ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BL] ร้านกาแฟของนายเบต้า [omegaverse]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 ร้านกาแฟของ เขา

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 67


    เสียงกระดิ่งลมดัง **กรุ๊งกริ๊ง** แผ่วเบา เมื่อลมเย็นที่ติดตัวลูกค้าคนใหม่พัดเข้ามาพร้อมกับการเปิดประตูไม้เก่าของร้านกาแฟ บ่งบอกถึงการมาถึงของผู้มาเยือน เสียงนั้นคล้ายกับการเชื้อเชิญที่อบอุ่น บรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยความสงบเงียบและผ่อนคลาย กลิ่นหอมของกาแฟบดสดใหม่ผสมกับกลิ่นอบอุ่นของขนมอบลอยอวลในอากาศ โต๊ะไม้สีเข้มวางเรียงอย่างมีระเบียบ โคมไฟสีอำพันส่องแสงนวลตา สร้างความรู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้านในวันฝนพรำ 

     

    ลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้านมีทั้งคนที่ก้มหน้าทำงานกับแล็ปท็อป ดื่มด่ำกับกาแฟถ้วยโปรด และคู่รักที่กำลังพูดคุยกันเบาๆ ท่ามกลางเสียงเพลงแจ๊สเบาๆ ที่คลอเป็นพื้นหลัง ทุกสิ่งชวนให้รู้สึกว่าที่นี่คือ สถานที่หลบหนีจากความวุ่นวายของโลกภายนอก ที่เคาน์เตอร์ มีพนักงานโอเมก้าคนหนึ่งกำลังยืนยิ้มอ่อนโยน ท่าทางคล่องแคล่วในชุดผ้ากันเปื้อนสะอาดสะอ้าน เขากำลังเสิร์ฟกาแฟถ้วยใหม่ให้กับลูกค้า 

     

    แม้ตามธรรมเนียมแล้วโอเมก้าจะถูกคาดหวังให้อยู่ในกรอบที่สังคมกำหนด เพียงแค่รอคู่ของตน แต่เจ้าของร้านคนใหม่ไม่เหมือนใคร เขามองเห็นความสามารถและความตั้งใจของโอเมก้า และเลือกที่จะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ทำงานในที่ที่ปลอดภัย เจ้าของร้านได้ออกแบบร้านให้เป็นพื้นที่ที่โอเมก้าจะไม่ต้องกังวลว่าจะถูกคุกคาม ที่นี่ พวกเขาเป็นมากกว่าเพียงแค่ภาพลักษณ์ที่สังคมกำหนด แต่เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้ร้านอย่างแท้จริง และที่สำคัญ

     

    เจ้าของร้านค่อนข้างจะ…ไม่ค่อยกลัวอัลฟ่ามากนักสักเท่าไหร่

     

    กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกาแฟคั่วบดสดใหม่แตะจมูกของอีธานทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไปในร้านกาแฟชื่อดัง กลิ่นนั้นอบอวลอยู่ในอากาศ ราวกับเป็นคำเชื้อเชิญให้ทุกคนก้าวเข้าสู่โลกที่อบอุ่นและผ่อนคลาย เขาปรับเน็กไทให้เข้าที่ พลางกวาดตามองไปรอบๆ ร้านที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยโทนสีเอิร์ธโทนและแสงไฟสีอำพัน โต๊ะไม้ขัดเงาวางเรียงอย่างเป็นระเบียบ เสียงเพลงแจ๊สเบาๆ คลออยู่เบื้องหลัง สร้างบรรยากาศที่สงบและชวนให้นั่งพักผ่อน 

     

    เมื่อเดินมาถึงเคาน์เตอร์ พนักงานหลังเคาน์เตอร์โอเมก้าหนุ่มที่มีรอยยิ้มอ่อนโยนเอ่ยทักทายเขาด้วยน้ำเสียงสุภาพ อีธานพยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำที่แฝงไปด้วยความมั่นใจแต่ไม่เร่งรีบ "ผมขอแค่เอสเพรสโซ" เขาพึมพำเรียบๆ ขณะล้วงมือหยิบการ์ดออกจากกระเป๋าสตางค์แล้วส่งให้บาริสต้า พนักงานรับการ์ดไปด้วยมือที่มั่นคงพร้อมรอยยิ้มที่ไม่ได้จางหาย อีธานสังเกตว่ามือของพวกเขานั้นสะอาดสะอ้านและเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว บรรยากาศในร้านเงียบสงบ ราวกับว่าทุกอย่างดำเนินไปอย่างช้าๆ เพื่อให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับช่วงเวลานี้

