ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The mist spell : อาถรรพ์แห่งหมอก

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter1 : จุดเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 49




    แสงอาทิตย์ยามเช้าทอแสงสดใสต้อนรับวันใหม่ผู้คน สัตว์ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และไม่เว้นแม้กระทั่งหุ่นยนต์ซึ่งคอยตามเจ้านายของมันเพื่อที่จะรับใช้ เสียงนกร้องขับขานราวกับประสานเสียงดังกังวานไปทั่วทั้งอาณาจักร

    พอสเพอรัลเมืองแห่งเทคโนโลยีแห่งนี้ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะเต็มไปด้วยเทคโนโลยีและอื่นๆอีกมากมายแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เมืองแห่งนี้เสื่อมเสียธรรมชาติเลยแม้แต่น้อย......

     

      หน้าต่างห้องใต้หลังคาของบ้านหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่แถวๆชานกลางเมืองพอสเพอรัล เด็กสาวผมสีทองยาวถึงกลางหลัง นัยตาสีเขียวมรกตระยิบระยับ โครงหน้าและเค้าโครงหน้ารูปไข่ที่ได้สัดส่วนกับ ริมฝีปากได้รูปสีแดงราวกลีบกุหลาบ เธอกำลังถอดมองสภาพแวดล้อมของเมืองอย่างเศร้าศร้อย ถึงแม้ว่าเธอนั้นจะเป็นคนที่มีมนุษย์สำพันธ์ดี ถ้าดูจากภายนอก เธออาจจะดูเป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใสในสายตาของใครหลายคน แต่ภายในนั้นมันช่างเงียบเหงาและหว้าเหว่ เสียงทะเลาะอย่างรุนแรงดังขึ้นทำให้เธอตื่นจากภวังค์ทันที

     

    ราเชล จะขดตัวอยู่ข้างบนอีกนานไหม นังเด็กขี้เกียด เสียงป้าของเธอดังขึ้นทำให้เธอรีบลงไปข้างล่างอย่างรีบร้อน อันที่จริงป้าของเธอเคยเล่าว่า ทั้งแม่และพ่อของเธอทิ้งเธอไปตั้งแต่ยังเล็กเพราะทั้งคู่ไม่มีเงินพอที่จะเลี้ยงเธอจึงมาทิ้งเอาไว้กับป้าและลุง ลุงกับป้านั้นมีลูกด้วยกันชื่อว่า เจฟ ซึ่งแก่กว่าเธออยู่ 2 ปี เขาเป็นพี่ชายที่ดีและคอยปกป้องเธอตลอด รวมไปถึงป้องกันไม่ให้แม่ของเขาคอยมาทุบตีเธอบ่อยๆโดยไม่จำเป็น

     

    แม่ก็ราเชลไม่ใช่คนอย่างนั้นสักหน่อยเสียงเจฟตะโกนแหวกเสียงลุงของเธอที่คอยสบถงึมงำ พร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วยมากินข้าวด้วยกันเถอะเขาพูดเมื่อเห็นราเชลมาถึง

     

    ขอบใจราเชลกล่าวก่อนจะนั่งลงบนโต๊ะอาหาร แล้วเริ่มต้นลงมือรับประทานอาหาร ในขณะที่บุคคลอื่นในโต๊ะเริ่มโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อน และไม่เคยเลยที่ทั้งลุงและป้าของเธอจะไม่แขวะหรือนินทาเธอต่อหน้าต่อตา ร้อนถึงเจฟที่คอยแก้ต่างให้เธอบ่อยๆ ซึ่งเธอก็ได้แต่ขอบคุณอยู่ลึกๆ ไม่นานเสียงโทรศัพท์ของราเชลก็ดังขึ้น

     

    แฟนแกโทรมารึไงป้าเริ่มพูดด้วยเสียงประชดประชันขณะที่เธอเดินไปรับโทรศัพท์ซึ่งสามารถเห็นหน้ากันได้เหมือนเวลาที่อยู่ด้วยกันทุกอย่าง ซึ่งเรแกนเพื่อนชายคนหนึ่งของเธอโทรมานั่นเอง

