ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic TVXQ White lie [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #20 : I...Know

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.พ. 50


    White lie 14

    I...Know






    คุณรู้มั้ยว่าคนเราเกิดมาเพื่ออะไร?


    ใช้บาปให้หมด?


    หรือเพื่อรอเกิดใหม่?




    สำหรับใครบางคนอาจเป็นเช่นนั้น


    แต่ในมุมมองของอีกหลายคน…




    คนกลุ่มหนึ่ง…เกิดมาเพื่อ “รัก”


    ในขณะที่คนกลุ่มหนึ่ง…เกิดมาเพื่อ “ถูกรัก”




    และทั้งคู่เกิดมาเพื่อ “คู่กัน”


    …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..


    ลมหายใจเป่ารดมือหนา ช้าบ้างเร็วบ้าง สลับกันหลายครั้งหลายหน


    ร่างสูงจ้องมองบนถนนราบเรียบที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาวโพลน รู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านไปทั่ว


    อดคิดว่าตัวเองช่างโง่อย่างที่ใครหลายๆคนบอกจริงๆ รีบมากจนไม่ยอมรอไฟแดง ถึงกับทิ้งรถไว้กลางถนนแล้ววิ่งมา


    หัวใจเต้นระรัวจนรู้สึกเจ็บ


    ตอนนี้อยู่ไหน…?


    กำลังทำอะไรอยู่นะ…?


    ร้องเพลง…หรือว่าวาดรูป…?


    ไม่สิ…ไม่ใช่หรอก…เรื่องแบบนั้นแจจุงคงไม่ทำในตอนนี้


    ตอนนี้…แจจุงคงจะร้องไห้…


    เพราะนายแท้ๆยุนโฮ…


    บ้าบอจริงๆ…ฮัน ยุนโฮ


    ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………


    “ยุนโฮ! อย่าไปนะ…ฮือ แจจุงไม่ให้ยุนโฮไปนะ!” ชอง แจจุงในวัยเด็กกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดัง


    “อย่าร้องนะแจจุง ไม่ร้องนะคนดี” เด็กชาย ฮัน ยุนโฮโอบกอดร่างเล็กบนเตียงเอาไว้ก่อนจะปลอบเสียงสั่น  รู้สึกว่าตัวเองไม่เจียมตัวจริงๆ


    ปลอบคนอื่นให้หยุดร้อง…ทั้งๆที่ตัวเองก็กำลังจะร้องไห้อยู่แท้ๆ


    “ถ้ายุนโฮไปแจจุงจะไม่เจอยุนโฮอีกใช่มั้ย! โฮ!!!” ร่างเล็กบนเตียงยังคงสะอื้นไห้ ไม่ฟังคำปลอบต่างๆนาๆที่ยุนโฮพยายามจะพูดแม้แต่น้อย


    “อย่าพูดอย่างนั้นสิ เราต้องเจอกันอีกแน่ ยุนโฮไม่ทิ้งแจจุงหรอก”


    “ฮึก..ฮือ…จริงๆนะ ยุนโฮไม่ทำอย่างนั้นนะ!”


    “ไม่ทำสิ ยุนโฮสัญญาแล้วนะ เพราะงั้นหยุดร้องไห้ได้รึยังฮื้อ? ดูสิ หน้าแดงหมดแล้ว” พูดปลอบอีกครั้งพลางใช้มือของตัวเองเช็ดน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย


    “แต่…ฮึก…ถ้ายุนโฮไม่เจอแจจุงละ ถ้าแจจุงไม่ได้อยู่ที่นี่ละ ฮือ”


    ยังคงสะอื้นไม่หยุด ถึงแม้จะรู้สึกอบอุ้นที่ได้อยู่ในอ้อมกอดนี้เพียงใด แต่การจากลามันก็เจ็บปวดยิ่งกว่าแค่การกอดเอาไว้แล้วจะเยียวยาได้


    “ยุนโฮจะหาแจจุงเจอ” ยุนโฮพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจนคนในอ้อมกอดต้องเงยหน้าขึ้นมอง


    “ยุนโฮรู้ได้ยังไง?”


