ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Haikyuu [fanfic] | ผู้จัดการสาวกับรอยยิ้มที่หายไป (Iwaitsumi x OC)

    ลำดับตอนที่ #3 : 3 - ฝาแฝด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 90
      6
      30 ส.ค. 67

    -3-

     

    ต่อจากตอนที่แล้ว การแข่งเซทที่สามได้ดำเนินไปอย่างราบรื่น ตอนนี้คาราสึโนะเป็นฝ่ายนำ 

     

     

     

    20 – 24

     

     

     

    “(อีกคะแนนเดียวเองเหรอ ใช้ได้นี่นา)” โมโมกะชมแบบขอไปที ก็จริงอยู่ที่ตอนนี้คาราสึโนะอาจจะมีฝีมือในเกมรุกที่ยอดเยี่ยม แต่เรื่องการรับนี่ห่วยแตกสุดๆ

     

    “(ถ้าโทรุลงเองแต่แรก ก็คงไม่เป็นแบบนี้)” เพราะเซตเตอร์ตัวจริงของเซย์โจไม่อยู่ ผลก็เลยกลายเป็นแบบนี้ 

     

    “พักไปเลย เดี๋ยวรุ่นพี่คนนี้จัดการให้เอง”

    “ครับ” ฝั่งเซย์โจเปลี่ยนตัวเซตเตอร์ แน่นอนว่านั่นทำเอาผู้เล่นทั้งหกคนของคาราสึโนะตัวสั่นไปตามๆกัน

     

    “ไม่ว่ายังไงพวกนายก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ ถ้าพวกนายเชื่อมต่อกันไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก” โออิคาวะพูดก่อนจะชี้นิ้วไปที่สึกิชิมะ

     

    “โหหห เล่นแบบนี้เลยเหรอ” ถึงคนอื่นจะงงกัน แต่ไม่ใช่กับโมโมกะที่ตามทัน โออิคาวะเล็งที่สึกิชิมะ

     

    ตึงงงงงง

    “(ใช่จริงๆซะด้วย)” เมื่อกี้โออิคาวะเสิร์ฟลูกโดยเล็งไปที่สึกิชิมะ ผลก็คือลูกกระเด็นออกนอกสนาม

     

    “อย่างที่คิดเลย เท่าที่ดูแมตช์นี้ ทั้งเบอร์หกและก็เบอร์ห้า พวกนายไม่เก่งตั้งรับสินะ ท่าทางจะปีหนึ่งล่ะสิเนี่ย” กัปตันของเซย์โจพูดเองแบบนี้ คงไม่มีเรื่องที่ต้องปฏิเสธ

     

    “เอาล่ะ มาเก็บอีกแต้มดีกว่า” โออิคาวะพูดในเชิงหยอกล้อ แต่น้ำเสียงเขาค่อนข้างเป็นมิตร(มิจฉาชีพ)นะ

     

    “เสิร์ฟเอซ สมแล้วที่เป็นกัปตันเซย์โจ”

    “โมโมกะ พูดอะไรออกมาน่ะ”

    “ก็จริงนี่นา ฉันพูดผิดตรงไหน ตอนนี้ทีมเราไม่เก่งเรื่องการตั้งรับ เจ้าโทรุก็พูดออกมาเองเลยด้วย แถมสึกิชิมะก็มาเล่นแบบขอไปที ที่จริงแล้วฉันเองก็ไม่ได้อยากมาด้วยซ้ำ” คำพูดที่รุนแรงออกมาจากปากโมโมกะ ซึ่งนั่นก็สร้างความตกใจให้กับเพื่อนร่วมทีมไม่น้อยเลย

     

    “คุณโมโมกะ......”

    “ถ้าเล่นแบบขอไปทีละก็ เตรียมตัวเตรียมใจแพ้ซะเถอะ เจ้าพวกมือใหม่” โมโมกะพูดด้วยความโมโห จากนั้นเธอก็เดินออกจากโรงฝึกไป

     

    ปึงงงงงง!!!

    “โมโมกะ......”

