คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 4 การกลับมาของสมาชิกกิลด์ที่หายไป...คุณผู้จัดการ
ตอนที่ 4
การกลับมาของสมาชิกกิลด์ที่หายไป
...คุณผู้จัดการ
“นั่นไง แคทมาแล้ว”
โซเฟีย ชะงักการเอาอาหารสมมุติเข้าปาก หันไปมองตามเสียงก่อนใคร
“ยะหยังกันอยู่ กึ๊ดเติงกันม้าย ! ย ย เปิ้นมาแล้วนะ...”
ตามด้วยคนที่เหลือในโต๊ะ หันไปมองคนที่พึ่งจะมาพร้อมกัน
“...เอ้า ขอเสียงหน่อยยยย ! ย ย”
นิ้วดีดดังแปะ
“มิวสิค !”
พลันดนตรีป็อปแดนซ์ จังหวะสนุก ๆ ก็ดังขึ้น พร้อมไฟดิสโก้เทคหลากสีส่องวูบวาบ สาวร่างเล็กเต้นบนฟลอร์ ตู้ลำโพงประดับฉากหลังกระหึ่มตึบ ๆ
รองเท้าผ้าใบสีชมพู หุ้มเท้า โยกย้ายไปมาตามจังหวะดนตรี
มือเรียว ลูบไล้จากต้นขาขาวเนียน ขึ้นไปตะปบที่ก้นแน่น ๆ ตบป้าบ กางเกงวอร์มสั้นกุดสีชมพูสุดเซ็กซี่ หุ้มสะโพกและบั้นท้าย บิดเอวไปมา
ส่วนเรียวแขน ผายออก กวัดแกว่ง กระแทกตัวมาทางซ้ายก็เด้งดึ๋ง + EXP GUILD 350 กระแทกตัวมาทางขวาก็เด้งดึ๋ง + EXP GUILD 350 แล้วเขย่าตัวรัว ๆ จนสองเต้ากลม ๆ ภายใต้เสื้อยืดสีดำ ลายการ์ตูนแมวเหมียว เอวลอย รัดติ้ว เด้งดึ๋ง ๆ ดึ๋ง ๆ รัว ๆ + EXP GUILD 350 350 350...
สาวลูกครึ่งฝรั่ง รีบหันกลับเข้าโต๊ะ ไม่กล้ามองต่อ เพราะอายแทน โดยเฉพาะการที่ต้องเต้นไปด้วย แล้วมีคู่ตาที่โตเป็นไข่ไดโนเสาร์ ของเจ้าพวกบ้ากามในโต๊ะมองไปด้วย ไหนจะต้องมาเด้งดึ๋ง ๆ อีก ชั่งน่าอายยิ่งนัก ทำไปได้ง้าย ! (-///-) ผู้เป็นหัวหน้ากิลด์ ได้แต่หยิบขนมข้าวแต๋นน้ำแตงโมเข้าปาก ฟันหน้าขบหงับ ๆ หงับ ๆ กลบเกลื่อนความเขิน ใช่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ภารกิจเต้นรำประจำสัปดาห์ ที่สาวผู้นั้นเป็นคนรับผิดชอบมาตลอด ช่วยเพิ่ม EXP เข้ากิลด์มากแค่ไหน ต่างจากของกินสมมุติที่ตนยัดเข้าปาก ไม่ใช่คำละนะ ตกเมนูละ + EXP GUILD 30 เท่านั้นเอง (- -') ฟ้ากับเหว
กระทั่งดนตรีจบลง สะเก็ดดาวหลากสีถูกยิงโพล๊ะขึ้นลอยฟุ้งในอากาศ บนแท่นฟลอร์ ร่างเล็ก จบการเต้นด้วยท่า ไขว้แขน ทำมือสามนิ้วหนวดแมวข้างแก้ม ชิก ๆ
ผมประบ่าชมพูสด คลุมใบหน้าจิ้มลิ้ม แต้มเรียวปากสีชมพูอ่อน ตากลมโตด้วยบิ๊กอายสีชมพูคลุมโทน ตัดโทนด้วยขอบตาดำ ขนตายาวงอนราวกับตุ๊กตา ครอบเฮดเซ็ตเกมมิ่ง หูแมว เรืองแสงวิบวับบนหัว สาวสตรีมเมอร์วัย 24 ‘แคท’ หรือ ‘LOLIPOP_CAT’ ยศสูงสุด ‘UPHOLD OF JUSTICE MASTER ผู้ผดุงความยุติธรรม ขั้นสูงสุด’ เกียรติยศประจำตัว ‘MONSTER HUNTER นักล่ามอนสเตอร์’ เพราะชอบทำคอนเทนต์ล่ามอนสเตอร์ โดยเฉพาะระดับบอส ลงไลฟ์สตรีมมิ่งเป็นประจำ
ตากลมชมพูกะพริบจิก “ฮิ” ตัวละครร่างเล็ก พุ่งสปีดฟอร์ซ หายวับไปจากฟลอร์เปิดตัว...
