ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GUNS N WAR ONLINE สงครามออนไลน์ เกมเมอร์ x จีเอ็ม ปะทะ เกมแฮ็กเกอร์

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1 โลกความจริงและเกมออนไลน์

    • อัปเดตล่าสุด 2 มี.ค. 67


    ตอนที่ 1

    โลกความจริงและเกมออนไลน์


    ใจกลางกรุงเทพมหานคร

    ตึกสูงเรียงราย รถไฟฟ้าเลื้อยบนราง จราจรคับคั่ง จอแอลอีดีขนาดใหญ่ฉายโฆษณาวูบวาบรอบทิศทาง เป็นเวลาเย็นของวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ และตรงกับวันสิ้นเดือน ผู้คนจึงพลุกพล่านเต็มย่านธุรกิจกว่าวันปกติ

    เท้าที่ก้าวเดินสวนกันบนสกายวอล์ก ใคร ๆ ต่างก็สวมรองเท้าผ้าใบ ไม่ก็ส้นสูงตามแบบสตรีนิยม แต่เหมือนจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นเวลานี้ ที่เท้าทั้งสอง สวมรองเท้าแตะคีบสบาย ๆ ไม่เหมือนใคร หากใครมองผ่าน ๆ ก็อาจว่าเชยท่ามกลางแฟชั่นอื่น ๆ แต่ไม่เลย เมื่อทุกจังหวะก้าวเดิน ส้นเท้ายกขึ้น พื้นรองเท้าแตะ มีลายแกะสลักเท่ ๆ โชว์อยู่ มันเด่นชัด เมื่อเทียบกับยีนส์ทรงขาเดฟสีดำ ที่ไม่มีลวดลายหรือรอยกรีดขาด ส่วนท่อนบน เป็นเสื้อยืดรัดรูป แขนยาว คอเต่า สีดำคลุมโทน มีลายสกรีนเท่ ๆ เต็มเสื้อ และกลางอก มีโลโก้ตัว ‘R’ เล็ก ๆ ของแบรนด์เสื้อผ้า ‘ร็อก เนฟเวอร์ ได’ ใช่แล้ว ทั้งหมดที่ชายหนุ่มสวมใส่ คือแฟชั่นแบรนด์เนม สไตล์ สตรีทร็อก นั่นเอง ก็ถือว่าเป็นแบรนด์ใหญ่ ได้รับความนิยมในกลุ่มชาวร็อกมาหลายปี

    หูฟังไร้สาย ถูกหยิบออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วเหน็บที่หู

    แว่นกันแดดพับได้ ก็ถูกหยิบออกจากกระเป๋ากางเกงอีกข้าง กางออก แล้วสวม

    นิ้ว กดปุ่มเพลย์ที่หูฟัง บทเพลงเฮฟวีเมทัลร่วมสมัยก็ดังขึ้น แล้ว...คนที่ซ่อนใบหน้าใต้แว่นกันแดดสีทอง กับแต่งตัวสไตล์ร็อกเวลานี้ อย่างเบย์ กำลังก้าวฝ่าผู้คนบนสกายวอล์ก ไปยังที่ ที่ต้องการจะไป ด้วยรอยยิ้มภูมิใจในวิถีทางของตน

     

    ห้างสรรพสินค้า ชั้น 2 โซนเกม

    สนามบาส กับเอไอนักบาส เป็นภาพเสมือนจริง 3 มิติ ปรากฏให้เห็นผ่านแว่น AR ซึ่งสวมครอบตาคนที่ฟังเพลงเมทัลมันส์ ๆ อยู่ตอนนี้ AR คือการมองเห็นภาพเสมือนจริงซ้อนทับภาพความจริง ต่างจาก VR ที่เห็นเพียงภาพเสมือนจริงเท่านั้น ลูกบาสเรืองแสงเสมือนจริง 3 มิติ อยู่ในมือชายหนุ่ม ซึ่งสัมผัสได้ด้วยคลื่นสั่นจากถุงมือที่สวม พอสัญญาณเริ่มดังขึ้น คนที่เป็นฝ่ายรุกกุมลูกบาสถนัดมือ เบี่ยงหลบเอไอตัวแรก ที่เข้ามาเพื่อจะแย่ง

    ‘มัน...ก็นานหลายปีแล้วสิ จนแทบ...ไม่ได้จำว่ากี่ปีมาแล้ว’