    “ท่าทางจะฝังใจน่าดูเลยแฮะ” ไดจิกับสึงาวาระไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ แต่พวกปีหนึ่งกับปีสองนี่เรียกว่าช็อคสุดๆ

     

    “เปลี่ยนเยอะเกินไปแล้วล่ะมั้ง ยัยนั่นน่ะ ไม่สดใสร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนเลย”

    “คงงั้นแหละ//เหงื่อตก” โออิคาวะกับอิวาอิซึมินั้นแปลกใจเอามากๆ ทั้งคู่รู้จักโมโมกะมานาน  พวกเขาไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้มาก่อน

     

    “ทำไมคุณโมโมกะถึงเป็นแบบนั้นล่ะครับ คุณไดจิ”

    “ไว้ขากลับ ฉันจะเล่าให้ฟังนะ” คาเงยามะค่อนข้างแปลกใจ ที่เห็นรุ่นพี่ในชมรมเป็นแบบนั้น ไม่ได้โมโหแบบกระฟัดกระเฟียด แต่เยือกเย็นจนน่ากลัว

     

    “ตอนนี้ต้องมีสมาธิกับการแข่งก่อน”

    “ครับ!!” ไดจิที่เป็นกัปตันนั้นได้พูดเตือนสติคนในทีม ตอนนี้ต้องสนใจการแข่งก่อน 

     

    “เอาล่ะ พวกนายเขยิบไปด้านหลัง ส่วนสึกิชิมะ นายไปอยู่ใกล้ๆเส้นข้างหน่อย” ไดจิพูด ส่วนคนอื่นๆก็คอยทำตาม 

     

    “โหหห ขยายวงป้องกันของกัปตันคุง แสดงว่าถนัดรับลูกสินะ” โออิคาวะพูดด้วยความประหลาดใจนิดหน่อย

     

    “แต่ถึงยังไง ก็ป้องกันทั้งหมดคนเดียว ไม่ได้หรอกนะ!!” โออิคาวะพูดพร้อมกับเสิร์ฟลูกไปที่สึกิชิมะ แถมพลังในการเสิร์ฟลูกก็ไม่ได้ลดลงเลยด้วย

     

    “สึกกี้~~ ยอดเยี่ยมมม” ยามางูจิพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ แถมร่างกายก็สั่นตามไปอีก 

     

    “โหหห รับได้เหรอเนี่ย” ลูกที่โออิคาวะเสิร์ฟเมื่อกี้นี้ สึกิชิมะรับได้อย่างหวุดหวิด ทำให้ตอนนี้บอลลอยกลับไปหาฝั่งเซย์โจ

     

     

    “(แย่แล้วไง ตำแหน่งตอนนี้ไม่มีใครบล็อคได้เลยครับเนี่ย)” สึงาวาระกังวลเอามากๆเลยล่ะ ส่วนฝั่งของเซย์โจกำลังส่งลูกกันไปมาอยู่ด้วยสิ คินไดอิจิกำลังจะตบลูก

     

    “(เอาล่ะ หนีตัวบล็อกได้แล้ว ห้ะ?!!)” จู่ๆฮินาตะก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ ทำให้คินไดอิจิตีลูกไม่ลง เพราะบอลไปโดนมือของฮินาตะ

     

    “ฟรีบอล!!” บอลลอยมาทางฝั่งคาราสึโนะแล้ว ตอนนี้เป็นโอกาส หนึ่งอึดใจ หนึ่งก้าว ถ้าพลาดก็จบกัน

     

    “?!!!” เพียงชั่วพริบตาเดียว ฮินาตะก็วิ่งไปอีกด้านนึง จากนั้นคาเงยามะก็ส่งลูกให้ และเพียงชั่วพริบตาเดียว ลูกก็ลอยผ่านหน้าโออิคาวะไป แถมลงในคอร์ทด้วย

     

     

     

     

     

    “จะกลับแล้วเหรอ”

    “คุณอิวะ มีธุระอะไรเหรอคะ” หญิงสาวได้หยิบกระเป๋าแล้วทำท่าจะกลับบ้าน

     

    “ไม่ร่าเริงเลยนะ รอยยิ้มที่สดใสหายไปไหน” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย อิวาอิซึมิ ฮาจิเมะ รองกัปตันสุดโหดของเซย์โจ พ่วงด้วยตำแหน่งเอสสุดเก่งของทีม เขากับโออิคาวะเป็นเพื่อนบ้านสมัยเด็กของหญิงสาว

     

    “.........”

    “จริงสิ ได้ข่าวว่าเปลี่ยนชื่อด้วยนี่นา” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ชวนโมโห

     

    “ช่วยเก็บเป็นความลับด้วยนะคะ”

    “หมายศาลยังไม่มาอีกเหรอ”

    “ยังรวบรวมหลักฐานไม่เสร็จน่ะค่ะ” หญิงสาวได้ขอร้องคนตรงหน้าไว้ว่าอย่าเอาไปบอกใคร เรื่องที่เธอเปลี่ยนชื่อนั่นแหละ

     

    “ซ่อนตัวแบบนี้ต่อไปมันจะดีเหรอ”

    “ก็มัน...... ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่นา” หญิงสาวพูดพร้อมกับยักไหล่ไปด้วย ก็เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมานี่นา ต้องรอหมายศาลอย่างเดียว

     

    “งั้นขอตัวก่อนนะคะ”

    “จะไปไหน??”

