คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Is true 100%
สำหรับคนที่อยากโหลดเพลงของ Eru จิ้มได้ที่นี่คะ^^
http://daumbgm.nefficient.co.kr/mgbdamu/A0903120/A090312000026401.wma
ตอนที่ 11 is
true
ว่ากันว่า เมื่อใดที่ฝนตก เมื่อนั้นหมายถึงการชำระจิตใจของมนุษย์ที่นับวันจะต่ำทรามลงให้ดีขึ้น
ว่ากันว่าเมื่อใดที่ฝนตก เมื่อนั้นหมายถึงการเริ่มต้นใหม่ที่สดใสและงดงาม
และเมื่อสายฝนจางหายไป
ฟ้าหลังฝนจะปรากฏขึ้น สดใสราวกับเป็นโลกใบใหม่ รุ้งกินน้ำจะทอดตัวยาวจากเมฆก้อนใหญ่บนท้องฟ้า ลงมาจรดผืนแผ่นดิน
หากแต่บัดนี้แจจุประจักษ์แล้วว่า
สายฝนที่นำมาซึ่งฟ้าหลังฝนอันสดใสนั้น
มันเป็นเพียงแค่จินตนาการ
เพราะหากมันเป็นเรื่องจริง
ทำไมหัวใจที่เต้นแผ่วเบาของตัวเองในตอนนี้ถึงได้เจ็บปวดราวกับจะขาดใจ
ภาพของยุนโฮที่กอดจุนซูไว้แน่น ราวกับกลัวว่าจุนซูจะละลายหายไปในอากาศพร้อมกับยูชอนที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นทำเอารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินขึ้นมาในทันใด
น่าขำ
เพิ่งรู้ตัวหรือไงชอง แจจุง นายมันเป็นส่วนเกินของที่นี่มาตั้งแต่ทีแรกแล้ว
"พี่แจจุง!"
ราวกับเพิ่งรับรู้ว่ามีชอง แจจุงยืนอยู่ตรงนี้ จุนซูค่อยๆเดินผละจากชายหนุ่มสองคนที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงเค้าไม่หยุด ก่อนจะกอดพี่ชายคนสวยตรงหน้า
ใบหน้าหวานแดงก่ำซบลงบนบ่าบอบบางของแจจุงก่อนจะปล่อยเสียงสะอื้นเหมือนเด็กๆ
ตอนนั้น
ตอนที่เจ็บหัวใจจนรู้สึกเหมือนมันจะหลุดออกมา
ตอนที่ร่างกายไม่รับรู้อะไรอีกแม้กระทั่งเสียงเรียกของพี่ยูชอน
คิดว่าจะต้องตายไปจริงๆซะแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่า เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็พบกับห้องสีครีมสะอาดสะอ้านคุ้นตา
อยากกอดพี่ชายเอาไว้ อยากปกป้องให้สมกับที่คิดถึง อยากให้อยู่ข้างๆในยามที่อ่อนแอเช่นนี้
"ผมคิดถึงพี่ ฮึก!"
สะอื้นเสียงดังหลายหนก่อนจะปล่อยโฮลงบนไหล่บางอีกรอบ แจจุงยิ้มน้อยๆ สองมือนิ่มยกขึ้นลูบเรือนผมสีทองสว่าง
"พี่ก็คิดถึงจุนซู" สองแขนเรียวยกขึ้นโอบรอบลำตัวของน้องชายก่อนจะกอดแน่น
แม้จะรู้สึกเจ็บปวดกับท่าทีของยุนโฮ แต่ก็ไม่โหดร้ายถึงขนาดจะไม่ดีใจกับการฟื้นของน้องชาย
ยังไงนายก็เป็นคนสำคัญที่สุดของพี่เสมอจุนซู
"พลั่ก!"
ยังไม่ทันที่จะได้กอดคอกันร้องไห้ให้หายคิดถึง เสียงวัตถุหนักล้มกระแทกพื้นก็ดังลั่น สองหนุ่มหน้าหวานผละออกจากกันโดยอัตโนมัติ ก่อนจะจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาตื่นตระหนก
ยุนโฮกับยูชอนกำลังแลกหมัดกันไม่ยั้ง ใบหน้าหล่อเหลาของทั้งคู่ที่รอบเลือด ยุนโฮใช้เท้าเสยเข้าไปเต็มคางของยูชอนทำเอาคนอย่าง คิม ยูชอนถึงกับหงายหลังล้มลงนอนบนพื้นไม่เป็นท่า แทนที่ยุนโฮจะหยุดเขากลับตามขึ้นคร่อมยูชอนเอาไว้ก่อนจะปล่อยหมัดรัวอย่างไม่ลืมหัวลืมตา
"พลั่ก!"