     

    ป้าก็รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนหนูราเชลพูดเบาๆแต่ก็ดังพอที่จะให้คนทั้งโต๊ะได้ยิน ซึ่งป้าของเธอก็ทำหน้าล้อเลียนเธอในทันทีเมื่อได้ยินเสียงและหน้าของเรแกน

     

    ราเชล ฉัน...เอ่อ...ทุกคนไปรอกันอยู่ที่สนามนะ เร็วๆเข้าล่ะ เรแกนรีบพูดเมื่อเห็นว่าสถานการในบ้านของเธอไม่ดีอีกแล้ว

     

    อืม เดี๋ยวฉันไป ราเชลตอบและกดวางสาย พร้อมๆกับที่ลุงของเธอเริ่มต้นสนทนานินทาเธอในทันที

     

    เด็กสมัยนี้ เหอะยังเด็กอยู่แท้ๆทำตัวไปมีแฟน

     

    หนูจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่าเขาเป็น เพื่อน หนูราเชลจงใจตะโกนคำว่าเพื่อนอย่างอดไม่ได้ใส่หน้าลุงและป้าของเธอก่อนจะออกจากบ้านไป 

     

    ...........................................

     

      เมื่อ ออกจากบ้านมาเธอก็เดินมาตามทางเรื่อยๆ ซึ่งก็ใช้เวลาร่วม 20 นาที กว่าจะถึงสนามกีฬาประจำเมืองซึ่งปกติแล้วเพื่อนๆคนอื่นๆของเธอจะมียานประจำตัวแต่ละคนเอาไว้เวลาไปไหนมาไหน แต่ลุงและป้าของเธอไม่อนุญาตให้ซื้อเนื่องจากว่า มันเปลือง และ ฟุ่มเฟือย ทั้งๆที่เทียบกับความจริงแล้วตอนเธอไปโรงเรียน ลุงกับป้าของเธอก็ไม่ยอมไปส่งเสียด้วยทำให้เธอต้องเดินไปโรงเรียน  ซึ่งกว่าจะเดินไปถึงก็ปาเข้าไปครึ่งชั่วโมงแต่เธอก็ไม่ค่อยจะเดินบ่อยนักหรอกเพราะปกติแล้วเพื่อนๆของเธอจะมารับ เนื่องจากเห็นใจกับการเดินทางสุดโหดเมื่อพวกเขาได้รู้เข้า

     

    บรรยากาศของพอสเพอรัลยังคงไม่เปลี่ยนแปลงยานยนต์ต่างๆวิ่งกันเต็มท้องฟ้าไปหมดอีกทั้งยานที่ลอยอยู่บนพื้นถนนอีกด้วย ยานประจำทางจอดเมื่อมาถึงป้าย กับคนเก็บตั๋วหุ่นยนต์ซึ่งคอยเก็บตั๋วผู้โดยสารเมื่อไปนั่งบนยานเรียบร้อยแล้ว ราเชลได้แต่เดินไปมองไปที่ผู้คนด้วยความรู้สึกอิจฉาหน่อยๆที่ไม่ต้องมาเดินแบบเธออย่างนี้ จะทำอย่างไรได้เล่าก็ป้าของเธอไม่เคยให้ค่าขนมอะไรเลยมาซักแดงเดียว เงินที่มีอยู่ก็คงเป็นเงินเก็บออมจากเงินที่ได้จากการไปโรงเรียนซึ่งตอนนี้เหลือเพียงแค่ซื้อข้างกลางวันร่วมกับคนอื่นๆเท่านั้น และแล้วอยู่ๆก็มีเสียงแตรของยานลำหนึ่งดังขึ้นข้างหลังเธอ ทำให้เธอต้องหันไปมองและก็พบกับฟินตันเพื่อนอีกคนหนึ่งของเธอ ผมสีน้ำตาลเข้มถูกซอยระต้นคอปลิวไหวตามแรงลม นัยน์ตาสีเงินแวววาวแลดูที่ขี้เล่นอย่างไม่คิดปิดบัง ดวงหน้าหล่อเหลาคมคายที่สามารถทำให้หญิงสาวทุกคนต่างก็ใจละลายไปตามๆกัน เขากำลังส่งยิ้มให้เธออย่างอารมณ์ดี ซึ่งมันส่งผลให้กับสภาพจิตใจของเธอนิดๆ