    “แจจุงเคยได้ยินเรื่องของคู่กันมั้ย?”


    “ของ…คู่กัน?” ดวงตากลมโตจ้องมองร่างสูงอย่างคาดคั้นคำตอบ


    “อืม ยุนโฮกับแจจุงเป็นของคู่กัน เพราะฉะนั้นไม่ว่ายังไงยุนโฮก็หาแจจุงเจอ”


    “…”


    “เพราะเราอยู่คู่กันไง^^ ยุนโฮอยู่คนเดียวไม่ได้หรอกนะ”


    “….”


    “ต่อให้มีแจจุงร้อยคนมายืนอยู่ตรงหน้า ยุนโฮก็บอกได้ว่าคนไหนคือแจจุง”


    “….”


    “ต่อให้แจจุงนอนจมกองหิมะ ยุนโฮก็จะหาแจจุงเจอ”


    “…จริงนะ” ถามอย่างไม่แน่ใจ ดวงตากลมโตจ้องมองร่างสูงอย่างคาดคั้น ยุนโฮหัวเราะเบาๆ


    “อื้อ”


    “ไม่..ไม่โกหกนะ?”


    “สัญญาด้วยชีวิตเลย” พูดพลางฉีกยิมกว้าง แจจุงรีบยิ้มตามก่อนจะเช็ดน้ำตาอย่างรวดเร็วพร้อมกับดิ้นคลุกคลักในอ้อมกอดอุ่นเล้กน้อย


    “จะปล่อยได้รึยังละ แจจุงจะไปช่วยยุนโฮจัดกระเป๋านะ”


    “เดี๋ยวสิ ยังคุยกันไม่จบเลย”


    “ยุนโฮไม่รีบไปเหรอ เดี๋ยวคุณพ่อรอนานนะ” พูดพลางดิ้นเบาๆอีกหน ทว่าคนกอดยังคงกอดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย


    ยุนโฮนั่งนิ่งพลางมองหน้าแจจุงด้วยใบหน้าเคร่งเครียดจนร่างบางจับความรู้สึกได้
    มือเรียวยกขึ้นเปะปะก่อนจะทาบลงบนแก้มนุ่มทั้งสองข้าง แจจุงจับแก้มยุนโฮไว้แน่นก่อนจะจ้องหน้าตอบ


    “มีอะไรไม่สบายใจเหรอยุนโฮ”


    “…จะรอใช่มั้ย”


    “เอ๋!?”


    “จะรอ…รอยุนโฮใช่มั้ย?”


    “อืม รอสิ รอยุนโฮอยู่แล้ว”


    “จ..จริงๆนะ”


    “อื้อ”


    “ไม่ผิดสัญญานะ”


    “ไม่ผิดแน่เลย! แจจุงรอยุนโฮ จริงๆนะ เชื่อสิ” คนตัวเล็กรีบพูดใหญ่เมื่อเห็นว่าสีหน้าเคร่งเครียดยังคงอยู่บนหน้าของร่างสูง ยุนโฮถอนหายใจเฮือกใหญ่ราวกับจะระบายความอัดอั้นทั้งหมดที่มี ก่อนจะกระซิบเบาๆ


    “…งั้นมาทำสัญญากันนะ”


    “?”


    “หลับตาลงสิ”


    “…หลับตาเหรอ?”


    “ใช่”


    “ยุนโฮจะไม่แอบวิ่งหนีไปใช่มั้ย” ถามเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง และเมื่อร่างสูงพยักหน้าหลายหนก็ยอมหลับตาลงแต่โดยดี


    ริมฝีปากหยักประทับลงบนกลีบปากอิ่มสีกุหลาบ


    เชื่องช้า…แล้วเนิ่นนาน


    อบอุ่นยิ่งกว่าถูกกอดเอาไว้…


    หวานล้นซะจน ซาบซ่านไปทั้งหัวใจ





    จูบเพื่อสัญญา…

    หมายถึงสัญญานี้จะคงอยู่ชั่วนิรันดร์


    …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..