     

    ขณะที่รอเอสเพรสโซอีธานเผลอเหลือบมองบาริสต้าที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ ใบหน้าของเขาช่างสะดุดตา ดวงตากลมโต คิ้วเรียวได้รูป และริมฝีปากบางที่ดูเหมือนจะประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนเสมอ รูปร่างเล็กกระทัดรัดของเขาให้ความรู้สึกเปราะบาง แต่แฝงด้วยความกระฉับกระเฉงในทุกการเคลื่อนไหว กลิ่นหอมจางๆที่แตะจมูกอีธานอีกครั้งไม่ใช่เพียงแค่กลิ่นกาแฟ แต่เป็นกลิ่นเฉพาะตัวของโอเมก้า แม้จะเจือจางจนแทบจะเป็นเพียงเงา แต่สำหรับอัลฟ่าอย่างเขา มันชัดเจนพอที่จะทำให้เขารับรู้ได้ทันที

     

    ไม่ต้องสงสัยเลย บาริสต้าคนนี้คือโอเมก้า

     

    เขาสังเกตเห็นเม็ดยาเล็กๆ ที่บาริสต้าหยิบเข้าปากพร้อมน้ำเปล่าที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ด้านใน การเคลื่อนไหวที่เงียบเชียบแต่น่าสนใจยิ่งนัก อีธานเข้าใจดีว่ามันคือยาเพื่อลดฟีโรโมน ยาชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดกลิ่นหอมตามธรรมชาติและควบคุมการปล่อยฟีโรโมนที่อาจกระตุ้นปฏิกิริยาของอัลฟ่า ฟีโรโมนของโอเมก้ามีพลังรุนแรง หากไม่ได้รับการควบคุม มันเพียงพอที่จะทำให้อัลฟ่าที่อยู่ใกล้เข้าสู่ช่วงผสมพันธุ์และสูญเสียการควบคุมตนเองได้ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่โอเมก้าส่วนใหญ่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในพื้นที่สาธารณะ ความเสี่ยงในการกระตุ้นสัญชาตญาณพื้นฐานของอัลฟ่าบางคนมากเกินไปจนเกิดความดุร้าย เป็นอันตรายทั้งกับตัวโอเมก้าและคนรอบข้าง 

     

    แต่ในร้านกาแฟแห่งนี้ ดูเหมือนทุกอย่างจะสงบและเป็นระเบียบ ไม่มีใครแสดงอาการว่าถูกรบกวนจากฟีโรโมนเลย เจ้าของร้านที่นี่ต้องมั่นใจในมาตรการดูแลความปลอดภัยของพนักงานอย่างแน่นอน อีธานหลุบตาลง ไม่ให้สายตาหยุดจ้องนานเกินไป เขาไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้สัญชาตญาณดิบควบคุมตัวเองได้ง่ายๆ แต่บางอย่างเกี่ยวกับบาริสต้าคนนี้ทั้งกลิ่นหอมอ่อนๆ รอยยิ้ม และแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความตั้งใจทำให้เขารู้สึกว่า อาจมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เขาอยากกลับมาที่ร้านนี้อีกครั้ง แต่ที่เขาสนใจมากยิ่งกว่าคือ 

     

    เจ้าของร้าน

     

    "นี่ครับคุณลูกค้า" เสียงสดใสของบาริสต้าดังขึ้น ขณะที่มือเล็กๆ ของเขายื่นถ้วยกาแฟและบัตรคืนให้อีธานรอยยิ้มที่แฝงความร่าเริงและมิตรภาพทำให้บรรยากาศรอบตัวดูอบอุ่นมากขึ้น อีธานพยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนจะพึมพำคำว่า "ขอบคุณ" อย่างเบาๆ เขารับถ้วยเอสเพรสโซด้วยมือที่มั่นคง กลิ่นหอมเข้มข้นของกาแฟลอยแตะจมูกทันที ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย 