     

    ใจคอเธอคิดจะเดินอย่างนั้นไปเรื่อยๆหรอ เขาถามพลางส่งยิ้มให้ ซึ่งทำให้ราเชลส่งยิ้มตอบทันทีก่อนจะเดินขึ้นไปซ้อนข้างหลังเขา พร้อมกับเอ่ยอย่างกวนประสาท

     

    ก็คงจะเป็นอย่างที่นายเห็นอยู่น่ะแหละเมื่อเธอพูดจบฟินตันก็ยังคงส่งยิ้มน้อยๆมาให้ก่อนจะกดปุ่มบางอย่าง กระจกใสเคลื่อนตัวมาครอบทั้งยานช้าๆ พร้อมกับเสียงผู้หญิงประจำเครื่องเพื่อบอกว่าระบบทำงาน และยานก็ค่อยๆเคลื่อนตัวทะยานไปบนฟ้าอย่างนุ่มนวล

     

    นี่ฉันเห็นว่าเธอ ไม่ชอบให้ฉันขับเร็วๆนะเนี่ย ฟินตันพูดกึ่งเล่นกึ่งจริง

     

    เอ้า..แล้วนายจะรีบขับไปตายที่ไหนล่ะคำพูดพล่อยๆถูกเอ่ยออกมาจากปากของราเชล ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ใบหน้าของฟินตันที่ยิ้มตลอดเวลาคลายลงเลยแม้แต่น้อย

     

    คือ..ฉันคิดว่าเราจะตายเมื่อไปถึงเนื่ยละ ฟินตันย้อนเข้าให้ แต่ราเชลก็รู้ดีว่าเรแกนคงอาละวาดเป็นแน่แท้โทษฐานที่เธอมาสาย  เธอเกาะฉันแน่นๆแล้วกันนะเขาพูดแล้วเริ่มขับเร็วขึ้นเรื่อยๆจนคนอื่นๆต้องหันมามองและหลบทางให้เมื่อพบว่า บุคคลที่อยู่ภายในยานนั้นได้ชื่อว่า เป็นถึง กลุ่มเด็กอัจฉริยะ ผู้ซึ่งโด่งดังไปทั้งในและนอกเมืองกับผลงานความคิดสร้างสรรค์และงานประดิษฐ์ของต่างๆยอดเยี่ยมจนเป็นที่กล่าวขวัญ และก็โดดเด่นในหมู่วัยรุ่นอีกด้วย

     

    เพียงเสี้ยวนาทียานของฟินตันก็ร่อนลงจอดอย่างนุ่มนวล ในขณะเดียวกัน เด็กหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฟินตันและราเชลกำลังวิ่งมาหยุดทางพวกเขาพลางหอบแฮ่กๆ เขามีผมสีแดงเข้มเข้ากับนัยน์ตาสีแดงที่ออกจะดูน่ากลัวบวกกับเจ้าเล่ห์หน่อยๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาดูหน้ากลัวเลย ในขณะเดียวกันมันออกจะดูเท่ด้วยซ้ำไป ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่บรรดาแฟนคลับของเขาไม่ได้น้อยหรือด้อยไปกว่าแฟนคลับของฟินตันเลย หากแต่ตอนนี้ราเชลกลับคิดว่ามันจะดูดีกว่านี้ท่าคิ้วของเขาไม่ได้ขมวดกันจนเป็นโบว์

