ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักนี้พรหมลิขิต (Y)

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 5 สำนักหมอสมิง

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ค. 66


    warning :

    อย่าคาดหวังเลยนะคะ ถึงเราจะรีเสริชมาแล้วแต่เนื้อเรื่องที่เราเขียนจำเป็นต้องตัดความเป็นจริงบางอย่างของเด็กเรียนหมอไป

    โปรดอย่าดราม่าค่ะ

     

     


     

    sds

    กลางดึก

    "ม่ายยยยย! ไอ้เหี้ย!"ผมที่ฝันร้ายว่าถูกผีไล่ตามเป็นฝูงยิ่งกว่าซอมบี้แหกปากด่ามันในฝันจนตื่นเนี่ยแหละ

    "อะไรของมึงวะเพื่อน อยู่ๆก็ตะโกนขึ้นกลางดึกแบบนี้"พะเพื่อนามผมด้วยสีหน้าหงุดหงิดเพราะถูกผมรบกวนการนอน

    "ผีแม่งตามมาแย่งเอาบุญจากกูเป็นฝูงเลยมึง"ผมพูดอย่างหวาดกลัวมองหาไอ้เด็กกุมารทองนั่นก็ไม่เห็นอีก

    "กูไปนอนด้วย"ผมตัดสินใจถือหมอนและผ้าห่มลงไปนอนกับสองแฝด

    "มึงไปนอนข้างบนเลยนะกูกับน้องขอไม่รับคำสาปโดยไม่ตั้งใจ!!"พะเพื่อนบอกไนท์อย่างรังเกียจ

    "ไอ้สัส กูจะฟ้องจารย์หมอว่ามึงแอบไถติ้กต้อกไม่ตั้งใจเรียน"ผมด่ามัน

    "นอนๆเหอะพี่พวกเราไปทำบุญด้วยกันมันอาจจะโดนคิวแรกเพราะเห็นผีอยู่แล้วก็ได้"พะแพงพูดปัดๆแล้วล้มหัวลงหลับตาลงนอนทันที

    "โอ้ยยย กูเรียนหมอรักษาคนนะโว้ยย ไม่ได้เรียนหมอผีจะได้มาเจอผี"พะเพื่อนบ่นอย่าโมโหแล้วก็ล้มหัวลงนอนไปอีกคน

     

     

     

     

    วันจันทร์

    6:13 น.

    "หนูว่าม๊าไปหาป๊าเถอะนะ นี่แค่วันเดียวก็โดนเข้าฝันเป็นฝูงแบบนี้"กุมารทองบอกไนท์อย่างหวังดี

    "ไกลไหมล่ะ เดี๋ยวไปวันศุกร์แล้วกัน"ผมบอกขณะที่กำลังจัดระเบียบตัวเองอยู่หน้ากระจกก่อนจะออกจากห้อง

    "ก็ไกลอยู่นะ อีกจังหวัดนึงเลย"กุมารทองตอบ

    "งั้นก็ไปศุกร์นี้นั่นแหละ แล้วนี่คงไม่ได้หรอกไปฆ่าหรอกเนอะ"ผมบอกและถามเอาจริงๆก็ไม่ได้ไว้ใจขนาดนั้น แต่แค่วันเดียวก็หลอนแล้วไม่รู้ว่าวันอื่นจะเป็นบ้าก่อนรึเปล่าไปดูก็ไม่เสียหายเพราะสักวันผมอาจตายเพราะผีอยู่ดีล่ะมั้งแม่งไม่น่าเกิดอุบัติเหตุเลยกู

    คิดกับตัวเองขณะที่เดินออกจากห้องเข้าลิฟต์จนถึงชั้นล่างไปขับมอเตอร์ไซต์ไปโรงบาลไปตรอกบัตรและเริ่มเรียนกับอาจารย์ใหญ่ และทุกคนก็รู้ว่าโรงบาลนั้นวุ่นวายแค่ไหนไม่นับคนก็เยอะแล้วพอเห็นผียิ่งเยอะเข้าไปอีก เรียนจนเย็นก็มีไปช่วยทำจริงๆช่วงเย็นๆก่อนจะกลับผมกับเพื่อนก็เดินไปที่โรงจอดรถสำหรับบุคลากรโรงพยาบาลโดยเฉพาะ ระหว่างทางผมก็บอกมันว่าจะไปสำนักพ่อหมอดู

    "กูว่าจะไปสำนักพ่อหมอดูว่ะ เอาไว้พรุ่งนี้เลิกเร็วไปคุยที่ห้องกูนะ"ผมบอกสองแฝด พวกมันก็มองหน้าผมงงๆ