มาโผล่อีกทีข้าง ๆ บิว
“เฮือก ! ข้าน้อยเมื่อยขนาดนัก เอื้อ~”
สีหน้าที่เปี่ยมด้วยความสดใสเมื่อกี๊ กลับเปลี่ยนเป็น หมองหม่น ซึมเศร้า ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“สตรีมหลายเกมแล้ววันนี้ เปิ้นหมดแรงแล้วเน่อ !” ผู้ที่สตรีมเกมเป็นอาชีพบ่นอุบ ฟุบหน้าลงโต๊ะ ก่อนกระดกหัวขึ้นเกยคางกับโต๊ะ ทำหน้าเบะแหย “แถมแต่ละเกมนะ บั๊กกับโปร ก่อเย้อเยอะ เล่นก่อบ่าค่อยจะราบรื่น” ตากลมโตชมพู ถูกเปลือกตาเลื่อนลงปิด “อ๋อย เปิ้นขอพักเข้าห้องน้ำกับหาไรกินสัปแป๊บเน่อ เด๋วเข้ามาคุยเล่นกัน ครอก...”
เป็นโหมดสแตนด์บาย ที่สามารถออนไลน์ตัวละครไว้ แต่ผู้เล่นออกไปนอกเกมได้ แล้วปล่อยให้ร่างตัวละคร แสดงท่าทางต่าง ๆ ขณะรอการกลับเข้ามาหรือไม่ก็ได้ ซึ่งแคท ได้เลือกแสดงท่านอนทิ้งตัวเกยหน้ากับโต๊ะ กรนครอกกก...ฟี่ พลาง ๆ
“เรียบร้อย สู่ความเวิ้งว้าง”
บิว มองร่างเล็ก ที่มาหลับอยู่ข้าง ๆ ก่อนหันกลับไปสนใจเกมแข่งรถต่อ...
หน้าจอโน้ตบุ๊ก ปรากฏอีเมลร้องเรียนปัญหาต่าง ๆ จากเกมเมอร์ในเกมนี้ ที่ถล่มส่งเข้ามาเรื่อย ๆ แต่หัวข้อร้องเรียนส่วนใหญ่ จะเกี่ยวกับเรื่องที่สตรีมเมอร์สาว พูดถึงเมื่อกี๊
“บั๊กกับโปร ชักจะเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ละ”
มาย เจ้าของใบหน้าโทนดาร์ก กับผมยาวสลวยดำขลับ ว่าขึ้น ขณะนั่งอ่านเมลในอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานตามประสาเกมไอดอล ซึ่งได้รับมอบหมายหน้าที่จากจีเอ็ม ให้ดูแลความสงบของเกม ย้ำถึงปัญหาเดิม ๆ ที่อยู่คู่กับวงการเกมออนไลน์มาตลอด หายไปเป็นช่วง ๆ แล้วกลับมาเป็นช่วง ๆ แล้วช่วงไม่กี่เดือนมานี้ บั๊กกับโปรที่ว่า ก็ได้เริ่มปั่นป่วนเกมนี้เข้าแล้ว ส่วนคนที่นั่งข้าง ๆ เกาหัว เซ็ง ๆ เบื่อ ๆ กับวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่ไม่มีไรทำ พลางเหลือบมองจอโน้ตบุ๊กไปด้วย จึงพูดเสริมต่อจากหญิงสาวสักหน่อย
“ช่าย โดยเฉพาะ เกมที่คนเล่นเยอะ ๆ อย่างเกมนี้ จะโดนบั๊กกับโปรหนักหน่อย”
พอหญิงสาว เห็นว่าชายหนุ่ม ก็อยู่ภายใต้ปัญหานี้ เลยอดที่จะย้ำถึงผลกระทบ ที่จะตามมาไม่ได้
“หาเงินลำบากแน่”
คิ้วดำเข้ม ของคนที่หาเงินกับเกมเป็นอาชีพเลิกขึ้น “ก็...เป็นธรรมดา” ให้รู้ว่าไม่ซีเรียส เพราะชินแล้ว “สายฟาร์มตอนนี้ มอนบั๊กเลือด ตีตายช้า ส่วนสายสงคราม ล่าสุด ยังไม่เจอบั๊กหรือโปรโกงไรนะ ยังพอหาเงินได้อยู่”
“แล้ว ถ้าสงครามหาเงินยากขึ้นล่ะ”
จ้าวแห่งสงคราม ดึงผมเล่นพลาง ๆ
“ก็...ตามสูตร คงต้องเล่นหลายเกม เพื่อปั่นเงินให้เยอะขึ้น”
“อือ นึกแล้วเหนื่อยแทน”
คนที่ว่าอาจต้องทำอย่างนั้นสักวัน ขำแห้ง ๆ ยอมรับสภาพ
“วิถีเกมเมอร์อะนะ”
“พวก...เกมแฮ็กเกอร์ มันกลับมาแล้วว่ะ”
เสียงจากอีกฝั่งของโต๊ะ แทรกขึ้น ทำให้สองคนทางนี้ มองตรงมายังเจ้าของเสียง
คนสวมเสื้อแดงลายดอกราชพฤกษ์อย่างบิว พูด โดยไม่ละตาจากเกมในมือ
“พวกนักรับจ้างลงดันเจี้ยน คุยกันว่า ช่วงนี้มีพวกเกมแฮ็กเกอร์ กำลังเจาะเซิร์ฟก็อประบบ เอาระบบไปเตรียมเปิดเซิร์ฟเถื่อนย้อนแพทช์ให้เล่นในอนาคต คงเป็น...”