     

    นายเลยเวลานัดหมายนะฟิ้น ส่วนราเชลฉันลดโทษให้ก็ได้เนื่องจาก ฉันลืมไปว่าเธอไม่มียานใช้คำบอกของเด็กหนุ่มผมอดงทำให้เธอทำหน้าล้อเลียนเขาในทันที

     

    โถ่ เรย์ นายจะซีเรียสไปทำไม ฮึราเชลพูดอย่างขบขัน แล้ว สเตฟานกับเควินล่ะ?คำเอ่ยถามหาทั้งสองของราเชลทำให้เรแกนหน้าซีดลงในทันที ก่อนที่คิ้วจะขมวดมุ่นอีกครั้งอย่างมีน้ำโห

     

    ไอ้เจ้าพวกนั้น ไปหาของกินอีกแล้ว ฉันจะฆ่าพวกนั้น ถ้าฉันเจอนะพูดจบเขาก็เดินดุ่มๆไปตามหาทั้งคู่ทันที ทิ้งให้ฟินตันกับราเชลมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะอย่างคบขันเป็นที่สุด และแล้วก็มีมือของใครบางคนเข้ามาปิดตาของราเชลในทันที

     

    ไม่เอาน่า สเตฟานราเชลพูดก่อนจะหันไปมองและพบกับ เด็กหนุ่มผมสีทองตัด กับนัยน์ตาสีฟ้าที่ส่อแววเป็นมิตร ใบหน้าคมคายหล่อเหลา แต่งแต้มด้วยรอยยิ้มละไมที่ทำให้หญิงสาวต่างก็ใจละลายไปตามๆกัน

     

    ไง สวีทกันไปถึงไหนแล้วพวกนายเสียงอีกเสียงหนึ่งพูดขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยร่างของเด็กหนุ่มผมสีดำลับกับตาสีน้ำเงินดูมีอำนาจผิดกับนิสัยของเจ้าตัว โดยสิ้นเชิง ใบหน้าคมคายดูหน้าเกรงขาม ถูกระบายทาบทับด้วยรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นของเขา

     

    ฉันมีไรมาอวดแน่ะสเตฟานพูดขัดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจประโยคจากปากของเควินเมื่อครู่ พร้อมกับชูห่อถุงสีน้ำตาลซึ่งข้างในเต็มไปด้วยขนมมากมายของร้านชื่อดังที่สุดของเมืองขึ้นมา แต่ยังไม่ทันได้พูดพร่ำทำเพลงถุงนั้นก็หายลับไปจากมือเขาเสียแล้ว

     

    หง่ำๆเสียงเจ้าปัญหาดังขึ้นที่ราเชล ซึ่งทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้จึงหันสายตามาที่ราเชลโดยไม่ได้นัดหมายพร้อมกับราเชลที่บอกว่า อร่อยดีนะขอบคุณที่เลี้ยงคำพูดนั้นทำเอาสเตฟานวิ่งไล่กวดเธอแทบไม่ทัน การวิ่งไล่จับดำเนินอยู่ไม่กี่นาที เรแกนก็กับมาพร้อมกับเขกหัวเจ้าเพื่อนตัวดีทั้งสองที่วิ่งไล่จับกับอย่างไม่รู้เวลา ทำเอาทั้งสองคนกุมหัวตัวเองป้อยๆ

     

    อะ..แฮ่มเขาเริ่มกระแฮ่มพอเป็นพิธีแต่เมื่อเห็นว่ายังมีการเล่นกันอยู่เขาจึงกระแฮ่มต่อไป อะ..แฮะ..แฮ่ม

     