    เบย์ ขว้างลูกบาสให้ชายคนหนึ่งทีมเดียวกัน พอรับได้ชายคนนั้น ก็ใช้ทักษะหลบหลีกเอไอไม่กี่วินาที ก็สามารถทำการดังค์ได้อย่างสวยงาม

    ‘ที่เรา...ต้องตื่นขึ้นมาบนเตียงซ้ำ ๆ หลังจบจากการออนไลน์ในเกม’

    คราวนี้ เบย์ รับลูกบาสจากชายอีกคนในทีมได้ ก็ใช้ทักษะหลบหลีกเอไอ จนมีจังหวะให้ชู้ตไกล ๆ ลงห่วงได้อย่างสวยงามเช่นกัน

    ‘บ้างก็กลางวันเล่นเกม กลางคืนนอน บ้างก็กลางวันนอน กลางคืนเล่นเกม สลับกันอย่างนี้วนไปมา ตามแต่สถานการณ์ในเกม’

    ทุกคนยกมือตบกันกลางอากาศ เมื่อการเล่นบาสหลายนาที จบลงด้วยชัยชนะของทีมมนุษย์ เบย์ โบกมือแยกย้ายกับเพื่อนร่วมทีม ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร

    ‘ส่วนสงครามในเกมน่ะเหรอ’

    เท้าสองข้าง วิ่งมาด้วยความเร็ว มือขวาที่ยังสวมถุงมือคลื่นสั่น เหวี่ยงขวับ ปล่อยลูกโบว์ลิ่งเรืองแสงเสมือนจริงออกไป

    ‘ไม่ได้มีแค่สงครามรายเดือน แต่ยังมีสงครามรายวันด้วย เพื่อแลกมาซึ่ง...’

    ลูกโบว์ลิ่ง หมุนกลิ้งไปตามเลนอย่างเร็ว เก็บเหรียญสกิลจาก 1 ใน 3 เหรียญได้ ก็ผ่านไปชนเข้ากับพินตุ๊กตากระต่าย แตกกระจายไปหลายตัว และสกิลที่ได้จากเหรียญ ช่วยให้ลูกโบว์ลิ่ง หมุนปั่นไปชนพินกระต่ายที่เหลือแตกกระจายจนหมด

    ‘...ชัยชนะ ที่มีรางวัลตอบแทน แล้วสามารถแลกเป็นเงินของจริง เอามาใช้จ่ายในโลกความจริงได้ด้วย’

    สกอร์บอร์ดขึ้นคำว่าสไตร์ค ! ผู้ทำแต้มได้สวย ๆ กำหมัด พอใจกับคะแนน

    ฝูงก็อบลินตัวเขียว พยายามโจมตีด้วยกรงเล็บและเขี้ยวแหลมคมทุกทิศทาง ไลท์เซเบอร์ ในมือเบย์ ควง ฟาดฟัน เป็นระวิง

    ‘ก็...เป็นเรื่องปกติของเกมแนว MMORPG เพราะเงิน คือสิ่งสำคัญที่สุด หากเกมไหนยังมีสงคราม หมายความว่าเกมนั้น ยังมีผลประโยชน์ให้ตักตวง ตรงกันข้าม หากเกมไหนไม่มีสงครามละก็...’

    ก็อบลินตัวสุดท้าย ขาดเป็นสองท่อน ภายใน 3 นาทีกว่า ชายหนุ่มสามารถกำจัดก็อบลินครบร้อยตัว ด้วยกระบี่แสงเล่มเดียวในมือขวา

    ‘...เกมเหล่านั้น ระบบเศรษฐกิจกำลังล่มสลาย เตรียมปิดตัวลงในไม่ช้าไงละ’

     

    ชั้น 1 โซนอาหาร

    ร้านอาหารที่ขายสารพัดเมนู ไทย เทศ เรียงราย ล้อมคนที่กำลังนั่งทานตามโต๊ะส่วนกลาง เสียงคุยเอื่อย ๆ พลางช้อนส้อมกระทบภาชนะเกร๊งกร๊าง