ดวงตาสีน้ำตาลแดง ละจากเกมในมือ มองสะท้อนเกมไอดอลสาวจากอีกฝั่งของโต๊ะ
“...สาเหตุ ที่ทำให้เกิดบั๊กช่วงนี้ละมั้ง”
มาย พยักหน้าให้กับความเข้าใจนั้น
“อืม ก็ใช่ แต่เกมแฮ็กเกอร์มีหลายกลุ่ม บ้างก็ก็อปเซิร์ฟจริงเอาไปทำเป็นเซิร์ฟเถื่อน แต่บ้างก็เจาะเซิร์ฟ ฝังมัลแวร์โปรแกรมโกงสารพัด ไม่ก็แฮ็กไอดีปล้นของ มันก็มาจากพวกเกมแฮ็กเกอร์ทุกกลุ่มนั่นละ ที่เจาะเซิร์ฟซ้ำ ๆ จนเกิดบั๊กไม่เว้นวันอย่างที่เป็นอยู่ช่วงนี้”
“อือ...” เบย์พยักหน้า เลิกคิ้ว นัยน์ว่ารู้อยู่แล้ว
อันที่จริง บิวเองก็รู้อยู่แล้วเหมือนกันว่า พวกเกมแฮ็กเกอร์เป็นยังไง เพียงแต่ เมื่อมาเล่นเกมนี้ ต้องรับบทเป็นสายฟาร์มเต็มที่ เลยได้รับผลกระทบจากบั๊กจุกจิกรายวัน จนฟาร์มไม่สะดวก ต่างจากไอ้เบย์ ที่มาเล่นเกมนี้ ก็ยังสวมบทเป็นสายเติมเงินล้าน ทำให้ไม่ค่อยเจอบั๊กในการฟาร์มเท่าไหร่ เพราะเน้นสงครามซะส่วนใหญ่ แต่อีกหน่อย เดี๋ยวก็โดนโปรโกงในสงครามอยู่ดีนั่นแหละ
"ต่อให้ปิดเซิร์ฟปรับปรุงเป็นอาทิตย์ หรือเป็นเดือน..." เกมไอดอลสาวว่าต่อ "...มันก็กลับมามีบั๊กอยู่ดี เพราะพวกเกมแฮ็กเกอร์มันเจาะเซิร์ฟได้เรื่อย ๆ อีกอย่าง การปิดเซิร์ฟนาน ๆ ก็นั่นแหละ เกมเมอร์ก็หาเงินในเกมไม่ได้อีก เกมไอดอล ก็ได้แต่ มาแก้ปัญหาตามสถานการณ์ไปวัน ๆ"
คนรวบผมมัดจุก ขมวดคิ้วสงสัย
“ไรวะ จนป่านนี้ พวกค่ายเกม แม่งจะไม่มีระบบอะไรดี ๆ มาป้องกันเซิร์ฟเกมตัวเองได้เลยรึไง”
“โอ๊ย คำถามนี้...”
เสียงจากหัวโต๊ะ แทรกขึ้นบ้าง ทุกสายตามองไป
คนสวมเสื้อเชิ้ตสีครีมกับพาดโค้ตน้ำตาลเข้มบนไหล่ จิ้ม ๆ จอมือถือ ประมาณว่าดูอะไรอยู่ ก็ปิด ๆ ไป ก่อนเงยหน้ามาป๊ะกับคนในโต๊ะ โซเฟีย ยังนั่งพิงพนักเก้าอี้สูงท่วมหัวเป็นนางพญา ไขว้ขาท่าเดิม
“แค่ระบบป้องกันดี ๆ พวกค่ายเกมน่ะ ทำได้อยู่แล้ว แต่ อยู่ที่จะทำรึป่าวก็แค่นั้น...”
ขณะเดียวกัน แสงตะวันก็อ่อนลงเต็มที ผสมละอองฝุ่นต้องแสงระยิบระยับ คลุ้งท่วมทุ่งดอกไม้ ล้อมเก้าอี้นวมและโต๊ะไม้สักยาว ที่สมาชิกกิลด์ ใช้นั่งคุยกันกลางโดมเวลานี้ บรรยากาศดูอบอุ่นละมุนละไม
“...เราก็รู้กันอยู่ว่า ถ้าเกมไม่มีปัญหา เกมเมอร์ก็ต้องเล่นแค่เกมเดียว มากหน่อยก็สองสามเกม แต่พอเกมมีปัญหาขึ้นมาปุ๊บ เกมเมอร์ก็หาเงินในเกมยากขึ้นปั๊บ...”
เชิงเทียนทองเหลือง พิมพ์ลายดูหรูหรา วางประดับบนโต๊ะ สะท้อนเงาคนกำลังพูด
“แล้วพอหาเงินยากขึ้น ก็ต้องเล่นหลาย ๆ เกมอย่างที่เบย์บอกไง ถึงจะได้พอ ๆ กับค่าแรงขั้นต่ำสมัยนี้...”
