คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : CH.6? 「คนที่ภายนอกน่ากลัว ภายในมักอ่อนไหวกว่าที่เห็น」
(นั่นเป็นบทความนึงที่ฉันอ่านจากหนังสือแนวจิตวิทยา จากบรรดาหนังสือของโมริซัง ไม่สิ ตอนนี้คงต้องเรียกบอส อย่างเต็มตัวของฉันแล้วเพราะตอนนี้ฉันคือสมาชิกของพอร์ทมาเฟีย)
ยูซุรุนั่งหมกมุ่นอยู่ในห้องทำงานของโมริโดยหลังจากที่เธอนั้นเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัว โมริได้มอบตำแหน่งรองผู้บริหาร ในสังกัดของชูยะเพื่อเป็นการให้ยูซุรุอยู่ในการรับผิดชอบของชูยะ แน่นอนว่าสาเหตุที่ให้ตำแหน่งสูงๆเอาไว้เพราะเผื่อเพิ่มอิสระให้กับยูซุรุตามที่ทั้งคู่ได้ตกลงไว้เพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้ทดลองเกี่ยกวับพลังของยูซุรุนั่นเอง
(นี่ก็ผ่านไปหลายวันแล้วหลังจากที่ถูกพาตัวไปทดลองเกี่ยวกับพลังพิเศษนั่น เริ่มรู้สึกว่าพลังของตัวเองเสถียรขึ้น จากที่แรกๆนั้นทำให้คุณทาจิฮาระเสียการควบคุมพลังของตัวเองไปหน่อย แต่คงเพราะตัวเขาเองก็แข็งแกร่งกว่า ผู้ใช้พลังพิเศษที่เคยทำร้ายฉัน เลยทำให้กลับมาคุมพลังได้)
“โทโมเอะ ฉันอยากกินเค้กอ่ะ” เสียงเล็กของเอลิซ เรียกยูซุรุที่กำลังยืนเลือกหนังสืออย่างใจจดใจจ่อ
“เอ๋? พึ่งจะกินไปเมื่อวานเองนี่คะ เอลิซจังไม่เบื่อหรอ?”
“ไม่เบื่อหรอก แต่เบื่อแบบเบเกอรี่แล้ว อยากกินเค้กโฮมเมดฝีมือโทโมเอะบ้างนี่นา”
“แต่ว่าไม่มีวัตถุดิบเลยนะคะ”
“ถ้างั้นก็ออกไปซื้อสิครับ ผมอนุญาตให้ไปกับใครซักคนนะครับห้ามไปคนเดียว” โมริที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานเอ่ยขึ้นมาขณะที่สายตาของเขาก็ยังคงจดจ่ออยู่กับเอกสารที่ถูกวางไว้กองพะเนิน
.
.
.
.
“จะออกไปซื้อของทำเค้ก?? เอ่อจะว่ายังไงดีเนี่ย ตอนนี้ฉันยังไม่ว่างน่ะสิ ชวนคนอื่นไปแทนได้มั้ย?” ชูยะเอ่ยขณะที่เขากำลังวุ่นวายกับเหล่าลูกน้องของตัวเอง
“เอลิซจังดันอยากกินเค้กฝีมือฉันเนี่ยสิ ทำยังไงดีล่ะเนี่ยดูเหมือนทุกคนจะไม่ว่างเลยน่ะค่ะ”
ทันใดนั้นเองก็มีชายคนนึงซึ่งเดินผ่านหลังยูซุรุไป
“นั่นไง ลากเจ้าหมอนั่นไปก็แล้วกัน เฮ้ย! อาคุตางาว่า!” ชูยะตะโกนเรียกชายที่เดินผ่านหลังยูซุรุไป จนเจ้าตัวถึงกับหยุดชะงักด้วยสีหน้าไม่พอใจ
(อึ๋ย! โกรธแน่ๆ กำลังอารมณ์ไม่ดีรึเปล่านะ?)
“มีอะไรครับ ชูยะซัง?”
“ไปซื้อของกับโทโมเอะทีสิ”
(ห้ะ?)
