แสงจันทราผ่านรัตติกาล & ลิขิตรักลับแล - นิยาย แสงจันทราผ่านรัตติกาล & ลิขิตรักลับแล : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    แสงจันทราผ่านรัตติกาล & ลิขิตรักลับแล

    เมื่อความรักเป็นเดิมพันที่ท้าทายอำนาจแห่งความมืด และเวทมนตร์ต้องการสิ่งตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ การเดินทางสู่เมืองลับแลเพื่อตามหาความจริงอาจนำไปสู่จุดจบที่ไม่มีวันหวนกลับ ความรักจะเอาชนะความแค้นได้หรือไม่

    ผู้เข้าชมรวม

    127

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    18

    ผู้เข้าชมรวม


    127

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  15 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  23 ก.ย. 67 / 11:19 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เรื่องราวเกิดขึ้นในโลกที่ถูกแบ่งแยกออกเป็นสามอาณาจักรใหญ่ คือ เมืองมนุษย์ เมืองแม่มด และเมืองลับแล เมืองลับแลเป็นเมืองที่ซ่อนเร้นและสามารถเข้าถึงได้ด้วยเวทมนตร์เท่านั้น เป็นที่อยู่ของวิญญาณและสิ่งมีชีวิตที่ถูกลืมเลือน ราเวน หญิงสาวจากเมืองมนุษย์ถูกโชคชะตานำพาให้ต้องเดินทางไปยังเมืองลับแลเพื่อตามหาพี่ชายที่หายสาบสูญไป ซึ่งตามตำนานว่าพี่ชายของเธอถูกขังอยู่ในนรก เธอต้องร่วมมือกับเอลเลน่า แม่มดสาวผู้มีอดีตอันขมขื่น ทั้งคู่ต้องเผชิญกับอุปสรรคและความแค้นที่มีมานานกว่าร้อยปี พร้อมกับพลังเวทมนตร์ที่ถูกลืมเลือน

    ราเวน: "พี่ชายของฉัน...เขาหายไปเมื่อสิบปีที่แล้ว ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน คุณช่วยฉันได้ไหม?"

    เอลเลน่า: "ฉันรู้จักเวทมนตร์ที่สามารถเปิดประตูไปยังเมืองลับแลได้ แต่การเดินทางนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เธอต้องพร้อมที่จะเผชิญกับความมืดและวิญญาณที่ถูกลืม"

    ราเวน: "ฉันไม่กลัวความมืด ฉันแค่กลัวว่าจะไม่ได้พบเขาอีก"

    เอลเลน่า: "งั้นเราจะไปด้วยกัน แต่เธอต้องรู้ว่า เมื่อเราเริ่มต้นการเดินทางนี้แล้ว ไม่มีทางหวนกลับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"

    ราเวน: "ฉันพร้อมแล้ว เอลเลน่า ถ้านั่นคือทางเดียวที่จะพบพี่ชาย ฉันจะทำทุกอย่าง"

    เอลเลน่า: "ดี...งั้นเตรียมตัวให้พร้อม เราจะเริ่มพิธีคืนนี้ ตอนที่แสงจันทร์ทะลุผ่านรัตติกาล นั่นคือเวลาที่ประตูสู่เมืองลับแลจะเปิดออก"


    นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่เต็มไปด้วยความรัก ความแค้น และพลังแห่งเวทมนตร์ การเดินทางที่นำพาพวกเธอเข้าสู่เมืองลับแล ที่ซึ่งคำสาปและโชคชะตากำลังรอคอยพวกเธออยู่


    ฉาก: ในคืนที่แสงจันทร์เต็มดวง ณ ป่าลึกใกล้ชายแดนเมืองแม่มด

    เอลเลน่าและราเวนยืนอยู่กลางป่า รอบตัวพวกเธอมีวงเวทมนตร์ที่ถูกวาดด้วยผงซากศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีแสงจางๆ ส่องออกมาเมื่อแสงจันทร์ตกกระทบ

    ราเวน: "นี่คือจุดที่เราจะเปิดประตูไปยังเมืองลับแลใช่ไหม?"

    เอลเลน่า: "ใช่ ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโยงกับพลังของเมืองลับแล แต่ระวังนะ ราเวน เมื่อเราข้ามผ่านประตูนี้ไป เราจะไม่ได้เจอเพียงแค่เมืองลับแลเท่านั้น แต่นรกเองก็เชื่อมต่อกับที่นั่นด้วย"

    ราเวน: "ฉันไม่กลัวหรอก... ฉันต้องการช่วยพี่ชายของฉัน และถ้าฉันต้องเผชิญกับนรกเพื่อให้ได้เขากลับมา ฉันก็พร้อม"

    เอลเลน่ายิ้มจางๆ ก่อนจะเริ่มท่องคาถา เวทมนตร์เริ่มกระจายตัวเป็นวงรอบ ๆ ร่างกายของพวกเธอ ลมที่แรงขึ้นเรื่อยๆ พัดไหวต้นไม้รอบๆ สร้างเสียงกระหึ่มที่น่าหวาดกลัว

    เอลเลน่า: "สายลมแห่งรัตติกาล จงนำเราข้ามผ่านความมืดมิด เปิดประตูแห่งความลับที่ถูกซ่อนอยู่ในเงาจันทร์!"