ยุนโฮกระเด็นล้มไปอีกทางเมื่อยูชอนเหวี่ยงเขาลงจากตัว ยูชอนไม่รอช้าที่จะตามขึ้นคร่อมและระดมหมัดใส่ยุนโฮเช่นเดียวกัน
"หยุดนะ!"
ร่างบางตะโกนลั่น ดวงตากลมโตมีแววตื่นตระหนกและหวาดกลัวแต่ถึงกระนั้นก็ยังฝืนใจพูดออกไป
ไม่มีปฏิกิริยาการตอบสนองของทั้งสองคน ยุนโฮและยูชอนยังคงแลกหมัดใส่กันโดยไม่สนใจใคร
"พี่ยูชอน พี่ยุนโฮ!" จุนซูตะโกนเรียกไหล่บางไหวด้วยแรงสะอื้นเพราะความหวาดกลัว
ไม่เคยคิดว่าการสู้กันของคนสองคนจะน่ากลัวได้ขนาดนี้
"ยุนโฮ..อย่า!..
อึ๊ก!" เสียงตะโกนห้ามกลายเป็นเสียงครางแผ่วเบาด้วยความเจ็บปวด เรือนร่างบอบบางล้มลงกระแทกกับพื้นพรมสีแดงสด ดวงตากลมโตพร่ามัวจนภาพที่มองเห็นเลือนลาง สองมือเรียวยกขึ้นกุมหน้าอกแน่น ลมหายใจดูเหมือนจะติดขัดไปชั่วขณะ
"แจจุง!/พี่แจจุง!" สามเสียงเรียกประสานดังขึ้นพร้อมกัน ในขณะที่ดวงตาพร่าเลือนกำลังจะปิดลง
สิ่งสุดท้ายที่เห็น คือใบหน้าที่สับสนและตกใจของฮัน ยุนโฮ
"ฉันกำลังมีความรักละยูชอน" ชอง แจจุงอายุ 10 ขวบกล่าวด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยแต่คิม ยูชอนกลับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
"นายกำลังบอกฉันว่ามีความรักเหรอแจจุง!?" ตะโกนถามเสียงดังพลางทรุดตัวนั่งลงข้างๆเพื่อนรัก
"ใช่" แจจุงพยักหน้าเร็วๆก่อนจะยิ้มเศร้าๆอีกครั้ง
"ตะ
แต่นายจะแน่ใจได้ยังไงว่านั่นคือความรักน่ะ!? เราเพิ่งอายุ10 ขวบนะแจจุง!" ยูชอนตะโกนลั่นแต่ถึงจะเอ่ยปากพูดเช่นนั้นตัวเขาเองกลับมีความลับที่ไม่สามารถจะบอกใครได้อยู่ข้อหนึ่ง
ความลับ..ที่เกี่ยวกับความรัก
"ฉันแน่ใจ" แจจุงพยักหน้าอีกครั้งก่อนจะยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นยูชอนทำหน้าเครียดเหมือนที่ชอบทำบ่อยๆ
"
.."
