คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4.ผมจะเป็นเด็กดี
ตอนที่ 4.ผมจะเป็นเด็กดี
"ทำไมคุณหนูดื้อขนาดนี้นะ ตอนเป็นเด็กป้าพิมจำได้ว่าคุณหนูออกจะเรียบร้อย น่ารัก เชื่อฟังผู้ใหญ่" ป้าพิมเอาอาหารเอายามาให้ผมที่ห้องนอน บ้านหลังใหญ่ที่มีเพียงผม ป้าพิม น้าบุญสม อาศัยอยู่ในช่วงกลางคืน และกลางวันมีพี่อ้อยเพิ่มมาอีกคน เจ้าของบ้านที่แทบจะไม่ได้อยู่บ้าน เขาใจดีรับเลี้ยงผมไว้เหมือนเลี้ยงหมาไว้เฝ้าบ้าน ลุงยักษ์ คนนั้นที่ออกจากบ้านแต่เช้า กลับก็ดึกดื่น แต่ก็ไม่วายหาเรื่องมาดุด่าผมได้ประจำ ผมปีนต้นมะม่วงเพราะอยากเลือกลูกสวย ๆ เอง มันไม่สูงมาก ตกลงมาก็ใช่ว่าจะเจ็บ แต่ที่ต้องไปโรงพยาบาลเพราะผมแพ้มดแดง นอนอยู่ที่นั่นหนึ่งคืน กลับมาจนผื่นยุบแล้ว เจ้าของบ้านก็ยังไม่กลับ
"ฉันหวังว่าฉันกลับมาบ้านของฉันจะไม่ถูกนายเผาไปแล้วนะ"
คำพูดก่อนจะไปธุระต่างจังหวัดของเขา มันทำให้ผมปวดหนึบในหัวใจ ผู้หญิงใจร้ายคนนั้นก็เคยพูดแบบนี้กับผม
"แกคิดจะทำอะไรน่ะ คิดจะเผาบ้านฉันรึไง"
เพียงเพราะผมโตจนสิบสองขวบ แม่บ้านที่อยู่บ้านคุณพ่อจึงไม่มีใครยอมทำอะไรให้ผมกิน ทุกคนคือแม่บ้านที่ผู้หญิงคนนั้นหามา คนเก่าแก่เธอไล่ออกหมด แม้แต่ป้าพิม แม่บ้านพวกนั้นเชื่อฟังนายหญิงของบ้านเป็นอย่างดี แม้แต่ข้าวสักมื้อก็ไม่ยอมทำให้ผมกิน ผมจึงคิดว่าจะทอดไข่กิน แต่ไฟมันแรงเกินไปจนลุกโซน แล้วนังแม่มดใจร้ายคนนั้นก็เข้ามาจิกด่าผม บอกผมจะเผาบ้านของเธอ ทั้งที่บ้านหลังนั้นมันเป็นของคุณพ่อกับคุณแม่ต่างหากล่ะ
"ผมดื้อมากไหมป้าพิม" ผมมองออกไปที่สวน ที่มีไม้ดอกไม้ประดับเต็มสวนไปหมด น่าเสียดาย ที่เจ้าของบ้านไม่ได้ใส่ใจดูแล มีแค่น้าบุญสมเท่านั้นที่คอยประคบประหงมมัน
"มากค่ะ ป้าพิมไม่เห็นคุณหนูกี่ปีนะ หกปีได้ไหม ตั้งแต่คุณหนูเข้าไปอยู่โรงเรียนประจำ แล้วป้าก็ถูกไล่ออกจากงาน คุณหนูของป้าต้องเจออะไรมาบ้างถึงได้ทั้งดื้อทั้งซนขนาดนี้" ป้าพิมเป็นคนเก่าแก่ของคุณแม่ อายุมากกว่าคุณแม่นิดหน่อย นั่นคือสาเหตุที่ผมเรียกว่าป้าพิม ผมจำได้ดีว่าเธอร้องห่มร้องไห้ไปหาผมที่โรงเรียน แล้วบอกถูกนายหญิงไล่ออกแล้ว ให้ผมดูแลตัวเองด้วย ผมจึงแทบจะไม่กลับบ้านช่วงเสาร์อาทิตย์ เพราะที่บ้านไม่มีคนของผมอยู่แล้ว แม้แต่พ่อของผมเอง เขายังไม่เคยสนใจผมเลย เอาแต่ทำงานจนหามรุ่งหามค่ำ