    “ชิราโทริซาวะค่ะ//ยิ้ม” พอหญิงสาวพูดจบ เธอก็ปลีกตัวออกมาทันที ทั้งที่จริงแล้วเธอต้องกลับคาราสึโนะก่อนแท้ๆ ชักจะนิสัยเสียขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ

     

     

     

     

     

    “อิวะจางงง แล้วอายากะจังล่ะ”

    “กลับไปแล้วล่ะ นายมาช้าเองนะ โออิคาวะ” สองเพื่อนรักพูดคุยกัน เนโกมาตะ อายากะ เป็นชื่ออันที่สองของโมโมกะ แต่พอดีเกิดอะไรหลายๆอย่าง เลยมีเหตุที่ต้องทำให้เปลี่ยนชื่อ

     

    “เหหห ฉันยังไม่ได้ลาเลยนะ//พองแก้ม”

    “นั่นสินะ แต่ว่า ยัยนั่นเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ”

    “ไม่เห็นแปลก ก็เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นนี่นา เธอคนนั้นจะเปลี่ยนไปก็ไม่แปลกหรอก” โออิคาวะพูดพร้อมกับท้าวเอวไปด้วย ถ้าเขาเป็นเธอคนนั้น ก็คงเปลี่ยนไปเหมือนกัน

     

    “งั้นฉันไปจัดการคนในชมรมก่อนนะ”

    “ฝากด้วยนะ” อิวาอิซึมิได้ปลีกตัวกลับเข้าไปในโรงเรียน ส่วนโออิคาวะอยู่หน้าประตูโรงเรียน พอพูดถึงหญิงสาวที่พึ่งจากไปเมื่อกี้นี้ ทำเอาเขานึกถึงเรื่องสมัยเด็กขึ้นมาเลย “ให้ตายสิ”

     

    “เปลี่ยนไปเยอะจริงๆแฮะ//ยิ้ม” ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี รอยยิ้มที่สดใสราวกับดอกไม้ที่บานอยู่ใต้พระอาทิตย์นั้นได้หายไป ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ “หือออ??”

     

    “ถ้าหากว่าเรา เจอกับเซย์โจแบบที่มีโออิคาวะอยู่ตั้งแต่แรกละก็ เราก็คง อาจจะไม่ชนะก็ได้” ไดจิที่เป็นกัปตันพูดกับทุกคนในทีม เพราะโออิคาวะมาเล่นในตอนสุดท้าย ทีมคาราสึโนะที่นำอยู่แล้วก็เลยชนะไปอย่างหวุดหวิด

     

    “โหหห สมกับเป็นกัปตันจริงๆเลย” โออิคาวะพูดชมในฐานะที่เป็นกัปตันเหมือนกัน ไดจิเข้าใจสถานการณ์ได้ดีเลยนะเนี่ย

     

    “มหาราชาออกมาแล้ว!!” ฮินาตะเรียกโออิคาวะแบบนั้น เพราะเพื่อนร่วมทีมอย่างคาเงยามะได้ฉายาว่าราชา แถมโออิคาวะก็เป็นเหมือนแรงบันดาลใจของคาเงยามะ งั้นก็ต้องเป็นมหาราชา

     

    “มีปัญหาอะไรอีกอ่ะ”

     

    “นายต้องการอะไร”

     

    “จะหาเรื่องรึไง”

     

    “จะหาเรื่องเหรอ” ฮินาตะกับทานากะพูดเชิงกวนโอ้ยนิดหน่อย

     

    “อย่าทำท่าน่ากลัวแบบนั้นสิ เจ้าหนู” ฮินาตะพูดกวนประสาททั้งๆที่เกาะแขนทานากะอยู่ โออิคาวะเลยอดที่จะแซวไม่ได้

     

    “เจ้าหนูนั่นน่ะ one touch ตอนท้ายเกม เยี่ยมมากเลยนะ”

    “แฮะๆ////” ฮินาตะที่โดนชมก็มีท่าทีที่เขินนิดหน่อย

     

    “แล้วก็นะ ฉันแปลกใจกับผู้จัดการของพวกนายมากเลย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้--”

    “พวกเราเองก็แปลกใจเหมือนกัน” ไดจิรีบตัดบทพูดทันที เรื่องของโมโมกะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะให้พวกปีหนึ่งรู้ไม่ได้