     

    สายตาของเขากวาดไปรอบๆ ร้านเพื่อมองหาจุดที่เหมาะแก่การนั่งพักผ่อน และเขาก็สังเกตเห็นโต๊ะว่างใกล้หน้าต่างกระจกบานใหญ่ แสงธรรมชาติที่ลอดผ่านกระจกนั้นดูนุ่มนวล ราวกับเชื้อเชิญให้เขานั่งลงเพื่อดื่มด่ำกับกาแฟและปลดปล่อยความตึงเครียดในหัวใจ เขาเดินไปยังโต๊ะนั้นอย่างมั่นใจ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ที่ให้ความรู้สึกมั่นคงและสบาย 

     

    อีธานวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะเบาๆ ปลดเน็กไทออกเล็กน้อยเพื่อให้รู้สึกคลายตัวมากขึ้น สายตาของเขาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพของผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างไม่เร่งรีบ ถนนที่เปียกชื้นเล็กน้อยจากฝนในยามเช้า และต้นไม้ที่ใบไหวเบาๆ ตามแรงลม สร้างฉากที่สงบเงียบและเรียบง่าย เสียงถอนหายใจเบาๆ หลุดออกมาจากปากของเขา ราวกับว่าในช่วงเวลานี้ เขาสามารถปลดปล่อยทุกสิ่งที่อัดแน่นในจิตใจออกมาได้เล็กน้อย 

     

    มันเป็นเรื่องจริง ทุกอย่างเกี่ยวกับร้านกาแฟแห่งนี้ทำให้อีธานรู้สึกสงบลง แม้แต่เสียงเงียบๆ ของร้านที่มีแค่เสียงเครื่องชงกาแฟและลมที่พัดผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ทุกสิ่งรอบตัวเขาทำให้หัวใจของเขาผ่อนคลาย เขารู้สึกเหมือนตัวเองหลุดพ้นจากความยุ่งเหยิงของโลกภายนอก ระยะหลังมานี้ อีธานรู้สึกหงุดหงิดบ่อยครั้ง แม้กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นการที่คอมพิวเตอร์ไม่ทำงานหรือการสนทนาเล็กๆ กับเพื่อนร่วมงาน แต่สิ่งที่แย่กว่าคือการที่เขารู้สึกเหมือนฟีโรโมนของตัวเองหลุดออกมาโดยไม่ตั้งใจ มันเหมือนกับว่ามันกำลังครอบงำเขาโดยไม่สามารถควบคุมได้ เขารู้ดีว่ามันไม่ดี เพราะฟีโรโมนของเขาส่งผลกระทบต่อเพื่อนร่วมงาน ทำให้พวกเขาเกิดความอ่อนไหวหรือหงุดหงิดตามไปด้วย การที่อัลฟ่ามีพลังเช่นนี้ก็เป็นดาบสองคม 

     

    เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของเขาแนะนำร้านกาแฟที่ชื่อว่า Serenity Cup ให้กับเขา เขาบอกว่าเป็นสถานที่ที่เงียบสงบและน่าจะช่วยให้เขาผ่อนคลาย อีธานตัดสินใจลองไปดู และพอเขามาถึงที่ร้าน เขาก็รู้สึกถึงความแตกต่างจากที่อื่นทันที ขณะที่จิบเครื่องดื่มจากถ้วยกาแฟที่มีรสชาติละมุน เขาพึมพำในใจ “มันเงียบสงบดี” บรรยากาศภายในร้านไม่ได้มีเสียงวุ่นวายจากการสนทนา แต่กลับเต็มไปด้วยการเคลื่อนไหวที่ช้าและมั่นคง ทุกอย่างรอบตัวดูเหมือนจะหยุดนิ่ง เขาสามารถปล่อยให้ความคิดของตัวเองหยุดหมุนและกลับมามีสมาธิอีกครั้ง

     