    ร่างสูงหอบแห่กอยู่ตรงปากทางเข้าสวนสาธารณะกว้าง…ที่ที่เคยมาด้วยกันกับแจจุง


    ความรู้สึกนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำไม่จางหาย…


    สุขใจ….ที่ได้นั่งอยู่เคียงข้างกัน


    แม้ไม่ต้องจับมือ…แม้ไม่ต้องโอบกอด


    สัมผัส…และรับรู้ได้ด้วยหัวใจ


    …ว่ารัก…มากเพียงใด…




    ไม่ว่านายจะอยู่ที่ไหน ฉันจะหานายเจอ


    ไม่ว่าจะมีนายร้อยคนยืนอยู่ตรงหน้า ฉันก็จะบอกได้ว่านายเป็นใคร


    ต่อให้นายนอนจมอยู่ในกองหิมะ…ฉันก็จะหานายเจอ



    ดวงตาคมเบิกกว้าง ภาพที่เห็นตรงหน้าเหมือนขโมยลมหายใจออกไป…


    เรือนร่างบอบบางนอนอยู่บนพื้นหิมะสีขาวสะอาด งดงาม…ราวกับภาพวาด


    ความรู้สกเจ็บแน่นที่หน้าอกทวีความรุนแรงขึ้นจนต้องยกมือขึ้นบีบเบาๆ คำพูดทั้งหลายที่ตั้งใจจะพูดถูกกลืนลงลำคอที่แห้งผากจนหมดสิ้น


    คนที่เคยสัญญา…คนที่พูดได้เต็มปากว่า อยากขอโทษและดูแลไปตลอดชีวิต


    บัดนี้นอนนิ่งอยู่ตรงหน้า…




    แทบไร้ลมหายใจ…





    ต่อให้นายนอนจมอยู่ในกองหิมะ…ฉันก็จะหานายเจอ




    …….และฉันก็เจอ……





    หิมะขาวกระเด็นออกไปเป็นวงกว้างเมื่อร่างสูงถลาเข้าไปโอบกอดคนที่นอนอยู่อย่างรวดเร็ว


    “..แจ..จุ..ง” เอ่ยเรียกชื่อคนในอ้อมกอดด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้านและแหบพร่า
    มือหนาสั่นระริกยามแตะต้องผิวกายที่เย็นเฉียบ


    “แจ..จุง..”


    เรียกอีกครั้งทว่าคนในอ้อมกอดกลับยังไม่ลืมตาขึ้น


    “ฉันไม่…ชอบแบบนี้…”


    ริมฝีปากที่เคยแดงฉ่ำบัดนี้ขาวซีดจนน่าใจหาย ยุนโฮประคองร่างนั้นขึ้นแนบอก กอดเอาไว้แน่นเพื่อขับไล่ความเย็นทั้งหมด เพื่อมอบความอบอุ่นจากตัวเค้าให้แทน…


    “…ทำไมไม่ลืมตาละครับคนดี”


    ริมฝีปากหยักประทับลงบนหน้าผากเย็นเฉียบเบาๆอย่างอ่อนโยน เหมือนเป็นการปลุกให้ตื่นในยามเช้า


     ทว่าร่างในอ้อมกอดนี้ยังคงไม่ขยับเขยื้อน


    มือหนาคว้าโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะเร่งรีบกดเบอร์ด้วยมือที่สั่นระริก


    “บ้าเอ้ย!”


    ร่างสูงสบถลั่นเมื่อกดเบอร์ผิดหลายครั้ง แต่ในที่สุดก็กดถูกจนได้ รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากเล็กน้อย ยุนโฮแนบโทรศัพท์ลงกับหูของตัวเองอย่างรวดเร็ว


    “ชางมิน! ส่งรถพยาบาลมา!”


