ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic > SJ]+*+Forbidden LovE+*+

    ลำดับตอนที่ #44 : +*+Part36+*+

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.55K
      3
      26 ก.พ. 52

    Title                 : Forbidden Love


    Author             : +*+HanminhyuK+*+


    Part                  : 36


    เวลาผ่านไปนานถึงสี่ชั่วโมง ในที่สุดการรอคอยของฮยอกแจก็สิ้นสุดลง เมื่อประตูห้องไอซียูเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของหมอวัยสามสิบเศษๆก้าวออกมาจากห้อง


    หมอครับ แม่ผมเป็นยังไงบ้างครับ?” เสียงหวานถามทันที


    ปลอดภัยแล้วครับ แต่อาการยังไม่น่าไว้ใจ ต้องอาศัยเครื่องช่วยหายใจ กระสุนเฉียดจุดสำคัญไปเพียงเล็กน้อย อาจจะทำให้เป็นอัมพฤกษ์ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สามารถที่จะทำกายภาพบำบัดได้ครับ ยังไงตอนนี้ต้องให้หมอดูอาการสักระยะก่อน” เมื่อหมอกล่าวจบ ร่างบางก็ตรงเข้าไปยังด้านในทันที


    ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนซีดเซียวจนน่าตกใจนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงพยาบาล ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถหายใจเองได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เครื่องวัดชีพจรตั้งอยู่ข้างหัวเตียงแสดงถึงการหายใจที่แผ่วเบาของร่างบาง สายระโยงรยางค์แต่ละสายต่างทำหน้าที่ต่างกัน ชวนให้คนเห็นนั้นอดที่จะร่ำไห้ออกมาไม่ได้ มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน


    ร่างเล็กจับมือผู้ให้กำเนิดบีบเบาๆคล้ายกับต้องการเรียกคนที่นอนหลับอยู่ให้ฟื้นขึ้นมา


    แม่ครับ ตื่นสิครับ ฮึ่ก...ผมไม่อยากให้แม่หลับแบบนี้ แม่ครับ ถ้าแม่หายดีแล้วผมจะพาแม่หนีไปอยู่ที่อื่น ที่ๆมีแต่เราแม่ลูก ที่ๆไม่มีคนเลวๆอย่างฮันคยองคอยตามรังควาน...ฮือ...แม่ครับ หายไวๆสิครับ อย่าหลับแบบนี้นะครับ ผม...ฮึ่ก...ฮือ...ผมรักแม่” เสียงหวานสั่นเครือสะอื้น จับมือผู้เป็นแม่ไว้ตลอดเวลาไม่ยอมห่าง



    ร่างสูงของชายวัยกลางคนกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงมายังห้องไอซียู ใบหน้าคมเข้มเคร่งคิ้วขมวด หลังจากที่เขาได้รับฟังเรื่องราวที่คิม นาริมถูกลอบยิง หลังการประชุมระดับผู้บริหารเสร็จ เขาก็ตรงดิ่งมายังที่นี่ทันที


    หากแต่เขาก็ต้องชะงัก เพราะตำรวจชุดหนึ่งยืนรออยู่ด้านหน้า พร้อมกับเชิญตัวเขาไปสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการลอบสังหารผู้บริหารระดับสูงของโรงแรมแกรนด์ไฮแอท โซล


    ที่ผ่านมา คุณคิม นาริมมีศัตรูบ้างรึเปล่าครับ?” ตำรวจนายหนึ่งถาม พลางพิมพ์ข้อมูลลงโน้ตบุ๊ค


    ไม่มีครับ” ฮันกวงตอบเสียงเครียด


    แล้วเคยมีปากเสียงกับใครบ้างมั้ยครับ?”