    ทันทีที่คาถาสิ้นสุดลง พื้นดินกลางวงเวทมนตร์ก็เริ่มแยกออก เกิดเป็นประตูมิติที่มืดมิด มองไม่เห็นว่าอีกด้านคืออะไร

    ราเวน: "นี่มัน...น่ากลัวจริงๆ"

    เอลเลน่า: "ไม่ต้องห่วง ราเวน เราเดินไปด้วยกัน ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปคนเดียว"

    ราเวนพยักหน้าอย่างหนักแน่น ก่อนจะจับมือของเอลเลน่าแน่น ทั้งคู่ก้าวเข้าสู่ประตูมิติอย่างกล้าหาญ


    ฉาก: ด้านในเมืองลับแล

    เมื่อพวกเธอผ่านประตูมิติ ราเวนและเอลเลน่าก็พบว่าพวกเธออยู่ในเมืองที่ดูราวกับถูกทิ้งร้าง ทุกสิ่งรอบตัวถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา อาคารบ้านเรือนทรุดโทรม และบรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบงันที่น่ากลัว

    ราเวน: "ที่นี่ดูเหมือนเมืองที่เวลาหยุดหมุน ทุกอย่าง...หยุดนิ่ง"

    เอลเลน่า: "เมืองลับแลถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกักขังวิญญาณและความทรงจำที่ถูกลืมเลือน ผู้คนที่นี่ล้วนแต่เป็นเงาของตัวเองในอดีต ไม่มีวันหวนคืนกลับไปยังโลกเดิม"

    ในขณะที่ทั้งคู่เดินผ่านถนนที่ทอดยาว ทันใดนั้น เงาหนึ่งปรากฏขึ้นจากหมอก มันคือวิญญาณที่เคยเป็นมนุษย์มาก่อน แต่ตอนนี้เหลือเพียงความมืดและความโกรธแค้น

    วิญญาณ: "เจ้ามาทำอะไรที่นี่? นี่ไม่ใช่ที่ของมนุษย์หรือแม่มด!"

    เอลเลน่า: "เรามาตามหาวิญญาณที่ถูกขังในนรก ใครสักคนที่ยังมีความหวังจะกลับไป...เจ้ารู้จักวิญญาณนี้ไหม?"

    วิญญาณ: "ไม่มีใครหวนคืนจากนรกได้หรอก...แต่ถ้าเจ้ามุ่งมั่นจะไป ก็เตรียมใจพบกับสิ่งที่เจ้าจะเสียไป"

    ราเวน: "ฉันไม่สนว่าฉันจะต้องเสียอะไรไป ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อพาพี่ชายกลับมา!"

    วิญญาณหันมามองราเวนด้วยสายตาที่เหมือนจะจ้องมองเข้าไปในจิตใจของเธอ ก่อนจะหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา

    วิญญาณ: "ถ้าเช่นนั้นก็ไปเถิด...แต่อย่าหวังว่าจะกลับมาได้เหมือนเดิม"

    วิญญาณหายลับไปในหมอก ทิ้งให้ราเวนและเอลเลน่ามองหน้ากันอย่างเคร่งเครียด พวกเธอรู้ว่าทางข้างหน้านั้นเต็มไปด้วยอันตราย แต่ความรักและความมุ่งมั่นยังคงผลักดันให้พวกเธอเดินหน้าต่อไป


    นี่คือส่วนต่อเนื่องของนิยายที่เต็มไปด้วยความลึกลับ การผจญภัย และการเผชิญหน้ากับสิ่งที่มืดมนในเมืองลับแล ที่ซึ่งความรักและความแค้นจะต้องต่อสู้เพื่อหาทางออกจากชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้


    ฉาก: ภายในเมืองลับแล - ขณะที่พวกเธอก้าวลึกเข้าไปในเขตเมืองเก่า

    ราเวนและเอลเลน่าเดินผ่านตรอกซอกซอยที่มืดสลัว เสียงกระซิบจากเงาในหมอกดังแผ่วเบาเป็นระยะ ราเวนรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่เริ่มกดดันเธอ หนักอึ้งในอกและจิตใจ

    ราเวน: "ทำไมฉันรู้สึก...อึดอัดอย่างนี้ เหมือนมีอะไรบางอย่างจับตาดูเราอยู่"

    เอลเลน่า: "เมืองลับแลเต็มไปด้วยวิญญาณที่ถูกลืม ทุกๆ ก้าวที่เราย่างเท้าเข้ามา พวกมันก็ยิ่งสนใจในตัวเรามากขึ้น ถ้าเธอเริ่มรู้สึกถึงความมืดที่ถาโถม อย่าลืมเหตุผลที่เรามาที่นี่ ใช้ความรักของเธอนำทาง"