    แจ้งชื่อสถานที่และจุดประสงค์กับน้องชายด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าจนแทบฟังไม่รู้เรื่องก่อนจะตัดสายไป สองมือหนาโอบรอบตัวแจจุงเอาไว้ราวกับหวงแหน


    เมื่อเสียไป…ถึงได้รู้ว่ามีค่าแค่ไหน


    ริมฝีปากหยักประทับลงบนแก้มเนียนใสเบาๆ ด้วยหวังว่าคนในอ้อมกอดจะลุกมาโวยวายหรือทำหน้าแดงระเรื่อชวนมองให้เห็นอย่างเช่นเคย


    ทว่าคราวนี้..


    กลับไม่มีเสียงหวานๆที่โวยวายใส่เช่นเคย


    คนในอ้อมกอดหลับตาพริ้ม สงบนิ่ง…จนน่าใจหาย


    ยุนโฮเลื่อนใบหน้าลงมา ดวงตาคมจ้องมองริมฝีปากขาวซีด ก่อนจะประทับจุมพิตลงไป


    บางเบาและอบอุ่น…อ่อนโยนและนุ่มนวล


    มากที่สุดเท่าที่เคยทำมาในชีวิต





    ยุนโฮผละริมฝีปากออกจากร่างบาง มองหน้าคนในอ้อมกอดราวกับภาวนาให้ลืมตาขึ้นมาแม้ซักนิดก็ยังดี ร่างสูงหัวเราะกับตัวเองเบาๆ


    ช่างน่าตลก…


    นี่ราวกับว่าเขากำลังทำตัวเหมือนเจ้าชายที่ปลุกเจ้าหญิงให้ตื่นจากนิทรายังไงอย่างนั้น


    ฝ่ามือหนารั้งร่างในอ้อมกอดให้เข้ามาแนบชิดกายมากขึ้น ใบหน้าคมซบลงบนไหล่บางราวกับจะหาความอบอุ่น


     รู้สึกว่าลำคอตัวเองแห้งผาก ความรู้สึกเย็นที่ได้รับจากตัวแจจุงในตอนนี้


     ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองถูกลากลงไปในน้ำเย็นเฉียบ เปล่งเสียงไม่ได้ ทุกอย่างมันอัดอั้นไปหมด


     ความทรงจำในวัยเด็กแล่นริ้วจนทำเอารู้สึกปวดหัวไปด้วย รู้สึกทรมาน…


     ทรมาน…แบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน



     “...ขอโทษ...”


     ดวงตาคมเบิกกว้าง เมื่อได้ยินน้ำเสียงหวานแหบพร่าของใครบางคน


     ใครบางคน…ที่อยู่ในอ้อมกอดของเขามานานร่วม 10 นาที


     “แจจุง!!!!!!”


     ร่างสูงตะโกนก้อง ฝ่ามือหนารั้งไหล่บางให้ออกห่างจากตัวก่อนจะรีบมองหน้าคนที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะบ้าตอนนี้


     ริมฝีปากขาวซีดคลี่ยิ้มบางๆ


     รอยยิ้มที่สดใสและอ่อนโยน….รอยยิ้มที่ว่ากันว่าจะงดงามมากที่สุด


     ยามไร้ลมหายใจ…


     
     เหมือนกับภาพสโลว์หมุนคว้างอยู่ตรงนั้น ยุนโฮจ้องมองร่างของแจจุงที่ค่อยๆเอนลงซบบนไหล่ของตัวเอง ดวงตาคมยังคงค้างเบิกกว้างราวกับมองแจจุงอยู่ทั้งๆที่ เห็นเพียงอากาศและความว่างเปล่าตรงหน้า


     ราวกับทุกๆอย่างหยุดนิ่งอยู่กับที่


     นัตย์ตาคมสั่นสะท้าน มือหนาคว้าร่างบางที่วบอยู่บนอกขึ้นมากอดไว้แน่น


     ขอโทษเหรอ…?