    ไม่นานนัก เสียงโครมครามก็ดังขึ้นในร้านกาแฟ Serenity Cup บรรยากาศเงียบสงบที่เคยมีอยู่กลับถูกทำลาย ความสนใจของลูกค้าทุกคนถูกดึงดูดไปยังที่มาของเสียง อีธานวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะ คิ้วของเขาเริ่มขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจ ดวงตาสีน้ำเงินครามของเขาจ้องไปยังจุดที่เกิดความวุ่นวาย ภาพที่เขาเห็นทำให้ความไม่พอใจในใจทวีคูณ—ชายร่างสูงผู้หนึ่งกำลังจับแขนของชายร่างเล็กที่ดูเหมือนพนักงานของร้าน ร่างเล็กนั้นตัวสั่นเทาด้วยความกลัว สายตาที่เขาใช้มองอัลฟ่าคนนั้นเต็มไปด้วยความอ้อนวอนและหวาดผวา เสียงหายใจหนักๆ ของชายร่างสูงบ่งบอกชัดเจนว่าเขาคืออัลฟ่า และพฤติกรรมของเขาก็ไร้ซึ่งความยับยั้งชั่งใจ ทุกคนในร้านเงียบกริบ สายตาทุกคู่จับจ้องสถานการณ์ที่คลี่คลายไม่ได้ตรงหน้า 

     

    "ได้โปรด...ปล่อย!" เสียงของโอเมก้าดังแผ่วเบา แต่แฝงไปด้วยความกลัว ร่างเล็กสั่นเทาด้วยความหวาดผวา ขณะที่เขาพยายามดึงแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมของอัลฟ่า แต่การดิ้นรนนั้นกลับทำให้มือของชายร่างสูงบีบแน่นขึ้น ส่งผลให้โอเมก้าผงะถอย ดวงตาอันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเบิกกว้าง "มาสิ" อัลฟ่ายิ้มบาง รอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความร้ายกาจและหื่นกาม "มากับฉันสักครู่...รับประกันได้ว่านายจะต้องมีความสุขแน่ๆ" คำพูดนั้นฟังดูนุ่มนวล แต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยการบีบบังคับ

     

    "ฉันกลัว...และฉันไม่อยากทำ!" โอเมก้าสั่นศีรษะ น้ำเสียงของเขาสั่นคลอนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือเสียงหัวเราะในลำคอของอัลฟ่าและแรงกระชากที่ทำให้ร่างเล็กเซไป ลูกค้าคนอื่นๆ ในร้านแค่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างนิ่งเฉย ดวงตาบางคู่มีความเห็นใจ แต่ไม่มีใครขยับตัวหรือทำอะไรเพื่อช่วยโอเมก้าผู้น่าสงสาร พวกเขาเพียงหลบสายตาและทำเป็นไม่เห็น ราวกับกำลังบอกตัวเองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของพวกเขา อีธานเหลือบมองรอบๆ และเขาเข้าใจได้ทันทีว่าคนอื่นๆ กำลังคิดอะไรอยู่ พวกเขาโทษโอเมก้าเองที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยอัลฟ่า พวกเขามองว่ามันคือ "ความผิด" ของเขาที่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

     

    มันโหดร้าย แต่โลกก็ยังคงหมุนไปในแบบที่มันเป็น อีธานวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ ดวงตาสีน้ำเงินครามของเขายังคงจับจ้องไปยังสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกลางร้าน เขาเฝ้าดูโอเมก้าร่างเล็กที่ยังคงสั่นเทา ขณะพนักงานอีกคนพยายามเข้ามาสงบเหตุการณ์ แต่ดูเหมือนว่าความพยายามนั้นไร้ผล อัลฟ่าผู้ก่อเหตุยังคงแสดงท่าทางก้าวร้าวอย่างไม่ลดละ อีธานเห็นทุกอย่างชัดเจน รวมถึงจังหวะที่อัลฟ่ายกมือขึ้นสูง เตรียมจะฟาดมันลงไปที่โอเมก้าที่ไม่มีทางป้องกันตัวเอง ใบหน้าของเขานิ่ง แต่ภายในใจเริ่มปะทุ ความอดทนของเขาเริ่มหมดลง ขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้นเพื่อเข้าไปแทรกแซง ทันใดนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นราวกับเงา  

     