อาคุตางาว่า ยืนนิ่งไม่ตอบอะไร ราวกลับกำลังสงสัยว่า ‘หัวหน้าของเรากำลังสั่งทำบ้าอะไรกันเนี่ย’ อยู่ในใจ
“ได้ครับ” แต่ซักพักเจ้าตัวก็ตอบกลับ
“ถ้านายไม่สะดวกใจล่ะก็ให้ฉันเรียกคนอื่นไปกับยัยนั่นก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไปได้”
กิน ซึ่งเป็นน้องสาวของริวโนสุเกะ (อาคุตางาว่า) เดินมากระซิบหูยูซุรุ
“ถึงพี่จะทำเหมือนไม่พอใจแต่จริงๆพี่เขาแค่อยากจะสนิทกับท่านยูซุรุน่ะค่ะ”
ยูซุรุหันไปมองอาคุตางาว่าแล้วก็พบเขาที่กำลังจ้องมาอย่างไม่ละสายตา แถมยังส่งสายตาราวกับว่า ‘อย่าขัดขื่นแล้วรีบตามมาซะ’ แบบนั้นเลยทีเดียว และเขาก็เดินนำไปโดยไม่รอยูซุรุซักนิดเดียว
“ถ้างั้นฉันกับอาคุตางาว่าซังจะไปซื้อของก็แล้วกันค่ะ ไปก่อนนะคะ” ยูซุรุรีบรุดตามอาคุตางาว่าที่ทำท่าจะเดินหนีแต่กลับเดินและเว้นระยะเพื่อไม่ให้ยูซุรุหลุดจากสายตาไปเท่านั้น
“จะไหวมั้ยนะหมอนั่น…” ชูยะบ่นพึมพำ
“รุ่นพี่อาคุตางาว่ากับยูซุรุเนี่ยนะหวังว่าพลังวิเศษของยัยนั่นจะไม่ทำให้เขาคลั่งหรอกนะ”
“สิ่งที่ทำให้อาคุตางาว่าคุงคลั่งน่ะคงจะไม่ใช่พลังพิเศษของยัยหนูหรอกนะ”
“รุ่นพี่อาคุตางาว่าไปกับผู้หญิงคนนั้นสองต่อสอง!!! มันต้องเป็นแผนของเธอแน่ๆ” ฮิงุจิพึมพำไม่หยุดสร้างความเหนื่อยใจให้กับสมาชิกคนอื่นๆ
“ถ้าจะมัวมาบ่นพึมพำ ก็ไปทำงานสิเว้ยแล้วจะตามไปก็ตาม! ฉันก็มีธุระที่ต้องรีบไปเหมือนกัน!!!” ชูยะโวยวายจนคนอื่นๆขยับมือทำงานต่ออย่างไว
(ชิ ใครจะบอกล่ะว่าเป็นห่วงยัยนั่นน่ะ ไปกับอาคุตางาว่าที่ทักษะพูดเป็นศูนย์แบบนั้น แต่ว่าโทโมเอะคงจะรับมือได้ล่ะมั้ง….ก็อาคุตางาว่าแพ้คนแบบหล่อนนี่เนอะ)
.
.
.
.
.
ในย่านการค้ากลางเมือง โยโกฮาม่า ผู้คนเดินพลุ่กพล่านเต็มไปหมดแม้จะเป็นย่านที่ขึ้นชื่อว่าเกิดเหตุอาชญากรรมเยอะมากก็ตามแต่มันเป็นเมืองท่าเรือที่จะมีสิ่งของต่างๆมากมายถูกนำมาวางขาย ณ ย่านการค้าแสนรุ่งเรือง
“เอลิซจังจะชอบแบบไหนกันนะ?" ยูซุรุยืนเลือกอุปกรณ์ทำเบเกอรี่อย่างเพลิดเพลิน
“โอ๊ะ คุณลูกค้ากำลังตามหาอะไร อึ๋ย!?”
