เวลา 19.30 น.
ในวันนี้หลังจากเรียนเสร็จ มิโดริยะหรือเดกุ(ขอเรียกเดกุแทนนะ//ไรท์) ได้ออกมาข้างนอกเพื่อมาซื้อของใช้จำเป็นบางอย่างก่อนจะกลับไปพักที่หอของโรงเรียน โดยเขานั้นได้ออกมาซื้อคนเดียวเพราะเกรงใจคนอื่นๆ แต่คงเพราะเลือกของนานไปหน่อยทำให้ฟ้ามืดซะแล้ว…
สองขารีบสับเท้าวิ่งเพื่อกลับหอให้ทันก่อนทีจะโดนใครเขาจับได้โดยเฉพาะอาจารย์ไอซาวะที่เคร่งสุดๆ ในระหว่างที่กำลังวิ่งด้วยความรีบ พลันสายตาเหลือบไปเห็นบางอย่างเข้า ทำให้เขาต้องหยุดชะงัก พลางเพ่งสิ่งนั้นว่าคืออะไร ก่อนจะเบิกตาด้วยความตกใจ สองเท้ารีบวิ่งไปหาสิ่งนั้นในทันที
ตึก ตึก ตึก!
“นี่หนู! เป็นอะไรรึเปล่า?” เดกุคุกเข่าลงเอามือเขย่าร่างเล็กตรงหน้าเบาๆพลางส่งเสียงเรียกไปด้วย “งืม~~” ร่างเล็กส่งเสียงทำให้เดกุเบาใจ 'คงไม่ได้บาดเจ็บสินะ แต่ว่าทำไมเวลาแบบนี้ถึงมีเด็กมานอนอยู่แถวนี้ล่ะ? ไม่มีใครอยู่ นี้ด้วย รึว่าโดนทิ้ง? หลงทาง?" เดกุได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเอง โดยเสียงพึมพำนั้นทำให้ร่างเล็กลืมตาขึ้น
เมื่อเดกุเห็นว่าเด็กน้อยตื่นแล้ว ก็อยากจะถามข้อมูลก่อนพาไปส่งตำรวจหรือผู้ใหญ่คนอื่น"ตื่นแล้วเหรอ? ทำไมเธอมานอนนี่คนเดียวล่ะ พ่อแม่อยู่ไหนพี่จะได้ไปส่งนะ^^" พูดจบก็ยิ้มเพื่อแสดงความเป็นมิตร
เด็กสาวตัวน้อยนั่งมองหน้าเดกุอยู่พักหนึ่ง'รึว่าจะขี้อาย?'ยังไม่ทันคิดอะไรไปไกล เด็กคนนั้นก็ยิ้มก่อนจะกระโจนกอดเขาอย่างแรกพร้อมพูดคำๆหนึ่งที่ทำเอาเดกุถึงกับช็อค “ปะป๊าาาาาา!!!”
“ห้ะ!?” อึ้งสิครับ เวลาแบบนี้มีคนชอคแล้ว1
ฝั่งอนาคต//ก่อนหน้านั้น//
วันนี้เมลิซ่าได้พาลูกทั้งสองมาที่ทำงานด้วย เพราะไม่มีใครว่างเลี้ยงเลย แต่เพราะมีงานต้องทำเมลิซ่าเลยฝากให้ผู้ช่วยคนหนึ่งช่วยดูแลลูกๆของเธอแทนที ผู้ช่วยคนนั้นก็รับมาดูแล แต่เพราะมีงานเข้าก็เลยคลาดสายตาไป ทำให้เด็ก2คนในวัยกำลังซนก็เดินออกมาจากห้อง ก่อนจะเริ่มเดินไปทั่วเพราะไม่รู้ทาง จนเข้าไปห้องๆหนึ่ง
“หืม นี่ห้องอะไรอะ? มีเครื่องแปลกๆด้วย! มันทำงานยังไงนะ?” อิรุมะวัย7ขวบ ด้วยความอยากรู้อยากลองเขาจึงได้คลำไปทั่วๆเครื่องประหลาดเพราะอยากรู้ว่าทำงานยังไง ทิ้งให้อาเคมิยืนงงมองพี่ชายตัวเองตาแป๋ว