"ฉันรู้ว่านายอาจจะไม่เข้าใจมันยูชอน งั้นฉันจะอธิบายให้ฟังนะ"
"
อืม"
ดวงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้ามาเกือบเต็มดวง ฉายแสงอ่อนๆให้กับเด็กชายสองคนที่นั่งคุยกันอยู่ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่
บอกเล่า
เรื่องราวของความรัก
"ในเช้าวันหนึ่งที่ฉันลืมตาขึ้นยูชอน ฉันรู้สึกว่าวันนั้นทุกๆอย่างมันแปลกไป ฉันรู้สึกว่าเสียงนกร้องเพราะกว่าที่เคยฟัง เสียงเพลงฟังดูอ่อนหวานกว่าที่เคยได้ยิน เสียงสายลมดูนุ่มนวลและอบอุ่นกว่าที่เคยได้สัมผัส" หยุดพูดก่อนจะมองหน้าเพื่อนรักที่ตอนนี้ทำหน้าตาเหมือนอยากจะรู้ตอนต่อไปเต็มที่ ราวกับว่าเขากำลังเล่านิทาน แจจุงหัวเราะน้อยๆอย่างสบายใจ
"แล้วยังไงต่อเหรอ?" เป็นไปตามคาดเมื่อเด็กชายคิม ยูชอนถามต่ออย่างเร่งเร้า สองมือขาวจับชายเสื้อของแจจุงเอาไว้ก่อนจะเขย่าแรงๆ
"อืม เลิกเขย่าชายเสื้อฉันสิ" ดุด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนจะเล่าต่อเมื่อแรงสั่นจากชายเสื้อหยุดลงแล้ว "ฉันก็เลยมานั่งใต้ต้นไม้ต้นนี้ยูชอน..เพราะฉันรู้สึกว่าสิ่งผิดปกติทั้งหมดเริ่มต้นจากต้นไม้ต้นนี้"
"นายจะตัดมันเหรอ?"
"ไม่
ฉันไม่ทำอย่างนั้นนายก็รู้"
"แล้วนายทำยังไงละแจจุง?"
"พอฉันนั่งลง ฉันก็ค่อยๆหลับตา มันรู้สึกอบอุ่นมากเลยยูชอน รู้สึก..มากกว่าที่เคยรู้สึกได้ ฉันหลับตาอยู่นานก่อนจะลืมตาขึ้นแล้วก็ค่อยๆคิด"
"คิด?"
"ใช่..คิดว่าทำไม วันนี้ท้องฟ้าถึงได้สวยกว่าที่เคยเห็น คิดว่าทำไมสายลมถึงได้มีกลิ่นหอมหวานเหมือนกับขนมที่ฉันชอบ ฉันคิดอยู่นานมากจนตัวฉันเองยังคิดว่าคงจะหาคำตอบไม่ได้ แต่..ฉันก็หาคำตอบได้"
"แล้วนายได้คำตอบว่ายังไงเหรอ!?" ถามอย่างตื่นเต้น มือไม้จับชายเสื้อปกเสื้อคอเสื้อของแจจุงจนยุ่งไปหมด ยูชอนกำลังอยากรู้ตอนจบของนิทานเรื่องนี้เต็มที่
"ฉันไม่บอกนายหรอก เรื่องคำตอบน่ะ แต่เพราะคำตอบนั้นทำให้ฉันรู้ว่าฉันกำลังมีความรัก"
"นายรู้ได้ยังไง!? มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้นี่นา!"
"เพราะฉันรู้คำตอบแล้วไงละ ฉันถึงมั่นใจน่ะ!" แจจุงตะโกนก่อนจะลุกขึ้นยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นเพื่อนตัวสูงทำหน้ามุ่ย
"ทำไมนายไม่บอกคำตอบนั้นให้ฉันบ้างละ! บางทีฉันอาจจะมีความรักเหมือนนายก็ได้นะ"
"เพราะคนเราคิดไม่เหมือนกันยูชอน คำตอบของความรักก็ไม่เหมือนกัน บางทีอาจจะไม่ใช่ด้วยซ้ำ"
"แล้วนายรู้ได้ยังไงละแจจุงว่าคำตอบของนายคือความรัก"
"เพราะมันเป็นคำตอบของฉันคนเดียวยูชอน"
"เอ๋?"
"ฉันรู้ว่ามันใช่ เพราะฉันรู้คำตอบที่เป็นของฉันแค่คนเดียว"
"คำตอบ ที่เป็นของนายคนเดียวเหรอ?"