    หมูสามชั้นกรอบ ๆ แซมด้วยพริกแดงหั่นหยาบ ๆ เผ็ด ๆ และใบกะเพราหอม ๆ โปะด้วยไข่ดาวกรอบ เพียงส้อมเฉาะลงไป ไข่แดงก็ไหลเยิ้มเป็นลาวา ราดบนข้าวหอมมะลิขาว ๆ ร้อน ๆ แล้วทุกองค์ประกอบบนจาน ก็ถูกช้อนตักเข้าปากคำแล้วคำเล่า เรียวปากชมพูอ่อนเผยอ ปล่อยเสียงซี้ดซ้าดออกมา จากความเผ็ดร้อนของอาหารที่กินเข้าไป

    รองเท้าแตะคีบสลักลาย ยีนส์ขาเดฟสีดำ เสื้อยืดรัดรูปโชว์ลายสกรีน เบย์ ที่ตอนนี้ไม่ได้สวมแว่นกันแดด ยอมเผยใบหน้าคม ๆ ขณะทานข้าวคนเดียวอย่างหิวสุดขีด แน่ละ เพราะตั้งแต่เมื่อคืนที่เริ่มนอน จนข้ามมาตื่นในช่วงเย็นของวันนี้ ก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องสักคำ ไม่นับน้ำไม่กี่อึก ที่ดื่มก่อนออกจากคอนโดมาที่นี่ แถมยังมาใช้พลังงานกับเกมเสมือนจริงไปตั้งหนึ่งชั่วโมง อาจดูอิดโรยบ้าง แต่ก็ถือว่าร่างกำยำนี้ แข็งแรงทั้งภายในและภายนอก

    ช้อนส้อม ถูกวางลงบนจานที่ว่างเปล่าทั้ง 3 จาน ไม่เหลือเศษซากอาหารหรือข้าวสักเม็ด

    ‘กะเพราหมูกรอบร้านนี้ กินทีไรก็อร่อยแฮะ’

    ร่างสูง ทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้ แขนข้างหนึ่งห้อยต่องแต่ง อีกข้างลูบท้องให้รู้ว่าอิ่มแปล้ ปากอ้าพะงาบ ลิ้นแลบยาวออกมา ด้วยกะเพราหมูกรอบ 3 จานที่เผ็ดสุด ๆ คนที่ไว้ผมทรงเปิดข้าง และเซตบนแสกข้างเท่ ๆ จึงต้องระบายความเผ็ดสักหน่อย

    ‘อาทิตย์นึง ได้ออกมากินข้าวข้างนอก ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ’

    เบย์ สร้างกฎกับตัวเองว่า ทุก ๆ วันอาทิตย์แต่ละสัปดาห์ จะต้องออกมาหาไรกินข้างนอก และออกกำลังกายเล็กน้อย เพื่อผ่อนคลายสมอง หลังจากที่ทั้งสัปดาห์ เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการหาเงินในเกม ถึงอย่างนั้น

    ‘ก็นะ วันอาทิตย์อย่างนี้ ก็ถูกกฎหมายบังคับให้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์นี่หว่า’

    มือเรียว คว้าหมับที่แก้วพลาสติกใส ๆ

    ‘ทั้งการทำงานบนโลกความจริง และหาเงินในเกมออนไลน์ พากันหยุดหมด’

    ชาเย็นสีส้ม พุ่งขึ้นไปตามหลอดเข้าปากที่กำลังดูด จมูกโด่ง ๆ สูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของชาไทย ตาหลับลงดื่มด่ำกับรสชาติที่หวานอร่อย เย็นสดชื่นถึงสมอง และดับความเผ็ดได้เป็นอย่างดี

    ‘ดังนั้นวันนี้ เกมเมอร์เลยอดฟาร์มของในเกม เข้าเกมไปก็ไม่มีไรทำอยู่ดี นอกจาก...’

    เสียงอึกเบา ๆ เมื่อคอกลืนชาเย็น

    ‘สนามประลอง สำหรับพวกอยากโชว์พาว กับนั่งคุยกัน สำหรับคนขี้เหงา ก็ เป็นการฆ่าเวลา รอของที่วางในตลาดขายออกไปพร้อมกัน ไม่ก็ หาซื้อไอเทมที่อยากได้ เพราะวันอาทิตย์อย่างนี้ ของจะราคาถูกกว่าวันอื่น ๆ เพราะแข่งกันตัดราคา’

    โรบอต ล้อหมุน เคลื่อนเสิร์ฟอาหารตามโต๊ะ...