    "ฉันแนะนำว่าอย่าวางมือบนโอเมก้าของฉันนะ คุณลูกค้า"

     

    เสียงนั้นหนักแน่นและแหลมคม ร่างเล็กของชายคนนั้นเข้ามาประจันหน้ากับอัลฟ่าในทันที มือข้างหนึ่งของเขาคว้าจับข้อมือที่ยกขึ้นของอัลฟ่าไว้แน่น ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายขยับแม้แต่น้อย อัลฟ่าเบิกตากว้างด้วยความตกใจจากการปรากฏตัวที่กะทันหัน ดวงตาของเขาไล่มองชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าคมสวยหวานและสายตาดุดันนั้นส่งสัญญาณเตือนชัดเจน ราวกับจะบอกว่าอย่าลองดีกับเขา หลังจากชั่วอึดใจที่เหมือนยาวนาน อัลฟ่าก็ปล่อยมือออกจากโอเมก้าร่างเล็ก เขาพยายามรักษาหน้าด้วยการดึงมือกลับและถอยออกไปเล็กน้อย แม้ท่าทางจะยังดูดื้อดึง แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรไปมากกว่านี้ 

     

    "คุณเป็นใครถึงมายุ่งเรื่องของฉัน! หลีกไป!" อัลฟ่าผมดำคำรามด้วยความโมโห พลางพยายามผลักชายผมสีเขียวมิ้นต์ที่ยืนขวางเขาอยู่ ทว่าความพยายามของเขากลับไร้ผล ชายคนนั้นไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย อีธานซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกล ยกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความสนใจ ชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นเบต้า แต่พฤติกรรมของเขากลับไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย "โปรดออกไปอย่างเงียบๆ" ชายผมสีเขียวมิ้นต์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายแต่หนักแน่น เขาโบกมือไปทางประตูโดยที่สายตายังคงจับจ้องอัลฟ่าผู้ก่อเรื่อง ดวงตาของเขาฉายแววความสงบ แต่กลับแฝงไปด้วยพลังที่อัลฟ่ารู้สึกกดดันอย่างน่าประหลาด 

     

    "คุณควรจะเป็นอัลฟ่าเพศที่ฉลาดที่สุดในบรรดาเพศอื่นๆ" เขาพูดต่อ น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นแต่เสียดแทง "แต่ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เข้าใจแม้แต่คำตอบง่ายๆ อย่างคำว่า ไม่" อัลฟ่าผมดำขมวดคิ้วแน่น ความโกรธของเขาเพิ่มขึ้นทุกวินาที แต่คำพูดที่ตามมาทำให้เขาชะงักไป "ฉันสงสัยจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลักษณะพิเศษเหล่านั้นของคุณ ความเฉลียวฉลาด ความยับยั้งชั่งใจ หรือบางทีคุณอาจไม่มีมันตั้งแต่แรก?" 

     

    คำพูดนั้นเหมือนคมมีดที่ฟาดฟันลงไปในความหยิ่งผยองของอัลฟ่า เขาอ้าปากจะเถียงกลับ แต่กลับพูดไม่ออกเพราะไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไรกับคำพูดที่ทั้งตรงไปตรงมาและเสียดแทงแบบนั้น อีธานพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาสีน้ำเงินครามจับจ้องเหตุการณ์ด้วยความสนใจ เขาประเมินชายผมสีเขียวมิ้นต์จากระยะไกล พลางคิดกับตัวเองว่า นี่เป็นเบต้าจริงๆ หรือ?  เพราะแม้แต่ในฐานะอัลฟ่าอย่างเขาเอง ยังรู้สึกถึงอำนาจบางอย่างในตัวชายคนนี้

     

