ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : +*+Part11+*+
Title : Forbidden Love
Author : +*+HanminhyuK+*+
Part : 11
ร่างสูงกลับมาจากผับในสภาพที่เมามาย เที่ยงคืนแล้วบ้านช่องปิดไฟหมด เขาบีบแตรรถหลายที ด้วยความโมโห จนส่งเสียงดังไปถึงข้างใน
ร่างบางที่นอนซมด้วยพิษไข้ สะดุ้งตื่นเพราะเสียงแตรที่ดังอยู่ข้างนอก
ก๊อกๆๆ
ฮยอกแจลุกจากเตียงไปเปิดประตู ก่อนจะพบว่าเม่ยเหม่ยยืนอยู่หน้าประตูด้วยความง่วงงุน
“อาฮยอกแจ ลื้อไปดูหน่อยสิ ว่าใครมาบีบแตรอยู่หน้าบ้าน อั๊วจะนอน” เธอกล่าวอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินกลับเข้าไป
ร่างบางฝืนสังขารที่ใกล้จะล้มเต็มทีลงบันไดไปยังประตูอัลลอยด์สีทอง แล้วเขาก็พบว่าตัวต้นเหตุของเสียงดังทั่วบ้านคือฮันคยอง
มือเล็กค่อยๆเปิดประตูที่หนักอึ้งออกและเข็นมันเข้าข้างทางเพื่อให้ร่างสูงที่อยู่ในรถสปอร์ตคันหรูได้ขับเข้ามา
ฮยอกแจปิดประตูเรียบร้อย ก่อนจะเดินอย่างคนไร้เรี่ยวแรงตามมา ฮันคยองมองตามกระจกที่สะท้อนด้านหลังก็อดที่จะแสยะยิ้มไม่ได้ ใบหน้าหวานนั้นยามเมื่อต้องแสงจันทร์ดูซีดเซียวจนเหมือนกับไร้สีเลือด ก่อนที่ชายหนุ่มจะลืมตัวตกใจกับสิ่งที่เห็น คนที่เดินอยู่นั้นล้มลงหมดสติกับพื้นที่เย็นเยียบทันที
ร่างสูงเปิดประตูรถออกมา พร้อมกับเข้าไปประคองร่างบอบบางนั้นไว้
ฮยอกแจถูกวางลงกับเตียงหนานุ่มอย่างเบามือ ใบหน้าขาวซีดนั้นมีเหงื่อผุดพรายเต็มไปหมด ดวงตาปิดแน่น ริมฝีปากแห้งผากพึมพำเสียงแผ่วจนจับใจความไม่ได้
ฮันคยองเดินไปยังห้องน้ำ หยิบผ้าขนหนูและขันน้ำมา ซับหน้าให้ร่างบางที่นอนซมอยู่ ชายหนุ่มเดินออกจากห้องตรงไปยังตู้ยาสามัญแล้วหยิบยาลดไข้ พร้อมกับแก้วน้ำ
“พ่อ...ฮึ่ก...ผม...หนาว” เสียงหวานละเมอแผ่วเบา มือบางคว้ากลางอากาศไปมา แม้ปากจะพึมพำว่าหนาว แต่เหงื่อกลับโทรมกายมากขึ้นเรื่อยๆ ริมฝีปากแดงระเรื่อ ตัวร้อนผ่าวราวกับถูกของร้อนก็ไม่ปาน
มือหนาค่อยๆเช็ดตัวให้อย่างแผ่วเบา นึกโกรธตนเองอยู่ในใจว่าทำไมต้องทำดีกับร่างบางตรงหน้า
ฉุกคิดได้ทันควัน รอยยิ้มร้ายๆผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ชายหนุ่มค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ๆก่อนจะประทับริมฝีปากที่ปากนุ่มของฮยอกแจแผ่วเบา
ฟันคมขบกัดริมฝีปากแห้งผากจนเป็นรอยฟันแดง ลิ้นหนาค่อยๆสอดเข้าไปข้างใน แต่ก็ต้องชะงัก