พลันมือเล็กก็กดเข้าโดนสวิตเครื่องเข้า แต่อิรุมะไม่รู้จึงได้แต่คลำๆต่อไป พลันตรงกลางเครื่องก็เกิดแสงสว่างระยิบระยับเป็นสีสวยงาม อาเคมิที่เห็นแบบนี้ก็นึกอย่างได้ จึงเดินไปใกล้ๆเครื่องก่อนจะหายตัวไปพร้อมกับแสงที่ดับลง
อิรุมะรู้สึกเซ็งที่หาปุ่มไม่เจอ เลยกะจะไปเล่นที่ห้องอื่นแทน “อาเคมิพี่ว่าเราไปเล่นที่อื่นกั---” พอหันหลังกลับมาน้องสาวตัวเล็กของเขาก็ไม่อยู่แล้ว"อาเคมิ!?" อิรุมะเดินดูไปรอบห้องแต่ก็ไม่เจอ จึงรู้สึกกังวลมากๆ แต่เขาต้องหาน้องให้เจอ! อิรุมะจึงวิ่งออกจากห้องไปเพื่อไปตามแม่ “แม่ฮะะ!!!!”
ปัจจุบัน
สุุดท้ายเดกุก็ได้แต่แอบเข้าห้องมาอย่างเงียบๆพร้อมกับร่างเล็กที่ไม่ยอมปล่อยมือจากคอของเขาเลยแม้แต่น้อย พอเขาจะแกะมือออก เด็กคนนี้ก็ทำท่าจะร้องไห้แถมรัดแน่นกว่าเดิม ได้แต่ปล่อยเลยตามเลยแอบเข้ามาอย่างเงียบๆ เพราะถ้าคนอื่นมาเห็นเข้าคงมีหวังหาว่าเขาเป็น โลลิค่อนโรคจิตแน่เลย!
โชคดีที่ดูเหมือนเด็กคนนี้จะหลับไปแล้ว เขาเลยได้วางร่างเล็กบนเตียงอย่างเบามือกันเธอตื่น ก่อนจะนั่งลงข้างเตียงด้วยความโล่งใจ"เฮ้อ~~~ทำไมถึงรู้สึกเหนื่อยแบบนี้นะ"
ว่าแต่เด็กคนนี้เป็นใครกัน? ทำไมเรียกเขาว่าปะป๊าล่ะ? หรือว่าเขาคงจะหน้าเหมือนพ่อของเธอล่ะมั้ง เมื่อเดกุได้ลองมองหน้าเด็กสาวดูแบบชัดๆก็พอว่าเธอมี ใบหน้ากลมจิ้มลิ้ม ผมสีทองส่วนปลายผมเป็นสีเขียวสีเดียวกัลสีผมชองเขาเลย แถมตอนลืมตาเด็กคนนี้ยังมีตาสองสีอื่นข้างขวาสีเขียว ข้างซ้ายสีฟ้าอ่อน
เอาจริงๆก็แอบคิดว่าเด็กคนนี้มีส่วนทึ่คล้ายเขาอยู่นะ แต่คงเป็นเรื่องบังเอิญนั่นแหละ เด็กคนนี้เป็นลูกใครกันนะ? ทำไมถึงปล่อยเด็กน่ารักๆแบบนี้ไว้คนเดียวล่ะ? เห้อ~~~ทำไมผมถึงมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยล่ะ? สงสัยวันนี้คงต้องนอนพื้นสินะ…. แล้วเดกุของเราก็ไปทำธุระส่วนตัวก่อนจะมานอนบนพื้น
และเช้าวันต่อมา ด้วยเสียงนาฬิกาปลุกทำให้เจ้าตัวรีบเด้งตื่นขึ้นมา รีบคว้าเอาผ้าเช็ดตัวและแปรงเพื่อไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นหนึ่ง แต่ว่า…นึกขึ้นได้ว่าห้องเขามีเพื่อนร่วมนี่หว่า!? เอาไงดีถ้าเกิดตอนเราลงไปแล้วเธอตื่นมาร้องไห้ล่ะ!?แบบนั้นทุกคนได้รู้หมดแน่ แต่วันนี้เรามีเรียนด้วยนะ!