    "ทำไมอ่ะ หนักขึ้นหรอ"พะแพงถาม

    "ก็ดูจากเมื่อคืนแล้วกูว่าไปหาพ่อหมอขอของดีติดตัวไว้ดีกว่าถ้ามันเลิกเห็นผีไม่ได้"ผมบอกสองแฝดก็หน้าอ๋อทันที

    "เออ เอาดิเดี๋ยวกูลองถามเพื่อนคณะอื่นๆดูให้"พะเพื่อนก็เห็นด้วย

    "ไม่นะม๊า ไปหาป๊าดีกว่าม๊าห้ามไปหาคนอื่นนะม๊า"เด็กกุมารทอง

    "ไม่เป็นไรหรอกกูมีที่ที่ต้องไปแล้วไว้พรุ่งนี้กูเล่าให้ฟัง"ผมบอกกับเพื่อน

    "กลับได้ใช่ไหมมึง"พะเพื่อนถามไนท์

    "ได้ พวกมึงอ่ะกลับดีๆ"ผมบอกสองแฝดแล้วก็เดินเลยไปขึ้นคร่อมรถมอไซต์คู่ใจโดยมีเด็กกุมารกอดเอวแน่นกลัวตก ผมใส่หมวกกันน็อคเรียบร้อยผู้โดยสารก็เรียบร้อยก็เลยออกรถ

    ผ่านทางกลับบ้านที่สยองสักหน่อยแต่ก็ไม่ได้แย่ ผมคงจะปรับตัวได้เร็วเกินไปรึเปล่าก็ไม่รู้ ขับรถเข้าถึงหอพักในที่สุดก็เดินขึ้นห้องไปอาบน้ำนอนด้วยความอ่อนเพลีย และกุมารทองก็หายไปในอากาศเช่นเดิมอย่างทุกครั้งและทุกคืน

     

     

     

     

     

     

    วันเสาร์

    8:03 น.

    เวลาผ่านไปเร็วอย่างที่ผมต้องการเพราะทางผ่านกับบ้านที่น่ากลัวสำหรับผมนั้นชินชาไปแล้วไม่พอไอเด็กกุมารก็ไปตีสนิทผีแถวนั้นหมดแล้วเพราะงั้นแถวนั้นผมปลอดภัยดียกเว้นพี่ตานีที่ดูไม่ออกว่าผมไม่ได้ปลื้มสาวเนี่ยแหละชอบมองผมพร้อมส่งสายตาแต่โดนไอ้เด็กกันซีนหวงไว้จีบเองแต่เค้าไม่เอา5555555 แต่ที่อื่นก็อันตรายหมดโดยเฉพาะโรงพยาบาลและมหาลัยที่ผีตายรูปแบบต่างๆเยอะเลยค่อนข้างที่จะจ้องผมเป็นพิเศษถึงแม้ผมจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นก็ตาม แต่ออร่าบุญผมมันออกเยอะอ่ะนะไอ้เด็กกุมารนี่ทำงานหนักเลย เพราะงั้นผมเองก็ดีใจที่จะได้หลุดพ้นหรือไม่ต้องห่วงผีอย่างที่ผ่านมาก็พอแล้วก็ยากเห็นหน้าพ่อไอ้เด็กนี่ด้วยทำไมถึงได้มาเรียกผมเป็นแม่อย่างนี้ก็ไม่รู้พ่อมันคงจะมีอายุหน่อยล่ะมั้งเพราะหมอผีหล่อมีแค่ในนิยายเท่านั่นแหละกูคงไม่มีบุญเจอหมอผีหล่อๆหรอกไม่ใช่อาชีพที่จะเป็นกันได้ง่ายๆเสียหน่อย

    แต่อีกใจนึงก็กลัวว่าเด็กกุมารจะเป็นผีกุมารที่ส่งมาหลอกล่อผมก็เป็นได้ แต่ก็อยากจะลองไปหาหมอผีดูก่อนสักหน่อย

    ผมดูย้อนแย้งเนอะ

    "ไป ขึ้นรถ"พะแพงทำหน้าที่คนขับบอกผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน

    "แล้วมึงรู้ทางหรอวะ"พะแพงถามผมเมื่อคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จแล้ว

    "เดี๋ยวกูบอกทางเอง มึงขับเลย"ผมบอกพะแพง พะแพงออกรถโดยมีกุมารทองบอกทางกับผมแล้วผมก็บอกทางกับพะแพงอีกที

    เส้นทางก็ค่อนข้างไกล เนื่องจากอยู่อีกจังหวัดนึงพอเข้าจังหวัดก็ต้องแวะพักกินข้าวเที่ยงกันก่อน