    ‘จะว่าไปแล้ว พอนึกถึงการหาเงินจากเกม เรา ก็แทบจำไม่ได้ว่ากี่ปีมาแล้ว ที่เริ่มทำอาชีพนี้ เพราะช่วงแรก มันคลุมเครือระหว่าง เล่นเกมเพื่อความสนุก กับเล่นเพื่อหาเงินจริงจัง’

    เสียงเหมือนว่าชาเย็นนั้นหมด จนดูดไม่ค่อยขึ้น จึงถูกวางลง

    ‘แต่ ที่จำได้ชัด ๆ คือ...ห้าเดือนมาแล้ว’

    ขนมครก ถูกส้อมจิ้มแล้วเอาเข้าปากกินต่อ

    ‘ที่ถือว่ามีรายได้จริง ๆ จากเกมปัจจุบัน ซึ่งเป็นเกมเดียวที่เล่นอยู่ในตอนนี้’

    GUNS...

    ‘แต่ ถ้ารวมเวลาที่เล่นเกมนี้มาทั้งหมด ก็สองปี กับอีก... สิบเดือน’

    ...N WAR ONLINE

    ‘โดยครึ่งปีแรก ต้องเก็บเกี่ยว EXP เลื่อนขั้นตัวละครให้ถึงจุดสูงสุด พร้อมเรียนรู้ระบบเกมตามระเบียบ’

    พวกมอนส์เตอร์ ถูกพลังโจมตี ล้มตายเป็นเบือ ในแม็ปใดแม็ปหนึ่ง...

    ‘ส่วนครึ่งปีหลัง ถึงได้เริ่มฟาร์มหาเงินมาอัปเกรดไอเทมสวมใส่ตัวละครให้แข็งแกร่ง พอเข้าต้นปีที่สอง จึงมีพลังมากพอจะสู้กับบอสโหด ๆ เพื่อหาของดี ๆ มาขาย ไม่ก็ใส่เอง’

    เงาดำของร่างสูง มีไฟครอก ล้มลงตายแทบเท้าคนที่ปลิดชีวิตมัน...

    ‘และเมื่อแข็งแกร่งจนถึงจุดสูงสุด จึงได้เริ่มสู้กับผู้เล่นด้วยกัน ในสงครามรายวัน เพื่อชิงของรางวัลระดับพรีเมียม’

    เกมเมอร์นับหมื่น พุ่งโจมตีกันไปมา แสงสีพลังธาตุสว่างไสวใต้ฟ้าคราม...

    ‘แล้วด้วยฝีมือ จึงพอได้รางวัลพรีเมียมที่ว่า มาขายบ้างในบางวัน’

    ร่างผู้ที่มีไฟฟ้าสถิตรอบตัว สยายปีกไฟฟ้า ผงาดเหนือความพ่ายแพ้ของใครต่อใคร

    ‘มันก็พอเพิ่มตัวเลขในบัญชี ให้มีกำลังใจหาเงินในอาทิตย์ต่อ ๆ ไปละนะ ดีกว่าเอาแต่ฟาร์มกับมอนสเตอร์ลูกเดียว ได้เงินช้า แถมน่าเบื่อตายชัก’

     

    ‘แต่ยังไงก็ตาม ขึ้นชื่อว่าเกมแนวสงคราม มันไม่หยุดเพียงแค่สงครามกิ๊กก๊อกรายวันอยู่แล้ว เมื่อค่ายเกม อยากได้เงินจากเกมเมอร์มากขึ้น แล้วเกมเมอร์ ก็อยากได้เงินจากค่ายเกมมากขึ้นเช่นกัน อุปสงค์มา อุปทานก็เกิด...’

    เสียงหวีดร้องของคนจำนวนมาก ดังระงม

    ‘...จึงเป็นเหตุให้เรา ก้าวเข้าสู่ท้ายของปีที่สอง ของการเล่นเกมนี้ ซึ่งก็คือ ตลอดห้าเดือนมานี้’

    ร่างคนมากมาย ตกลงมาจากฟ้า ตัดกับแสงอันริบหรี่เป็นเงาดำวูบวาบ...

    ‘เป็นห้าเดือน แห่งการหาเงินจากเกมออนไลน์ขั้นสูง’

    ระเบิดตูมสนั่น แรงอัดฉีกร่างคนกระจาย เปลวไฟก็แผดเผาซ้ำจนสลาย...

