คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : You...
ตอนที่ 6 You....
จะรักนี้รักนั้นฤารักไหน
จะรักใครรักได้ใคร่จริงหรือ
จะรักมากรักน้อยตามล่ำลือ
มีด้วยหรือรักที่เลือกได้ด้วยเอง ?
เลือก....งั้นเหรอ?
ถ้าเราเลือกได้
ว่าหัวใจของใครต้องเป็นของใคร
โลกนี้คงจะสดใสและงดงามราวกับจิตภาพในนิยาย
แต่
ในความเป็นจริง เราไม่อาจบังคับหัวใจใครได้
ไม่เหมือนสั่งให้ยกมือยกแขนหรือยกขา
เพราะหัวใจนั้นอ่อนแอและเปราะบาง หากจับแรงๆก็จะแตกสลาย
หากบีบคั้นก็จะรู้สึกเจ็บปวดจนเกินรับไหว
ผิดด้วยหรือ?
หากจะรักคนที่เขาไม่รักเรา
ผิดไหม?
.หากไม่อาจเลือกได้ว่าใครจะเป็นที่รัก
ผิด
.? ที่ไม่อาจ"ตอบรับความรัก" ของคนที่ "ไม่ได้รัก"
แล้วจะโทษใครเล่า?
โทษเจ้าของร่างกายนี้ ที่สั่งหัวใจไม่ดีพอ
แต่จะทำได้อย่างไรในเมื่อไม่อาจบังคับหัวใจได้
โทษโชคชะตาที่ทำให้เราไม่ได้รักกัน
.แต่จะทำได้อย่างไร ในเมื่อโชคชะตาไม่มีผู้ใดกำหนด
โชคชะตาของเรา
เรากำหนดเอง
แล้วจะให้โทษอะไรเล่า?
ตัวต้นเหตุ อย่างนั้นหรือ?
.
ใช่
หัวใจยังไงละ
แล้วจะทำโทษมันยังไง?
ทำให้มันไม่รู้สึก
แต่ะทำได้อย่างไรในเมื่อทุกครั้งที่เห็นใบหน้าของคนคนนั้นมันเจ็บจี๊ดขึ้นมาตลอด
บีบคั้นให้เลิกรัก
ก็ไม่ได้
เพราะกลัวว่าหัวใจ
.จะแหลคามือ
คิม ยูชอนส่ายหน้าเบาๆกับบทกลอนไม่ได้เรื่องที่ตัวเองเคยแต่งไว้
มือหนากระชับเสื้อกันหนาวตัวบางที่รีบคว้าออกมา ทันทีที่ได้เบอร์ของแจจุงก็รีบโทรหาทันทีก่อนจะรีบชวนให้ออกมาพบ เพราะคิดว่าหากไปที่คฤหาสน์ยุนโฮคงจะไม่งาม
ไม่งาม?
นี่เขาใช้คำไม่ถูกอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย สงสัยอยู่ที่อเมริกานานไปหน่อย ลืมภาษาไปซะหมด
"อิ ทสึ มา เตะ โม มา โม ริ ตา อิ โย โบ คุ โน อุ เด โนะ นา คา เดะ
~" เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ยูชอนกระวีกระวาดหยิบโทรศัพท์เครื่องจิ๋วออกมาจากกระเป๋าก่อนจะรีบกดรับทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
"
." ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่ากำลังจะไปถึงที่นัดหมาย ร่างสูงเผลอยิ้มกับตัวเองน้อยๆก่อนจะตอบรับ
"อืม..รออยู่ที่เดิมนะ"
"
"
"ไม่ต้องรีบมากละ ระวังตัวด้วย"
"
."
"ฉันรอนายอยู่ตรงนี้นะ"
"
.."
"บาย"
โทรศัพท์ถูกเก็บลงกระเป๋าเช่นเดิมพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของผู้รับสาย
คำพูดของร่างเล็กที่แสนห่วงเมื่อหลายปีก่อนดังขึ้นมาในหัวสมองรอยยิ้มเลื่อนหลุดจากใบหน้าคม ก่อนจะนั่งลงข้างๆน้ำพุกลางแจ้ง แสงไฟสีส้มอ่อยส่องสว่างไปทั่วร่างสูงหลับตาพริ้มนึกถึงอดีตอีกครั้ง
"อย่าทิ้งฉันนะยูชอน..!