    "ทำไมไม่ตั้งสำนักไว้ที่กรุงเทพวะ ต้องข้ามมาอีกจังหวัดไกลก็ไกล"พะเพื่อนบ่น

    "ก็ไม่รู้ดิ กูไม่ได้เป็นคนตั้งสักหน่อย"ผมตอบ พะแพงก็พยักหน้า

    "เดี๋ยวคราวนี้พี่มึงขับนะ"พะแพงบอกพี่สาวตัวเอง

    "เอ้า แล้วมึงไม่ขับอ่ะ"พะเพื่อนถามน้องอย่างไม่เข้าใจ

    "ปวดขา"พะแพงตอบ

    "รีบแดกรีบไปเดี๋ยวถึงค่ำ มันน่ากลัว"ผมสองแฝดก่อนที่จะทะเลาะกัน

    "เออ"พะเพื่อนตอบแล้วทั้ง 3 ก็รีบกินก๋วยเตี๋ยวจนอิ่มจ่ายเงินเรียบร้อยก็พากันขึ้นรถแล้วออกรถอย่างรวดเร็ว 

    การเดินทางผ่านไปด้วยดีไม่ได้ติดขัดอะไรหรือมีเรื่องอะไรให้การเดินทางติดขัดแต่อย่างใด แต่มีปัญหาตรงที่ทางเข้าสำนักผ่านป่าช้าเนี่ยสิ

    "ม๊าปิดตาเลยนะเดี๋ยวเจอเยอะเลย"กุมารทองเตือนไนท์ ไนท์ที่ได้ยินก็รีบปิดตาทันที

    "อะไรของมึงไนท์หลับตาทำไม"พะแพงถามอยากรู้เหตุผล

    "ไม่บอก ขับต่อไปตรงไปเรื่อยๆสำนักอยู่ทางขวามือ"ผมตอบแล้วก็บอกทาง

    มันสองคนก็ไม่ถามอีก ระหว่างทางผมไม่รู้สึกอะไรอีกเลย

     

     

    14:59 น.

    "นี่ใช่ไหมวะไอ้ไนท์"พะเพื่อนขับรถมาจอดที่อยู่ฝั่งขวามือก่อนถึงสำนักไม่กี่ก้าวถามไนท์ที่นั่งอยู่เบาะหลัง

    "ใช่จ้ะม๊า"กุมารทองบอกก่อนจะหายไป

    "ใช่มึง"ผมบอกแล้วทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบ

    "ไม่ลงหรอวะ"พะเพื่อนถามคนในรถ

    "แล้วมึงไม่ลง"พะแพงถามพี่ตัวเอง

    "มึงอ่ะ ลงไปดิตัวต้นเรื่องไม่ใช่รึไง"พะเพื่อนหันมาถามผม ผมก็หน้าเหลอหลาดิ

    กลัวอ่ะ

    "ลงก็ลง! เพื่อตัวเอง!!"ผมพูดปลุกใจก่อนที่จะเริ่มเปิดประตูรถแล้วก้าวขาลงจากรถ สองแฝดก็เปิดประตูรถตามมาด้วย

    "แล้วไงต่ออ่ะ"ผมเดินมาหยุดอยู่ที่รั้วประตูแล้วถาม

    "แล้วกุมารทองที่มาด้วยบ่ะ มึงไม่ถาม"พะแพงถามไนท์กลับ

    "ก็พอจอดรถกุมารทองก็หายไปเลย"ผมตอบเพื่อน

    "เอ้า แล้วพวกเราต้องทำไงอ่ะ ปีนรั้วเข้าไปหรอวะ"พะเพื่อนถามด้วยมีน้ำโหนิดๆ

    "โทษทีพี่ เดี๋ยวผมเปิดประตูแปป"อยู่ๆก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่ดูๆแล้วอายุน่าจะใกล้เคียงกันวิ่งมาทางนี้พร้อมกับตะโกนบอกไปด้วย

    "เดี๋ยวผมพาขึ้นไป แต่ผมอยากรู้ว่าคนไหนชื่อ ไนท์อ่ะ เข้าไปได้คนเดียวนะ"ผู้ชายคนนี้เปิดประตูแล้วก็ถาม

    "นี่ชื่อไนท์ แล้วทำไมเข้าไปได้คนเดียวอ่ะ"ผมบอกแล้วถามอย่างสงสัยมีพิรุธ

    "ก็ไม่มีไร หมอเค้าอยากคุยเป็นการส่วนตัวเลยเข้าได้คนเดียว"ชายหนุ่มตอบ

    "งั้นก็เข้าไปกันเถอะครับทั้ง 3 คน"ชายหนุ่มบอกแล้วหันหลังเข้าตัวบ้านเดินนำทั้ง 3 คนเข้าไปเดินขึ้นบันไดไปตัวบ้านไม้หลังใหญ่ขึ้นมาบนบ้านก็มีมุมให้นั่งโซฟารออย่างดี

    "รอตรงนี้ก่อนนะครับ ส่วนคุณไนท์เชิญทางนี้ครับ"ชายหนุ่มบอกสองแฝดแล้วเดินนำไนท์ไปที่หน้าประตูห้องไม่ไกล

    ก็อก! ก็อก! 

