ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลำนำรักหงส์เพลิง (Mpreg)

    ลำดับตอนที่ #5 : ลำนำที่ 5 ฝึกร่วมกัน

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 66


     

    ยามซื่อ (09.00 – 10.59 น.)

    วันนี้เฟยหงตั้งใจตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ยามเหม่า[1]เพื่อจะฝึกใช้เวทเคลื่อนย้ายให้คล่องไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดที่ลานกว้างหน้าเรือนจนยามเฉิน[2]ก็มีมารดามาร่วมฝึกพร้อมกับให้การช่วยเหลือการสอนสั่งด้วย จึงทำให้เฟยหงสามารถใช้ได้อย่างคล่องแคล่วขึ้นกว่าเดิมมากกว่าเมื่อวานแต่ก็ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ในระยะไกลอยู่ดีแต่ก็ถือว่าก้าวหน้าขึ้นแล้วไม่ได้มีอะไรเสียหาย

    "ลูกข้าก็เก่งกาจถึงเพียงนี้"เฟยฟ่งพูดอย่างภาคภูมิใจและลูบศีรษะของเฟยหงที่กำลังกอดมารดาอยู่อีกที

    "เช่นนั้นข้าไปแล้วนะท่านแม่"เฟยหงผละจากอ้อมกอดของมารดาแล้วกล่าวลา

    “ไปไหนงั้นหรือ"เฟยฟ่งทำหน้างงแล้วถาม

    "ก็ข้าจะไปหาสหาย สหายข้าเก่งมากเชียวล่ะท่านแม่!! ถึงขนาดมีตำราที่เซียนชั้นผู้น้อยฝึกจะต้องเลื่อนระดับอย่างรวดเร็วไม่เกิน 2 ปีเชียว!!"เฟยหงพูดจาโอ้อวดถึงสหายคนใหม่

    "ใครกัน"เฟยฟ่งถามอย่างสงสัย

    "ก็หวังเทียนหลงอย่างไรเล่าท่านแม่"เฟยหงตอบมารดา

    "นั่น ลูกศิษย์ของเทียนจวินเชียวนะลูก!"เฟยฟ่งตอบกลับบุตรแม้จะตกใจเมื่อได้รู้ว่าสหายคนใหม่ของเฟยหงคือผู้ใด

    "ท่านแม่....ท่านพูดจริงหรือ"เฟยหงถามอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อ

    หงึก! หงึก!

    เฟยฟ่งพยักหน้ายืนยันคำตอบอีกครั้ง

    "โอ้ บุตรท่านไม่ธรรมดาจริงเชียวได้คบสหายใหม่ที่เป็นถึงศิษย์ของเทียนจวินผู้ปกครองสวรรค์เชียว"เฟยหงพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อในโชคชะตาอันน่าเหลือเชื่อว่าตนจะไปเหยียบร่างกายอันมีค่าและก่อกวนคนผู้นั้นโดยที่ไม่โดนโต้กลับเสียก่อน

    "ข้า...ไม่ไปแล้วดีกว่าท่านแม่ ข้าฝึกกับท่านก็ดีเหมือนกันนี่นา ยังไงพวกเราก็เผ่าหงส์"เฟยหงพูดแก้ ตนไม่กล้าไปก่อกวนเทียนหลงแล้วคนผู้นั้นเกิดมามีบุญสูงไม่พอยังได้เป็นศิษย์ผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ด้วยข้าคงจะทำให้คนผู้นั้นเสียการเสียงานเสียเปล่า

    "แต่ข้าว่าเจ้าไปก็ดี ยังไงฝึกกับเทียนหลงก็เป็นการฝึกแบบเซียน ถึงเผ่าหงส์เราจะได้รับการยอมรับจากผู้เป็นใหญ่แห่งสวรรค์แต่วิถีเซียนก็มีดีเช่นกันเหมือนเจ้าเรียนรู้ทางเผ่าหงส์ของเราแล้วยังได้วิถีเซียนอีกดีออกจะตายไปใช่ว่าจะมีโอกาสง่ายๆ"เฟยฟ่งพูดโน้มน้าวเฟยหง

    "มันก็ดีท่านแม่ แต่ข้านั้นใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยเกรงว่าจะฝึกได้ไม่นานก็พาศิษย์เอกเจ้าสวรรค์ออกนอกลู่นอกทางเสียก่อนเนี่ยสิ"เฟยหงพูดบอกมารดาตามตรงอย่างเหนื่อยหน่ายใจ

    "โธ่ ลูกแม่เองก็คิดเป็นเช่นกันหรือนี่~"มารดาเอ่ยแซวบุตรตนด้วยใบหน้าซ้ำเติม

    "ท่านต้องปฏิเสธสิท่านแม่ว่าไม่จริงน่ะ"เฟยหงพูดกับมารดาและแก้มพองลมอย่างแง่งอนไปเสียแล้ว