    เอ่อ..ไม่ทราบว่าส้นเท้าติดคอหรอครับ กระผมจะช่วยเอาออกให้เควินเอ่ยกึ่งเล่นกึ่งจริงพร้อมกับแสร้งส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ ทำเอาคนอื่นฮาครืน และเรแกนซึ่งเสียหน้าไปในทันทีจะพูดขัดขึ้นแต่เสียงหลายเสียงก็ดังจนกลบเสียงเขาทำให้เขาต้องหันไปมองแล้วก็พบกับ....กลุ่มแฟนคลับกลุ่มใหญ่

     

    กรี๊ดดดดดด นั่นไงๆ กลุ่มซิวอยู่ตรงโน้นนนพร้อมกับอีกหลายเสียงตามมา

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดด แล้วนั่นฟินตันนนแต่ก่อนที่อีกเสียงจะตามมาอย่างกระชั้นชิดพวกกลุ่มเด็กสาวกลุ่มใหญ่ก็พากันรุมล้อมพวกเขาเอาไว้ อย่างคับคั่ง

     

    โว๊ยยยยยย  ร้อน จะกรี๊ดหาใครนักหนาวะ ราเชลตะโกนขึ้นทันทีกับเสียงกรี๊ดกร๊าดที่พากันรุมเข้ามาขอลายเซ็น ทำเอาผู้ชายหลายคนที่กะจะมาใกล้ๆเธอพากันมองอย่างอึ้งๆ ก่อนที่ฝูงชนจะหายลับไปเพราะเสียงลั่นปฐพีของราเชล

     

    เมื่อ(ฝูง)กลุ่มคนหายลับไปเพราะเสียงของราเชลแล้ว เรแกนจึงเริ่มต้นกระแอ่มเบาๆก่อนจะรีบพูดทันที เมื่อเห็นสีหน้าของทุกๆคน

     

    คือว่าวันนี้เรามีแข่งบาสกับแบล็คสโตนอ่ะนะเขาพูดสีหน้าจริงจัง พลางไล่สายตามองไปทีละคน คนแรกสเตฟานซึ่งใบหน้าของเขากำลังพราวระริก คนที่สองเควินที่สีหน้าดูมีความสุข คนที่สามฟินตันสีหน้าของเขาแลดูสนุกสนาน คนที่สี่ราเชลซึ่งบัดนี้สีหน้าของเธอซีดลงทันตา

     

    เอ่อ..ความจริงฉันก็ไม่อยากจะพูดให้พวกนายอดเล่นอ่ะนะเธอพูดก่อนจะเว้นประโยคไว้ แล้วพยายามทำสีหน้าให้ซีดยิ่งกว่าเดิมเมื่อเรแกนและคนอื่นๆจ้องเธอเขม็ง แต่เผอิญช่วงนี้สุขภาพของฉันมันไม่ค่อยดีน่ะ แหะๆพูดจบราเชลก็รีบวิ่งแจ้นออกมาในทันที ตามท้ายด้วยเสียงเอะอะโวยวายข้างหลังจากเพื่อนๆของเธอข้างหลัง

     

    ราเชลวิ่งต่อมาเรื่อยๆอย่างไม่คิดที่จะหยุดพัก และไม่ว่าเธอจะวิ่งไปทางไหนก็มีเสียงตะโกนหรือไม่ก็เสียงกรี๊ดกร๊าดของกลุ่มชนซึ่งเป็นบรรดาแฟนคลับของเธอนั่นเอง จึงไม่แปลกเลยที่ เควิน ซึ่งถูกเรแกนออกคำสั่งให้ตามเธอมา เนื่องจากเขาวิ่งเร็วที่สุดแล้วถ้าไม่นับราเชลเข้ามาด้วย จะตามเธอไปไม่ถูกทาง สาเหตุนั้นทำให้ราเชลนึกด่าบรรดาแฟนคลับทั้งหลายอยู่ในใจ ฉับพลันเธอก็เห็นที่หลบซ่อนชั้นเยี่ยม นั่นทำให้เธอหน้าบานขึ้นมาทันตาก่อนจะมุดเข้ากอพุ่มไม้นั้น เควินซึ่งตามราเชลมาอย่างกระชั้นชิด เห็นเธอหายไปจึงหยุดมองไปรอบๆอยู่สักครู่ ท่ามกลางเสียงกระซิบกระซาบของบรรดาแฟนคลับทั้งหลาย นั่นทำให้เขาตกลงใจที่จะเดินไปถามคนกลุ่มนั้น