“ฮืมมมมมมมมมมมมมม”
พนักงานประจำร้านถึงกับหน้าซีดและสตั้นไปเพราะข้างยูซุรุนั้นมีอาคุตางาว่าที่ยืนจ้องคนที่เข้ามาใกล้อย่างน่ากลัวแถมเจ้าตัวก็ดูไม่สบอารมณ์กับการเดินเข้าร้านเบเกอรี่แบบนี้
“อาคุตางาว่าซังถ้าไม่สงบใจรอข้างนอกร้านก็ได้นะคะ ฉันว่าทำแบบนั้นลูกค้าของร้านนี้เขาก็กลัวหนีไปกันหมดพอดี”
ไม่เพียงแต่พนักงานและเจ้าของร้านเท่านั้น ลูกค้าที่เดินอยู่ในร้านเองต่างพากันเดินตีออกห่างจากบริเวณที่ยูซุรุและอาคุตางาว่ายืนหรือขยับเดิน บ้างก็ยืนแข็งทื่อและมองอย่างระหวาดระแวง
“ถ้าไปรอข้างนอกร้านนี้สงสัยจะไม่มีลูกค้าเข้ากันพอดี แถมเธออาจจะหาโอกาสหนีจากหลังร้านแทนก็ได้”
(คนคนนี้คิดมากไปแล้วมั้ง….ก็บอกแล้วแท้ๆว่ายังไงก็ไม่หนีน่ะ ก็หนีไปไม่ได้อะไรขึ้นมาอยู่แล้ว จะให้หักหลังชูซังหรือโมริซังตอนนี้ก็…..)
“ถ้าจะประกบคู่อยู่ด้วยกันก็ช่วยเลิกจ้องหน้าคนอื่นแล้วแล้วค่ะ ทำหน้าแบบนั้นน่ะคนเขาก็คิดว่าไม่เป็นมิตรกันพอดี”
“แล้วทำไมกระผมต้องทำตัวเป็นมิตรด้วย ผมคือพอร์ทมาเฟีย กระผมไม่ต้องการมิตรบ้าบออะไรนั่นหรอก”
“เห้อ….” ยูซุรุถอนหายใจแม้จะเหนื่อยใจกับความไม่เป็นมิตรของอาคุตางาว่านัก
หลังจากทยอยเลือกของต่างๆเสร็จยูซุรุและอาคุตางาว่าก็เดินมาที่แคชเชียร์
(อ๊ะลืมคิดไปเลย…..เราจะถือของพวกนี้ไปยังไงกันเนี่ย มีกันอยู่แค่ 2 คน ต้องซื้อของอื่นอีกตั้งเยอะเลย….)
“อาคุตางาว่าซังคะ ฉันว่าเราอาจจะต้องส่งของพวกนี้ไปที่ฐานอีกที….”
“ไม่จำเป็น”
.
.
.
.
เสียงซุบซิบดังตลอดทางที่ยูซุรุเดินผ่าน มือของเธอนั้นไม่ได้ถือของอะไรเนี่ยนั่นก็เพราะว่า…
“นั่นมันอะไรกันน่ะ?”
“เสื้อ? ไม่สิ มายากล?”
“น่ากลัวยังไงก็ไม่รุ้แฮะ”
อาคุตางาว่าใช้พลังพิเศษ ‘ราโชมอน’ หิ้วข้าวของที่ซื้อมาจนแยกเป็นหัวของเหล่าสัตว์ประหลาด(?) คาบของเอาไว้ และเจ้าตัวก็เอามือของตนใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้ออย่างสบายใจ
(ปกติเขาทำอะไรโจ่งแจ้งแบบนี้เลยหรอ….)
"เอ่ออาคุตางาว่าซังคะ ใช้พลังให้คนปกติเห็นนี่มันออกจะ…..
“งั้นแกจะถือเอาเองมั้ย? ถ้าไม่ใช้ก็ถือไม่ได้”
(ขยันต่อปากต่อคำชะมัดเลย! แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ปริปากบ่นอะไรแล้วก็ทำทุกอย่างให้แถมยังไม่ยอมให้ถือของหนักๆด้วย)
“เป็นคนดีกว่าที่คิดไว้อีก….”