“ไม่...มันจะเป็นแบบนี้ไม่ได้” เสียงห้าวพึมพำกับตนเอง สีหน้าดูสับสนและหวาดกลัวกับสิ่งที่เขาทำลงไป ร่างสูงลุกขึ้นเดินซวนเซออกจากห้องไป ทิ้งคนที่นอนป่วยอยู่เบื้องหลังไว้ให้นอนหนาวเรียกหาไออุ่นท่ามกลางค่ำคืนที่หนาวเหน็บจับขั้วหัวใจ
รุ่งเช้าที่แสนสดใส แสงอาทิตย์ยามอรุณสาดส่องเข้ามายังม่านสีขาว หากแต่ร่างบางที่ยังคงนอนซมไม่สามารถลุกขึ้นมารับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าได้ ฮยอกแจนอนกระสับกระส่าย เหงื่อไหลโทรมกาย หากแต่หนาวสะท้านเข้าไปถึงกระดูก
คนตัวเล็กนอนอยู่บนเตียงทั้งๆที่ไม่มีผ้าห่มคลายความหนาวตลอดทั้งคืน ซ้ำยังมีแอร์ในห้องที่ปรับอุณหภูมิยี่สิบห้าองศาฯ ทำให้ไข้ยิ่งขึ้นหนัก
ประตูห้องเปิดออกอย่างเงียบเชียบ พร้อมกับที่สุนัขตัวใหญ่พันธุ์ลาบาดอร์ขนสีน้ำตาลวิ่งเข้ามาในห้อง ปีนขึ้นเตียงแล้วเลียใบหน้าหวาน
คล้ายกับเป็นสัญญาณถึงความอ่อนแอของร่างกาย ฮยอกแจหันหน้าหนีและขดตัวกลม ไอและจามต่อเนื่องตลอดเวลาจนรู้สึกเจ็บที่ท้อง ดวงตาคู่สวยปิดแน่น อยากจะลืมตาแต่เพราะพิษไข้ที่หนักหน่วงนั้นทำให้เขาไม่สามารถลืมตามองได้
ร่างสูงที่ยืนมองอยู่หน้าห้องแสยะยิ้มอย่างพอใจ เขารู้ว่าฮยอกแจแพ้ขนสัตว์มาตั้งแต่เล็กแล้ว แต่เขาต้องการจะกลั่นแกล้งเหยื่อให้ทรมาน...ช้าๆ...เพื่อความสาแก่ใจของเขาด้วย
ร่างบางกระสับกระส่าย และจามไม่หยุด ตามผิวขาวสวยนั้นมีผดผื่นแดงๆขึ้นเต็มไปหมด ผิวหน้าใสๆมีรอยเล็บของสุนัขและขนสีน้ำตาลเต็มไป ร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วยิ่งทรุดหนักลงกว่าเดิม ภูมิแพ้ที่ไม่ได้เป็นมานานเริ่มกำเริบหนักขึ้น คนตัวเล็กนอนหอบหายใจอย่างหนักเพราะขนสัตว์ที่ปลิวมาติดหน้า
“จินนี่” ชายหนุ่มหน้าห้องเรียกเจ้าสุนัขเสียงเบา พลางกระดิกนิ้วเรียก แล้วพามันออกไป ก่อนจะยิ้มมุมปากอย่างสะใจกับผลงานตนเองที่ได้ทำเอาไว้
ร่างสูงพาสุนัขตัวใหญ่วิ่งรอบบ้านเป็นการออกกำลังกายอย่างสนุกสนาน จนได้ยินเสียงร้องโวยวายของป้าโบรัมจากชั้นบนก็ต้องชะงัก ชายหนุ่มพาจินนี่กลับเข้ากรงขนาดใหญ่สีขาว ก่อนจะวิ่งเข้าไปในบ้าน
“คุณฮยอกแจ ทำไมตัวร้อนมีผื่นขึ้นเต็มอย่างนี้คะ” เสียงของหญิงวัยกลางคนยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ฮันคยองได้ยินดังนั้นจึงวิ่งขึ้นไปยังห้องของร่างบางทันที
ภาพที่เขาเห็นคือร่างบางนอนขดตัวอยู่บนพื้นห้องนอนที่เย็นเฉียบ ผิวขาวสวยเต็มไปด้วยผดผื่นสีแดงมากมายจนดูน่ากลัว ร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโต ส่วนป้าโบรัมเอาแต่ปลุกคนตัวเล็กให้ตื่นอย่างตกใจ