     

     เอ่อ..ขอโทษครับเควินเดินเข้าไปถามหญิงสาวที่อยู่เขามากที่สุด ซึ่งหญิงสาวคนนั้นเมื่อเห็นเควินเดินมาพูดด้วยจึงเกิดอาการหน้าแดงไปซะเฉยๆ ไม่ทราบว่าเห็นราเชลบ้างไหมครับ

     

    “…….แต่ดูจากท่าทางหญิงสาวผู้นั้นคงจะไม่ได้ฟังคำที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย เธอก้มหน้าลงด้วยความเอียงอาย ก่อนจะตอบคำถามของเควิน แบบตะกุกตะกัก

     

    ฉะ..ฉันเห็นขะ..เข้าไปหลังพุ่มมะ...ไม้นู่นน่ะค่ะเธอตอบพลางชี้ไปที่พุ่มไม้ซึ่งเป็นที่พักพิงของราเชล ซึ่งตอนนี้กำลังแอบดูเควินอยู่สะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที ก่อนจะค่อยๆขยับตัวอย่างช้าๆ ในขณะเดียวกันนั้นเควินผู้น่าสงสารถูกบรรดาแฟนคลับล้อมตัวเอาไว้ ทำเอาเธอกระหยิ่มยิ้มย่องในใจก่อนจะหันหน้ากลับไปมองสภาพแวดล้อมด้านหลังของเธอและต้องพบกับฟินตันซึ่งบัดนี้หน้าของราเชลห่างกับเขาไม่ถึงคืบ! แต่กระนั้นสมองก็ยังคงหาทางอยู่รอดเธอจึงตัดสินใจที่จะตะโกนออกมา หากแต่ฟินตันเหมือนจะรู้ทันความคิดของเธอ จึงเอามืออุดปากของเธอไว้ได้ทัน ก่อนที่จะค่อยๆ คลายมือออกมาจับข้อมือของเธอไว้แทน ใบหน้าของเขาค่อยๆโน้มตัวมาหาเธอช้าๆ

     

     นายจะทำอะไรน่ะเสียงสวรรค์ในความคิดของราเชลดังขึ้น ทำให้ฟินตันรีบผละออกห่างจากเธอไวปานจรวด ก่อนจะหน้าแดงระเรื่อด้วยความอาย ราเชลเองก็เช่นกันตอนนี้เธอทั้งอายทั้งมึนงงในเวลาเดียวกัน

    นั่นฟิ้นมัน....คิด....ไม่สิ...มัน...จะจูบเรา!!!’ทันทีที่เธอคิดมาจนถึงประโยคสุดท้ายหน้าของเธอก็แดงแปร๊ดมากขึ้นกว่าเดิมในทันทีโดยไม่ทันได้สังเกตสภาพแวดล้อมรอบตัวที่จู่ๆก็อึมครึมขึ้นมาในทันที ไม่ได้สังเกตแม้กระทั่งว่าฟินตันนั้นจับข้อมือของเธอแน่นขึ้นเรื่อยๆ และไม่ได้สังเกตสักนิดว่าใครเป็นคนพูดที่ช่วยเธอเอาไว้ได้

     