    ไม่ครับ นาริมเป็นคนใจเย็น ไม่มีปากเสียงกับใคร แม้แต่เถียงยังทำไม่เป็นเลยครับ”



    การให้ปากคำนั้น ไม่ได้ทำให้คดีนี้คืบหน้าเลย เพราะผู้ถูกทำร้ายไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร และสองคนร้ายนั้นยังหายไปอย่างลอยนวล



    มือหนาหยาบกระด้างกดเบอร์โทรศัพท์ ก่อนจะสั่งเสียงเฉียบขาดเมื่อมีผู้รับสาย


    เยซอง...ไปสืบมาให้ที ว่าใครเป็นคนว่าจ้างฆ่านาริม ให้เร็วที่สุดด้วย”


    +*+........................................................................................................................................+*+


    บัดซบที่สุด! แค่นี้ก็ทำให้มันตายไม่ได้” เสียงๆหนึ่งตวาดลั่นโทรศัพท์อย่างไม่สบอารมณ์


    แต่นายครับ ช่วงที่ผมจะจัดการมัน มีคนเสือกเห็นแล้วร้องครับ มันก็เลยพลาด” เสียงทุ้มของผู้ล่าตอบ นึกหงุดหงิดอยู่ในใจ ทำงานให้แล้วยังจะมาด่าอีก


    เป็นมือปืนประสาอะไร จิตไม่แข็งพอที่จะฆ่าคน ตกใจอะไรกันนักกันหนากับอีแค่เสียงร้องของคนอื่น งวดนี้เอาไปแค่ครึ่งเดียวก็พอ” ผู้เป็นนายกำมือแน่นจนสั่น


    นายครับ ก็ไหนตกลงแล้ว...”


    แกฆ่ามันไม่ตาย แล้วยังจะเสือกขอเงินเต็มจำนวนอีกเหรอ ให้ครึ่งเดียวถือว่าบุญหัวแค่ไหนแล้ว”


    ครับ ครึ่งนึงก็ครึ่งนึง” พูดจบก็ตัดสายไปอย่างหัวเสีย “แต่อีกครึ่งกูจะเอาชีวิตจากมึง!”


    +*+........................................................................................................................................+*+


    ร่างบางตื่นจากการฟุบหลับทั้งคืน ขยี้ดวงตาที่บวมช้ำ ก็พบกับดวงหน้าที่อ่อนโยนของผู้มีพระคุณอย่างฮันกวง ที่ยืนยิ้มบางๆให้ ใบหน้าที่แม้จะมีริ้วรอยแสดงความมีอายุ แต่ก็ยังดูดีในแบบผู้ใหญ่นั้นมีความเครียดปรากฏเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปาก


    ลื้อคงร้องไห้จนหลับเลยสินะ” เสียงห้าวของผู้เป็นใหญ่เอ่ย พลางลูบผมนุ่มของเด็กหนุ่มที่เขารักเหมือนลูก ไม่แพ้ลูกแท้ๆอย่างฮันคยองเลย


    ร่างบางไม่ตอบ ได้แต่หลุบตาลงต่ำ ตอนนี้เขาไม่สามารถจะปริปากเอ่ยคำใดๆได้เลย เหมือนพลังงานทุกอย่างใช้กับการร้องไห้ไปหมดแล้ว


    ไม่ต้องห่วงนะ อั๊วให้คนไปสืบแล้ว ว่าใครเป็นคนจ้างให้ทำร้ายแม่ของลื้อ และอั๊วก็เชื่อว่า คนดีๆอย่างแม่ลื้อ ต้องไม่เป็นไร” น้ำเสียงที่อ่อนโยนเช่นนี้ทำให้หัวใจที่แห้งแล้งและเจ็บปวดได้รู้สึกดีขึ้นบ้าง ก่อนจะกอดฮยอกแจไว้ ด้วยความสงสาร



    เป็นเวลาสี่วันแล้วที่คิม นาริมยังนอนอยู่ในห้องไอซียู และมีเพียงฮยอกแจคนเดียวที่ยังไม่ยอมไปไหน ยังคงอยู่เฝ้าไม่ห่าง คอยเช็ดตัวให้ คอยดูอาการทุกๆครึ่งชั่วโมง เฝ้าระวังทุกอย่าง กลัวว่าจะมีอาการผิดปกติ จะได้เรียกหมอได้ทันท่วงที


    มีเพียงน้ำตาอีกเช่นกัน ที่ยังคงทำหน้าที่อยู่เป็นเพื่อนร่างบางยามที่เขาไม่เหลือใครให้พูดจา เขาเฝ้ามองดูผู้ให้กำเนิดนอนหลับอยู่เงียบๆพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งรินไม่เหือดหายไปจากดวงตาคู่เศร้าเลย


