คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 ยมทูตรูปยิ้ม REWRITE
*คนที่ยังไม่อ่านข้อมูลเบื้องต้นแนะนำให้ไปอ่านก่อนนะครับไม่งั้นจะไม่เข้าใจ*
ท้องฟ้ายามราตรีกาลช่างเงียบสงบหากแต่ว่ามีเสียงของการไล่ล่าบนตึกใจกลางเมืองแบบไม่ปล่อยระหวางชายชุดสีขาว ผมสีฟ้าน้ำทะเล ซึ่งเป็นคนของ WSD กับบุคคลนอกกฎหมาย ผมสีดำในกางเกงยีน กับเสื้อฮู้ดสีดำ พร้อม พน้ากากรูปยิ้มบนใบหน้า
"แกหยุดซะ!! เจ้าอาชญากร"
"..."
เจ้าหน้าที่ WSD ตะโกนสุดเสียงแต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับ มีเพียงความเงียบงัน ขณะที่วิ่งไล่กันอยู่จิตใจของเขาเริ่มเหนื่อยล่าลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ การมองเห็นเริ่มพร่ามัวก่อนที่สติเขาจะดับลงในเวลาต่อมา
ที่สมาพันธ์WSD
ปรากฏภาพชายหนุ่มผมสีฟ้าคนเดิมนอนบนเตียงคนไข้กับหญิงสาวผมสีชมพูนั่งดูอาการอยู่
" ขอโทษครับหัวหน้าผมทำ...พลาด..ทั้งที่เป็นภาระกิจแรกแท้ๆ" ชายผมฟ้ากล่าวด้วยสีหน้าหดหู่และเสียใจ
"การที่นายรอดได้นั้นมันก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้วหละ" ผู้หญิงผมสีชมพูกล่าวด้วยสีหน้าดีใจพร้อมน้ำตาที่เริ่มก่อตัว
" ทำไมต้องดีใจขนาดนั้นละครับผมแค่สลบในขณะไล่จับผู้ร้ายไปไม่ใช่หรือครับ"ผู้ชายมึนงงและสับสนเล็กน้อย
" นั้นสินะนายเพิ่งจะมาทำงานในแผนกนี้คงยังไม่ทราบเกี่ยวกับเจ้านั้น มันคือหนึ่งในอาชญากรที่ชั่วร้ายที่สุดและมีความต้องการตัวเป็นอันดับต้นๆของ WSD มันคือยมทูตเงียบสมายลี่ย์ พลังของมันยังไม่แน่ชัดเราไม่ทราบขอบเขตหรือข้อจำกัดของพลังของมัน... " เมื่อกล่าวถึงตรงนี้หญิงสาวมีท่าทีลำบากใจและสลดราวกลับว่าคำพูดนั้นช่างยากที่จะพูดคนที่ฟังอยู่
" แล้วมันน่าเกรงขามยังไงครั-"ชายหนุ่มกล่าวไม่ทันจบประโยคก็ถูกตัดหน้าด้วยคำตอบจากหัวหน้าของเขา
" พลังของมันอาจเป็นระดับ S ถึงจะเป็นข้อสันนิษฐานก็เถอะแต่ตามรายงานบอกว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ยุ่งกับมันมักจะเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ในตอนแรกสำนักงานคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญแต่เหตุการที่เกิดขึ้นนั้นมันบ่งชี้ไปที่จุดเดียวกันคือก่อนตายนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนพบกับสมายลี่ย์และนับตั้งแต่วินาที่แรกหลังจากที่พบกับเจ้านั้นเจ้าหน้าที่จะสลบอย่างไม่มีเหตุผลและตามมาด้วยอาการหัวใจล้มเหลวในทันทีหลังจากฟื้นแล้ว โดยรวมมีเจ้าหน้าที่เคยเจอมัน 32 คน แต่มีผู้รอดชีวิตเพียง 8 คนเท่านั้น ผู้ที่รอดชีวิตทั้งหมดล้วนเป็นสมาชิกใหม่ของสมาพันธ์และผู้รอดชีวิตทั้งหมดล้วนไม่ทราบถึงการมีตัวต้นของมันทำให้เราทราบว่าผู้ที่รอดชีวิตนั้นไม่เพราะโชคช่วยแต่เป็นสมายลี่ย์ไว้ชีวิตเสียมากกว่า"ผู้หญิงพูดด้วยสีหน้าเศร้าสลด
" พะ... พลังระดับS ที่ทั้งโลกมีครอบครองไม่ถึง10คนน่ะหรอครับ"
หญิงสาวพยักหน้าเป็นการตอบคำถามของชายหนุ่มแล้วพูดว่า
" ปัจจุบันตัวตนของสมายลี่ย์ยังคงเป็นความลับที่รู้เฉพาะคนในสมาพันธ์แต่จะถูกประกาศต่อสาธารณชนในไม่ช้าแล้วหละ"
" แบบนี้มันไม่ใช่ว่าเราจะทำให้ผู้คนหวาดกลัวให้เกินไปหรือครับ"
หญิงสาวเมื่อได้ยินดังนั้นก็ส่ายหน้า
"การที่เราเผยตัวตนของมันจะทำให้มันเคลื่อนไหวยากขึ้นเพราะความกลัวของประชาชนทำให้เกิดการสอดสองและระแวดระวัง"