เอาเป็นว่า! รีบไปรีบกลับดีกว่า ส่วนเรื่องนี้ไว้ไปถามความเห็นจากออลไมท์ละกัน!!! แล้วเดกุก็รีบสับเกียร์หมาวิ่งลงบันไดไปอาบน้ำแปรงฟันทัน
“อ้าว! อรุณสวัสดิ์มิโด---” ฟิ้วววววว อีดะยังทักทายไม่เสร็จเดกุก็วิ่งผ่านไปแล้ว
“โทษนะอีดะคุง! ผมรีบน่ะ!!!” แล้วมิโดริยะก็รีบอาบน้ำแปรงฟันอย่างรวดเร็วไม่ถึง10นาทีก็วิ่งขึ้นห้องไปแล้ว ทำให้เพื่อนผู้ชายทึ่เห็นเหตุการณ์ได้แต่ยืนงง?
“มิโดริยะรีบไปไหนน่ะ” คิริชิมะเอ่ยคนแรก
“นั่นน่ะสิ จะกระตือรือร้นเรื่องเรียนขนาดนั้นคงไม่ใช่ทางฉันหรอก” คามิเนริพูดต่อ
“แต่ฉันว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ-v-+” มิเนตะโผล่มาพูดทำเอาทุกคนเมินในทันที
เดกุรีบวิ่งขึ้นห้องก็พบว่าเด็กน้อยตื่นแล้วแถมอ้าแขนมาทางเขาอีก “ปะป๊าอุ้มๆ” เดกุได้โล่งใจที่วิ่งขึ้นมาทันพอดี ก่อนจะอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาด้วยความเอ็นดู “ครับๆว่าแต่เธอชื่ออะไรเหรอ?”เดกุใช้โอกาสนี้ถามชื่อเด็กน้อยให้อ้อมแขน
“ปะป๊าลืมชื่อหนูไปแล้วเหรอ????”
“เห้ย! เปล่าๆแบบว่าปะป๊าอยากรู้ว่ายังจำชื่อได้ไหมน่ะ!" ชิบล่ะ! เกือบทำเด็กร้องไห้แล้ว
“หนูชื่อมิโดริยะ อาเคมิค่า อาเคมิน่ะไม่ได้ขี้ลืมนะ!” เด็กน้อยพองแก้มด้วยความน่าเอ็นดู แต่พอมาคิดดีๆทำไมเด็กคนนี้นามสกุลเดียวกันกับเขาหว่า? มีแต่เรื่องชวนปวดหัวเต็มไปหมด เดกุก็อุ้มเด็กน้อยวิ่งออกจากหอไปที่โรงเรียนทันทีโดยไม่รอใคร เขาคงต้องไปปรึกษาออลไมท์แล้ว!(ก่อนหน้านั้นก็แวะหาไรกินก่อน)
“เอ๋? เดกุคุงล่ะ?อีดะคุง” อุรารากะถามอีดะขณะจะไปโรงเรียนด้วยกัน
“สงสัยมิโดริยะคงไปโรงเรียนแล้วล่ะ ตอนเช้าวันนี้เองก็รีบๆไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันเลยน่ะ”
“งั้นเหรอ….” สิ้นประโยคทั้งสองก็ไปโรงเรียนด้วยกัน บาคุโกที่เดินผ่านมาได้ยินก็ได้แต่คิดในใจ'เดกุมันปิดบังอะไรอีกแล้ววะ?'