"ผมขอโทษครับ ที่ทำให้ป้าพิมลำบาก ต่อไปนี้ผมจะพยายามเป็นเด็กดี" ผมจับมือป้าพิม ไม่รู้คิดถูกคิดผิดที่พาแกมาอยู่ด้วย แกเอาอกเอาใจผมเหมือนตอนผมยังเป็นเด็ก แม้จะบ่นบ้างอะไรบ้าง แต่แกก็บ่นเพราะความเป็นห่วงผมนั่นแหละ
"ทานข้าวก่อนเถอะค่ะ จะได้ทานยา เดี๋ยวป้าจะทายาให้ ดูตรงนี้สิออกคล้ำ ๆ ดำ ๆ เสียแล้ว แสดงว่าแอบเกาอีกแล้วใช่ไหม" ป้าพิมชี้ตรงหลังมือของผม จุดดำ ๆ ที่เกิดจากรอยมดกัด มันคันจนผมอดเกาไม่ได้
"ก็มันคันนี่นา ตอนกลางคืนหลับ ๆ อยู่ไม่รู้ตัวหรอก" ผมชักมือกลับก่อนจะหันไปกินข้าวที่พี่อ้อยทำให้ พี่อ้อยฝีมือดีใช้ได้ แม้ว่าป้าพิมบอกจะช่วยทำเอง เอาจริง ๆ ผมจำรสมือป้าพิมไม่ได้แล้ว ผมจำไม่ได้ว่ารสมือพี่อ้อยกับป้าพิมต่างกันอย่างไร เพราะผมกินข้าวที่โรงเรียนประจำถึงหกปี รสชาติเดิม ๆ ไม่เคยเปลี่ยน แถมช่วงปิดเทอม ผมไปเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ อาหารไทยที่นั่นเรียกว่าแย่กว่าอาหารที่โรงเรียนเสียอีก อาจเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่ค่อยมีคนไทย เลยไม่เน้นทำอาหารไทย ส่วนอาหารฝรั่งผมก็กินได้ไม่กี่อย่างเอง
"คุณจิรายุโทรมารึเปล่าคะ" ป้าพิมถามถึงเจ้าของบ้าน ผมพยักหน้า เขาโทรมาทุกวันนั่นแหละ พูดแค่คำซ้ำ ๆ เดิม ๆ อย่าก่อเรื่องให้ป้าพิมปวดหัว อย่าดื้อ อย่าซน เหอะ ทำอย่างกับเป็นผู้ปกครองผมอย่างนั้นแหละ
"คุณหนูนึกยังไงคะ ถึงยอมมาเป็นเด็กในปกครองของคุณจิรายุ ทั้งที่คนอื่นก็มี ทำไมคุณหนูถึงเลือกคุณจิรายุเป็นผู้ปกครอง" จริงสินะ เขาเป็นผู้ปกครองของผม ผมลืมไปได้อย่างไร เขาไม่ใช่ญาติโกโหติกาผม แต่เพราะคุณพ่อยกผมให้เขาไงล่ะ เขาถึงได้เป็นผู้ปกครองของผม
"ถ้าผมเรียนจบ เราจะแต่งงานกันครับ คุณพ่อยกผมให้เขาแล้ว" ผมตอบตามความจริง น้ำตาที่กลั้นไว้ก่อนหน้านี้ไหลออกมา มันหยดแหมะลงบนจานข้าว แต่งงานกับผู้ชายแก่คราวพ่อ ผมไม่ได้รังเกียจเขาหรอก แต่เขาสิ ดูท่าทางเหมือนรังเกียจผมมาก คอยแต่จะขู่ว่าจะส่งผมกลับไปให้คุณพ่อ ซึ่งนั่นหมายถึง ผมจะไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยในเมืองไทย และไปอยู่กับคนที่ผมไม่ต้องการ