" แต่ถ้ามันทำร้ายประชาชนล่ะ"ชายหนุ่มกล่าวด้วยความพะวง
" สมายลี่ย์หนะมีพฤติกรรมประหลาด นั้นคือมันชอบออกไปช่วยผู้คนจากผู้ก่อการร้ายด้วยความรุนแรงบ่อยๆและแน่นอนคนร้ายทุกคนตายด้วยอาการหัวใจล้มเหลวที่โรงพยาบาล ความน่าสนใจคือมันไม่เคยลงมือกับผู้บริสุทธิ์หรือคนที่ไม่รู้เรื่องเลย"
เมื่อได้ฟังคำพูดของหัวหน้าชายหนุ่มได้คิดสักพักและทำเสียงสั่นพูดว่า
" แบบนี้มันเหมือนกับกลุ่ม กุญแจโลกใต้ดิน เลยไม่ใช้หรอครับ"
" นี้นายรู้จักกุญแจโลกใต้ดินแต่ไม่รู้จักสมายลี่ย์เนี่ยนะ"
เมื่อหญิงสาวพูดจบก็มองหน้าชายหนุ่มอย่างเอียนๆ
" มีขอสงสัยเหมือนกันว่าสมายลี่ย์เป็นสมาชิกระดับสูงของกลุ่ม กุญแจโลกใต้ดิน เพราะการที่มันรู้ว่าใครเป็นสมาชิกใหม่ของWSJแปลว่ามันสามารถเจาะระบบความปลอดภัยของสมาพันธ์และเข้าถึงฐานข้อมูลหลักได้ ซึ้งคนธรรมดาไม่สามารถทำได้แน่นอนและการกระทำที่ประหลาดของสมายลี่ย์ที่ช่วยผู้คนทั้งที่ตนเป็นอาชญากรนั้นสอดคล้องกันกับเป้าหมายกุญแจโลกใต้ดินที่ช่วยผู้คนแบบไม่สนวิธีการ"
" แล้วข้อมูลเหล่านี้จะแพร่สู่สาธารณตอนไหนครับ"
" พรุ่งนี้"
ย้อนกลับไปที่ฉากไลล่าก่อนนี้(มุมมองของสมายลี่ย์)
ขณะที่ผมกำลังหนีการจับตัวของเจ้าหน้าที่อยู่นั่นเจ้านั้นก็ตะโกนออกมาว่า
" แกหยุดซะ!! เจ้าอาชญากร"
ไม่ไหวๆผมหนะอยู่พวกเดียวกับนายนะ ถึงเป็นแค่ผู้ผดุงความยุติธรรมจอมปลอมก็เถอะ แต่เรียกแบบนี้ก็เกินไปนะสงสัยคงต้องทำให้หลับไปซักพักใหญ่ละนะคิดเสร็จผมก็ใช้พลังทำให้ชายคนนั้นหลับไปและผมก็กลับถึงหอพักอย่างปลอดภัย
ใครจะคิดหละว่าหลังฉากของฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่คือเด็กมหาลัยปี 2 อายุ 21 รู้ถึงไหนอายถึงนั้นหลายคนไม่เข้าใจและเคยถามผมว่า
'ถ้าอยากเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมทำไม่เข้าร่วมกับ WSD'
ผมก็อย่ากจะตอบคนเหล่านั้นว่า
'ถ้าทำได้หนะผมทำนานแล้ว'
แต่ทางนั้นตั้งกฎว่าการจะเข้าหน่วยยุติความวุ้นวายได้ต้องมีพลังระดับ B ขึ้นไป ซึ่งพลังของผมอยู่ระดับ C พอดีหนะสิเสียใจ เลยต้องมาเป็นฮีโร่นอกกฎหมายนี้หละและพลังของผมนั้นก็คือพลังควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของฝ่ายตรงช้ามถึงจะมีข้อจำกัดว่าใช้ได้กับคน1คนต่อครั้งแล้วห้ามพูดกับเป้าหมายไม่งั้นจะหลุดจากการควบคุมก็ตาม แต่ว่ามันมีประโยชน์มาก
นี่ก็ดึกมากแล้วนอนดีกว่า
เช้าวันเสาร์ที่แสนสบายผมตื่นขึ้นมาจากห้วงความฝันในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือก็คือห่อพักนักศึกษานั้นเอง ผมทำอาหารเช้าแล้วดูข่าวตามกิจวัตรประจำวัน
'ขณะทั้งโลกได้เกิดความหวาดกลัวแก่ตัวตนของอาชญากร ฉายายมทูตเงียบ สมายลี่ย์นะคะ'
วายร้ายเต็มไปหมดเลยนะช่วงนี้เฮ่ออเหนื่อยใจ
'โดยอาชญกรคนนี้ได้ฆ่าชีวิตของคนในองค์กรWSDถึง24ชีวิตและผู้การร้ายมากกว่า600ชีวิต ช่างเป็นการกระทำที่เลือดเย็นทางการคาดว่าฆาตกรคนนี้เกี่ยวของกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกุญแจโลกใต้ดิน'
ใครมันกล้าทำถึงขนาดนั้นเลวจริงๆแบบนี้มันไม่ใช้คนแล้วเป็นได้แค่เดนมนุษย์เท่านั้นหละ
'และนี้คือภาพถ่ายทางอากาศที่ติดคนร้ายคะ'
ไหนขอดูหน้าไอเศษเดนมนุษย์นี้หน่อย
เมื่อผมมองไปที่ทีวีมือผมมันสั่นไปหมดเหงื่อไหลออกทั้งที่ไม่ร้อนนี้มันชุดออกปฏิบัติงานของผมแค่มองหน้ากากก็ชัดแล้ว
ความคิดเห็น