ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sweet Father คุณพ่อมือใหม่ หวานใจนายกอดอุ่น[Yaoi][End]

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 9 เมื่อผมไปปิคนิค

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 59



                “นี่ชั้นช่วยแกเต็มที่ละนะ ถ้าแกไม่พยายามกว่านี้ มันก็จะเป็นเหมือนเดิมสิ” ปิ่นกระซิบผม ขณะที่ช่วยผมจัดแจงอาหารกลางวัน

                วันนี้วันเสาร์ ที่เราว่างตรงกัน ปิ่นเลยร่ำร้องที่จะมาวาดรูปที่สวนสาธารณะ ผมเลยพาเจ้าตัวเล็กมานั่งระบายสีนอกสถานที่

                “แกชวนเป๊ะมาเพราะแบบนี้เหรอ แกก็รู้ว่าชั้นชอบที่เป็นแบบนี้มากกว่า” ใช่ครับ เรามีสมาชิกเพิ่มเติมในทริปนี้

                “เอาน่า ชั้นรอวันที่แกกล้าพูดออกมาอยู่นะ” ปิ่นยังคะยั้นคะยอ

                “พี่ปิ่นครับ วิวตรงนี้สวยมาก ผมตั้งเฟรมวาดรูปตรงนี้เลยนะครับ” ตะวันที่มาร่วมทริปด้วย จัดแจงสถานที่ให้ปิ่นได้วาดรูป ตามคำสั่งยัยปิ่นน่ะครับ

                วันนี้ผมทำหน้าที่ฝ่ายเสบียง ตะวันฝ่ายอุปกรณ์ ยัยปิ่นมาวาดรูปเต็มตัว เจ้าตัวเล็กก็มานั่งระบายสี ส่วนเป๊ะ นั่นมาเดินเล่นหรือไง เห็นเดินไปเดินมาแหย่คนนู้นทีคนนี้ที

                “พ่อครับสวยมั้ย” เพชรที่ระบายสีสิงโตเสร็จ ยื่นรูปมาให้ดู ยัยปิ่นนำสีไม้ และสีน้ำมาจากที่บ้าน ส่วนรูปลายเส้นสำเร็จรูปนั้นตะวันเป็นฝ่ายเตรียมมาให้เด็กๆ

                “โห สวยมาก ไล่สีได้ดีเลยลูก” วันนี้เป็นวันของนางจริงๆ ยัยปิ่นสอนลูกผมระบายสีได้สวยแบบนี้เลยเหรอ ไล่สีหนักเบา ได้ดีเลย

                “ไหนๆมาให้น้าดูบ้าง โห สวยจริงๆด้วย” เป๊ะสายแทรก แทรกเข้ามาแซวได้ตลอด

                “เดี๋ยวเพชร จะระบายให้หมดป่าเลย”

                “เก่งมากลูก เอาเลยครับ”

                เจ้าเพชรนั้นนั่งระบายสีใกล้ๆผม ส่วนยัยพลอยน่ะเหรอ นู่น ติดครูตะวัน นู่น

                “ดิน มีไรกินบ้างอ่ะ หิวนิดๆละ” เป๊ะถามขึ้นมา

                “เอาแซนวิชไปรองท้องก่อนละกัน”

                 “อร่อยจริงๆ แค่ขนมปังสอดไส้แฮมกับผัก” เป๊ะรับไปทาน พร้อมเอ่ยชม

                “ความอร่อยมันอยู่ที่มายองเนสตะหาก ทำเองเลยนะนี่”

                “เหรอ อยากกินไปตลอดชีวิต ต้องทำไงอ่ะ” เขินสิครับ ถามงี้จะตอบไง

                “ก็มาหาที่บ้านดิ ทำให้ตลอดอยู่ละ” ผมตอบแบบขอไปที

                แล้วเป๊ะ ก็เดินไปแซวคนอื่นต่อ มาทำไมเนี่ย มาทำให้เขินตลอด ผมเลยเดินไปดูเจ้าพลอยบ้าง กำลังง่วนอยู่กับกระโปรงของเจ้าหญิงแน่เลย