“พูดว่าอะไรนะ?” อาคุตางาว่าแสดงท่าทีไม่พอใจ
“แค่พูดกับตัวเองน่ะค่ะ ไม่มีอะไรหรอก ฮ่าๆ ๆ ๆ”
(เกือบจะไม่มีชีวิตรอดกลับไปทำขนมแล้วสิ)
ยูซุรุเดินกับอาคุตางาว่าอย่างเขินๆอายๆ (เพราะอีกฝ่ายดันทำตัวแปลกในที่โจ่งแจ้งจะไม่อายได้ยังไง)
เธอรีบพาอาคุตางาว่ามายังที่ซึ่งมีคนพลุ่กพล่านน้อยเช่นสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
(อ๊ะ….ที่นี่….เราเจออาคุตางาว่าซังครั้งแรกแล้วก็….รัมโปซัง…)
ยูซุรุหยุดชะงักลงเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ซึ่ง เธอนั้นได้พบกับอาคุตางาว่าครั้งแรก และรัมโปถูกทำร้ายเนื่องจากขัดขวางอาคุตางาว่าที่มาพาตัวเธอไป เพราะอ่อนแอเธอจึงทำให้สมาชิกคนสำคัญบาดเจ็บและยังช่วยอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แถมสุดท้ายก็ยังเลือกที่จะอยู่กับพอร์ทมาเฟียอีก
“คิดอะไรไม่เข้าท่า เลิกทำหน้าแบบนั้นแล้วกินนี่ไปซะ”
“เอ๋?”
อาคุตางาว่ายื่นเครปซึ่งเขาคงอาศัยช่วงที่ยูซุรุกำลังยืนนึกถึงอดีตและซื้อมาจากรถขายข้างๆ
“เรื่องในอดีตก็คืออดีต ยังไงก็แก้ไขมันไม่ได้ มีแต่ต้องทำปัจจุบันให้ดีกว่าเดิม”
“จะบอกว่าเรื่องที่คุณทำมันแก้ไขไม่ได้เลยอย่างงั้นหรอคะ” ยูซุรุแสดงท่าทีไม่พอใจ เพราะในเหตุการณ์นั้นอาคุตางาว่าดำเนินการโดยที่ไม่สนใจความรู้สึกของยูซุรุ เธอจึงไม่พอใจอย่างมากเมื่อเจ้าตัวพูดราวกับให้ตัวเธอลืมมันไป
“กระผมหมายถึง……เลิกทำหน้าแบบนั้นแล้วก็ร่าเริงซะต่างหาก” อาคุตางาว่าพูดเสียงเบาลง แต่นั่นก็ทำให้ยูซุรุเบิกตาโพลง
(นี่เขากำลังให้กำลังใจเราหรอกหรอ?)
“ยิ้มอะไรของแก”
“เปล่าค่ะ” ยูซุรุรับเครปมาและบรรจงกินมันด้วยอมยิ้มที่ไม่อาจหุบลงได้
.
.
.
.
เมื่อเสร็จกิจทุกอย่างแล้วทั้งคู่ก็กลับมายังฐานพอร์ทมาเฟีย ทุกคนนั้นก็ยังคงวุ่นกับการทำงาน(?)อยู่เช่นเดิม
(พอกลับมาถึงที่นี่อาคุตางาว่าซังก็ปลีกตัวออกไปเลย ก็คงไม่อยากจะอยู่กับตัวอันตรายแบบเรานานล่ะนะ..)
ยูซุรุเลยเข้าห้องครัวของฐานและเริ่มทำขนมสำหรับเอลิซจัง
“อ๊ะ…..ลืมซื้อไม้พายกับหัวบีบมานี่นา……จะออกไปซื้ออีกทีดีมั้ยนะ….อ๊ะที่ร้านเสื้อเราก็มีนี่นากลับไปเอาที่นั่นก็แล้วกัน”
(ไม่อยากรบกวนอาคุตางาว่าซังเลย ถ้างั้นเราออกไปเองดีกว่าไม่นานนักทิ้งทรศไว้ที่นี่แล้ว ก็ทิ้งข้อความไว้ให้ชูซัง..โอเค! เดี๋ยวกลับมานะคะ)
ยูซุรุเดินออกมาจากสำนักงานและมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเพื่อไปยังร้านของตน
.
.
.
.
ยูซุรุออกมาจากร้านของตนซึ่งตอนนี้นั้นอยู่ในความดูแลของพอร์ทมาเฟีย โดยที่เธอนั้นก็ยังคงออกแบบเสื้อผ้าขณะอยู่ที่ฐานพอร์ทมาเฟียอยู่เรื่อยๆ
“คุณยูซุรุสำหรับสินค้าใหม่จะมีมาสต๊อกเพิ่มอีกในสัปดาห์หน้านะครับ”
“งั้นหรอคะ”
“แต่ว่าทำไมถึงออกมาคนเดียวได้ล่ะครับ ยังไม่มีคำสั่งจากคุณชูยะหรือบอสเลยนี่….”