"ใช่ กลับบ้านกันเถอะอยู่ชอน ฉันรู้ว่านายยังไม่ได้จัดประเป๋าเลยนะ" พูดพลางส่งรอยยิ้มสดใสไปให้
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ยูชอนจะอยู่เกาหลี
หลังจากวันนี้ยูชอนจะไปอยู่ที่อเมริกา โดยไม่มีกำหนดกลับ
อยากให้ต้นไม้นี้เป็นสถานที่แห่งความทรงจำอันล้ำค่าของกันและกัน
จะมีใครรู้บ้างมั้ยนะว่า
ที่ที่ความรักของใครบางคนเริ่มต้นขึ้น ณ ต้นไม้แห่งนี้
ความรักของใครอีกคนก็กำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบเช่นกัน
ยูชอนไล้มือบนใบหน้าเนียนใสที่บัดนี้ดูซีดเซียว ริมฝีปากบางขาวซีดจนน่ากลัว
ร่างสูงชักมือกลับอย่างรวดเร็ว เมื่อคนบนเตียงเริ่มรู้สึกตัว เปลือกตาบางขยับน้อยๆก่อนจะกลายเป็นลืมตาขึ้นในที่สุด
"
ยูชอน?" ริมฝีปากซีดขยับเล็กน้อยเอ่ยเรียกชื่อเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูผิดหวัง
"นายเป็นยังไงบ้าง" ยูชอนรีบถามก่อนจะประคองแจจุงที่พยายามจะลุกขึ้นด้วยตัวเองให้นั่งลงบนเตียง
"
ฉันรู้สึกมึนหน่อยๆน่ะ"
"นายเป็นอะไรกันแน่แจจุง" ถามเสียงเข้มพลางมองร่างบางที่ทำหน้าเครียดกัดริมฝีปากอยู่บนเตียง
"
ฉันไม่ได้กินข้าวน่ะ เลยเป็นลม อย่าห่วงเลยยูชอน" ตอบพลางรีบส่งยิ้มหวานให้
"ยังจะโกหกอีกเหรอ!!!?" ยูชอนตะโกนดังลั่นก่อนจะรวบตัวคนบอบบางบนเตียงมาไว้ในอ้อมกอด สองขาของแจจุงงอพับอยู่บนเตียงในขณะที่ยูชอนยืนชิดปลายเตียงเพื่อเพื่มแรงกอดให้มากขึ้น จนคนในอ้อมกอดรู้สึกอึดอัด
"ยะ..ยูชอน ฉันเจ็บ"
"ฉันรู้ แต่ฉัน
.ปล่อยนายไม่ได้" พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกครั้ง
"
ยุนโฮ
อยู่ไหนยูชอน" เป็นคำถามที่แจจุงอยากถามตั้งแต่ประโยคแรกที่ลืมตาขึ้น แต่กลับไม่มีโอกาส ถึงตอนนี้รู้ว่าไม่ควรที่จะถามแต่ก็อดไม่ไหว อยากรู้
อยากรู้ว่ายุนโฮอยู่ที่ไหน
"ยังจะถามถึงมันอีกเหรอ!" ร่างสูงเอ่ยกลับด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด
แม้จะอยู่ในอ้อมกอดนี้ก็ยังจะนึกถึงมันอีกเหรอแจจุง
แม้ฉันจะกอดนายเอาไว้
.
"ทำไมนายกับยุนโฮถึงต่อยกัน" กลีบปากบางยังคงพร่ำถามถึงยุนโฮไม่ขาด ทำเอาคนฟังอ่อนใจ..
"หมอนั่นเป็นคนเริ่มก่อน ฉันไม่รู้ว่าทำไม อาจเป็นเพราะฉันกอดจุนซู หรืออาจเป็นเพราะฉันกอด
นาย"
คำตอบของยูชอนทำเอาแจจุงเงียบไปอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยพูดออกมาสั้นๆ
"..ฉัน
..ฉันรักเค้ายูชอน"
คำพูดที่ไม่น่าเชื่อว่าจะหลุดรอดจากริมฝีปากบางกลับถูกเอ่ยออกมาอย่างง่ายดาย
ยูชอนนิ่งค้างไปชั่วขณะ
"พูดอะไรน่ะ"
"ฉันไว้ใจนาย ฉันไว้ใจนายยูชอน ฉันรักเค้า ฉันรักยุนโฮ"
เอ่ยพลางสะอื้นน้อยๆ อาการในวันนี้ทำให้รู้ดีว่ากำลังทรุดลงเรื่อยๆ
ร่างกายเค้ากำลังจะไม่ไหว
.
เพราะความอ่อนแอและหวาดกลัว ทำให้ต้องพูดออกไป
ต้องบอกใครซักคน
บอกคนที่ไว้ใจอย่างยูชอน บอกยูชอนที่เป็นเพื่อนรักคนเดียวในชีวิตด้วยความไว้ใจ
"นายพูดอะไรอยู่แจจุง!!!!"
