เกิดใหม่เป็นนางร้ายที่หลงรักนางเอกในนิยาย

ลำดับตอนที่ #8 : Ep.7 ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม

Ep.7 ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม

“ไม่น่าเชื่อเลยว่าคำพูดธรรมดา ๆ ของญาดาจะทำให้คนในกองถ่ายจำได้ติดหู ดาทำได้อย่างไร เมื่อก่อนไม่เคยนอกบทแบบนี้มาก่อนเลยนี่นา ไหนจะการจูบนั่น ทำเอาตาขุนพลที่เคยดูถูกดาถึงกับเอ๋อแดกไปเลย ดีนะที่นางไม่หยุดจนทำให้ต้องพักถ่ายไปก่อน” เพ็ญแขที่เห็นการพัฒนาของญาดาอย่างเห็นได้ชัด เพียงแค่เอริณเข้าไปคุยด้วยไม่กี่คำ ไหนจะถาพหลุดคลิปหลุดว่อนเน็ตที่เอริณเข้าไปคุยกับญาดาเพียงไม่กี่วินาที มันยิ่งทำให้คนหันมาสนใจเอริณมากขึ้น และใช่คนหันมาสนใจฝีมือการแสดงของญาดามากขึ้นเช่นกัน

“เห็นไหมล่ะ ดาบอกแล้วว่าคุณเอริณช่วยดาได้ เธอแค่บอกให้ดาลองทำอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน บทที่ใช้สำนวนโวหาร เจ้าบทเจ้ากลอนมากเกินไปอาจจะฟังแล้วดูดี แต่ถ้าลองใช้คำพูดธรรมดา ๆ ดูอาจจะทำให้คนฟังใจต้นก็ได้ นั่นคือสิ่งที่คุณเอริณบอกดา” เอริณไม่ทำให้เธอผิดหวังจริง ๆ เธอคิดถูกแล้วที่ให้เอริณเข้ามาช่วยเป็นโค้ชการแสดงในครั้งนี้

“ความรักมันไม่จำเป็นว่าใครจะเริ่มก่อน แต่ถ้าได้เริ่มแล้วใครต่างหากที่จะหยุดรักก่อน เป็นข้อความเรียบ ๆ แต่ช่างบาดใจเหลือเกิน” เพ็ญแขชมญาดาไม่ขาดปาก ญาดาเองไม่คิดจะบอกว่าข้อความนั้นแท้จริงแล้วมันเป็นสารจากเอริณ เพราะอีกฝ่ายบอกเธอแล้วว่าจะยกเครดิตข้อความนี้ให้เธอ แต่คราวต่อไป ถ้าจะนอกบท ญาดาจะต้องหาคำมาพูดด้วยตัวของญาดาเอง

“พรุ่งนี้ดาไม่มีงาน เราไปที่คอนโดของคุณเอริณกันดีไหมพี่ ดาอยากให้คุณเอริณต่อบทให้น่ะ” ญาดาอยากจะเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ จากเอริณ อย่างน้อยการถ่ายละครฟอร์มยักษ์ในครั้งแรกก็ทำให้โลกโซเชียลแตกแตนซธขนาดนั้น เธอต้องรักษามิตรภาพดี ๆ ในครั้งนี้ไว้ให้ได้

“เอาสิ เดี๋ยวพี่โทรคุณนิชาก่อนว่าว่างพอจะให้เราเข้าพบไหม แม้ว่าเขาจะดูนิสัยดีขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ใช่ว่าจะสุ่มสี่สุ่มแปดไปหาเลย แบบนั้นเดี๋ยวนางได้วีนฉ่ำ” เพราะเคยได้ยินคนในกองพูดกันหนาหูว่าเอริณเคยวีนพระเอกอย่างขุนพลมาแล้ว ญาดานางเอกน้องใหม่จะไปต่อกรได้อย่างไร ขนาดตอนเปลี่ยนตัวนางเอกเอริณยังวีนฉ่ำขนาดนั้น แต่เพราะตัวของญาดาเองอยากจะสนิทกับเอริณมากขึ้น เพ็ญแขที่เห็นว่าเอริณมีผลประโยชน์ต่อญาดาเธอจึงไม่อยากปฏิเสธ