“อ…อ้อ! มากับอาคุตางาว่าซังน่ะค่ะ แต่ว่าเจ้าตัวไปที่อื่นอยู่เดี๋ยวฉันไปยังจุดนัดพบกับเขาอีกทีค่ะ แค่ออกมาเอาของด้วย ฮะๆๆ”
“ถ้างั้นก็เดินทางปลอดภัยนะครับ”
เหล่าพนักงาน(สมาชิกพอร์ทมาเฟีย)ที่ดูแลร้านสุดคึกคักนั้นโค้งส่งให้ยูซุรุ
“ดูไปดูมาคนเยอะกว่าตอนเราดูแลเองอีกนะเนี่ย สมแล้วล่ะที่เป็นพอร์ทมาเฟีย…..”
ยูซุรุเดินถือถุงอุปกรณ์และเดินไปตามทางกลับฐานพอร์ทมาเฟีย
“อ..อ๊ะ….”
ทันใดนั้นก็มีเสียงอุทานนึงหลุดออกมาตรงหน้าของเธอจึงทำให้เธอมองไปยังต้นเสียงนั้น
(คุนิคิดะซัง…….)
วันที่ยูซุรุประกาศว่าตนนั้นจะอยู่กับพอร์ทมาเฟีย คุนิคิดะและดาไซไม่ได้อยู่ในเหตุการ์ณดังกล่าวแต่ว่าตอนนี้เธอคิดว่าเขานั้นคงรู้สถานการณ์ของเธอแล้วแต่ก็คงไม่นึกว่ายูซุรุจะออกมาเดินกลางเมืองแบบนี้โดยไร้คนติดตาม
“ค…คือ….”
“ชั้นขอเวลาเธอหน่อยได้มั้ย? แถวนี้มีร้านอาหารอร่อยๆอยู่ ถ้าไม่ติดอะไร….”
.
.
.
.
ยูซุรุตอบรับคำขอของคุนิคิดะและตอนนี้เธอก็นั่งอยู่เงียบๆไม่เอ่ยปากพูดอะไร เช่นเดียวกันกับคุนิคิดะที่นั่งจ้องและมีท่าทีราวกลับทำตัวไม่ถูกเมื่อพบกับ (อดีต)คนร่วมงานที่ไม่นานมานี้เขาพึ่งจะสอนงานไป
“ที่นู่นอยู่สบายดีรึเปล่า?” คุนิคิดะเป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมา
“ก็สบายดีค่ะที่นั่นเขาไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับฉันเลยค่ะ ปฏิบัติเหมือนฉันเป็นสมาชิกคนนึงของพวกเขา….แถมยังให้ตำแหน่งสูงๆอย่างรองผู้บริหารด้วย….”
“แหม่ๆ ตำแหน่งใหญ่ดีจังเลยนะ เทียบกับสำนักงานเราไม่ติด”
“นั่นสินะคะ”
“…….”
(dead air อีกแล้ว…ทำไงดีล่ะ….)
“ช่วงนี้ที่สำนักงานเป็นยังไงบ้างหรอคะ? มีงานเยอะมั้ย?”
“ไม่มีอะไรเท่าไหร่หรอก ก็พวกพอร์ทมาเฟียไม่ได้สร้างปัญหาอะไร แต่ก็มีคดีให้วุ่นวายอยู่เหมือนเดิม”
คุนิคิดะกล่าวพร้อมจิบกาแฟ
“แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสบายดีหรอกนะ โดยเฉพาะรัมโปซังน่ะ”
ยูซุรุชะงักเมื่อได้ยินชื่อของชาย ที่จนท้ายที่สุดก็ไม่ได้คุยกันเลย
“จริงๆก็คงจะป่วยการเมืองนั่นแหละ ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกนะ”
(เราน่ะผิดเต็มๆเลยต่างหาก….)
ยูซูรุถึงกับสะดุ้งอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมาแตะที่มือของเธอ
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ มันทำให้ชั้นไม่สบายใจนะ”
(มือของคุนิคิดะซัง…..อบอุ่นราวกับแสงอาทิตย์ที่ทำให้จิตใจสงบลงอย่างน่าแปลกนักซะจริงๆ)
“อย่างน้อยพวกนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรเธอ ฉันก็สบายใจขึ้นมาแล้วล่ะ”
“แต่…คุนิคิดะซัง…..มาอยู่กับฉันแบบนี้มันจะดีหรอคะ?”