    อัลฟ่าชายคนนั้นหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธหลังถูกชายผมสีเขียวมิ้นต์ดูหมิ่น เขาขบกรามแน่นและพูดเสียงต่ำ "อย่าบังคับให้ฉันใช้ความรุนแรงนะ เบต้าตัวน้อย" คำพูดนั้นเต็มไปด้วยการข่มขู่ ก่อนที่เขาจะยื่นมือออกไปคว้าแขนของโอเมก้าที่กำลังตัวสั่น ทว่าครั้งนี้ชายผมสีเขียวมิ้นต์ขยับตัวเข้ามาขวางอีกครั้ง สายตาของเขาคมกริบ และน้ำเสียงของเขาก็ฟังดูเย้ยหยัน "นี่คุณโง่จริงๆ ใช่มั้ย?" เขาพูดเรียบๆ แต่แฝงด้วยความเฉียบคม "ฉันบอกให้คุณออกไปซะ และหยุดรบกวนคนงานของเรา" อัลฟ่าหรี่ตาลง ความอดทนที่มีอยู่น้อยนิดเริ่มหมดลงอย่างรวดเร็ว "ทำไมคุณ!!" เขาตะคอกเสียงดัง ก่อนจะยกมือขึ้นฟาดหน้าเบต้าด้วยความรวดเร็ว 

     

    "เพียะ!"

     

    เสียงฝ่ามือที่ปะทะกับผิวดังก้องในความเงียบของร้าน ลูกค้าหลายคนหันมามองด้วยความตกใจ ขณะเดียวกัน อีธานที่เฝ้ามองสถานการณ์อยู่มาตลอดก็เบิกตากว้าง ดวงตาสีน้ำเงินครามเต็มไปด้วยความตกตะลึง โดยไม่ลังเล เขาลุกขึ้นจากที่นั่งทันที เก้าอี้เลื่อนไปด้านหลังด้วยเสียงครูดเบาๆ ความสูงของเขาทำให้เขาโดดเด่นเมื่อก้าวไปข้างหน้า ดวงตาจับจ้องไปที่อัลฟ่าชายผู้ก่อเหตุ สายตาของเขาเย็นชาและแฝงไปด้วยพลังที่ยากจะมองข้าม

     

    เบต้ายังคงยืนนิ่ง สายตาของเขาเยือกเย็นและไม่แสดงความหวั่นไหวใดๆ ขณะที่อัลฟ่าส่งยิ้มอย่างชัยชนะ ดวงตาของอัลฟ่าเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย ราวกับคิดว่าเขาได้เปรียบในสถานการณ์นี้แล้ว แต่เบต้าเพียงแค่เอียงศีรษะไปด้านข้างเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและลูบผมของตัวเองอย่างแผ่วเบา "คุณทำให้ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว" น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่ง แต่ฟังดูหนักแน่น จากนั้นเขาคว้าถาดที่อยู่ใกล้มือ และในพริบตา 

     

    "ปัง!" 

     

    ถาดกระแทกเข้ากับใบหน้าของอัลฟ่าด้วยเสียงดังสนั่น ทุกคนในร้านถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงกระทบที่ดังและชัดเจน อัลฟ่าผมดำเซถอยหลัง ก่อนจะล้มลงไปบนพื้น ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด มุมปากปรากฏรอยฟกช้ำที่เริ่มขึ้นเป็นสีแดงเข้ม "ออกไป" เบต้าพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ขณะที่ยืนอยู่เหนืออัลฟ่าที่นอนบนพื้น อัลฟ่าชายตะโกนลั่นด้วยความโกรธ "นี่แกปฏิบัติกับลูกค้าแบบนี้หรอวะ!? ฉันขอคุยกับเจ้าของร้านหน่อยสิ!" เขาพยายามยันตัวลุกขึ้นขณะที่ชี้นิ้วไปทางเบต้าผมสีเขียวมิ้นต์ 

     

    เบต้าผมสีเขียวมิ้นต์ไขว้แขนไว้ที่อก ท่าทางของเขายังคงสงบและเยือกเย็น สายตาคมกริบจ้องมองอัลฟ่าที่ล้มอยู่ตรงหน้า น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นแต่กดดัน "ฉันคือเจ้าของร้าน" อัลฟ่าชะงักไปครู่หนึ่ง สายตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อและความโกรธ เบต้ากลับโน้มตัวลงเล็กน้อย สายตาจับจ้องลงมาพร้อมกับคำพูดที่เด็ดขาด "เอาจริงๆ นะ ใช้สมองของคุณ ไม่ใช่ไอ้จ้อนของคุณ รีบออกไปซะ" 

     