เดกุได้เมลไปหาออลไมท์ให้มาเจอที่ห้องที่พวกนัดเจอกันเป็นประจำ ซึ่งนั่งรอไม่นานออลไมท์ก็มาในร่างกล้าม
“อะฮ่าๆมีอะไรเหรอหนุ่มน้อยมิโดริ-แค่ก” สุดท้ายก็กลับร่างกุ้งแห้งพร้อมกระอักเลือดออกมาก เดกุจึงรีบปิดตาอาเคมิไม่ให้เห็นภาพคนป่วยไอเป็นเลือด เดี๋ยวติดตาเปล่าๆ
“เอ่อ…ออลไมท์คือว่าผมมีเรื่องปรึกษาน่ะครับ”
“หืม?เรื่องอะไรเหรอ? ว่าแต่เด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างเธอนั่นใครน่ะ? น้องสาว?” ออลไมท์นั่งลงพร้อมมองไปที่เด็กสาวที่กำลังนั่งเล่นอยู่ข้างๆหนุ่มน้อยมิโดริยะ พอเด็กสาวหันมาสบตาออลไมท์ก็กระโดดลงจากโซฟาพุ่งเข้าหาเขาแทน
“ออลไมท์~~~” ออลไมท์ที่โดนร่างเล็กกระแทกก็ได้แต่…."อะ เฮือก!!!"
“อ้าว~ อาเคมิจังเองก็ชอบออลไมท์เหรอ?”
“นะ…นี่หนุ่มน้อยมิโดริยะคุง เด็กคนนี้คือ?” ออลไมท์ได้แต่จัดท่าตัวเองให้ดี โดยมีร่างเล็กรัดอยู่ตรงลำตัว
“นึ่แหละครับคือเรื่องที่จะปรึกษา คือว่ามันเป็นแบบนี้ครับบลาๆๆๆๆๆๆ” แล้เดกุก็เล่าเรื่องของเมื่อวานให้ออลไมท์ฟัง
.
.
.
“อ่อๆ ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะ แต่เรื่องของเด็กคนนี้เดี๋ยวฉันจะจัดการให้ล่ะกัน เธอเองก็ไปเรียนได้แล้วล่ะ เดี๋ยวจะสายแล้วล่ะ” ตอนแรกเดกุลำบากใจที่จะไปนิดหน่อย เพราะจากที่อยู่ด้วยกันอาเคมิดูติดเขามาก ถ้าเขาไปกลัวว่าจะงอแง พอจะเปิดประตูออกไป ก็หันมาดูอีกรอบ แต่ทว่าอาเคมิไม่สนใจสักนิด
‘555 นี่เขาคงแพ้ออลไมท์สินะ ว่าแต่ทำไมต้องรู้สึกน้อยใจด้วยเนี่ย?
เดกุสะบัดหัวไล่ความคิดเหล่านี้ออกไปก่อนจะไปเข้าเรียน ระหว่างที่เรียนเดกุไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่ในหัวก็มีแต่เรื่องของอาเคมิเต็มไปหมด พยายามคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆมากมายจนรู้ตัวอีกทีเวลาก็เลยมาจนถึงตอนเที่ยงแล้ว ระหว่างที่เดกุจะไปกินข้าวก็ได้ข้อความจากออลไมท์ให้ไปหาซะก่อน
ทำให้ก็เป็นอีกครั้งที่อีดะกับอุราระกะเริ่มสงสัย ว่าตลอดเช้านี้เดกุเป็นอะไรกันแน่ แต่ก็ได้แค่สงสัยต่อไป…
เดกุรีบวิ่งมาที่ห้องให้เร็วที่สึดพอเปิดประตูมาก็เจอออลไมท์ อาเคมิที่กำลังขี่คอออลไมท์อยู่ และอาจารย์ไอซาวะที่มองมาทางเขาด้วยสายตาแปลกๆที่น่าขนลุกมากๆ(-_-)+
แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าก็คือ ออลไมท์ได้ให้เพื่อนตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีข้อมูลของตัวอาเคมิในระบบเลยแม้แต่น้อย แถมพอพวกเขาลองตรวจดีเอ็นเอของเด็กคนนี้กับเดกุก็พบว่าตรงกัน เดกุที่รู้ก็ตกใจมาก
“มะ…มันจะเป็นไปได้ยังไงกันครับ? ก็ผม…” เพิ่งรู้จักเด็กคนนี้เอง…
“ฉันจะไปรู้มั้ยล่ะ ก็จากที่ออลไมท์ได้ถามข้อมูลจากยัยเด็กคนนี้ มีความเป็นไปได้เดียวก็คือเด็กคนนี้อาจจะมาจากอนาคต ด้วยเครื่องบางอย่าง…” ไอซาวะอธิบาย
“เอ๋!? ถ้างั้นอาเคมิจังจะกลับยังไงล่ะ!?”