    ราเวน: "ใช่...ฉันมาที่นี่เพราะพี่ชาย ฉันจะไม่ยอมแพ้"

    ขณะที่พวกเธอเดินลึกเข้าไปในเมืองลับแล อาคารบ้านเรือนเริ่มเปลี่ยนไปจากซากปรักหักพัง กลายเป็นปราสาทและหอคอยที่สูงเสียดฟ้า แต่ดูราวกับถูกปกคลุมด้วยเงาแห่งความมืดนิรันดร์

    เอลเลน่า: "นั่น...คือตำหนักแห่งเงา ที่ซึ่งราชาแห่งวิญญาณครอบครองอยู่ หากเราจะหาข้อมูลเกี่ยวกับทางไปนรก ต้องเริ่มจากที่นั่น"

    ราเวน: "ราชาแห่งวิญญาณงั้นเหรอ? เขาจะช่วยเราได้จริงๆ หรือ?"

    เอลเลน่า: "เขาไม่ใช่คนที่ง่ายต่อการต่อรอง แต่เขามีพลังที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกทั้งสาม นรก สวรรค์ และเมืองลับแล หากเราให้บางสิ่งที่มีค่าพอ เขาอาจจะช่วยเรา"

    ราเวน: "แต่ฉันไม่มีอะไรที่จะให้เขา...มีแค่ตัวฉันและความหวังที่จะได้พี่ชายกลับมา"

    เอลเลน่า: "ความหวังอาจเป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าที่เธอคิด ราเวน...เราจะลองดูกัน"

    ทั้งสองเดินไปยังตำหนักแห่งเงา ประตูบานใหญ่ที่สร้างจากหินดำมืดสนิทเปิดออกเองช้าๆ เมื่อพวกเธอมาถึงภายในตำหนักมีเพียงเงาสลัวที่ส่องแสงจากแสงจันทร์ที่ลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างสูง

    ราชาแห่งวิญญาณปรากฏตัวเป็นชายร่างสูง ผิวขาวซีดและดวงตาที่ดูราวกับทะเลสาบแห่งความมืด เขายืนอยู่เหนือบัลลังก์ที่ทำจากเงาและแสงจันทร์

    ราชาแห่งวิญญาณ: "ผู้มาเยือนจากเมืองมนุษย์และเมืองแม่มด เจ้าต้องการอะไรจากข้า?"

    เอลเลน่า: "เรา...ต้องการหาวิญญาณที่ถูกขังในนรก ราเวนคนนี้ตามหาพี่ชายของเธอ"

    ราชาแห่งวิญญาณ: "นรกไม่ใช่ที่ที่ใครจะไปได้ง่ายๆ หรือกลับออกมาได้ตามใจ มันเป็นดินแดนแห่งการลงทัณฑ์และการเสียสละ เจ้าพร้อมจะสูญเสียอะไรบางอย่างเพื่อสิ่งที่เจ้าต้องการหรือไม่?"

    ราเวนลังเลเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะมองไปที่เอลเลน่าและตอบอย่างหนักแน่น

    ราเวน: "ฉันพร้อม ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้พี่ชายกลับมา"

    ราชาแห่งวิญญาณ: "ถ้าเช่นนั้น ข้าจะให้ทางเลือกแก่เจ้า หนึ่งในเจ้า...จะต้องเสียสละชีวิตตนเองเพื่อเปิดประตูสู่นรก ถ้าเจ้าพร้อมจะทำเช่นนั้น ประตูจะเปิดออก"

    คำพูดของราชาทำให้ราเวนและเอลเลน่าตกใจ ทั้งสองหันมามองหน้ากัน ในดวงตาของราเวนเต็มไปด้วยความสับสนและความหวังว่าคงไม่ต้องเลือกเช่นนั้น

    เอลเลน่า: "ราเวน...อย่าให้เขาหลอกลวง เราต้องหาทางอื่น!"

    ราชาแห่งวิญญาณ: "ไม่มีทางเลือกอื่น นี่คือราคาของการท้าทายโชคชะตา"

    ราเวนยืนนิ่ง มองลึกเข้าไปในดวงตาของราชาแห่งวิญญาณ ก่อนจะค่อยๆ พยักหน้า เธอรู้ว่าไม่มีทางอื่นที่ง่ายกว่านี้ แต่ก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อพี่ชาย

    ราเวน: "ถ้าฉันต้องเสียสละเพื่อเปิดประตู ฉันจะทำ...เพื่อพี่ชายของฉัน"


    เรื่องราวดำเนินไปสู่จุดที่ความรักของราเวนถูกทดสอบ เธอต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากและการเสียสละ การเดินทางสู่โลกนรกนั้นเต็มไปด้วยอันตรายและความลึกลับ ที่จะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับอดีตและอนาคตของพวกเธอ

     

     

     

     

     

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น