    คำพูดนั้นทำให้อีธานซึ่งกำลังยืนดูอยู่ต้องผงะถอยหลังเล็กน้อย ความตรงไปตรงมาของเบต้าทำให้เขาประหลาดใจ ขณะเดียวกันใบหน้าของอัลฟ่าผมดำกลับเต็มไปด้วยความอับอายและความโกรธ เขาลุกขึ้นยืนอย่างไม่มั่นคง และเดินกระแทกเท้าออกไปจากร้านกาแฟ ก่อนออกจากร้าน เขาหันกลับมาชี้หน้าชายเบต้า "ฉันจะจำหน้าของคุณไว้นะ ไอ้เบต้า!!" เบต้าไม่ได้แสดงท่าทางตกใจหรือหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาเพียงยักไหล่ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย "ได้! คุณยังถ่ายรูปได้ด้วยนะ คุณลูกค้า!!" 

     

    เสียงหัวเราะเบาๆ จากลูกค้าคนหนึ่งดังขึ้น แต่เบต้าเพียงกลอกตาอย่างไม่ใส่ใจ เขาหันกลับมามองลูกค้าคนอื่นๆ ด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป รอยยิ้มสุภาพปรากฏบนใบหน้าของเขา ก่อนที่เขาจะโค้งคำนับเล็กน้อย "ฉันขอโทษที่รบกวนทุกคน หวังว่าคุณจะไม่ถือสากับเหตุการณ์นี้" บรรยากาศในร้านเริ่มกลับมาสงบอีกครั้ง แม้ว่าหลายคนจะยังคงมองชายเบต้าด้วยสายตาชื่นชมและประหลาดใจ อีธานเองก็อดไม่ได้ที่จะพิจารณาชายคนนี้อีกครั้ง ความสงบแต่เด็ดขาดของเขาไม่ใช่สิ่งที่พบเจอได้บ่อยในคนทั่วไป ยิ่งเป็นเบต้าด้วยแล้ว นี่ถือว่าไม่ธรรมดาเลย 

     

    "ไม่เป็นไร!" เสียงลูกค้าหลายคนดังขึ้นเกือบพร้อมกัน พวกเขาโบกมือและยิ้มให้เบต้าอย่างเป็นกันเอง ท่าทีของพวกเขาบ่งบอกถึงความผ่อนคลายและความเคารพต่อชายคนนี้ที่สามารถจัดการสถานการณ์ได้อย่างน่าประทับใจ เบต้าผมสีเขียวมิ้นต์เพียงยิ้มบางๆ ก่อนพยักหน้าเล็กน้อยให้ลูกค้าโดยรอบ ราวกับว่าคำขอโทษของเขาได้รับการตอบรับอย่างที่ควรจะเป็น เขาหมุนตัวกลับไปจัดการสิ่งที่เหลืออยู่ แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีเร่งรีบหรือกระวนกระวายใดๆ 

     

    อีธานซึ่งยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะถอนหายใจเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มบางที่มุมปาก "คนแบบนี้..." เขาคิดในใจ สายตาสีฟ้าครามเพ่งมองไปยังชายเบต้าอย่างสนใจ เขาเอนตัวพิงเก้าอี้ พลางเคาะนิ้วเบาๆ บนโต๊ะไม้ ราวกับพยายามประเมินอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเจ้าของร้านผู้ไม่ธรรมดาคนนี้ การจัดการเหตุการณ์แบบตรงไปตรงมาของเบต้าคนนั้น และท่าทางไม่หวาดกลัวต่ออัลฟ่า ทำให้อีธานรู้สึกทึ่ง เขาไม่ใช่เบต้าธรรมดาแน่นอน... อีธานคิดในขณะที่สายตาของเขายังไม่ละไปจากชายคนนั้น

     

    “ฉันพบสิ่งที่น่าสนใจซะแล้วสิ”

     

    *ดูเหมือนว่าจะมีคนเริ่มสนใจน้องเบต้าผมสีเขียวมิ้นต์ของเราแล้ว! อีธานจะทำอย่างไรต่อไป? และความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะเริ่มต้นอย่างไร? รอติดตามในตอนต่อไปได้เลยค่ะ!* ??’?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×