“ใจเย็นๆก่อนหนุ่มน้อยมิโดริยะ ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงอาเคมิจังนะ แต่ฉันว่าตัวเธอในอนาคตฝั่งนั้นคงกำลังพยายามทำอะไรสักอย่างอยู่แน่ๆ ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก”
“ออลไมท์ครับ….”
“เห้อ~ทำไมทุกเรื่องวุ่นวายถึงเกี่ยวกับนายตลอดเลยห้ะมิ-โด-ริ-ยะ”
“จึ๋ย!? ขะ…ขอโทษครับอาจารย์ไอซาวะ”
“เอาเป็นว่าตอนเย็นฉันจะพาเด็กคนนี้ไปที่หอพักเองล่ะกัน เรื่องนี้ต้องขอกให้คนอื่นๆทราบด้วย จะได้ช่วยๆกัน คงเข้าใจสินะมิโดริยะ….” หลังพูดเสร็จไอซาวะก็เดินออกไป เดกุนั่งอยู่กับที่ก่อนจะรู้สึกถึงมือเล็กกำลังดึงเสื้อเขาอยู่
“ปะป๊า!ๆ มาเล่นกับอาเคมิหน่อยนะ!”
“อืม…ได้สิอาเคมิ แต่แปปเดียวนะ^^”
ฝั่ง อนาคต
เมลิซ่าหลังทราบเรื่องราวก็ตามทีมงานที่เกี่ยวให้เข้ามาช่วยกันซ่อมเครื่องให้ทำงานได้ แต่เพราะเครื่องยังไม่สมบูรณ์ทำให้ค่อนข้างใช้เวลา อิรุมะเองก็กังวลมากจนเมลิซ่าต้องคอยปลอบอยู่ใกล้ๆ ไม่นานเดกุในวัยผู้ใหญ่ก็มา ทำให้เมลิซ่าตกใจ
“อิซุคุ!? คุณมาได้ยังไงคะ?”
“ผมรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อาเคมิปลอดภัยดีแน่นอน”
“คุณรู้ได้ยังไงคะ?” เมลิซ่าไม่เข้าใจ
“เพราะที่ๆอาเคมิไปก็คือตอนที่ผมเรียนม.ปลายปี1ยังไงล่ะ”
“คุณเมลิซ่าครับ!เครื่องทำงานได้แล้วครับ!” 1ในทีมงานตะโกนบอก
“ว่าไงนะ!?”
“แต่ว่าเครื่องนี้มีผลเสียน่ะค่ะถ้าเป็นผู้ใหญ่จะไม่สามารถเดินทางไปได้ค่ะ!”
“แบบนี้ก็หมายความว่าคนที่ไปได้มีแค่เด็กงั้นเหรอ!?” เมลิซ่าเครียดเพราะเธอรู้ว่าเด็กในที่นี้ก็หมายถึงอิรุมะ
“ผมจะไป! ผมจะไปพาต้องกลับมาเอง!"
“อิรุมะนี่ลูก!?” เมลิซ่าก็เงียบไปเำราะเดกุเอามือมาจับไหลเ่อาไว้ก่อนคุกลง ให้พอดีกับส่วนสูงของอิรุม
“ลูกกล้าหาญมากอิรุมะ ต้องพาน้องกลับมาให้ได้นะพ่อแม่จะรอ…”
“ฮะ!”