                “ว้าว สวยจังเลย” ผมเอ่ยชมรูปของเจ้าพลอย

                “พ่อคะ พ่อคะ พลอยจะใส่ดอกไม้ตรงนี้ด้วย”

                “เอาเลยลูก สวยแน่นอน”

                “แล้วพี่ดินไม่จัดซักรูปเหรอครับ” ตะวันถามขึ้น

                “ไม่ล่ะ พี่ไม่ถนัด” ถ้าอันไหนผมไม่ถนัดนะ อย่าหวังจะได้เห็นฝีมือ อายครับ

                “แล้วของผมพอได้มั้ย” ตะวัน วาดภาพสีน้ำ วิวทะเลสาบ

                “อือ สวยดีนะ น่าจะขายได้เลย”

                “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับพี่ เดี๋ยวเอาไปประดับห้องพอละ”

                “ใกล้เที่ยงละ กินข้าวกันเถอะ พักก่อน” ผมเอ่ยชวน และไม่ลืมที่จะตะโกนเรียกยัยปิ่นที่แยกตัวออกไปวาดภาพคนเดียว เพราะต้องการสมาธิ

                เราทั้ง 6 คน นั่งล้อมโต๊ะอาหาร ที่ผมได้จัดเตรียมมาจากที่บ้าน วันนี้ผมจัดอาหารหนักท้อง เพราะดูท่าว่าจะใช้พลังงานเยอะ

                “ข้าวผัดอร่อยมากเลยครับ” ตะวันเอ่ยชมผม

    เมนูวันนี้เป็นข้าวผัดอเมริกัน สลัดไก่ทอด และพั้นผลไม้รวม

    “ดิน ทำอะไรก็อร่อยหมดเลยนะ ขนาดไข่ดาวยังอร่อย” เป๊ะแซว

    “ไข่ดาว โห ชั้นก็ทอดได้ป่ะ” ปิ่นโวยขึ้นมาบ้าง “จะชมก็มีขอบเขตบ้างนะยะ”

    เสียงหัวเราะมีมาเนืองๆตลอดการรับประทานอาหาร

    “แก ชั้นว่าน้องตะวันนี่ แปลกๆละนะ” ปิ่นถามขึ้น ขณะทุกคนแยกย้ายไปวาดรูปต่อ

    “แปลกยังไง” ผมสงสัย

    “ก็แอบมองแกตลอดเลยอ่ะ ชั้นเห็น” ผมสงสัยหนักขึ้นไปอีก

    “จริงดิ แกคิดไปเองป่ะ”

    “ไม่นะ แต่ อาจจะคิดไปเอง ชั้นอาจจะระแวงไปนะ” ปิ่นเริ่มสับสนในตัวเอง “แต่แกต้องไม่ลืมนะ เป้าหมายวันนี้คืออะไร” ยัยปิ่นยังไม่เลิกล้มเป้าหมายเดิม

    ตอนนี้ผมเริ่มเดินสำรวจรูปของทุกๆคน เจ้าเพชรระบายสีใกล้เต็มแผ่นแล้ว ใช้ได้เลยครับ ส่วนเจ้าพลอย เหลือแค่ฉากหลังนิดหน่อย ส่วนของตะวัน กำลังล้างพู่กันเก็บของละครับ ซึ่งวิวสีห้าของทะเลสาบตัดทิวต้นไม้สีเขียว สวยงามมากครับ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครสู้ภาพของยัยปิ่นได้ สมกับที่เป็นข้อดีที่สุดในชีวิตนาง

    “เป็นไงบ้างดิน แต่ละรูปสวยมั้ย” เป๊ะที่นั่งอยู่ที่โต๊ะถามขึ้น ตานี่มาเฉยๆจริงๆ เดินไปเดินมา นั่งมองวิวบ้าง

    “สวยนะ ของยัยปิ่นนี่ขายได้เลย แล้วยังไงเนี่ย เป๊ะ ไม่วาดบ้างล่ะ” ที่จริงเป๊ะก็มีฝีมือด้านนี้พอตัว