ร่างตัวละครสตรีมเมอร์สาว ที่กำลังนอนกรนเกยหน้าบนโต๊ะ หน้าอกที่ใหญ่เกินธรรมชาตินั้น เอาไว้เด้งตอนเต้น เพื่อปั่นเลเวลกิลด์โดยเฉพาะ ยุบพองตามจังหวะหายใจ
“...และเมื่อเล่นหลายเกม เกมเมอร์ก็ต้องลงทุนอัดฉีดเงินเข้าไปหลายเกม คงไม่ต้องบอก ว่าใคร ได้ผลประโยชน์”
สาวหัวการค้าซะอย่าง ผล็อยมือนัยน์ว่าไม่ซีเรียส
“ดังนั้น อย่าไปคาดหวังว่าพวกค่ายเกม จะมีระบบอะไรมาป้องกันเซิร์ฟเล้ย ยังไงซะ บั๊กกับโปรและเกมออนไลน์ ก็เป็นของคู่กันไปอีกนาน”
มาย ฟังพี่สาวหัวกิลด์พูด ในสิ่งที่ใคร ๆ ก็อนุมานได้ ว่าเป็นอย่างนั้น เกมไอดอลที่คลุกคลีกับจีเอ็มและค่ายเกม มาหลายปีอย่างตน จึงไม่ต้องอธิบายไรอีก แค่ยักไหล่ พูดติดตลกแทน
“ว้าว ดีเลย เกมไอดอลจะได้มีงานทำเรื่อย ๆ”
แต่บิวห่อไหล่ ทำหน้าบูด ๆ
“แต่เกมเมอร์หาเงินลำบากนี่ดิ ใครจะบ้าเล่นหลายเกม แค่เกมเดียวก็เหนื่อยชิบหาย”
มายขำ
เบย์ โบ้ยหน้าไปทางคนตัวเล็ก
“อ่าว ก็แคทไง เล่นเป็นสิบ ๆ เกมเลยมั้ง กูเห็นในช่องสตรีม ลงตั้งหลายเกม แถมมีพวกเกมออฟไลน์อีก”
“เออ...” คนที่ทำหน้าบูด เปลี่ยนเป็นทำหน้าเหลือเชื่อ “...เล่นไปได้ไงวะ”
“สายฟาร์มก็เหนื่อยสิ มีเงินซะอย่าง ก็เติม ๆ ไปเลย แล้วมาช่วยเบย์ทำสงคราม เหมือนเกมก่อน ๆ ใคร ๆ ก็รู้จัก เบย์ บิว” มายว่า “แต่ตอนนี้ มีคนรู้จักแค่ชื่อเบย์ ชื่อบิว คนลืมกันไปแล้ว”
“ชั่งมัน” บิวยิ้มแป้นไม่แคร์เวิลด์
“อ่อ อย่างที่รู้กัน ว่าไอ้บิว...” เบย์นึกขึ้นได้ “มันกำลังหาความสงบให้ชีวิต เพราะมันรวยแล้ว มันทำเป็นซีเรียสกับการหาเงินในเกมไปงั้นแหละ แต่จริง ๆ มันรู้สึกว่า ถ้าฟาร์มยาก ก็เทพยาก กลัวจะไม่ได้โชว์เทพในสงคราม เพราะเกมอาจปิดเซิร์ฟหนีก่อน ยังไงคนชอบสงครามอย่างมัน ก็ยังอยากสนุกกับสงครามในเกมอยู่ดีนั่นแหละ ไม่มีใครเชื่อหรอก ว่ามันจะมาหาความสงบในเกมสงครามอย่างนี้ ย้อนแย้งมั้ยล่ะ”
โซเฟียที่ก้มปัด ๆ จอมือถือ ก็พยักหน้าว่า ‘ย้อนแย้งสิ’
แม้แต่เจ้าตัว ที่เอียงจอดริฟต์รถไปมา ก็ยังพยักหน้ายอมรับกับเวิลด์ว่า ‘ย้อนแย้งมากกกก’
มายขำ พลางมองชายอีกคนอย่างยอมรับ เพราะผ่านสงครามในเกมมาโชกโชนพอ ๆ กับชายคนข้าง ๆ ที่เสมือนว่าตอนนี้ พลังจ้าวแห่งสงครามนั้น ได้หลับไหลลงไป
คนที่ปอยผมพรางหน้า ผละมือจากเกม เกาคอแกรก ๆ
“ก็ดูสงครามในเกมออนไลน์ดิ แม่ง...”
มือเรียว เกาคอเสร็จ ก็มาเขี่ยปอยผมออกจากหน้า เผยดวงตาน้ำตาลเจือแดง ๆ สะท้อนแสงตะวันจนราวเปลวไฟ เพ่งจริงจัง !
“...มีบริษัทตั้งขึ้นมาทำสงครามโดยเฉพาะ”
ไฮเปอร์คาร์ ดริฟต์ซ้ายขวาไปมา ตามเส้นทางที่คดเคี้ยว แซงคันนั้นคันนี้
“พวกเกมเมอร์เก่ง ๆ บางคน ก็ไปกินเงินเดือนจากบริษัทแทน ส่วนเกมเมอร์ที่เหลือ เก่งแค่ไหน...”