ร่างสูงตะโกนก้องพลักคนที่อยู่ในอ้อมกอดออกไป ก่อนจะจับไหล่บางเขย่าแรงๆ
"ฉันรักเค้า! ฉันรักเค้า! ฮึก..ฉันรักเค้ายูชอน
รัก" พูดพลางสะอื้นไห้ ยิ่งพูด
ก็ยิ่งร้องไห้
"หยุดพูดนะ! พอได้แล้ว!" ยูชอนหยุดเขย่าร่างบางตรงหน้าก่อนจะรวบเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอีกครั้งอย่างเบามือ
ภาพที่แจจุงร้องไห้ปริ่มจะขาดใจอย่างนั้น
ยิ่งเห็นยิ่งปวดใจ
อย่าร้องเลยที่รักของฉัน
.ได้โปรด
อย่าร้องไห้เพื่อเค้า
"ฉันรู้..ฉันขอโทษแจจุง ฉันขอโทษ"เอ่ยกับคนในอ้อมกอด ก่อนจะกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นอีกเมื่อรับรู้สึกแรงสั่นสะท้านจากแจจุง
"ฉันเจ็บยูชอน ฮึก ฉันเจ็บ! ฮึก
เค้าไม่มายูชอน ฮือ ยุนโฮอยู่ไหน
"
"นิ่งซะคนดี ไม่เป็นไรนะ ยุนโฮมีธุระ ถ้าเค้าไม่มีธุระสำคัญจริงๆเค้าต้องมาแน่! เชื่อฉันสิแจจุง อย่าร้องนะ"
"ฮึก ธุระเหรอ? ธุระสำคัญ
สำคัญกว่าชีวิตฉันอีกเหรอยูชอน"
เสียงสะอื้นไห้ดังลั่นห้องนอนใหญ่อีกครั้ง
ในห้องไม่มีใครพูดอะไร มีแค่เสียงสะอื้นกับอ้อมกอดอุ่นๆที่คอยปลอบประโลม
โอบอุ้มไว้ราวกับจะเป็นเกราะป้องกันไม่ให้สิ่งใดทำร้าย ห่อหุ้มไว้คอยปกป้องคนบอบบางนี้
แต่ไม่อาจช่วยอะไรได้
.
เพราะสิ่งที่ทำให้เจ็บปวดไม่ใช่สิ่งที่อยู่ภายนอก
แต่เป็นหัวใจ
หัวใจของแจจุงเองที่ทำร้ายตัวเอง
แล้วอย่างนี้ คิม ยูชอนจะปกป้องได้อย่างไรเล่า?
คงทำได้เพียงแค่นี้
.แค่กอดเอาไว้
เพียงเท่านี้
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ แต่คนในอ้อมกอดก็สงบลงแล้ว ไม่มีเสียงสะอื้นหรือเสียงสูดน้ำมูกฟุตฟิต
"นายจำเรื่องเมื่อตอนที่เราอายุ 10 ขวบได้มั้ย? ใต้ต้นไม้น่ะ" ยูชอนเอ่ยถามทำลายความเงียบ แจจุงพยักหน้ารับน้อยๆ อดแปลกใจไม่ได้ที่เสียงหัวใจของยูชอนเต้นดัง ตึกตัก จนเค้าได้ยิน
"จำได้สิ ใต้ต้นไม้นั่นก่อนวันที่นายจะไปอเมริกา"
"อืม ตอนนั้นนายบอกว่าตัวเองกำลังมีความรักใช่มั้ยแจจุง"
"
.อืม" พูดพลางบดเบียดร่างกายเข้าหาอ้อมกอดของยูชอนมากขึ้น
ไม่เข้าใจ
ในสิ่งที่ยูชอนอยากจะสื่อให้รู้
"ฉันกำลังมีความรักแจจุง" ยูชอนพูดกับคนที่นิ่งอยู่ในอ้อมกอด
"ความรักเหรอ?"
"ใช่ ฉันเจอแล้ว เหตุผลของฉัน เหตุผลของความรักที่เป็นของฉันเพียงคนเดียว"
"บอกฉันได้มั้ย
ยูชอน"น้ำเสียงหวานลากยาว รอยยิ้มหวานผุดขึ้นบนใบหน้า ถึงแม้ในหัวใจกำลังร้องไห้ก็ตาม
"
ทีนายยังไม่บอกฉันเลย ตอนนั้นน่ะ"
"ตอนนั้น? หืม? นายยังจำมันได้อยู่เหรอ?"
