่เซฮุนหลงใหล ก็ทำให้หัวใจเหมือนถูกอัดด้วยฟองแก๊สจนมันพองโต
“ไม่มีอะไรยุ่งยากไปกว่า การที่เริ่มตกหลุมรักคนอันตรายแบบนายหรอก”
แค่เพียงประโยคแผ่วเบาแต่ดังชัดเจนในใจจบลง เซฮุนก็ขยับตัวใกล้คนตัวเล็กกว่า กดจูบหนักแน่นบนริมฝีปากอิ่มของคนที่วันนี้ทำตัวน่ารักมากกว่าในทุกที คนตัวโตถอยหลังออกมาพร้อมกับเผยรอยยิ้มจนเห็นเขี้ยวท่าทางเหมือนเด็กหนุ่มที่ยิ้มจนตาแทบปิด ทำให้ลู่หานต้องผลักใบหน้าออกไปไกลกว่าเดิมด้วยความหมั่นไส้ที่ทำให้ใจเต้นแรง
พยายามหุบยิ้มที่ทำได้ยากเหลือเกิน สุดท้ายลู่หานก็ต้องเผยรอยยิ้มออกมา ยิ้มทั้งปากยิ้มทั้งตาในแบบที่หัวใจทั้งคู่รู้สึกมีความสุข เหมือนมีผีเสื้อเป็นร้อยตัวบินวนอยู่ในท้อง แถมด้วยหัวใจที่เต้นรัวแรงสูบฉีดเลือนจนแก้มขึ้นสีไปหมด ลู่หานคิดว่าสถาการณ์แบบนี้มันรับมือยากจริง ๆ
โดยเฉพาะรอยยิ้มเห็นเขี้ยวในแบบที่อันตรายต่อหัวใจสุดๆนี่หนะ
เสียงเพลงที่เปิดฟังพร้อมกับเสียงหวานใสที่ฮึมฮัมคลอตาม ทำให้เซฮุนเคาะนิ้วตามจังหวะอย่างอารมณ์ดี ขับรถไปอีกไม่เกินสองบล๊อกก็จะถึงเพ้นเฮ้าส์ที่ลู่หานอาศัยอยู่ ซึ่งนั่นทำให้เซฮุนลดระดับความเร็วรถลงมา เพื่ออย่างน้อยก็ทำให้อยู่ด้วยกันนานขึ้นอีกนิด
“นายมันร้ายกาจ”
“ผมก็ว่างั้น”
เซฮุนยักไหล่ในแบบที่ชวนน่าหมั่นไส้ จนลู่หานได้แต่ย่นจมูกใส่ แถมด้วยกัดแขนของคนที่จับพวงมาลัยอีกทีจนเจ้าของร้องโอย แน่นอนว่าลู่หานรู้ทันว่านี่คือแผนการร้ายกาจของคนเจ้าเล่ห์ ที่อยู่ดีๆก็ขับรถช้าลงจนสัมผัสได้
“ทำแบบนี้ไม่พากลับไปนอนด้วยเลยล่ะ”
“ได้เหรอ?”