" แจจุงตะโกนก้อง
.
อย่าทิ้งฉันไว้เพียงลำพัง
อย่าให้ฉันต้องอยู่คนเดียว
"ฉันขอโทษแจจุง ขอโทษ" ยูชอนพึมพำพลางกระชับมือเล็กเอาไว้
.
ขอโทษที่ไม่ได้อยู่เคียงข้างนาย
"อย่าไปจากเกาหลีเลยนะ ฉันมีนายแค่คนเดียว!" แจจุงสะอื้นไห้ ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา..
อย่าทำให้ฉันเดียวดาย อย่าทิ้งฉันไปยูชอน
"ฉันก็มีแค่นายคนเดียวเหมือนกันแจจุง" ยูชอนตอบก่อนจะค่อยๆปล่อยมือ สองเท้ารีบพาตัวเองเดินออกห่างก่อนจะก้าวขึ้นรถทั้งๆที่ยังมอง เด็กชายแจจุงไม่วางตา
ใช่มีแค่นายคนเดียวเหมือนกัน
.แต่ช่างต่างกัน
"สัญญานะยูชอน!สัญญานะ! ว่านายจะกลับมา" แจจุงยังคงร้องไห้ ร่างเล็กสั่นไหวด้วยแรงสะอื้น
สัญญานะ เพราะฉันจะรอนาย..เพื่อนรัก
"ฉันสัญญาว่าฉันจะกลับมา!" เด็กชาย ยูชอนตะโกนตอบ ราวกับเป็นคำสัญญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
ใช่
เพราะฉันไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ หากหัวใจอยู่ไกลกับตัวเช่นนี้
หัวใจของฉันอยู่กับนายแจจุง
"ไม่มีใครเป็น เพื่อน คนสำคัญเท่านายเลยยูชอน ให้ตายสิฉันรักนายจัง!"
แจจุงตะโกนเมื่อประตูรถคันหรูปิดลง เด็กชายทรุดตัวลงสะอื้นน้อยๆ พร้อมกับโอบกอดร่างเล็กอีกร่างที่ร้องไห้ไม่ต่างกัน
"อย่าร้องไห้นะ อย่าร้องจุนซู"
ร่างบางปลอบน้องชายที่ร้องไห้ราวกับจะขาดใจ ดวงตากลมโตทอดมองไปยังรถคันสีดำที่วิ่งหายลับตาไป
เป็นการจากลาที่แสนเศร้าสำหรับเด็กอายุ 15 แต่ยูชอนจะทำอย่างไรได้ในเมื่อเป็นคำสั่งของบิดา
การขัดคำสั่งไม่ใช่เรื่องดี
นี่เป็นคำสอนที่เขาถูกสอนให้จดจำมาตั้งแต่ยังเด็ก
"ฮะฮะฮะ" ยูชอนหัวเราะน้อยๆเมื่อนึกถึงสภาพตัวเองในรถสีดำคันนั้น ได้ยินชัดเจนดีถึงประโยคสุดท้ายของแจจุง
~ไม่มีใครเป็น เพื่อน คนสำคัญเท่านายเลยยูชอน ให้ตายสิฉันรักนายจัง!~
ร่างสูงหยุดหัวเราะก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง
ไม่มีภาพอดีตมากวนให้รำคาญใจ
ไม่มีความทรงจำในวัยเด็กมาทำให้ขุ่นเคือง
แต่กลับมีความเจ็บปวดที่สุมอยู่ในอกตอนนี้ ราวกับจะระเบิดออกมา
สุดท้ายก็ได้แค่ เพื่อน คนสำคัญเหรอแจจุง?
ฉันรักนายงั้นเหรอ
งั้นเหรอแจจุง?
"ฉันก็รักนาย" ร่างสูงพึมพำในขณะที่ยังไม่ยอมลืมตา
ใช่
รักนาย
คำว่า รัก เหมือนกัน
แต่ต่างกัน
.
นายจะเข้าใจมันบ้างไหม
แจจุง
หมับ!