     

    “เรื่องโมโมกะ เป็นความลับไม่ใช่เหรอ”

    “นั่นสินะ ลืมไปซะสนิทเลยแฮะ” พวกเด็กปีหนึ่งของคาราสึโนะต่างก็เอียงหัวด้วยความสงสัย 

     

    “พวกนายเองก็รู้เหรอ แปลกใจนะเนี่ย”

    “ไม่ว่าใครก็รู้ทั้งนั้นแหละ โดยเฉพาะปีสาม” เรื่องของโมโมกะนั้นดังมาก แต่พวกปีหนึ่งกลับไม่รู้กันสักเท่าไหร่ แปลกดีใช่ไหมล่ะ

     

     

     

     

     

    “กลับมาแล้วค่ะ” โมโมกะแวะไปที่ชิราโทริซาวะเหมือนทุกครั้ง คงเพราะไปบ่อยจนเป็นนิสัยแล้วละมั้ง

     

    “กำลังรออยู่เลย มีคนมาหาหลานน่ะ” หญิงวัยกลางคนพูด เธอคนนี้ศักดิ์เป็นป้าของโมโมกะ

     

    “ใครเหรอครับ”

    “อายาโกะน่ะ พอดีเจ้าตัวย้ายโรงเรียน เลยมาขออาศัยอยู่ที่บ้านของเราชั่วคราว” เนโกมาตะ อายาโกะ เป็นแฝดคนที่สาม ส่วนโมโมกะเป็นแฝดคนที่สี่ 

     

    “ย้ายมาจากอินาริซากิสินะครับ”

    “เห็นว่ายูกับโยเองก็จะย้ายมาด้วยนะ น่ายินดีจริงๆ” แม่โมโมกะนั้นเป็นน้องสาวฝาแฝดของแม่วากะโทชิ เป็นญาติที่สนิทชิดเชื้อกันดีเลยล่ะ

     

    “อายาโกะรออยู่ข้างใน หลานก็รีบไปหาสิ”

    “ค่ะๆ” โมโมกะไม่เข้าใจเลยสักนิด ก็แฝดเธออย่างอายาโกะเรียนอยู่ที่เฮียวโงะแถบคันไซ ทำไมถึงลงทุนย้ายมาเรียนที่มิยางิกันนะ

     

    “อายากะดูไม่ดีใจเลยนะครับแม่”

    “ไม่หรอก แม่ว่าเด็กคนนั้นดีใจแน่นอน แต่ตอนนี้คง ประหลาดใจมากกว่า” หญิงสาวกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงที่สดใส

     

    ครืนนนนนน ตึงงงงงงง!!

    “อายากะ!! ไม่เจอนานเลยยย!!”

    “?!!! ด...เดี๋ยวๆๆๆๆๆ” พอโมโมกะเปิดประตู แฝดพี่ของเธอก็กระโดดพุ่งเข้ามากอดทันที

     

    “อายาโกะ?! มานี่ได้ไงเนี่ย”

    “พ่อบอกให้มาดูแลเธอน่ะ ยูกับโยเองก็มาด้วยนะ” น้ำเสียงที่สดใสได้ออกมาจากปากแฝดพี่ของโมโมกะ รอยยิ้มที่ร่าเริงได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่สวยสง่า ไม่ได้เห็นมานานแค่ไหนแล้วนะ

     

    “ยังร่าเริงเหมือนเคยเลยนะ”

    “พี่โทชิเองก็ด้วย ยังเคร่งขรึมเหมือนเคยเลย” ทุกคนต่างก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

     

    “เลิกกอดได้แล้ว ฉันหนัก!!”

    “อ้ะ โทษที แฮะๆ” อายาโกะได้ปล่อยกอดแล้วลุกขึ้นมานั่ง ก็ไม่ได้เจอกันตั้งนาน คนเป็นพี่ก็ต้องคิดถึงน้องเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว

     

    “เธอเรียนอยู่ที่ไหนอ่ะ ชิราโทริซาวะใช่ไหม ฉันจะได้ไปเรียนด้วย”

    “เปล่า ฉันเรียนอยู่ที่คาราสึโนะ”

    “อาเดะ.........” ในจังหวัดมิยางิ โรงเรียนที่ดังเรื่องวอลเล่ย์บอลที่สุดก็คือโรงเรียนชิราโทริซาวะไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงไปเข้าที่คาราสึโนะล่ะ

     

    “ฉันไม่อยากเป็นจุดเด่น ก็เลยไปเข้าที่คาราสึโนะ แล้วก็อีกอย่าง ยังรวบรวมหลักฐานไม่เสร็จด้วย”