“ประชด!” เอ่ยเสียงดังแล้วกอดอกใส่พร้อมกับทำปากเบะ แต่สุดท้ายก็กัดปากยิ้มออกมา ตั้งแต่ลู่หานพูดประโยคนั้นออกไป เซฮุนก็ดูจะอารมณ์ดีมากกว่าในทุกครั้ง รอยยิ้มเผยออกมาง่ายๆ แต่ถึงแบบนั้นก็ยังดูฮอตไม่ต่างไปจากเดิมสักเท่าไหร่
รถจอดสนิทพอดีกับตรงประตูหน้าเพ้นเฮ้าส์ ไม่มีเสียงพูดคุยอะไรมีแค่เสียงเพลงแผ่วเบาดังคลออยู่ในรถยนต์คันหรู เซฮุนเอื้อมมือมาถอดเข็มขัดนิรภัยจากคนที่ยังนั่งนิ่ง พอดีกับที่ริมฝีปากแสนนุ่มนิ่มแตะลงบนสันกรามสวย
“ขอบใจนะ”
เอ่ยประโยคแผ่วเบาด้วยท่าทางน่ารัก แล้วลู่หานก็รีบลงจากรถไปทันที ปล่อยให้คนตัวโตต้องควบคุมอารมณ์ไม่ให้วิ่งไปจับคนตัวเล็กมาฟัดในรถอีกรอบ
แอรีสลู่จะน่ารักมากเกินไปแล้ว
เซฮุนมองตามแผ่นหลังเล็กน่าปกป้องพอดีกับการตัดสินใจบางอย่างสิ้นสุดลง มือใหญ่เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์และต่อสายถึงเลขาสาว เพื่อจัดการกับเหตุการณ์บางอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างไม่ทันรับมือ
“คุณอึนจี ช่วยจัดคนมาคอยดูแลลู่หานหน่อย”
‘เกิดอะไรขึ้นกันค่ะ?’
“เดี๋ยวผมจะเข้าไปที่บริษัทอีกรอบ แล้วคุณค่อยถามนะ”
‘ได้ค่ะ คุณโอ’
เซฮุนกดตัดสายพร้อมกับยกมือขึ้นคลายปมเนกไทด์ เขายังจำน้ำเสียงเกรี้ยวกราดพร้อมแววตาที่ดูไม่ยอมแพ้ของแจริมได้ชัดเจน เราทะเลาะกันก่อนหน้าที่เขาจะออกมารับลู่หาน เพราะแจริมดันเปิดค้นเจอรูปคนน่ารักของเขาในโทรศัพท์
ตอนนั้นเส้นความอดทนของเซฮุนเกือบขาดลง แต่เพราะมันยังไม่ถึงเวลา สิ่งที่เขากำลังทำยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ทำให้เซฮุนทำได้เพียงแค่ยืนกำมือแน่น และปล่อยให้หญิงสาวสาดคำพูดพร้อมการกระทำที่ร้ายกาจ
“แจริมร้ายกว่าที่คุณคิด”
“…”
“ระวังคนนั้นของคุณเอาไว้ให้ดี”
ความคิดหยุดลงพอดีกับโทรศัพท์ในมือสั่น เซฮุนกดรับสาย พลางเอื้อมมือไปบีบนวดคลายบริเวณหัวคิ้ว เสียงของปาร์คชานยอลที่ลอดออกมาตามสายทำให้ส่งเสียงตอบรับกลับไป
‘เกิดอะไรขึ้นหวะ’
“แจริม...เธอรู้”
‘ยัยผู้หญิงร้ายกาจนั่น’
“เออ เดี๋ยวกูเข้าไปคุยต่อในบริษัท”
กดตัดสายพร้อมกับเหยียบคันเร่งให้เมอซิเดสเบนซ์ออกตัวอย่างเต็มสมรรถภาพ
แค่การตกหลุมรัก ความรู้สึกของกันและกัน
Aries Lu
Loading…60%
เสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่ม พร้อมล้อที่บดเบียดกับพื้นถนนทำให้หัวใจของเซฮุนรู้สึกผ่อนคลาย ปล่อยความคิดและความรู้สึกไปกับความเร็วที่เกินขีดจำกัดบนท้องถนน ขยับมือเปลี่ยนเกียร์พร้อมเหยียบคันเร่งกระชากเครื่องยนต์ห้าร้อยแรงม้าให้พุ่งทะยานเข้าสู่เส้นชัย
เสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มขึ้นทันทีลาเฟอรารี่สีแดงเพลิงทะยานผ่านเส้นชัย มิสเตอร์โอ ยังทำให้ทุกคนที่หลงใหลในความเร็วของยานยนต์ชื่นชมอยู่เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน
“ผมไม่คิดว่าพี่จะโผล่หน้ามาที่นี่อีก”
น้ำเสียงกวนประสาทพร้อมใบหน้าแสนยียวนเจ้าของคิ้วหนาที่ถูกบากเป็นรอยเอ่ยขึ้น มิโนเดินเข้ามาใกล้รุ่นพี่ที่ให้ความเคารพถึงแม้การแสดงออกจะตรงข้ามเป็นไหนๆ แต่ก็ยื่นมือส่งบุหรี่ยี่ห้อดีให้พร้อมไฟแช็กให้จุดสูบอย่างรู้งาน
เซฮุนที่ยื่นพิงรถอยู่อย่างใช้ความคิด พลางยื่นมือไปรับเอาแท่งนิโคตินจากรุ่นน้องที่ยกสนามแข่งขันคืนให้ แม้การแข่งขันในวันนั้นจะไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่แต่ก็ถือว่าเซฮุนแพ้การแข่งขันและมอบสนามแข่งนี้ให้ซงมินโฮแล้ว มือใหญ่ที่เคยล้วงกระเป๋ากางเกงเปลี่ยนไปหยิบไฟมาจุดปลายบุหรี่จนไฟลุกลามปลายมวนพร้อมควันสีขาวล่องลอยตาม
“แค่มีเรื่องให้คิด”
“…”
มีเพียงกลิ่นมิ้นท์ที่ปนกับกลิ่นนิโคตินลอยวนอยู่รอบตัว ความกังวลเกือบครึ่งถูกปลดปล่อยไปกับความเร็วที่ได้เร่งเครื่องยนต์จนสุด สมองเริ่มโล่งมากขึ้นพร้อมกับความคิดบางอย่างผุดมาในหัว
“พี่ชานยอลติดต่อมาแล้ว ถ้าเป็นเรื่องนั้น”
“ไม่ได้ต้องการคนเยอะแบบนั้น”
“แล้วต้องการแบบไหน”
มิโนหันไปมองผู้ชายร่างสูงใหญ่เจ้าของเรือนผมสีเงินที่กำลังเสยผมพร้อมยกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เซฮุนยังเป็นผู้ชายที่ซงมิโนนับถืออยู่เสมอ แม้เคยมีเรื่องที่ทำให้เขาต้องหมดศรัทธาผู้ชายคนนี้ไปแต่เขาก็รู้แล้วว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เซฮุนต้องละทิ้งความฝันและเปลี่ยนมาจับทางธุรกิจที่ดูตรงข้ามกับสิ่งที่เซฮุนเคยบอกไว้
เพราะความฝันกับความเป็นจริงบางครั้งก็มักจะสวนทางกัน
“ขอแค่คนเดียวที่พร้อมจะดูแลคนของฉัน”
ประโยคหนักแน่นคำสั่งของเซฮุนทำให้มิโนเพียงแค่พยักหน้าตอบรับ
XX HUNHAN XX
เสียงปึงปังพร้อมเสียงโหวกเหวกโวยวายด้านนอกทำให้เปลือกตาบางต้องเปิดขึ้นเพื่อรับแสงวันใหม่เร็วกว่าที่คิด แพรขนตาหนากระพริบปริบเพื่อปรับโฟกัสดวงตากลมโตให้รับกับแสงแดดที่ส่องผ่านผ้าม่านสีขาว ลู่หานยกมือเล็กขึ้นขยี้ตาพลางเปิดปากหาวเมื่อรู้สึกยังนอนไม่เต็มอิ่มสักเท่าไหร่ เพราะเสียงโวยวายเหมือนคนทะเลาะกันมาจากด้านนอก
“ไอ้เด็กจอมฉวยโอกาส!”