    ‘โดยการที่เรา ยอมอัดฉีดเงินสามล้านกว่าบาท เข้าสู่ระบบเกม แล้วกว้านซื้อไอเทมดี ๆ มาเสริมแกร่งตัวละคร ให้ทะลุจุดสูงสุด จนอันดับติดหนึ่งในสิบ ทำเนียบผู้แข็งแกร่งของเซิร์ฟเวอร์’

    ปีกใหญ่ที่คลุมทับผืนเมืองของมอนสเตอร์มหึมา...

    ‘จากนั้นก็เฝ้ารอ...’

    ...บินเขมือบคนที่ไม่ทันระวังเป็นอาหาร ตายตกตาม ๆ กัน

    ‘ทุก ๆ วันสุดท้ายของเดือน วันที่ท้องฟ้าเป็นสีเลือด’

    ร่างผู้ที่สวมเสื้อลายตารางสีน้ำเงิน ยืนถือปืนกลพลังธาตุไฟฟ้าอยู่บนยอดตึก แหงนมองความบ้าคลั่งใต้แผ่นฟ้าแดงฉานนั้น

    ‘สงครามรายเดือนไงละ !’

    ปีกไฟฟ้าสยายใหญ่ท่วมแผ่นหลัง ดูดกระแสไฟฟ้าทั่วทั้งเมืองมาเติมพลังให้ตนเอง เพียงกระพือวูบเดียว ร่างผู้นั้น ก็พุ่งขึ้นจากยอดตึก เป็นเส้นแสงยาวหยักของสายฟ้าพุ่งขึ้นไป กระแทกผืนเมฆจนระเบิดกินวงกว้าง พร้อมช็อตเปรี้ยงปร้างร่างคนที่กำลังสู้กันใต้ท้องฟ้า มอดไหม้แหลกสลายตาม ๆ กัน

    ‘เพื่อเงินรางวัลนับล้านบาท !’

    ร่างที่มีปีกใหญ่ กระพือลอยอยู่ชั้นบรรยากาศ ข้างล่างเป็นผืนเมฆ ที่โดนพลังไฟฟ้าระเบิดใส่จนแหวกเป็นเวิ้งกว้าง แล้วเงาดำของปีก ที่ย้อนแสงตะวัน ก็กระพือ ดูดกระแสไฟฟ้าจากผืนเมฆขึ้นมาเติมพลังอีกครั้ง ก่อนร่างนั้น จะพุ่งย้อนกลับลงไป ช็อตคนที่ยังไม่ตายอีกรอบจนตาย กระแทกผืนเมืองจนระเบิดเปรี้ยงปร้างสนั่นหวั่นไหว...

    ‘มัน...เป็นชัยชนะบนยอดภูเขาน้ำแข็ง แค่คนเก่ง ๆ รวย ๆ และกล้าลงทุนเท่านั้น ที่มีสิทธิเอื้อมถึงเงินรางวัลสูงสุด ส่วนที่เหลือนั้น ก็ฟาร์มเงินกับพวกมอนสเตอร์ต่อไป’

    ขนมครกหมด ชาเย็น...ถูกมือเรียวยกขึ้นอีกครั้ง น้ำชาผสมเกล็ดน้ำแข็งที่ละลายก้นแก้วนิดเดียว ถูกปากบาง ๆ ดูดขึ้น

    ‘แล้วใครบ้างล่ะ ในที่แห่งนี้ ที่หาเงินจากเกมออนไลน์เหมือนกัน ไม่สิ ต้องถามว่า ที่นี่...’

    คู่ตาดำ สะท้อนผู้คนมากหน้าหลายตาในศูนย์อาหาร

    ‘...ใคร ที่ชอบทำสงครามแย่งชิงเงินรางวัลจากเกมก่อน ๆ จนเกมปัจจุบัน แล้วเคยสู้กัน ? หึ ขออย่าได้เจอกันเลย’

    เครื่องดื่มในมือหมดแล้วจริง ๆ จนดูดไม่ขึ้นถูกวางลง และเกมเมอร์ ผู้กระหายสงครามอย่างเบย์ ลุกพรวดขึ้น

    ‘ไปหาซื้อเสบียงตุนไว้กินอาทิตย์หน้าเลยละกัน’

     

    โซนซูเปอร์มาร์เกต ชั้นวางสินค้าเรียงราย คนที่แต่งตัวสไตล์ สตรีทร็อก กำลังเข็นรถเข็น หาสิ่งต้องการ...