เทอร์โบพุ่งออกจากท่อคู่ ส่งให้รถรูปทรงโฉบเฉี่ยวล้ำยุคในจอ พุ่งตรงเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งสมใจ ตามด้วยหน้าต่างคะแนน และรางวัลตอบแทนเป็นพรวน สีหน้าที่เพ่งจริงจังเมื่อครู่ ผ่อนคลายลงพร้อมปอยผม ตกลงมาพรางใบหน้าตามเดิม คล้ายว่ามันคอยปกปิดพลังไฟ ในดวงตาชายหนุ่มเอาไว้ ไม่ให้ปะทุ
“ก็แพ้ให้กับเงินทุนของพวกบริษัทอยู่ดี เติมแข่งกับพวกมันไม่ไหวหรอก”
“หรอ ?”
โซเฟีย แม้จะยกมือถือมาทำนุ่นทำนี่ ก็ฟังอยู่
“แล้วทำไม คนรวย ๆ อย่างพวกแก ไม่เปิดบริษัท รวมเกมเมอร์เก่ง ๆ มาทำสงครามสู้กลับล่ะ”
คำถามนี้ ทำให้ชายที่พึ่งพูดจบไป ถามกลับมาทันควัน
“แล้ว แม่ค้าตรงหัวโต๊ะน่ะ มาเป็นหุ้นส่วนไหมล่ะ ต้องใช้เงินเยอะเหมือนกันนะ ที่จะจ้างคนมาทำสงคราม”
“ไม่เอา กลัวขาดทุน”
แล้วแม่ค้าคนนี้ ก็ปฎิเสธทันควันเช่นกัน
“น่ะ เห็นมะ ก็กลัวขาดทุนเหมือนกันนั่นแหละ”
“เดี๋ยว...กลัวขาดทุน รึว่าไม่เชื่อมั่นในฝีมือกันแน่ ?” เบย์คาใจ
ทำเอามายสะอึกขำ
โซเฟียตวัดมือถือออกจากหน้า ก็เห็นว่ากำลังยิ้ม
“ชั้น เชื่อในฝีมือพวกแก แต่ก็ กลัวขาดทุนอยู่ดี”
แล้วตวัดมือถือกลับมาบังหน้า
“ไม่เอาอะ หาเงินกับการให้คนมาเช่าอาวุธ ชุดเกราะ รับร้อน เก็งกำไร กระจ๊อกกระแจ๊กไปเหมือนเดิมดีละ ถ้าขาดทุนก็พอรับไหว เนี่ย ลูกค้ารายใหม่เข้ามาอีกละ”
ว่าแล้วแม่ค้าสาว ก็โบกมือถือให้รู้ว่า กำลังคุยแชทกับลูกค้าอยู่นะจ๊ะ
เบย์เลิกคิ้ว นัยน์ว่า ก็แหงละ โซเฟียโซมันนี่ซะอย่าง สงครามไม่ยุ่ง มุ่งแต่ค้าขาย วิถีแม่ค้าของแทร่ ~
“เฮ่~ย ดูทรงแล้ว ถ้าสถานการณ์ในเกมเป็นแบบนี้ สงครามออนไลน์แบบสามปีก่อน ต้องเกิดขึ้นมารีเซ็ตทุกอย่างให้เริ่มใหม่หมดแน่...”
ส่วนบิว เหมือนจะฟุ้งซ่านขึ้นมาถึงอดีต
“ไม่เอาว่ะ ฟาร์มต่อไปดีละ ถ้าจะลงทุนก็แค่พอตัว แม่ง...สามปีที่แล้วก็เสียเงินไปตั้ง...”
‘ฮะ ? สามปีที่แล้ว...’
“เน่ ! แล้วจะพูดย้อนความให้ตัวเองเจ็บทำไมเนี่ย ชั้นก็เสียไปพอ ๆ กับแกนั่นแหละ...”
‘สงครามออนไลน์ จริงสิ...’
พลัน ดวงตาสีน้ำเงินกลม ๆ เปลี่ยนเป็นดาวสีแดงกลม ๆ ดวงหนึ่ง...
‘เมื่อยามที่อะไร ๆ ในเกมออนไลน์ ทะลุจุดสูงสุดมากเกินไป ยากเกินจะควบคุม...’
ภายในดวงดาว พบท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยแก๊สพิษสีแดง มีฟ้าแลบเปรี้ยงปร้างเป็นระยะ ส่วนทิวเขาและผืนดินเปลี่ยวร้าง ไร้ซากอารยธรรมใด ๆ ทว่า...