    เฟยหงตัดสินใจลดแขนกอดอกออกแล้วเดินหนีจนถึงหน้าผาทางเข้าออกหน้าหมู่บ้านแล้วก็หยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง

    "ไปไหนดีเรา จะไปลงไปเที่ยวโลกมนุษย์ผู้เดียวหรือไปฝึกกับเจ้าพวกนั้นดีนะ"เฟยหงพูดพึมพำคิดหนักอยู่ผู้เดียวเมื่อต้องเลือกระหว่างลงไปเที่ยวเล่นที่โลกมนุษย์หรือไปฝึกกับสหายดี 

    แต่การลงไปเที่ยวที่โลกมนุษย์นั้นก็ล่อใจเสียยิ่งกว่าการไปฝีกอย่างไม่ต้องสงสัย

    "เอ๊ะ เกล็ดมังกรงั้นหรือ สีทองเสียด้วย!!"เฟยหงที่กำลังคิดอยู่ผู้เดียวก็มีวัตถุบางอย่างลอยตรงมาที่ตนจึงได้ยื่นมือไปรับเอาไว้

    "หืมมม เจ้าคนนั้นก็ไม่ใช่คนเย็นชาดั่งน้ำแข็งอย่างที่คิดนี่นา!!"เฟยหงพูดอย่างดีใจเมื่ออ่านข้อความในเกล็ดสีทองมีเนื้อหาใจความว่า'เมื่อวานเจ้าไปไหนมา วันนี้จะมาหรือไม่'

    "ถึงแม้ข้อความจะดูเหมือนเชิญชวนแปลกๆก็ตามแต่เทียนหลงก็มีมนุษยสัมพันธ์มากกว่าที่ข้าคิดเสียอีกนะ หรืออาจจะเป็นเพราะช่วงนี้เข้าสู่ฤดูคิมหันต์[3]น้ำแข็งอย่างเทียนหลงจึงได้ละลายอย่างนั้นหรือ55555"เฟยหงพูดอย่างรู้สึกยินดีและแอบจิกกัดไปในคราวเดียวกัน

    "แต่น้ำแข็งไสในโลกมนุษย์ช่วงคิมหันต์เองก็สำคัญไม่แพ้กัน"เฟยหงพูดอย่างเคร่งเครียดเมื่อต้องตัดสินใจเลือก

    "ไหนๆเจ้าก้อนน้ำแข็งอุตส่าห์ชวนข้าเช่นนี้ ข้าไม่ไปก็เป็นการเสียมารยาทแย่เชียว"ในที่สุดเฟยหงก็ตัดสินใจไปหาเทียนหลงในที่สุด 

    ตัดสินใจได้ก็แปลงกายเป็นหงส์บินตรงไปยังหน้าผาที่ได้ไปเมื่อไม่นานนี้จนถึงที่หมายก็บินร่อนลงพื้นดินแล้วแปลงกายกลับมาเป็นเซียนอีกครั้ง เห็นเทียนหลงนั่งอ่านตำราอยู่ไกลๆแล้ววิ่งเข้าไปหา อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมอง

    "เมื่อวานข้าลงไปเที่ยวที่โลกมนุษย์มาน่ะ ที่โลกมนุษย์เมื่อวานเป็นวันปีใหม่แหละเจ้าก็น่าจะลงไปบ้างสนุกกว่างานเลี้ยงบนสวรรค์เสียอีก"เฟยหงพูดชักชวน เทียนหลงไม่ตอบอะไรและก้มหน้าอ่านตำราอย่างไร้เยื่อใยปฏิสัมพันธ์

    "เสียเวลา เจ้ายังใช้เวทเคลื่อนย้ายไม่คล่องทั้งที่มีชีวิตอยู่มาร้อยปีแล้วควรเอาเวลาไร้สาระมาฝึกเสียบ้าง เจ้าเองก็โตแล้วหาใช่เด็กๆ"เทียนหลงว่ากล่าวสั่งสอนโดยที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้า

    "แต่ถึงพวกเราจะมีชีวิตยืนยาวก็จริง แต่มันก็มีช่วงเวลาหรือโชคชะตาลิขิตให้ตายตอนไหนก็ไม่รู้"เฟยหงนั่งลงฝั่งตรงข้ามโต๊ะเดียวกันกับเทียนหลงแล้วพูดอย่างจริงจังที่สุด

    "แต่เจ้ายังไม่ตายเร็วๆนี้ เจ้าควรจะฝึกฝนและบำเพ็ญให้มากเพื่อให้ชีวิตยืนยาว เจ้าไร้วิชาวรยุทธเช่นนี้ยังเสียก็ตายเร็ว"เทียนหลงก็ยังคงหยิบยกประเด็นมาพูดต่อได้และสายตาก็ยังไม่ละจากตำราเช่นเดิม