    “ไม่อ่ะ วันนี้ไม่อยากคิดอะไร อยากปล่อยตัวตามสบาย” พูดจบก็ถือกีต้าร์โปร่งขึ้นมา

    “จัดซักเพลงสิ อยากฟัง” ใช่ครับ ที่เด็ดที่สุดของเป๊ะ คือนิ้วและเสียง

    เสียงนิ้วสัมผัสสายกีต้าร์เริ่มดังขึ้น

    “ฉันก็ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่
    และก็ไม่รู้มาไกลแค่ไหน
    บนทางที่เราสองคนเดินผ่านไป

    รู้แค่ว่า ฉันนั้นไม่เคยบอก
    รู้แค่ว่า ฉันนั้นไม่เคยหลอก
    ความรู้สึกนั้นถ้าจะบอก
    ไม่รู้ต้องพูดตอนไหน

    ไม่รู้ว่าต้องคบกันไปกี่ปี
    ต้องมีเรื่องราวดีๆ มากมายเท่าไหร่
    ถึงจะควรพูดมันออกไป
    คำสั้นๆ คำเดียวนี้

    ไม่รู้ว่าเธอนั้นรออยู่ไหม
    หรือจะปล่อยไปให้เป็นอย่างนี้
    แต่คิดดูอีกทีเก็บไว้ก็ไม่ดี

    อาจจะพูดไม่ค่อยถูก พูดไม่ค่อยออก
    แต่จะบอกให้เธอได้ฟังเบื้องหลัง
    ทุกๆ อย่างที่เก็บอยู่ในหัวใจ…………………………

    รอยยิ้มของผมมันคลี่บาน ใช่ครับผมคงต้องยอมรับ ผมแอบรักเพื่อนของผมคนนี้มาเป็นสิบปี อะไรที่ทำให้ผมไม่เคยพูดคำว่า รัก ออกไป ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตลอดมาผม มักจะมีความอบอุ่นเกิดขึ้นในใจเสมอเมื่ออยู่กับเป๊ะ  และถ้าเป๊ะจะมีใครซักคน ผมก็คงจะยินดี และตัดใจได้ซะที

    กริ๊งๆ เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ในขณะที่ผมเสร็จสิ้นทุกภารกิจ เตรียมเข้านอน

    “แก ชั้นรู้ว่าแกเข้านอนเวลานี้ แต่ไม่มีเวลาได้เม้าเลย วันนี้คนเยอะ” ปิ่นโทรมา อาการตื่นเต้น

    “แล้วแกมีอะไร” ผมยังสงสัยกับอาการของปิ่น

    “อย่างที่เม้าไปตอนกลางวัน ชั้นไม่ได้คิดไปเองนะแก ตะวันมาถามชั้นว่า แกกับเป๊ะ เป็นอะไรกัน ตอนแรกชั้นก็จะบอกไปว่าเพื่อนสนิท แต่แก ตะวัน ทำหน้าจริงจังมากเลยแก แถมบอกว่า ให้บอกมาตรงๆ ชั้นก็เลยบอกไปว่า แกชอบเป๊ะ ไปเลย” ปิ่นเล่ารัวเป็นฉากๆ

    “เฮ้ย แกบอกงี้ได้ไง”

    “ชั้นว่า ตะวันชอบแก ที่บอกไปงี้ ตะวันจะได้ตัดใจจากแกไง อย่าลืมสิ ชั้นทีมเป๊ะ”

    T
    B

    หลังจากผมวางสายไป ผมยังใจเต้นไม่หาย นี่ผมตกอยู่ในวังวนรักสามเศร้ารึไง ไม่นะ แล้วผมจะเลือกใคร หรือ จะให้ผมคิดไปเองแบบนี้เรื่อยๆเหรอ ผมควรจะถามไปเลยดีมั้ย  และแล้ว ก็เป็นอีกคืนที่มีเรื่องกวนใจผม เฮ้อ อายุขนาดนี้ ไม่น่ามาเครียดเรื่องความรักเลย ควรจะเครียดเรื่องลูกเรื่องเงินดีกว่ามั้ย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×