NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One more time หนึ่งเดียวคือไทม์

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 ผู้จัดการใหญ่

    • อัปเดตล่าสุด 2 ต.ค. 65


    ตอนที่ 2 ผู้จัดการใหญ่


     

    "ที่นี่เขาถมดินมานานแล้วหรือยังครับพี่อ้อ" แทนไทเอ่ยถามอรทัยที่พามาดูสถานที่สำหรับก่อสร้างคอนโด มีนายช่างที่เข้ามาประเมินการก่อสร้างด้วยว่าจะสามารถสร้างได้สูงตามที่เจ้าของคอนโดต้องการหรือไม่ ความจริง เรื่องพื้นฐานแบบนี้ควรดำเนินการก่อนจะเปิดให้บริษัทรับเหมามาประมูลแต่เจ้าของโครงการกลับโยนทุกอย่างมาที่บริษัทรับเหมา แต่เพราะผู้จัดการสาขาต้องการงานนี้ เขาจึงทำทุกทางเพื่อให้ได้โปรเจคนี้มา เพราะอรทัยบอกว่าตัวผู้จัดการใหญ่เองก็เข้ามาศึกษาพื้นที่ด้วยตัวเองบ้างแล้วนั่นเอง

    "สองปีแล้ว เขาแจ้งว่าทุก ๆ เดือนจะมีรถมาบดอัดดินให้แน่น และทุก ๆ สามเดือนจะมีการเอาดินมาเพิ่ม ซึ่งจากการตรวจสอบของผู้จัดการ แกบอกสร้างคอนโดตามที่แกประมูลมาได้ แต่นั่นแหละ ก็ต้องให้แทนไทมาดูเองดีกว่า ว่าจะสร้างได้จริงไหม" แทนไทไม่ใช่วิศวกรเป็นแค่สถาปนิก แต่เรื่องแบบนี้เขาก็พอรู้เรื่องบ้าง ซึ่งเขาเองมาทำหน้าที่แทนวิศวกรชั่วคราว แทนไทเข้าไปคุยกับนายช่างที่มาดูหน้าดิน แล้วเดินตรวจสอบรอบ ๆ แต่พอเดินกลับมาก็เห็นว่าพี่อ้อกำลังคุยโทรศัพท์หน้าดำคร่ำเครียดอยู่

    "แต่แทนไทถูกมอบหมายมาให้ร่วมโครงการนี้จากสำนักงานใหญ่นะคะผู้จัดการ การที่เขามาดูพื้นที่ด้วยตัวเขาเองมันก็ถูกแล้วนี่คะ" พี่อ้อบอกกับคนที่โทรมา เพราะผู้จัดการสาขาหรือที่ทุกคนเรียกผู้จัดการใหญ่ ไม่ได้เข้าประชุมที่สำนักงานใหญ่ เขาอาจไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนว่าแทนไทจะมาร่วมโปรเจคด้วย

    'โอเค ผมจะคุยกับสำนักงานใหญ่อีกที ว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้สถาปนิกจากที่นั่น บอกเขากลับไปได้เลย'

    ​​​​​​​

    อรทัยไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะอีกฝ่ายไม่ฟังเธอเลยสักนิด เมื่อวางสายแล้วหันมาทางแทนไท ที่กำลังยืนมองอยู่ อรทัยก็ทำได้แค่ถอนหายใจ และยิ้มแหย ๆ ให้อีกคน แค่นั้นเอง

    "บอกผมมาเถอะครับถ้าเรื่องที่พี่อ้อเพิ่งวางสายไป มันเกี่ยวกับผม" แทนไทเอ่ยขึ้น ยิ้มให้อรทัยเพื่อให้เธอคลายความกังวล เขาทราบว่าสาขานี้ต้องการสร้างชื่อขนาดไหน การได้โปรเจคใหญ่ครั้งแรก แล้วสำนักงานใหญ่ส่งคนมามันอาจจะทำให้ผู้จัดการสาขาเสียหน้าอยู่บ้าง

    "ผู้จัดการบอกว่าจะคุยกับสำนักงานใหญ่อีกที ให้เรากลับเข้าบริษัทไม่ต้องสำรวจแล้ว เขาไม่ต้องการแทนไทเป็นสถาปนิกโครงการนี้ค่ะ" อรทัยบอก แทนไทก็พอจะรู้ว่าผู้จัดการสาขามีคนที่มีฝีมือ แต่การจ้างฟรีแลนด์โปรเจคใหญ่แบบนี้มันอาจทำให้เสียงานได้ ทางสำนักงานใหญ่คิดว่าโปรเจคนี้เป็นคนในน่าจะดีกว่าจึงส่งแทนไทมา

    "ช่างเขาเถอะครับ ผมจะกลับก็ต่อเมื่อ ทางสำนักงานใหญ่เรียกตัวผมกลับ ตอนนี้ทางนั้นยังไม่มีคำสั่งมา ผมก็จะทำหน้าที่ของผมตรงนี้ต่อไป" แม้แทนไทจะมาเป็นลูกน้องของผู้จัดการ แต่เรื่องโยกย้ายงานเขารับคำสั่งจากทางสำนักงานใหญ่โดยตรง