    “อย่าบอกนะ....... เธอคุยเรื่องนั้นกับพ่อสองคนน่ะ” เรื่องมันใหญ่ออกขนาดนั้น แถมยังเกี่ยวกับครอบครัวอีก ทำไมถึงคุยกันแค่สองคนล่ะ “.......อือ”

     

    “ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้พวกตำรวจก็ช่วยกันรวบรวมหลักฐานเหมือนกัน เพราะเป็นคดีที่ใหญ่มาก กรมตำรวจเลยให้ความสนใจเป็นพิเศษ ถึงตอนนี้จะเงียบไปแล้วก็เถอะ” 

    “งั้นเหรอ” ก็เป็นถึงคดีค้ามนุษย์เลยนี่นา แถมคนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดก็คือโมโมกะนี่นา ไม่สิ ต้องเป็นเนโกมาตะ อายากะต่างหาก

     

    “ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้น กำลังตามหาตัวฉันอยู่ ฉันก็เลยเปลี่ยนชื่อ นามสกุล วันเกิด ที่อยู่ พวกตำรวจเขาแนะนำมาอีกทีน่ะ//ยิ้ม” โมโมกะยิ้มออกมาเพื่อปลอบใจตัวเอง ว่าเดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป

     

    “......”

     

    “ดีล่ะ งั้นฉันจะเข้าคาราสึโนะ!!”

     

    “ห้ะ?/เอ้ะ?” ไม่ว่าใครก็งงกับคำพูดของอายาโกะ จะไปเข้าคาราสึโนะเนี่ยนะ

     

    “เธอจะได้ไม่เหงาไง”

    “ไม่ต้องก็ได้ ตอนนี้ฉันมีความสุขดี//เหงื่อตก” ไม่รู้ทำไม ทั้งที่อากาศตอนนี้ออกจะดีแท้ๆ แต่โมโมกะกลับรู้สึกร้อนซะงั้น

     

    “(ให้ตายสิ นึกว่าจะได้อยู่อย่างสงบแล้วเชียวนะเรา)” จากนี้ไป ความสงบของโมโมกะก็เริ่มหายไปทีละน้อย

     

    “จริงสิ แล้วสองคนนั้นล่ะ”

    “ถ้ายูกับโยล่ะก็ น่าจะมาถึงประมาณตี 4 ละมั้งนะ พวกนั้นบอกมาแบบนี้” ยูกับโย ฝาแฝดชายที่มีนิสัยแบบเดียวกัน หน้านิ่ง เย็นชา สุขุม เคร่งขรึม แต่จริงๆก็เป็นคนอบอุ่นอยู่เหมือนกันนะ

     

    “คงจะไปเข้าคาราสึโนะใช่ไหม”

    “อื้ม พวกเราคุยกันแล้วล่ะ ว่าอายากะเรียนที่ไหน พวกเราก็จะไปเรียนด้วย” อายาโกะพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

     

    “ไม่เห็นจำเป็น พวกเธอกังวลมากเกินไปแล้วนะ รู้ตัวรึเปล่า” โมโมกะพูดพร้อมกับเดินออกจาห้องเพื่อไปอาบน้ำล้างตัว

     

    “เปลี่ยนเยอะเกินไปแล้วมั้ง อายากะน่ะ”

    “ขนาดฉันยังไม่ชินเลย” เมื่อก่อนโมโมกะเป็นคนที่ร่าเริงสดใสเอามากๆ ยิ้มง่าย พูดเก่ง เป็นมิตรกับทุกคน แต่ดูตอนนี้สิ เหมือนเป็นคนละคนเลยล่ะ เก็บตัว ไม่ค่อยยิ้ม ทำหน้าเศร้าตลอดเวลา

     

    “พวกตำรวจบอกว่า เห็นผู้หญิงคนนั้นที่เมืองนี้”

    “อ่า ฉันเคยเห็นอยู่ครั้งนึง รู้สึกว่าตอนนี้ชอบไปโรงเรียนต่างๆ น่ากลัวจริงๆนะ” เมื่อก่อน ครอบครัวทางฝั่งของอายาโกะนั้นรักกันดี แต่ตอนนี้ ทุกคนต่างก็รู้สึกเหมือนกัน เหมือนว่าอยู่คนละโลกกับโมโมกะ

     

    “อีกไม่นานก็จะได้เจอกันแล้วสินะ ยัยตัวปลอมนั่น”


    **คอมเมนท์มาคุยกันได้นะ**

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×