     

    ภายในห้องนอนที่สลัว พอให้ได้เห็นสิ่งของต่าง ๆ ที่บ่งบอกตัวตนผู้เป็นเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี

    ผ้าห่มลายร็อก ๆ ดาร์ก ๆ กองไว้บนเตียงเหมือนไม่จำเป็นว่าต้องพับเก็บให้เรียบร้อย หรือไม่มีใครคอยพับเก็บให้ ต่างจากบนหัวเตียง กล่องบ็อกซ์เซตวงร็อกหลายวงที่ราคาน่าจะแพง ถูกจัดเรียงเป็นระเบียบ ให้รู้ว่าคลั่งไคล้และใส่ใจเป็นพิเศษ เครื่องเล่นแผ่นเสียงแบนเรียบ มีแผ่นเสียงไวนิลขนาด 12 นิ้ว ของวง BDSM ซึ่งเป็นวงร็อก เฮฟวีและพาวเวอร์เมทัล ร่วมสมัย วางค้างไว้หลังเล่นเสร็จ ผนังห้อง เต็มไปด้วยภาพโปสเตอร์วงร็อกมากมาย ทุกภาพ ล้วนมีโลโก้ตัว ‘R’ แบบเดียวกับแบรนด์ ‘ROCK NEVER DIE’ ประทับอยู่ ที่จริงแล้ว หากกล่าวถึงทั้งหมด แบรนด์นี้ ไม่ได้ทำแค่เสื้อผ้าสไตล์ร็อกขาย แต่ยังเป็นถึง ‘ค่ายเพลงร็อก’ ขนาดใหญ่ด้วย มุมต่อมา แสงไฟเล็ก ๆ กะพริบปิบ ๆ จากโน้ตบุ๊ก ที่ถูกเสียบชาร์จไว้บนโต๊ะทำงาน มันจะถูกใช้ในบางคราวแทนสมาร์ตโฟนเพื่อความสะดวก สำหรับโซเชียลมีเดีย หรือซื้อขายของในระบบตลาดเกมออนไลน์ ภายในห้องน้ำ เสื้อผ้าและผ้าขนหนูที่ใช้แล้วจากหลายวัน ยังไม่ได้เก็บไปซัก พาดทับกันบนราว

    ผักผลไม้ เนื้อสัตว์ เครื่องดื่มต่าง ๆ และที่ขาดไม่ได้ ‘ใบกะเพรา’ ที่ไม่ใช่ถั่วฝักยาวหรือข้าวโพดอ่อน และหัวหอมใหญ่ ถูกยัดเข้ามาชั้นใครชั้นมัน ตาเรียวคมมองเช็กว่าครบ ประตูตู้เย็นปิดดังปึง

    ถุงผ้ารักโลกตามกระแสนิยมถูกคว่ำ เทพวกซองขนมขบเคี้ยว หวาน ๆ มัน ๆ กรอบ ๆ กองไว้บนโต๊ะทานข้าวอย่างนั้น ไม่น่าเชื่อว่าเขากินของแบบนี้เข้าไปทุกวัน โดยที่พวกมันไม่สามารถทำลายหุ่นลีน ๆ มัดกล้ามแน่น ๆ นั้นได้แม้แต่น้อย

    หน้าจอสมาร์ตวอตช์แสดงตัวเลขว่าคนที่สวม ได้เคลื่อนที่เป็นระยะทางรวม 2.3 กิโลเมตร และแคลอรี่เผาผลาญไป 190.6 นิ้วกดปุ่มหยุดนับก้าวดังติ๊ด คนตัวสูงเสยผมเป่าปาก เมื่อภารกิจบนโลกความจริงเสร็จสิ้น คู่ตาดำมองไปยังภารกิจต่อไป

    ‘ถึงเวลา...กลับสู่ชีวิตอีกโลกแล้วสินะ’

     

    มือข้างหนึ่ง ค่อย ๆ ผลักบานประตูเข้าไปยังห้อง ๆ หนึ่ง พลางผู้เป็นเจ้าของห้องอย่างเบย์ ออกคำสั่ง

    "วีอาร์เอกซ์ สตาร์ต"

    วัตถุทรงกลม ตั้งตระหง่านจากพื้นสูงเกือบชนเพดาน ย้อนแสงตะวัน ที่ส่องเข้ามาทางระเบียงด้านหลังจนเป็นเงาดำ พลันมีแสงวิ่งเป็นเส้นตามตัวอักษรอังกฤษ จนสว่างเป็นโลโก้เด่นชัด VRX4Pro แล้วทั้งหมดก็สว่างขึ้น