    "เอาอย่างนั้นหรือคะ" อรทัยยิ้มเจือน ๆ ให้สถาปนิกหนุ่มก่อนที่เขาจะเริ่มลงมือวัดพื้นที่อีกครั้ง ทั้งแทนไทและแม็กทำงานเข้าขากันดี แม็กนั่มสนใจสิ่งที่แทนไทสอน เขาบอกว่าน่าเสียดายหากผู้จัดการใหญ่จะส่งแทนไทกลับสำนักงานใหญ่ เพราะตอนทำงานกับฟรีแลนด์แค่โครงการเล็ก ๆ ยังมีปัญหากันเลย ไม่ค่อยสอนงาน แถมชอบเคลมงานของพนักงานเป็นของตัวเอง ทำให้ทำงานด้วยไม่สนุก แม็กกี้เลยชอบเลี่ยงร่วมงานกับฟรีแลนด์ และเมื่อเป็นแทนไท แม็กกี้ก็ยังนึกกลัวอยู่ ยิ่งมาจากสำนักงานใหญ่ แม็กกี้ยิ่งกลัว เมื่อต้องออกนอกสถานที่จึงให้แม็กนั่มมาทำหน้าที่แทน

    "เดี๋ยวมื้อนี้ผมเลี้ยงเอง เผื่อว่าจู่ ๆ มีคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ให้ผมกลับก็ถือว่าเป็นการเลี้ยงอำลาละกันครับ" แม้จะแน่ใจว่ายังไงก็ได้อยู่ต่อ แต่แทนไทก็อาสาจ่ายค่าอาหารมื้อกลางวันของทั้งสามคน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีคำสั่งให้เขากลับ เขาจึงมั่นใจว่า เขาจะต้องได้ร่วมทำโปรเจคนี้แน่นอน

    "อย่าพูดแบบนั้นเลย พี่น่ะชอบที่แทนไททำมากเลยนะ สังเกตว่าเข้าขากับแม็กน่าดู ได้อะไรไปเยอะสิเราน่ะ" อรทัยเองก็คงสังเกตว่าแม็กนั่มสนใจการสอนงานของแทนไทมากเช่นกัน ตรงไหนแม็กไม่เข้าใจก็จะรีบถามทันที ทำให้ทั้งสองคน ทำงานเข้าขากันได้ดีทีเดียว

    "อะ สักครู่นะครับที่สำนักงานใหญ่โทรมา" มือถือของแทนไทดังขึ้นขณะรออาหารมาเสิร์ฟ เมื่อยกขึ้นมาดูหน้าจอก็รู้ว่าเป็นใคร เขาเลยขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ สถาปนิกหนุ่มเห็นสายตาของอรทัยกับแม็กก็รู้ว่าทั้งสองรู้สึกเสียดายถ้าทางสำนักงานใหญ่เรียกกลับ คงคิดว่าจะขัดผู้จัดการสาขาไม่ได้ เพราะทางนี้ก็อยากแสดงผลงานด้วยตัวเอง จึงไม่อยากขอความช่วยเหลือจากสำนักงานใหญ่ ทั้งที่สาขานี้ยังไม่มีสถาปนิกที่ฝีมือดีขนาดจะรับงานโครงการนี้ด้วยซ้ำ ทำได้แค่รีโนเวทบ้าน ห้องพัก หรือบ้านหลังเล็ก ๆ เท่านั้น มีหลายงานต้องจ้างฟรีแลนด์มาเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด

    "เอาล่ะ ได้เวลาฉลองแล้วล่ะครับ ผมได้ไปต่อ" แทนไทเดินยิ้มกริ่มกลับมา เมื่อเขาบอกว่า เขาได้ไปต่อ ก็ทำให้อรทัยกับแม็กนั่มอดที่จะดีใจไม่ได้

    เมื่อทานข้าวกันอิ่มทุกคนก็กลับสำนักงาน แจ้งข่าวดีกับพนักงานในแผนก และแทนไทจะเริ่มร่างแบบไว้ก่อนนำเสนอเจ้าของโครงการ ซึ่งวันนัดหมายคือวันจันทร์ที่ผู้จัดการสาขากลับมาพอดี

    "ร้ายว่ะแก ผู้จัดการถึงขั้นโทรไปสำนักงานใหญ่ให้เอาคุณแทนไทคืนไป คงอยากได้คนของตัวเองมาทำงานด้วยน่ะสิ" เสียงซุบซิบเริ่มมีขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่หัวหน้างานฝ่ายอย่างอรทัยได้รับสายจากผู้จัดการ เรื่องที่แทนไทได้อยู่ต่อ ซึ่งแม้เขาจะหัวฟัดหัวเหวี่ยงแค่ไหน เขาก็ทำได้แค่ยอมรับคำสั่งของเจ้านาย และคนที่รับกรรมกับอารมณ์ของเขาก็คืออรทัย

    "ฉันว่านะ ถ้าโปรเจคนี้เสร็จ อาจมีผู้จัดการหัวเน่าก็ได้นะแก" เสียงหัวเราะดังครืนขึ้นในออฟฟิศ แทนไทนั่งฟังเงียบ ๆ อยากรู้เหลือเกิน ว่าผู้จัดการคนนั้นเป็นคนอย่างไร ทำไมพนักงานในสาขาถึงได้นินทาสนุกปากขนาดนี้

    "แม็กกี้ ถามอะไรหน่อยสิ ว่าทำไมทุกคนถึงเรียกผู้จัดการสาขาว่าผู้จัดการใหญ่" แทนไทอดที่จะถามไม่ได้ เพราะเขาได้ยินพวกพนักงานเรียกกันแบบนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว

    "ทำตัวยิ่งใหญ่สมฉายานั่นแหละ หลายอย่างชอบขวางชาวบ้าน เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ไม่ฟังลูกน้อง" แม็กกี้บอกแล้วยักไหล่ คนแบบนี้น่ากลัว การเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางคนอื่นโดยไม่รับฟังใคร มักจะไม่ได้ใจลูกน้องนัก

     

    ❤❤❤❤❤❤❤

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×