"ไม่มีเรื่องอะไรของนายที่ฉันจำไม่ได้" ร่างสูงพูดพลางยิ้ม นึกไปถึงเรื่องสมัยเด็กมากมายที่น่าจดจำ
"ขอร้องละนะยูชอน ฉันเป็นเพื่อนรักนายนะ บอกฉันหน่อยสิ" แจจุงว่าพลางพองลมจนแก้มป่อง ยูชอนหัวเราะน้อยๆ อดขำไม่ได้กับท่าทางอยากรู้เหมือนเด็กๆนั่น
"สัญญาสิว่านายจะไม่หนีฉันไป"
"ทำไมฉันต้องหนีนายละยูชอน?"
"เพราะฉันรู้เหตุผลแล้ว
เหตุผลที่ทำให้ฉันยิ้มได้มากกว่าที่เคย เหตุผลที่ทำให้ดอกไม้ดอกเดิมหอมหว่าทุกๆวัน เหตุผลที่ทำให้สายลมอ่อนหวานกว่าทุกๆครั้งที่เคยได้สัมผัส"
"นายน้ำเน่าเหมือนฉันตอนเด็กๆเลยนะ คิกคิก" หัวเราะน้อยๆอย่างจั๊กจี้ เมื่อมือหนารั้งเอวบางให้แนบชิดกับตนเองมากขึ้น
"เหตุผลของฉันคือนาย"
"เอ๋?" คิ้วเรียวสวยยกขึ้น ใบหน้าหวานมีท่าทีงุนงง
"ฉันรักนาย"
"!?"
"ฉันรักนายไง ชอง แจจุง"
.
ฮัน ยุนโฮพยายามทำสีหน้าให้เย็นชาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ก็ยังไม่หลุดรอดสายตาของใครบางคนอยู่ดี
"เป็นห่วงพี่แจจุงก็รีบขึ้นไปดูสิฮะ" จุนซูพูดเสียงสั่น พอพี่แจจุงล้มลงไปตัวเค้าเองก็หมดเรี่ยวแรงจนต้องถูกหิ้วปีกมานอนบนเตียงเหมือนเดิม
แล้วน้ำเสียงที่สั่นพร่านี้ก็ไม่ใช่เพราะเจ็บปวดทางร่ายกายแต่อย่างใด แต่เพราะกำลังไม่เข้าใจทำไมคนที่นั่งอยู่ข้างๆเตียงนี้ไม่ใช่พี่ยูชอน?
ไหนพี่ยูชอนบอกว่าจะตัดใจจากพี่แจจุงละ?
ไหนบอกว่าจะพยายามไงละ
ตอนนี้พี่กำลังทำอะไรอยู่
พี่กำลังพูดอะไรกับพี่แจจุง
?
"พี่ไม่ได้เป็นห่วงใครทั้งนั้น หรือถ้าจะมีใครซักคนที่พี่เป็นห่วงคนคนนั้นก็คือเรานั่นแหละจุนซู" ยุนโฮตอบน้ำเสียงห้วนๆ รู้สึกไม่ดีที่จุนซูรู้ดีกว่าตัวเขา
ใช่
เขากำลังห่วงแจจุงจนแทบจะบ้า
"ห่วงผม..?ไม่เป็นไรหรอกพี่ยุนโฮผมน่ะแข็งแรงแล้ว คนที่พี่ควรจะเป็นห่วงน่ะคือพี่แจจุงตังหาก"
"หยุดพูดซักที!"
ยุนโฮตะโกนก้อง ร่างสูงผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะจ้องหน้าคนบนเตียงด้วยแววตาจริงจัง
"พะ
พี่ยุนโฮ?" จุนซูพูดละล่ำละลั่ก รู้สึกกลัวจนตัวสั่นเมื่อพี่ยุนโฮที่ใจดีในอดีตบัดนี้กำลังเกรี้ยวกราดอย่างที่เค้าไม่เคยเห็นมาก่อน
"ทำไมต้องพูดถึงแจจุง!"
"ก็
ก็พี่แจจุงไม่สบายนี่นา แล้วพี่ยุนโฮกับพี่แจจุงก็.."
"ก็อะไร!"
"ก็รักกันไม่ใช่เหรอฮะ
ตั้งแต่เด็กแล้วที่พวกพี่.."