ทันทีที่เปิดประตูออกมาเสียงตะโกนจากผู้จัดการส่วนตัวก็ดังขึ้นต้อนรับ พร้อมหมอนใบเล็กปลิวเฉียดหัวไป ลู่หานเบิกตาที่กำลังจะปิดอีกรอบให้กว้างกว่าเดิมพร้อมเดินไปหยิบหมอนใบเล็กที่ถูกขว้างใส่เฉียดหัว ไปปาใส่หลังเพื่อนตัวดีที่คงสาเหตุของเหตุการณ์แสนวุ่นวายเช้านี้
คิมจงอินคงแต๊ะอั๋งอะไรพี่คยองซูสักอย่างอีกตามเคย
“ลู่หานข้าวเช้าอยู่บนโต๊ะ!”
เสียงตะโกนจากจงอินดังสวนสารพัดคำด่าจากพี่ชายตัวเล็ก พลางวิ่งหนีกองทัพหมอนที่พี่คยองซูขนมาปาใส่อย่างไม่หยุดยั้ง ลู่หานยักไหล่อย่างไม่สนใจคดีฆาตกรรมที่กำลังเริ่มต้นขึ้น แอบเห็นปลายสายตาเล็กหน่อยว่าคิมจงอินถูกพี่คยองซูข่วนใส่ แต่นั่นก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขาหรอกนะ
เพราะสุดท้ายก็จะจบลงที่พี่ผู้จัดการตัวเล็กหายามาทาให้ไอ้เพื่อนตัวดีของเขาเสมอ
จิ้มไส้กรอกอันเล็กที่ถูกตัดเป็นปลาหมึกตามประสาความพิถีพิถันของพ่อครัวอย่างคิมจงอิน ลู่หานจัดการอาหารตรงหน้าอย่างไม่รีบร้อนพร้อมกับเสียงโวยวายที่ห้องรับแขกเริ่มสงบลง คิดไปถึงสิ่งที่ต้องทำในวันนี้ดวงตากลมก็วูบไหว เหลือบมองโทรศัพท์เครื่องเล็กที่หยิบติดมือมาเมื่อตัวเลขวันที่ตอกย้ำในสิ่งที่ต้องทำได้เป็นอย่างดี
“ลู่หาน...วันนี้ถ้าจะออกไปไหนก็ไปรถที่บริษัทจัดมาให้แล้วกันนะ”
“ทำไมละ?”
ขมวดคิ้วพลางทำหน้าสงสัยใส่ผู้จัดการตัวเล็ก พี่คยองซูไม่ยอมตอบคำถามเลยทันที แต่เดินไปรินน้ำส้มจากในตู้เย็นขึ้นดื่ม คิดไปไม่นานลู่หานก็เริ่มเข้าใจในสิ่งที่ผู้จัดการพยายามจะสื่อ ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างรู้ดีในสิ่งที่เกิดขึ้น
“มีข่าวอะไรอย่างงั้นเหรอ บอสถึงสั่งให้คนมาคุมตัวผม”
“อ่า...ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก”
ลู่หานใช้มีดหั่นแฮมชิ้นใหญ่ตรงหน้าพลางจ้องไปยังผู้จัดการคนสนิทอย่างรอคอยคำตอบ มีไม่กี่ครั้งที่บอสใหญ่ต้นสังกัดของเขาจะสั่งอะไรที่ดูลิดลอนอิสรภาพกันไปสักหน่อย ถ้าไม่ใช่ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงหรือภาพลักษณ์ของแอรีสลู่มากจนเป็นที่พูดกันในสังคม ถึงเขาจะเป็นแค่นายแบบ แต่ก็มีชื่อเสียงไม่ต่างจากนักแสดงชั้นนำระดับประเทศสักเท่าไหร่
“พี่คยองซู…ผมขอหนังสือพิมพ์”
“กูเอาทิ้งไปแล้ว”
เสียงเข้มของเพื่อนสนิทที่ดังตอบกลับมา ทำให้ลู่หานกรอกตาด้วยความเซง พร้อมจ้องไปที่คนผิวสีแทนที่ตอนนี้มีรอยข่วนเป็นทางยาวตรงแขน คนตัวเล็กไม่ได้รู้สึกสงสารอะไรเพื่อนเลยสักนิดนอกจากเบะปากใส่แล้วแอบแช่งในใจให้ได้รอยแผลจากพี่คยองซูเพิ่มอีกสักสองสามรอย
“กูแค่อยากรู้ว่าข่าวเกี่ยวกับอะไร”
“ไม่เห็นจำเป็น”
“แอบถ่าย?”