‘...พวกเกมแฮ็กเกอร์บางกลุ่ม จึงปะทุสงครามขึ้นมา เพื่อทำลายเกมออนไลน์เกือบทั้งหมด’
...มีสองกองทัพ พุ่งเข้าประจัญบานกันกลางผืนดินกว้าง ฝุ่นตลบ และคลุ้งไปด้วยแสงสีเอฟเฟ็กต์พลังสกิลสว่างไสว โจมตีสวนกันไปมา
‘เป็นการหวังที่จะรีเซ็ตทุกอย่าง...ให้กลับไปเริ่มใหม่’
ร่างตัวละครจากหลาย ๆ เกม ที่มากสุดก็แนวแฟนตาซีและไซไฟ พากันติดอาวุธ สู้กับฝูงมอนสเตอร์ ที่รูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดต่างกันบนผืนดิน ส่วนบนอากาศสูง ๆ มียานรบและเรือเหาะ ยิงปืนใหญ่ใส่พวกสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ยักษ์ ที่คอยบินโฉบโจมตีอยู่รอบ ๆ อย่างระห่ำ พลางไฟระเบิดตูมตามอลังการฉาบฟ้า...
‘แล้วเกมเมอร์และจีเอ็ม ต้องมาปกป้องเกมออนไลน์ร่วมกัน เพื่อรักษาผลประโยชน์ตัวเองไว้ จากพวกเกมแฮ็กเกอร์ ที่ใช้มัลแวร์และมอนสเตอร์ ที่ก็อปปี้มาจากเกมต่าง ๆ ย้อนทำลายเกมออนไลน์ ที่สร้างพวกมันขึ้นมา’
กระทั่งดาวสีแดง ที่ลอยเคว้งกลางอวกาศดำมืดนั้น มีรำแสงพุ่งออกมาทุกทิศทาง แล้วระเบิดเป็นซูเปอร์โนวา !!! ก่อนภาพจะเปลี่ยนกลับมาเป็นดวงตาสีน้ำเงินกลม ๆ ของจ้าวแห่งครามในวันนี้ ที่ครั้งหนึ่ง เคยมีส่วนร่วมในสงครามออนไลน์วันนั้น
‘จนตอนนี้ ก็ผ่านมาเกือบ ๆ สี่ปีแล้วสิ’
คนไว้ผมอันเดอร์คัตดำขลับ จากหน้าขรึม คลายลงไปกับเสียงคนในกิลด์ ที่หัวร่อต่อกระซิก
(โย่ว...)
แล้วทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่ง...
(ว่าไงวัยรุ่น...)
แผดดังขึ้น ผ่านห้องสนทนากิลด์ ให้ได้ยินทางหูซ้ายพร้อมกันดัง ๆ
(ทักทายตอนค่ำโว้ยยยย ~!!!)
เป็นเสียงที่ตัดบรรยากาศในโต๊ะได้เป็นอย่างดี จนหูแทบแตก หากใครเร่งระดับเสียงในห้องคุยกิลด์ไว้สูง ๆ ละก็
“โอ๊ย ~!”
คนที่นั่งหัวโต๊ะโดนเต็ม ๆ ส่วนอีกสามคน
“ผู้จัดการ !”
ร้องขานรับเจ้าของเสียงนั้นพร้อมกัน
ใช่แล้ว นั่นคือเสียงของคนที่ควรจะมาประจำห้องครัวทำอาหารปั่นเลเวลกิลด์ หรือมาบริหารจัดการทรัพยากรต่าง ๆ ของกิลด์ เพราะได้รับตำแหน่งผู้จัดการกิลด์ หรืออย่างน้อย ก็ควรเข้าโดมมาพบหน้ากันซะบ้าง แต่เดือนสองเดือนมานี้ ไม่เลย
ขณะเดียวกัน พอแสงคลุ้งอำพันของดวงตะวันจางลงไป มองทะลุเรือนกระจกโดมออกไป ก็พบท้องฟ้าจวนจะมืด พลาง ๆ กับเสียงสมาชิกกิลด์ ถามไถ่ ไปยังคนที่พึ่งจะส่งเสียงมาในรอบเดือนกว่า ๆ รัว ๆ
“หื~อ ลุงเอ๊ย หายไปเป็นชาติ ทำเป็นทักมานะ !” เสียงโซเฟีย
“คุณผู้จัดการ ไปทำไรอยู่ไหนเนี่ย” เสียงมาย
“ทำไรอยู่น่ะ” เสียงเบย์
(เอ่อ...)
“เฮ่ย เสียงนกเสียงกาที่ไหนวะ” เสียงบิว
“เออ ทำไมเวลาออนไลน์ ชอบปิดสถานะเป็นออฟไลน์วะ จะทักจะคุยไรไปก็ไม่ได้” เบย์ถาม
(คือว่า...)
“คนไม่เข้าโดม ไม่ปั่นเวลกิลด์ เราไม่คุยด้วย ได้ยินม้~าย ลุ๊~ง !” ผู้เป็นหัวกิลด์ว่า
“เข้าโดมมาเลย คุณผู้จัดการ” น้องมายขอร้อง
(ต้องคุยแล้วล่ะคุณยาย...)
“หายไปทำไรตั้งเดือนกว่าวะ” บิวถามด้วย
“ยาย ?”
(เพราะตอนนี้งานเข้าแล้ว)
“ช้านอายุสามสิบ ไม่ใช่สามสิบห้าอย่างลุงซะหน่อย” โซเฟียโวย
“มีไรอีกล่ะ” เสียงเบย์
(บอส...บอสบุกเมืองโว้ยยยย ~!!!)