     ขอโทษฉันทำไม…คนดี


     คนที่ควรจะขอโทษมันต้องเป็นคนนี้…คนคนนี้ที่ทำความผิดจนยากเกินจะให้อภัย


     ขอโทษ…ขอโทษ


     ขอโทษ…ได้โปรดยกโทษให้คนโง่ๆอย่าง ฮัน ยุนโฮ


     ขอโทษ…ขอโทษ…คนดีของยุนโฮ


     
     จะต้องพูดคำขอโทษซักกี่หมื่นคำ…ถึงจะสาสม




    น้ำตาหยดลงบนใบหน้าขาวนวล ก่อนจะร่วงหล่นลงบนพื้นหิมะขาวบริสุทธิ์

    อ้อมกอดที่เคยแข็งแรงบัดนี้กลับสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นของเจ้าของ

    หยดแล้ว…หยดเล่า

    ร่วงหล่นลงบนพื้นหิมะขาว…



    หยดแล้ว…หยดเล่า

    ทดแทนความเสียใจที่เอ่อล้นจนเกินกว่าจะพูดออกมาได้ในตอนนี้



    หยดแล้ว…หยดเล่า

    เหมือนเป็นการรอคอยอะไรบางอย่าง หรือใครซักคน ที่ตามหามาทั้งชีวิต…แต่กลับปล่อยให้หลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา



    หยดแล้ว…….หยดเล่า

    ราวกับจะบอกว่าน้ำตานี้จะไม่มีวันจางหายไป



    หยดแล้ว…..หยดเล่า

    …ราวกับจะขาดใจ…




    “ลื..ลืมตา…ฮึก…ลืมตานะครับ…คนดี” น้ำเสียงสั่นส้ทานและแหบพร่ากว่าครั้งไหนๆ
    เจ็บปวดมากกว่าที่เคยเสียน้ำตาจอมปลอมให้กับใครต่อใคร


    “ยุน..ยุนโฮมารับแล้ว…นะ..เรา….จะไปเท..เที่ยวทะเล…วะ…วาดรูป” อ้อมกอดสั่นไหวน้อยๆ เมื่อยุนโฮเขย่าวงแขนเบาๆราวกับจพกระตุ้นให้คนในอ้อมกอดรู้สึกตัวตื่นเสียที


    ใบหน้าคมเปียกปอนไปด้วยน้ำตา ไหลลงมาไม่ขาดสาย


    “เราจะ…ยิ้ม…แล้วก็…ร้องเพลง…ดี…ดีมั้ยแจจุง”


    ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบใบหน้านวลซีด ก่อนจะโอบกอดอีกครั้ง


    อยากปกป้องเอาไว้…ในอ้อมกอด…


    แม้ยามนาทีสุดท้าย…




    ริมฝีปากหยักประทับลงบนกลีบปากบาง ไม่ได้หวังจะให้คนในอ้อมกอดลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง


    เพราะรู้ดี…

    หากจูบเพื่อสัญญา

    หมายถึงสัญญานั้นจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์




    จูบเพื่อบอกว่ารักนี้…

    หมายถึงการจากลาตลอดกาล…

    …เช่นนั้นหรือ…





    ลืมตาตื่นได้แล้ว…เจ้าหญิง


    ลืมตาตื่นเสียที…


    เจ้าชายได้มอบจุมพิตที่เกิดจากรักแท้ให้แล้ว…


    ได้ยินคำอ้อนวอนของใครบางคนไหม…ชอง แจจุง


    ได้ยินเสียงกระซิบเพรียกจากสายลมไหน….ชอง แจจุง


    ได้ยินบ้างไหม….เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับจะขาดใจ


    ได้ยินไหม…คำภาวนาของทุกๆคน



    ลืมตาตื่นเสียทีสิ…เจ้าหญิง


    ……………………………………………………………………………………………………………………………………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×