“ทำไมล่ะ? ฉันจะอยู่กับเธอแล้วมันมีปัญหาอะไรอย่างงั้นหรอ?”
“มันก็….ไม่ได้เป็นปัญหาของฉันหรอกค่ะ แต่ว่า….”
(ถ้าคุนิคิดะซังอยู่ด้วยก็จะเป็นอันตรายน่ะสิ….)
“หรือว่าเธอจะกลัวว่าพอร์ทมาเฟียจะจับตามองเราอยู่งั้นหรอ?”
จู่ๆคุนิคิดะก็เคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ยูซุรุอย่างไม่ทันตั้งตัวจนเธอหน้าแดงขึ้นมาเพราะความใกล้ของเสียงและใบหน้านั้น
“อ๊ะ ขอโทษทีเมื่อกี้มีพวกนั้นผ่านมาพอดีน่ะ”
เมื่อยูซุรุเหลือบมองไปจากข้างหลังของคุนิคิดะแล้วเธอก็เห็นลูกน้องของพอร์ทมาเฟียที่เหมือนกำลังตามหาคนอยู่อย่างวุ่นวาย
“ดูท่าจะวุ่นวายน่าดูเลยนะ แอบหนีออกมารึไง?"
“ไม่เชิงแบบนั้นหรอกค่ะ….ก็แค่ออกมาเอาของที่ร้าน….สุดท้ายก็คงจะคิดว่าหนีนั่นแหละค่ะ….คิดว่าจะไปแป๊บเดียวแต่ก็นานกว่าที่คิดไว้….”
“ขอโทษที่พาเธอมานะ…แต่ว่าฉันอยากจะคุยด้วยน่ะ ไม่งั้นก็รู้สึกคาใจน่ะ”
“ฉันแค่ไม่อยากสร้างปัญหาให้กับคนที่สำนักงานน่ะค่ะ…ถ้าฉันอยู่กับพอร์ทมาเฟียที่มีอิทธิพลมากกว่าคงทำให้ทุกคนปลอดภัยจากพวกโมริซังด้วย…..เพราะทำสัญญาไว้แล้วถ้าให้ความร่วมมือจะไม่แตะต้องพวกคุนิคิดะซัง”
“อย่างงี้นี่เอง…..ฉันเชื่อนะว่าเธอทำอะไรซักอย่างได้แน่นอน เพราะงั้นฉันจะไม่บังคับเธอหรอกนะ”
“ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการฉันไม่รั้งไว้หรอก”
จู่ๆคำพูดของประธานฟุคุซาว่าก็ลอยขึ้นมาในหัวของยูซุรุ
“ สมแล้วจริงๆนะคะที่เป็นผู้นำของสำนักงาน”
“ห้ะ?” คุนิคิดะงุนงง
“ถึงเวลากลับแล้วล่ะคะ ไม่งั้นมันจะแย่กว่านี้ ฉันเองก็ไม่ได้หยิบโทรศัพท์มาด้วยคงจะตามตัวกันลำบากมากด้วย”
“อย่างน้อยให้ฉันได้ไปส่งเธอเถอะนะ”
…….
ไม่นานเท่าไหร่นักคุนิคิดะและยูซุรุเดินมายังทางเดินใกล้ท่าเรือซึ่งอยู่ห่างจากฐานพอร์ทมาเฟียไม่เท่าไหร่นัก
“อ่า…..ฉันคงมาส่งได้แค่นี้ล่ะนะ”
“ขอบคุณนะคะที่มาส่งถึงที่”
“หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะ”
“พูดกับศัตรูแบบนี้ได้ยังไงกันล่ะคะ”
“ฮะๆ นั่นสินะ….. !?”
ทันใดนั้นเองกระแสลมก็พัดเปลี่ยน เงาดำทมิฬของอะไรบางอย่าง ฟาดตรงไปที่คุนิคิดะ และปรากฏร่างของเจ้าของเงาดำนั้น
“อ อาคุตางาว่าซัง!?”