“โอ๊ย ! จะว๊ากทำไมนักหนาเนี่ย หูจะแตก”
“บอสไร กิจกรรม ?” เบย์สนใจ
(เอ้ แก่แล้วก็งี้ หูทนเสียงดังนิดดังหน่อยไม่ได้)
เพล๊ง !
คล้ายมีคำว่า ‘แก่’ ใหญ่ ๆ หนัก ๆ ทะลุหลังคากระจก ร่วงลงผ่านภาพดวงตะวันสีแดง ไปทับคนที่ร้อนตัวกับคำว่าแก่ โครมสนั่นข้างล่าง
“บอกแล้วไง ช้านอายุสามสิบ แต่ลุงน่ะ สามสิบห้านะโว๊ย !”
ขอบฟ้าเวลานี้ ตะวันสีแดงปริ่ม ๆ จะลาลับ อยู่กึ่งกลางระหว่างท้องฟ้ากับน้ำทะเลที่มืดสลัว
“เฮ่ย บอสไรผู้จัดการ กิจกรรมปะ” เบย์สนใจเป็นพิเศษ
“ช่วงนี้เกมยังไม่มีกิจกรรมปล่อยบอสนะ ก็มีแต่...” เสียงมาย
(ป่าว บอสมันบั๊กแม็ป ต้องเกิดอีกแม็ป แต่มาโผล่อีกแม็ป)
“พูดถึงบั๊ก บั๊กก็มาว่ะ” เสียงบิว “ก็ไปบอกพวกเกมไอดอลดิ จะมาบอกกิลด์ทำไม”
"เค้านี่ไง เกมไอดอล อือ...ก็ต้องไปทำงานรอบค่ำแล้วสิ"
(ไม่เว่ย ไม่ ๆ บอสตัวนี้ จะให้พวกเกมไอดอลรู้ก่อนไม่ได้)
“อ้าว ไหงงั้น ? หนูนี่ไงเกมไอดอล ได้ยินแล้วด้วย บอกพิกัดมาซะดี ๆ คุณผู้จัดการ จะได้แจ้งศูนย์”
(เฮ่ย ดะ...เดี๋ยว เป็นความลับเลยนะ จุ๊ ๆ กิลด์พวกเรา ได้รับสิทธิพิเศษจากจีเอ็ม ให้ล่าบอสตัวนี้วันอาทิตย์ยังไงละ)
“หา ~!?”
และแล้ว ดวงตะวันสีแดง ก็ลับขอบฟ้าในที่สุด เหลือเพียงแสงสุดท้ายสีแดง ขนานไปกับเส้นขอบฟ้ายาว ๆ
พลันเสาไฟแต่งสวน พากันสว่าง พึ่บ ๆ ตามด้วยโคมไฟระย้าพวงใหญ่ ห้อยลงมากลางโดม ก็ถึงเวลาส่องสว่างพึ่บเช่นกัน และภายในโต๊ะ
“สิทธิพิเศษ...จากจีเอ็ม ?”
สาวที่แต่งหน้าโทนดาร์ก ถึงกับงงงวย เพราะทำงานกับจีเอ็มมาหลายปี ไม่เคยมีกรณีแบบนี้ ไม่มีเลยเธอ สักนิดก็ไม่มี
คนสวมเสื้อแดงลายดอกราชพฤกษ์ ยักไหล่นัยน์ว่า ก็ไม่รู้สินะ
ส่วนคนที่สวมเสื้อเชิ้ตลายตารางสีน้ำเงิน กระตุกยิ้ม
“ก็คนมันเคย ๆ กับจีเอ็มอะนะ อะไรก็เป็นไปได้”
(ฮ่า ๆ ถูก...ต้อง...แล้วละวัยรุ่น ผู้จัดการกิลด์ร็อก เนฟเวอร์ ดาย ซ่าบ้า ซะอย่าง หางานเด็ด ๆ มาให้กิลด์ได้ทุกระดับอยู่แล้ว โฮ่โฮ)
“ช้าก่อน !”
พลันฝ่ามือเจ้าของเสียง ชูขึ้นมาค้ำโต๊ะ ร่างผู้เป็นหัวหน้ากิลด์ ฟื้นเด้งกลับขึ้นมานั่งเก้าอี้นวมพนักสูงตรงหัวโต๊ะตามเดิม หลังที่เมื่อตะกี๊ โดนคำว่า ‘แก่’ หล่นทับจมไปกับพื้น กำปั้นทุบโต๊ะดังปึง !
“หาเรื่องโดนแบนสิไม่ว่า ถ้าจีเอ็มให้ล่าบอสได้ แล้วจะกลัวพวกเกมไอดอลมาเห็นทำไม หา...ลู~ง" เน้นคำว่าลุงเป็นพิเศษ (- -) เอาคืนสักนิดก็ยังดี
(เรื่องมันซับซ้อนน่ะ เดี๋ยวค่อยอธิบาย)
“เหอะ” สาวลูกครึ่งฝรั่งกอดอก ขมวดคิ้ว ไม่ไว้ใจ
(แต่รีบมาเหอะน่า ถ้ามีปาร์ตี้อื่นมาเจอบอสก่อน ถือว่ากิลด์เราสละสิทธิ์นะขอบอก)
บิว วางเกมลง ทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้นวม ป้องปากหาวนอนยาว ๆ
(มาตบบอสวันอาทิตย์ เอาของไปขาย ส่งท้ายสัปดาห์...)