“…”
มีความเงียบเป็นคำตอบของคำถาม ทำให้ลู่หานรวบช้อนส้อมเมื่อทานอาหารเช้าเสร็จพลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม แล้วลุกขึ้นยืนเดินออกจากครัว หยิบมือถือเครื่องเล็กขึ้นสไลด์หาข้อมูลของข่าวบันเทิงในเช้าวันนี้
‘แอเรียสลู่ที่หลายคนใฝ่ฝัน แอบหย่องเล่นชู้กลางดึกกับหนุ่มนิรนาม’
“x!” อุทานพร้อมเลื่อนหน้าจอดู ทำให้เห็นรูปมืดมัวที่แทบไม่เห็นเค้าลางของตัวเขาเลยสักนิด แต่ลู่หานก็รู้ดีว่าคือรูปของเขากับเซฮุนในคืนที่ผ่านมา คนตัวเล็กผ่อนลมหายใจด้วยอารมณ์ที่กรุ่นอยู่ในใจ มันเป็นรูปเขาจริงอย่างไม่มีทางเถียง
แต่ไอ้หัวข้อข่าวที่โจมตีเขาจนภาพพจน์ที่ผ่านมาพังทลายนี่สิ ให้ตายเถอะ!
ลู่หานหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อนกับวงการข่าวบันเทิงที่ใช้คำบรรยายจนน่าโมโห ยังไม่ทันได้โทรไปโวยวายกับเจ้าของสำนักพิมพ์ที่เป็นคนปล่อยข่าว แรงสั่นสะเทือนเพราะข้อความจากใครบางคนก็ทำให้คนตัวเล็กต้องก้มลงไปมองมือถือในมือ
‘ผมจะจัดการข่าวให้ – Sehun’
ทันทีที่เห็นข้อความจากคนที่ตกอยู่ในรูปเดียวกัน มือเล็กก็รีบพิมพ์ตอบกลับไปทันที
‘ไม่เป็นไร...ฉันจัดการเองได้ นายจัดการงานของตัวเองเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วง’
ปากอิ่มวาดรอยยิ้มพลางคิดไปถึงแผนการในหัวที่จะจัดการกับสำนักพิมพ์ที่ปล่อยข่าวที่ใช้คำบรรยายจนเขาเสียหาย เดี๋ยวจะได้รู้กันว่าแอรีสลู่เวลาเอาจริงจะร้ายกาจมากขนาดไหน
จงเป็นเหมือนกุหลาบ ที่มักมีหนามแหลมไว้ป้องกันตัว
Aries Lu
Loading….100%
กลับมาแล้วนาจา ขอโทษที่หายไปนานนะคะ
รับน้อง สอบและแลปทำให้กินเวลาชีวิตเราไปมากโขเลยL
หวังว่ายังอยู่ลุ้นคุณแอรีสกับมิสเตอร์โอกันอยู่นะคนดี
ติดแท๊ก #ดับเบิ้ลxฮฮ และคอมเม้นให้กำลังใจกันได้
มาสเตอร์ที่อยากปั่นฟิคแต่เวลาไม่มีเลย .__.
@master_yp
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สุดท้าย ขอบคุณมากค่ะไรท์
ร้ากน้าาาาาาาาาาา
แต่เราก่เชื่อว่าเซฮุนกับลู่หานจะผ่านมันไปได้
รีบแก้ข่าวที่ว่าเปนชู้ดีกว่าเนอะ
อยากเห็นลู่จัดการคนที่มาทำร้าย
ชอบตอนอยู่ด้วยกัน น่ารักกกกกกด^^
ไรท์คะ
ขอฉากสวีทอีกน๊า อิอิ