“ทำอะไรสักอย่างสิ ลงไปเรียกลุงซูมานให้ออกรถเร็ว!” เสียงห้าวตะโกนสั่ง ก่อนจะทรุดตัวลงอุ้มฮยอกแจไว้ แล้ววิ่งลงบันไดทันที
รถยนต์สีดำคันหรูแล่นเข้าจอดที่หน้าประตูบ้าน พร้อมกับที่ป้าโบรัมเปิดประตูจากด้านหลังออก ฮันคยองวางร่างบางที่ตัวสั่นงันงกอย่างเบามือแล้วแทรกตัวเข้าไปนั่ง เขาจับให้หัวของร่างบางหนุนตักเขาไว้ ก่อนจะปิดประตูดังลั่น
“ออกรถเร็ว!” ชายหนุ่มสั่งเสียงดังจนแทบจะตะโกน
หลังจากที่หมอตรวจดูอาการเรียบร้อย ก็บอกกับฮันคยองแค่ว่าคนไข้พักผ่อนน้อย มีเรื่องเครียดตลอดเวลาทำให้ไม่สบาย ซ้ำโรคภูมิแพ้ก็กำเริบเพราะสัมผัสกับขนสัตว์ ทำให้คนไข้ไม่สบายหนัก
ร่างสูงของผู้เป็นหมอเดินจากไป ทิ้งให้ฮันคยองที่ยืนอยู่หน้าห้องนั้นได้แต่จมกับความคิด ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีผุดขึ้นมาในใจมากมาย
ทำเกินไปหรือเปล่า?...
แต่สิ่งที่ฮยอกแจได้รับมันยังน้อยเกินไป...
ความคิดต่างๆนานาตีกันสับสนวุ่นวายไปหมด จิตใจของเขาแบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายสำนึกผิดกับฝ่ายที่ต้องการจะแก้แค้นต่อไป
เสียงฝีเท้าหนักๆเหมือนกับวิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับที่ร่างสูงของเพื่อนรักนามว่าคิม คิบอมหยุดอยู่ตรงหน้า
“ฮยอกแจ...เป็นอะไร?” เสียงห้าวของหนุ่มพูดน้อยถามพลางหอบหายใจ สายตาเย็นเยือกนั้นสบกับดวงตาคมปลาบนิ่งเฉยไร้หัวใจของฮันคยอง
“สำออย ไม่สบาย” ฮันคยองตอบอย่างไม่แยแส ใบหน้าคมเข้มนิ่งเฉย หากแต่มุมปากกลับกดยิ้มอย่างดูแคลน
“ถ้าฮยอกแจเป็นอะไรไป...” มือหนาของคิบอมกำหมัดแน่นทั้งสองข้าง แววตาดุดัน
“ฉันยังไม่ทำให้มันตายหรอก...ง่ายเกินไป” ฮันคยองสวนทันควันก่อนที่เพื่อนรักจะพูดจบ เขากดยิ้มมุมปากเยาะหยันคนตรงหน้า สายตาเหลือบมองหน้าห้องเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไปอย่างเย็นชา...ไร้ความรู้สึก
แต่ก้อนเนื้อข้างใน...กลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น
หัวใจเต้นแรง...คล้ายกำลังบอกว่าเขาโกหก
แต่ทุกสิ่งต้องดำเนิน...อย่างที่มันควรจะเป็น
นั่นคือ...สิ่งที่คิม นาริม และอี ฮยอกแจต้องรับผิดชอบ!
+*+........................................................................................................................................+*+
*TBC
โฉดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด TT^TT
คำเดียว อิไก่ช้านนนนนนน โดนรังแก
เพี้ยนไปแล้วเรา - -*
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น