    "มาแล้วพี่"ชายหนุ่มเคาะประตูตะโกนบอกคนในห้อง

    "เข้ามา"เสียงตอบจากในห้อง ผมก็เปิดประตูเข้าไปตามปกติ

    ภายในห้องมีโต๊ะหมู่บูชาขนาดใหญ่พระต่างๆตั้งอยู่เยอะแยะไปหมด ดูท่าน่าจะเป็นหมอสายขาวละมั้ง ส่วนหมอผีที่ว่าก็นั่งอยู่หน้าโต๊ะหมู่กำลังหันหลังให้ประตูและผมอยู่ ผมเลยเดินเข้าไปนั่งห่างจากหมอผีพอประมาณ

    มองจากด้านหลังกล้ามค่อนข้างแน่น หมอผีเองก็ออกกำลังกายเหมือนกันด้วยแต่ผิวขาวดูผู้ดีแต่เพราะอยู่แต่ในสำนักมากกว่ามั้ง  ดูแล้วก็เด็กอยู่นะ ไม่ได้แก่เหมือนอย่างที่คิดสักเท่าไหร่ จะศักดิ์สิทธิ์จริงไหมวะ แล้วนั่งตั้งนานก็ไม่หันมาสักทีกูต้องเรียกหรอวะ

    "กว่าจะมาได้"อยู่ๆหมอผีก็พูดแล้วเริ่มขยับหันหน้ามาสักที

    ทุกคนจะต้องอึ้งเหมือนผมอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน

    นานๆทีจะเจอหมอหล่อ สองแฝดเห็นคงนั่งกรี้ดกร้าดกันไม่หยุด

    "ไนท์ใช่ไหมครับ"หมอผีทักไนท์เพื่อเริ่มบทสนทนา สายตาก็สำรวจไนท์ไปด้วย

    "ครับ"ผมตอบและเริ่มคิดในใจว่า

    หรือเราจะเอาหมอผีเป็นผัวดี? 

    "เรียกผมหมอสมิงก็ได้ครับ แล้วลูกผมไม่ดื้อใช่ไหมครับ"หมอสมิงแนะนำตัวและถามไนท์

    "ครับ"ผมตอบ

    บางที่มีหมอผีเป็นยันต์กันผีส่วนตัวก็ดีเหมือนกันนะ มีแต่กำไร หน้าตาดี หุ่นแซ่บ กันผีได้ 

    คุ้มค่ากับการเอาเป็นผัว

    "แล้วจะแก้เรื่องที่ผมเห็นผีได้ไหมครับ"ถึงผมจะร่านแต่เอาเรื่องนี้ให้รอดก่อนดีกว่าเผื่อเค้าไม่เอากู

    "เรื่องนั้นต้องให้พระทำการปิดตาที่ 3 ให้ครับ ผมทำให้ไม่ได้แต่ผมพอจะเป่าคาถาคุ้มครองให้ได้ ลูกผมจะได้ไม่เหนื่อย"หมอสมิงตอบถึงแนวทางการแก้ไขเรื่องนี้

    "อ้อครับ งั้นพอจะพาไปหรือแนะนำได้ไหมครับ"ผมถามถึงเรื่องปิดตาที่ 3

    "ก็พาไปได้ครับอาจารย์ผมไปบวชพอดี"หมอสมิงตอบ

    "แล้วเรื่องเป่าคาถาล่ะครับ"ผมถามต่อ

    "งั้นเข้ามาใกล้ๆสิครับเดี๋ยวผมเป่าให้"หมอสมิงบอก

    "ถ้าอยากได้หมอสมิงคุ้มครองส่วนตัวได้ไหมครับ"ผมพูดยั่วพร้อมส่งสายตาให้

    "ได้สิครับ"หมอสมิงพูดแล้วหันไปทางหน้าโต๊ะหมู่บูชาแล้วยกมือพูดพึมพำก่อนที่จะหันมาทางผม

    "เข้ามาสิครับ เดี๋ยวพ่อหมอเป่าให้ไม่มีเข้ามาใกล้ให้กวนใจอีก"หมอสมิงบอกพร้อมกับกวักมือเรียก

    ผมก็คลานเข่าเข้าไปใกล้ๆพ่อหมอแล้วนั่งลงแบบเข่าชนกันโน้มหน้าแล้วหลับตาลง

    จุ๊บ!

     

     

     

     

     

     

    จบและ

    ตัดจบให้งง

    เขียนให้ได้กันแบบงงๆ

    แล้วก็ได้กันแบบงงๆ

    เจอกันตอนหน้าค่ะ555555555ฃ


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×