“คุณเอริณบอกว่าให้ไปที่นั่นตอนสิบโมง เพราะช่วงเช้าเธอต้องออกกำลังกาย เธอจะแจ้งนิติเอาไว้ให้พร้อมฝากคีย์การ์ดไว้ด้วย สิ่งหนึ่งที่เธอย้ำนักหนาคือ ห้ามสายแม้แต่วินาทีเดียว กดกริ่งหน้าห้องของเธอต้องไม่ช้ากว่าสิบโมงเช้า เคี้ยวเป็นบ้าเลย” เพ็ญแขที่โทรคุยกับนิชาและรับรู้รายละเอียดการนัดหมายก็มารายงานให้ญาดาทราบ การที่ทางนั้นต้องการให้ญาดาไปให้ตรงเวลานัด ไม่ว่าจะไปก่อนหรืออยู่ในเวลานัดนั่นก็หมายถึงว่า เอริณต้องการให้ญาดาฝึกความตรงต่อเวลา ก็มาดูกันว่า ญาดาจะทำได้รึเปล่า

“พรุ่งนี้ดาจะต้องไปถึงที่หมายก่อนเวลาสิบนาที พี่เพ็ญเตรียมตัวไว้เลย เพราะถ้าเป็นการถ่ายละคร เราจะไปเลตไม่ได้ ต้องถึงกองถ่ายก่อนเวลานัดหมาย เพราะเตรียมความพร้อมต่าง ๆ ฉะนั้นการที่เรานัดคนอื่นนอกเหนือจากการไปทำงาน เราก็ต้องรักษาเวลาเช่นกัน” ญาดาเดินเข้าห้องพักส่วนตัวของเธอไป เพ็ญแขพักอีกห้อง เป็นห้องชุดที่มีสองห้องนอน มีห้องน้ำในตัว มีครัว มีห้องนั่งเล่น และห้องฟังเพลง ห้องไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ไม่เล็กจนเกินไป ญาดาเองไม่คิดจะขยับขยายให้ใหญ่กว่านี้ เพราะในอนาคตข้างหน้ามันไม่แน่นอน เธอต้องเก็บเงินเอาไว้ เผื่ออะไร ๆ มันไม่เป็นไปตามที่ต้องการ แม้แผนนั้น เธอจะวาดฝันมันได้ด้วยตัวของเธอเอง

……………………………………………………….

“มากันแล้วหรือ ทำเวลาได้ดีนี่” เป็นเอริณที่เดินมาเปิดประตูให้แขกที่นัดหมายเอาไว้ เธออยู่ในชุดอยู่บ้านสบาย ๆ เสื้อยืด กางเกงขาสั้นดูแล้วแปลกตากว่าที่เคยเห็น ญาดาไม่คิดว่าคนอย่างเอริณจะยอมให้คนอื่นเห็นเธอในชุดลำลองแบบนี้

“สวัสดีค่ะคุณเอริณ นี่ของฝากค่ะ” เพราะตั้งใจว่าจะมารบกวนอีกคน ญาดาจึงซื้อของมาฝากเจ้าบ้าน เป็นขนมเพื่อสุขภาพ เพราะเห็นว่าเอริณชอบออกกำลังกาย

“ขอบใจนะ นั่งก่อนสิ ดื่มอะไรนอกจากน้ำเปล่ารึเปล่า มีชา กาแฟ มัจฉะ โกโก้ น้ำนางเอก” ญาดานำตะกร้าของฝากจากญาดาไปวางไว้ที่โต๊ะข้างผนัง เพ็ญแขมองไปรอบ ๆ ห้อง เป็นห้องที่กว้างกว่าห้องของญาดามากนัก พื้นที่ใช้สอยก็กว้าง แต่การตกแต่งห้องมันดูขัดกับความเป็นเอริณอดีตนางเอกเบอร์หนึ่งของเมืองไทย

“คุณเอริณอารมณ์ดีจังนะคะ น้ำนางเอกนี่ใช่น้ำส้มรึเปล่าคะ ปกติญาดาไม่ค่อยชอบน้ำส้มหรอกค่ะ เพราะมันหวานไป แต่ถ้าคุณเอริณนำเสนอญาดาก็อยากจะลองชิมค่ะ” ญาดาพยายามสังเกตห้องของเอริณเช่นกัน เธอเองก็เพิ่งได้ทราบว่าเอริณเป็นคนเรียบง่ายขนาดนี้ก็วันนี้นี่เอง