"หยุดนะ!"
ยุนโฮตะโกนอีกคนพลางคว้าร่างบางบนเตียงให้ลุกขึ้นก่อนจะรวบตัวจุนซูเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ลมหายใจร้อนรดบนหน้าผากเนียนใส เมื่อยุนโฮประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากมนนั้นเบาๆ
"ฟังพี่นะ พี่ไม่เคยรักแจจุง"
"!?"
"มีเพียงคนเดียวที่พี่รัก และคนคนนั้นก็คือเรา"
"อะ
อะไรนะ?" ร่างบางในอ้อมกอดถามเสียงตะกุกตะกัก ใบหน้าหวานร้อนผ่าวเพราะจุมพิตอ่อนโยนเมื่อครู่ ในขณะที่ยุนโฮถอนหายใจยาวๆก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ราวกับกำลังเกร็งสุดตัว ก่อนจะพูดมันออกไป
"พี่รักจุนซู"
มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ปกคลุมห้องนอนกว้างนี้
ยุนโฮกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกเมื่อจุนซูขยับตัวเล็กน้อย
ร่างบางยกแขนขึ้นโอบกอดยุนโฮเอาไว้ ก่อนจะกระซิบแผ่วเบา
"ผมรักพี่ยูชอน"
"
.."
"ขอโทษฮะพี่ยุนโฮ" กระชอบวงแขนเรียวให้โอบรอบคนตัวสูงให้แน่นขึ้นมากกว่าเดิม
ยุนโฮนิ่งเงียบร่างสูงปล่อยแขนของตัวเองให้ตกลู่ลงไปข้างตัว กลายเป็นว่าจุนซูกำลังกอดเขาไว้
แทนที่จะเป็นเขากอดจุนซู
คนที่ได้รับการปลอบโยนคือเขา
ไม่ใช่จุนซู
แน่ละ
.คนที่เจ็บคือเขานี่นา..ไม่ใช่จุนซู
"ผมรู้ว่าพี่เจ็บปวด แต่ถ้าผมโกหกพี่จะยิ่งเจ็บปวด ผมขอโทษฮะพี่ยุนโฮ"
"
ทำไมละ"
"ผมไม่รู้พี่ยุนโฮ
.ผมไม่รู้ว่าทำไม
ผมรู้แค่รักพี่ยูชอน"
"
ทำไมต้องรักมันละจุนซู"
"ผม
เพราะผมรักเค้า"
ตอบได้เพียงเท่านี้
.เพราะเหตุผลของเค้ามีเพียงเท่านี้
เหตุผลที่ชอง จุนซูรักคิม ยูชอน ก็เพราะรักคิม ยูชอน มีเพียงเท่านี้จริงๆ
"
ไม่เป็นไร ไม่ต้องร้องไห้จุนซู" ยุนโฮพูดพลางยกมือขึ้นลูบเรือนผมสีทองสว่างของจุนซูเบาๆพลางโอบกอดร่างเล็กไว้เช่นเดิม เมื่อรู้สึกถึงความเปียกชื้นบนหัวไหล่
รู้ดีว่าจุนซูไม่อยากทำร้ายใคร และรู้ดี
ว่าหัวใจตัวเองไม่เจ็บปวดมากอย่างที่ควรจะเป็น
"ฮึก พี่
พี่ยุนโฮไม่โกรํใช่มั้ย?"
"อืม ไม่
ไม่โกรธเลยไม่ต้องร้องไห้นะ"
มือหนาลูบแผ่นหลังบางที่สั่นน้อยๆอย่างปลอบโยน อ้อมกอดอุ่นของยุนโฮทำให้จุนซูรู้สึกผ่อนคลายและสงบลงในที่สุด
เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมงที่ยุนโฮกอดจุนซูเอาไว้อย่างนั้นราวกับว่าอยากเก็บความอบอุ่นและกอมหวานนี้ไว้เป็นครั้งสุดท้าย
"พี่ยุนโฮ
เคยได้ยินเรื่องเจ้าหญิงหงส์ขาวมั้ยฮะ?" จุนซูเอ่ยเพื่อทำลายความเงียบ
"
อืม คิดว่าเคยได้ยินนะ"
"ผมคิดว่าผมฟื้นขึ้นมาเพราะเจ้าชายฮะ"
"เจ้าชาย? ทำไมละ?" เลิกคิ้วถามอย่างสงสัย ก่อนจะดันคนที่อยู่ในอ้อมกอดให้นอนราบลงบนเตียงเช่นเดิม
"ไม่มีผู้ใดถอนคำสาปได้
นอกจากเจ้าชายที่สามารถจะมอบจุมพิตอันเกิดจากรักแท้"
"
อืม"
"ผมตื่นขึ้น
ไม่ใช่เพราะจูบจากเจ้าชายที่มีรักแท้ฮะพี่ยุนโฮ แต่เป็นเจ้าชายที่ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย"
"จริงเหรอ ฮะฮะ นอนพักได้แล้วจุนซู"
"พี่ยุนโฮไม่ตลกเหรอ?"