    ไม่เอาน่า...นายคงไม่อยากจะมายุ่งกับแฟนของชาวบ้านเขาหรอกนะเสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์ทั้งปวงและเงยหน้าขึ้นมอง ภาพเบื้องหน้า เด็กหนุ่มผมสีฟางออกน้ำตาลผมของเขาถูกสไลค์ยาวระบ่า ตัดกับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มแหลมคมดุจเหยี่ยว ใบหน้าคมคายกำลังมองมาที่ราเชลและฟินตัน ข้างกายเขา มีหญิงสาวผมสีดำเข้มและนัยน์ตาเฉกเช่นเดียวกับสีผม ใบหน้ากลมรี ริมฝีปากอมชมพูหน่อยๆกำลังแสยะยิ้มให้เธออย่างผู้ชนะ ซึ่งเมื่อมองดูๆแล้วเธอไม่ได้เป็นคนที่สวยเลิศหรือน่ารักแต่อย่างใด ภาพของหญิงสาวที่อยู่ข้างกายของเขาสร้างความเจ็บปวดให้ราเชลเป็นอย่างมากเหมือนมีเข็มนับพันเล่มพุ่งเข้าปัก

     

    อลัน นี่มันอะไรกันน่ะราเชลเอ่ยเสียงสั่นเคลือ ทำให้เด็กหนุ่มผมสีฟางละสายตาจากฟินตันมามองเธอแทน

     

    ก็จะมีอะไรซะอีกล่ะ นอกจากอลันเขาจะคบกับฉันน่ะสิ ยัยเบื๊อกหญิงสาวข้างกายอลันตอบอย่างเยาะเย้ย แถมไม่วายมาด่าราเชลอีก คำพูดของเธอถึงราเชลจะรู้ทั้งรู้ว่าโอกาสที่จะเป็นจริงนั้นมีอยู่เพียงน้อยนิดถ้าเทียบกับเมื่อก่อน แต่นี่ราเชลชักจะเริ่มไม่แน่ใจซะแล้วคำพูดของเธอสร้างความเจ็บปวดให้กับราเชลเข้าไปอีก

     

    แล้วเธอจะเอาอะไรมาพิสูจน์ล่ะ มีมี่ราเชลพยายามกัดฟันพูดเพื่อถามเธอ แต่อลันกลับเป็นฝ่ายตอบขึ้นมาซะก่อน

     

    หลังแข่งเสร็จแล้วมาเจอกันที่นี่เขาพูดก่อนจะเดินจากไปโดยมี มีมี่ตามไปติดๆ เมื่อทั้งสองเดินจากไปแล้ว หยาดน้ำตาใสเริ่มไหลอาบแก้มของราเชล เหตุการณ์ วันนี้มันอะไรกันน่ะ ฉันงงไปหมดแล้วนะเธอคิดในใจอย่างเศร้าๆ แล้วจู่ๆร่างกายของเธอก็พลันอุ่นขึ้นอย่างประหลาด มันเป็นความอบอุ่นที่เธอได้แต่เฝ้าหามานานแสนนาน พลันมือของฟินตันค่อยๆเลื่อนมาปาดน้ำตาของเธอออกช้าๆ

     

    ฉัน...เอ่อ..ขอโทษนะสำหรับวันนี้เขาพูดเสียงนุ่มนวลหยุดร้องไห้เถอะนะ

     

    ช่างมันเถอะราเชลพูดพลางยิ้มให้เขา ซึ่งทำให้เธอถึงกับมึนงงในทันทีเมื่อจู่ๆฟินตันก็หน้าแดงไปซะเฉยๆ  ทำให้ บรรยากาศรอบข้างจึงพลอยเงียบไปด้วย มันทำให้เธอพลอยหน้าแดงไปกับฟินตันด้วย ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นน้อยๆแล้วพูดเป็นการกลบเกลื่อน

     

    เราไปกันเถอะ เดี๋ยวเรแกนจะอาละวาดเอาพูดจบเธอก็เดินจูงมือฟินตันอย่างถือวิสาสะ ซึ่งราเชลก็ไม่ได้คิดอะไรนอกจาก ความเป็นเพื่อน แต่หารู้ไม่ว่ามันทำให้จิตใจของฟินตันยิ่งวุ่นวายเข้าไปใหญ่......

     

     













    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×