“มันคงไม่หรูเท่าที่พวกคุณคิดใช่ไหมล่ะ ห้องนักแสดงชื่อดัง มีเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้น แถมไม่ค่อยมีเครื่องใช้ที่อำนวยความสะดวกมากนัก ความจริงถ้าไม่ตกงานมันก็คงจะหรูหรากว่านี้หรอก แต่พอดี ฉันเลือกสิ่งที่จำเป็นเอาไว้ก่อนน่ะ” เอริณเองเพิ่งได้ทราบว่าเจ้าของร่างเดิมมีหนี้สินมากมาย ถ้าเธอไม่ขายของไร้ประโยชน์ออกไป เธอก็ไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ เรื่องนี้มันทำให้เอริณหัวเสีย เพราะจำได้ว่าอ่านนิยายเรื่องนี้จนถี่ถ้วนแล้ว ยัยเอริณแค่กำลังถังแตกเพราะตกงาน ไม่ใช่เป็นหนี้ท้วมหัวแบบนี้ ถ้าหาทางกลับโลกของเธอได้ จะไปเล่นงานยัยมินตราให้จมดิน

“ดูเรียบ ๆ เหมาะกับการพักผ่อนดีนะคะ ดาคิดว่าคุณเอริณจะติดหรูกว่านี้เสียอีกค่ะ” ญาดาคิดว่าเข้ามาจะได้เห็นเฟอร์นิเจอร์หรู ๆ แพง ๆ แต่ที่ไหนได้ แทบจะไม่เหลืออะไรเลย

“ยินดีด้วยนะกับการตอบรับประโยคเด็ดกับซีนแรกที่ถ่ายทำไปเมื่อวันก่อน ติดเทรนด์อยู่ตั้งสองสามวัน แถมยังจะติดเทรนด์ไปอีกหลายวันเลย” เอริณพูดแสดงความดีใจกับสิ่งที่ญาดาทำ แต่ญาดากลับคิดว่าที่เอริณแสดงความดีใจน่าจะเป็นการทวงบุญคุณมากกว่า

“คุณเอริณอยากได้อะไรตอบแทนสำหรับการต่อบทครั้งนี้คะ บอกดาได้นะคะ ถ้าดาช่วยได้ ไม่สิถ้าดาทำได้ ดายินดีทำให้ทุกอย่างเลย” เอริณยกยิ้มที่ริมฝีปาก ไม่คิดว่าญาดาจะเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ แม้จะยังเป็นคำพูดเดิม ๆ ที่เคยพูดแต่การแสดงออกอย่างจริงใจก็ทำให้เอริณรู้ว่าญาดามีดีมากกว่านางเอกที่อ่อนแอและไม่ทันคน

“นิชา พาคุณเพ็ญแขไปหาขนมจากคาเฟ่ด้านล่างกินสิ คาเฟ่ของเราอร่อยมากนะ คุณควรได้ลอง” เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอต้องการให้ญาดาช่วยอะไร เอริณจึงต้องให้นิชาพาเพ็ญแขออกไปข้างนอกเสียก่อน ซึ่งเอริณเองก็ได้พูดคุยตกลงกันกับนิชาเอาไว้แล้ว

“เอ่อ ไม่ได้นะคะ ฉันมีหน้าที่ดูแลญาดา ถ้าเกิดว่าคุณทำร้ายญาดาจนบาดเจ็บสาหัส แล้วฉันจะไปแก้ตัวกับคุณจอมขวัญว่าอย่างไรล่ะคะ” แม้ว่าท่าทีของเอริณจะเปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก แต่ก็ใช่ว่าเพ็ญแขจะไว้ใจให้ญาดาได้อยู่กันตามลำพังกับเอริณ เพราะที่ยอมให้ญาดามาที่ห้อง อาจเป็นแผนล่อกวางน้อยเข้าถ้ำเสือก็เป็นได้

“ฉันรับรองว่า จะดูแลญาดาเป็นอย่างดี มดไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม เธอแจ้งตำรวจไว้เลยก็ได้ จะได้จับฉันยัดคุกทันทีถ้าญาดามีแม้แค่รอยเล็บข่วน”

♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️

ดูตลอดชีวิตไหมน้อ