“แค่กๆ นี่แกเป็นคนพาตัวยัยนี่ไปสินะ”
“ไม่ค่ะ คุนิคิดะซังไม่ได้พาฉันหนีไปไหนค่ะ ฉันแค่ไปเอาอุปกรณ์มาจากร้านแล้วก็เจอ”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น กระผมจะตัดสินใจด้วยตัวเอง”
เมื่อยูซุรุถูกขัดอย่างไร้เหตุผล ในขณะที่อาคุตางาว่าจ้องโจมตีใส่คุนิคิดะต่อ เธอพุ่งเขาไปล็อคตัวอาคุตางาว่าจากข้างหลังเอาไว้ทันทีจนทำให้โจมตีพลาด
"ยูซุรุ!?'
“!? นี่ แก!”
“ฉันบอกว่าหยุดยังไงล่ะ!!! ฉันไปกับคุนิคิดะซังด้วยตัวเองต่างหาก แค่ไปคุยเรื่องสัญญาของฉันเท่านั้นค่ะ เขาอาสาพาฉันมาถึงนี่อย่างปลอดภัย รู้สึกขอบคุณกันซะบ้างสิคะ!!!” ยูซุรุโวยวายใส่
อาคุตางาว่าจนเจ้าตัวสตั้นงงไป
“คุนิคิดะซัง ไปเถอะค่ะ ก่อนที่ฉันจะรั้งเขาเอาไว้ไม่ได้”
“โชคดีนะ…ยูซุรุ” คุนิคิดะรีบเดินจากไปจากตรงนั้นทันทีแม้สีหน้าสุดท้ายที่ยูซุรุเห็นจะเป็นเขาที่สีหน้าทุกข์ราวกลับเสียดายที่ไม่อาจจะพาตัวเธอกลับไปอยู่กับสำนักงานได้ก็ตาม
“แกปล่อยให้มันหนีไปจนได้สินะ”
“เราไม่มีเหตุผลที่ทำแบบนั้นนี่คะ ในสัญญาก็บอกเอาไว้ว่าจะไปโจมตีกันไม่ใช่รึไงคะ”
“เอะอะอะไรก็สัญญา น่ารำคาญสิ้นดี”
“!?” จู่ๆยูซุรุก็ตัวเซโดนราโชมอนของอาคุตางาว่ารัดตัวไว้ แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บอย่างที่เคยเป็น
“หัดรู้ตัวซะบ้างว่าทำอะไรไม่คิด มันทำให้คนอื่นลำบากใจ”
(เอ๊ะ มันหมายความว่ายังไง??)
“ถ้าคิดจะออกไปไหนก็อย่าทำเหมือนตัวเองไม่มีใครแล้วเรียกใช้งานกระผมซะ แค่เรียกมันยากนักที่ไหนกัน”
“อาคุตางาว่าซัง….หรือว่า….เป็นห่วง…หรอคะ?”
“อึก ทำไมกระผมต้องเป็นห่วงแกด้วย เพราะหน้าที่ต่างหาก วันนี้กระผมทำหน้าที่ดูแลแกแต่แกกลับเลือกที่จะออกไปโดยไม่เรียกกระผมเนี่ยนะ”
“แล้วทำไมถึงเดินหนีทันทีที่มาถึงเลยล่ะคะ ทำแบบนั้นมันโหดร้ายเกินไปหน่อยรึเปล่า”
“จะไปรู้หรอ ก็แก….อาจจะเกลียดกระผมก็ได้นี่…ก็กระผมเคยทำร้ายเจ้าพวกคนของสำนักงานบ้านั่น…."
(นี่อย่าบอกนะว่าเขานึกว่าเรายังกลัวหรือเกลียดเขาอยู่!?…….)
เมื่อมองแผ่นหลังที่หันหลังให้กับยูซุรุเธอก็มองเห็นหูที่แดงระรื่นไม่รู้ว่าเพราะแสงแดดยามเย็นหรือว่าความร้อน
(เขาเป็นคนอ่อนไหวขนาดนั้นเลยหรอ…คนที่ไม่ฟังใครแบบเขาเนี่ยนะ…จะมาห่วงเราเรื่องพรรค์นั้น…)
“ฉัน ไม่ได้เกลียดอาคุตางาว่าซังเลยแม้แต่น้อยค่ะ” ยูซุรุตอบอย่างซื่อตรงด้วยเสียงหนักแน่น จนเจ้าตัวสะดุ้งและหันกลับมา
“แต่ว่าก่อนหน้านั้นก็แอบไม่ชอบขี้หน้าจนอยากใช้พลังทำให้บ้าคลั่งอยู่เหมือนกัน"
“เฮ้ย….”
“ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่อาคุตางาว่าซังก็ยังยอมรับฉันเป็นคนของฟอร์ทมาเฟีย แถมยังเป็นห่วงอีก”
“ใครเขาห่วงกัน…คิดเองเออเองจริงๆนะแกน่ะ”
“ เรียกแต่ ‘แก’กับ 'ยัย' อยู่นั่นแหละ เรียกชื่อเป็นมั้ยคะ”
“เห้อ….หนวกหู ไปได้แล้ว” อาคุตางาว่าเดินหันกลับไปยังฐานทัพของพอร์ทมาเฟีย
“ยูซุรุ”
“!?” ยูซุรุถึงกับอึ้งไปเมื่อเสียงแหบเข้มๆของชายคนนั้นเรียกชื่อของตนขึ้นมา แม้จะแผ่วเบาอต่มันกลับดังก้องเข้าไปถึงใจของเธอเลยทีเดียว
(ก็เรียกชื่อได้นี่นา)
ยูซุรุยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“มัวแต่ยืนเอ้อระเหยอยู่ได้ เดี๋ยวต้องไปรายงานบอสอีก ไหนจะทำขนมอีก”
“พูดแบบนี้แสดงว่าจะมาช่วยสินะคะ” ยูซุรุรีบรุดเดินตามเจ้าตัวไปซักไซร่แหย่เล่น
“ช่วยไม่ได้ วันนี้กระผมต้องคุมคุณเอาไว้จนกว่าจะเลิกงาน”
“เห……ขอบคุณค่ะ”
“หึ ประหลาดคน”
“หาเรื่องกันแบบนี้เดี๋ยวก็ใช้พลังกับอาคุตางาว่าซังเลยนะคะ!”
“ยังสั่งหรือควบคุมไม่ได้ ทำเป็นพูดโอ้อวด”
“เดี๋ยวก็ทำได้นั่นแหละค่ะ คอยดู!!”
ยูซุระต่อล้อต่อเถียงกับอาคุตางาว่าตลอดทางกลับ
(ซึ่งหลังจากที่ฉันกลับมาถึงนั้นชูซังก็วิ่งมาหาฉอดใส่ไม่ยั้งทันที คนอื่นๆเองก็เป็นห่วงที่หายไปไม่พกโทรศัพท์ ยิ่งโมริซังก็เป็นห่วงหนักกว่าเดิมจนโดนสั่งให้อยู่แค่ในฐานและเป็นหนูทดลองให้กับคาจิอิซังที่วิจัยเกี่ยวกับพลังของฉันในตอนนี้อยู่
เท่าที่ดู ที่นี่ก็ไม่ได้แย่เลยด้วยซ้ำ ถึงจะเคยเป็นศัตรูแต่กลับเป็นห่วงเราเสมือนสมาชิกคนสำคัญของพอร์ทมาเฟียโดยสมบูรณ์
ทำเอาคิดถึงทุกคนที่อยู่สำนักงานนักสืบเลย ตอนนี้พวกเขาเป็นยังไงกันบ้างนะ……)
CH.7? 「แม้จะข่มตาหลับก็ยังเห็นภาพเดิมๆซ้ำไปมา」
==================================================================
ไม่ได้หายไปไหนเลยนะคะ จริงจริ๊งงงงงงงงง หนีเสพด้อมไอดอลมาค่ะ เดี๋ยวงอกฟิคยูเมะใหม่อีกแน่นอน55555555555
สำหรับตอนนี้ใช้เวลานานพอตัว ตันๆไปบ้าง แต่ก็ได้เห็นด้านดีๆของอาคุตางาว่ากันแล้วเนอะ ตอนต่อไปคงเดาได้ว่าเกี่ยวกับใครเป็นหลักเนอะ ขอฝากตอนต่อๆไปด้วยนะคะ ขอฝากเรื่องอื่นๆด้วยเช่นกันค่ะ จะแต่งจนกว่าจะตาย ถ้าไม่ได้แต่งต่อจะฝากคนมาบอกค่ะ สั่งเสียรอไว้เลย ฮือ 555555
ความคิดเห็น