"ตลกสิ เราต้องนอนแล้วนะจุนซู นอนเถอะ"
"ก็ได้ แต่..พี่ยุนโฮช่วยไปดูพี่แจจุงให้หน่อยได้มั้ยฮะ?"
"
.อืม แต่เราต้องสัญญาว่าจะนอนนะ"
"ฮะ" ร่างบางว่า มือเรียวซุกเข้าใต้ผ้าห่มหนาก่อนจะหลับตาพริ้ม
"อ่อ เดี๋ยวสิจุนซู"
"
.อื้อ..ว่าไงพี่ยุนโฮ"
"จริงๆแล้ว พี่ว่าเราเหมาะกับเรื่องเจ้าหญิงนิทราซะมากกว่า"
ยุนโฮพูดติดตลกก่อนจะรีบเดินออกมาจากห้องเมื่อได้ยินเสียงโวยวายของจุนซู ร่างสูงสั่งสาวใช้ในคฤหาสน์ตระกูลชองให้เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนจุนซูก่อนจะก้าวเท้าเร็วๆเพื่อไปหาใครบางคนตามคำขอของจุนซู
เจ้าหญิงหงส์ขาวน่ะ
ไม่เหมาะกับนายจริงๆจุนซู
สีขาวบริสุทธิ์แบบนั้น
.เหมาะกับใครอีกคนมากกว่า
รสสัมผัสอันอ่อนโยนและนุ่มนวล
เรือนร่างบอบบาง เอวคอด ริมฝีปากอิ่มสีเชอร์รี่ กับใบหน้าขาวใสที่แดงระเรื่อน้อยๆ
ภาพนางฟ้าที่งดงามในวันคริสมาสยังไม่เคยเลือนหายออกไปจากหัวสมอง บวกกับความเจ็บปวดเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่ารักที่ให้กับคนอื่นของจุนซู ใช่เล็กน้อยจริงๆเมื่อเทียบกับยามที่ได้เห็นแจจุงกอดกับยูชอน
หัวใจสับสนและเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง รู้สึกเป็นห่วงจนแทบทนไม่ไหว อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองช่างงี่เง่าที่ปล่อยให้ยูชอนอุ้มแจจุงออกไป
ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ
นายทำอะไรกับฉันกันแน่
ชอง แจจุง
........................................................................................................................
[Redsun]
ขอโทษนะคะT^T วันนี้คงไม่ได้เอาที่คั่นหนังสือมาให้ดู เนื่องจากว่า นังเรดยังไม่ได้ถามเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเลยว่า
อยากได้ที่คั่นหนังสือที่เป้นรูปดงบัง หรือเป็นแฟนอาร์ต คือรูปการ์ตูนน่ารักๆของดงบัง
คอมเมนท์ไว้นะคะ^^ คอมเมนท์ของท่านมีส่วนช่วยในการตัดสินใจว่าจะเอาแบบไหนเพราะเรดจะดูเสียงส่วนมาก
ตอนต่อไปคงจะเข้มข้นมากกว่าเดิม =_= (อีกแล้ว เหอะๆ) ขอโทษที่ตอนนี้มันออกมาดูไม่ค่อยสนุกนะคะT_T
Ps. สำหรับคนที่อยู่เชียงใหม่คะ Red สามารถนำหนังสือไปให้ท่านได้ด้วยตัวเอง^^
ถ้าอยากให้เรดไปส่งให้กับมือก็ คอมเมนท์ไว้นะคะ แล้วเรดจะนัดวันเวลาอีกที
ความคิดเห็น