ตัดมาตอนเย็น
หลังทุกคนกลับมาที่หอ ไอซาวะก็ได้เดินมาด้วยทำให้ทุกคนก็ได้รวมตัวอยู่กันที่ห้องโถง แน่นอนว่าทุกสายตาจับจ้องไปที่เด็กสาวตัวน้อยที่ยืนจับขากางเกงอาจารย์ไอซาวะอยู่ ก่อนที่อาจารย์ไอซาวะจะเล่าเรื่องทุกอย่าง พร้อมให้เดกุออกมายืนยันด้วย
พอเล่าจบทุกคนต่างก็มีอาการที่แตกต่างกัน ทั้งตกใจ ตื่นเต้น อึ้ง และเฉยๆ แล้วสาวๆของห้องก็พากันรุมล้อมเด็กสาว ส่วนอาจารย์ไอซาวะก็กลับไปแล้วเพราะมีงานต้องทำ
“น่ารักจังเลย!” อุรารากะ
“ลูกของมิโดริยะจริงเหรอเนี่ย?” จิโร่
“เหมือนตุ๊กตาเลย!” เพราะโดนสาวรุมล้อมอาเคมิเลยเริ่มร้องหาพ่อทันใด
“ปะป๊าๆ” ว่าแล้วก็วิ่งออกมาเกาะขาเดกุทันที
“หึ! นิสัยขี้แยนี่เหมือนเจ้าเดกุมันจริงๆ! คงเป็นลูกมันไม่ผิดแน่” บาคุโก
“เดี๋ยวเถอะบาคุโกอย่ามาว่าสาวน้อยคนนี้นะ!” “ใช่ๆ!”
“หืม?” อาเคมิเลยหน้ามองบาคุโก ทำให้เดกุอุ้มขึ้นมาแล้วถามว่า"มีอะไรเหรออาเคมิจัง?"
“อะ!ลุงปอมๆนี่นา!” สิ้นประโยคนั้น ทำให้คนทั้งห้องพากันขำ บางคนก็กลั้นขำ ส่วนบาคุโกหัวร้อนเรียบร้อย
“หา! เรียกใครว่าลุงปอมๆฟะ!?”
“อย่าตะโกนใส่เด็กแบบนั้นสิบาคุโก!!!” อีดะกางแขนปกป้อง
“เดกุ! แกสอนให้ยัยเด็กนี่พูดใช่มั้ย!?”
“หา!? ฉะ…ฉันไม่รู้เรื่องซะหน่อยนะคัตจัง!!!” ว่าแล้วบาคุโกก็เริ่มวิ่งไล่เดกุ ทำให้ทุกคนต้องช่วยกันห้าม ส่วนอาเคมิก็หัวเราะออกมา ทำให้ทุกคนยิ้มตามยกเว้นคนๆนึง
ต่อมา ทุกคนแยกย้ายกันเข้านอน อาเคมิหลับไปแล้วเพราะเล่นกับทุกคนจนเหนื่อย เดกุได้แต่ยิ้ม เพราะอาเคมิจังน่ารักมากจริงๆ แต่ว่าเขารู้สึกติดใจกับคำพูดของคุณอุรารากะเมื่อเย็นมากกว่า เพราะเธอเล่นพูดออกมาว่าผมสีทองและดวงตาสีฟ้าของอาเคมินั้น ทำให้นึกถึง คนบางคน
แน่นอนเดกุก็เก็บเอาเรื่องนี้มาคิด เพราะเขาแทบจะไม่รู้จักผู้หญิงผมทองตาสีฟ้ามากขนาดนั้น ยกเว้น เธอคนนั้น…พลันใบหน้าเกิดแดงขึ้น ไม่หรอกๆคงไม่ใช่หรอกมั้ง! แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทำให้เดกุรีบไปรับก่อนจะออกมาคุยที่ระเบียงเพื่อไม่ให้รบกวรการนอนของอาเคมิ
“ฮัลโหล ครับ?”
“ไงเดกุคุง ขอโทษนะที่โทรมาดึกแบบนีิ้น่ะ ” เสียงปลายสายนั้นคือคนที่เขากำลังนึกถึงเมื่อครู่เมลินั่นเอง!
“อะ คุณเมลิซ่านี่เอง ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่โทรมามีอะไรเหรอครับ?”