    "เจ้าคนปากเสีย!!"เฟยหงโมโหเลือดขึ้นหน้าเมื่อได้ยินประโยคเหมือนถูกแช่งจากอีกฝ่าย

    "เพราะนั่นคือโชคชะตา ยังไงเสียเทียนจวินเองก็มีช่วงที่บุญวาสนาหมดจนต้องดับขันธ์เช่นกัน"แน่นอนว่าเฟยหงเองก็ยังไม่ยอมเช่นกันหยิบยกผู้เป็นใหญ่บนสวรรค์ชั้นฟ้านอกเหนือจากสวรรค์แท้จริงมากล่าวอ้าง

    "เช่นนั้นเจ้าก็ไปเถิด ข้าไม่มีเวลาเที่ยวเล่นกับเจ้า"เทียนหลงเอ่ยไล่อย่างยอมแพ้ให้การโน้มน้าวคนผู้นี้ให้ตั้งใจฝึกฝนวิชา

    "ช่างเถอะ!! ข้าจะนั่งสมาธิเป็นเพื่อนเจ้าก็แล้วกัน เจ้าคนปากเสีย!!"เฟยหงพูดก่อนที่จะลุกเดินห่างออกไปแล้วนั่งลงบนโขดหินที่พอเหมาะจัดท่านั่งเรียบร้อยก็หลับตาทำสมาธิรวบรวมลมปราณ ถึงแม้จะโมโหแต่ที่เทียนหลงกล่าวก็น่าคิดเช่นกัน

     

     

     

    ยามอู่ (11.00 – 12.59 น.)

    เที่ยงตะวันตรงหัว เฟยหงก็ลืมตาขึ้นจากการทำสมาธิเหลือบมองคนด้านข้างก็ยังคงนั่งทำสมาธิอย่างสง่างามเช่นเคย

    และแล้วสมองอันบรรเจิดก็คิดอะไรออกจึงได้เผยสีหน้าแสยะยิ้มอย่างร้ายกาจแล้วก็หุบยิ้มเริ่มลุกขึ้นยืนเตรียมทำตามแผนการที่ตนวางไว้ในหัว

    โดยการเริ่มค่อยๆย่องก้าวเดินเข้าหาเทียนหลงช้าๆ เบาๆเข้าไปหาเทียนหลงเพื่อที่จะ

    จี้เข้าไปที่เอวจากด้านหลัง!!

    เทียนหลงลืมตาพรึบเมื่อถูกจี้ไปที่เอวทั้งสองข้างก็ลืมตาและรวบลมปราณระเบิดพลังออกจากกายแต่เพราะระดับแรงระเบิดไม่ได้แรงมาก เฟยหงจึงกระเด็นไปได้ไม่ไกลนัก

    "อูยย"เพียงแค่ก้นจ้ำเบ้ากับพื้นและร้องโอดโอยเบาๆเท่านั้น

    "ชิ! ข้ากลับแล้ว!"เฟยหงอยู่ๆก็หัวร้อนขึ้นมาแล้วก็ลุกพรวดขึ้นตะโกนแล้วหันหลังเดินกระทืบเท้าเดินจากไป

    "......"เทียนหลงเองก็ไม่แม้แต่จะปริปากพูดและมองเฟยหงที่เดินจากไปจนแปลงร่างเป็นหงส์บินหายไป

     

     

     

    "หืมมม ใยจึงได้กลับมาเร็วนักเล่า"มารดาที่กำลังฝึกร่ายเวทอยู่หน้าลานไม่ไกลจากเรือน 

    "ใกล้ยามเซิน[4]แล้วไม่ใช่หรือขอรับท่านแม่~"เฟยหงที่กลับร่างมาเป็นเซียนเรียบร้อยก็วิ่งเข้าไปออดอ้อนมารดา

    "ข้ากลับบ้านเร็วทั้งที"เฟยหงพูดปากยื่น

    "เจ้านี่ดูชอบทำหน้าทำตาอะไรกัน หน้าตาออกจะสวยงามอย่างข้าแท้ๆ"มารดาพูดเย้าหยอกบุตรพร้อมกับมือข้างขวาที่ลูบไล้แก้มเฟยหงเบาๆ

    "ข้างามเพราะตัวข้าต่างหาก! แต่เพียงข้าเกิดเป็นบุรุษใยจึงจึงให้กำเนิดได้กัน"เฟยหงที่ถูกจี้จุดก็เกิดคำถามขึ้นมา

    "ก็มีเหตุผลในโชคชะตาที่ถือดีมาควบคุมชะตาชีวิตของทุกสรรพสิ่ง"มารดาเอ่ยตอบบุตรชายด้วยน้ำเสียงเศร้าเล็กน้อย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตัดจบเลยฮะ

    เจอกันตอนหน้าค่าาาา

     

     

    เชิงอรรถ

    1. ^ ยามเหม่า คือ 05.00 – 06.59 น.
    2. ^ ยามเฉิน คือ 07.00 – 08.59 น.
    3. ^ ฤดูคิมหันต์  ฤดูร้อน
    4. ^ ยามเซิน คือ 15.00 – 16.59 น.

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×