    ส่วนคิบอม ชีวอน คยูฮยอน ทงเฮ และคนในบ้านตระกูลฮันแวะเวียนมาบ้าง


    แต่ไร้เงาของฮันคยอง


    มันยิ่งทำให้ฮยอกแจเจ็บใจเป็นที่สุด ทำลายชีวิตเขาไม่พอ ยังทำลายชีวิตผู้ให้กำเนิดเขาอีก มันจะมากเกินไปแล้ว


    มือบางยังคงกุมมือซีดขาวของผู้เป็นแม่เอาไว้


    ได้แต่รอให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับคนตรงหน้า


    เพราะเวลาที่ล่วงเลยมานานถึงสี่วัน ยังไม่มีวี่แววว่านาริมจะฟื้นขึ้นมา ซึ่งหมอเจ้าของไข้ก็ได้บอกให้ทำใจว่าคนไข้...อาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา


    เสียงเปิดประตูพร้อมกับการมาของหญิงชราป้าโบรัม เธอถือตระกร้าผลไม้มา พร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าที่นำมาให้ฮยอกแจได้เปลี่ยนทุกวัน


    คุณหนูฮยอกแจคะ เปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะค่ะ อีกอย่างคุณผู้ชายอยากให้คุณหนูได้กลับบ้านไปอ่านหนังสือ อาทิตย์หน้าก็จะสอบแล้ว ป้าว่าคุณหนูกลับบ้านก่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวผู้คุณผู้หญิงป้าจะดูแลเองค่ะ สลับกับเด็กในบ้าน”


    ไม่เป็นไรครับ เพราะผมคิดว่าผมจะไม่สอบแล้ว ถึงสอบผมคงไม่มีสมาธิที่จะทำหรอกครับ” เสียงหวานกล่าวเศร้าๆ เขาทิ้งแม่ที่รักไม่ได้หรอก


    แต่คุณหนูคิดดูนะคะ ถ้าคุณผู้หญิงตื่นมา แล้วรู้ว่าคุณหนูเกเรแบบนี้ ท่านจะเสียใจนะคะ” หญิงวัยกลางคนหาเหตุผลมากล่อม เพื่อเด็กหนุ่มมุ่งหน้ากับการสอบให้ดีที่สุด


    ถ้าอย่างนั้น ผมคงต้องรบกวนป้าโบรัมด้วยนะครับ” ฮยอกแจก้มหัวให้เชิงขอบคุณ ก่อนจะจัดการเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้า


    เมื่อร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำ เดินตรงมายังมารดาที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่


    แม่ครับ ผมจะรีบกลับมานะครับ แม่ต้องตื่นเร็วๆนะครับ ผมจะได้มีกำลังใจในการสอบ” มือบางกุมมือของแม่เอาไว้บีบเบาๆสักพัก แล้วเดินจากไป



    รถแท็กซี่จอดหน้าประตูบ้านหลังใหญ่ตระกูลฮัน พร้อมกับที่ฮยอกแจเดินลงมาจากรถ มองดูบ้านที่เขาเคยคิดว่าเป็นบ้านหลังที่สองสำหรับชีวิตสองแม่ลูกอย่างเขา แต่บัดนี้มันคงไม่ใช่ เมื่อคนร้ายที่จ้องจะฆ่าแม่เขายังคงอยู่ในบ้าน สายตาเรียวเล็กมองตรงไปยังห้องนอนที่อยู่ขวามือ ที่เปิดไฟสลัวสีส้มอยู่ด้วยความเกลียดชัง


    ฮยอกแจ” เสียงทุ้มเรียกชื่อคนหน้าหวานแผ่วเบา ก่อนที่ฮยอกแจจะหันไปสบตากับร่างสูงที่ยืนรอเขาอยู่ที่สวนหน้าบ้าน


    +*+........................................................................................................................................+*+

    TBC

    แง้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง T^T

    เราสอบวันที่2 เป็นต้นไปอ่า เซ็งเลยอดตามพี่เย่ 

    แต่ช่วงนี้เราตามนิชคุณและ2PMไปก่อน ฮิๆๆๆ

    เอาไว้ถ้าว่างๆเด๋วจะมาอัพรูปให้ละกันนะจ๊ะ แต่ว่าเด๋วต้องไปทำภาระกิจตามผู้ชายก่อน โฮะๆๆๆ ^O^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×