    ตามมาด้วยร่างเงาดำของชายหนุ่ม เดินตรงเข้าไปหาเครื่องจำลองโลกเสมือนรุ่นล่าสุด ที่ถูกออกแบบมาอย่างไซไฟสุดล้ำ มือเรียว กระชากเสื้อผ้าออกจนเผยร่างเปลือย แม้ย้อนแสง แต่ยังพอเห็นกล้ามเนื้อแผ่นหลังกับร่องกระดูกสันหลัง ตรงยาวลงถึงแก้มก้น ถูกปิดด้วยกางเกงชั้นในเอาไว้ ก่อนมืออีกข้าง จะคว้าชุดอะไรสักอย่างขึ้นมาสวมใส่

    บอดี้สูทรัดรูป มีลายแถบตามสรีระ มีโลโก้ VRX กลางอก คลุมทั้งตัว จากเท้าขึ้นมาถึงหัว เว้นไว้แต่ตรงใบหน้าผู้สวม ที่กำลังสะท้อนแสงสีฟ้าซึ่งสว่างออกมาจากตัวเครื่อง แล้วฝ่ามือยื่นมาแตะ เซนเซอร์ดังติ๊ด...

    เสียงวี้ดยาว ๆ เมื่อกระจกทรงกลมเคลื่อนเปิด เป็นช่องประตูให้คนตัวสูงเดินเข้าไป ก่อนเคลื่อนปิดตามหลัง ภายใน สว่างไปด้วยแสงสีฟ้า เบย์ เห็นร่างตนเองภายใต้บอดี้สูท กำลังยืนในท่ากางแขนและขาเล็กน้อย สำหรับเตรียมเชื่อมต่อ

    "ติดตั้งอุปกรณ์"

    จึงสั่ง VRX ทันที แล้วตามมาด้วยเสียงหญิงสาวจากระบบตอบรับ

    “ระบบกำลังติดตั้งอุปกรณ์”

    แขนกล เคลื่อนมาเชื่อมต่อกับบอดี้สูทตรงแผ่นหลัง หมุนล็อคประกบกันเป็นการเชื่อมต่อสำเร็จ หน้าที่ของมันคือ คอยประคองร่างไม่ให้ล้มเมื่อเคลื่อนไหวในโลกเสมือน ตามมาอีกแขนกล โผล่ขึ้นจากพื้นที่เหยียบ เชื่อมต่อเท้า เป็นการสร้างพื้นสัมผัสทุกการก้าวเดิน และแขนกลสุดท้าย เคลื่อนเอาหน้ากากมาปิดทั้งใบหน้าจนมืดมิด คนที่เห็นเพียงความมืด ได้ยินแค่เสียงหายใจตัวเองฟืดฟาด

    จากภายนอก หน้ากากที่ว่ามีหลายหลอดใส ๆ บรรจุน้ำสีต่าง ๆ อยู่ภายใน ถูกเสียบติดตั้งไว้ใต้ตำแหน่งจมูก เพื่อสร้างกลิ่นสังเคราะห์ต่าง ๆ ตามสภาพแวดล้อมในโลกเสมือน ส่วนบอดี้สูทที่คลุมทั้งตัว มันคอยสร้างคลื่นสั่นหลายระดับ บนผิวหนังและลึกลงกล้ามเนื้อ เพื่อให้รู้สึกถึงการสัมผัสสิ่งต่าง ๆ รวมถึงการกระแทกกระทั้นด้วย และยังมีเซนเซอร์ตรวจจับท่าทางเคลื่อนไหวของผู้สวม เพื่อสั่งการร่างสมมุติในโลกเสมือน ให้เคลื่อนไหวตรงกัน

    “ติดตั้งอุปกรณ์สำเร็จ”

    แสงสีฟ้าภายในสลัว

    “ระบบกำลังเชื่อมต่อ”

    ‘ป่านนี้ทุกคน...’

    เมื่อภาพเสมือนจริงเริ่มฉาย...

    “เชื่อมต่อสำเร็จ”

    ...แสงสีฟ้าที่หน้ากาก VR ระดับดวงตา สว่างขึ้น

    ‘คงออนไลน์กันพร้อมหน้าแล้วละมั้ง’

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×