“คือว่านะ พอดีกำลังสร้างงานชิ้นใหม่อยู่น่ะ และอยากให้เดกุคุงช่วยทดลองให้หน่อยน่ะ”
“ได้สิครับ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
“ขอบคุณนะ เดกุคุงเนี่ยพึ่งได้เสมอเลยนะ มีแค่นี้แหละ ราตรีสวัสดิ์นะ”
“ราตรีสวัสดิ์เช่นเดียวกันครับ…”
วันต่อมา
วันนี้เป็นวันหยุดทำให้ทุกคนอยู่เล่นกับอาเคมิเต็มที่ ทุกคนก็มีแซวๆเดกุบ้างว่าถ้าลูกสาวน่ารักขนาดนี้ คนแม่จะสวยมากแค่ไหน ทำเอาเดกุอายแถบแทรกแผ่นดิน ส่วนมิเนตะที่คิดตามที่คนอื่นแซวก็ได้กัดฟัน นั่งริษยาเดกุอยู่มุมห้อง ส่วนอุรารากะเองก็แอบเสียใจนิดๆแต่เก็บอาการได้
แต่แล้วความสุขก็ต้องหมดไปเพราะเมื่อโทโดโรกิที่ออกไปข้างนอกได้กลับมาพร้อมกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งด้วย ที่พอทุกคนเห็นก็คิดในใจว่านี่มันเดกุเวอร์ชั่นเด็กชัดๆ
“สวัสดีครับทุกคนขอบคุณที่ดูแลน้องสาวผมนะครับ อาเคมิพี่มารับกลับแล้วนะ…” พอเด็กชายคนนั้นพูดจบอาเคมิที่เห็นหน้าพี่ชายก็วิ่งไปหาทันที “พี่จ๋า!”
“ไงอาเคมิ พี่ขอโทษนะที่มารับ เรากลับกันเถอะแม่กับพ่อรออยู่นะ”
“อือ~แต่ก็นี่ไงปะป๊าก็อยู่นี่นะ!” มือเล็กชี้ไปหาเดกุที่ยืนอึ้งอยู่
“ก็ใช่ แต่พี่เขายังไม่ใช่คุณพ่อเรานะ คุณพ่อกำลังรอเล่นกับอาเคมิอยู่เลย แม่ด้วย”
“นะ…นี่! เธอเป็นพี่ชายอาเคมิจังสินะ แต่ว่าอย่าเพิ่งพาเธอกลับได้มั้ย?” เดกุพยายามห้าม
“คงไม่ได้หรอกครับ คุณพ่อกับคุณแม่รอเราอยู่ฮะ เราต้องกลับไป”
“ถ้าอย่างนั้นขอลากับอาเคมิจังหน่อยนะ…”ทุกคนได้แต่สงสารมิโดริยะ เพราะถึงจะอยู่ด้วยกันไม่นาน แต่ก็ผูกพันกับเด็กคนนี้ไปแล้ว
“อาเคมิจังขอบคุณนะที่เล่นด้วยกัน ถึงจะเวลาสั้นๆแต่ก็เป็นความทรงจำที่ดีเลยนะ ขอให้อาเคมิจังเป็นเด็กดีแบบนี้ต่อไปนะ…” พูดจบก็เอามือลูบหัวน้อยๆไปด้วย
สุดท้ายอิรุมะก็จับมือน้องสาวเดินออกมา เดกุได้แต่มองด้านหลังอย่างเศร้าๆ แต่เขารู้ดีว่าในอนาคตยังไงก็ต้องได้เจอกับอาเคมิจังแน่นอน….
.
.
.
อนาคต
หลังอิรุมะพาอาเคมิกลับมาได้สำเร็จ เมลิซ่ารีบเข้าไปกอดลูกสาวทันทีด้วยความเป็นห่วง ส่วนเดกุก็เอามือลูบหัวลูกชายเบาๆ
“ทำดีมากอิรุมะ” อิรุมะยิ้มกว้างตอบ
“ปะป๊า!อาเคมิขอขี่คอหน่อย!”อาเคมิมาถึงก็เรียกหาเดกุทันที
“ฮ่าๆ ได้เลย! เจ้าหญิงน้อย!” วี้~~~
“อิซุคุระวังลูกตกนะ…”
“พ่อฮะๆผมเองก็อยากขี่คอบ้างนะฮะ!” และจบลงด้วยเสียงหัวเราะของครอบครัวที่สุขสันต์
Fin…