"คุณหนู อย่าร้องนะคะ คุณจิรายุดูท่าทางท่านก็เป็นคนดี ท่านมีเมตตากับคุณหนูมากนะคะ ถ้าท่านไม่เอ็นดูคุณหนู คงไม่รับคุณหนูมาเป็นเด็กในปกครองหรอกค่ะ" ป้าพิมเข้ามากอดผมยิ่งปลอบผมก็ยิ่งร้อง ผมโหยหาอ้อมกอดของแม่ ของป้าพิมมานานแสนนาน มันทำให้หัวใจที่เคยเจ็บปวดดีขึ้นมากมายในตอนนี้
"เราไปอยู่ที่อื่นดีไหม ผมมีเงินในบัญชีมากพอที่จะเลี้ยงดูป้า ผมมีหุ้นของแม่จากบริษัทคุณพ่อ ที่ตอนนี้มันเป็นของผมแล้ว ผมจะทำงานเพิ่มขึ้นหากป้าพิมกลัวว่าจะลำบาก ผมจะดูแลป้าให้เหมือนที่ป้าคอยดูแลผม" ผมจำได้ว่าป้าพิมดูแลผมเป็นอย่างดีหลังจากที่แม่จากไป แม้ว่าพอคนอื่นเข้ามาในบ้านเป็นนายหญิงแทนแม่ ป้าพิมจะไม่ได้ดูแลผมอีกก็ตาม
"ป้าทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ป้าจะพาคุณหนูไปลำบากได้ยังไง เราอยู่ที่นี่ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ถ้าถึงวันที่คุณหนูเรียนจบ ไม่อยากแต่งงานกับคุณจิรายุจริง ๆ ตอนนั้นคุณหนูก็โตเป็นผู้ใหญ่มากพอแล้ว คงไม่มีใครบังคับหากคุณหนูไม่ยอม" ป้าพิมเกลี้ยกล่อมให้ผมอยู่ต่อ ผมจะทำอะไรได้มากกว่านี้ล่ะ นอกจากยอมรับชะตากรรมของตัวเองต่อไป ผมเช็ดน้ำตา ฝืนกินข้าวต่อจนอิ่ม กินยาแล้วให้ป้าพิมทายาให้ ผมขอลงไปนั่งเล่นที่ศาลากลางสวน เพราะเบื่อที่จะอยู่ในห้องต่อไป มันอุดอู้เกินไปจนผมทนไม่ไหวแล้ว
"คุณหนูคะ ผลไม้ค่ะ" พี่อ้อยเอาผลไม้มาวางไว้ให้ ดูหน้าตาน่าอร่อยจัง มีทั้งองุ่น สับปะรด แก้วมังกร และแตงโม หั่นมาเสียสวยเชียว
"ขอบคุณครับพี่อ้อย ไปซื้อมาตอนไหนครับเนี้ย ดูสิหั่นเสียน่ากินเชียว" ผมยิ้มให้พี่อ้อย มือก็จิ้มผลไม้เข้าปาก หวานและเย็นฉ่ำเลยทีเดียว
"คุณผู้ชายซื้อมาค่ะ ทางร้านหั่นมาให้แบบนี้เลย คุณเขามาถึงก็บอกจัดใส่จานมาให้คุณหนูค่ะ" คุณผู้ชายอย่างนั้นหรือ หมายถึงลุงยักษ์สินะ เขากลับมาแล้วหรือ
ผมมองเข้าไปในบ้าน ประตูหลังบ้านที่เปิดกว้าง สามารถมองจากตรงนี้ไปที่โซฟารับแขกได้ ลุงยักษ์ ที่กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดกับงานตรงหน้า ขนาดกลับมาถึงบ้าน ยังไม่วายที่จะหอบงานมาทำ
❤❤❤❤❤❤❤
ความคิดเห็น