สัมผัสจากไออุ่นรอบดวงตาทำเอายูชอนเบิกตากว้างแต่สิ่งที่เห็นมีเพียงแค่ความมืด
และกลิ่นหอมๆของใครบางคนที่คุ้นเคย
"ทายสิใครเอ่ย" เสียงหวานดังขึ้นข้างๆหู รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก ยูชอนยิ้มจนแก้มแทบจะปริ
ทำไมจะไม่รู้ละ
เสียงอย่างนี้
สัมผัสอย่างนี้
.ทุกๆอย่างล้วนเจาะจงว่าต้องเป็นของคนคนนี้แค่คนเดียว
"แจจุง"
"ปี๊ป่อ!" ร่างบางส่งเสียงแหลมพลางคลายมือออกจากใบหน้ายูชอน ก่อนที่จะทันได้เอ่ยคำพูดไใดๆ
รู้สึกตัวอีกที แจจุงก็อยู่ในอ้อมกอดของยูชอนซะแล้ว
"ยูชอน!?" ร่างบางพูดเสียงดัง แต่ไม่ได้ขัดขืนอ้อมกอดนั้น ยอมรับว่าตอนนี้
อยากได้อ้อมกอดที่อบอุ่นเหมือนอ้อมกอดของใครบางคนเหลือเกิน
"อยู่นิ่งๆ" ร่างสูงเอ่ยเสียงเบา สองแขนกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น หวังว่าจะสัมผัสและมอบไออุ่นให้คนตรงหน้าได้มากอีกหน่อย
"เป็นอะไร?"
"นายนั่นแหละ
เป็นอะไรแจจุง?" ยูชอนถามเสียงเครียด ร่างสูงไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างที่เริ่มหันมามอง
แจจุงเบิกตากว้าง สองขาเรียวสั่นระริกจนแทบยืนไม่อยู่ มือบางกระชับเสื้อกันหนาวตัวบางของยูชอนให้แน่นขึ้นอีกหน่อย
"โฮ!!!!"
ก่อนจะปล่อยเสียงโฮดังลั่น ร่างสูงกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เมื่อรู้สึกถึงความเปียกชื้นบนไหล่
ร่างบางสั่นไหวด้วยแรงสะอื้น ยูชอนยกมือขึ้นลูบเรือนผมนิ่มแผ่วเบา
ทำไมจะไม่รู้สึก ถึงความเจ็บปวดในน้ำเสียงร่าเริงนั่น
ทำไมจะไม่รู้
ว่าแจจุงกำลังเจ็บปวด
เพราะยืนอยู่ตรงนี้มาตลอด
บอกแล้วไง
..ว่ารออยู่ตรงนี้ตลอด
"นายเป็นยังไงบ้าง?" ยูชอนถามพลางส่งกระป๋องน้ำโค้กอุ่นๆให้แจจุง ร่างบางยิ้มรับก่อนจะหยิบกระป๋องอย่างรวดเร็ว
"
ฉันสบายดี"
"จริงเหรอ?
นายกล้าโกหกฉันเหรอแจจุง?" ร่างสูงว่า พลางใช้สายตามองหน้าแจจุงดุๆ ร่างบางก้มหน้างุดก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด
"
.ฉันเจ็บปวดยูชอน"
"
.."
"ฉันเจ็บ" ร่างบางกล่าวก่อนจะกระดกน้ำโค้กลงคอ ทำท่าเหมือนเหม่อลอยทั้งๆที่ในใจนึกถึงใครบางคน
.
"ยกมือขึ้นสิแจจุง"
"เอ๋?" คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ยูชอนยิ้มน้อยๆก่อนจะก้มลงตรงหน้าร่างบางที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ไม้ในสวนสาธารณะ
"ยกมือขึ้น จับไว้แบบนี้" ร่างสูงว่าพลางจับมือเย็นเฉียบของแจจุงเอาไว้ สองมือหนากุมมือบอบบางเอาไว้เบาๆ แต่กลับรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
"ยูชอนหนาวเหรอ? ทำไมไม่ขึ้นมานั่งกับฉันละ?" ร่างเล็กถามพลางเอียงคอนิดๆเพื่อให้จะได้เห็นหน้ายูชอนชัดขึ้น เพราะมือของยูชอนและมือของตัวเองบดบังใบหน้าของยูชอนจนหมด
"จำได้มั้ยแจจุง ตอนนั้น
ตอนที่ฉันจะไปอเมริกาน่ะ"
"จำได้สิ ทำไมเหรอยูชอน?"