เบย์ นั่งเอียงคอมาหลายนาทีจนเมื่อย ต้องหักคอกรอบแกรบ
(โอกาสแบบนี้ ไม่ได้มีบ่อย ๆ นะวัยรุ่น ยู้ฮู ว่างาย ?)
ร่างตัวละครแคท ยังกรนครอกฟี้ เพราะเจ้าของร่างยังไม่กลับเข้ามาสักที
(ติ๊กต็อก...ติ๊กต็อก...)
มาย หลังตรง กุมมือบนโน้ตบุ๊ก เกมไอดอลอย่างตน ควรไฟเขียวเรื่องผิดกฎแบบนี้หรือ ???
ระหว่างที่พากันชั่งใจว่าจะเอาไง ตรงมุมหนึ่งของโดม พบผีเด็กสาว ผมดำยาว ชุดขาว ผิวซีด ลอยตุ๊บป่อง ตุ๊บป่อง เข้ามา หลังเก้าอี้นวมท้ายโต๊ะ ที่มีคนผมทรงกลาครอบหัวกวนตีน ๆ นั่งเหยียดขาพาดโต๊ะ ดูดอมยิ้มจ๊วฟ ๆ สบายใจเฉิบ ‘ไอ้นาวนั่นเอง !’ มันกลับเข้าเกมมาตอนไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ มันสัมผัสได้ว่า มีเงาตะคุ่ม ๆ มาทาบทับบนหัว เลยเงยมอง ทันที มือซีดของผีเด็กสาวที่ว่า ก็หยุมหัวมันจัง ๆ
“ออกไป จะนั่งตรงนี้”
แล้วกระชากไอ้นาวขึ้น ราวกับเป็นหมอนข้างเบา ๆ เหวี่ยงปลิวลอยไปตกไกล ๆ ง่าย ๆ ก่อนผีเด็กสาว จะทิ้งตัวนั่งแหมะตรงเก้าอี้นวมท้ายโต๊ะ ซึ่งเป็นที่นั่งประจำ
“หนู มา แล้วค่ะ พี่ ๆ ~”
เจ้าของเสียงเย็น ๆ ยาว ๆ กับใบหน้าซีดเผือด ขอบตาคล้ำ นัยน์ตาเรืองแสงสีเหลืองเหลือกโต ซ่อนอยู่ภายใต้ผมดำพันกันเป็นปมยาว ๆ ชวนขนลุก ‘อะตอม หรือ ยัยตอม’ม Jr. สาวน้อยวัย 10 ขวบ ยศสูงสุด UPHOLD OF JUSTICE MASTER ผู้ผดุงความยุติธรรม ขั้นสูงสุด’ เกียรติยศประจำตัว ‘ไม่ปรากฏ’ เพราะน้องเปลี่ยนแนวทางการเล่นบ่อย
มาย ที่คิดว่าจะเอาไง ก็ตัดสินใจได้ในทางกลาง ๆ แบ่งรับแบ่งสู้ คาดว่า จะไม่เดือดร้อนสมาชิกกิลด์ และหน้าที่การงานของตัวเอง
“งั้น หนูให้เวลาสิบนาทีพอ ก่อนเกมไอดอลไปถึง โอเค้ ?”
(ว้าว ! เหลือเฟือ บอสพลังระดับยศกลาง ๆ เอง แป๊บเดียวก็ตาย)
บิวลูบผมพลาง ๆ
“บอสตัวใหญ่ปะล่ะ ถ้าตัวใหญ่ก็สู้ยากอยู่นะ”
(ไม่ ตัวเล็ก ๆ ทั่ว ๆ ไป)
เบย์เลิกคิ้ว
“แล้ว...ไอ้บอสที่ว่า มันอยู่ที่ไหนล่ะ”
...ขอบฟ้ายามพลบค่ำ ยังพอมีแสงสุดท้ายสีแดงริบหรี่รำไร ล้อมผืนเมืองของแม็ปใดแม็ปหนึ่งเป็นฉากหลัง ทว่าฉากหน้า เป็นเงาดำของสมาชิกกิลด์ทั้ง 6 คน หายไปคนหนึ่ง ยืนจังก้า เรียงหน้ากระดานบนดาดฟ้าตึก พากันมองไปยังสิ่งที่คลุ้มคลั่งตรงหน้าไกล ๆ แม้อยู่ห่างออกมานับกิโล ก็ยังต้องแหงนหน้ามอง ยอดตึกที่ว่าสูงแล้ว แต่มันกลับสูงใหญ่กว่าหลายร้อยเท่า ลมแรง ๆ พัดเสื้อผ้าพวกเขาพรึ่บพรั่บ !
“ตัวเล็กตรงไหนว้~า !!!” บิวลั่น
ความคิดเห็น