"ก่อนหน้านั้นนายเคยบอกว่าถ้าเมื่อไหร่ที่ฉันเจ็บ
นายก็จะเจ็บด้วย"
"อื้อ!" แจจุงพยักหน้ารับพลางทำหน้าตาจริงจัง ดวงตากลมโตมองลอดผ่านมือของตัวเอง
"
.." ยูชอนยังคงเงียบ
"นายมีเรื่องให้ต้องเจ็บปวดงั้นเหรอยูชอน?"
"ไม่ใช่ฉัน
แต่เป็นนาย"
"
." ร่างบางนิ่งไป ดวงตากลมโตปิดลงราวกับไม่อยากเห็นภาพของใครบางคนที่ซ้อนทับขึ้นมา แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็คงจะไม่ได้ผล..
ในเมื่อสิ่งที่ทำให้มองเห็น"เขา"ไม่ใช่ตา
แต่เป็นหัวใจ
"ฉันไม่รู้จะช่วยนายยังไงแจจุง
"
"ฉัน..ไม่เป็นไร" ร่างบางตอบทั้งๆที่ยังหลับตานิ่ง นึกแปลกใจน้อยๆว่ายูชอนช่างรู้จักเขาดีเหลือเกิน
"มือของฉันอุ่นใช่มั้ย?" ร่างสูงถามพลางกระชับมือให้แน่นอีกหน่อย
"
อุ่น มือของยูชอนอุ่น" แจจุงพยักหน้ารับ
"ฉันไม่เข้าใจนายแจจุง..ไม่ว่าจะทำยังไงฉันก็ไม่เข้าใจนาย" หยุดพูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ราวกับจะปลดปล่อยความรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจให้หายไปบ้าง "แต่ฉันอยู่ตรงนี้"
"
."
"ฉันยืนอยู่ข้างๆนาย ฉันอาจจะแบ่งเบาความรู้สึกเจ็บปวดของนายไม่ได้ แต่ฉันส่งความอบอุ่นผ่านไปให้นายได้"
"
.."
"จับมือฉันให้แน่นๆแจจุง
จับเอาไว้ มือนายจะได้อุ่นๆ ระบายมันออกมาพร้อมกับความเย็นในมือของนายนั่นแหละ"
"
.." ร่างบางพยักหน้าอีกสองสามที
"จับมือฉันให้แน่นๆแจจุง
.." ยูชอนยังคงพูดต่อไป
"ขอบคุณนะยูชอน" แจจุงกล่าวตอบ ดวงตาคู่สวยยังคงปิดนิ่ง แต่มือบางกลับเป็นฝ่ายกุมมือของยูชอนไว้แน่น
คิม ยูชอนยิ้มน้อยๆเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงบีบจากมือของแจจุง
เอาความอบอุ่นของฉันไป
แลกเปลี่ยนกับความหนาวเยือกเย็นในตัวของนายแจจุง
จับมือฉันเอาไว้แน่นๆ
.ไม่ต้องกลัว
.
จับเอาไว้ให้แน่น
.เพราะฉันจะไม่มีวันปล่อยมือจากนาย
ร่างสูงก้าวเท้าลงจากรถยนต์คันหรู ดวงตาคมกวาดมองไปรอบคฤหาสน์ของตัวเอง ก่อนจะรีบพาร่างกายอันอ่อนล้าเข้ามาในตัวคฤหาสน์ให้เร็วที่สุด
"ไปตามแจจุงมาทานข้าว" ยุนโฮเอ่ยเสียงเรียบกับสาวใช้ที่กรูกันเข้ามาช่วยถือของ
"
คุณแจจุงเธอออกไปข้างนอกคะ"
ยุนโฮเลิกคิ้ว ก่อนจะถามต่อไป
"ออกไปไหน?"
"ไม่ทราบคะ..ธ..เธอรีบร้อนออกไปเลยไม่ได้สั่งใครเอาไว้น่ะคะ"
สาวใช้ตอบตะกุกตะกัก รู้สึกกลัวเจ้านายตัวเองขึ้นมาจับใจ ใครๆก็รู้ว่าเวลาที่ยุนโฮโมโห
มันน่ากลัวขนาดไหน
ร่างสูงหมุนตัวกลับออกไปก่อนจะรีบขับรถออกจากคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
"ยูชอน นายต้องช่วยจุนซูให้ได้นะ"
"เอ๋?" ยูชอนเลิกคิ้วสูง แจจุงหัวเราะน้อยๆกับท่าทางนั่น ขณะนี้ทั้งสองคนกำลังยืนอยู่หน้าต้นคริสมาสขนาดมหึมาหน้าห้าง พร้อมกับไอติม
"นายคงจะคิดถึงจุนซูมากเลยใช่มั้ยละ ?" แจจุงว่าทั้งๆที่ยังคงหัวเราะ
"ทำไมฉันต้องคิดถึงจุนซู!?"
"ก็..ตอนที่นายจะไป จุนซูอุส่าห์ทำอาหารให้นายกินเลยน๊า เค้าถึงได้ออกมาส่งนายช้าเพราะมัวแต่ทำแผลที่มือถูกน้ำร้อนลวกอยู่น่ะสิ"
"?"
"นายไม่รู้เหรอยูชอน!?" แจจุงตะโกนเบาๆก่อนจะรีบเล่า
"จำได้มั้ยตอนนั้นที่นายจะไปอเมริกา ฉันน่ะเอาแต่ร้องไห้ ส่วนจุนซูก็ร้องนะ ร้องหนักกว่าฉันอีก แล้วก็บอกว่าจะไปทำอาหารให้นาย"
"อาหารมือนั้นฝีมือ
จุนซู?" ยูชอนว่าพลางนึกไปถึงชุดอาหารน่ารักๆที่หน้าตาไม่ค่อยดีแต่อร่อยที่สุดในชีวิตสำหรับเขา
"ช่าย ตั้งใจทำมาก โดนน้ำร้อนลวกก็ไม่ร้องซักแอะ แต่พอนายจะไปก็ร้องแทบเป็นแทบตาย" แจจุงเลียไอติมก่อนจะหลับตาลงเพราะความเย็นแผ่ซ่านในปาก
ในขณะที่ยูชอนยืนนิ่ง
"ฉันรู้มาตลอดยูชอน" จู่ๆน้ำเสียงที่ร่าเริงก็หายไป แจจุงกำไอติมไว้ในมือแน่นก่อนจะตั้งใจพูด
"รู้อะไร?"
"จุนซูน่ะ
รักนายมากนะ เพราะอย่างนั้นฉันถึงได้ดีใจที่นายกลับมา"
"หมายความว่ายังไง?"
"เจ้าชาย
.ไม่สิ
นาย
ต้องช่วยจุนซูนะ ทำให้จุนซูฟื้น"
"
ฉันไม่ใช่หมอนะแจจุง"
"แต่ฉันรู้ว่านายทำได้ยูชอน!" ร่างบางตะคอกลั่นก่อนจะปล่อยไอติมลงบนพื้น สองมือเรียวเขย่าตัวเพื่อนรักตรงหน้าแรงๆน้ำตาไหลพราก
"ฉันรู้ว่าใครจะช่วยจุนซูได้!..ฮึก
มีแต่นาย
นายเท่านั้น!..ฮึก"
ร่างบางสะอื้นไห้ ยูชอนจ้องแจจุงนิ่งก่อนจะคว้าเอาร่างบอบบางนั่นมาไว้ในอ้อมกอดอีกครั้งพลางลูบเรือนผมนิ่มเป้นการปลอบโยน
"อย่าร้องไห้นะ
ฉันจะช่วยจุนซู เพราะงั้นอย่าร้องนะแจจุง"
"ฮึก..มีแต่นายยูชอน
แค่นายคนเดียว" ร่างบางยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา
"แจจุง!!!!"
เสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดดังมาจากตรงร้านขายไอติมไม่ไกลนัก ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อมองเห้นว่าคนที่ตะโกนเรียกชื่อเขาดังซะจนตกใจรีบผละตัวออกมาจากอ้อมกอดของยูชอนนั้นเป็นใคร
"ยุนโฮ"
..............................................................................
[Redsun]
..........................................................Heart mind and Soul.................................
ความคิดเห็น